LOGINคิรินปล่อยให้เดย์จัดการเรื่องข้างนอกร้าน ก่อนที่เขาจะพุ่งกลับเข้ามาในร้าน ‘มินิมา’ อีกครั้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาลและร่องรอยของการต่อสู้เล็กน้อย
เขาตรงไปที่โต๊ะของเกลทันที เกลที่กำลังเต้นอยู่กับพิชชี่ ด้วยท่าทางยั่วยวน ก็ต้องชะงักเมื่อ โดนกระชากแขนอย่างแรง
เสียงหวานร้องครางออกมานิดหน่อย ด้วยความเจ็บที่ข้อมือ เธอถูกแรงกระชากจนตัวของเธอ ปลิวไปชนกับร่างสูง แผ่นอกของเธอกระแทกเข้ากับกล้ามเนื้อแข็ง ๆ ของคิรินอย่างจัง
“เป็นบ้าอะไรเนี่ย คิริน!” เกลบ่นออกมาอย่างหัวเสีย เธอพยายามจะดึงมือกลับ
คิรินไม่รอช้า เขาหันไปบอกลาเพื่อน ๆ ของเกลอย่างรีบร้อย โดยใช้ท่าทางที่สุภาพแต่เด็ดขาด
“ขอโทษนะเมษา ข้าวฟ่าง ฉันขอพาเกลกลับก่อนนะ”
ก่อนที่เมษาจะทันได้ตอบ คิรินก็ ดึงร่างบางให้เดินตามเขาไป เกลอารมณ์เสียมากแต่เพราะตัวเธอเล็กกว่ามากเลยสู้แรงไม่ไหว ต้องจำยอมเดินตามเขาออกมาจากร้านเหล้าที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
คิรินไม่พูดอะไรกับเธอ ตลอดทางที่ขับรถ รถออดี้คันหรูก็พุ่งไปสู่จุดหมายของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“จะพาเกลไปไหน เกลถามเสียงดังด้วยความหวาดระแวงและหงุดหงิด แต่คิรินก็ยังคงนิ่งเงียบ
รถมาจอดเทียบหน้าอาคารหรูสูงระฟ้าแห่งหนึ่งดูเหมือนที่ชายหนุ่มพามาจะเป็นคอนโดของเขาเอง
คิรินดับเครื่องยนต์แล้วเดินลงจากรถไปทันที จนเกลต้องเดินลงตามไปอย่างหัวเสีย
“จะลากไปไหนเนี่ย” เกลถามย้ำอีกครั้ง
คิรินหันกลับมามองเธอ ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธที่ระงับไว้ แต่คิรินไม่ตอบ เขาเพียงแค่คว้าข้อมือเธอแล้วเดินนำเข้าอาคารไปอย่างรวดเร็ว
คิรินลากเกลมาถึงชั้นสูงสุดของอาคารหรู ที่นี่คือเพนเฮ้าส์ของเขา ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก เกลก็ต้องอ้าปากค้าง
คอนโดของคิรินเป็นเหมือน เพนเฮ้าส์ มากกว่าห้องชุดทั่วไป มันเปิดโล่งและกว้างขวางจนแทบจะมองเห็นวิวเมืองได้ 360 องศา ผนังเกือบทั้งหมดเป็นกระจกใส ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้แสงไฟระยิบระยับของเมืองยามค่ำคืนเข้ามาเป็นฉากหลัง
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูเรียบง่ายแต่มีดีไซน์และราคาสูง โซฟาตัวใหญ่ทำจากหนังสีเข้มตั้งอยู่กลางห้องรับแขก มีบาร์เครื่องดื่มขนาดเล็กอยู่มุมหนึ่ง บ่งบอกว่าที่นี่ถูกออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนและปาร์ตี้ ไม่ใช่ที่ทำงานเหมือนคอนโดของเกล
คิรินปล่อยข้อมือเกลอย่างแรง ทันทีที่เข้ามาในห้อง เขากำลังหอบเล็กน้อยจากการต่อสู้และความโกรธที่ระงับไว้
“เอ้า! มีอะไรจะพูด” เกลถามย้ำอีกครั้ง เสียงของเธอเริ่มหงุดหงิด
