@ เซฟต์เฮ้าส์อดีตผู้นำ
“เดีย!” เฟรย่าที่ได้สติและถูกนำตัวกลับมารักษาลุกพรวดด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นน้องเดินเข้ามา ส่วนฟาเดีย เธอนิ่งเงียบและดูเฉยชา แม้แต่หน้าเฟรย่าตอนนี้ยังมองไม่ชัด ม่านน้ำตาของเธอบดบังทุกสิ่งจนถ้าไม่ได้มาโครเดินจูงมือเข้ามา เธอก็มองไม่เห็นทางด้วยซ้ำ “ร้องไห้ทำไม เจ็บตรงไหนบอกพี่ หมอ!” เสียงเฟรย่าตะโกนดังลั่น มาโคร เตโช คิระ รวมถึงเลโอที่แยกตัวออกไปช่วยดูเลล่าให้ก็ไม่มีใครปริปาก จนกระทั่งอดีตผู้นำ ท่านผู้หญิง โมเน่ต์ และลิซ่าเดินเข้ามา “ขอหนูไปอยู่ที่อื่นสักพักได้ไหมคะ” ฟาเดียเห็นหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ เธอก็ตั้งคำถามอย่างเลื่อนลอย แต่ลึกๆก็คาดหวังให้พวกเขาที่มองมาอย่างนึกสงสารช่วยเห็นใจเธอบ้าง “หนูอยู่ที่นี่ไม่ไหวเลย…หนูรับ...อะไรพวกนี้ไม่ไหว...มัน…” เธอส่ายหน้าส่งสัญญาณต่อต้านสิ่งรอบตัวขึ้นมาฉับพลัน ก่อนอดีตผู้นำจะเดินเข้ามา พร้อมกันกับที่เธอพุ่งเข้าไปกอดและทรุดลงปล่อยโฮออกมาจนตัวสั่น “หนูเหนื่อย...หนู...” “ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร” นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ทุกคนได้เห็นอดีตผู้นำหน้าเครียดที่สุดจากที่รับมือกับเรื่องอะไรต่อมิอะไรมามาก เฟรย่าที่ได้ฟังแม้จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ช็อคเพราะคำพูดของน้องมันหมายถึง...พวกเธอต้องแยกกันอีกครั้ง เลโอเห็นเธอช็อคไปดื้อๆเลยดึงเข้าไปกอด เช่นเดียวกับท่านผู้หญิงและอดีตผู้นำที่ลูบหัวลูบหลังปลอบฟาเดียขณะกำลังร้องไห้ เพราะรู้ว่าเธอเองก็เสียใจกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำ “ได้สิลูก ไม่ต้องห่วงเลย หนูไปได้ทุกที่ที่อยากไป แต่มีข้อแม้แค่อย่างเดียว ไม่ว่าจะไปที่ไหน ขอให้มีแม็คไปด้วยนะ” เสียงอ่อนโยนของท่านผู้หญิงบอกกับฟาเดียที่พยักหน้ารับรู้ทั้งน้ำตา ก่อนเธอจะเงยหน้ามองมาโครที่เดาใจไม่ออกเลยว่าตอนนี้เขาจะรู้สึกแบบไหนกัน มาโครเหมือนรู้ว่าฟาของเขากำลังคิดอะไร ก็ทิ้งตัวนั่งและเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบา “แม็คโอเคมากๆ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับแม็คที่ฟาต้องกังวลนะ” เขาพูดแค่นั้นก็ทำให้เธออุ่นใจและไม่อายเลยที่จะเปลี่ยนจากอ้อมกอดของอดีตผู้นำไปกอดมาโคร ก่อนจะสะอื้นต่อหน้าใครๆที่ต่างก็สะเทือนใจและเห็นใจเธอ ยิ่งโมเน่ต์กับลิซ่า ทั้งคู่น้ำตาคลอตามเธอไปแล้ว เพราะรู้ว่าแต่ละสิ่งที่ต้องเจอมันหนักมากจนถ้าเป็นตัวเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไงด้วยซ้ำ อีกมุมหนึ่ง คิระกับเตโชที่ยืนอยู่หันมองหน้ากันราวกับกำลังทึ่งในความเป็นฟาเดียที่พวกเขามองข้าม... เธอน่ากลัวและร้ายกาจจริงๆอย่างที่คิระเคยพูดนั่นแหละ แต่เป็นความน่ากลัวและร้ายกาจที่เด็ดขาดจนน่าตกใจ “ก็เหมาะแล้ว” คิระพูดกับเตโชที่พยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่แย้งสักคำ ใช่... เขาเคยต่อต้านและไม่เห็นด้วยตอนท่านผู้นำแต่งตั้งมาโครเป็นสภาสูงสุด เพราะนั่นหมายถึงฟาเดียก็จะกลายเป็นหัวใจสภากฎไปโดยปริยาย แต่สำหรับตอนนี้คิระมองต่างออกไป ยิ่งคำที่เธอพูด ความรับผิดชอบในหน้าที่ การรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องและศรัทธาของเมมเบอร์ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนี้ เธอทำได้ดีจนเขาอึ้งจริงๆ เพราะถ้าเรื่องวันนี้เฮย์โซไม่ได้รับโทษสูงสุด ก็คงมีคำครหาในการปฏิบัติหน้าที่ของ Next Generation ทุกคนตามมาอีกแน่ จังหวะเดียวกันนั้นคิระหันไปสบตาอดีตผู้นำที่มองมาพอดี ก่อนเขาจะ “ม่วงชมพู” เขาเลือกสีจากปากกาขนนกของตัวเองให้ฟาเดียตามที่อดีตผู้นำเคยร้องขอไว้ต่อจากเตโชที่เคยเลือกสีแดงสการ์เล็ตให้เธอก่อนหน้านี้ และถึงฟาเดียจะกำลังเสียใจแค่ไหน อดีตผู้นำก็พยักหน้าและส่งยิ้มกลับมาให้ ราวกับกำลังขอบคุณที่เขาเข้าใจ . . . 