LOGINเมื่อกองถ่ายเสร็จสิ้นในยามค่ำมืด ทีมงานก็เริ่มจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ริมชายหาดเพื่อฉลองความสำเร็จของวัน แต่ปลายฟ้าไม่ชอบบรรยากาศที่มีผู้คนพลุกพล่านและเสียงดังนัก เธอจึงปลีกตัวออกมาจากแสงสีและเดินทอดน่องไปตามชายหาดที่เงียบสงบแทน
เท้าเปลือยเปล่าสัมผัสกับผืนทรายที่อุ่นระอุจากแดดทั้งวัน เธอแหงนหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ ลมทะเลพัดเอื่อยๆ ทำให้ชุดเดรสสีขาวของเธอปลิวไหว
ในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
ตั้งแต่ได้เจอ ธีร์... ชีวิตที่เคยเรียบง่ายของเธอก็พลิกผันไปหมด ถึงแม้จะมีเรื่องอึดอัดใจและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอรู้สึกมีชีวิตชีวาและมีความสุขมากขึ้นอย่างน่าประหลาดเธอกำลังเพลิดเพลินกับการทบทวนความคิดอยู่คนเดียว จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกชื่อดังมาจากด้านหลัง ทำให้เธอ สะดุ้งตกใจ จนตัวแข็ง
“ฟ้า!”
ธีร์ เดินตามออกมาจากงานเลี้ยง ใบหน้าหล่อเหลาดูหงุดหงิดเล็กน้อย
“ออกมาเดินคนเดียวทำไมครับ รู้ไหมว่ามันมืดขนาดไหน? ยุงก็เยอะ เดี๋ยวก็โดนใครไม่หวังดีลากไปอีก หัดระวังตัวซะบ้างสิ!” เขาบ่นเป็นชุดยาวด้วยน้ำเสียงที่ทั้งหงุดหงิดและแฝงความห่วงใย
ปลายฟ้าหันไปมองเขาพลางหัวเราะเบาๆ กับท่าทางขี้บ่นที่ต่างจากลุคเพลย์บอยของเขา
“งั้นคุณธีร์ก็เดินเป็นเพื่อนสิคะ” เธอเอ่ยชวนอย่างไม่คิดมาก พลางยื่นมือไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ “ดาวที่นี้สวยมากเลย”
ธีร์ชะงักไปเล็กน้อย ไม่บ่อยหรอกนะที่จะได้เจอร่างบางตรงหน้าดูผ่อนคลายขนาดนี้ เขาปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วเดินเข้ามาคว้ามือของเธอไว้แน่นโดยไม่พูดอะไรอีก และยอมเดินไปตามชายหาดที่มืดมิดเคียงข้างเธออย่างเงียบๆ
ธีร์รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อปลายฟ้าเป็นฝ่ายชวนเดินเล่นต่อความต้องการที่ผิดไปจากภาพหญิงสาวผู้หวาดกลัวเพศตรงข้ามอย่างชัดเจน ทว่าเขาก็ไม่ขัดความต้องการนั้น ทั้งสองคนทิ้งระยะห่างเพียงเล็กน้อย เดินเรียงคู่ไปตามผืนทรายที่เย็นชื้น แสงไฟจากที่พักเริ่มเลือนหายไปจนเหลือเพียงดวงไฟเล็กๆ ที่ริบหรี่อยู่ไกลลิบ
เมื่ออุณหภูมิของอากาศยามค่ำคืนเริ่มลดต่ำลง ธีร์ตัดสินใจถอดเสื้อคลุมแขนยาวของตัวเองออก แล้ววางมันคลุมลงบนไหล่บอบบางของเธอ
ปลายฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“อากาศเย็นแล้วครับ” ธีร์อธิบายสั้น ๆ “เดี๋ยวจะไม่สบาย”
“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยเสียงเบา สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ห่อหุ้มกาย และความรู้สึกปลอดภัยที่ก่อตัวขึ้นอย่างประหลาด รวมถึงหัวใจในอกที่มันเต้นระรัวไม่หยุด
