Masukปลายฟ้าซบหน้าเข้ากับแผงอกที่เปลือยเปล่าของธีร์อย่างเต็มใจ เธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ เป็นจังหวะที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจของเธอได้เป็นอย่างดี
ในอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ปลายฟ้าไม่ได้รู้สึกว่าเธอกำลังนอนอยู่กับเจ้านายที่เย็นชา แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการเพียงความรักและการปลอบโยนเท่านั้น
ความเงียบปกคลุมทั่วห้อง ปลายฟ้าหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย ขณะที่ธีร์ก็หลับตาลงอย่างเจ็บปวด โดยหวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมา แสงสว่างจากวันใหม่จะช่วยพาเขากลับไปยังจุดที่เขาทิ้งรอยยิ้มที่หายไปไว้เบื้องหลังได้
แสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านทึบเข้ามาได้เพียงน้อยนิด ทว่าเพียงพอที่จะทำให้ปลายฟ้าค่อย ๆ ลืมตาตื่นจากห้วงนิทราที่แสนเหนื่อยล้า ปลายฟ้าตื่นขึ้นมาก็สบตาเข้ากับดวงตาคมเข้ม ที่อยู่ห่างออกไปเพียงคืบดวงตาคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ อย่างเงียบงัน
ธีร์ตื่นได้สักพักแล้วเขาไม่ได้ขยับตัว เพียงแค่นอนมองใบหน้าของคนในอ้อมแขนมาเนิ่นนาน เขามองคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ขนตาของปลายฟ้ายาวหนา เป็นแพสวยงามจมูกเล็กๆ ที่ดูดื้อรั้น รับกับปากอวบอิ่มที่เขาเคยประทับ รสชาติหวานละมุนนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำลึกๆ ของเขา
ผมสีน้ำตาลแดงแผ่ตัวราวกับผ้าไหม กระจายอยู่บนหมอนและแขนของเขาที่เธอนอนหนุนอยู่ ภาพทั้งหมดนี้ทำให้หัวใจของธีร์รู้สึกเต็มตื้นอย่างประหลาด มันไม่ใช่ความรู้สึกชั่วคราวเหมือนที่เคยเป็นมา
ธีร์นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืน
ธีร์ไม่เคยนอนกับใครมาก่อน เขาจะเคยนัดสาวมามีอะไรกันแต่เสร็จจบแล้วก็แยก ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการทางกายเท่านั้น ไม่มีพันธะทางอารมณ์ใด ๆ
แต่กับปลายฟ้านี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอเข้ามานอนอยู่ในห้องและในอ้อมกอดของเขาอย่างบริสุทธิ์ใจ ครั้งแรกคือตอนที่เจอเธอครั้งแรก ที่เขาเข้าใจผิดและจบลงด้วยความวุ่นวาย และก็ครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นจากความอ่อนแอและความต้องการที่พักพิงจากความจริงที่เจ็บปวด
ความเงียบยังคงปกคลุมระหว่างคนทั้งสอง มีเพียงสายตาเท่านั้นที่สื่อสารกัน ความจริงที่ว่าพวกเขาอยู่ในท่ากอดที่ใกล้ชิดทำให้หัวใจของปลายฟ้าเต้นถี่รัว
“คุณธีร์” ปลายฟ้าเอ่ยเสียงแผ่ว พยายามขยับตัวออกเล็กน้อย
ธีร์จ้องมองเธออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ คลายแขนที่โอบเอวเธอออกอย่างช้าๆ .
ธีร์คลายแขนที่โอบเอวปลายฟ้าออกอย่างช้า ๆ แต่ไม่ได้ปล่อยให้เธอหนีไปได้ง่าย ๆ เขาใช้ศอกยันตัวขึ้นเล็กน้อย เพื่อมองปลายฟ้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทันใดนั้น ธีร์ใช้มือลูบหน้าท้องบาง ของเธออย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วร้อนลากตั้งแต่เอวคอด ที่เขาเคยโอบกอดไว้เมื่อคืนจนไปถึงสะดือเล็กของเธออย่างเชื่องช้า การสัมผัสที่คาดไม่ถึงนี้ทำให้ร่างของปลายฟ้าสะท้านวูบวาบ ก่อนที่จะค่อย ๆ ลูบลงไปเรื่อย ๆ อย่างจงใจ
ความรู้สึกตื่นตระหนกแล่นเข้าสู่ปลายฟ้าทันที ปลายฟ้ารีบจับรั้งไม่ให้มือหนาเลื่อนลงต่ำมากกว่าเดิม ใบหน้าของเธอเห่อร้อนด้วยความตกใจและสับสน
“คุณธีร์ คุณจะทำ” ยังไม่ทันที่ปลายฟ้าจะพูดจบ ริมฝีปากของธีร์ก็เคลื่อนเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว ริมฝีปากบางประทับลงที่ริมฝีปากอวบอิ่มทันที เป็นจูบที่ร้อนแรงและฉาบฉวย ธีร์ไม่ได้รอให้เธอตอบรับ ลิ้นร้อน ๆ เลียไปตามปากอิ่มของเธออย่างเร่งเร้า ก่อนที่เขาจะใช้ความชำนาญเปิดร่องปากของเธอออก
ก่อนที่จะเกี่ยวพันเข้ากับลิ้นเล็กที่จูบตอบอย่างไม่ประสีประสาแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความตกใจ ความต้องการที่ถูกปลุกเร้า และความอ่อนไหวที่ไม่อาจต้านทาน
