Episode 2
ที่มาของความสัมพันธ์
“ไม่กลับอะ” ฮีลถามขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันยังอยู่ หลังจากล้างตัวเสร็จฉันก็นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง ส่วนมันก็เพิ่งจะสูบบุหรี่เสร็จ
“ไม่อะ นายรุนแรงขนาดนี้ใครจะกลับได้ ไม่รู้ละจะนอนนี่” นั่นแหละ ประเด็นคือฉันหมดแรงจนขี้เกียจเดินออกไป ขอนอนก่อนแล้วกัน ส่วนเมื่อกี้ที่เห็นว่าเล่นจริง ๆ ฉันเพียงแค่เช็กไลน์เฉย ๆ เพราะเสียงแจ้งเตือนมันดังหลายครั้งเหมือนจะมีธุระสำคัญ ที่แท้ก็ยัยลูกปลากับยัยลูกพีชเมาท์กันอยู่นี่เอง
“อือ…” ตอบแค่นั้นก็เดินมาทิ้งตัวลงข้าง ๆ
เวลาปกติหลังจากเซ็กซ์จบลงเราจะไม่ค่อยนอนด้วยกัน แต่ฉันไม่ได้ซีเรียส
มาก บางทีฮีลก็ดุเดือดจนฟ้าเหลือง ถ้าฉันหมดแรงก็ต้องนอนบนเตียงนี้แล้วหลับเป็นตายประจำ และเหตุผลนี้ก็พอใช้เป็นข้ออ้างให้ฉันได้พักเอาแรงสักคืนในห้องส่วนตัวของมัน“นี่! ออกไป มากอดทำไม” รีบขยับตัวดุ๊กดิ๊กเมื่อถูกกอดจากทางด้านหลัง ปกติไอ้บ้าฮีลมันไม่เคยกอดฉันหรอก แต่วันนี้มันกลับทำ ตั้งแต่โยกแรง ๆ เพราะหวงร่างกายฉันเกินจริง ทำรอยไว้บนตัว แล้วยังมากอดกันแบบนี้อีกต่างหาก พฤติกรรมของมันทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้เลยจริง ๆ ว่าสิ่งที่กำลังกังวลอยู่จะเป็นจริงขึ้นมา
หรือมันกำลังจะชอบฉัน?
“ไม่ได้กอด”
“ไม่ได้กอดบ้าอะไรล่ะ อ๊ะ!” พอจะก่นด่ามือที่เคยลูบอยู่ตรงเอวก็เปลี่ยนตำแหน่งมาลูบตรงทรวงอกนุ่มหยุ่นแล้วออกแรงบีบขยำ
อะ กลบเกลื่อนเก่ง!
“จะจับนม” แล้วริมฝีปากของฮีลก็กดลงมาบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของฉันหนึ่งหน จึงพลิกตัวกลับไปหาเพื่อมองตา
“คิดอะไรกับฉันหรือเปล่าเนี่ย” ถามมันตรง ๆ แบบนี้นี่แหละ แล้วฉันก็เชื่อว่าฮีลต้องตอบตรง ๆ เหมือนกัน
“คิด…”
“…” ใช่จริง ๆ ด้วยสินะ ฮีลกำลังรู้สึกกับฉัน แบบนี้ฉันคงต้องรีบจบความ
สัมพันธ์บนเตียงนี่สักที ไม่งั้นต่อไปมันจะจบไม่สวยเราสองคนเป็น ‘เพื่อน’ กันอะดีแล้ว
ความรักไม่ใช่เรื่องสนุก มันเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับฉัน
“คิดว่าเธอนมใหญ่ขึ้น จะเป็นเมนส์เหรอ”
“…!” ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย พอฉันจ้องแววตาของมันทางนั้นก็ทำหน้าตายประหนึ่งว่าไม่เข้าใจคำถาม หลาย ๆ อย่างที่ทำมาก่อนหน้านี้กลบเกลื่อนไปได้ด้วยแววตาเฉยชาจนฉันพูดไม่ออก เพราะถ้าจะพูดว่าฮีลรักฉันก็ดูเหมือนจะมั่นใจในตัวเองเกินไป
“หรือเธออยากเอาอีก หืม?”