ธีร์ยื่นมือขึ้นไปอย่างแผ่วเบา สัมผัสปลายนิ้วเข้ากับปอยผมที่ลมทะเลพัดลงมาปรกหน้าผากมน แล้วค่อยๆ ทัดมันไปไว้ที่หลังใบหู ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังดวงตาสวยคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยซ่อนอยู่ลึกๆ แววตาที่เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาล
เขาชักมือกลับอย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้าตนเอง พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติขณะที่เสื้อคลุมของเขากำลังโอบอุ้มความอบอุ่นให้กับคนตัวเล็ก
ธีร์ต้องพยายามควบคุมตัวเองอย่างหนักไม่ให้เผลอทำอะไรที่เกินเลยไปมากกว่านั้น เขาไม่อยากให้เธอรู้สึกกลัวเขาเหมือนคนอื่น
“ไม่เป็นไร” เขาตอบเสียงทุ้ม
“แต่ผมสงสัยจริงๆ ปกติคุณดูค่อนข้างกลัวผู้ชายไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงยอมเดินกับผมตั้งไกลขนาดนี้”
ปลายฟ้ากอดเสื้อคลุมของเขาไว้แน่น กลิ่นน้ำหอมจางๆ และความอบอุ่นที่ติดอยู่บนผืนผ้าทำให้เธอรู้สึกกล้าที่จะพูดความจริงที่เก็บซ่อนไว้
“ตอนแรกก็กลัวค่ะกลัวมากๆ ด้วย” เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอสะท้อนแสงจันทร์ระยิบระยับ
“แต่พออยู่กับคุณธีร์แล้ว มันรู้สึกเหมือนกำแพงที่เคยกั้นตัวเองไว้กำลังอ่อนแรงลง” เธอหยุดหายใจไปชั่วครู่ มองไปยังผืนทะเลสีดำที่ทอดไกล
“หรืออาจจะเป็นเพราะคุณธีร์ดูไม่เหมือนคนอื่นมั้งคะ คุณดูปลอดภัย”
คำสั้น ๆ ว่า 'คุณดูปลอดภัย' แทบจะทำให้ธีร์หยุดหายใจ ความรู้สึกหนักแน่นและอ่อนโยนถาโถมเข้ามาในอก
เขายกมือขึ้นท้าวเอวแล้วหันหน้าออกไปมองทะเลเพื่อซ่อนรอยยิ้มที่กำลังจะฉีกกว้าง
“ผมดีใจนะ ที่คุณรู้สึกแบบนั้น” เขาสารภาพออกมา ธีร์หันกลับมาสบตาเธออีกครั้ง แววตาของเขาไม่มีความฉาบฉวย มีเพียงความจริงจังและอ่อนโยนที่เธอสัมผัสได้
“ปลายฟ้า... ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะบอกว่าอะไรทำให้คุณกลัวผู้ชายก็ไม่เป็นไร” เขาเว้นจังหวะหายใจ
“แต่ไม่ว่าอดีตของคุณจะเป็นยังไง ผมขอสัญญาว่าผมจะไม่ทำร้ายคุณถ้าคุณเชื่อใจผม ผมจะไม่หักหลังคุณ”
น้ำตาของปลายฟ้าเอ่อคลอเบ้าอย่างควบคุมไม่ได้ คำสัญญาที่ไม่ได้ถูกร้องขอ แต่มอบให้ด้วยความตั้งใจจริง ทำให้หัวใจที่ปิดตายของเธอถูกปลอบโยนอย่างอ่อนโยนที่สุด
เธอพยักหน้าช้าๆ ทั้งสองก็ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งปล่อยให้เสียงคลื่นทะเลเข้ากล่อมบรรยากาศ ก่อนที่ธีร์จะเอ่ยชวนให้กลับที่พักเพื่อไม่ให้ดึกจนเกินไป
พวกเขาเดินกลับมาตามทางเดิมที่ปกคลุมด้วยความมืดและแสงจันทร์สลัว จนกระทั่งมาถึงบริเวณทางเดินไม้ที่ทอดยาวไปยังบังกะโลของปลายฟ้า แสงไฟสีนวลจากระเบียงส่องให้เห็นทางเล็กน้อย ธีร์หยุดยืนอยู่ตรงฐานบันได
“ถึงแล้วครับ” เขาบอก แต่เขากลับพยายามไม่มองใบหน้าของเธอตรงๆ เพราะเขาบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับปลายฟ้าทำไมถึงให้สัญญาเธอแบบนั้น
ปลายฟ้าถอดเสื้อคลุมของเขาออกอย่างบรรจง พับครึ่งส่งคืนให้ด้วยมือที่ยังรู้สึกอุ่นจากไออุ่นของเจ้าของ
“ขอบคุณคุณธีร์มากจริงๆ นะคะ” เธอเงยหน้ามองเขา แววตาที่เคยเศร้าสร้อยดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด “ทั้งเรื่องเสื้อ... และเรื่องคำสัญญาค่ะ”
“ผมเต็มใจ” ธีร์รับเสื้อคืนมาถือไว้หลวมๆ ในมือ
ปลายฟ้าส่งยิ้มบางๆ ให้ก่อนจะหมุนตัวหันหลังเตรียมก้าวขึ้นบันได แต่ราวกับโชคชะตาเล่นตลก ขาที่เมื่อยล้าจากการเดินทรายนานๆ ก็เกิดเสียจังหวะเธอสะดุดเข้ากับขอบไม้บันไดขั้นแรกจนร่างเซถลาไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
หมับ!
ธีร์พุ่งเข้าคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทันท่วงที มือข้างหนึ่งโอบรอบเอวเล็ก ส่วนอีกข้างประคองต้นแขนไว้ ร่างกายของคนทั้งสองแนบชิดกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ปลายฟ้าอยู่ในอ้อมแขนเขาแกร่ง ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเป่ารดบนเรือนผมของเธอ
ปลายฟ้าตกใจจนเบิกตากว้าง สัญชาตญาณเก่าๆ ที่ถูกฝังลึกพุ่งกลับมาทันที เธอรีบดันหน้าอกของเขาออกด้วยเรี่ยวแรงที่มี ก่อนจะถอยหลังกรูดออกห่างจากสัมผัสรวดเร็วนั้น
“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงสั่น แม้จะรู้สึกผิดที่ผลักเขาออก แต่ร่างกายมันตอบสนองไปเอง เธอก้มหน้าลงซ่อนความตื่นตระหนก พยายามแสดงให้เห็นว่าเธอโอเค และเริ่มก้าวเดินขึ้นบันไดไม้
แต่ทันทีที่น้ำหนักถ่ายลงไปยังเท้าข้างซ้าย ความเจ็บปวดแปลบก็แล่นขึ้นมาจากข้อเท้าทันที
ซี้ด... เธอสูดปากอย่างเจ็บปวด มือยึดราวบันไดไว้แน่น
ธีร์เห็นการกระทำและปฏิกิริยาของเธอทั้งหมด เขารู้ว่าเธอตกใจกับการสัมผัส แต่ความเจ็บปวดที่แสดงออกมานั้นเป็นของจริง
“เดี๋ยวก่อน” ธีร์ก้าวตามขึ้นมาหนึ่งขั้น “คุณเจ็บข้อเท้าใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอปฏิเสธอย่างดื้อรั้น พยายามจะก้าวขึ้นอีกขั้น แต่ข้อเท้าส่งเสียงประท้วงอย่างรุนแรงจนเธอแทบยืนไม่ไหว
ธีร์ไม่รอให้เธอปฏิเสธอีก เขาเห็นแล้วว่าเธอไม่สามารถเดินเองได้ เขาตัดสินใจก้าวเข้าประชิดตัวเธอทันที ก่อนจะช้อนร่างบอบบางของเธอขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าสาวอย่างรวดเร็วและมั่นคง
ในวินาทีแรกที่ร่างกายถูกยกขึ้นปลายฟ้าขืนตัวอย่างแรงความเกร็งและความหวาดระแวงกลับมาอีกครั้ง แต่พอสบเข้ากับดวงตาของธีร์ที่เปี่ยมไปด้วยความห่วงใย มันไม่มีแววลามกหรือฉวยโอกาสใดๆ เลยสักนิด คำสัญญาที่เพิ่งเอ่ยไปดังก้องอยู่ในใจของเธอ
ปลายฟ้าค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกายที่เกร็งแข็งลงอย่างช้าๆ เธอปล่อยให้ศีรษะซบลงบนไหล่อุ่นๆ ของเขา