คิรินไม่ได้ตอบ เขาเดินตรงไปที่บาร์เครื่องดื่ม รินน้ำสีอำพันลงในแก้ว แล้วกระดกมันเข้าปากอย่างรวดเร็ว มือของเขายังคงมีรอยเลือดแห้งกรัง จากการต่อยชายหนุ่มคนนั้นที่หน้าผับ
“ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย ” เกลเห็นรอยเลือดแล้วตกใจ “แต่คินก็ดูเหมาะกับฟัดกับหมาอยู่นะ”
คิรินหันมามองเกล ดวงตาของเขาอ่อนลงเพราะคำพูดจิกกัดกับเพื่อนสาว เขาเดินตรงเข้ามาหาเกล จนเธอก้าวถอยหลังไปชนกับประตูทางเข้า
“เป็นห่วงคินบ้างเหอะ” คิรินถามเสียงอ่อน
เธอไม่อยากไปกวนตีนเขาละ เห็นท่าทางเหนื่อยอ่อนของคิรินก็แอบสงสารแหละแล้วสายตาของเธอก็ละเลยรอยเลือดบนมือเขาไม่ได้
เธอเดินไปหยิบ กระเป๋าแบรนด์เนมของตัวเองออกมา ค้นหาชุดทำแผลเล็ก ๆ ที่มักพกไว้ตลอด เธอไม่ได้สนใจว่าเพนเฮ้าส์นี้จะราคาหลักร้อยล้าน หรือว่าโซฟาหนังราคาเท่ารถยนต์
เกลมาหยุดอยู่ตรงหน้าคิริน ก่อนที่จะ เอาแก้วเหล้าที่มีน้ำสีอำพันออกไปจากมือเขา
เธอจูงมือใหญ่ของคิรินอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะพาเขามาที่ โซฟาราคาหลักล้าน เกลดันให้คิรินนั่งลง ส่วนเธอนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าก่อนที่จะเริ่มทำแผลที่ข้อนิ้วและฝ่ามือให้ชายหนุ่มอย่างเงียบ ๆ
คิรินเลิกคิ้วด้วยความสงสัย มองการกระทำที่ดูอ่อนโยนผิดปกติของคนที่เพิ่งด่าเขาเมื่อห้านาทีที่แล้ว
“พกชุดทำแผลด้วยเหรอ”
เกลตอบกลับโดยที่ ไม่มองหน้าคิริน สายตาจดจ่ออยู่กับการเช็ดแผลอย่างเบามือ
“หมาแถวคอนโดมันเป็นแผลน่ะ ฉันเลยซื้อทำแผลให้มันบ่อย ๆ”
คิ้วหนาของคิรินกระตุกด้วยความหมั่นไส้คนตัวเล็ก แต่เขาก็รู้ว่าเรื่องนี้เกลไม่ได้โกหก เพราะว่า คอนโดของเธอเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ แต่เธอเป็นคนรักหมามาก เลยชอบไปเล่นกับหมาจรจัด และซื้อของไปให้บ่อย ๆ
“อ่อ งั้นก็ดี” คิรินพูดเสียงเรียบ “อย่างน้อยก็เป็นประโยชน์กับ หมาตัวใหญ่อย่างฉัน บ้าง”
เกลเงยหน้าขึ้นมองคิรินด้วยสายตาเอาเรื่อง “นายเป็นหมาที่พูดมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ”
“แล้วคินไปต่อยใครมา! ถึงมือเป็นแบบนี้!” เกลเปลี่ยนจากน้ำเสียงกวนประสาทเป็นเสียงที่จริงจังขึ้น
คิรินมองใบหน้าของเกลที่อยู่ใกล้เพียงแค่คืบ เธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เขาไม่ได้เห็นมานานจากใครอื่น
“กวนตีน” คิรินตอบสั้น ๆ
ขณะที่มือเล็กๆ กำลังพันผ้าก๊อซอย่างระมัดระวัง เกลนึกไปถึงสมัยก่อน
เมื่อก่อนคิรินเป็นคนที่แกล้งเธอบ่อยที่สุด เขาคือเด็กชายหัวโจกที่คอยล้อเธอเรื่องน้ำหนักเสมอ แต่เพราะแกล้งเธอบ่อย สุดท้ายแม่ของคิรินก็ตีเขาจนขาลาย
น้าประภา แม่ของคิรินพาเขามาขอโทษเธอถึงที่บ้าน
“ฮือ ๆ เราขอโทษ!”
