“ เลิกกันเถอะ “ ผมบอกเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผมที่กำลังยืนหันหลังให้ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของผมที่คบกันมาตั้งแต่มัธยมต้น ตอนนี้พวกเราก็กำลังจะจบชั้น ม.6 และวันนี้เป็นวันปัจฉิมนิเทศจบการศึกษา" บอกเหตุผลป่านได้ไหมมังกร " ป่านถามผมกลับด้วยเสียงสั่นเครือ ที่ผมหันหลังให้เธอเพราะกลัวจะเห็นน้ำตาของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของผม ผมกลัวว่าผมจะใจอ่อน " ทำไมผมต้องบอกเหตุผลกับคุณด้วย " ผมเรียกแทนตัวเองกับป่านอย่างเย็นชา " อึก ที่ผ่านมามังกรไม่เคยรักป่านเลยใช่ไหม " ป่านพูดพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วย" ใช่ " ผมตอบกลับไป เพราะตอนนี้ผมอยากเลิกกับเธอ อยากให้เธอไปจากผม เกลียดผมไปเลยได้ยิ่งดี ผมจะดีใจมาก" ที่ผ่านมาผมไม่เคยรักคุณ ผมเห็นคุณเป็นเพียงของเล่นเหมือนคนอื่นๆ คุณคิดว่าผมจะหยุดที่คุณคนเดียวอย่างนั้นเหรอ " ผมตอกกลับป่านไปด้วยคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเธอ" ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่เราคบกัน มังกรไม่เคยรักป่านเลย อึก ป่านรู้แล้ว " ป่านเดินหันหลังแล้วเปิดประตูห้องเรียนออกไปทันทีตอนนี้ไม่มีคนอยู่ในห้องเรียน เพราะเป็นวันปัจฉิมนิเทศจบการศึกษาของรุ่นผม ทุกคนลงไปถ่ายรูป รับดอกไม้แสดงความยินดีที่เรียนจบกันผมหัน
ผ่านไปแล้ว 1 เทอม ของ ม.1 ผมกับป่านเริ่มสนิทกันมากขึ้น ตลอดเวลาที่อยู่โรงเรียนผมเล่นแค่กับเธอคนเดียว และก็จะมีสีน้ำเพื่อนของเธออีกคนที่อยู่ด้วยตลอดเวลา..............................พักเที่ยงพวกเราทั้ง 3 คน เดินไปกินข้าวที่โรงอาหารกันตามปกติ ผมไม่ได้เปิดเผยฐานะตัวเองให้เธอรู้ เพราะผมคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร และผมก็ไม่ได้อยากจะบอกให้คนอื่นรู้ด้วยเธอก็เป็นคนที่ไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวของผมอยู่แล้ว เธอเป็นเพื่อนที่น่ารัก ทุกคนต่างพากันชอบเธอไปหมด เธอจะชอบเปียผมตลอดเวลา เปีย 2 ข้างบ้าง เปีย 1 ข้างบ้างแล้วแต่วัน.......................เลิกเรียนผมที่กำลังเก็บสมุดกระเป๋าเพื่อจะเดินไปหน้าโรงเรียนเพื่อรอคนขับรถที่บ้านมารับเหมือนเช่นทุกครั้ง และทุกครั้งเธอก็เป็นคนยืนรอรถเป็นเพื่อนผม เธอบอกว่าเธอขับมอเตอร์ไซค์มาเอง เลยยืนรอเป็นเพื่อนผมได้ทุกวันพอถึงหน้าโรงเรียนผมกับเธอก็ยืนรอรถกันตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือคำพูดของเธอวันนี้" มังกร " เธอหันหน้ามาเรียกชื่อผม" อืม " ผมตอบเธอไปแต่ไม่ได้มองหน้าเธอ ผมมัวมองรถที่ขับผ่านไปผ่านมาบนถนน เพราะรอว่าเมื่อไหร่คนขับรถจะมาสักที เพราะผมรู้สึกร้อนแดดเอามากๆ
