Episode 18
อย่าเอาเปรียบ
“อื้อ” ฉันที่นอนคว่ำอยู่รับรู้ว่าตัวเองถูกทับให้ขยับไม่ได้ จึงทำได้เพียงแค่ร้องอื้อส่งเสียงงัวเงียบอกคนที่กำลังรบกวนการนอนหลับ นี่ไม่ใช้อาการถูกผีอำ แต่มันคืออาการของคนกำลังจะโดนเอา
แก่นกายร้อนของฮีลกำลังถูเล่นอยู่ตรงสะโพกกลมกลึง ทว่าคนที่กำลังเอาแต่สนใจการนอนอย่างฉันจึงเลือกที่จะหลับตาลงอย่างเคย รู้ทั้งรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีมันคงได้ใส่เข้ามา
ก็คนมันง่วง ง่วงเหลือเกิน เมื่อคืนใครบอกให้มันจัดหนักล่ะ
“มิน ตื่น” ฮีลกระซิบข้างหู ใช้ลมหายใจกรุ่นร้อนเป่ารดไปตามแนวของลำคอ สร้างความกระสันให้ฉันรู้สึกอยาก
แต่คนมันง่วงอะ ไม่เสียว
“จะนอน อย่ากวนได้ไหม” ฉันพูดแทบไม่เป็นศัพท์ ง่วงจริงจัง ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้นแหละ
“ฉันอยาก” อะ ไอ้นี่ก็เอาแต่ใจไปอีก พอเรียกไม่ตื่นมันก็สอดใส่เข้ามาก่อนจะเริ่มสาวสะโพกเป็นจังหวะ แต่เพราะความค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปทำให้ความรู้สึกฝืดเคืองในร่องคับแคบค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยความซาบซ่าน
ฉันโก่งตูดอีกนิด กัดปากครางในลำคอพลางกำผ้าปูแน่น
แค่นี้ยังเสียว ทำไมตอนมีเซ็กซ์กับมันถึงได้ดีทุกตอนแบบนี้นะ
“อะ…อ๊า” ทนไม่ไหวแล้ว ร่องคับแคบเริ่มปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมามากมาย บ่งบอกว่าตอนนี้อารมณ์ของฉันนั้นกระเจิดกระเจิงมากแค่ไหน
“สะ...เสียว” ฉันร้องบอก ก่อนจะถูกพลิกตัวให้นอนหงายโดยที่ส่วนนั้นของเรายังไม่ขาดออกจากกัน
ยันตัวลุกพิงหัวเตียง มองทอดไปยังส่วนที่กำลังประสานกันอยู่แล้วรู้สึกอารมณ์พลุ่งพล่าน
อ่า…ใหญ่จัง
ยิ่งรู้ว่าตัวเองโดนของใหญ่ฉันยิ่งเสียววูบวาบ เกร็งท้องน้อยหนักขึ้นแล้วครางอื้ออึง
“อ๊า…แรงหน่อย” ฉันร้องบอก ณ เวลานี้ฉันกำลังจะคว้าสายรุ้งได้อยู่แล้วเชียว
คนข้างบนโถมแรงเข้ามามากขึ้นจนเกิดเสียงดัง พูดเลยว่าสะใจอีมินนี่มาก จึงเด้งเอวสวนอย่างเร่าร้อน
ฝ่ามือหนาเอื้อมมานวดคลึงตรงทรวงอกของฉัน ระดับการบีบที่รุนแรงขึ้นทำให้ฉันรับรู้ว่ามันกำลังจะเสร็จ และไม่นานนักเราก็ได้ปลดปล่อยพร้อม ๆ กัน
“อ๊า!”