เกลมองเด็กชายที่ก่อนหน้านี้ยังหัวเราะใส่เธออยู่เลย บัดนี้เขากลับร้องไห้จนหน้าแดงก่ำ แต่แล้วหลังจากนั้น ถ้าคิรินแกล้งเธอเมื่อไหร่ เธอก็จะฟ้องแม่เขาทันที มันกลายเป็นอาวุธสำคัญของเธอ
แต่บางครั้งเธอก็แกล้งใส่ร้ายเขา เพียงเพราะอยากเห็นเขายอมแพ้ จนเขาโดนตีกลับมาอีก เกลเงยหน้าขึ้นมองมือคิรินที่เธอทำแผลให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
“คินไปต่อยใครมา!” เกลไม่สนใจคำพูดกวนประสาทของเขา คิรินถอนหายใจยาว เขาสบตาเข้าสายตาคาดคั้นของคนตรงหน้า
“ช่างมันเถอะ” คิรินมองเกลด้วยสายตาที่เอาจริงเอาจัง เกลก้มหน้าลงมองมือคิรินที่เธอทำแผลให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
“เสร็จแล้ว” เกลบอกเสียงห้วน ๆ “ทำไมไม่บอกว่าไปต่อยใครมา!?” คิรินมองไปที่รอยผ้าก๊อซบนมือเขา เขายิ้มมุมปากอย่างขมขื่น เขารู้ว่าเกลกำลังนึกถึงเรื่องอะไรอยู่
คิรินถามเสียงเบา “มือเธอก็ยังเบาเหมือนตอนเด็ก ๆ เลยนะ ยัยอ้วน”
“เกลขอคำตอบ” เกลไม่สนใจคำพูดกวนประสาทของเขา เธอกดดันให้เขาพูดความจริง
คิรินถอนหายใจยาว เขาตัดสินใจแล้วว่าถึงเวลาต้องพูดความจริง
“ช่างมันเถอะ” คิรินพูดเรียบ ๆ เขาเปลี่ยนใจไม่พูด เขารู้ดีว่าถ้าพูดออกไป เกลจะต้องรับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีนั้นไปทั้งหมด และอาจจะโทษตัวเองอีก
คิรินมองเกลด้วยสายตาที่เอาจริงเอาจัง เกลไม่อยากไปคาดคั้นอะไรจากคิริน เธอรู้ว่าถ้าบทจะปากแข็ง คิรินจะไม่ยอมพูดออกมาเลย เหมือนตอนเด็ก ๆ ตอนที่เธอใส่ร้ายเขาว่าเขาแกล้งเธอ คิรินก็ค้านหัวชนฝา จนโดนตีอีก
ครั้งนั้นเลยเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอทำให้คิรินโดนตีอีก ตอนนั้นเธอรู้สึกผิดมาก เลยเป็นคนทำแผลให้คิริน ในวันถัดไป เธอก็ไปสารภาพผิดกับแม่ของเขา และเดินมาขอโทษเขา ตั้งแต่นั้นมา เธอจึงไม่เคยทำให้เขาต้องเจ็บตัวเพราะคำโกหกของเธออีกเลย
เกลลดสายตาลง เธอเก็บชุดทำแผลเข้ากระเป๋าอย่างเงียบ ๆ เธอรู้ว่าถ้าเขาบอกว่า 'ช่างมันเถอะ' เธอก็ไม่สามารถดึงคำตอบจากปากเขาได้
เกลเก็บชุดทำแผลเข้ากระเป๋าอย่างเงียบ ๆ ความทรงจำในอดีตทำให้เธอไม่สามารถคาดคั้นอะไรจากคิรินได้อีก เธอตัดสินใจที่จะปล่อยให้ความจริงปรากฏออกมาเอง คิรินมองเกลที่เก็บของเสร็จแล้ว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดู สำออย สุด ๆ
“เกล ช่วยคินหน่อยดิ”
“อะไรอีกล่ะ” เกลถามอย่างระอา
“ฉันเจ็บมืออะ” คิรินยกมือข้างที่เพิ่งทำแผลเสร็จขึ้นมา “ถอดเสื้อให้หน่อยดิ”