ผมที่คบกับเธอมาตลอด 5 ปี เรารู้จักกันตั้งแต่ผมก้าวเท้าเข้ามาที่โรงเรียนครั้งแรก และเราก็ควรจะเลิกกันตอนนี้ ตอนที่เราทั้ง 2 คนก้าวเท้าออกจากโรงเรียนนี้เหมือนกันความตั้งใจแรกของผมที่ตกลงคบกับเธอก็คือเรื่องนี้ ความสัมพันธ์ที่ผ่านมามันไม่ได้เรียกว่าความรักแบบหนุ่มสาวหรอก มันเป็นความรักแบบมิตรภาพ แบบเพื่อนก็เท่านั้น มันจะเรียกว่าความรักแบบหนุ่มสาวได้ยังไง บ้านช่องของกันและกันก็ไม่เคยไป โทรศัพท์ก็ไม่เคยคุย เบอร์โทรก็มีไว้โทรเวลานัดชวนกันทำรายงานก็เท่านั้น ไม่เคยกอดกันเหมือนคู่รัก มีแต่กอดคอกันเดิน ไม่เคยจูบ ถ้าถามว่าเคยจับมือไหมมันก็เคย แต่แบบนี้มันเรียกว่าความรักแบบหนุ่มสาวเหรอวะมันไม่ใช่!!ตลอดเวลาที่ผ่านมา 5 ปี ถ้าถามผมว่าผมเคยหวงเธอบ้างไหน ผมตอบได้เลยว่าบ่อยมาก จะผู้หญิงหรือผู้ชายเข้าใกล้เธอผมก็หวงและไม่พอใจทุกครั้ง ผมหวงเธอเวลามีคนเข้ามาใกล้เธอ หวงรอยยิ้มของเธอ หวงว่าเธอจะแบ่งขนมให้คนอื่นมากกว่าผม หวงว่าเธอจะสนิทคนอื่นมากกว่าผม แต่ความรู้สึกแบบนี้มันเป็นอาการหวงเพื่อน ไม่อยากให้เพื่อนไปสนิทกับคนอื่นมากกว่าตัวเองก็เท่านั้น จนทุกวันนี้ผมกับเธอไม่มีเพื่อนคนอื่นเลย ไม่สิมีแค่ผมที่ไม่ยอมเ
ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้องเรียนทันที วันนี้เป็นวันปัจฉิมนิเทศจบการศึกษาของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มันน่าจะเป็นวันที่ดีและเป็นวันที่มีความสุขสิ แต่ทำไมฉันกลับไม่มีความสุขเอาซะเลย ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะฉันโดนแฟนคนแรกบอกเลิกยังไงเล่า!!!มังกรพูดกับฉันเสมอว่าระหว่างเราสองคนมันไม่ใช่ความรักแบบคนรัก มันไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาวทั่วๆไป แต่มันเป็นความรักแบบเพื่อน แบบมิตรภาพที่มีให้กัน เขาจะชอบว่าฉันเสมอว่าฉันมันไร้เดียงสา แต่สำหรับฉันที่ผ่านมาฉันก็รู้สึกดีกับมังกรมาโดยตลอดนะ ถึงเราจะไม่ค่อยทำตัวเหมือนแฟนกันเลย แต่ความรักที่ฉันมีให้มังกรมันก็ชัดเจนดีอยู่แล้วนะว่าฉันมีแค่มังกรคนเดียว ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยเปิดเผยสถานะว่าเราเป็นแฟนกัน แต่เวลาใครมาเข้าหาฉัน มาจีบฉัน ฉันก็ไม่เคยเล่นด้วย เพราะฉันคิดว่าฉันมีแฟนอยู่แล้ว มังกรก็เช่นกัน เขาไม่คุยกับใคร ไม่เล่นกับใครนอกจากฉัน แม้แต่สีน้ำที่เป็นเพื่อนสนิทของฉันเขาก็จะแทบจะไม่คุยกับสีน้ำเลย แต่หลังจากขึ้น ม.6 มังกรเริ่มเปลี่ยนไป ตีตัวออกห่างฉันตลอด เริ่มมีเพื่อน มีสังคม ไปสังสรรค์จัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆของเขาแทบทุกวัน โดยที่ฉันขอตามไปด้วยเขาก็ไม่ให้ไป" มังกรป่านขอไปปา