ต่อมาก็นอนหอบหายใจ ความเร่าร้อนจบลงแล้วเหลือแต่ความเหน็ดเหนื่อยทั้งที่ตัวเองแทบไม่ได้ออกแรง
“แปดโมง” นาฬิกาบนหัวเตียงบอกเวลาว่าตอนนี้ฉันยังไม่ควรตื่น วันนี้มีเรียนบ่ายมันจะรีบปลุกฉันไปไหน แล้วไม่ลุกก็ไม่ได้อีก เพราะตั้งแต่มันไม่ใส่ถุงฉันก็ต้องลุกไปล้างตัวประจำ
เฮ้อออ
“ครั้งหน้าใส่ถุงเลยนะ ขี้เกียจไปล้างตัวละ ฉันง่วง” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงขาดช่วง ทั้งที่เซ็กซ์จบลงแล้วแต่ความเหนื่อยล้ายังไม่หายไป
“เดี๋ยวล้างให้ก็ได้นะ”
“ถามจริง?” ถึงกับต้องลืมตาแล้วเลิกคิ้วมอง
อะ ถึงมันจะเอาจริงแต่ถ้ายอมก็คงไม่พ้นโดนมันจิ้มอีกในตอนล้างตัว
“ไม่เอาอะ อยากนอนต่อ” จึงปฏิเสธไปเสียเลย ก่อนยันตัวลุกไปล้างตัวแล้วกลับมานอนต่อ ส่วนมันอะเหรอ หลับไปอย่างสบายใจเฉิบ
คืออะไรอะ ปลดปล่อยแล้วก็หลับสบายงี้เหรอ
“ไอ้ฮีล ไอ้บ้า!” ฉันไม่ยอมหรอก มันทำฉันตื่นแต่ตัวเองอะหลับต่ออย่างสบายตัวได้ยังไง
“อืมมม” ไม่ได้ตอบรับอะไรไปมากกว่าการครางในลำคอ และใช้ฝ่ามือหนาคว้าตัวฉันให้เอนซบอกลงบนอ้อมอกแกร่ง ก่อนจะล็อกเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ขยับไปไหน
“อย่ามาแต๊ะอั๋ง ถ้าไม่ได้เอา” จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าต้องย้ำกฎของเรา แอบรู้สึกว่าพักนี้มันจะล้ำเส้นบ่อยเกินไปแล้ว
“จะเอาอีก ให้เธอพักเหนื่อยก่อน”
“ไม่ได้! ค่อยจับตอนเอา ตอนนี้ต่างคนต่างนอน”
พอฉันไม่ยอมมันก็ปล่อยมือออก แต่ใช่ว่าจะปล่อยฉันไปนะเพราะหลังจากนั้นฮีลก็รีบคร่อมฉันไว้ด้วยความรวดเร็ว
คราวนี้อะไรอีกเนี่ย
“ทีตอนหลับยังแอบมากอดฉัน ตอนนี้ฉันจะจับบ้างเป็นไรไป”
“อย่าล้ำเส้น”
“บอกตัวเองดิ”
“ก็คนมันหลับไง ใครจะไปรู้ตัว”
“รู้ เธอรู้” มันเถียงค่ะ ส่วนฉันนั้นมุ่นคิ้วจนหว่างคิ้วเป็นรอย
“ตอนตื่นก็รู้ตัวตลอดว่าเผลอกอด”
“…” ยังไงนะ ก็รู้ตัวตอนตื่นไง ไม่ได้รู้ตัวตอนหลับสักหน่อย
“ฉันถูกเอาเปรียบทุกวันเลยเรื่องนี้”
“หา!” เหตุผลบ้าอะไรของมันวะ ก็คนมันไม่รู้ตัวอะให้ทำไง
“เธอไม่ชอบให้ฉันเอาเปรียบก็อย่ามาเอาเปรียบฉันดิ”
“…”
ฉันได้แต่เงียบ ก่อนจะหลบสายตาคู่คมไปมองโคมไฟสีวอร์มไลต์ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้างเตียงแทน
ใช่!
ฉันไม่ยอมเมกให้มันฝ่ายเดียว ไม่ยอมให้มันเสร็จอยู่ฝ่ายเดียว และไม่ยอมให้ตัวเองครางชื่อมันอยู่ฝ่ายเดียว
แต่ทบทวนยังไงฉันก็คิดว่ามันไม่ใช่อะ ก็ตอนหลับฉันไม่รู้ตัวจริง ๆ
“นายก็ถือสาคนหลับ”
“ไม่ได้ถือสา แต่ไม่อยากโดนเอาเปรียบ” เอาอีก แถจนสีข้างถลอกแล้วละนั่น สรุปแล้วมันจะหาเรื่องลวนลามฉันให้ได้เลยใช่ไหม
แอบคิดว่าช่วงนี้ฮีลพูดเก่งขึ้น แต่เฉพาะช่วงที่อยู่กันสองคนอะนะ
“เออ ๆ อยากจับก็จับ!”
