" เป็นบ้าอะไรของนายมังกร " ฉันลุกขึ้นยืนจ้องหน้ามังกรอย่างไม่พอใจนัก ไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าอะไรพูดพล่ามเอาคนนั้นเอาคนนี้มาพูดเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ยอมหยุด!
" เธอชอบใคร " มังกรกดเสียงลงต่ำ และยังถามฉันอีกครั้ง เพื่อจะคะยั้นคะยอให้ฉันตอบคำถามของเขาให้ได้ " นายไม่จำเป็นต้องรู้! " ฉันตะคอกเสียงใส่มังกรเสียงดัง โดยไม่กลัวแล้วว่าใครมันจะมาได้ยิน " ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ! " มังกรลุกพรวดขึ้นยืนพร้อมกับตะคอกเสียงใส่ฉันกลับเช่นกัน ตอนนี้ทั้งฉันและมังกรจ้องหน้ากันตาไม่กะพริบ พร้อมจะเปิดศึกใส่กันได้ทุกเมื่อ " เพื่อน มันไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องส่วนตัวของกันและกันหมดทุกอย่างนะมังกร นายพูดเหมือนกับนายไม่เคยเป็นเพื่อนกับฉันมาก่อน ตอนนั้นฉันกับนายก็เป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนกันมาตลอดเลยไม่ใช่หรือไง " ฉันพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้เดือดดานไปมากกว่านี้ มือของฉันกำหมัดเอาไว้แน่นด้วยความโมโห และเล็บของฉันก็จิกไปที่มืออย่างแรง แต่ตอนนี้ฉันยังไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรจากการที่ฉันเอาเล็บจิกมือตัวเองเพื่อระบายโทสะ " ที่ผ่านมา นายเคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันตลอด นายไม่เคยรู้สึกกับฉันเหมือนคนรักเลยสักนิด นั่นแหล่ะที่ผ่านมามันเป็นการกระทำของเพื่อนทั้งหมด ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน และตอนนี้นายก็ควรจะทำแบบตอนนั้นนะมังกร ส่วนเรื่องส่วนตัวของนายฉันก็ไม่ได้อยากรู้! " ฉันพูดความในใจของฉันออกไปจนหมดเปลือก ฉันอดทนมันมานานแล้วนะ อดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ " ถ้ายังอยากจะเป็นเพื่อนกันอยู่ก็หยุดถามเรื่องนี้กับฉันเถอะ...มังกร " ฉันจ้องใบหน้ามังกรด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ไม่รู้ที่จะร้องไห้ออกมาเพราะความโมโหหรือโกรธหรืออะไรกันแน่ " ป่าน " มังกรเรียกฉันเบาๆ พร้อมกับที่มังกรมีสีหน้าสลดลงทันที " ฉันหิวแล้ว " ฉันรีบพูดเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะกลัวเรื่องมันจะไปกันใหญ่ไปมากกว่านี้ " อืม ที่บริษัทมีโรงอาหาร ตอนนี้แค่ 4 โมงกว่าๆ โรงอาหารยังไม่ปิด ไปกินด้วยกันไหม " มังกรยกนาฬิกาข้อมือราคาหลักล้านของตัวเองขึ้นมาดูพร้อมบอกกับฉันไปด้วย " โอเค " ฉันพยักหน้าตอบรับมังกรพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายข้างที่ใส่หนังสือเรียนขึ้นมาทันที " กระเป๋าเอาไว้ตรงนี้แหล่ะ ถือไปก็หนัก " มังกรบอกกับฉันพร้อมแย่งกระเป๋าจากฉันเดินเอาไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของเขาทันที มังกร ผมตกใจมากกับคำพูดของสายป่านเมื่อครู่ สายป่านบอกกับผมว่าถ้าเป็นเพื่อนกันมันไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องส่วนตัวของกันและกันมากนัก แต่ผมตอนนี้กลับอยากรู้เรื่องทุกอย่างของเธอไปซะหมดเลย ผมไม่เข้าใจจริงๆอยากจะรู้ในฐานะเพื่อนบ้างไม่ได้เลยหรือไง ก็ผมเป็นห่วงเธอ เป็นห่วงในฐานะเพื่อนคนหนึ่งไง เฮ้อ! ผมพาสายป่านเดินลงมาที่โรงอาหารของบริษัท ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องมีสายตาของพนักงานจับจ้องกันมาตามปกติ เพราะปกติผมไม่เคยเดินลงมากินข้าวที่โรงอาหารร่วมกับคนอื่นแบบนี้ และผมก็ไม่ค่อยปรากฎตัวให้คนในบริษัทเห็นหน้าสักเท่าไหร่ เพราะผมจะหมกตัวแทบจะอยู่แต่ในห้องทำงานเลยด้วยซ้ำ " กินข้าวผัดไข่อีกแล้วเหรอ " ขณะที่ผมเดินกลับมานั่งบนโต๊ะอาหาร สายป่านก็ชำเรืองมองจานข้าวของผมแล้วถามขึ้นมา " อืม ก็ชอบกินไง ตั้งแต่ที่เธอทำให้กินตั้งแต่ตอนนั้นก็เริ่มชอบข้าวผัดไข่เลย " ผมตอบกลับเธอไป เพราะตอนมัธยมสายป่านเคยหัดทำอาหารครั้งแรก และเธอก็เอามันมาใส่ปิ่นโตเอามาให้ผมกินครั้งแรกเหมือนกัน เมนูนั้นก็คือ...ข้าวผัดไข่ " ฮ่าๆๆๆ อร่อยเท่าฉันทำหรือเปล่า " เธอหัวเราะออกมาจนตาหยี เธอก็ยังเป็นเธอสายป่าน ทั้งนิสัยและการกระทำ เธอก็ยังเป็นเธอไม่เคยเปลี่ยน แต่สิ่งที่ผมคิดว่าเธอเปลี่ยนไปเอามากๆ ก็คือความรู้สึกที่มีต่อผมนั่นแหล่ะ อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปหมด ตอนนั้นเธอเป็นคนที่วิ่งตามผมต้อยๆ แต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่อีกแล้ว แต่มันดันเป็นผมเองที่คอยวิ่งตามเธออยู่เรื่อย และผมก็กลัวมากๆ กลัวว่าเพื่อนอย่างสายป่านจะออกไปจากชีวิตผม ผมกลัวจะเสียเพื่อนคนนี้ไปอีกครั้ง " แล้วทำไมชอบกินเกี๊ยวกุ้ง ไปไหนก็สั่งแต่เกี๊ยวกุ้ง " ผมถามเธอกลับไปบ้าง ซึ่งตอนนี้เธอก็ยังสั่งเกี๊ยวกุ้งมากิน " อ่อ สมัยขึ้นปีหนึ่งใหม่ๆ เฮียสีฝุ่นพาฉันกับสีน้ำไปกินเกี๊ยวกุ้งบ่อยๆ กินไปกินมาก็รู้สึกอร่อย ก็เลยชอบมาตั้งแต่วันนั้นเลย ^^ " สายป่านตอบผมพร้อมกับรอยยิ้ม ผมพอจะดูออกแล้วแหล่ะว่าคนที่เธอชอบเป็นใคร พูดถึงเขาแล้วยิ้มออกมาด้วยสายตาเป็นประกายแบบนั้นน่ะ U.U! " หึ " ผมหัวเราะออกมาเบาๆในลำคออย่างไม่ชอบใจนัก! เฮียสีฝุ่นที่เธอพูดถึงมันก็ดี หล่อดี เท่ห์ดี รวยดี แถมดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่น พึ่งพาได้ ซึ่งผมเคยเจอเขาตอนที่กลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ และก็เจอกันที่สนามบินพร้อมกับสายป่านนั่นแหล่ะ และผมก็มองออกว่าไอ้เฮียสีฝุ่นนั่นก็ชอบสายป่านอยู่ไม่น้อยเลย เจอคนที่ดีๆ ผมก็ดีใจด้วย คนเป็นแค่เพื่อนแบบผมจะทำอะไรได้ล่ะ! ;) หลังจากที่พากันกินอาหารเสร็จผมกับสายป่านก็เดินกลับขึ้นมาที่ห้องทำงานของผม " ท่านรองครับ " เลขาของผมเดินเข้ามาหาผม ซึ่งผมก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน พร้อมกับเอกสารกองโตที่ผมจะต้องสะสางให้เสร็จภายในคืนนี้ " เออ ว่าไง " ผมละสายตาไปมองเลขาเล็กน้อยพร้อมกับหันกลับมาจดจ่ออยู่ที่เอกสารบนโต๊ะอีกครั้ง ส่วนสายป่านน่ะก็นั่งเล่นเกมส์ตีป้อมอยู่บนโซฟาอย่างสนุกสนานน่ะสิ " เรื่องที่ให้ไปสืบได้มาแล้วครับ " เลขาของผมพูดขึ้นมา เพราะก่อนที่จะขึ้นมาบนห้อง ผมได้ไลน์ไปบอกให้เลขาของผมสืบข้อมูลของบุคคลคนหนึ่งให้ผม " เออ มึงค่อยบอกกูแล้วกัน ออกไป! " ผมชำเรืองตามองสายป่าน พร้อมกับบอกเลขาให้ออกไปทันที ตอนนี้สายป่านไม่ได้สนใจอะไร แต่เธอดันสนใจแต่เกมส์ในมือของเธอมากกว่า 2 ชั่วโมงผ่านไป ผมที่พึ่งทำงานเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าสายป่านได้นอนหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลา 2 ทุ่มกว่าๆแล้ว เธอก็คงจะง่วงนอน ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงดิ่งเข้าไปหาเธอทันที " ป่าน ป่าน " ผมก้มหน้าลงเรียกเธอเบาๆ " ป่าน ตื่นได้แล้ว " ผมสะกิดแขนเธอ เธอก็ยังไม่ยอมตื่น นอนขี้เซาจริงๆ จังหวะนี้ผมก็เลยนั่งลงข้างๆเธอและมองสำรวจเรือนร่างและใบหน้าของเธอให้ชัดเจน ผมจะดูว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน " คิ้ว ก็เหมือนเดิม สวยได้รูปเหมือนเดิม " " ส่วนตา ก็กลมโตน่ามองเหมือนเดิม " " จมูก ก็โด่งเป็นสันเข้ากับรูปหน้า " " ริมฝีปากอมชมพู น่า...เชี่ย! " " ส่วนหุ่นก็มีไซส์ที่เพิ่มขึ้นมาอีกมาก ไม่เด็กเหมือนแต่ก่อนแล้ว " ผมพึมพำออกมาคนเดียวเบาๆ " แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปของเธอก็คือ...