ณ มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งฉันกับสีน้ำสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันและยังสอบเข้าคณะเดียวกันอีกด้วย คือ คณะบริหาร สาขาบัญชี สีน้ำบอกฉันว่าเรียนเพื่อไปช่วยงานบัญชีที่บริษัทของพ่อ ส่วนฉันที่เรียนคณะนี้ก็เพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ " เรียนจบแกต้องมาทำงานที่เดียวกับฉันนะ เราจะไม่มีวันแยกจากกัน โมเม้นแยกย้ายกันไปเติบโตไม่เอาแบบนี้นะ " คนผิวสีแทนผมสั้นที่ตอนนี้กำลังเดินเกาะแขนฉันอยู่พูดขึ้นพร้อมจ้องหน้าฉันด้วยรอยยิ้ม " ... " ฉันไม่ได้ตอบกลับอะไรได้แต่ส่งยิ้มกลับไปให้เพื่อนสาวสีน้ำ เป็นเพื่อนของฉันมาตั้งแต่มัธยมต้น เป็นเพื่อนคนที่สองของฉันรองมาจาก เอ่อ... ไม่พูดถึงมันดีกว่าค่ะ ผ่านไปตั้งหลายเดือนแล้ว ฉันตอนนี้ดูสดใสขึ้น ไม่เศร้า ไม่ดราม่า ทำไมถึงทำใจได้เร็วขนาดนั้นน่ะเหรอ ถ้าเอาจริงๆมันไม่ได้เร็วเลยนะ ถ้ายังจำกันได้ฉันเริ่มทำใจไว้ตั้งแต่ขึ้น ม.6 แรกๆ ตั้งแต่ที่เขาคนนั้นเปลี่ยนไปแล้วแหล่ะ และถ้านับรวมๆกันแล้วก็ปีกว่าๆได้ที่ฉันทำใจและตัดใจจากเขาได้ ตอนนี้ฉันมีความสุขดี สนุกกับชีวิตใหม่ๆ ตื่นเต้นกับการใช้ชีวิตมากขึ้น ดีซะอีกนะที่ตอนนี้ฉันเป็นอิสระจะคุยกับใครก็ได้ มีเพื่อนใหม่อีกกี่คนก็ได้ โดยที่ไม่
หลังจากพักเที่ยงกินข้าวกันเสร็จ ฉัน สีน้ำ โรส เลย์ และปี ก็พากันเดินเข้ามาห้องกิจกรรมของคณะบริหาร เพราะจะต้องมาทำกิจกรรมกันต่อในช่วงบ่าย" น้องๆ ทุกคนเข้าแถวกันให้เรียบร้อยนะคะ " พี่พิธีกรหญิงพูดขึ้นสั่งให้น้องๆปี 1 ที่เข้ามานั่งเข้าแถวตามแถวเดิมที่เคยนั่งเมื่อเช้า" วันนี้พี่ๆจะมาแนะนำเดือนคณะของเรา และเป็นถึงเดือนมหาลัยของคณะของเราทั้ง 2 คน ให้น้องๆรู้จัก ^^ " พี่พิธีกรหญิงพูดขึ้นพร้อมกับเริ่มมีสีหน้าแดงระรื่ินขึ้นมาทันที -///-ฮือออฮาาาาา!!!!เสียงฮือฮาของน้องๆทุกคนดังขึ้นอย่างสนใจ พอน้องๆ ปี 1 เข้าแถวกันครบเรียบร้อยแล้วพี่พิธีกรหญิงก็พูดขึ้นมาอีกรอบ" เพื่อเป็นการไม่เสียเวลามาพบกับเดือนคณะบริหารหรือเดือนมหาวิทยาลัยทั้ง 2 คนได้เลยค่า " พี่พิธีกรหญิงพูดพร้อมโปยมือไปด้านซ้าย และแล้วก็มีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาเดินออกมา 2 คน อีกคนหนึ่งผิวสีแทน คิ้วดกดำ ลุคดูเท่ห์ สมาร์ท แบดบอยแนวไทยแท้100% อีกคนหนึ่งตาตี๋ ผิวขาว ออกแนวไปทางลุคเกาหลีๆ " สวัสดีครับ ผม คิมหันต์ นะครับ เรียนอยู่ปี 2 " พี่ที่ชื่อคิมหันแนะนำตัวขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นทั่วห้องโถงใหญ่ๆทันที..........................