“ไอ้บ้า!” หื่นเป็นที่หนึ่ง คิดแต่เรื่องสัปดนแบบนี้อยู่ได้ ฉันจะถามจริงจังนายนี่ก็ทำเหมือนเรื่องระหว่างเราสองคนเป็นเรื่องใต้สะดือไปหมด
เหอะ! หมั่นไส้
หันหลังให้แล้วนอนแม่งเลย รีบคว้าผ้าห่มแล้วสลัดมือออกเมื่อฮีลวาดมือมาทำท่าจะกอดกันอีกหน จากนั้นร่างสูงก็ปิดไฟตรงหัวเตียงแล้วเหลือเพียงวอร์มไลต์สีส้มอ่อน ๆ ชวนให้บรรยากาศดูโรแมนติก
ฉันไม่ได้หลับไปเสียทีเดียวแต่กำลังนอนคิดเรื่องของฮีลอยู่ แอบคิดว่าหมอนั่นแสดงความรู้สึกบางอย่างออกมา ถึงจะชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่มันทำให้ฉันกลัว กลัวเหลือเกิน…
ฉันไม่อยากเป็นอย่างอื่นนอกจากคำว่า ‘เพื่อน’ ถึงแม้หลาย ๆ อย่างมันจะเกินคำนั้นมาแล้วก็เถอะ
ถ้าถามว่าความสัมพันธ์ของเรามันเริ่มขึ้นได้ยังไงแล้วละก็…
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน
“มินนี่ นี่มิริน น้องสาวลูก”
“มะ…หมายความว่าไงคะ”
“หมายความว่าพ่อมีภรรยาอีกคน ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง พ่อจะต้องรับผิดชอบเธอและรับผิดชอบมิรินด้วย”
ปึง!
ฉันวางแก้วเหล้ากระแทกกับโต๊ะอย่างแรงเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อกลางวัน จู่ ๆ พ่อก็มีเมียใหม่ซึ่งมาพร้อมลูกติดและลูกในท้อง พาเข้าบ้านมาแบบไม่ปรึกษาฉันกับแม่สักคำ ปล่อยให้พวกเรางุนงงและยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เหอะ ต่อให้ฉันรับรู้ถึงความเจ้าชู้ของพ่อจนไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยเป็นสิบหลัง แต่ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งพ่อจะปล่อยให้ผู้หญิงพวกนั้นมาแทนที่แม่ คิดแล้วก็เจ็บใจ ภาพที่แม่น้ำตาคลอแล้วบีบมือแน่นอย่างอดทนยังติดตาฉันอยู่เลย ท่านเข้มแข็งมากโดยเฉพาะต่อหน้าฉัน เหตุผลคงไม่พ้นไม่อยากให้ฉันคิดมากกับเรื่องระหองระแหงระหว่างพวกท่านสองคน
แต่แม่คิดผิด ฉันกลัวความรักตั้งแต่รู้ว่าพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเองมั่วแค่ไหน ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเป็นเด็กดีของพวกท่านมาโดยตลอด ไม่เคยสร้างปัญหาอะไรให้ที่บ้านหนักใจ ถึงแม้ตัวเองจะกลายเป็นผู้หญิงไม่มีหัวใจไปแล้วก็เถอะ
หลังจากออกจากบ้านฉันจึงส่งข้อความไปบอกผู้ชายคนหนึ่งซึ่งคบเล่น ๆ ไว้แก้เหงา ฉันแค่อยากรู้ว่าเซ็กซ์มันเป็นยังไงแล้วเราจะสามารถมีอะไรกับคนอื่นนอกเหนือจากคนที่ตัวเองรักได้อย่างที่พ่อทำหรือเปล่า ซึ่งฉันได้เรียนรู้ด้วยตนเองแล้วว่าของพวกนี้มันไม่ต้องใช้ใจ ใช้เพียงความต้องการของตัวเองก็พอแล้ว ไม่ต้องผูกมัดก็ได้ ก็แค่เอากันขำ ๆ เพื่อคลายอารมณ์
เพราะรู้ซึ้งเรื่องแบบนี้ดีแล้วและไม่ต้องการมันอีกต่อไป หลังจากเจอเรื่องเมื่อกลางวันฉันจึงเลือกตัดขาดกับพี่เก่ง ผู้ชายซึ่งกำลังคบหากันอยู่ในปัจจุบัน ถึงแม้ฝ่ายนั้นจะดูแลดีและไม่เคยนอกลู่นอกทาง ทว่าเรื่องที่เจอวันนี้มันทำให้ฉันเกลียดการมีความรักไปแล้ว ดังนั้นฉันควรต้องจบทุกอย่างหากตัวเองเริ่มรู้สึกหวั่นไหว
แท้จริงแล้วเราทุกคนล้วนมีหัวใจ แต่อยู่ที่ว่าจะเลือกเปิดมันไว้หรือปิดกั้น
ซึ่งฉันเลือกอย่างหลัง…
“มินนี่! คุยกับพี่ก่อน” เสียงเรียกของใครสักคนดังอยู่ข้าง ๆ ในตอนที่ฉันกำลังยกแก้วขึ้นดื่มอีกหน พอหันไปมองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่เก่งนั่นเอง
“ปล่อย!” ฉันสะบัดมือที่เกาะกุมอยู่ออกเบา ๆ เพราะไม่อยากให้เหล้าหก ส่วนพี่เก่งก็ยังคงบีบแน่นไม่คิดจะฟังกัน
“พี่ทำไรผิด?”
“พี่ไม่ผิด แต่มินไม่ได้รักพี่” ฉันตอบอย่างเฉไฉทั้งที่ความจริงตัวเองรู้สึกดีกับเขาไปแล้ว
แต่ฉันไม่อยากเจ็บ ไม่อยากนอนร้องไห้คนเดียวแบบที่แม่เป็น
“มิน! พี่ไม่ดีตรงไหน” เหมือนว่าพี่เก่งจะคุยไม่รู้เรื่องเพราะเขาค่อนข้างเมาในระดับหนึ่ง กลิ่นแอลกอฮอล์มาพร้อมกับคำพูดที่เขาเปล่งมันออกมาทำให้ฉันรับรู้ได้
เฮ้อออ พูดยากจัง
“ไม่ใช่พี่ไม่ดีนะ แต่มินแค่ไม่รักพี่” ย้ำคำว่าไม่รักอีกหนก็เดินเลี่ยงออกไปเข้าห้องน้ำ เรื่องอะไรฉันต้องกลับในเมื่อยังดื่มไม่หนำใจเลย พอกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้งก็เห็นว่าพี่เก่งยังไม่ออกไปไหน
น่าเบื่อเป็นบ้า
“เดี๋ยวพี่นั่งดื่มเป็นเพื่อน” ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อพี่เก่งหน้ามึนเกินไป โดนบอกเลิกขนาดนี้ถ้าเป็นฉันก็คงไม่หน้าด้านอยู่ตรงนี้หรอก
แต่เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ ฉันเหนื่อยจะพูด
หลังจากปล่อยให้เขานั่งอยู่ด้วยกันฉันก็รู้สึกร้อนแปลก ๆ พอมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของพี่เก่งก็รู้สึก ‘อยาก’ ขึ้นมาจนต้องกัดปากแน่น
“เป็นอะไรหรือเปล่าเรา?” พี่เก่งโน้มใบหน้าลงมา จงใจใช้สันจมูกเฉียดที่ผิวแก้มในตอนที่ตั้งคำถามเหมือนเป็นการยั่วยวน
“พี่ทำอะไรมิน” อาการแบบนี้ไม่ค่อยปกติ ดังนั้นฉันจึงต้องถามกลับ
“พี่แค่อยากให้มินอยู่กับพี่ตลอด” น้ำเสียงทุ้มกระซิบข้างหูอย่างยั่วยวนจนฉันรู้สึกวูบวาบ พี่เก่งไม่ยอมผละหน้าออกไปแล้วยังวาดแขนมาโอบเอวเอาไว้อีก
“ไม่! มินไม่ต้องการแบบนี้”
“แต่พี่ต้องการ กลับบ้านเถอะครับ เราจะไปมีความสุขด้วยกันและมินจะเป็นของพี่คนเดียว” น้ำเสียงของเขาเย็นลงจนฉันรู้สึกขนลุก ถึงจะรู้สึกต้องการทว่าสติที่ยังหลงเหลืออยู่สั่งให้ฉันส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะลุกพรวดเพื่อรีบออกไปจากตรงนี้
“มิน! อย่าดื้อ” เหมือนร่างตัวเองเหลวไปหมด เพียงแค่เขาคว้าแขนไว้เบา ๆ ฉันก็เซถลาเข้ากับอ้อมอกแกร่งอย่างอัตโนมัติ
“กลับบ้านกับพี่”
ตอนนี้ฉันกลัวมาก ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยมีอะไรกันแต่เพราะเขาไม่เคยใช้ยากับฉันอย่างวันนี้ ดังนั้นฉันจึงเผลอคิดไปไกลว่าพี่เก่งอาจจะวางแผนรวบรัดฉันมากกว่าต้องการนอนด้วยกัน แต่ร่างกายกลับรู้สึกร้อนขึ้นและความต้องการที่มีก็เพิ่มมากขึ้น จนในที่สุดฉันก็ยอมพยักหน้าให้เขาจนได้
“กะ…กลับ รีบกลับ!” ความอดทนที่มีมันช่างน้อยนิดเหลือเกิน สุดท้ายก็ยอมให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่พี่เก่งวางไว้ ทว่าเดินออกมาไม่ทันไรก็สวนทางกับฮีลตรงทางเข้าเสียก่อน ดังนั้น ถึงแม้ว่าสองขาจะก้าวไปตามแรงลากจูงแต่สายตาของฉันก็ยังสื่อความอ้อนวอนให้ฮีลได้รับรู้และภาวนาขอให้เขาเข้าใจมัน
จนกระทั่งเข้ามานั่งในรถ พี่เก่งสตาร์ตเครื่องเตรียมจะบึ่งออกจากคลับแต่ในใจก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนจะมาช่วยไว้ทัน ดังนั้นจึงพยายามยื้อเวลาอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุดโดยการคว้าต้นคอของอีกฝ่ายมาจูบอย่างดูดดื่ม
เริ่มรู้สึกว่าดวงตาของตัวเองเริ่มปริ่มน้ำก็ในตอนที่ขยับปากจูบกับเขา ฉันรู้สึกดีกับพี่เก่งนะ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะพยายามยื้อฉันไว้ด้วยวิธีเลว ๆ อย่างนี้ แบบนี้มันทรมานไม่ต่างกับที่แม่ฉันเป็นอยู่เลย
“อย่าร้อง เราจะมีความสุขกัน” พี่เก่งกวาดน้ำตาออกให้ก่อนจะก้มลงมาจูบฉันอีกหน ครั้งนี้มือของเขาเริ่มรุ่มร่ามสอดเข้าไปในเสื้อของฉันเพื่อที่จะกอบกุมเต้าอวบ ทว่า…
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูรถทำให้พี่เก่งต้องหยุดมันก่อนจะลดกระจกลง
ผัวะ!
หมัดเดียวผู้ชายที่อยู่ในอาการเมานิด ๆ ก็ร่วงด้วยกำปั้นหนัก ๆ ของฮีลที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลา ฉันดีใจจนยิ้มออกมา แต่ร่างกายกลับรู้สึกร้อนวูบจนทำได้เพียงแค่นั่งบิดตัวอยู่ในรถไม่ยอมก้าวขาลง
“ฮะ…ฮีล ชะ…ช่วยด้วย” เอ่ยคำอ้อนวอนกับอีกฝ่าย ไม่นานนักร่างสูงก็สอดมือเข้ามาปลดล็อกรถก่อนจะพาฉันออกไปจากตรงนี้ แต่ฤทธิ์ยาที่อยู่ในร่างกายกลับกระตุ้นฉันมากขึ้นเมื่อได้กลิ่นตัวหอม ๆ จากผู้ชายที่เรียกว่าเพื่อน จนต้องคว้าต้นคอเขามาประกบจูบอย่างเร่าร้อน
“ทำบ้าอะไรของเธอ ฮะ!”
“มะ…ไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย ช่วยด้วย” ฉันว่าอย่างไม่อายแม้ตรงนี้จะเป็นหน้าคลับซึ่งมีคนเดินผ่านไปมาพอสมควร ฮีลคงเห็นท่าไม่ดีจึงได้ลากฉันเข้ามาในรถ และนั่นก็เป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้ปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเอง ดังนั้นเมื่อเสียงสตาร์ตเครื่องยนต์ดังเสร็จสรรพฉันก็รีบขยับตัวไปนั่งคร่อมเขาเอาไว้
“มินนี่หยุด!”