ธีร์เดินอุ้มเธอเข้าไปในบังกะโลอย่างระมัดระวัง
ธีร์เดินอุ้มปลายฟ้าเข้ามาภายในบังกะโลอย่างระมัดระวัง เขาใช้เท้าดันประตูให้ปิดสนิท ก่อนจะเดินตรงไปที่เตียงนอน แล้วค่อยๆ วางร่างบอบบางของเธอลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวลที่สุด
“คุณธีร์” ปลายฟ้าเอ่ยเรียกด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งอาย ทั้งรู้สึกผิดที่ผลักเขาเมื่อครู่ และรู้สึกถึงความห่วงใยที่เขาแสดงออกมา
ธีร์ไม่ตอบเพียงแค่คุกเข่าลงข้างเตียง แล้วก้มลงจับข้อเท้าเล็กๆ ของเธอเบาๆ อย่างไม่รังเกียจที่จะสัมผัสร่างกายเธอแม้แต่น้อย
ข้อเท้าของเธอเริ่มมีรอยแดงเรื่อและบวมขึ้นเพียงเล็กน้อย เขามองดูข้อเท้าของเธอ
“คงแค่ข้อเท้าพลิกนิดหน่อยครับต้องประคบเย็นก่อน” เขาพูดเสียงนุ่ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปยังตู้เย็นเล็กๆ ภายในห้องครัวขนาดกะทัดรัด แล้วหยิบถุงน้ำแข็งออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็ก
ปลายฟ้ามองตามหลังเขาด้วยความรู้สึกทำตัวไม่ถูก เธอเคยชินกับการอยู่คนเดียว และการที่ผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาดูแลใกล้ชิดขนาดนี้เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของเธอไปมาก
เมื่อธีร์เดินกลับมา เขานำผ้าขนหนูห่อถุงน้ำแข็งไว้ ก่อนจะค่อยๆ วางลงบนข้อเท้าที่บวมของปลายฟ้า ปลายฟ้าตกใจเล็กน้อยเธอพยายามดึงข้อเท้าตัวเองกลับ อย่างอัตโนมัติ เพราะไม่อยากให้เขาต้องมาวุ่นวายกับเธอมากไปกว่านี้
“อยู่นิ่งๆ” ธีร์ ดุเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่เจือความอ่อนโยน “ถ้าปล่อยไว้เดี๋ยวจะบวมมากกว่านี้ ประคบไว้สักพัก”
มือใหญ่ของเขากดข้อเท้าเธอลงเบาๆ เพื่อให้ถุงน้ำแข็งแนบสนิท ปลายฟ้าเลยจำต้องปล่อยให้เขาจัดการ เธอรู้สึกอายจนไม่กล้าสบตาเขา
เวลาผ่านไปราวห้านาทีธีร์ยกถุงน้ำแข็งออกแล้วนวดเบาๆ ที่ข้อเท้าเธออย่างเชี่ยวชาญเพื่อดูการตอบสนอง ก่อนจะวางมือลงข้างตัว
“น่าจะดีขึ้นแล้วครับ” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจในผลงานของตัวเอง จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาปลายฟ้า แล้วเปลี่ยนน้ำเสียงให้ดูขี้เล่นเล็กน้อย
“ที่ช่วยดูแลให้ขนาดนี้ ขอรางวัลหน่อยได้ไหมครับ”
ธีร์เอียงศีรษะเล็กน้อย ทำท่าทางน่ารักเกินกว่าที่บุคลิกของเขาควรจะเป็น
“ขอเป็นหอมแก้มนิดๆ ก็พอครับ” เขาแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“ว้าย!”
ปลายฟ้าตกใจจนเบิกตากว้าง ความคิดที่ว่าเขาจะฉวยโอกาสพุ่งเข้ามาในหัวทันทีด้วยความเคยชิน เธอรีบยกมือขึ้นปัดป้องอย่างรวดเร็วและไม่ทันคิด
ฝ่ามือของเธอเลยตีเข้าที่แก้มซ้ายของธีร์ไปเต็มๆ เสียงดัง ‘เพี๊ยะ!’
