“นาย...เอ่อ คิริว”
เสียงเรียกชื่อของเขาทำให้มือที่กำลังกดกุญแจรีโมตเพื่อเปิดประตูรถยนต์คันหรูชะงักลงก่อนจะหมุนตัวกลับมายังต้นเสียงที่ไม่คุ้นเคยนั้น
ดวงตาคมกริบเบิกขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อผู้หญิงในชุดนักศึกษาแบบพอดีตัวที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือสาวน้อยชุดเมดแสนน่ารักในปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนเก่าเมื่อสัปดาห์ก่อน
หัวใจแกร่งเต้นกระตุกเมื่อมองสบดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้น ใบหน้าสวยหวานจิ้มลิ้ม จมูกโด่งปลายเชิดรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู ผิวพรรณขาวจัดสว่างวาบไปทั่วบริเวณ ไหนจะรูปร่างสุดเย้ายวนภายใต้ชุดนักศึกษาที่ชวนให้เขาจินตนาการไปไกลจนหัวใจเต้นแรง
คืนนั้น ตอนเห็นเธอเดินเสิร์ฟน้ำอยู่ไกล ๆ ก็ว่าเธอสวยน่ารักแล้ว วันนี้ที่เธออยู่ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูก ต้องยอมรับอย่างไม่อายเลยว่าเธอโคตรสวยและโคตรน่ากิน
วันนั้นเขาไปกับผู้หญิงอีกคน จึงไม่สามารถปลีกตัวไปทำความรู้จักกับเธอได้ จึงฝากทิปและกระดาษโน้ตแผ่นน้อยให้เธอ ผ่านมาเป็นสัปดาห์ก็ไม่เห็นว่าเธอจะติดต่อคนรูปหล่อพ่อรวยอย่างเขามาสักครั้ง จึงไม่ได้สนใจจนแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ แต่วันนี้เธอกลับมายืนดักรอเขาอยู่ที่ลานจอดรถข้างตึกคณะ ก็แปลว่าเธอเองรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ยังกล้าเมินคนอย่างเขาเนี่ยนะ
ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับคนตัวบางแต่ซ่อนความเย้ายวนเอาไว้ภายใต้ชุดนักศึกษา เธอชะงักไปในทันทีที่สบตากับชายหนุ่มสุดฮอตของวิศวะโยธา
ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลคู่นั้นดูลึกลับมีเสน่ห์จนหัวใจเธอเต้นรัว คิ้วเข้มดกดำ หน้าผากกว้างกำลังดี จมูกโด่งจัดรับกับริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดราวผลเชอร์รี่ทำเอาเธอต้องลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รูปร่างสูงเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อกับผิวพรรณขาวผ่องเนียนละเอียดราวผิวผู้หญิงยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลาจนเธอแทบลืมหายใจ
“ว่าไง”
เสียงทุ้มตอบกลับไปเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สากับสาวสวยตรงหน้า ทั้งที่ตอนนี้หัวใจเต้นรัวจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอกอยู่รอมร่อ ช่วยไม่ได้ ก็เธอสวยเสียขนาดนี้ ยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งโคตรสวย
“นายช่วยซื้อฉันได้ไหม”
ถ้อยคำมากมายที่คิดมาก่อนหน้านี้มันหายไปจากสมองจนหมด เหลือเพียงคำพูดตรง ๆ ที่ไม่มีชั้นเชิงเอาเสียเลย
