Se connecter@โรงแรมDe(e)n
พลั่ก! ตุบ! เสียงบางอย่างที่กระทบกับพื้นอย่างแรงดังขึ้นบริเวณมุมอับของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง พร้อมกับร่างใหญ่ของชายหนุ่มในสภาพไม่ค่อยสู้ดีนักที่นอนราบอยู่กับพื้นเย็นเฉียบท่ามกลางเหล่าลูกน้องนับสิบคนที่กำลังยืนล้อมตัวของเขาอยู่ ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงเดินที่ดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทำให้ทุกคนต่างก้มหัวอย่างอัตโนมัติให้กับคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าคนที่นอนอยู่พลางปรายตามองสภาพน่าเวทนาของเขาด้วยแววตานิ่งเรียบ ใบหน้าคมคายที่สวมใส่กรอบแว่นตาราคาแพงไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมานอกจากความเย็นชาเท่านั้นก่อนที่เสียงของอีกคนจะดังขึ้นทำลายความเงียบของบริเวณนั้น "อึก...คุณเดม่อน ปล่อยผมไปเถอะนะครับ" ชายหนุ่มที่โดนซ้อมอย่างสะบักสะบอมเอ่ยอ้อนวอนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ฝ่ามือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือดสีสดพยายามเอื้อมไปจับรองเท้าหนังราคาแพงด้วยความยากลำบากเพื่อขอความเห็นใจ แต่นั่นไม่ได้ผลสำหรับเขา "หึ ปล่อยไปงั้นเหรอ" ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรย่อตัวลงเล็กน้อยพลางเอ่ยออกมาอย่างเย้ยหยัน รองเท้าแบรนด์เนมสีดำเหยียบเข้าที่ฝ่ามือเปื้อนเลือดอย่างแรงจนคนที่นอนอยู่ส่งเสียงร้องโอดครวญออกมาหากแต่ไม่สามารถเรียกความสงสารจากเดม่อนได้เลย "ผมเตือนคุณแล้วไม่ใช่เหรอครับว่าอย่าสร้างความวุ่นวาย..." "โอ๊ย!!" เท้าหนาบดขยี้ที่ฝ่ามือด้านล่างอย่างแรงราวกับต้องการให้มันแหลกสลายไปยังไงอย่างนั้น เดม่อนพูดกับคนที่นอนจมกองเลือดอยู่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงซึ่งสวนทางกับการกระทำของเขาอย่างสิ้นเชิง "...แต่คุณก็ไม่ฟัง" "ผะ...ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ" "การที่เข้ามาสืบความลับแบบนี้มันก็ดีนะ แต่การที่ผมเตือนแล้วไม่ฟัง มันก็ดูโง่ไปนิดหนึ่งนะครับ" มือหนาขยับกรอบแว่นตาบนใบหน้าหล่อเล็กน้อยก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง และ... ผัวะ!! "อั่ก!" ชายหนุ่มที่นอนอยู่ล้มลงไปอีกครั้งเมื่อโดนคนที่ยืนอยู่ใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง เลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมากไม่สามารถเรียกความเห็นใจจากเดม่อนได้ เขาปรายตามองร่างกายสะบักสะบอมด้านล่างเพียงนิดก่อนจะเดินข้ามร่างคนที่นอนอยู่ไปยังลูกน้องของตัวเอง "มันได้อะไรไปบ้าง" "ไม่มีครับ เพราะนายสั่งให้จับตาดูพวกผมก็เลยจับมันได้ก่อนที่จะลงมือทำอะไร" ลูกน้องคนที่ยืนด้านข้างก้มหน้าเอ่ยบอกเจ้านายของตัวเองตามความจริง "ดี เพราะถ้าเกิดความผิดพลาด รู้ใช่ไหมว่าคนที่ต้องโดนด้วย....