เมื่อเลิกกิจกรรมตอนบ่าย ฉัน สีน้ำ โรส เลย์ และปี ก็นัดกันว่าจะไปกินย่างเนยกันที่ร้านหลังมหาลัย " หิวแล้ว " เลย์รูปท้องพร้อมหันมาบอกเพื่อนๆ ทั้ง 4 คน" หิวก็ไปกินกันค่ะชะนีทั้งสี่ ไปค่ะ! Gooo " เป็นปีที่พูดบอกเพื่อนๆ พร้อมเดินสะดีดสะดิ้งนำหน้าเพื่อนๆ ไป@ย่างเนย" ดีนะรีบออกมาก่อน ไม่งั้นไม่มีที่นั่งแน่ๆ " สีน้ำพูดขึ้นก่อนจะนั่งลงเก้าอี้" สวัสดีค่ะ มาทั้งหมดกี่ท่านคะ " เสียงพนักงานหญิงคนหนึ่งถามขึ้น" หนึ่ง สอง สาม สี่ และห้า ครบ! " ปีนับเพื่อนๆ" 5 คนค่ะ " พร้อมยกมือขึ้น 5 นิ้วขึ้นบอกกับพนักงานหญิงคนนั้นด้วยรอยยิ้ม" 5 คนนะคะ เดินไปตักอาหารด้านนี้ได้เลยนะคะ " พนักงานหญิงบอกพวกฉันพร้อมหันมือไปทางห้องตักอาหารบุฟเฟ่พอพากันตักอาหารที่ตัวเองต้องการครบก็เริ่มมานั่งรวมกันที่โต๊ะจนครบทุกคน" เซลฟี่ก่อนค่ะ " สีน้ำบอกพร้อมกับยกโทรศัพท์ราคาแพงของเธอขึ้น เพื่อนๆทุกคนก็รีบหันหน้าไปหากล้องและเก๊กท่าทางใส่กล้องทันทีแซะ!!" เลิศ! " สีน้ำพูดขึ้น" ฉันยังไม่มีไอจีและเฟสบุ๊คพวกแกเลย เอามาๆ " สีน้ำบอกเพื่อนๆ ที่มาใหม่ทุกคนพอทุกคนแลกไอจีกันเสร็จ สีน้ำที่เป็นสายโชเชียลอยู่แล้วก็รีบโพสรูปภาพ เช็คอิน พร
เป็นผมเองที่เป็นคนแอดเพื่อนเธอไปในชื่อเฟสบุ๊ค Forget me not เอาจริงๆผมก็คิดถึงเธอนะ ยังอยากเป็นเพื่อนกับเธออยู่ อยากรู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง ทำอะไรอยู่ อยู่กับใคร สบายดีไหม ถ้าในประเทศไทยเฟสบุ๊คนี้จะไม่มีใครรู้ว่าเป็นผม เพราะผมพึ่งสมัครเฟสนี้ใหม่ไม่นานมานี้นี่เอง ส่วนมากก็จะเป็นคนที่อยู่มหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ ไม่ก็คนรู้จักที่ติดตามผม เพื่อนในเฟสผมมีอยู่ไม่กี่สิบคนและหนึ่งในนั้นก็คือเพื่อนของผมคือ สายป่านที่ผมตัดสินใจแอดเฟสเธอไป ผมไม่คิดด้วยซ้ำว่าเธอจะรับแอดผม เพราะสายป่านเป็นคนไม่รับแอดเพื่อนใครมั่วๆ เหมือนอย่างกับผม มหาวิทยาลัยฉันกับสีน้ำกำลังเดินเข้าไปตึกคณะบริหารก็เจอกับเพื่อนๆทั้ง 3 คนนั่งรอกันอยู่แล้ว" ไงจ๊ะชะนี 2 ตัว " ปีเอ่ยทักทายฉันกับสีน้ำก่อนใครๆ" อ๊ะ " ฉันวางถุงแซนวิชลงบนโต๊ะซึ่งมีแซนวิชอยู่ 5 อัน ฉันทำเพื่อมาแบ่งเพื่อนๆคนละชิ้น" อะไรอ่ะ " โรสพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบถุงออกมาดูว่าข้างในคืออะไร" ว้าววว แซนวิช " โรสพูดพร้อมหยิบแซนวิชออกมา 1 อัน" ฉันทำมาแบ่งทุกคนน่ะ หยิบไปคนละอันสิ " ฉันพูดจบเพื่อนๆก็รีบหยิบแซนวิชไปคนละอันทันที" อร่อยมาก สายป่านทำเองเหรอ " เลย์ที่กำลังเค
หลังจากพากันกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วสายป่านก็ไปล้างถ้วยล้างชามพอเธอเดินกลับออกมาจากนอกระเบียงก็พบว่ามังกรได้นอนหลับบนโซฟาของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายป่านเห็นดังนั้นก็เลยไม่กล้าปลุกเขา แต่ถ้าเป็นเวลาปกติเธอก็คงจะปลุกเขาและบังคับเขากลับบ้านไป แต่เพราะเธอรู้ว่ามังกรทำงานหนักและก็คงจะเหนื่อยเอามากๆ แถมมังกรยังเฉียดเวลามาช่วยแนะนำวิจัยจนเธอผ่านไปได้โดยไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย เธอจึงยอมให้เขานอนพักอยู่ห้องของเธอต่อไป สายป่านเดินไปหยิบผ้าห่มสำรองที่พับเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าและเอาไปห่มให้กับมังกร“ ป่าน อย่าทิ้งฉันไปนะ ” มังกรละเมอพูดออกมาเบาๆ แต่เธอก็พอจะฟังออก“ ขอโทษ ” มังกรพึมพำมาเบาๆ สายป่านเลยเอื้อมมือไปลูบผมคนละเมอเบาๆอย่างห่วงใยและเพื่อปลอบใจคนละเมอ มังกรจึงสงบลงและหลับสนิทตื้ดดดด ตื้ดดด ตื้ดดดดตอนนี้เป็นเวลา 6.30 น. เสียงโทรศัพท์ของมังกรดังขึ้น แต่คนที่นอนหลับสนิทไม่ยอมตื่นมารับโทรศัพท์สักที สายป่านที่รำคาญเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่ยอมหยุดเธอก็เลยลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปหยิบโทรศัพท์ของมังกรที่วางอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือของเธอขึ้นมาดู“ พ่อ ” สายป่านอ่านรายชื่อที่โชว์เบอร์ขึ้นมาจากจอโทรศัพท์
หลังจากสายป่านกับเพื่อนๆได้ยื่นวิจัยผ่านกันทุกคนแล้ว ทุกคนต่างพากันดีใจกันยกใหญ่ “ เรียนจบแล้ว ฉลอง! ” ปีพูดขึ้นมาอย่างดีใจ “ เหนื่อยกันมาทั้งเทอม เทอมสุดท้ายเอาฉันเกือบตาย ” โรสบ่น เพราะโรส เลย์ ต้องทำงานพาสไทม์ที่คาเฟ่ไปด้วยและก็เรียนไปด้วยน่ะสิ “ เก่งมากกก ” สายป่านเอ่ยชมเพื่อนๆทุกคน“ วันนี้ฉลองร้านไหนดี ” สีน้ำถาม “ อยากกินชาบูอ่าาา ” สายป่านพูดพร้อมกับลูบท้องน้อยๆของเธอ “ จัดไป!! ” ปีพูด และเพื่อนๆทุกคนก็เห็นด้วย ร้านชาบูในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งสายป่านกับเพื่อนๆมากินเลี้ยงฉลองเรียนจบกันกับเพื่อนๆอย่างมีความสุข “ แล้วทุกคนจะไปทำงานที่ไหนกัน ” สีน้ำเอ่ยถามกับเพื่อนๆ “ ยังไม่รู้เลยอ่ะ ” เลย์ตอบพร้อมกับลวกหมูนุ่มๆในหม้อ “ ตำแหน่งที่บริษัทเฮียมีเปิดรับสมัครเด็กจบใหม่เยอะเลยนะ ลองไปสมัครกันไหม รับรองไม่รับเพราะเส้นสายแน่นอน เพราะไปสมัครกับฝ่ายบุคคลเองโดยตรง ” สีน้ำเอ่ยแนะนำเพื่อนๆไป เพราะอยากอยากให้แก๊งค์เพื่อนไปทำงานที่บริษัทด้วยกัน โดยเฉพาะ...สายป่าน “ น่าสนใจ ฉันไป ” เลย์พูด“ เอาด้วย ” โรสพูด “ แล้วปีกับสายป่านล่ะ ” เลย์ถามปีกับสายป่านพร้อมกับสายตาเพื่อนทุกคนจับจ้องไป
สายป่านที่นอนตอนตี 2-3 แต่ก็ต้องรีบลุกตื่นขึ้นมาตอน ตี 5 เพื่อจะรีบอาบน้ำแต่งตัวไปยื่นงานวิจัยตั้งแต่เช้า สายป่านทุลักทุเลอยู่ในห้องคนเดียว หยิบจับชุดนักศึกษามาสวมใส่พร้อมกับรองเท้าคัชชูสีดำอย่างเรียบร้อย วันนี้เป็นวันสำคัญในการจะตัดสินใจในการจบการศึกษาของเธอ...ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูหอของเธอดังขึ้นจากด้านนอก“ เสร็จแล้วๆ ” เธอเดาว่าเป็นสีน้ำที่มาเคาะเรียกเธอ เพราะอยู่หอเดียวกัน พอเปิดประตูออกไปก็ใช่ตามที่คาดเอาไว้แต่คนที่ยืนอยู่ข้างๆก็เป็นพี่ชายของเธอด้วย...