เกลหน้าแดง ถึงจะเคยเห็นเขาลอกคราบถอดเสื้อตอนวัดตัวแล้ว แต่ยังไงเธอก็ไม่ชินกับการถูกขอให้ถอดเสื้อให้แบบตัวต่อตัว
“เป็นง่อยรึไง!” เกลโวยวาย
“ก็มือคินเจ็บอยู่เนี่ย! ถ้าไม่ให้หมูแถวนี้ช่วยจะไปหาแถวไหนวะ เร็วๆดิ อย่าเล่นตัว นี้ได้ใกล้ชิดคนหล่อเลยนะเว้ย”
“พอๆ เบื่อคินจริงๆเลย” คิรินยิ้มเจ้าเล่ห์ เกลกัดฟันแน่น สุดจะทนกับไอความหน้าด้านหน้าทนนี้จริงๆ เธอเดินเข้าไปใกล้คิริน แล้วค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาอย่างระมัดระวัง
วินาทีที่กระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออกไป คิรินก็ แกล้งคนตัวเล็ก ด้วยการขยับตัวเพียงเล็กน้อย ทำให้เกลที่กำลังโน้มตัวลงมา ล้มลงมาบนตัก ของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ว้าย!”
จมูกโด่งของคิริน แกล้งคลอเคลียที่ซอกคอขาวอุ่นของหญิงสาว กลิ่นแอลกอฮอล์ที่คิรินดื่มเข้าไปก่อนหน้านี้ ผสมกับ กลิ่นหอมหวานของเกล มันทำเขาเมาจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ชั่ววินาทีนั้น คิรินเผลอประทับริมฝีปากลงไปที่ซอกคอขาวอุ่นของเกล
“อะ อะ ไอบ้าเอ้ย!”
เกลตกใจจนสติหลุด เธอรีบใช้มือที่ว่างอยู่ ซัดเข้าที่หน้าหล่อของคิรินเต็มแรง จนเขามึนไปชั่วขณะร่างของเขาล้มลงพิงพนักโซฟา
“ยัยบ้าเอ้ย!” คิรินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เกลตกใจสุดขีดเมื่อเห็นว่า กำเดาของคิรินไหล ออกมาจากจมูกเป็นสาย แทนที่จะทำแผลเสร็จตอนนี้เธอต้องสารวนกับการหาน้ำแข็งมาประคบจมูกเป็นสันสวยของเขา
“เกล เกลขอโทษ ก็ ก็คินแกล้งเราก่อนนี่นา!” เกลพูดอย่างตื่นตระหนก เธอรีบวิ่งไปที่ครัวทันทีเพื่อหาน้ำแข็งมาห่อผ้า
คิรินนั่งพิงโซฟา เขายิ้มอย่างอ่อนแรง มือข้างที่ไม่บาดเจ็บแตะที่จมูกที่กำลังมีเลือดไหลซึมออกมา ถึงจะโดนต่อยจนมึน แต่การจูบเมื่อครู่ก็คุ้มค่าอยู่
นี่มันน่าจับมาตีแทนคุณป้าอรุณีจริง ๆ เลย สั้นจนเห็นตูดละนั้น! ถ้าไม่ติดว่าผ้ามันพลิ้ว ๆ แล้วมีกางเกงซับในนะ...คิรินวางโทรศัพท์ลงอย่างช้า ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาเกลที่กำลังหมุนตัวอยู่หน้ากระจก“ชุดนี้สวยนะ” คิรินพูดเสียงทุ้ม เขายืนประชิดด้านหลังเกลจนเธอสัมผัสได้ถึงความร้อนจากร่างกายของเขา“แน่นอน” เกลตอบอย่างภูมิใจ คิรินโน้มตัวลงมาใกล้จนปากของเขาอยู่ข้างใบหูของเธอ แล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นจริงจังอย่างรวดเร็ว“แต่เกลมันโป๊ไป”เกลหันขวับมามองเขาอย่างกวนๆ “โป๊อะไรละ ยาวเป็นคืบ”คิรินไม่ได้ตอบเป็นคำพูด เขาละเบื่อไอนิสัยดื้อตาใสของยัยอ้วนจริงๆเขาใช้มือข้างหนึ่งจับเข้าที่เอวบางของเกล ก่อนจะเลื่อนมือลงไปสัมผัสที่ขอบกระโปรงสั้นกุดของเธอ การสัมผัสที่ดูรุกล้ำและคุกคามทำให้เกลตัวแข็งทื่อทันที“มันถอดง่ายไงล่ะ” คิรินพูดเสียงต่ำ ดวงตาของเขามองลึกเข้าไปในดวงตาของเกลอย่างดุดัน “ผู้ชายมันไม่ได้คิดดีแบบที่เธอคิดหรอกนะเกล”เขาหยุดมือไว้ที่ขอบกระโปรงนั้น ก่อนจะเลื่อนมันขึ้นไปสัมผัสที่ต้นขาของเธอเบา ๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงขีดจำกัดของชุดที่ง่ายต่อการเข้าถึง“ขนาดฉันที่อยู่กับเกลแบบ
คิรินปล่อยให้เดย์จัดการเรื่องข้างนอกร้าน ก่อนที่เขาจะพุ่งกลับเข้ามาในร้าน ‘มินิมา’ อีกครั้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาลและร่องรอยของการต่อสู้เล็กน้อยเขาตรงไปที่โต๊ะของเกลทันที เกลที่กำลังเต้นอยู่กับพิชชี่ ด้วยท่าทางยั่วยวน ก็ต้องชะงักเมื่อ โดนกระชากแขนอย่างแรงเสียงหวานร้องครางออกมานิดหน่อย ด้วยความเจ็บที่ข้อมือ เธอถูกแรงกระชากจนตัวของเธอ ปลิวไปชนกับร่างสูง แผ่นอกของเธอกระแทกเข้ากับกล้ามเนื้อแข็ง ๆ ของคิรินอย่างจัง“เป็นบ้าอะไรเนี่ย คิริน!” เกลบ่นออกมาอย่างหัวเสีย เธอพยายามจะดึงมือกลับคิรินไม่รอช้า เขาหันไปบอกลาเพื่อน ๆ ของเกลอย่างรีบร้อย โดยใช้ท่าทางที่สุภาพแต่เด็ดขาด“ขอโทษนะเมษา ข้าวฟ่าง ฉันขอพาเกลกลับก่อนนะ”ก่อนที่เมษาจะทันได้ตอบ คิรินก็ ดึงร่างบางให้เดินตามเขาไป เกลอารมณ์เสียมากแต่เพราะตัวเธอเล็กกว่ามากเลยสู้แรงไม่ไหว ต้องจำยอมเดินตามเขาออกมาจากร้านเหล้าที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายคิรินไม่พูดอะไรกับเธอ ตลอดทางที่ขับรถ รถออดี้คันหรูก็พุ่งไปสู่จุดหมายของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว“จะพาเกลไปไหน เกลถามเสียงดังด้วยความหวาดระแวงและหงุดหงิด แต่คิรินก็ยังคงนิ่งเงียบรถมาจอดเทียบหน้าอาคา
มีนา? คิรินปิดเปลือกตาลงอย่างหงุดหงิด มีนา แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันไปเมื่อหลายเดือนก่อน กำลังอยู่ในร้านเดียวกับเกล!“มึงอยู่ที่ ‘มินิมา’ ใช่ไหม!” คิรินถามย้ำจนสุดท้ายก็ได้ตำแหน่งที่ชัดเจน“เออ! แต่กูไม่รู้แล้วนะว่ายัยอ้วนไปอยู่ไหนแล้ว!” คิรินตัดสายทิ้งทันที เขาลุกพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคว้าแจ็คเก็ตและกุญแจรถ“พี่สอง! ผมไปก่อนนะ งานเสร็จแล้ว!”