คือใคร" น้ำเสียงเยือกเย็นทำให้ทุกคนต่างก้มหน้าลงอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขาเข้าใจความหมายที่ชายหนุ่มเอ่ยบอกเป็นอย่างดีว่าถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวพวกเขาก็คงจะต้องมีสภาพไม่ต่างจากคนที่นอนอยู่ "ได้ข่าวว่าใช้มือข้างขวาจับประตูห้องทำงานของพ่อฉันใช่ไหม" เดม่อนหันกลับมามองคนที่นอนอยู่อีกครั้งด้วยแววตาดุดันก่อนที่จะเลื่อนมือไปหยิบมีดพกในกระเป๋ากางเกงออกมาโยนไปยังพื้นด้านล่าง ซึ่งลูกน้องที่ยืนอยู่และรู้ความหมายของการกระทำนั้นก็รีบเดินเข้ามาหยิบมีดสั้นเล่มนั้นทันที "เสร็จแล้วจะให้ทำยังไงกับมันดีครับนาย" ชายชุดดำที่ถือมืดไว้เอ่ยถามเจ้านายหนุ่ม "ส่งมันกลับไปให้เจ้านายของมัน" ริมฝีปากหยักได้รูปตอบกลับเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินไปนั่งยังเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลเพื่อดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า@หนึ่งสัปดาห์ต่อมา"ฉวยจังเลยค่ะแด๊ดจี้" เสียงเล็กของเด็กน้อยเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อที่กำลังอุ้มเธออยู่อย่างตื่นเต้นพร้อมกับกวาดสายตามองท้องทะเลสีครามด้วยแววตาที่เปล่งประกาย เพราะเดม่อนเพิ่งจะซื้อบ้านพักตากอากาศที่นี่เมื่อสัปดาห์ก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เดมี่ได้มาที่ทะเลแห่งนี้"ดีใจที่หนูชอบนะครับ""น้องเดมี่ชอบมากๆ เลยค่ะ" เดมี่ยิ้มตอบกลับจนตาหยีจนเดม่อนอดที่จะเลื่อนไปหน้าไปขโมยหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ไม่ได้ด้วยความเอ็นดู เพราะหน้าตาและนิสัยที่เหมือนกับเมเกรซเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ชายอย่างเขาตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้"แล้วไหนช่างภาพที่จะถ่ายรูปล่ะคะ" เมเกรซในชุดกระโปรงสีขาวสะอาดที่เดินตามหลังของสองพ่อลูกเอ่ยถามสามีหนุ่มด้วยความสงสัยเพราะวันนี้เดม่อนบอกกับเธอว่าจะมีการถ่ายรูปครอบครัวด้วยกันทว่าพอมองไปก็เห็นแต่สถานที่ที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามเท่านั้นแต่กลับไร้วี่แววของช่างถ่ายภาพที่เธอต้องการ"กลัวพี่จะหลอกอีกหรือไง สายตาของเกรซมันฟ้องนะ""มีสามีเจ้าเล่ห์เลยต้องระวังตัวไว้ค่ะ" เมเกรซยิ้มตอบกลับพ่อของลูกไปอย่างติดตลกเพราะไม่ว่าจะกี่ปีเดม่อนก็ยังทำตัวร้ายกาจกับเธอเสมอ ความเจ
@คอนโดเดม่อนพรึ่บ~"แด๊ดดี้ฟังเกรซก่อน..." เมเกรซที่ถูกเหวี่ยงเข้ามาในห้องนอนยืนมองร่างสูงด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา เพราะพอออกจากบ้านมาเดม่อนก็พาเธอมุ่งหน้ามายังคอนโดของเขาเลยทันที ซึ่งเมเกรซที่รู้อยู่แล้วว่าสถานที่นี้มีไว้สำหรับการลงโทษของเขาก็พยายามเอ่ยอย่างวิงวอนสุดฤทธิ์แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลกับชายหนุ่มแม้แต่น้อย"ถอดชุดออกสิครับ เราอยากสัมผัสอากาศเย็นไม่ใช่เหรอ" เดม่อนเอ่ยบอกเสียงเรียบพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะเลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดเป็นประการถัดมาในขณะที่เมเกรซยังคงกำชายกระโปรงแน่นด้วยความหวาดกลัว"ถอดออก" ปากหนากดเสียงต่ำจนร่างเล็กสะดุ้งเฮือก มือเรียวสั่นเทาค่อยๆ ถอดชุดของตัวเองออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนในที่สุดก็เผยให้เห็นร่างบางที่มีสิ่งปกปิดจุดสงวนเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่"ไม่ใส่เสื้อใน?" ชายหนุ่มกัดฟันแน่นด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นแล้วจ้องมองภรรยาสาวด้วยแววตาแข็งกร้าวเมื่อเห็นว่าเธอใช้เพียงแค่แผ่นซิลิโคนปกปิดหน้าอกขนาดใหญ่ไว้เท่านั้น"ถะ...