ธีร์ถึงกับผงะเล็กน้อยจากแรงตี แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าตื่นตระหนกและตกใจสุดขีดของปลายฟ้า เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขา
แทนที่จะโกรธ ธีร์กลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเขายกมือขึ้นกุมแก้มข้างที่โดนตี แล้วหัวเราะจนตัวโยน
“โอ๊ย! มือหนักเกินไปแล้วนะ” เขาแกล้งทำเสียงโอเวอร์ แต่รอยยิ้มของเขามันเบิกกว้าง ธีร์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขามองปลายฟ้าด้วยรอยยิ้มอบอุ่นสุดท้าย
“คืนนี้พักผ่อนนะครับ อย่าเพิ่งเดินเยอะ”
เขาเดินออกไปจากห้อง พลางโบกมือให้เธอเบาๆ ก่อนจะปิดประตูลง ทิ้งให้ปลายฟ้ายังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งโล่งใจที่เขาไม่โกรธ ทั้งอายที่มือไวกว่าความคิด และรู้สึกผิดที่ตีเขาไปเต็มแรง
แต่นอกจากนั้นคือความรู้อบอุ่นในใจของเธอ
“อ้าว! มาแล้วเหรอปลายฟ้า!” นวลจันทร์ส่งเสียงทักอย่างดีใจ แต่สำหรับปลายฟ้าแล้วภาพตรงหน้าคือภาพฝันร้ายที่กลับมาเยือนโอมยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ เขาไม่ได้ดูสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูดีใจที่ได้เจอเธอปลายฟ้าเดินเข้าไปนั่งลงตรงข้ามพวกเขาด้วยสีหน้าเย็นชา“ทำไมไม่รับสายไม่ตอบข้อความพี่เขาเลย!” นวลจันทร์เริ่มต้นตำหนิเธออย่างรวดเร็ว โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไร“จนโอมเขาต้องไปหาแม่ที่บ้าน! ทำอะไรหัดโตได้แล้วนะปลายฟ้า!”คำพูดตำหนิของแม่ราวกับมีคนมาบีบคั้นสมองของปลายฟ้าให้แน่น เธอเริ่มรู้สึกหูอื้อ ภาพตรงหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย ความรู้สึกหวาดกลัวและคลื่นไส้ปั่นป่วนอยู่ในท้อง“พี่เขามาหาแกด้วยความหวังดี เขารักแกจะตาย” นวลจันทร์พูดต่อโดยไม่สนใจสีหน้าของลูกสาว“ปลายฟ้า พี่อุตส่าห์มาหาถึงที่นี่นะ” โอมเสริมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนจนน่าขยะแขยง“รู้ไหมว่าพี่คิดถึงปลายฟ้ามากแค่ไหน”ความกดดันจากแม่และโอมที่ประดังเข้ามาพร้อมกัน ทำให้ปลายฟ้าแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หัวของเธอเหมือนโดนบีบแน่น และความรู้สึกอยากอาเจียนก็แล่นขึ้นมาปลายฟ้าพยายามรวบรวมสติทั้งหมดไว้ และเปล่งเสียงออกมาเบาที่สุด เสียงที่สั่นเครือแต่
ปลายฟ้าหน้าซีดเผือด เธอเข้าใจในทันทีว่า ธีร์ ไม่ได้แค่ขอร้อง แต่กำลังใช้สถานการณ์นี้บีบบังคับเธอ เธอไม่สามารถเป็นต้นเหตุให้บริษัทต้องเสียหายได้ เธอพยักหน้าอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่จำนนต่ออำนาจและความต้องการของเขาสุดท้ายธีร์ก็กดดันให้ปลายฟ้าถ่ายแบบจนได้ ธีร์คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ แต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้แสดงความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย เขามองไปที่ช่างภาพ“โอเคครับ ทีมงาน!” ธีร์ประกาศเสียงดัง “นางแบบคนใหม่ของเราคือคุณปลายฟ้า เตรียมเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าทำผมให้เธอเดี๋ยวนี้! เราจะเริ่มถ่ายทำภายในสิบห้านาที”ธีร์ปล่อยให้ปลายฟ้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง ทิ้งให้ปลายฟ้ารับรู้ว่าเกมนี้เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะชนะเขาได้เลยหลังจากที่ปลายฟ้าได้รับการแปลงโฉมและกลับมาพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ ธีร์ ก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมถ่ายแบบคู่กับเธอในทันทีปลายฟ้าถูกพาตัวมาพักหลังจากถ่ายแบบเดี่ยวเสร็จ ก่อนจะเริ่มถ่ายคู่กับธีร์ เธอเห็นตัวเองในกระจก... ใบหน้าที่สวยสง่าและเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ แต่ดวงตาของเธอยังคงมีความไม่พอใจและกังวลอย่างชัดเจนธีร์ดูปลายฟ้าที่กำลังแต่งหน้า เขานั่งอยู่บ
ปลายฟ้าและธีร์นั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ พวกเขากำลังจัดการประชุมคัดเลือกนางแบบสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางและเสื้อผ้าไลน์ใหม่ของบริษัทชื่อว่า Zenithปลายฟ้าสวมชุดทำงานที่ดูเนี้ยบและเป็นทางการ เธอรักษาระยะห่างจากธีร์อย่างเคร่งครัด หลังจากเหตุการณ์ในคอนโด แม้ธีร์จะเข้าใจความรู้สึกของเธอแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นอีก และปลายฟ้าเองก็ยังคงอยู่ในโหมด 'มืออาชีพที่เย็นชา'เบื้องหน้าของธีร์คือโต๊ะที่เต็มไปด้วยแฟ้มประวัตินางแบบหลายสิบคน ธีร์เป็นผู้นำในการคัดเลือกทั้งหมดเพราะโจทย์คือต้องหานางแบบที่มีภาพลักษณ์แข็งแกร่งและดูดีพอที่เหมาะกับงานและคู่กับนายแบบอย่างเขาปลายฟ้าเป็นผู้เรียกชื่อนางแบบทีละคน เธอถือคลิปบอร์ดไว้แน่น พยายามไม่สบตากับธีร์“คนต่อไปค่ะ คุณลินนา มณีรัตน์” ปลายฟ้าประกาศเสียงเรียบประตูเปิดออก ลินนา ก้าวเข้ามาด้วยความมั่นใจ เธอเป็นนางแบบสาวสวยที่มีใบหน้าคมกริบ การแต่งกายและรอยยิ้มของเธอดูไร้ที่ติและมีความทะเยอทะยานสูง“สวัสดีค่ะคุณธีร์ สวัสดีค่ะทีมงาน” ลินนากล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายามดัดให้หวานกว่าปกติลินนาเริ่มแสดงท่าทางโพสตามที่ทีมงานต้องกา
ข้อความที่ถูกส่งมาโดยตรงระบุชัดเจน "ฉันคือเจ้าของของปริ๊นเซสค่ะ"ใจของปลายฟ้าหล่นวูบ ปลายฟ้ารู้สึกใจหายมากๆ ราวกับหัวใจถูกบีบอัดจนหายใจไม่ออก เธอเคยคิดว่าเรื่องนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น หรืออย่างน้อยก็คงไม่เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เพราะธีร์เองก็ผูกพันกับเจ้าแมวน้อยตัวนี้ไปแล้วปลายฟ้าอ่านข้อความซ้ำหลายครั้ง เจ้าของตัวจริงให้รายละเอียดของแมวได้อย่างถูกต้องทุกประการ รวมถึงประวัติการรักษาและเครื่องหมายพิเศษที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน การโกหกหรือการเข้าใจผิดจึงเป็นไปไม่ได้เธอเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างช้า ๆ ธีร์ยังคงนั่งทำงานอยู่บนโซฟา โดยมีปริ๊นเซสนอนหลับอย่างสบายอยู่บนตักของเขา“คุณธีร์คะ” ปลายฟ้าเอ่ยเรียกเสียงสั่นธีร์เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของปลายฟ้า เธอชูโทรศัพท์ให้เขาดูข้อความนั้น ธีร์ก้มลงอ่าน ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเป็นความตกใจและเศร้าสร้อยเช่นกัน“เขา... เขานัดเจอที่ไหนครับ” ธีร์ถามเสียงแผ่ว พลางลูบหัวปริ๊นเซสอย่างอ่อนโยน ราวกับเป็นการบอกลาล่วงหน้า“ที่สวนสาธารณะ ตรงข้ามกับคอนโดฯ ค่ะ เขาอยากเจอน้อง แล้วก็อยากจะคุยเรื่องรับน้องกลับ”ปลายฟ้ารู้ว่าถึงเวลาที่ต