จูบนั้นลึกซึ้งและยาวนานขึ้นเรื่อยๆ มือของธีร์ที่ถูกปลายฟ้าจับรั้งไว้ค่อย ๆ คลายออกและมือทั้งสองข้างก็กลับไปโอบกอดร่างกายของปลายฟ้าไว้แน่น เพื่อรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิดกับเขามากขึ้น
จูบนั้นร้อนแรง ลึกซึ้ง และเกือบจะเกินเลยขอบเขตที่ควรจะเป็น ริมฝีปากของธีร์ยังคงดูดดื่มอยู่กับริมฝีปากอวบอิ่มของปลายฟ้า มือที่โอบรัดเอวเธอไว้เริ่มที่จะรุกล้ำเข้าไปใต้ชายเสื้อชุดนอน แต่ในห้วงสุดท้ายของสติ ธีร์หยุดตัวเอง การกระทำทุกอย่างชะงักลง ก่อนที่จะรุกล้ำไปมากกว่านี้
ความนึกคิดที่สำคัญผุดขึ้นมาในหัว เขาไม่อยากรวบรัดปลายฟ้าแค่เพราะความต้องการของเขา ธีร์รู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้แตกต่างออกไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้เริ่มต้นจากความต้องการทางกาย แต่มาจากความเข้าใจและสายสัมพันธ์ที่มองไม่เห็น ปลายฟ้าเจอผู้ชายแย่ ๆ มามากพอแล้ว เขาเห็นบาดแผลในอดีตของเธอ และ เขาไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น
ธีร์ตัดสินใจที่จะให้เกียรติเธอ เขาผละริมฝีปากออกอย่างช้าๆ ธีร์จูบส่งท้าย เบา ๆ ที่มุมปากของเธอ ก่อนที่จะถอนจูบออกไป จนกระทั่งใบหน้าของเขาห่างออกจากเธอเพียงเล็กน้อย
เขาโอบกอดเธอไว้แน่นอีกครั้ง จมูกโด่งกอดหอมไปที่กระหม่อมของร่างเล็ก เป็นการแสดงความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
ทันทีที่ร่างกายของธีร์คลายออกจากการโอบกอด หลังจากเขาถอนจูบออก ปลายฟ้าก็รีบเด้งตัวออกจากอ้อมกอดของธีร์ ราวกับหนีจากไฟที่กำลังลามเลีย แล้วรีบวิ่งกลับห้องไป โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
เสียงวิ่งตึงตังและเสียงปิดประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามดังขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกเสียงหัวเราะในลำคอจากร่างสูงได้
“หึหึ”
ธีร์ยันตัวขึ้นนั่งบนเตียง เขาใช้มือลูบใบหน้าตัวเอง สัมผัสถึงความร้อนที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากจูบเมื่อครู่ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
เวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงสาย แสงแดดสาดส่องเข้ามาในเพนเฮ้าส์อย่างเต็มที่ แต่ความเงียบยังคงปกคลุมอยู่ ปลายฟ้า เพิ่งจะแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย แต่จิตใจของเธอยังคงสับสนวุ่นวาย ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องเมื่อเช้า ทั้งความตื่นเต้นที่ถูกปลุกเร้า ความอ่อนโยนที่ธีร์แสดงออกมา และการควบคุมตัวเองที่น่าประหลาดใจ
พอคิดก็รู้สึกเหมือนที่ริมฝีปากเธอยังมีสัมผัสหลงเหลืออยู่เลย ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงรสจูบที่ร้อนแรง
ปลายฟ้าไม่กล้าแม้แต่จะเปิดประตูห้องออกไปเผชิญหน้ากับธีร์ เธอต้องแน่ใจก่อนว่าเขาอยู่ในสภาพใดปลายฟ้าโผล่หน้าออกมาดูว่าเจ้านายของเธออยู่ไหน เธอค่อย ๆ แง้มประตูออกมองไปยังห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
ภาพที่เห็นทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง
ธีร์ไม่ได้ดูเหมือนคนที่เพิ่งถูกความโกรธแค้นเข้าครอบงำเมื่อคืน และไม่ได้ดูเหมือนคนที่เพิ่งหยุดยั้งตัวเองจากการรุกล้ำผู้หญิงที่อยู่ข้างเตียงเมื่อเช้า
ธีร์กลับมาอารมณ์ดีเหมือนเป็นคนละคน ธีร์นั่งเล่นเกมส์ บนโซฟาตัวยาวขนาดใหญ่ตรงกลางห้องอย่างสบายอารมณ์ มีเสียงเกมดังแว่วมาเบา ๆ โดยที่มีเจ้าฟินิกซ์นอนอยู่บนตัก ของเขาอย่างเชื่องช้า เขาดูผ่อนคลายอย่างถึงที่สุด ราวกับเหตุการณ์เมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้นจริง
เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสบาย ๆ และกางเกงขาสั้น สวมหูฟังไว้ข้างหนึ่ง ท่าทางสบาย ๆ กับเจ้าเหมียวบนตัก ทำให้ปลายฟ้าแทบไม่เชื่อสายตา นี่คือคนเดียวกับที่ร้องขอที่พักพิงเมื่อคืนจริงหรือ?