เฮียสีฝุ่น “ สวัสดีค่ะเฮีย ” สายป่านยกมือไหว้เฮียสีฝุ่น “ ไปกันค่ะ ” เฮียบอกกับน้องสาวและสายป่าน ในรถ“ ไหงเป็นเฮียไปส่งพวกเราที่มหาวิทยาลัยได้คะ เฮียไม่มีงานทำเหรอคะวันนี้ ” สายป่านที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับเอ่ยถามเฮียสีฝุ่น “ ไม่ค่ะ ตอนเช้าเฮียว่าง พอเฉียดเวลาไปส่งพวกเราได้ อีกอย่างอยากไปให้กำลังใจพวกเราด้วย ” เฮียหันหน้ามาตอบยิ้มๆ ( เฮียเป็นผู้ชายที่อบอุ่นเสมอเลย ) สายป่านคิดในใจ “ แล้ววิจัยสายป่านเป็นยังไงบ้างคะ ไม่เห็นมาปรึกษาเฮียเหมือนสีน้ำเลย ” เฮียสีฝุ่นที่มือจับพวงมาลัยรถเอ่ยถามสายป่านขึ้นมา พร้อมกับหันหน้าไ
ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง“ เอาเส้นอะไร ” ฉันที่กำลังถือกระดาษและปากกาจดเมนูอยู่ถามกับคนตรงข้ามที่ตอนนี้เขานั่งมองไปรอบๆร้านอย่างสงสัยนั่นสงสัยนี่“ เอ่อ...มันจะสะอาดใช่ไหมป่าน ” มังกรขมวดคิ้วมุ่นถามสายป่านเมื่อเขาได้มองไปรอบๆบริเวณร้านแล้วมันไม่เหมือนกับที่เขาเคยกินในร้านอาหารหรูๆเลย ถ้าเขาเคยกินแบบธรรมดามากที่สุดก็คงจะเป็นกินที่โรงอาหารของบริษัทเขาเองกับสายป่าน แต่ถ้าให้ไปกินคนเดียวโดยไม่มีสายป่านเขาก็คงจะไม่ไปหรอก “ สะอาดสิ นี่ร้านดังในต็อกๆเลยนะ ดูสิคนต่อคิวกันเยอะเลย ดีนะเรามาไว ” สายป่านบอกพร้อมกับชี้นิ้วไปให้มังกรดูผู้คนที่มาต่อคิวกันกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางนับยี่สิบคน “ เอาเส้นอะไร นี่เมนู ” สายป่านถามอีกครั้งพร้อมกับยื่นเมนูให้กับมังกร “ เอ่อ...เอาเส้น เส้นไหนอร่อย ” มังกรถามสายป่าน เพราะเขาไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวเลยสักครั้งในชีวิตนี้“ อร่อยทุกเส้น มันแล้วแต่คนชอบอ่ะ ” สายป่านบอกกับมังกรพร้อมกับที่เธอส่งยิ่มให้กับเขา สายป่านทั้งขำและก็เอ็นดูคนไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่รู้จักกันเราไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันมากมายจริงๆ ไม่เคยรู้ความเป็นอยู่ของกันและกันมาก่อนเลย“ เส้น
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะ 4 ทุ่มแล้ว และฉันก็ลืมไปเลยว่าฉันลืมแฟ้มเอกสารอีกชุดไว้ที่บริษัทของมังกร และฉันก็ต้องใช้ส่งอาจารย์พรุ่งนี้ด้วยตื้ด ตื้ด ตื้ด ฉันกดโทรไปหามังกรตั้งหลายสิบสายเขาก็ไม่รับโทรศัพท์ของฉันเลย ฉันก็เลยนั่งรถแท็กซี่มาจอดยืนอยู่หน้าบริษัทของมังกร“ คนเริ่มน้อยแล้ว ” ฉันมองไปรอบๆก็เห็นว่าพนักงานบางคนเริ่มกลับกันไปเกือบจะหมดบริษัทแล้ว ฉันเดินเข้าไปข้างในบริษัทพี่พนักงานต้อนรับคนสวยคนนั้นก็คงจะเลิกงานแล้วเหมือนกัน ฉันเลยถือวิสาสะเดินเข้าไปและกดขึ้นลิฟต์ไปชั้นที่คุ้นเคยทันที ติ้งงงง เสียงลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบก้าวขาเดินเร็วไปหยุดที่หน้าห้องของมังกรทันที เอี๊ยดดดด