“ฮะ อะไรนะ รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา”
คนตัวโตถามกลับไปด้วยความตกใจในคำพูดทะลุกลางปล้องของเธอ ด้วยไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนมาเสนอขายตัวให้เขามาก่อน คู่นอนส่วนมากก็เจอกันตามผับบาร์หรือสถานบันเทิงอื่น ๆ คุยกันไม่กี่คำก็พากันไปขึ้นเตียงอย่างง่ายดาย แต่คำพูดแบบนี้ เขาไม่เคยได้ยิน
“รู้ตัวสิ คือ...ฉันต้องการเงิน แลกกับการ...นอนกับนาย”
ประโยคท้ายเบาแสนเบาราวกับคนไม่มั่นใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำทีขึงขังแท้ ๆ
“เท่าไหร่”
เขาไม่เคยเสียเงินซื้อผู้หญิงมานอนด้วย ส่วนมากถ้าเขาถูกใจลีลาบนเตียง ก็แค่ซื้อกระเป๋า เครื่องประดับ หรือของแบรนด์เนมให้เป็นการตอบแทน ซึ่งของแค่นั้นไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของคิริวร่วงหรอก
“ห้าหมื่น”
นอกจากค่าเทอมแล้ว เธอควรมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกนิดหน่อย เพราะแม่ของเธอยังไม่สามารถออกไปขายของได้ แม้จะอาการดีขึ้นมากแล้วก็ตาม
ราคาที่ออกมาจากปากเธอทำเอาเขาชะงัก แม้จะไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วง แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่านักศึกษาไซด์ไลน์คนไหนจะเรียกราคาแรงขนาดนี้มาก่อน ต่อให้เป็นตัวท็อปก็ตาม จึงกวาดสายตามองเรือนร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อประเมินคุณภาพสินค้าอีกครั้ง
หน้าอกอวบอิ่มใหญ่โตเกินตัวที่ดูภายนอกไม่รู้ว่าของแท้แม่ให้มาหรือนำเงินที่ได้จากการทำแบบนี้ไปให้หมอจัดการให้กันแน่ แต่มันก็ดึงดูดใจเขาไม่น้อย ไหนจะเอวบางคอดกิ่วซึ่งรับกับสะโพกผายพองามและต้นขาเรียวเล็กขาวผ่องนั่นอีก ถ้าไม่มีเสื้อผ้ามาบดบังความงาม คงจะน่าดูไม่น้อย
“ไม่คิดว่าห้าหมื่นมันแพงไปหน่อยเหรอ เธอเด็ดขนาดนั้นเลยหรือไง ฉันทำอะไรเธอได้บ้างล่ะ”
คนตัวบางเผยอปากขึ้นเล็กน้อย ด้วยตกใจในคำพูดของเขา เขาเป็นคนซื้อ อยากทำอะไรกับร่างกายเธอก็ทำไปสิ รีบ ๆ ทำให้มันจบ จะมาถามหาสวรรค์วิมานอะไร หรือว่าเขากำลังคาดหวังบริการอย่างถึงใจจากเธออยู่ แล้วถ้าเขารู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์ ไม่เคยมีประสบการณ์แม้แต่จูบกับผู้ชาย เขาคงไม่มีทางซื้อเธอแน่ ๆ จะให้เขารู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“เอ่อ อยากทำอะไรก็ทำสิ ได้ทุกอย่าง”
“ทุกอย่างจริงเหรอ”
“อืม ทุกอย่าง”
เขากวาดตามองเธออีกครั้ง แม้บางส่วนของเธอจะอวบอิ่มเกินตัว แต่ท่าทางบอบบางอ้อนแอ้นน่ารักแบบนี้ ไม่มีทางรองรับอารมณ์หื่นของเขาไหวแน่ ๆ เขาเองก็คงทำเธอบอบช้ำไม่น้อย เพราะฉะนั้น เงินแค่ห้าหมื่นก็คงเหมาะสมกับความสึกหรอของร่างกายเธอแล้ว
“เธอแน่ใจแล้วใช่ไหม เธอรู้หรือเปล่า...ว่ากว่าที่ฉันจะใช้งานเธอให้คุ้มกับเงินห้าหมื่น เธออาจจะได้คลานลงจากเตียง”