ธีร์รับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอ เขายิ้มเล็กน้อยโดยไม่ละสายตาจากจอเกม
ออกมาได้แล้วปลายฟ้า ไม่ต้องหลบขนาดนั้น” ธีร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย ปลายฟ้าสูดหายใจลึก พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อเผชิญหน้ากับความจริง
นี่คือการสานต่อฉากที่ธีร์พยายามจะควบคุมตัวเองและรักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้ปลายฟ้ารู้สึกอึดอัดครับ:
ปลายฟ้าเปิดประตูออกมาเต็มตัวแล้วเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นอย่างเก้ ๆ กัง ๆ สายตาของเธอจับจ้องไปที่เจ้าปริ้นเซสที่นอนอยู่บนตักธีร์มากกว่าจะมองใบหน้าของเจ้านาย
“คุณธีร์” เธอเรียกเขาเสียงเบา
ธีร์กดหยุดเกมและถอดหูฟังออกข้างหนึ่ง เขายิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก แต่พยายามควบคุมรอยยิ้มไม่ให้กว้างเกินไปนัก
ธีร์อยากจะหยอกปลายฟ้าใจแทบขาด เขามีคำพูดมากมายอยู่ในหัวที่พร้อมจะแซวเธอเรื่องการวิ่งหนีกลับห้องเมื่อเช้า หรือเรื่องที่เธอยอมมานอนในอ้อมแขนเขาเมื่อคืน
‘หนีทำไมครับ เมื่อเช้ายังกอดกันอยู่เลย’ หรือ ‘ริมฝีปากยังบวมอยู่เลยนะครับ’
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็กลัวเธอจะเขินอายจนเกินเหตุ ธีร์รู้ว่าปลายฟ้าไม่ได้มีภูมิคุ้มกันต่อสถานการณ์แบบนี้เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ และเขาไม่อยากให้ความรู้สึกอึดอัดมาทำลายความสัมพันธ์ที่เปราะบางนี้
เขาจึงเลือกที่จะใช้คำพูดที่ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อดึงสถานการณ์กลับสู่ความเป็นจริง
“ว่าไงครับ คุณปลายฟ้า” ธีร์ใช้คำเรียกตำแหน่งของเธออย่างเน้นย้ำ “พร้อมเริ่มงานแล้วหรือยัง?”
ปลายฟ้าพยักหน้าอย่างโล่งอกที่ธีร์ไม่พูดถึงเรื่องเมื่อเช้า แต่ก็ยังมีความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ที่เขาเลือกที่จะมองข้ามมันไปอย่างง่ายดาย
“พร้อมค่ะ แต่ คุณธีร์โอเคแล้วใช่ไหมคะ” เธอถามด้วยความห่วงใยอย่างแท้จริง “เรื่องเมื่อคืน”
ธีร์ยิ้มตอบอย่างมั่นใจ โดยที่มือข้างหนึ่งยังคงลูบเจ้าฟินิกซ์เบา ๆ
“โอเคแล้วครับ ขอบคุณนะครับที่อยู่เป็นเพื่อน”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทันที
“ไปจัดการตัวเองให้พร้อม แล้วเตรียมตัวประชุมสายกับคุณทอมมี่ เรื่องดีลโรงแรมที่เชียงใหม่นะครับ”
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในยามวิกาลผ่านไปได้หลายวัน ทั้งธีร์และปลายฟ้าต่างพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดในเพนเฮ้าส์ ความตึงเครียดถูกแทนที่ด้วยความเงียบที่เข้าใจกันเรื่องในคืนนั้นทั้งสองไม่มีใครพูดอะไร ธีร์กลับไปหมกมุ่นกับเกม งาน แต่ต่างตรงที่เขาไม่ไปเที่ยวกลางคืนเลย ส่วนปลายฟ้าก็กลับไปดูแลทุกอย่างในชีวิตประจำวันของเจ้านายอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ปลายฟ้า ตัดสินใจใช้เวลาว่างใน ห้องครัว ที่กว้างขวางเพื่อทำอาหารเช้าแบบง่าย ๆ
กลิ่นหอมของไข่ดาวและขนมปังปิ้งลอยอบอวลไปทั่วครัว ร่างบาง ในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ กำลังหั่นมะเขือเทศอย่างตั้งใจ ที่พื้นกระเบื้องเย็น ๆ ใกล้กับเคาน์เตอร์ครัวนั้น ภาพที่น่ารักและอบอุ่นก็ปรากฏขึ้น
เจ้าฟินิกซ์ ที่ปกติจะหยิ่งทะนงและชอบทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน กำลังนอนแผ่หลาอย่างเกียจคร้าน ส่วน เจ้าปริ้นเซสขนสีขาวปุยราวเจ้าหญิงพามาอยู่ใหม่ ก็ยึดพื้นที่ด้านข้างของฟินิกและนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายใจ
ตอนนี้เจ้าฟินิกซ์มันยอมรับเจ้าหญิงน้อยโดยสิ้นเชิง จากเดิมที่เคยส่งเสียงขู่ใส่กันในสัปดาห์แรก ตอนนี้พวกมันกลับนอนเบียดกันอย่างสนิทสนม