ฉันผลักประตูเปิดเข้าไปก็พบว่ามังกรกำลังยืนกอดกันกับผู้หญิงคนสวยคนหนึ่งที่ฉันไม่คุ้นหน้าคร่าตามาก่อนเลย แต่น่าจะเป็นผู้หญิงคนใหม่ของเขาอีกคนนั่นแหล่ะ ไม่ก็คนเก่าที่ตามไม่เลิกอีกเช่นเคย“ ขอโทษ ฉันมาไม่ได้บอก และไม่ได้ดคาะประตูด้วย ” ฉันขอโทษขอโพยมังกรกับผู้หญิงตรงหน้าทันที“ อุ้ย! ” กะหล่ำเห็นบุคคลที่สามเปิดประตูเข้ามาก็ทำเสียงแกล้งตกใจพร้อมกับแสยะยิ้มยั่วยุอย่างร้ายกาจใส่สายป่านพร้อมกับที่มังกรผลักตัวเลขาออกไปอย่างร
มังกรตั้งแต่วันที่สายป่านมาทำวิจัยที่บริษัทกับผม เธอก็ฟึดฟัดๆใส่ผมทั้งวันทั้งคืน ทำวิจัยไป ปรึกษาผมไป แต่ก็มีอารมณ์หงุดหงิดฟึดฟัดตลอดเวลา“ เป็นอะไร ? ” ผมถามเธอออกไปตรงๆ ดูอาการเธอตอนนี้สิ เหมือนคนปกติที่ไหน “ เป็นเมนส์!!! ” เธอตะคอกผมเสียงดัง ผมที่ได้ยินดังนั้นก็รีบหุบปากเลยทันที เพราะผมเคยศึกษามาบ้างแล้วว่า...ผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนจะมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย แต่ตอนนี้ผมยังไม่เห็นมุมดีๆของสายป่านเลย มีแต่มุมที่จะฆ่าผมได้ทุกเมื่อ “ มาปรึกษา แต่มาทำหน้าทำตายักษ์ใส่ ” ผมบ่นพึมพำเบาๆคนเดียว“ บ่นอะไร!! ” เธอแอบได้ยินผม ตอนเธอตะคอกผมทำเอาผมตกใจหัวใจหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มเลย น่ากลัวชิบหายผู้หญิงตอนเป็นเมนส์ตั้งแต่วันที่มาทำวิจัยผมกับสายป่่านก็ยังไม่ได้คุยหรือติดต่อกันอีกเลย ส่วนผมก็งานยุ่งเอามากๆ ผมก็เลยยังไม่ได้ติดต่อกลับไปหาเธอเช่นเดียวกัน“ เป็นยังไงบ้างนะ ” ผมพึมพำเบาๆ พร้อมกับมองกองเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้าหลายชั้น ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูจากประตูบานใหญ่ดังขึ้น“ เข้ามา ” ผมพูดพลางมือก็ทำงานไปโดยไม่ได้เงยหน้ามองแต่อย่างใด“ สวัสดีค่ะหนูชื่อ กะหล่ำ เป็นเลขาคนใหม่ของหั
" เอ่อ " มังกรได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ และในที่สุดมังกรก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมาอีกเลย ฉันก็เลยหันหน้าไปประชันกับผู้หญิงที่หาเรื่องฉันก่อนอยู่ตรงหน้าของฉันอีกครั้ง" มังกรคะ " ปิ่นเหลือบสายตาไปมองมังกรอย่างเว้าวอน แต่มังกรจะทำอะไรได้ เขาก็แค่ได้แต่ยืนมองปิ่นและส่งยิ้มไปให้ด้วยใบหน้าเจื่อนๆอยู่แบบนั้น " Sorry คงต้องช่วยตัวเองแล้วแหล่ะ " มังกรพูดขอโทษปิ่นไปพร้อมกับที่เขาเดินไปนั่งบนโซฟาและมองดูการละคนที่ผู้หญิงทะเลาะวิวาทกันในห้องทำงานของเขาอย่างไม่มีทางเลือก " ปล่อยฉันนะ!! " ปิ่นถลึงตาใส่ฉันกลับด้วยใบหน้าที่ดูแล้วนางพร้อมจะตบฉันเป็นอย่างมาก" ก็ได้จ๊ะ ^^ " ฉันส่งยิ้มยียวนกวนประสาทไปให้เธอก่อนที่จะปล่อยมือของฉันออกจากข้อมือสวยของเธอ" เธอคิดว่าเธอจะสู้ฉันได้อย่างงั้นเหรอนังงูพิษ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ปิ่นกลับก่อนนะคะมังกร " พูดจบปิ่นเธอก็เดินกระทืบเท้าทำท่าทำทางฟึดฟัดออกไปจากห้องทำงานของมังกรทันที ส่วนฉันก็ยืนปัดไม้ปัดมือทำท่าทำทางพอใจที่สามารถยั่วโมโหคนได้ สิ่งที่สีน้ำสอนมาสีน้ำเธอบอกว่าให้ฉันสู้คนบ้าง วันนี้ฉันได้ใช้มันแล้วสินะ" ดูพอใจนะ " มังกรที่นั่งไขว้ขาพร้อมกับแสยะยิ้มส่งมาให้ฉัน" ทำไม