ความรู้สึกที่มีต่อฉันสินะ "1 ปีผ่านไปวิลล่าริมทะเลส่วนตัว พิธีแต่งงานจัดขึ้นตอนเช้าตรู่แสงแดดสีทองอ่อนๆ ละเลียดผิวทะเล ดอกไม้สีขาว – ชมพูพาสเทลประดับเต็มพื้นที่ เสียงคลื่นซัดเบาๆ เป็นเพลงกล่อมความรักที่ไม่ต้องการเครื่องดนตรีใดสายป่านสวมชุดเจ้าสาวคลุมไหล่ซีทรู ท้องนูนออกเล็กน้อยใต้ผ้าชีฟองบาง เธอเดินเข้ามาพร้อมพ่อของมังกรที่จับมือเธอมั่นราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆแขกทั้งงานยิ้มอย่างซาบซึ้ง เพราะไม่มีใครไม่รู้ว่าเธอผ่านอะไรมาก่อนจะมายืนตรงนี้“ยินดีต้อนรับเจ้าสาวของเรา…และเจ้าตัวเล็กอีกสองคนด้วยนะ” เสียงพ่อของมังกรกระซิบเบาๆ ด้วยรอยยิ้มหน้าพิธีแต่งงาน – มังกรรออยู่ในชุดสูทสีเทาอ่อนเมื่อสายป่านเดินมาถึง มังกรยื่นมือออกไปดวงตาเขาไม่ได้มองแค่ชุดเจ้าสาว แต่เหมือนมองเห็นชีวิตทั้งชีวิตในผู้หญิงตรงหน้า“มาช้าจัง…รอจนใจจะขาด” มังกรกระซิบเบาๆ ขณะจับมือเธอเอาไว้แน่น“ก็ไม่ได้หายไปก่อนงานแล้วกัน” สายป่านยิ้มขำ ขยิบตาให้นิดๆพิธีเริ่มขึ้นเสียงสงฆ์สวดเบาๆ เสียงคลื่นกล่อมโลกให้เงียบสงบ เมื่อถึงช่วงสวมแหวน มังกรสวมแหวนทองคำเกลี้ยงฝังเพชรเม็ดเล็กให้เธอก่อนจะก้มลงจูบมือเธออย่างอ่อนโยน“นี่คือคำสัญญา…ว่าต่อให้เธอมีฉัน สามี ลูกอีกสอ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปสายป่านนั่งจิบชาช้าๆ บนโซฟาหลุยส์สีขาวข้างตัวคือมังกร ส่วนตรงข้าม…คือพ่อของเขาและที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่ใช่ของธรรมดา แต่เป็น “ถาดผ้ากำมะหยี่แดง” ที่วางเครื่องประดับทองแบบไทยไว้เรียบร้อย“คะ…คะคุณพ่อ?” สายป่านหน้าเหวอเมื่อเห็นของตรงหน้า“พ่อ!” “นี่มันอะไรกันครับ?” มังกรพูดเสียงต่ำ พ่อของเขาวางถ้วยชาลง“ของรับขวัญว่าที่ลูกสะใภ้…จะช้าไปหน่อยก็เพราะจัดแบบดั้งเดิมน่ะนะ”“แต่พอเห็นเธอใส่แหวนแล้ว พ่อก็รู้ว่ายังไงเธอก็ไม่หนีไปไหน”สายป่านพูดไม่ออก มังกรก็หน้าแดงถึงใบหู“พ่อ พวกผมยังไม่ได้คุยกันเรื่อง…หมั้นหมายอะไรแบบนี้เลยครับ”“งั้นก็ถือว่าเริ่มคุยวันนี้”“จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” พ่อยิ้ม สายป่านหันมามองมังกร หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าโดนขอแต่งงานเสียอีก นี่มันคือระดับ “ครอบครัวเห็นชอบแล้ว รอแต่เธอจะตอบตกลง”“ป่าน…” มังกรจับมือเธอแน่นขึ้น “ถ้ามันเร็วไป…เราค่อย ๆ คุยกันได้นะ”สายป่านก้มหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ พูดเสียงเบา“เร็ว…แต่มันไม่ผิดหรอกนะ”“เพราะฉันไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ในเมื่อทั้งใจมันก็อยู่ที่นายหมดแล้ว”“งั้นจะหมั้นเลยไหม?” พ่อพูดขัดแบบตรงๆมังกรหัวเราะออกมาเบา ๆ“พ่อใ