ปลายฟ้าเห็นว่ามันน่ารัก จนอดไม่ได้ที่จะหยุดมือจากการทำอาหาร เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เลยถ่ายรูปพวกมัน ไว้หลายช็อต ทั้งมุมที่ฟินิกซ์เอาหางพาดตัวปริ้นเซส และมุมที่ปริ้นเซสเอาหัวซบเข้าที่ไหล่ของฟินิกซ์ รอยยิ้มที่บริสุทธิ์ผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน
“น่ารักจริง ๆ เลยนะพวกแก” ปลายฟ้ากระซิบเบา ๆ
ในขณะที่เธอกำลังเก็บโทรศัพท์ ธีร์ ที่เพิ่งเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับผ้าขนหนูพาดคอ ก็เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม
“ถ่ายรูปใครครับ? แอบถ่ายผมเหรอ?” เสียงทุ้มนุ่มของธีร์ดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ปลายฟ้าสะดุ้งเล็กน้อย
ธีร์ยื่นหน้ามาดูรูปเจ้าแมวทั้งสองในมือถือของปลายฟ้า ร่างสูงโน้มตัวลงมาใกล้จนปลายฟ้าสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดที่อันตราย ปลายฟ้ารับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อน ๆ และกลิ่นสดชื่นของคนพึ่งอาบน้ำ กลิ่นหอมสะอาดของสบู่และกลิ่นกายอ่อน ๆ ของธีร์ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง
“โอ้โห ดูสิ เจ้าหญิงน้อยยอมพี่ฟินิกซ์แล้ว” ธีร์พึมพำขณะมองรูป
ด้วยความเขินอายที่ถูกรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้าหันกลับไปกะทันหัน โดยไม่ทันได้ระวังตัว จมูกเล็ก ๆ ชนเข้ากับแก้มของชายหนุ่ม พอดีเป๊ะ! มันเหมือนเธอพึ่งจะหอมแก้มใบหน้าหล่อเหลา ของเขาไปเต็ม ๆ!
ใบหน้าของปลายฟ้าแดงก่ำในทันที เธอรีบผละออก แต่พื้นที่ในครัวมีจำกัด เธอจึงตัดสินใจ ใช้มือทั้งสองดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง ธีร์ไม่ได้ขยับ แต่กลับหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เขาเห็นปฏิกิริยาที่น่ารักของเธอทั้งหมด
“อะไรครับเนี่ย? แอบจับตัวผมเหรอครับ คุณปลายฟ้า?” ธีร์แซวเสียงกรุ้มกริ่ม
“แบบนี้ ต้องทำโทษมั้ย?” ใบหน้าของปลายฟ้าแดงเหมือนลูกเชอรี่ เธอรู้สึกร้อนไปทั่วทั้งตัว
“คุณธีร์!” เสียงหวานบ่นในลำคอ อย่างขัดเขิน แต่ก็ไม่มีคำพูดว่ากล่าวรุนแรงออกมา เธอรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อหนีจากความน่าอายนี้
“หิวรึยังคะ? ฟ้าทำอาหารเช้าไว้ให้แล้ว... แล้วก็ทำ แกงเลียง เอาไว้ด้วยค่ะ” ปลายฟ้าพูดต่ออย่างภาคภูมิใจเล็กน้อยหลังจากที่เธอทำอาหารให้ธีร์บ่อย ๆ นอกจากอาหารคลีน ก็มีอาหารไทยนี่แหละที่คุณชายเขาชอบทาน
ธีร์ยิ้มกว้าง มองความวุ่นวายเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ความผ่อนคลายที่เธอทำให้เกิดขึ้นในชีวิตเขา ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“หิวแล้วสิครับ ถ้าเป็นฝีมือปลายฟ้า ผมทานได้หมดแหละ” ธีร์ตอบ พลางยื่นมือไปหยิกแก้มที่แดงก่ำของเธอเบา ๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างอารมณ์ดี
ปลายฟ้ารีบจัดแจงยกจานอาหารเช้าแบบอเมริกันที่มีไข่ดาวสีเหลืองสวย ขนมปังปิ้ง และเบคอนกรอบ รวมถึงแกงเลียงกุ้งสดร้อน ๆ ไปวางตรงหน้าธีร์อย่างรวดเร็ว เธอพยายามทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้เพื่อลดความเคอะเขินจากเหตุการณ์ที่แก้มชนแก้มเมื่อครู่
“ทานให้อร่อยนะคะ” ปลายฟ้าบอกเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามอย่างเว้นระยะห่าง
ธีร์ไม่รอช้า เขาตักไข่ดาวเข้าปากแล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะตักแกงเลียงส่งกลิ่นหอมหวล
“อร่อยมากครับ” ธีร์กล่าวชม “ฝีมือคุณดีขึ้นทุกวันเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ” ปลายฟ้ายิ้มรับอย่างเขิน ๆ เธอตั้งใจทำอาหารไทยให้เขาเป็นพิเศษ เพราะรู้ว่าถึงแม้ธีร์จะใช้ชีวิตแบบตะวันตก แต่เขาก็ยังคงผูกพันกับรสชาติอาหารไทยแบบดั้งเดิม