ก่อนที่พี่รหัสจะอ้าปากโวยวาย คิรินก็รีบพุ่งออกจากห้องไปทันที เขาควบรถออดี้ สีดำ ออกจากตึกคณะอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เดย์บอกทันทีร้าน ‘มินิมา’ เต็มไปด้วยเสียงเพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่เร้าใจและแสงไฟนีออนสลัว ๆ โต๊ะของแก๊ง แรดเรียกพี่กระทิงเรียกน้อง โดดเด่นอยู่กลางร้านเมษา ที่ปกติจะดูเป็นสาวเข้มงวดและเคร่งเครียดกับการเป็นประธานรุ่น วันนี้กลายเป็น สาวเซ็กซี่ เต็มตัว ร่างบางสูงโปร่งของเธอสวมชุดราตรีสั้นสีแดงสดผ่าข้างเล็กน้อย เรียกสายตาของคนรอบข้างได้ไม่ยากเลยส่วน ข้าวฟ่าง ที่ปกติจะเรียบร้อยและแต่งตัวติสต์ ๆ วันนี้ผมที่ชอบม้วนเป็นมวยและต้องมีดินสอปักทุกครั้ง ได้ ปล่อยปลายสยายลงมาเกือบถึงบั้นเอว ร่างเล็กใส่สายเดี่ยวสีขาว กระโปรงขาวถึงข
คิรินเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายอารมณ์ ทิ้งให้เกลยืนอยู่กลางห้องพร้อมกับความสับสน ความโกรธ และความอับอายที่ปนเปกันอยู่ เกลหยิบเสื้อผ้ามาสวมอย่างรีบร้อน โดยพยายามไม่มองไปที่ประตูห้องน้ำครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งคิรินและเกลก็รีบออกจากคอนโดมาขึ้นรถออดี้สีดำคันหรู เพื่อไปมหาวิทยาลัยเกลนั่งเงียบ ๆ ที่เบาะข้างคนขับ เธอพยายามจดจ่ออยู่กับวิวข้างทางเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับคิริน แต่ความเงียบสงบนั้นก็ถูกทำลายลงทันทีเสียงไลน์กลุ่มแรดเรียกพี่ กระทิงเรียกน้อง กรีดร้องไม่หยุดเกลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว กลุ่มแชทของเพื่อน ๆ เต็มไปด้วยข้อความและอิโมจิกรีดร้องนับไม่ถ้วนMISSPichy: กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! @Glae แกทำอะไร!!! **แม่ดาราออกมาแถลงสื่อค่ะคนออะไรเป็นข้าว: [ภาพที่คิรินลงถูกแคปลงกลุ่มไลน์] เกล! นี่มันรูปอะไร! แกกับคิรินคือ คือผีผลักกันจริง ๆ เหรอคะ!!!Maysa: อุ๊ย!!!MISSPichy: บอกมาว่านี้แค่ซ้อมเดินแบบด้วยกัน ทำไมถึงนอนซบกันเบอร์นี้! OMG! แกหลงเสน่ห์เจ้าชายแห่งมอ ไปแล้วใช่ไหม!เกลหน้าแดงก่ำ เธอหันไปมองคิรินที่กำลังขับรถอย่างสบายอารมณ์“บ้าจริง คินลงรูปบ้าอะไรเนี่ย ผู้ชา