สาวน้อยหน้าแดงก่ำ นึกจินตนาการภาพไม่ออก ว่าเขาจะใช้งานเธอแบบไหนบ้างให้คุ้มกับเงินห้าหมื่น เพราะเธอเองก็ยังไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นก็คงได้แต่ทำใจ
“ฉันแน่ใจ”
“อืม งั้นก็ขึ้นรถ นอนค้างได้ใช่ไหม”
คนตัวบางเบิกตากว้าง อดตกใจไม่น้อยที่มันง่ายดายถึงเพียงนี้ แต่เธอยังไม่ได้ลางานและยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เธอควรเตรียมเสื้อผ้ามาด้วยและบอกแม่ก่อนว่าจะมานอนค้างห้องของมัสยาเพื่อไปหางานพิเศษทำกัน ซึ่งจะเท่ากับว่าเธอต้องรับเงินจากเขาก่อน และนี่เป็นอีกเรื่องที่เธอต้องตกลงกับเขา
“เอ่อ คือวันนี้ฉันยังไม่สะดวก เดี๋ยวฉันต้องไปทำงานพิเศษ เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้เอามา เป็นพรุ่งนี้ได้ไหม พรุ่งนี้วันศุกร์ด้วย”
“เธอทำงานพิเศษอะไร อย่าบอกนะว่าคืนนี้ก็รับแขกเอาไว้”
“ไม่ใช่นะ ฉันทำงานร้านอาหาร เป็นเด็กเสิร์ฟ”
เธอตอบปฏิเสธอย่างรวดเร็วจนลิ้นแทบจะพันกัน ทำเอาเขาหรี่ตามองไม่เชื่อ ด้วยไม่อยากให้เธอไปนอนกับใครก่อนหน้าเขาเพียงหนึ่งคืน เพราะกลิ่นของผู้ชายคนอื่นอาจติดมาตามร่างกายเธอ ซึ่งเขาไม่ชอบ เสียเงินครึ่งแสนทั้งที ขอของที่มีคุณภาพหน่อยเถอะ
“ฉันไม่เชื่อ”
“ฉันพูดจริง ๆ อีกอย่างฉันยังไม่ได้บอกแม่เลยว่าจะไปค้างที่อื่น”
“งั้นขึ้นรถ ฉันจะไปส่ง แล้วจะรอจนกว่าเธอจะทำงานเสร็จ ฉันไม่ชอบให้เธอไปนอนกับใครก่อนหน้าฉัน”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่ได้ไปนอนกับใครจริง ๆ อีกอย่างที่ฉันอยากขอร้องนาย คือฉันจะขอเบิกเงินก่อนได้ไหม เอาแค่สามหมื่นก่อนก็ได้ พรุ่งนี้ฉันต้องใช้เงินสามหมื่น”
“นี่ฉันยังไม่ได้นอนกับเธอเลยนะ จะเบิกเงินก่อนแล้วเหรอ ถ้าเธอเบี้ยวฉันขึ้นมาจะทำไงล่ะ”
“ฉันไม่เบี้ยวหรอก สัญญาเลย”
“เธอเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ แค่ชื่อเธอฉันยังไม่รู้จักเลย จะให้ฉันเชื่อคำพูดของเธอได้ยังไง”
อลิษาเม้มปากแน่น ตั้งใจแต่แรกว่าจะไม่ให้เขารู้ข้อมูลส่วนตัวของเธอเด็ดขาด เพราะความสัมพันธ์ที่แลกกับเงินแค่คืนเดียวมันก็จะจบลง เรื่องพวกนี้มันจำเป็นที่ไหน
“เอ่อ คือว่า”
“เธอชื่ออะไร เรียนคณะไหน อย่าได้โกหกเชียว”
“ก็ได้ ฉันชื่ออลิซ เรียนบริหารปีสี่”
“แน่ใจนะ”
“แน่ใจสิ เอาบัตรนักศึกษาฉันไปดูก็ได้”
เธอยื่นบัตรนักศึกษาของตัวเองให้เขาดู เมื่อเห็นรหัสนักศึกษาก็มั่นใจว่าเธอพูดความจริง แต่เพื่อกันความผิดพลาด จึงถ่ายรูปบัตรของเธอเอาไว้
“นี่นาย จะถ่ายรูปไว้ทำไม ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันทำแบบนี้”
“แค่กันเหนียว เกิดเธอเบี้ยวฉันขึ้นมาฉันจะแฉให้หมด แต่ถ้าจบงานของเธอแล้ว ฉันก็จะลบรูปนี้ โอเคไหม”
“งั้นนายตกลงจะให้เงินฉันก่อนแล้วใช่ไหม”
“อือ เอาเลขบัญชีมาสิ”
เพียงไม่กี่วินาทีที่เธอบอกเลขบัญชีให้กับเขา เสียงแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีก็ดังขึ้นพร้อมกับยอดเงินจำนวนสามหมื่นบาท