นิทรรศการศิลปะริมทะเล – คืนวันถัดมาสายป่านมาถึงก่อน โดยไม่รู้ว่ามังกรก็ตามมาเงียบๆเฮียสีฝุ่นยืนรออยู่หน้าแกลเลอรี่เล็กๆ“ดีใจที่ป่านมา”“นี่เป็นงานที่ฉันวาดจากความรู้สึกที่มีต่อ…คนคนหนึ่ง” เฮียสีฝุ่นบอกพร้อมกับมองไปที่ภาพวาดสายป่านมองภาพเขียนสีน้ำมันสีฟ้าเทา หนึ่งในนั้นคือผู้หญิงผมยาวหันหลังมองทะเล“หนู…ไม่เคยรู้ว่าเฮียรักหนูขนาดนี้เลย” สายป่านพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“รู้ตอนนี้ก็สายไปใช่ไหม?” เฮียสีฝุ่นถามทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้วสายป่านพยักหน้าเบาๆ“ขอโทษนะคะ” สายป่านขอโทษเฮียสีฝุ่นอีกครั้ง“ไม่เป็นไรหรอกครับป่าน…”“อย่างน้อยเฮียก็ได้บอก…ก่อนจะเสียเธอไปจริงๆ”เสียงฝีเท้าเบาๆ เดินเข้ามาข้างหลังมังกรปรากฏตัวขึ้น พร้อมจับมือสายป่านอย่างไม่ต้องถาม“ขอบคุณที่เข้าใจนะครับเฮีย”“แต่จากนี้…สายป่านคือของผมคนเดียว”...รีสอร์ต – กลางคืนมังกรนั่งกอดอกอยู่ปลายเตียง สายป่านเดินเข้ามาโยนกระเป๋าแล้วมองหน้าเขา“อะไรอีกล่ะ?” สายป่านถามคนขี้หึง“ใครใช้ให้เธอสวยขนาดนั้นตอนเดินดูรูปเขา?” มังกรพูดหน้าบึ้งตึง“หา?!” สายป่านตกใจกับคำพูดมังกรเลย“ยิ้มให้เขาขนาดนั้น ถ้าเขาขอวาดรูปเธอเปลือย จะยอมไหม?
ริมทะเลยามค่ำ – หน้ารีสอร์ตหลังเล็กสายป่านนั่งกอดเข่าบนเสื่อผืนบางๆ ที่ปูไว้ มองทะเลสีหม่นสลับประกายจันทร์ข้างตัวเธอมีถังป็อปคอร์นกับเบียร์กระป๋องเย็นๆฝีมือเลือกของมังกรมังกรนั่งเอนหลัง มือข้างหนึ่งยันพื้น อีกข้างถือขวดน้ำอัดลมสายตาเขามองจันทร์แป๊บเดียว แล้วก็หันมองคนข้างๆต่อ“รู้ไหม…เวลามองจันทร์ ฉันไม่รู้สึกอะไร”“แต่เวลามองเธอ ฉันรู้สึกทุกอย่างเลย”สายป่านหันขวับมามอง แก้มขึ้นสีทันที“พูดอะไรอีกแล้ว…”“พูดความจริงไง” มังกรยักคิ้ว“สายป่านตอนอยู่บริษัทก็สวยนะ แต่สายป่านตอนอยู่ทะเล…แม่งน่ารักกว่าน้ำทะเลซะอีก” มังกรพูดจาหยอดสายป่านต่อ“มังกร!” สายป่านโยนป็อปคอร์นใส่หน้ามังกรแบบขำๆมังกรหัวเราะเบาๆ แล้วเอนตัวลงนอนบนเสื่อ“มานี่สิ…นอนดูดาวด้วยกัน” มังกรเอ่ยเรียกสายป่านลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เอนตัวลงข้างๆพวกเขานอนนิ่งข้างกัน ฟังเสียงคลื่นซัดทรายเรื่อยๆมังกรเงียบอยู่ครู่หนึ่ง…ก่อนที่เขาจะหันหน้ามาทางสายป่าน“ป่าน…”“ฉันไม่อยากให้คืนนี้ผ่านไปเลย” มังกรพูด“ทำไมล่ะ?” สายป่านหันหน้าไปถามยิ้มๆ แต่หัวใจดวงน้อยสั่นไหวรอฟังคำพูดจากเขาต่อ“เพราะคืนนี้เธออยู่ข้างฉันโดยไม่มีอะไรคั่นกลาง”