7 ปีต่อมา “ไม่ได้! ถ้าเปิดโอกาสให้ทำผิดเล็กน้อยก็จะนำพาไปสู่เรื่องที่ใหญ่กว่า” เสียงเฟรย่าแย้งหัวชนฝาจนห้องประชุมตอนนี้ขำกับท่าทางของคิระที่หัวเสียยิ่งกว่า “ยัยบ้า! ซีเรียสไปป่ะ เธออยู่สังกัดสภารึไง ร้อนรนเหมือนตัดสินใจแทนได้” “หืม ไอ้คิน! แกนั่นแหละเป็นบ้าไร ท่านรองอยากโดนตบกบาลหรอฮะ” เฟรย่าง้างมือแล้วเดินอ้อมโต๊ะประชุมเข้าไปใกล้โดยไม่มีใครคิดจะห้าม “ก็มาดิวะ นี่มันหน้าที่ไอ้แม็คไม่ใช่หน้าที่เธอ อย่ายุ่งว่ะ!” “งั้นโทรเลย อยากรู้เหมือนกันว่าหมอนั่น...” “เถียงไรกันวะ” เสียงจากปลายสายที่ไร้ตัวตนคนพูดถามมา เพราะเจ้าตัวเองก็เพิ่งเข้ามาในการประชุมนี้แบบออนไลน์ ทั้งคิระและเฟรย่าเลยหันไปหาเขาที่นั่งเด่นหราคนเดียวบนจอ “เออมาพอดี หลบดิ๊จะฟ้อง” เฟรย่าดันตัวคิระแล้วร่ายยาวในขณะที่เตโช โมเน่ต์ เลโอ และลิซ่านั่งขำกันใหญ่ “ไอ้คินจะทุบตึกสภา! จะย้ายห้องทำงานนายมารวมกันที่ตึกใหญ่ แถมยังจะถือวิสาสะขยายห้องซ้อมเมมเบอร์ แล้วก็จะเปลี่ยนอะไรต่อมิอะไรให้เป็นเทคโนโลยีขายฝันล้ำสมัยอะไรนี่แหละ มิหนำซ้ำจะร่างแผนการปรับปรุงทั้งหมดนี่เอง แถมจะเซ็นต์อนุมัติโดยไม่รอนายด้วย เนี่ย ตึกสภาจะโดนยึดอยู่แล้วโว้ย ไหนบอกมาดิ๊จะเอาไงฮะ!” “โคตรพูดมาก” คิระทำหน้าเอือมขั้นสุด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรเพราะเขารู้ว่ามาโครที่ฟังอยู่ใช่คนเรื่องมากแบบคนที่โวยวายซะที่ไหน “……” “เงียบ มันเงียบแปลว่าทำได้ มึงรู้ใจกูอยู่แล้ว” “ตรรกะไรวะน่ะ” เลโอหันมาส่ายหัวกับเตโช ซึ่งไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ เพราะมันก็ถูกคิระ ที่พวกเขาเป็นเพื่อนซี้ ต้องมีคุยหลังไมค์ไว้แล้ว แต่ก็ถูกเฟรย่า ที่ไม่ยอมให้คนอื่นตัดสินใจแทนมาโคร เพราะอยากให้เขาพาฟาเดียกลับมาตัดสินใจเองต่างหาก ก็เธอไม่เคยแม้แต่จะเจอตัวเป็นๆของน้องเลยมา 7 ปีแล้ว ฟังดูนานจนน่าตกใจ แต่เรื่องจริงทั้งนั้น ฟาเดียยอมให้เห็นหน้า แต่เธอไม่เคยยอมกลับมาปรากฏตัวที่ Dark shadow และไม่ให้ใครไปหา โดยให้เหตุผลว่า ‘ขออยู่ที่อื่นสักพัก แต่ไม่ได้บอกว่าสักพักคือนานแค่ไหนนี่นา’ “ไม่รู้แหละ! ทำไม่ได้เว้ย มีแค่สองคนเท่านั้นที่อนุมัติให้ทำได้คือแม็คกับเดีย ท่านรองไม่เอาเวลาไปทำงานตัวเองวะฮะ” พูดแค่นั้นเฟรย่าก็กลบเกลื่อนด้วยการดึงหูคิระลากให้ลุกจากเก้าอี้ขึ้นมาประชันหน้า “เวรเอ๊ย! ยัยแม่มด โตจนมีลูกแล้วนะเว้ย เล่นเป็นเด็กๆไปได้” “ไม่รู้แหละ ใครกล้าแตะอะไรในความผิดชอบของสภา ต้องผ่านด่านรักษาการก่อนเว้ย!” “แล้วนี่จะรักษาการแทนทั้งไอ้ผู้นำ ทั้งไอ้สภาสูงสุดเลยหรอวะ” “เออดิ อย่ายุ่งนะเว้ย ตึกใครคนนั้นต้องตัดสินใจดิ!” ทั้งสองคนตะโกนใส่กันเป็นเด็กๆแบบนี้ทุกครั้งจนทุกคนในนี้รวมถึงมาโครที่เข้าร่วมประชุมด้วยทุกทีต่างก็ชินชา มาโครตอนนี้เหมือนผู้ชมที่นั่งจิบกาแฟชิลๆท่ามกลางบรรยากาศที่ดีมากๆจนน่าอิจฉา และในเมื่อไม่มีใครห้าม เคนชินกับไคยะซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของทั้งคู่ที่เพิ่งเข้ามาก็รับอาสาซะเอง “ใจเย็นก่อนนะครับนายหญิง ตอนนี้ทีมรักษาความปลอดภัยรายงานด่วนมาว่า...” “เคนชินอย่ายุ่งน่า!” “นายครับ หอควบคุมทางอากาศแจ้งมา เหมือนเราจะมีผู้....” “บ่นอะไรงุ้งงิ้งวะไอ้ไคยะ!” “มีไรกันน่ะ เสียงดังจัง” ตัดภาพจากจอที่มาโครจ้องอยู่ ฟาเดียก็เดินถือหนังสือเล่มหนึ่งมานิ่งๆ เธอไม่ได้ปิดบังตัวตนอะไรเลย ก็ชะเง้อหน้ามองจอนั้นที่กำลังวุ่นวายแบบงงๆนิดๆ “ไม่มีหรอก ปกติ” ฟาเดียเลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนมาโครจะออกจากการประชุมและตอบไป “ปกติไง ตีกันเป็นปกติ” “หึ แล้วลูกล่ะ” เธอเปิดหนังสือ ทิ้งตัวนั่งและตั้งคำถามอย่างนึกตลกเล็กๆ มาโครก็ยกยิ้มพอนึกถึงเจ้าตัวน้อยที่ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่ที่ Dark shadow castle