เอาสิ เอาเลย จับให้ฉันตัวเหลวไปเลย
สาแก่ใจมันแล้วแหละ พอฉันตอบตกลงมันก็จับจนฉันตัวอ่อนในอ้อมแขนแกร่ง ทั้งโดนจูบ โดนหอมแก้ม โดนสัมผัสเรือนร่างไปทั่วทุกแห่ง
แน่นอน ตบท้ายด้วยการจิ้มกันอีกครั้ง
สรุปแล้วเช้านี้ก็นับสองก่อนไปเรียน
Heal’s Part
“ไปเรียนพร้อมกัน”
“อือ” มินนี่ดีดตัวลุกหลังจากตอบรับ ผมจึงคว้ากระเป๋าแล้วไปรอเธอแต่งตัวที่คอนโดตัวเอง
นับครั้งได้เลยที่จะได้เข้ามาในนี้ มินนี่เป็นคนโลกส่วนตัวสูงและปิดกั้นเก่ง ดังนั้นถึงจะเป็นเพื่อนสนิทอย่างผมก็ยังไม่ค่อยมีโอกาส
เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับมิริน วันนี้เธอใส่กระโปรงทรงเอสั้นแค่คืบ โชว์เรียวขาขาว ๆ ซึ่งไม่เหมาะจะไปนั่งรถฮาร์ลีย์อย่างที่ผมเห็นวันนั้นเลย
“พี่มิน พี่ฮีล” ผมพยักหน้ารับในตอนที่ถูกทัก แต่ตอนนี้เวลาสิบเอ็ดโมงแล้วทำไมเธอยังไม่ไปเรียนอีก
“วันนี้มิรินเรียนบ่ายค่ะ” สีหน้าผมไม่ได้ฟ้องขนาดนั้น แต่เหมือนมิรินกำลังอธิบายให้ผู้เป็นพี่เข้าใจ
“บอกฉันทำไม ฉันไม่ใช่แม่แก!” มินนี่ก็ไม่เบา ขนาดน้องสาวที่พูดคุยดี ๆ ด้วยเธอก็ตอกกลับแบบฟาดมาก
เธอคงไม่ชอบมิริน
“หาคอนโดใหม่ได้ยัง ฉันว่าฉันไม่จำเป็นต้องดูแลแกแล้วมั้ง!”
อ่า...น้ำเสียงเหวี่ยงยิ่งกว่าตอนที่ด่าผมด้วยประโยคเด็ดอย่างคำว่า ‘ไอ้บ้า’ อีก
“มิรินหาแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังตกแต่ง อาจจะเดือนถึงสองเดือน”
“นานเกิ๊นนนน!” พูดแล้วก็บิดปากใส่มิริน ผมมองแล้วก็แอบยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แอ็กติงเมื่อกี้ยิ่งกว่าพี่กิ๊ก สุวัจนีเสียอีก
“รอนี่แหละ ฉันจะไปอาบน้ำ” พยักหน้าตอบรับ โชคดีที่เธอไม่ได้สังเกตว่าผมกำลังรู้สึกอะไรอยู่ ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนเหวี่ยงเอาได้ที่กลั้นขำกับท่าทีนั้น
หลังจากนั้นก็นั่งรอเธอแต่งตัว คว้ารีโมตทีวีซึ่งวางอยู่บนโต๊ะมาเปิดมันทิ้งไว้เพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเงียบเหงาจนเกินไป ส่วนตัวเองก็ไถโทรศัพท์เล่นไปพลาง ๆ
“พี่ฮีล” มิรินเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ผมจึงหลุบตามองต่ำตรงช่องว่างนั้น