ถ้าใส่แล้วมันจะเห็น...""แต่ยอมให้คนอื่นเห็นนมได้?""ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย..." เมเกรซก้มหน้างุดแล้วตอบกลับเสียงเบาในขณะที่เดม่อ
"หม่ามี๊ขาา วันนี้พาน้องเดมี่ไปเที่ยวหน่อยค่ะ" เด็กสาวตัวน้อยวิ่งมาสวมกอดผู้เป็นแม่ที่กำลังแต่งตัวอยู่อย่างออดอ้อนในขณะที่เมเกรซย่อตัวลงตรงหน้าของเธอเล็กน้อยแล้วอธิบายให้ลูกฟัง"ไปไม่ได้ค่ะ ถ้าเราหนีไปเที่ยวกันแด๊ดดี้ต้องดุมี๊แน่ๆ เลย""แต่วันนี้แด๊ดจี้ไปทามงาน""หืม? วันนี้เหรอคะ""แด๊ดจี้บอกน้องเดมี่ว่าจะกลับดึก ให้นอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอค่ะ" เด็กสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเอ่ยบอกคนเป็นแม่ไปตามที่ได้ยินจนเมเกรซคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่เธอจะได้มีอิสระหลังจากที่ถูกคนตัวสูงควบคุมมาหลายปี"งั้นเราก็...ไปเที่ยวกันดีไหมคะ เดี๋ยวมี๊พาไปกินไอติมให้รางวัลคนเก่ง""คิกๆๆ ยักมี๊" เดมี่สวมกอดลำคอบางไว้อย่างอารมณ์ดีต่างจากเมเกรซที่ลอบยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจที่จะได้ทำตามใจตัวเอง ซึ่งมันก็มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เดม่อนจะห้ามเธอก็คือเรื่องการแต่งตัวมือเรียวรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเพื่อเช็คกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ก่อนจะพบว่าไม่มีลูกน้องของเดม่อนยืนอยู่แบบทุกวันบ่งบอกว่าพวกเขาอาจจะออกไปพร้อมกับเดม่อน"สงสัยจะไปทำงานจริงๆ" ปากเล็กพึมพำเสียงเบาตามความคิดของตัวเอง เพราะตอนนี้เดม่อนก็ยังคงทำงานเกี่ยวก
@หลายปีต่อมา-คฤหาสน์เดม่อน"คูมย่าขาา~" เสียงใสของเด็กน้อยวัยสามขวบกว่าที่กำลังวิ่งเข้ามาในบ้านเอ่ยเรียกผู้เป็นย่าที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ ในขณะที่มือยังคงถือของกินมากมายที่กรองขวัญให้มา"คนเก่งของย่า เป็นยังไงบ้างคะ วันนี้ไปเที่ยวมาสนุกไหม" อนงค์รีบวางทุกอย่างในมือลงแล้วไปอุ้มหลานสาวตัวน้อยขึ้นมาแนบอกทันที พวงแก้มป่องที่อยู่เสมอกับใบหน้าทำให้เธออดไม่ได้ที่จะขโมยหอมแก้มเล็กนั้นฟอดใหญ่ การกระทำของเธอสร้างเสียงหัวเราะให้กับเด็กน้อยได้ไม่ยาก"คิกๆๆ""เรียกแต่ย่าอย่างเดียว ไม่เรียกปู่เลยเหรอ" ดีนที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนเอ่ยถามหลานสาวที่กำลังหยอกล้อกับอนงค์เสียงน้อยใจจนเด็กสาวต้องผละใบหน้าออกมา สองแขนเล็กยื่นไปตรงหน้าราวกับเป็นเชิงบอกว่าต้องการจะให้เขาอุ้มจนดีนอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้เหมือนกันให้กับความออดอ้อนของคนตัวเล็กที่มักจะทำให้พวกเขาตกหลุมรักได้เสมอ"จะน่ารักไปไหนเนี่ย หลานปู่""ไปเที่ยวบ้านพ่อกับแม่มาสนุกไหมลูก" อนงค์หันมาถามคุณแม่สาวที่ยืนอยู่ด้วยรอยยิ้ม เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ เมเกรซจึงพาลูกกลับไปที่บ้านของตัวเองเพื่อให้เมสันและกรองขวัญได้เล่นกับหลานบ้าง แต่ส่วนมากพวกเขามักจะมา
"ผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ" เดม่อนที่เดินเลี่ยงออกมาเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงของห้องเสียงสุภาพ ในขณะที่เมสันปรายตามองไปยังชายหนุ่มรุ่นลูกด้วยสายตายากจะคาดเดาก่อนจะตอบกลับไปอย่างไม่เต็มใจนัก"มีเรื่องอะไร""ผมอยากรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับเกรซครับ" ชายหนุ่มเอ่ยถามไปอย่างไม่อ้อมค้อมก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงด้านข้างของเขาในขณะที่เมสันตวัดสายตามองคนด้านข้างด้วยความไม่พอใจที่ดูเหมือนเดม่อนจะทำตัวไม่รู้จักผู้ใหญ่เกินไป"ฉันไม่จำเป็นต้องบอกนาย""แล้วถ้าผมบอกว่าผมรู้เรื่องลูกชายของคุณสมบัติ คุณพ่อจะยอมคุยกับผมไหมครับ" ชื่อของคนที่คุ้นเคยและคำพูดที่ราวกับรู้เรื่องบางอย่างทำให้เมสันชะงักไปด้วยความประหลาดใจก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติตามเดิมเพื่อไม่ให้อีกคนรับรู้ความรู้สึกของตัวเอง"ฉันไม่เข้าใจว่านายพูดว่าอะไร""ผมว่าคุณพ่อน่าจะเข้าใจดีนะครับ เพราะถึงขนาดไปที่บ้านนั้นหลายครั้งเพื่อโน้มน้าวให้ลูกชายของเขามาแย่งเกรซไปจากผม" เดม่อนเอ่ยบอกเสียงเรียบอย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาต่างจากเมสันที่มีสีหน้าตกใจอย่างชัดเจนเพราะไม่คิดว่าคนด้านข้างจะรู้ถึงสิ่งที่เขาทำ"หึ คิดว่าผมไม่รู้เหรอครับว่าคุณพ่อทำอะ
@หนึ่งสัปดาห์ต่อมา"เหนื่อยไหมคะพี่เดนส์" เมเกรซที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยถามแทรกสามีหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังอยู่ ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาเดม่อนก็คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดจนตอนนี้สภาพจิตใจของเมเกรซเริ่มดีขึ้นมาก เธอไม่กลัวการที่จะต้องเจอกับคนอื่นรวมถึงไม่ได้กลัวต่อเหตุการณ์นั้นเท่าเมื่อก่อนแล้ว อาจจะมีบ้างบางวันที่ฝันร้ายแต่เดม่อนก็จะคอยปลุกเธอจากความฝันนั้นและปลอบโยนเธออยู่ตลอด อีกทั้งเขายังช่วยเธอในเรื่องของมหาวิทยาลัยที่หญิงสาวได้หยุดเรียนไปด้วยส่วนเรื่องของคาร์เตอร์ เดม่อนไม่ได้ฆ่าเขาภายในวันเดียว แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะทรมานเขาในทุกวันจนในที่สุดร่างกายของคาร์เตอร์ก็ทนรับความเจ็บปวดไม่ไหวและหมดลมหายใจไปเมื่อสองวันก่อน และครั้งนี้ก็ไม่เหมือนกับเมื่อหลายปีที่แล้วเนื่องจากเดม่อนได้เข้าไปดูศพของชายหนุ่มแล้วจัดการเผาร่างนั้นด้วยตัวเอง เขาอยากจะเห็นคนที่ทำร้ายภรรยาของเขาตายไปต่อหน้าจริงๆ เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ขึ้นกับเมเกรซอีกทุกอย่างได้จบลงพร้อมกับอดีตมาเฟียหนุ่มที่ตายไป เช่นเดียวกับบาดแผลในจิตใจของเมเกรซที่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวัน"ทำไมถา