คนตัวบางถอนหายใจยาว มองจำนวนเงินที่โชว์บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือผ่านม่านน้ำตา เงินจำนวนนี้เพื่ออนาคตของเธอ มันแลกมากับศักดิ์ศรีและมันคงเป็นปมในหัวใจของเธอไปชั่วชีวิต แต่ในเมื่อเธอเลือกเองว่าจะให้มันเป็นแบบนี้ ก็ไม่ควรเสียดายมันอีก
มือใหญ่สอดเข้าล็อกท้ายทอย บังคับเธอแหงนหน้าขึ้นรับเรียวลิ้นที่เข้าไปกวาดต้อนความหวานในโพรงปากอย่างหิวกระหาย เมื่อพอใจแล้วก็ละริมฝีปากมาบดจูบกลีบปากนุ่มนิ่มที่เริ่มบวมเจ่อของเธออีกครั้งคนตัวบางหลับตาพริ้ม แหงนเงยใบหน้าขึ้นเมื่อเขาไล้ปลายจมูกพร้อมเม้มจูบไปทั่วแก้มสาว ลามเลยเข้ามาซุกไซ้ยังซอกคอขาว ๆ ซึ่งส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผิวเนื้อนางที่ผสมผสานกับโลชันทาผิวกลิ่นดอกไม้ กลายเป็นฟีโรโมนชั้นดีซึ่งเขาไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อนซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นสาวทำเอาเขาแทบคลั่ง จากค่อย ๆ พรมจูบดูดเม้มช้า ๆ จนทั่วทั้งลำคอนั้น กลับกลายเป็นซุกไซ้สูดดมกลิ่นเนื้อตัวเธออย่างบ้าคลั่งราวกับคนที่กำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ ทั้งยังส่งเสียงครางฮือในลำคอบ่งบอกความพึงพอใจ ยิ่งทำให้สาวน้อยตัวสั่นสะท้านราวลูกนกชุดคุลมอาบน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวแสนเกะกะถูกถอดทิ้งกองลงบนพื้น ร่างบางลอยหวือขึ้นมาอยู่แนบอก เพียงชั่วอึดใจก็ลงไปนอนอยู่บนที่นอนนุ่ม โดยมีคนตัวโตที่เรือนร่างเปลือยเปล่าไม่ต่างกันคร่อมทับอยู่ดวงตาคมกริบวาบขึ้นเมื่อกวาดมองเรือนร่างบอบบางขาวผ่องตรงหน้า ผิวของเธอเนียนละเอียดขาวสว่างจนตาพร่า หน้าอกใหญ่โตเกินตัวไปมาก มากกว่า
“ริว กินข้าวลูก”คิริวเดินผิวปากอารมณ์ดีเข้ามาในห้องอาหาร เขาตรงเข้าหอมแก้มแม่ของตัวเองทั้งซ้ายและขวาอย่างประจบประแจง“ไม่กินแล้วครับแม่ ผมมีนัด คืนนี้ไม่กลับมานอนบ้านนะครับ”เขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนในห้องอาหารแล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับผิวปากอารมณ์ดีอีกครั้ง ในขณะที่คนเป็นป้ายิ้มกริ่มพึงพอใจเพราะคิดว่าหลานชายตัวเองมีนัดกับพิมพ์พลอย“เห็นไหม พี่บอกแล้ว ว่าตาริวยังไงก็ต้องชอบคนสวยแบบหนูพลอย เป็นไงล่ะ เจอกันแค่วันเดียวก็นัดกันออกไปเดตซะแล้ว”ช้องนางหันมองหน้ากับสามีตัวเองด้วยความแปลกใจ ท่าทางคิริวเมื่อคืนนี้ไม่เห็นจะเหมือนคนตกหลุมรักสาวสวยคนนั้นเลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้ทำไมอารมณ์ดีที่ได้ออกไปเดตเสียได้ วัยรุ่นนี่เข้าใจยากเสียจริง“ปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็ก ๆ เถอะค่ะพี่ช่อ”“จ้ะ ๆ แค่นี้พี่ก็สบายใจแล้ว ท่าทางคู่นี้จะเป็นไปได้สวย เฮ้อ ได้กลับบ้านเสียที ได้ข่าวว่าลูกยัยผกาเลิกกับแฟนอีกแล้ว เห็นไหม ถ้าเชื่อป้าของมันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องรัก ๆ เลิก ๆ กับคนที่ไม่เหมาะสมแบบนี้หรอก เดี๋ยวจะหาผู้หญิงใหม่ให้เสียหน่อย”“พี่ช่อคะ”“เงียบไปเลยนะเรา ไม่ต้องมาห้ามพี่ ที่ทำทั้งหมดก็เพราะรักและเป็นห่วงหลาน