ฉันที่ตอนนี้ถือเอกสารมากมายก่ายกอง มันไม่ใช่อะไรหรอกนะก็เป็นเอกสารวิจัยโปรเจ็คเรียนจบน่ะสิ เพราะตอนนี้ฉันก็ได้ขึ้นปี 4 ซึ่งเป็นปีการศึกษาสุดท้ายแล้ว แถมวิจัยของฉันก็โดนตีกลับมาสามสี่รอบแล้ว ฉันก็เลยต้องแบกหน้าตาและกองหนังสือมากมายมาให้มังกรช่วยดูให้ แรกๆฉันกะว่าจะบอกให้เฮียสีฝุ่นช่วยดูให้แหล่ะ แต่ฉันก็แอบเกรงใจเฮีย เพราะเฮียก็ต้องช่วยดูวิจัยของสีน้ำน้องสาวของเขาเหมือนกัน " สวัสดีค่ะ " ฉันยกมือไหว้พนักงานต้อนรับทันทีเมื่อก้าวขาเข้ามาในบริษัทยักษ์ใหญ่ของมังกร ไม่สิ! ของพ่อมังกร" สวัสดีค่ะ ไม่ทราบมาติดต่อธุระเรื่องอะไรคะ " พนักงานสาวสวยที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มของบริษัทเอ่ยถามฉันขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร" เอ่อ มาหาคุณมังกรค่ะ " ฉันบอกออกไปกับพนักงานสาวสวยคนนั้น" ไม่ทราบว่าได้นัดท่านรองไว้ไหมคะ " พนักงานสาวสวยถามออกมาด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม " ฉัน เอ่อดิฉันโทรไปหาเขาแล้วค่ะเมื่อกี้ " ฉันที่ไม่รู้จะพูดจะตอบยังไงดีก็ดูเลิ่กลั่กไปหมด " โทรไปหา " พนักงานสาวสวยขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่น่าเชื่อที่ฉันพูดเมื่อครู่" ถ้าไม่ได้นัดท่านรองเอาไว้ล่วงหน้าก็ไม่สามารถอนุญาตให้เข้าพบท่านได้นะคะ " พนักงานสาวสวยพ
หลังจากที่ฉันได้ยินคำนี้จากมังกรอีกครั้ง ฉันถึงกับต้องหยุดชะงักและก้าวขาแทบไม่ออก " ได้ไหม " มังกรพูดด้วยน้ำเสียงที่ฉันฟังแล้วยังไงฉันก็จะต้องใจอ่อน ฉันจึงค่อยๆหันหน้ากลับไปหามังกรอีกครั้ง " หมายถึงอะไร " ฉันถามคำถามนี้ย้ำออกไปถามมังกรอีกครั้งหนึ่ง มังกรไม่ได้ตอบกลับอะไรฉัน แต่เขาค่อยๆยื่นมือของเขามากุมมือของฉันเอาไว้พร้อมกับที่เขาจ้องใบหน้าของฉันอย่างไม่ละสายตา แววตาของเขาในตอนนี้มันคืออะไรกันนะ เขาขอร้องฉันอยู่อย่างนั้นเหรอ หรือฉันคิดไปเองกันนะ " ฉันชอบเธอ ไม่สิ ฉันรักเธอนะป่าน " มังกรจ้องหน้าฉันพร้อมกับบอกรักฉันอีกครั้งหลังจากวันนั้นที่เขาบอกรักฉันอยู่บนรถของเขา" นายรู้เหรอว่ารักคืออะไร " ฉันถามเขาออกไป เขารู้จักคำว่ารักอย่างนั้นเหรอ " ฉันไม่รู้จะบอกหรืออธิบายกับเธอยังไงเธอถึงจะเชื่อ แต่คำว่ารักของฉันมันคือ...เธอ คือเธอมาตลอด " มังกรพูดพร้อมกับกุมมือฉันให้แน่นมากขึ้นมากกว่าเดิม " แต่...ฉัน... " ฉันไม่รู้จะพูดยังไงกับเขาดี ฉันสับสนไปหมด " เธอไม่ต้องตอบอะไรฉันหรอก ฉันรู้ว่าเธอชอบคนอื่นไปแล้ว " มังกรพูดพลางก้มใบหน้าต่ำลง " ถึงเธอจะชอบใคร แต่ยังไงฉันก็ยังจะรักเธออยู่ดี ไม่มีวั