ตอนนี้ก็มีเด็กๆวิ่งเล่นเต็มไปหมดแล้ว “ไม่รู้ชวนกันไปไหนกับคุณพ่อบ้าน เห็นออกไปตั้งแต่เช้ามืดละ” . . . อีกด้านหนึ่ง @ Dark shadow castle “เดี๋ยว มึงบอกว่าใครมานะ” อยู่ดีๆ เสียงที่เถียงกันก็หยุดลงหลังจากมาโครกดออกจากการประชุมไปได้สักพัก เพราะคำรายงานที่ได้รับจากเคนชินและไคยะ ทำให้ทุกคนหันมาโฟกัสเรื่องนี้แทน “เป็นเด็กผู้ชายครับ ไม่รู้เด็กที่ไหน เข้าใช้พื้นที่บนดาดฟ้าสังกัดสภา และตอนนี้เดินวนไปวนมาเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างอยู่ในสวนของ castle ใกล้กับจุดที่พวกคุณหนูเล่นกันอยู่” ไคยะรายงานอย่างงงๆพอกัน พร้อมกับเปิดภาพจากวงจรปิดคร่าวๆให้ทุกคนดู แต่ถึงอย่างนั้นกล้องก็จับหน้าตาเด็กคนนี้ไม่ทันเพราะวิ่งไวมาก “เด็กเนี่ยนะ?” “แล้วเข้ามาไงอ่ะ” เลโอกับเฟรย่าหันมาตั้งคำถาม เคนชินก็ส่ายหน้า “ยังไม่แน่ใจเลยครับ” “น่ารักเชียว” ลิซ่าอมยิ้มเล็กๆในความดุ๊กดิ๊กที่ดูระมัดระวังและรู้จักหลบเมมเบอร์ที่เดินผ่านของเด็กคนนั้น “เมื่อกี้มึงบอกว่า เข้าใช้ดาดฟ้าของตึกสภาใช่มะ” “ครับ” คิระพอได้คำตอบจากไคยะก็หันไปหาเตโชที่มองมา “หรือว่า...” คำพูดโมเน่ต์ถูกทิ้งท้ายไว้แค่นั้น เพราะทุกคนในห้องนี้ทั้ง เตโช โมเน่ต์ คิระ ลิซ่า เลโอ และเฟรย่า ต่างก็ลุกพรวดขึ้นมาด้วยความอยากรู้พอกัน “มึงว่า” “0.1% ไม่ใช่” เตโชตอบกลับคิระที่เดินอยู่ข้างเขาและยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเด็กผู้มาเยือนคนนั้นกำลังยืนโม้อะไรให้บรรดาลูกหลานของเขาฟังอยู่ “พ่อไม่ได้เป็นมาเฟีย พ่อเป็นสภาสูงสุด” “สภาสูงสุดหรอ” “ใช่ ไม่รู้จักรึไง ก็สูงๆอ่ะ สภาที่สูงๆ” “สูงเท่าไหน” “สูงๆไง งงไรเนี้ย” “ป๊า บ้านคนนี้มีสภาเหมือนเราด้วย แต่เราเป็นมาเฟียยิงปืนปิ้วๆ” เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักวิ่งมาหาคิระผู้เป็นพ่อและคุยให้เขาฟังใหญ่ “พ่อนี่ไม่ได้เป็น ก็แค่คุมกฎเฉยๆ พ่อบอกเรื่องง่ายๆ สั่งๆข้ามประเทศก็ยังได้” เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มแต่ดูท่าทางเอาเรื่องพูดมาอย่างอวดๆ คิระเลยเดินเข้าไปหา และมันคุ้นมาก ไอ้หน้าแบบนี้ทำเขาหันมองคนที่เหลือซึ่งยิ้มกันกว้างสุดๆโดยเฉพาะเฟรย่า “ขิงเก่งนะพ่อเนี่ย ทำงานคุมกฎซะด้วย” “ช่ายยย” เด็กน้อยตอบคิระที่เดินมาทิ้งตัวนั่งคุยกับเขา เฟรย่าก็ตามมา “สรุป พ่อเป็นมาเฟียมั้ย” “ไม่ พ่อคุมกฎไง” “เอาใหม่ พ่อไม่ได้เป็นมาเฟียแน่นะ” “ม่ายยย ดูปาก พ่อบอกว่าพ่อคุมกฎ แถมพ่อเก่งมากจะบอกให้” ปากตอบเลโอที่เดินตามมา สองแขนเล็กๆของเด็กคนนี้ก็ยกขึ้นกอดอกด้วยความมั่นใจ คิระเห็นแบบนั้นก็พยักหน้า “เออ ก็ไม่เถียงหรอก แล้วถ้าพ่อคุมกฎนี่กฎไร” “ก็กฎ...” “มาเฟีย” “เอ๊ะหรือว่าใช่” พอคิระแกล้งพูดไกด์ให้ ก็เริ่มมีความลังเลนิดหน่อยเกิดขึ้นกับใบหน้าน้อยๆที่นึกสงสัย “แต่พ่อไม่ใช่มาเฟียแน่นะ” “ก็บอกว่าไม่..ใช่ ไม่ใช่หรอก” ลิซ่าหลุดขำเพราะน่าเอ็นดูซะจริง ยิ่งเห็นเด็กคนนี้ในที่แบบนี้ แถมยืนอยู่ท่ามกลางพี่น้องของเขาอีกก็ยิ่งแฮปปี้ “แล้วถ้าพ่อไม่ใช่มาเฟียจะคุมกฎมาเฟียได้ไงอ่ะ” เฟรย่าถามหลานชายตัวน้อยแบบเก๊กเสียงเข้ม แต่คิ้วเล็กๆที่ขมวดเข้าหากันแล้วชวนเปลี่ยนเรื่องก็ทำให้เธอหลุดยิ้มออกมาจนได้ “นั่นสิ งั้นใช่ก็ได้ จะบอกอีกเรื่องว่าพ่อเท่มากกว่าใคร” “แน่ใจได้ไงว่าเท่” “ก็พ่อหน้าแบบเนี้ย ก็ต้องเท่” เลโอส่ายหัวทันที ก่อนจะเลื่อนมือไปจับหน้าเด็กคนนี้พลิกไปพลิกมา “ใช่หรอ หลงตัวเองละมั้ง” “พูดจริง แม่บอกว่าเท่ทั้งพ่อทั้งลูก” เด็กน้อยจริงจังกับการเถียงมาก คิระก็ไม่ลดละที่จะแกล้งหลาน “งั้นสรุปเลย พ่อชื่อไร” “เรื่องไรจะบอก แล้วลุงอ่ะเป็นใคร” โทนเสียงหาเรื่องถูกใช้ทันทีที่เขาถามข้อมูลส่วนตัวขนาดนั้น คิระก็ลอยหน้าลอยตา “ก็ถ้าพ่อเป็นสภาที่สูงๆแถวนี้ นี่ก็น่าจะเป็นญาติพ่อที่รู้จักกับแม่ด้วย” “ส่วนเราคงเป็นญาติแม่” เฟรย่าหันไปยิ้มกับเลโอ แต่โดนเด็กน้อยสวนกลับทันควัน “ผิดแล้ว แม่ไม่มีญาติ” “มีดิ แม่มีพี่สาว” เธอตอบกลับหลานอย่างไม่ปล่อยให้เข้าใจผิดเหมือนกัน ที่มั่นใจว่าเป็นหลานเพราะสังเกตง่ายมาก นอกจาก DNA บนหน้าแล้ว เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยสุดๆจากการเลือกของลิซ่ากับคิระที่สั่งให้วางระบบใหม่ทั่วทั้ง Dark shadow castle ไม่มีทางปล่อยให้เด็กคนนี้เข้ามาได้ถ้าไม่มีบางอย่างเป็นสื่อกลางพาเข้ามา “ไม่มั้ง แม่มีพี่สาวด้วยหรอ คิดก่อนนะ อ๋อหรือว่าเป็นอานตี้เฟรย่า” เด็กน้อยหันมาถามเธอที่ดูเซอร์ไพรส์พอควร เพราะเอาจริงๆ ทุกคนตรงนี้รู้นะว่ามาโครกับฟาเดียมีลูก แต่ไม่เคยเจอตอนที่โตขนาดนี้แล้ว “รู้จักด้วย?” “ก็ต้องรู้” “ครับ” คิระไกด์ให้หลานพูดคำลงท้ายดีๆ เด็กน้อยก็ยอมพูดมัน “อื้อ ก็ต้องรู้ครับ” “แล้วรู้มั้ยอานตี้หน้าตาเป็นไง” เลโอลองเชิงดู เด็กน้อยก็ส่ายหน้า “ไม่อ่ะ ได้ยินแต่ชื่อ แม่ไม่ค่อยเล่าเรื่องครอบครัวเลย แม่บอกมันซับซ้อน แต่ถึงเวลาจะพามาเจอ นี่รอไม่ไหวเองอ่ะ” “หึ” เตโชที่ยืนฟังอยู่นานชอบใจตอนหลานชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเป็นพิเศษเลยหลุดขำ เลโอก็ถามต่อ “แล้วแม่บอกมั้ย ถ้าพ่อคุมกฎแล้วป้าเป็นไร” “ไม่บอกแต่รู้นะ ได้ยินแม่คุยกับพ่อ เรื่องง่ายๆเล้ย ป้าเป็นหมอ” เจอหลานตอบด้วยความมั่นใจ เลโอก็งงไปเหมือนกัน “หมอหรอ?” “ใช่ ป้าเป็นรักษา” “...การ รักษาการ” เฟรย่าต่อคำให้ครบ เด็กน้อยก็ยกนิ้วโป้งให้สัญญาณว่าถูกต้อง “ใช่เลย รักษาการนั่นแหละ แต่ไม่รู้การเป็นไรต้องรักษานะ” พูดแค่นั้นเด็กน้อยก็ทำหน้าสงสัยขึ้นมาอีก คิระเห็นโหมดนี้แล้วอดแซะเลโอไม่ได้ “มึนทรงนี้น่าจะเป็นลูกมึงมากกว่า” เล่นเอาทุกคนขำกันใหญ่ “อ้าวป๊า มีลูกใหม่หรอ!” เลโอหันไปหาเด็กผู้ชายอีกคนรุ่นๆเดียวกันที่นั่งเล่นอยู่แถวนั้นซึ่งตะโกนมา “เปล่าลูก ไม่ใช่ แล้วแฟนป้าอ่ะที่หล่อๆ” เขาหันกลับมาหาเด็กน้อยผู้มาเยือนอีกครั้ง และ “จะไปรู้หรอ” “อ้าวเฮ้ย ทำไมงั้นอ่ะ” “พ่อบอกไม่ค่อยเท่ให้ข้ามไป แม่บอกพูดมากด้วยไม่ต้องไปสนใจ” “มึงโทรเลย กูจะด่าพ่อแม่มัน” ถือเป็นจังหวะที่โบ๊ะบ๊ะพอควร คิระเห็นเลโอไปไม่เป็นก็ขำลั่น “ฮ่ะๆๆ เออ เอาเรื่องว่ะ ว่าแต่รู้ป่ะ พ่อเป็นมาเฟียแก๊งค์ไหนอ่ะ” “แก๊งค์ไหนหรอ คิดก่อน... ” ดูจากท่าใช้ความคิดแล้วทุกคนตรงนี้เชื่อมั่นเหลือเกินว่า... “อ๋อ ดาร์คโลโบ้” “……” สถานการณ์ตอนนี้เดดแอร์ทุกผู้ทุกนามทันที ก่อนเด็กน้อยจะเอียงคอถามอย่างเอาเรื่องมากๆ “งงไร ไม่รู้จักหรอ มาเฟียดาร์คโลโบ้อ่ะ” “555555555555555” แล้วแค่นั้นเองที่เสียงหัวเราะของทุกคนขำลั่นยิ่งกว่าจนบรรดาลูกของพวกเขาวิ่งมา “โทษนะ ต้นตระกูลพ่อเป็นเชฟรึเปล่า” “55555555555555555555” เฟรย่าขำคำถามเลโอจนน้ำตาไหลออกมา ในขณะที่เด็กน้อยทำหน้าเลิ่กลั่ก “ไรอ่ะ ขำไรกัน พ่อบอกแก๊งค์นี้เท่นะ!!” ท่าทางเกรี้ยวกราดตะโกนแข่งกับเสียงหัวเราะแล้วมองทุกคนสลับกันทำคิระขำจนเจ็บท้อง ก่อนเขาจะทำท่ายอมหลาน “เออเท่ โลโบ้ก็โลโบ้ มึงโอป่ะ” คิระหันไปหาเตโชที่ยิ้มกว้างและส่ายหัวพัลวัน เด็กน้อยได้ทีก้มดูนาฬิกาข้อมืออย่างนึกอะไรขึ้นได้และมองซ้ายมองขวา ก่อนจะปล่อยให้แก๊งค์ผู้ใหญ่ตรงหน้าขำต่อ และรีบแหวกทางให้พอดีตัวจะเดินหนี “หัวเราะไรกันอยู่ได้ หลบหน่อยได้มั้ย เหลือเวลาน้อยแล้วเดี๋ยวหาไม่เจอ” “หาไร” “ใครสักคน” “ก็นั่นแหละใคร” คิระสังเกตท่าทางลุกลี้ลุกลนแล้วหยุดขำ เด็กคนนั้นก็ส่ายหัว “ไม่รู้อะ ชื่ออังเคิลคิระ เป็นเพื่อนพ่อที่มีตำแหน่งใหญ่ๆ” “ใช่คนที่โคตรจะเท่คูลป่ะ พูดมาเลยว่าพ่อเคยบอกไว้” เขาพูดแล้วหันไปยักคิ้วขิงใส่เลโอแบบมั่นใจสุดๆว่าเพื่อนรักจะสั่งสอนลูกมาอย่างดี แต่แล้วก็ต้องหน้าเสียพอกัน “ไม่เคย มีแต่แม่บอกว่าคนนี้กวนประสาทที่สุดในโลกเลยนะมาร์คให้ตายยย” “ต้องโทรจริงละ ไอ้สองคนนี้สอนลูกไม่เข้าท่าเท่าไหร่” คิระกับเลโอกลายเป็นหัวชนกันพร้อมใจกันหาเบอร์มาโครทันที แต่ก็โดนเด็กน้อยดึงชายเสื้อพวกเขาให้หลบ “แล้วสรุปรู้จักมั้ยเนี่ย ถ้าไม่รู้ก็อย่ามาขวาง” “นี่ พูดกับผู้ใหญ่เพราะๆหน่อยสิ” “ช่างเขาเถอะน่าลิมา” ระหว่างที่มือเล็กๆดึงเสื้อคิระเต็มแรง เด็กผู้หญิงคนเดิมกับเด็กผู้ชายอีกคนซึ่งก็คือลูกสาวและลูกชายของคิระก็เดินเข้ามา “ลิมา...