ในขณะที่ต่างคนต่างทานอาหาร ธีร์ก็ไม่ได้หยุดที่จะสังเกตคนตรงหน้า ปลายฟ้า ตักอาหารเช้าของตัวเองอย่างเงียบ ๆ แววตาของเธอยังคงมีความกังวลบางอย่างที่ซ่อนอยู่
“คืนนั้น ขอบคุณนะครับ” ธีร์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงของเขานุ่มนวลจนปลายฟ้าต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“ที่อยู่เป็นเพื่อนผม” ธีร์อธิบาย
“ไม่เป็นไรค่ะ” ปลายฟ้าตอบอย่างจริงใจ “ฉันแค่... ไม่อยากเห็นคุณธีร์ต้องรู้สึกแย่”
ธีร์หยุดทานอาหารชั่วครู่ เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
“คุณกลัวผมไหมปลายฟ้า?” ปลายฟ้าส่ายหน้าช้า ๆ
“ไม่ค่ะ... คุณธีร์ แค่ต้องการที่พักพิงเท่านั้น... และฉันรู้ว่าคุณจะไม่ทำร้ายฉัน”
คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความเชื่อใจ ทำให้รอยยิ้มที่อบอุ่นที่สุดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ เป็นรอยยิ้มที่ตรงไปตรงมา ไม่ใช่รอยยิ้มทางธุรกิจ และมันทำให้ปลายฟ้ารู้สึกว่า รอยยิ้มที่หายไป นั้น... ได้กลับมาแล้วอย่างแท้จริง
“กินต่อเถอะครับ” ธีร์ตักแกงเลียงใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้วยื่นมาให้เธอ “เดี๋ยวจะเย็นหมด”
ปลายฟ้ายิ้มรับถ้วยแกงเลียงนั้นจากมือเขา ทั้งคู่กลับไปทานอาหารต่อ
ทั้งธีร์และปลายฟ้ากำลังทานอาหารเช้ากันอย่างเงียบ ๆ ในบรรยากาศที่อบอุ่นผิดปกติ แต่ความเงียบนั้นไม่ได้ช่วยให้ปลายฟ้าสงบลงได้เลย ความจริงที่เธอซ่อนไว้มันกัดกินใจเธอมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
ปลายฟ้าวางช้อนลงช้า ๆ เธอสูดหายใจลึก และรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี
“คุณธีร์คะ มีเรื่องที่ฟ้าอยากจะบอกคุณค่ะ”
ธีร์เงยหน้าขึ้นจากจานอาหาร เขารออย่างใจเย็น สีหน้าเรียบเฉยจนปลายฟ้าอ่านไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ปลายฟ้าตัดสินใจพูดทุกอย่างออกมา “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณเทวาเรียกฟ้าไป ที่บ้านใหญ่ค่ะ”
ธีร์ไม่ได้แสดงอาการตกใจใด ๆ ดวงตาคมเข้มของเขายังคงจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง
“เขา เขาบอกให้ ฟ้าลาออก” ปลายฟ้ากล่าวเสียงแผ่วเบา
เธอรู้ว่าธีร์จะต้องรู้เรื่องนี้ เพราะทุกการเคลื่อนไหวของคนในบ้านใหญ่ล้วนถูกจับตามองโดยเขา และที่สำคัญ เธอรู้ว่าธีร์รู้ที่เธอไปหาคุณเทวา และอรัญญาในวันนั้น แต่ ธีร์ก็ไม่พูดอะไร เลยตลอดหลายวันที่ผ่านมา
“ฟ้าขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกคุณธีร์ทันที” ปลายฟ้าพยายามอธิบาย “ฟ้าขอโทษที่โกหก คุณธีร์เรื่องนี้มาตลอด”
ธีร์ยังคงนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาวางช้อนลงเช่นกัน แล้วใช้ผ้าเช็ดปากเช็ดริมฝีปากอย่างช้า ๆ ทุกการกระทำดูเยือกเย็น
“ผมรู้ครับ” ธีร์พูดเสียงเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจคาดเดาได้ “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านนั้น ผมรู้หมดแหละปลายฟ้า”
ปลายฟ้าก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เธอไม่รู้ว่าธีร์โกรธเธอที่โกหก หรือโกรธพ่อของเขาที่ทำแบบนี้
ธีร์ยื่นมือมาแตะปลายคางของเธอเบา ๆ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอีกครั้ง
“ผมไม่สนใจหรอกว่าพ่อผมจะพูดอะไร” ธีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด แต่กลับอ่อนโยนเมื่อมองมาที่เธอ
“ผมจะถามคุณแค่คำเดียว...” ดวงตาของธีร์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่สั่นไหวของปลายฟ้า ธีร์ยังคงยื่นมือมาแตะปลายคางของปลายฟ้า และจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