“ยะ…หยุดไม่ได้ ฉะ…ฉันอยาก” ยิ่งฮีลร้องห้ามมากเท่าใดฉันยิ่งรู้สึกกระสันมากขึ้นเท่านั้น จนต้องซบหน้าลงบนอกเขาอย่างห้ามไม่ได้ สองมือของฉันจับมือฮีลให้มาสัมผัสหน้าอกแล้วออกแรงนิด ๆ ให้เขาบีบขยำมัน เพียงแค่นั้นส่วนล่างก็ผงาดขึ้นจนดันก้นกลมกลึงของฉันขึ้นมา
“นะ…นายขับรถ พาฉันกลับ ฉันอยากอาบน้ำ” พออ้อนวอนเสร็จก็จับมือฮีลลูบไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเหมือนสื่อว่าให้ช่วยแค่นี้พอ แต่ไม่นานนักฉันก็เล่นแรงขึ้นโดยการบิดตัวให้ส่วนนั้นของตัวเองสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ของเขามากขึ้น บังคับมือหนาของฮีลให้สอดเข้าไปใต้เสื้อแล้วบีบขยำมันตรง ๆ แบบไม่มีเสื้อผ้าป้องกัน
“อะ…อ๊า ฉะ…ฉันไม่ไหว” ส่งเสียงครางพร้อมคำอ้อนวอนไปหาฮีล แต่ถึงแม้ส่วนล่างจะแข็งโด่ยังไงมันก็ยังทำหน้าตาย ฉันจึงรีบถอดเสื้อออกด้วยตัวเองแล้วตวัดแขนคว้าต้นคอเขาเพื่อประกบจูบ
รู้ว่ามันน่าอาย แต่ความรู้สึกมันห้ามไม่ไหวแล้ว
“พอใจยัง” เขาถาม แต่ฉันกลับส่ายหน้า
“ทะ...ทำเถอะ ขะ…ขอร้อง” ใช้แววตาลูกแมวใส่คนตรงหน้าซึ่งเขาเองก็ยอมล้วงมือเข้าไปในกระโปรงไซซ์เอสของฉันก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปสัมผัสกับกลีบเนื้อนุ่มที่เปียกลื่นด้านใน นวดคลึงมันเล่นเบา ๆ ในขณะที่ตัวฉันร้องครางอื้ออึงอย่างเสียวซ่าน
“ชะ…ชอบ ใส่เข้ามาหน่อย” หน้าด้านที่สุดในชีวิตก็ตอนนี้แหละ แต่เพราะความอยากมันมีมากจึงทนไม่ไหว เอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายสอดนิ้วเข้ามาแบบไม่คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนเลยสักนิด
ความอึดอัดมาพร้อมกับความเสียวซ่านจนฉันต้องกอดเขาไว้ในแน่นแล้วฝังหน้าลงบนลาดไหล่ ออกแรงกัดจนฟันแทบจะจมไปกับเนื้อตรงนั้น แต่คนตัวสูงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจ็บ ปล่อยให้ฉันระบายอารมณ์โดยไม่คิดจะห้าม
ไม่นานนักก็รับรู้ถึงเสียงหอบหายใจของฮีลที่แรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ร่างสูงก็ยังคงความสงบนิ่ง นอกจากมือที่ขยับเข้าออกในร่างกายฉันแล้วก็มีเพียงเสียงลมหายใจที่ไม่ค่อยเป็นจังหวะเท่านั้น แอบคิดว่าเขาเป็นพระอิฐพระปูนจึงร้องอื้ออ๊าแบบไม่อาย บีบหน้าอกตัวเองเล่นแล้วแอ่นขึ้นให้มันเสียดสีกับริมฝีปากสีคล้ำจนเขาดูดดุนมันในที่สุด
“อะ…อ๊า จะ…เสร็จแล้ว อ๊า” ร้องครางออกมาในตอนสุดท้ายที่ตัวเองถึงฝั่งฝัน ฉันนั่งหอบหายใจในขณะที่นิ้วของฮีลยังคงคาอยู่ที่ร่องคับแคบ ทว่าความรู้สึกกระสันยังไม่หายไป มันยังต้องการอีกจึงรีบร่อนเอวเบา ๆ แต่ฮีลกลับถอนนิ้วออก
“ยะ…อย่าหยุด”
“ก็ไม่ได้จะหยุด”
“…”
“แต่จะไม่ปล่อยให้เธอสนุกอยู่คนเดียว!”
“อื้อ อ๊า…” แล้วมันก็สอดใส่ตัวตนของตัวเองเข้ามาแทนที่ ปล่อยให้ฉันขย่มจนเสร็จบนรถแล้วต่อด้วยห้องนอนของมันอีกหลายยกจนกว่าฤทธิ์ยาจะหมดลง…
และนั่นก็เป็นที่มาของความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไร ฉันกลัวการมีใครสักคน แต่ฉันก็ยังมีความต้องการ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจอยู่ในสถานะ ‘เพื่อนกัน’ แบบเดิม และเป็น ‘เพื่อนนอน’ ในเวลาเดียวกัน
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น