ลาริมาร์?” เด็กชายผู้บุกรุกทวนชื่อของเด็กผู้หญิงจนคิระละสายตาจากมือถือมองมา “ใช่ รู้ชื่อเราได้ไงน่ะ” แล้วสายตาของเด็กชายผู้บุกรุกก็มองลูกชายของคิระอย่างพิจารณา และ “ไคโรกับลิมา แม่ชื่อลิซ่า พ่อชื่อคิระใช่ป่าวนะ” “ใช่ นี่ไคโรพี่เรา นี่แม่เรา ส่วนนี่ก็... ” “อังเคิลคิระ!” พอนิ้วเล็ก ๆของสาวน้อยถูกชี้ไปที่คิระ เด็กชายผู้บุกรุกก็ตาโตขึ้นมา “ถูกต้อง! ป๊าเราเอง” สาวน้อยส่งยิ้มสดใสมาให้ ผิดกับเด็กชายผู้บุกรุกที่เอามือขึ้นเท้าเอวอย่างหาเรื่องอีกครั้ง “แล้วลุงทำไมไม่บอกแต่แรกเนี่ยฮะ!” “ท่าแม่มันชัดๆ” คิระส่ายหัวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง “ถ้างั้นนี่ก็... ” “อานตี้โมเน่ต์ อังเคิลเตโช ส่วนนี่ อานตี้เฟรย่า อังเคิลเลโอ” สาวน้อยคนเดิมแนะนำอย่างชำนาญ แต่พอถึงชื่อเลโอ เด็กชายผู้บุกรุกด้วยความที่โดนกวนประสาทเยอะอยู่เลยทำท่าไม่ใส่ใจ “อ๋อ ไม่รู้จักอยู่ดีอ่ะ” “เดี๋ยวได้รู้ ไม่ต้องกลับแล้วบ้าน จับขังอยู่ด้วยกันเลยมะ” “จับดิ จับเลย อยากอยู่นี่!” แทนที่จะกลัวแต่ท่าทางของเด็กน้อยกลับดีอกดีใจจนคนรอบข้างงงไปตามๆกัน “อยากอยู่?” เตโชถาม แต่ทุกคนก็ต้องขำลั่นอีกครั้ง “เฮ้ย! นี่ลุงพูดได้หรอ!” ท่าทางเด็กคนนี้ตื่นเต้นจนเลโอถูกใจมาก “ฮ่ะๆ กูชอบอ่ะ กูขอนะไอ้เฮีย” “เดี๋ยว แล้วมาหาลุงมีไร มายังไง?” คิระที่เอ็นดูหลานจนถึงขั้นแย่งจากมือเลโอที่ถูกใจมากกลับมาถาม เด็กน้อยก็ตอบชิลๆ “ไพรเวทเจ็ทจอดไว้บนดาดฟ้า หนีมา ที่นี่ใหญ่กว่าบ้านอีกอ่ะ ชอบ” “หนี?” “ใช่” “แล้วมากับใคร” เด็กน้อยหันมองซ้ายมองขวาอีกครั้งแล้วกระซิบ “คนขับกับคุณพ่อบ้าน แม่บอกเด็กอยู่ โตเมื่อไหร่ค่อยขับเองแล้วกัน” “พ่อบ้าน?” คิระทวนคำนั้นแล้วหันมองคนอื่นๆซึ่งก็ไม่มีใครรู้จัก เด็กน้อยเลยออกตัวแนะนำ “ใช่แล้วชื่อพ่อบ้านโคลด์ครับ ลุง! ขออยู่ด้วยนะ ได้มั้ย เมื่อกี๊ที่พูดไม่เพราะจะพูดเพราะๆเลยครับ” “.......” ถึงตรงนี้ทุกคนนิ่งเงียบ เพราะถึงหลานจะน่ารัก แต่การจะให้อยู่หรือไม่ มันเกินกว่าอำนาจตัดสินใจของใครตรงนี้ “นะลุง พ่อบอกที่นี่สนุก แต่มีเหตุผลที่ยังกลับไม่ได้ จับผมเป็นตัวประกันเลย พ่อกับแม่จะได้มานี่ไง” เด็กน้อยแผนสูงออกไอเดียให้ แต่ทุกคนก็ยังเงียบ คิระเห็นหลานตัวคนเดียวก็เห็นใจ เพราะพอเห็นสายตาหลานที่มองไปที่พี่น้องคนอื่นซึ่งเล่นกันสนุกมาก ก็เริ่มใจอ่อนขึ้นมา “นะครับบบ อังเคิลลล อยากอยู่นี่มีเพื่อนเพียบเลย จับหน่อยได้มั้ย” “แล้วตอนนี้แม่เป็นไง” “เป็นไรหรอ อ๋อ ที่แม่ป่วยใช่มั้ย” “อืม” “แม่หายตั้งนานแล้วนะ แม่บอกว่าตอนนี้แค่อู้งานอยู่อ่ะ” พูดไปเด็กน้อยก็เอาแต่มองพี่น้องตลอด สายตาดูออกเลยว่าอยากมีเพื่อนมากๆ แถมตื่นตาตื่นใจกับอะไรใน castle สุดๆ “แล้วพ่อล่ะ” “พ่อก็อู้งานตามแม่ไง พ่อบอกพวกลุงๆป้าๆเปิดช่องโหว่ให้ปีศาจซะแล้ว หัวเราะด้วยนะ ฮ่าๆๆๆ แบบเนี้ยเลย” “ไอ้แม็คไอ้เวร” “อ้าวลุง อย่าเรียกพ่อคนอื่นว่าไอ้ โกรธนะ! ต่อยเป็นนะ!” เลโอหลุดปากสบถแกมขำไปนิดหน่อย หลานตัวน้อยก็กำหมัดพร้อมสู้เขาเต็มที่ “สภาพ! กำปั้นเท่าไข่ไก่” “นักเลงไปไหน” เตโชเดินมาหาหลานแล้ววางมือยีผมเด็กน้อยจนพอใจ ก่อนจะส่งสายตามีนัยยะบางอย่างให้คิระที่กำลังลังเล ไกด์ให้เขารู้ว่าควรทำยังไง “คุณหนูครับ!” แล้วระหว่างนั้น ก็ปรากฏร่างใครสักคนจากที่ไกลๆ ดูจากสภาพเขาคงวิ่งตามหาเด็กคนนี้จนเหนื่อยหอบ “พ่อบ้านมาแล้ว! จับหน่อยลุง ไม่อยากกลับไป!” “ทำงั้นไม่ได้” คิระเสียงแข็งแล้วลุกขึ้น เด็กน้อยก็คว้ามือถือตัวเองในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดโทรออกอย่างไว “ได้ดิ แค่โทรแล้วทำเสียงขู่ให้หน่อย” “อย่าเล่นไรไม่เข้าท่า ชื่อไรนะ มาร์คใช่มะ” “ไม่ทันแล้ว แม่รับแล้วนะ” มือเล็กๆยื่นมือถือแล้วกระโดดๆจะส่งมันให้คิระ เขาก็ยังนิ่งอยู่ [มาร์ค จะกลับรึยังลูก วันนี้พ่อบ้านโคลด์พาลูกไปไหน] "......" ทุกคนตรงนี้เงียบสนิท มีแค่เสียงเหนื่อยหอบของพ่อบ้านโคลด์ที่เพิ่งวิ่งเข้ามาถึง [เป็นไรรึเปล่ามาร์ค นั่นเสียงคุณโคลด์นี่ เป็นไรกันรึเปล่า!] แค่นั้นเองที่มาร์ค หรือ มาร์คัส เด็กน้อยที่ถอดแบบชื่อมาจากนามแฝงของพ่อโดยตรงก็ร้องลั่นอย่างหัวหมอ "แม่ช่วยด้วยยย อยู่ๆลุงที่ไหนไม่รู้ก็มาจับบบบ!" [จับ? เกิดไรขึ้น แม็ค!] เสียงจากปลายสาย ฟาเดียวิ่งอย่างตื่นตระหนกทันที เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ "ลุงทำเสียงขู่หน่อยดิ นะครับ อังเคิลลล" "ไม่" "โธ่..." [มาร์ค!] "ป๊าผมกลัว ลุงคนนี้ดุมากกก" มาร์คัสลากเสียงทรมานสุดๆแล้วกระโดดๆส่งมือถือให้คิระที่ตอนนี้กลายเป็นเขาที่เท้าเอวคิดว่าจะเอาไงกับหลานดี แต่ไม่ทันจะตัดสินใจ เตโชก็รับมือถือเครื่องนั้นมา แล้วยื่นมันไปหาเลโอที่ยกมือขึ้นบีบจมูกดัดเสียงอย่างรู้ทันกัน หมับ! “ฮ่าๆๆๆ ไอ้เด็กน้อย ตัวแค่นี้ขับไพรเวทเจ็ทหรอวะ ฆ่าเด็กแล้วขโมยเจ็ทดีกว่า” [มึงใครวะ ต้องการไร] เสียงห้วนของมาโครทำลิซ่าเอามือปิดปากตัวเองทันทีเพราะกลัวจะหลุดขำ เลโอก็ยังเล่นตามน้ำ “ก็ชีวิตลูกมึงไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ ลูกคนรวยหรอวะ หรือว่าจะจับมาเรียกค่าไถ่ดีน้า” [แม็ค ทำไงดี ทำไมเป็นแบบนี้อีกแล้ว...] ผลัวะ! คิระพอได้ยินฟาเดียเสียงสั่นก็ตบหัวเลโอเข้าอย่างจัง "พอไอ้ห่า ไว้มันเอาลูกมึงไปซ่อนบ้างนะ" [เดี๋ยวสิ เสียงนี้มัน...คิระ?] "อืม ลูกพวกมึงมันหนีมา" ทั้งคู่ได้ฟังก็เงียบ ส่วนมาร์คัสตัวน้อยหน้าบูดยกใหญ่เพราะรู้ว่าจะโดนแม่ดุแน่ๆ [อย่าบอกว่าที่นั่น...] "Castle" คิระตอบมาโครเสียงเรียบ ก่อนฟาเดียจะส่งเสียงเข้มตามมานิดๆ [มาร์คัสกลับบ้านเดี๋ยวนี้] ทุกคนตรงนี้หน้าจ๋อยทันทีโดยเฉพาะเฟรย่า แต่สุดท้ายก็เป็นคิระที่.. "คงไม่ได้ว่ะ ตำแหน่งในสภาว่างมานาน งานก็เยอะ ระหว่างรอพวกมึงให้ไอ้เด็กนี่เป็นสภาสูงสุดไปก่อนละกัน" [เดี๋ยวสิ] "จริงดิ สภาที่สูงๆหรอลุง น่าหนุกอ่ะมีเพื่อนเพียบเล้ยยย" แปะ! คิระหันกลับมายักคิ้วให้หลานที่กระโดดแตะมือเขาอย่างถูกใจ มาโครเสียงอ่อนลงเรียกชื่อเพื่อนแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร [ไอ้คิน] "กูไม่ได้ขอ และไม่ได้สั่ง แค่จับหลานเป็นตัวประกัน" "เรียกว่าบังคับดีกว่า" เตโชเสริมคำพูดคิระ มาร์คัสก็กระโดดโลดเต้นไปทั่ว “เย่ๆๆๆ!” [ไอ้ติณณ์แต่ว่าพวกกู...] ติ๊ด! ไม่เว้นช่วงให้มาโครพูดจนจบ ก็เป็นเตโชอีกครั้งที่กดตัดสายมือถือทันควัน ยิ่งเรียกคะแนนจากหลาน มาร์คัสอ้อนเขาด้วยการวิ่งมากอดแน่นมากอย่างรู้งาน "ลุงเท่สุดๆไปเลยอ่ะ! เท่มาก! เท่มากกก! มาร์คชอบมากกก!" "เดี๋ยวๆนี่ล่ะ" เลโอเห็นแบบนี้ชักเริ่มน้อยใจเลยไปสะกิดหลาน มาร์คัสหยุดคิดนิดนึงแล้วส่ายหัว "ไม่ได้อ่ะ เสียงบีบจมูกไม่ค่อยน่ากลัว ลุงคิระเท่อะ ลุงเตโชสุดยอดไปเล้ยยย" "แน่อยู่ละ" "เฮ้ย! ทุ่มเทขนาดนี้ไม่มีความดีเลยหรอวะ" เลโอทำหน้าบูดเรียกความสนใจจากหลานอีกครั้ง มาร์คัสสนใจนะ หันมาหาเขาแล้วบอกว่า "มีนิดหน่อยแหละ ว่าแต่ลุงชื่อไรนะ โอ๊ะโอหรอ" "เลโอ!!!" "เค อังเคิลโอ๊ะโอ เล่นวิ่งไล่จับกันมะ" "ไม่!!" "ถ้าไม่เล่นคือลุงไม่เท่ แล้วแต่นะไปล้าววว" พูดแค่นั้นเด็กน้อยก็วิ่งติดสปีดผ่านพ่อบ้านโคลด์ที่พอสถานการณ์ตึงเครียดน้อยลงก็รีบทำความเคารพพวกเขา ส่วนเลโอมองตามหลานแล้วหยุดคิด “ยังไงนะ แล้วเอาความเท่มาขู่ คือกูต้องวิ่งใช่มะ เอ้า!” แล้วเหมือนเพิ่งคิดได้ เลโอก็วิ่งตามมาร์คัสไปติดๆ เสียงหัวเราะของมาร์คัสดังก้องไปทั่วสวนของ castle ตอนนี้ ตามมาด้วยบรรดาทายาทตัวน้อยที่รวมตัวกันวิ่งไล่เลโออีกที...