หลังจากการไลฟ์สดสั้น ๆ สิ้นสุดลง เกลก็ถอดเครื่องสำอางออกอย่างรวดเร็ว เธออาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนผ้าไหมซาตินสีดำที่ให้สัมผัสเย็นสบาย แล้วเดินออกมาจากห้องนอนเธอเห็น คิรินกำลังนั่งอยู่บนโซฟาหนังตัวยาวในห้องนั่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ เขาสวมแค่กางเกงวอร์มตัวเดียว เผยให้เห็นแผ่นหลังที่กว้างและรอยกล้ามเนื้อที่คมชัดดูก็รู้ว่าเขาออกกำลังกายอย่างหนัก“นายมานั่งตรงนี้ทำไม!” เกลโวยทันที คิรินเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือที่กำลังเล่นเกมอยู่“อ้าว ก็โซฟามันสบายที่สุด จะให้ไปนั่งโซฟาเล็ก ๆ ตรงนั้นทำไม”“แต่มันคือโซฟาของเกลนะ เกลต้องใช้นอนดูหนัง!” เกลเดินไปหยุดอยู่หน้าโซฟา “เกลต้องใช้พื้นที่ในการเยียวยาตัวเองจากโรคจิตที่อยู่แถวนี้”“งั้นนั่งนี้ปะ” คิรินลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ คิรินยิ้มกวน ๆ มือหนาก็ตบตักตัวเองสองสามที “ฉันก็ต้องใช้พื้นที่ทั้งหมดเพื่อดูแลเธอเหมือนกะนนั่นแหละ ยัยอ้วน”เกลไม่อยากสนใจคนแถวนี้ ไม่รู้คนด้านนอกหรือด้านในไหนโรคจิตกว่ากัน เธอทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างแรง ตั้งใจจะเบียดให้คิรินขยับออกไป แต่แทนที่จะขยับ คิรินกลับทิ้งน้ำหนักลงมาเล็กน้อย ทำให้เกลถูกบีบให้ติดอยู่กับพนักพิงโซฟา พวกเขาอยู่ในระยะประช
“เกลอ้วนแล้วมันหนักหัวคินรึไง” เสียงหวานพูดอย่างฉุนๆ“ถ้าเธอป่วยขึ้นมา จะทำยังไง” เสียงทุ้มต่ำตอบกลับทันทีที่เธอระเบิดอารมณ์ใส่ เกลเคี้ยวอาหารช้า ๆ พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดอีกครั้ง“คินเห็นใช่ไหม” เกลเงยหน้าขึ้น ดวงตาดื้อดึง “คินเห็นสิ่งที่เกลทำในห้องน้ำเมื่อคืน” คิรินจิบชาจีนร้อน ๆ แล้ววางแก้วลง“ใช่! แล้วก็ไม่ได้มีอะไรให้เข้าใจเธอเลยสักนิด”“มันไม่ใช่นาย ไม่ใช่ชีวิตนาย คิริน!” เกลพูดเสียงต่ำ “นายไม่มีสิทธิ์มาตัดสินว่าเกลจะดูแลร่างกายของเกลยังไง”คิรินวางตะเกียบลงแล้วเท้าแขนกับโต๊ะ เขายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จนเกลสัมผัสได้ถึงกลิ่นกาแฟและหมูสับจากลมหายใจของเขา“ฉันไม่ได้ตัดสิน แต่ฉันเป็นห่วงเพื่อนสมัยเด็กที่กำลังจะตายเพราะไอ้เรื่องไร้สาระแบบนี้” คิรินมองลึกเข้าไปในดวงตาของเกล “เธอจำไม่ได้เหรอ เมื่อสิบปีก่อนเธอเคยมีความสุขแค่ไหนกับการกิน”คำพูดนั้นของคิรินทำลายเกราะป้องกันของเกลลงได้สำเร็จ น้ำตาเริ่มเอ่อคลอที่ขอบตา แต่เธอก็รีบปาดมันออก“มันไม่เหมือนกันแล้ว” ร่างบางพูดเสียงเบาจนเกือบกระซิบ“มันเหมือนกันทุกอย่าง” คิรินยิ้มบาง ๆ “ห้ามอดอาหารเด็ดขาด! เพราะถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันนี่แหละที่จะ




![My Engineerรักร้ายนายจอมโหด [ต้าร์พินอิน]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