“ผมจะถามคุณแค่คำเดียว” ธีร์กล่าว “คุณอยากลาออกไหมครับ”
ปลายฟ้าสบตาเขานิ่ง ๆ เธอได้ทบทวนเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว และความใกล้ชิดที่เพิ่งเกิดขึ้นในยามเช้าตรู่ก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด
“ไม่ค่ะ” ปลายฟ้าบอกว่าไม่ น้ำเสียงของเธอหนักแน่นและไม่ลังเล “ฉันไม่ลาออกค่ะ ฉันยังอยากทำงานนี้อยู่”
ธีร์ยิ้มกว้าง เขายกมือออกจากคางเธอแล้วลูบศีรษะเธอเบา ๆ อย่างเอ็นดู รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าเขาเป็นรอยยิ้มที่สดใสที่สุดที่ปลายฟ้าเคยเห็น
“เสียดายจัง” ธีร์พูดติดตลก พลางถอนหายใจปลอม ๆ “ถ้าคุณลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยผม ผมจะจีบคนในตำแหน่งแฟนในอนาคตสักหน่อย”
คำพูดเล่นๆ ที่คาดไม่ถึงนี้ทำให้ ปลายฟ้าหน้าแดง จัดทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจและเขินอาย เธอก้มหน้าลงซ่อนใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองไว้
ธีร์สนุกกับปฏิกิริยาของปลายฟ้า เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วยื่นมือไปหยิกแก้มเธออีกครั้ง
ธีร์รู้ดีว่า ตั้งแต่คืนนั้น ที่เธอตื่นขึ้นมาพร้อมเขา ธีร์ก็ไม่แน่ใจความรู้สึกตัวเองเท่าไหร่ เขายอมรับว่ามันไม่ใช่แค่ความต้องการทางกาย แต่เป็นความผูกพันทางใจที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้แค่ว่าเขาชอบที่มีปลายฟ้าอยู่ใกล้ ๆ ชอบรอยยิ้ม ชอบปฏิกิริยาเขินอาย และชอบความอบอุ่นที่เธอพามาสู่โลกที่เย็นชาของเขา
ส่วน ปลายฟ้า ถึงแม้จะ ใจเต้นแรงกับประโยคของธีร์ จนแทบจะควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจไม่ได้ แต่เธอรู้ว่าเขาแกล้งเธอเล่น เขาชอบแหย่เธอเสมอ เธอจึงได้แต่ซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้ภายใต้ความเขินอาย
“ถ้าคุณธีร์จะพูดจาแบบนี้ ขอตัวไปเก็บโต๊ะก่อนนะคะ” ปลายฟ้าพูดอย่างติดอ่าง แล้วรีบลุกขึ้นเก็บจานเพื่อหาข้ออ้างหนีออกไปจากความใกล้ชิดที่อันตรายนี้
ปลายฟ้าเดินเข้าไปในครัวเพื่อหลีกหนีจากธีร์ แต่เมื่อเก็บจานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อดูข้อความที่เข้ามารัว ๆ จากกลุ่มไลน์ที่ทำงาน
ขณะกำลังเลื่อนดูข้อความปกติ เธอก็เห็นแจ้งเตือนที่ไม่คาดคิดมาจากแอปพลิเคชันสำหรับตามหาสัตว์เลี้ยงที่เคยลงประกาศตามหาเจ้าของ ปริ๊นเซส ไว้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
ข้อความที่ถูกส่งมาโดยตรงระบุชัดเจน: "ฉันคือเจ้าของของปริ๊นเซสค่ะ"
“อ้าว! มาแล้วเหรอปลายฟ้า!” นวลจันทร์ส่งเสียงทักอย่างดีใจ แต่สำหรับปลายฟ้าแล้วภาพตรงหน้าคือภาพฝันร้ายที่กลับมาเยือนโอมยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ เขาไม่ได้ดูสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูดีใจที่ได้เจอเธอปลายฟ้าเดินเข้าไปนั่งลงตรงข้ามพวกเขาด้วยสีหน้าเย็นชา“ทำไมไม่รับสายไม่ตอบข้อความพี่เขาเลย!” นวลจันทร์เริ่มต้นตำหนิเธออย่างรวดเร็ว โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไร“จนโอมเขาต้องไปหาแม่ที่บ้าน! ทำอะไรหัดโตได้แล้วนะปลายฟ้า!”คำพูดตำหนิของแม่ราวกับมีคนมาบีบคั้นสมองของปลายฟ้าให้แน่น เธอเริ่มรู้สึกหูอื้อ ภาพตรงหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย ความรู้สึกหวาดกลัวและคลื่นไส้ปั่นป่วนอยู่ในท้อง“พี่เขามาหาแกด้วยความหวังดี เขารักแกจะตาย” นวลจันทร์พูดต่อโดยไม่สนใจสีหน้าของลูกสาว“ปลายฟ้า พี่อุตส่าห์มาหาถึงที่นี่นะ” โอมเสริมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนจนน่าขยะแขยง“รู้ไหมว่าพี่คิดถึงปลายฟ้ามากแค่ไหน”ความกดดันจากแม่และโอมที่ประดังเข้ามาพร้อมกัน ทำให้ปลายฟ้าแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หัวของเธอเหมือนโดนบีบแน่น และความรู้สึกอยากอาเจียนก็แล่นขึ้นมาปลายฟ้าพยายามรวบรวมสติทั้งหมดไว้ และเปล่งเสียงออกมาเบาที่สุด เสียงที่สั่นเครือแต่