วันต่อมา“ไม่ค่อยเห่อกันเลยนะครับ”คิระแกล้งแซวอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงที่ถึงแม้จะผ่านไปหลายปีก็ยังดูแข็งแรงอยู่ แถมวันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงเมมเบอร์นับร้อยก็แต่งตัวสวยหล่อเป็นพิเศษ บรรยากาศโดยรอบของหอประชุมที่ถูกรีโนเวทใหม่ดูเป็นทางการและไม่มีที่นั่งส่วนไหนแบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายอย่างเดิมเตโช โมเน่ต์ คิระ ลิซ่า เลโอ และเฟรย่า นั่งประจำในที่ของตัวเองโดยมีอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงนั่งตรงกลาง ราวกับเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานถัดจากทั้ง 6 คนมีตำแหน่งที่ว่างอยู่ทั้ง 2 ที่ ซึ่งอยู่ในระนาบเดียวกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือลำดับความสำคัญกำลังรอการกลับมาของมาโครและฟาเดีย มีเพียงพื้นที่ที่ถูกจัดให้ระดับความสูงไม่มากเกินไปอย่างด้านซ้ายมือของเหล่าพ่อแม่ที่ถือครองตำแหน่งต่างๆเท่านั้น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กๆทั้ง 5 คนเรียงตามลำดับ ประกอบไปด้วยไคโร – ลูกชายของคิระกับลิซ่าโซลาร์ – ลูกสาวของเตโชกับโมเน่ต์มาร์คัส – ลูกชายของมาโครกับฟาเดียริคกิ – ลูกชายของเฟรย่ากับเลโอ และลิมา – ลูกสาวของคิระกับลิซ่าซึ่งตอนนี้ เด็กๆที่สนิทกันอย่างรวดเร็วต่างก็กำลังแย่งกันพูดคุยกับมาร์คัสที่ชะเง้อหน้
@ เซฟต์เฮ้าส์อดีตผู้นำ“เดีย!”เฟรย่าที่ได้สติและถูกนำตัวกลับมารักษาลุกพรวดด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นน้องเดินเข้ามาส่วนฟาเดีย เธอนิ่งเงียบและดูเฉยชา แม้แต่หน้าเฟรย่าตอนนี้ยังมองไม่ชัด ม่านน้ำตาของเธอบดบังทุกสิ่งจนถ้าไม่ได้มาโครเดินจูงมือเข้ามา เธอก็มองไม่เห็นทางด้วยซ้ำ“ร้องไห้ทำไม เจ็บตรงไหนบอกพี่ หมอ!”เสียงเฟรย่าตะโกนดังลั่น มาโคร เตโช คิระ รวมถึงเลโอที่แยกตัวออกไปช่วยดูเลล่าให้ก็ไม่มีใครปริปาก จนกระทั่งอดีตผู้นำ ท่านผู้หญิง โมเน่ต์ และลิซ่าเดินเข้ามา“ขอหนูไปอยู่ที่อื่นสักพักได้ไหมคะ”ฟาเดียเห็นหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ เธอก็ตั้งคำถามอย่างเลื่อนลอย แต่ลึกๆก็คาดหวังให้พวกเขาที่มองมาอย่างนึกสงสารช่วยเห็นใจเธอบ้าง“หนูอยู่ที่นี่ไม่ไหวเลย…หนูรับ...อะไรพวกนี้ไม่ไหว...มัน…”เธอส่ายหน้าส่งสัญญาณต่อต้านสิ่งรอบตัวขึ้นมาฉับพลัน ก่อนอดีตผู้นำจะเดินเข้ามา พร้อมกันกับที่เธอพุ่งเข้าไปกอดและทรุดลงปล่อยโฮออกมาจนตัวสั่น“หนูเหนื่อย...หนู...”“ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร”นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ทุกคนได้เห็นอดีตผู้นำหน้าเครียดที่สุดจากที่รับมือกับเรื่องอะไรต่อมิอะไรมามากเฟรย่าที่ได้ฟังแม้จะรู้เ
"นี่สำหรับเมียกู!ต่อไป...ก็มึงสินะ""ขอเรากับคุยเฮซก่อน"พอเห็นมาโครเดินท่าทางเอาเรื่องกลับมา ฟาเดียก็ตัดสินใจเอาตัวเองเข้าไปขวาง เขาหยุดเดินมองเธอนิ่งๆ แต่ถึงแววตาดุร้ายคู่นั้นมันน่ากลัวกว่าทุกครั้งฟาเดียก็ยัง“ได้ไหม”"รักมันรึไง"เสียงห้วนและเยือกเย็นที่เขาไม่เคยใช้กับเธอตั้งคำถาม ยิ่งเห็นเธออึ้งจนอึกอักมาโครก็ยิ่งตะคอก"ถามว่ารักมันไหม?!"พรึ่บ!ฟาเดียตกใจ รีบเลื่อนมือไปทาบอกแกร่งเพื่อให้เขาใจเย็นลงก่อนตอบอย่างหนักแน่น"ไม่""ชัดไหม?!"แค่นั้นเองที่มาโครเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงเธอไปถามเฮย์โซที่มองเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน"ปล่อยมัน"เขาสั่งลูกน้องให้แก้มัดเฮย์โซเช่นเดียวกับที่แก้มัดคาร์เตอร์ ก่อนจะพุ่งเข้าไปกระชากคอเฮย์โซมาเผชิญหน้าอย่างเหลืออดมานาน"มึงมีโอกาสตั้งมากมายที่จะปกป้อง! แต่มึงจ้องจะเอาคนของกูให้ได้!""คนของมึง ใครวะ กูไปยุ่งกับรักษาการตอนไหน"ผลัวะ!หมัดหนักๆของมาโครซัดเข้าหน้าเฮย์โซเต็มแรงไม่มียั้ง"ไม่ต้องมาเล่นลิ้น""งั้นกูเล่นเมียมึงได้ไหม”เฮย์โซไม่ลดละเลยที่จะต่อปากต่อคำเพราะไม่ชอบหน้ามาโครเหมือนกัน อีกอย่างเขารู้ตัวดีว่านาทีนี้ไม่มีอะไรจะเสีย"คำว่าเมียกูที่มึงพูด ก็