“แต่ผมมีครับพ่อ ผมไม่ได้ชอบพลอย ไม่ได้อยากมีแฟน ไม่อยากมีคู่หมั้นและไม่อยากแต่งงาน ผมไม่ยินดีที่จะมีงานหมั้นเกิดขึ้น ขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่ต้องพูดตรง ๆ แต่ผมว่าแบบนี้มันดีกับพลอยมากกว่า พลอยจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากับผม เพราะยังไงผมก็ไม่มีวันยอมหมั้นโดยที่ผมไม่ได้รู้สึกชอบหรอกนะครับ”พิทักษ์และกมลชนกอ้าปากค้าง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคิริวจะกล้าพูดออกมาตรง ๆ แบบนี้ คงเป็นเพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบฝรั่งสินะในขณะที่พิมพ์พลอยทำได้แค่กำมือแน่นและกัดกรามข่มอารมณ์ไม่พอใจที่กำลังจะระเบิดออกมา เธอจะไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด อย่างไรผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น“คิริว ทำไมหลานเสียมารยาทแบบนี้”ช่อม่วงเอ็ดหลานชายเสียงดัง“ผมพูดความจริงครับป้า”“วันนี้ไม่ชอบไม่เป็นไร เพราะริวกับหนูพลอยเพิ่งเจอหน้ากันแค่ครั้งเดียว ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันเลย ป้าอยากให้ริวไปรับพลอยไปเที่ยว ไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ หาโอกาสใกล้ชิดกัน สักปีครึ่งปีเป็นไง พอถึงตอนนั้น ถ้าไม่ชอบ ค่อยมาว่ากันอีกที แต่ยังไงป้าก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ป้าขอยืนยันว่าริวต้องมีคู่ครองที่สมหน้าตา ในฐานะผู้บริหารที่วันหนึ่ง
“คิริว เรียนวิศวะโยธาหรือคะ”แม้จะรู้ประวัติของเขามาบ้างแล้ว แต่ก็ต้องหาเรื่องมาชวนคุย เมื่อเขาเอาแต่พาเธอเดินชมนกชมไม้ ทั้งที่ในมือกดโทรศัพท์ ไม่ได้ชายตามาแลเธอสักนิดเดียวจนรู้สึกอึดอัด“ครับ เรียกผมว่าริวเฉย ๆ ก็ได้นะ แล้วพลอยล่ะ”เขาต้องถามกลับเพื่อไม่ให้เสียมารยาท แต่ที่จริงเขาเองก็ไม่ได้รู้เรื่องของเธอเลยแม้แต่น้อย ถ้ารู้เอาไว้ก็คงไม่เสียหายอะไร“พลอยเรียนบริหารค่ะ เสียดายจังนะคะที่ไม่ได้เรียนมหาลัยเดียวกับริว ได้ข่าวว่าสาวบริหารที่นั่นสวยมากเลยหรือคะ”“ครับ สวยมาก ที่จริงผู้หญิงทุกคนก็มีความสวยในแบบของตัวเองอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าใครจะดึงเสน่ห์ของตัวเองมาใช้ได้มากกว่ากันเท่านั้นครับ”เธอยิ้มรับคำพูดของผู้ชายเจ้าชู้ที่มองว่าผู้หญิงทุกคนคือดอกไม้งามประดับโลก และเพียงแค่เด็ดดมครั้งสองครั้ง กลิ่นหอมเฉพาะตัวเหล่านั้นก็หมดไปเสียแล้วแต่ดอกไม้ราคาแพงอย่างเธอ อย่างไรเสียถ้าเขาเด็ดมาดอมดมแล้ว จะไม่มีวันทิ้งเธอได้ง่าย ๆ เหมือนดอกไม้ไร้ค่าพวกนั้นแน่นอน“แล้วริวชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะคะ”เธอเอ่ยถามพร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวน ถ้าเธอไม่ใช่คนที่ป้าเขาอยากได้มาเป็นหลานสะใภ้ อย่างไรคืนนี้ก็ต้องมีคลานลงจากเ
แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธแม่ได้ จึงต้องโทรไปรบกวนคนตัวบางที่กำลังจะเข้านอนหลังจากเพิ่งบอกแม่ว่าพรุ่งนี้เธอต้องไปรับงานพิเศษและต้องค้างคืนกับมัสยา“สวัสดีค่ะ”“ฉันเอง”เสียงทุ้มที่เริ่มจะคุ้นหูทำให้เธอแปลกใจ เขากลัวเธอจะเบี้ยวจนถึงขั้นโทรมาเช็กกันเลยหรือ“เอ่อ มีอะไรหรือเปล่า”เธอไม่กล้าเรียกชื่อเขา เพราะไม่อยากให้แม่ที่นอนหลับอยู่ด้านข้างรู้ว่าเธอคุยกับผู้ชาย ก่อนจะแอบเดินเลี่ยงออกมาคุยที่ระเบียงแทน“พรุ่งนี้ฉันขอยกเลิกนัดเราก่อนนะ ฉันมีธุระด่วน”“อ๋อ ได้สิ แล้วนายจะเอายังไงต่อ”“วันเสาร์เธอว่างไหม ฉันจะไปรับเธอที่หอแต่เช้า”“นายจะทำอย่างนั้นตั้งแต่เช้าเลยเหรอ”คนตัวบางเบิกตากว้าง เผลอโพล่งออกไปด้วยความตกใจ คนหื่นๆ อย่างเขาไม่รู้จักอายเลยหรือไง“ทำไมล่ะ ทำไม่ได้หรือไง”“เอ่อ คือ ไม่รู้สิ งั้นถ้านายมารับฉันแต่เช้า คงไม่ต้องค้างคืนใช่ไหม ฉันมีงานพิเศษตอนเย็นทุกวัน”“ร้านเดิมเหรอ”“ใช่”“เธอก็เปลี่ยนวันลาสิ จากวันศุกร์เป็นวันเสาร์”“แต่นายมารับฉันตั้งแต่เช้าแล้ว ยังต้องค้างคืนอีกเหรอ นายจะไม่พักบ้างหรือไง”“หึหึ พักไม่พักเดี๋ยวเธอก็รู้เอง ทำตามที่ฉันสั่งเถอะน่า ฉันเป็นลูกค้าวีไอ
“ไม่มีใครทำแบบนั้นหรอก คนจนก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด”“ฉันก็แค่เตือนด้วยความหวังดี”“งั้นก็ขอบคุณที่มาส่งนะ”“เดี๋ยวสิ พรุ่งนี้เธอคงไม่ลืมใช่ไหม ว่าเรามีนัดกัน”ดวงตาคมกริบวาบขึ้นในความมืด นัยน์ตาสีน้ำตาลลึกล้ำจนอ่านไม่ออก แต่มันกลับทำให้ใบหน้าสาวร้อนวูบวาบแดงซ่านไปจนถึงใบหู“เอ่อ ไม่ลืมหรอก นายจะให้ฉันไปเจอที่ไหนล่ะ โรงแรมอะไร”“ไปคอนโดของฉัน”“คอนโดเหรอ”“อืม สะดวกดี แล้วก็ไปยืนรอฉันที่ข้างตึกคณะแล้วกัน เลิกเรียนจะไปรับ”“ฉันไม่อยากให้ใครเห็น ฉันไปเองก็ได้”“รถติด เสียเวลา งั้นเธอมาหาฉันที่รถก็ได้ เหมือนวันนี้”“อืม ก็ได้”“อย่าลืมเอาเสื้อผ้าไปด้วยล่ะ ชุดนอนไม่ได้นอน มีไหม ฉันชอบแบบนั้น”“อะ เอ่อ ไม่มีหรอก”คำพูดหน้าไม่อายของเขาทำเอาเธอหูอื้อไปหมด จะให้เธอใส่ชุดนอนบางเบาจนมองทะลุปรุโปร่งต่อหน้าเขาได้อย่างไร เธอกะว่าคืนพรุ่งนี้จะขอร้องให้เขาปิดไฟ ซึ่งก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะยอมหรือเปล่า“ไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องใส่ก็ได้ แค่ผิวขาวๆ ของเธอก็คงทำให้ฉันมีอารมณ์มากแล้วล่ะ”ยังไม่ทันจะได้เห็นผิวขาวๆ ของเธอภายใต้ร่มผ้าเลยสักนิด แค่จินตนาการไปตามคำพูดของตัวเอง ลูกชายคนโตที่ขนาดเทียบเท่ามาตรฐา