แอบคิดว่าโซฟานี้มีพื้นที่ตั้งกว้าง แต่ดูเหมือนเธออยากจะนั่งใกล้กัน แน่นอน ผมหันไปมองเธอเหมือนสื่อการรับรู้แล้วรอพูดต่อ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เธอกำลังส่งยิ้มให้ แต่สิ่งที่มันปะทะสายตาผมเป็นอันดับแรกก็คงจะเป็นส่วนของทรวงอกที่ใหญ่โตจนคับแน่นเสื้อนักศึกษา พอไล่สายตาลงต่ำก็รู้ว่ากระโปรงทรงเอซึ่งผ่าข้างร่นขึ้นสูงจนเห็นขาอ่อน
อ่อยชัด ๆ
ไม่ปฏิเสธว่ามันน่ามอง และผมก็มอง
“พี่ฮีลกับพี่มินนี่เป็นอะไรกันเหรอคะ”
“…” เธอคงรู้ตัวว่ากำลังถูกผมอ่านกิน ถึงได้ยกขาขึ้นเปลี่ยนเป็นนั่งไขว่ห้าง
หึ ผมแค่นยิ้มออกมา
“ทำไมไม่ตอบคะ” ความเงียบของผมแสดงออกว่าไม่อยากจะคุยกับเธอ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายเข้าใจว่าผมกำลังสนใจเธออยู่ถึงไม่ยอมปริปากเรื่องมิน
“คิดอะไรอยู่” ผมถาม
“คะ?” เธอมุ่นคิ้วใส่ ท่าทางน่ารักและใสซื่อ
แต่มันไม่ได้มองยากขนาดนั้น ผมไม่ได้โง่เหมือนพระเอกในละครที่จะไม่รู้ตัว
“ขยับออกไป และรักษาระยะห่างด้วย” ผมบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา ซึ่งเป็นน้ำเสียงปกติ
“ค่ะ” เธอขยับออก กะคร่าว ๆ ก็เพียงแค่สิบเซนฯ ยังไงมันก็ใกล้อยู่ดี
“พี่ฮีลเป็นอะไรกับพี่มินนี่คะ” เมื่อไม่ได้คำตอบก็ถามย้ำอีกหน และผมยังใช้ความเงียบเป็นคำตอบ
“ถ้าไม่ได้เป็นอะไรกัน มิรินขอจีบพี่ฮีลได้ไหมคะ”
“แรด!” ไม่รู้ว่ามินนี่ออกมาตอนไหน แต่เธอได้ยินสิ่งที่มิรินพูดไปแล้วและด่ากลับไปหนึ่งแมตซ์
“นี่ของฉัน”
หึ!
“แกไม่มีสิทธิ์”
หันไปมองหน้ามินแล้วใช้สายตาเย็นชาสื่อสารส่งไป ก่อนจะดีดตัวลุก คว้าร่างเล็กให้เดินกลับเข้าห้องไปแต่งตัว
“อะไรเนี่ย! ออกไปเลย” มือเล็ก ๆ ดันตัวผมให้ออกไป จึงรีบใช้เท้าเตะประตูให้ปิดลง
“รำคาญคนข้างนอก”
“นึกว่าชอบมันซะอีก”
“หวง?” ท่าทางของเธอแสดงออกว่าหงุดหงิดมาก ผมไม่ได้เดาไปเอง
“เปล่าเลย ใครจะไปหวง แต่ยัยนี่ฉันให้นายไม่ได้หรอก”
“หมายความว่าถ้าเป็นคนอื่นเธอจะยอม?”
“อือ”
“อยากให้ฉันไปมีคนอื่น?”
“ไม่ใช่โว้ยยย!” แสดงว่าหวง “หยุด!” แล้วมินนี่ก็รีบชี้หน้าผมพร้อมสั่งการให้หยุดความคิด
“ถ้านายจะมีมันก็อยู่ในข้อตกลงของเรา แต่ถ้าเป็นยัยมิรินฉันขอสั่งห้าม!”
อ่า…
ผมพยักหน้าเข้าใจ เธอคงไม่ได้หวงผมจริง ๆ สินะ
“กับเธอคนนั้นเริ่มเมื่อไหร่ก็บอกนะ เราจะได้หยุดเรื่องพวกนี้” เธอพูดต่อ ในเวลาเดียวกันเราทั้งคู่ก็กำลังประสานสายตากัน
“ฝึกงานที่ไหน?”
“สุราษฎร์ฯ จะไปหาแม่”
ผมพยักหน้า “อืม งั้นคงต้องเริ่มแล้ว”
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น