ดึกวันนั้น – สายป่านในห้องพักสายป่านนั่งบนพื้นพิงผนัง น้ำตาเอ่อ ข่าวลือเริ่มกระจายวงกว้าง ทั้งพนักงาน ทั้งโซเชียลภายใน เธอไม่แม้แต่กล้าเปิดโทรศัพท์เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆก่อนจะได้ยินเสียงเขา…“ป่าน…ฉันอยู่ข้างนอก” สายป่านลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู มังกรยืนอยู่ในชุดลำลอง มือถือถุงโจ๊กและน้ำอุ่น“ไม่ต้องพูดอะไรตอนนี้ก็ได้…” มังกรยิ้มอ่อน“แค่อยากให้รู้ว่า…เธอไม่ได้อยู่คนเดียว”สายป่านรับของในมือเขา น้ำตาไหลเงียบ ๆ“นาย…ยังเชื่อฉันอยู่ใช่ไหม” สายป่านถามน้ำตาคลอ“มากกว่าที่เธอเชื่อตัวเองตอนนี้ด้วยซ้ำ” มังกรตอบยิ้มๆ“ ฉันแค่แวะมาเยี่ยมฉันต้องรีบไปแล้ว อย่าคิดมากนะ ”“ ฉันเชื่อใจเธอ ฉันรู้จักนิสัยของเธอดีที่สุด ” มังกรลูบหัวสายป่านเบาๆก่อนจะหันหลังเดินออกไป ปล่อยให้สายป่านยืนย้ำพร้อมน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มเนียนของเธอ“ ขอบคุณ ”“ ขอบคุณนะมังกร ”บริษัท MKวันนี้มังกรให้สายป่านลาพักผ่อนเพราะสภาพจิตใจสายป่านแย่เอามากๆ แรกๆสายป่านไม่ยอมแต่เขาก็บังคับเธอให้พักจนได้ มังกรส่งไลน์หาสายป่าน“ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลอะไร ฉันจะจัดการเอง เชื่อใจฉันนะ ”สายป่านเปิดอ่านข้อความพร้อมกับยกยิ้มเล็กน้อยท
กลับมาที่บริษัท ปิ่นเดินเข้ามาในบริษัทพร้อมมังกร สายป่านยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานกับเอกสารปิ่นเดินตรงเข้ามาหาเธอ“สายป่าน…” ปิ่นส่งยิ้มหวานอย่างมีเลศนัย“นายมังกรบอกว่าเธอเก่ง ฉันก็เลยอยากมาดูให้เห็นกับตา”สายป่านยิ้มตอบ“ขอบคุณค่ะ ฉันก็หวังว่าจะเป็นคนที่คู่ควรกับความไว้ใจของเจ้านายเหมือนกัน”ปิ่นยิ้มค้าง ก่อนจะพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน“อย่าคิดว่าการที่เขาปกป้องเธอ…แปลว่าเธอจะชนะเกมนี้นะ”สายป่านเงยหน้ามองเธอเต็มตา“ฉันไม่ได้มาเล่นเกม…”“ฉันแค่จะไม่ยอมให้ใครมาพรากสิ่งที่หัวใจฉันเลือกแล้ว ไปอีก”วันถัดไปบริษัทMK - ห้องประชุมใหญ่วันนี้บริษัทมีประชุมใหญ่ที่มีผู้บริหารเข้าร่วมหลายคน มังกรนั่งหัวโต๊ะ สายป่านนั่งข้างๆ ทำหน้าที่เป็นเลขาบันทึกการประชุมอยู่ดี ๆ “ปิ่น” ก็ปรากฏตัวในชุดเดรสสีฟ้าอ่อนเธอเดินเข้ามาพร้อมพ่อของเธอที่เป็นที่ปรึกษาบริษัท ซึ่งไม่มีใครกล้าทักท้วงปิ่นยิ้มหวาน“ขอโทษนะคะที่มาสาย…พอดีมีเรื่องอยากเสนอเกี่ยวกับแผนการตลาดชุดใหม่ค่ะ” ปิ่นส่งไฟล์พรีเซนต์ให้เจ้าหน้าที่เปิดขึ้นจอ“และแน่นอน…เกี่ยวข้องกับฝ่ายบัญชีโดยตรงด้วย”สายป่านชะงัก เพราะเห็นชื่อเธอถูกแทรกอยู่ในสไลด์ — ใน