ปลายฟ้าซบหน้าเข้ากับแผงอกที่เปลือยเปล่าของธีร์อย่างเต็มใจ เธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ เป็นจังหวะที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจของเธอได้เป็นอย่างดีในอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ปลายฟ้าไม่ได้รู้สึกว่าเธอกำลังนอนอยู่กับเจ้านายที่เย็นชา แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการเพียงความรักและการปลอบโยนเท่านั้นความเงียบปกคลุมทั่วห้อง ปลายฟ้าหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย ขณะที่ธีร์ก็หลับตาลงอย่างเจ็บปวด โดยหวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมา แสงสว่างจากวันใหม่จะช่วยพาเขากลับไปยังจุดที่เขาทิ้งรอยยิ้มที่หายไปไว้เบื้องหลังได้แสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านทึบเข้ามาได้เพียงน้อยนิด ทว่าเพียงพอที่จะทำให้ปลายฟ้าค่อย ๆ ลืมตาตื่นจากห้วงนิทราที่แสนเหนื่อยล้า ปลายฟ้าตื่นขึ้นมาก็สบตาเข้ากับดวงตาคมเข้ม ที่อยู่ห่างออกไปเพียงคืบดวงตาคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ อย่างเงียบงันธีร์ตื่นได้สักพักแล้วเขาไม่ได้ขยับตัว เพียงแค่นอนมองใบหน้าของคนในอ้อมแขนมาเนิ่นนาน เขามองคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนขนตาของปลายฟ้ายาวหนา เป็นแพสวยงามจมูกเล็กๆ ที่ดูดื้อรั้น รับกับปากอวบอิ่มที่เขาเคยประทับ รสชาติหวานละมุนนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำลึกๆ ขอ
“ฉันต้องขอโทษแทนคุณเทวาด้วยนะคะ” อรัญญากล่าวอย่างรู้สึกผิด “ฉันรู้สึกผิดกับธีร์ และฉันเหนื่อยมาก ๆ เลย ค่ะ”อรัญญาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า“ฉันเข้ามาเป็นเมียน้อยในตอนแรก และยอมทนอยู่เพื่อรอให้ แม่ของธีร์เสีย ไป ก่อนที่ฉันจะได้ขึ้นมาเป็นคุณนายที่ถูกต้อง”คำสารภาพของอรัญญาดังก้องอยู่ในความเงียบงันของศาลาริมน้ำ กลิ่นหอมของดอกไม้ดูเหมือนจะเจือด้วยความขมขื่น ปลายฟ้านิ่งงันไป น้ำเสียงของอรัญญาไม่แสดงความรู้สึกผิดบาป แต่เป็นความเหนื่อยล้าจนถึงที่สุด ราวกับว่าการพูดความจริงออกมาเป็นภาระหนักอึ้งที่เธอแบกมานานปลายฟ้าจ้องมองใบหน้าของอรัญญาที่เงยขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า ใบหน้าที่มีร่องรอยความงามสง่า แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ฉากหน้าของ 'คุณนาย'“คุณ คุณอรัญญา” ปลายฟ้าเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา เธอไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจหรือควรจะถามคำถามใดออกไปอรัญญาค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่ประสานกันบนตัก เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงให้มั่นคง “ใช่ค่ะ ฉันอยากจะโกหกคุณ แต่ฉันเลือกที่จะบอกความจริง เพราะฉันรู้ว่าคุณเป็นคนเดียวที่จะเข้าใจความรู้สึกของธีร์”“การเป็น 'คุณนาย' ไม่ได้สวยง