5 นาทีต่อมา“ไม่เจอเลย กำลังเสริมก็มาไม่ทัน 10 นาทีนี้แน่ ไหนจะตู้ที่ซ้อนกันไว้อีก”เลล่ารายงานไปพร้อมกับก้าวขาตามมาโครที่แยกกับทุกคนซึ่งตอนนี้ช่วยกันหาฟาเดียและเฟรย่าอย่างร้อนใจ“ท่านผู้หญิงกับอดีตผู้นำกำลังช่วยคิดอีกแรง แต่นายรู้ใช่ไหมยังไงมันก็เสี่ยงเพราะเวลากระชั้นชิดเกินไป”“มันเอาเข้าไปตอนไหน”กึก!มาโครหยุดเดินทันทีที่ฉุกคิดขึ้นได้ และกวาดสายตาอย่างใช้ความคิดท่ามกลางตู้คอนเทนเนอร์เป็นร้อยๆที่สูงท่วมหัวเขา พลางคิดว่าถึงคนของ Dark shadow ที่เอามาจะไม่มากพอสำหรับการเช็คทุกตู้ชั้นล่างทั้งหมดพร้อมกัน แต่อย่างน้อยตู้ชั้นล่างกว่า 60% ก็ถูกเช็คอย่างเร่งด่วนแล้วและไม่มีใครหาเจอ“เฟรย์สู้กับไอ้เวรนั่นอยู่ก่อนเราจะมาไม่เกิน 30 นาที ประเมินจากความสามารถของเฟรย์ ถึงสู้แรงไม่ไหวก็ใช่ว่าการสู้จะจบง่าย รอยแผลบนตัวไอ้ยักษ์มีไม่น้อย แปลว่าเฟรย์สู้เต็มกำลัง จากสถิติและทักษะที่ฝึกมา การสู้หนักระดับนี้เฟรย์ยื้อได้เกิน 20 นาที ซึ่งก็แทบจะเท่ากับเวลาที่เรามาถึงนี่”“หมายความว่า...”“มันบอกว่า 2 ตู้ แปลว่าแยกไว้คนละตู้ ถ้าต้องการถ่วงเวลาให้เราหาไม่เจอ มันคงไม่เอาไว้ตู้ใกล้กันแน่ และหรือถ้าจะเอาไว้ตู้ช
ไม่กี่นาทีต่อมาโครม!!!ประตูโกดังสะเทือนลั่น พร้อมกันกับร่างของไอ้ยักษ์ที่เคยทำร้ายเฟรย่ากระเด็นจากด้านนอกเข้ามาด้วยฝีมือมาโครที่เดินเข้ามานิ่งๆพลั่ก!“เมียกูอยู่ไหน!”หลังจากผลักเฮย์โซที่ลากคอเข้ามาเองกับมือ เลโอก็ตั้งคำถามเสียงห้วนอย่างไม่เกรงกลัวลูกน้องของคาร์เตอร์ที่ตอนนี้มีจำนวนเยอะกว่าในคลิปแบบทวีคูณ“มึง...”คาร์เตอร์คุ้นหน้ามาโครอยู่แล้ว แต่มันหยุดคิดนิดหน่อยพอเห็นเลโอที่มาด้วย ก่อนลูกน้องคนสนิทจะเข้ามากระซิบ“อ๋อ ไอ้พวก Nightshade แล้วที่เหลือล่ะวะ หรือพวกมึงกล้ามาแค่นี้”ใช่ คำถามนี้ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วเพราะท่ามกลางคนกว่า 20 คนตรงนี้ อีกฝั่งมีแค่มาโครและเลโอที่มาพร้อมเฮย์โซในสภาพอิดโรยเท่านั้นและแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ไอ้ยักษ์ แต่มาโครกับเลโอจัดการพวกหน้าประตูโกดังจนเกลี้ยงด้วยสองมือเปล่าเท่านั้น“ถามโง่ๆ ถ้ามาก็เห็นแล้วป่ะ ความลับเลยนะ ที่จริงเพื่อนกูไม่ให้ค่ามึงเลยว่ะ”เลโอตอบยียวนอย่างตั้งใจกวนประสาท ส่วนมาโครก็ยกยิ้มมุมปากจนคาร์เตอร์เสียเซลฟ์ที่ผู้มาเยือนไม่มีทีท่าจะหวั่นอะไรกองทัพของเขาด้วยซ้ำ“มั่นใจขนาดนี้แปลว่าสั่งคนล้อมพวกกูไว้แล้วสินะ”“อยากรู้ไม่ให้คนไปดูวะ”“เห็นด้
@ โกดังร้าง ท่าเรือ X“ดี! ก็ให้มันรู้ไปว่าพวก Dark shadow จะเปิดหน้าสู้กับกูตรงๆไหม ฮ่าๆๆๆ”เสียงคาร์เตอร์หัวเราะลั่นโกดังอย่างชอบใจ ก่อนจะมองสภาพหมดสติเพราะถูกทำให้สลบอย่างไม่ทันตั้งตัวของเฟรย่าและฟาเดียที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล“อีนี่ใช่ไหมที่สั่งระเบิดโกดังเก็บยากู!”ฝ่ามือหยาบกระด้างของคาร์เตอร์จิกผมเฟรย่าขึ้นมาจ้องแล้วสะบัดออกอย่างหัวเสีย ก่อนจะใช้อีกมือบีบแก้มฟาเดียขึ้นมาอย่างเคียดแค้น“ส่วนอีนี่ อีตัวดีที่เอาเงินกูไปงั้นสิ”เพี๊ยะ!พูดจบคาร์เตอร์ก็ใช้หลังมือตบเรียกสติฟาเดียจนสะดุ้งตื่น สิ่งแรกที่เธอทำ คือกวาดสายตามองหาเฟรย่าที่เจ็บหนักกว่า เพราะจำได้ว่ากระสุนสาดเข้ากระจกฝั่งนั้นเต็มๆ“พี่เฟรย์! พี่เฟรย์เป็นไรมากรึปะ...”“หุบปาก! เงินกูอยู่ไหน!”ไม่เว้นช่วงให้ฟาเดียพูดจบประโยคด้วยซ้ำ คาร์เตอร์ก็ตรงเข้ามาบีบคอเธออย่างคาดคั้น“เงินอะไร”“มึงอย่าทำเป็นไม่รู้”จริงอย่างที่คาร์เตอร์พูด ฟาเดียรู้ว่ามันคือเงินซื้อขายยาเสพติดระหว่างคาร์เตอร์กับสภา เงินที่เธอถูกพ่อบุญธรรมอย่างท่านเซนจิและเฮย์โซรวมหัวกันโอนเข้าบัญชีตัวเองที่ไม่ได้ใช้งาน และอดีตผู้นำเป็นคนได้ข้อมูลพวกนั้นมาทำให้เธอตาสว่