ปลายฟ้าหน้าซีดเผือด เธอเข้าใจในทันทีว่า ธีร์ ไม่ได้แค่ขอร้อง แต่กำลังใช้สถานการณ์นี้บีบบังคับเธอ เธอไม่สามารถเป็นต้นเหตุให้บริษัทต้องเสียหายได้ เธอพยักหน้าอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่จำนนต่ออำนาจและความต้องการของเขาสุดท้ายธีร์ก็กดดันให้ปลายฟ้าถ่ายแบบจนได้ ธีร์คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ แต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้แสดงความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย เขามองไปที่ช่างภาพ“โอเคครับ ทีมงาน!” ธีร์ประกาศเสียงดัง “นางแบบคนใหม่ของเราคือคุณปลายฟ้า เตรียมเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าทำผมให้เธอเดี๋ยวนี้! เราจะเริ่มถ่ายทำภายในสิบห้านาที”ธีร์ปล่อยให้ปลายฟ้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง ทิ้งให้ปลายฟ้ารับรู้ว่าเกมนี้เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะชนะเขาได้เลยหลังจากที่ปลายฟ้าได้รับการแปลงโฉมและกลับมาพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ ธีร์ ก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมถ่ายแบบคู่กับเธอในทันทีปลายฟ้าถูกพาตัวมาพักหลังจากถ่ายแบบเดี่ยวเสร็จ ก่อนจะเริ่มถ่ายคู่กับธีร์ เธอเห็นตัวเองในกระจก... ใบหน้าที่สวยสง่าและเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ แต่ดวงตาของเธอยังคงมีความไม่พอใจและกังวลอย่างชัดเจนธีร์ดูปลายฟ้าที่กำลังแต่งหน้า เขานั่งอยู่บ
ปลายฟ้าและธีร์นั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ พวกเขากำลังจัดการประชุมคัดเลือกนางแบบสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางและเสื้อผ้าไลน์ใหม่ของบริษัทชื่อว่า Zenithปลายฟ้าสวมชุดทำงานที่ดูเนี้ยบและเป็นทางการ เธอรักษาระยะห่างจากธีร์อย่างเคร่งครัด หลังจากเหตุการณ์ในคอนโด แม้ธีร์จะเข้าใจความรู้สึกของเธอแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นอีก และปลายฟ้าเองก็ยังคงอยู่ในโหมด 'มืออาชีพที่เย็นชา'เบื้องหน้าของธีร์คือโต๊ะที่เต็มไปด้วยแฟ้มประวัตินางแบบหลายสิบคน ธีร์เป็นผู้นำในการคัดเลือกทั้งหมดเพราะโจทย์คือต้องหานางแบบที่มีภาพลักษณ์แข็งแกร่งและดูดีพอที่เหมาะกับงานและคู่กับนายแบบอย่างเขาปลายฟ้าเป็นผู้เรียกชื่อนางแบบทีละคน เธอถือคลิปบอร์ดไว้แน่น พยายามไม่สบตากับธีร์“คนต่อไปค่ะ คุณลินนา มณีรัตน์” ปลายฟ้าประกาศเสียงเรียบประตูเปิดออก ลินนา ก้าวเข้ามาด้วยความมั่นใจ เธอเป็นนางแบบสาวสวยที่มีใบหน้าคมกริบ การแต่งกายและรอยยิ้มของเธอดูไร้ที่ติและมีความทะเยอทะยานสูง“สวัสดีค่ะคุณธีร์ สวัสดีค่ะทีมงาน” ลินนากล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายามดัดให้หวานกว่าปกติลินนาเริ่มแสดงท่าทางโพสตามที่ทีมงานต้องกา
ข้อความที่ถูกส่งมาโดยตรงระบุชัดเจน "ฉันคือเจ้าของของปริ๊นเซสค่ะ"ใจของปลายฟ้าหล่นวูบ ปลายฟ้ารู้สึกใจหายมากๆ ราวกับหัวใจถูกบีบอัดจนหายใจไม่ออก เธอเคยคิดว่าเรื่องนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น หรืออย่างน้อยก็คงไม่เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เพราะธีร์เองก็ผูกพันกับเจ้าแมวน้อยตัวนี้ไปแล้วปลายฟ้าอ่านข้อความซ้ำหลายครั้ง เจ้าของตัวจริงให้รายละเอียดของแมวได้อย่างถูกต้องทุกประการ รวมถึงประวัติการรักษาและเครื่องหมายพิเศษที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน การโกหกหรือการเข้าใจผิดจึงเป็นไปไม่ได้เธอเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างช้า ๆ ธีร์ยังคงนั่งทำงานอยู่บนโซฟา โดยมีปริ๊นเซสนอนหลับอย่างสบายอยู่บนตักของเขา“คุณธีร์คะ” ปลายฟ้าเอ่ยเรียกเสียงสั่นธีร์เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของปลายฟ้า เธอชูโทรศัพท์ให้เขาดูข้อความนั้น ธีร์ก้มลงอ่าน ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเป็นความตกใจและเศร้าสร้อยเช่นกัน“เขา... เขานัดเจอที่ไหนครับ” ธีร์ถามเสียงแผ่ว พลางลูบหัวปริ๊นเซสอย่างอ่อนโยน ราวกับเป็นการบอกลาล่วงหน้า“ที่สวนสาธารณะ ตรงข้ามกับคอนโดฯ ค่ะ เขาอยากเจอน้อง แล้วก็อยากจะคุยเรื่องรับน้องกลับ”ปลายฟ้ารู้ว่าถึงเวลาที่ต
ปลายฟ้าซบหน้าเข้ากับแผงอกที่เปลือยเปล่าของธีร์อย่างเต็มใจ เธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ เป็นจังหวะที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจของเธอได้เป็นอย่างดีในอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ปลายฟ้าไม่ได้รู้สึกว่าเธอกำลังนอนอยู่กับเจ้านายที่เย็นชา แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการเพียงความรักและการปลอบโยนเท่านั้นความเงียบปกคลุมทั่วห้อง ปลายฟ้าหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย ขณะที่ธีร์ก็หลับตาลงอย่างเจ็บปวด โดยหวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมา แสงสว่างจากวันใหม่จะช่วยพาเขากลับไปยังจุดที่เขาทิ้งรอยยิ้มที่หายไปไว้เบื้องหลังได้แสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านทึบเข้ามาได้เพียงน้อยนิด ทว่าเพียงพอที่จะทำให้ปลายฟ้าค่อย ๆ ลืมตาตื่นจากห้วงนิทราที่แสนเหนื่อยล้า ปลายฟ้าตื่นขึ้นมาก็สบตาเข้ากับดวงตาคมเข้ม ที่อยู่ห่างออกไปเพียงคืบดวงตาคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ อย่างเงียบงันธีร์ตื่นได้สักพักแล้วเขาไม่ได้ขยับตัว เพียงแค่นอนมองใบหน้าของคนในอ้อมแขนมาเนิ่นนาน เขามองคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนขนตาของปลายฟ้ายาวหนา เป็นแพสวยงามจมูกเล็กๆ ที่ดูดื้อรั้น รับกับปากอวบอิ่มที่เขาเคยประทับ รสชาติหวานละมุนนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำลึกๆ ขอ
“ฉันต้องขอโทษแทนคุณเทวาด้วยนะคะ” อรัญญากล่าวอย่างรู้สึกผิด “ฉันรู้สึกผิดกับธีร์ และฉันเหนื่อยมาก ๆ เลย ค่ะ”อรัญญาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า“ฉันเข้ามาเป็นเมียน้อยในตอนแรก และยอมทนอยู่เพื่อรอให้ แม่ของธีร์เสีย ไป ก่อนที่ฉันจะได้ขึ้นมาเป็นคุณนายที่ถูกต้อง”คำสารภาพของอรัญญาดังก้องอยู่ในความเงียบงันของศาลาริมน้ำ กลิ่นหอมของดอกไม้ดูเหมือนจะเจือด้วยความขมขื่น ปลายฟ้านิ่งงันไป น้ำเสียงของอรัญญาไม่แสดงความรู้สึกผิดบาป แต่เป็นความเหนื่อยล้าจนถึงที่สุด ราวกับว่าการพูดความจริงออกมาเป็นภาระหนักอึ้งที่เธอแบกมานานปลายฟ้าจ้องมองใบหน้าของอรัญญาที่เงยขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า ใบหน้าที่มีร่องรอยความงามสง่า แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ฉากหน้าของ 'คุณนาย'“คุณ คุณอรัญญา” ปลายฟ้าเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา เธอไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจหรือควรจะถามคำถามใดออกไปอรัญญาค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่ประสานกันบนตัก เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงให้มั่นคง “ใช่ค่ะ ฉันอยากจะโกหกคุณ แต่ฉันเลือกที่จะบอกความจริง เพราะฉันรู้ว่าคุณเป็นคนเดียวที่จะเข้าใจความรู้สึกของธีร์”“การเป็น 'คุณนาย' ไม่ได้สวยง







