Episode 38
รักกับเซ็กซ์
“ถึงแล้ว” เสียงทุ้มเรียกให้ฉันมีสติอีกครั้ง ตั้งแต่รถเคลื่อนตัวออกจากม. กระทั่งถึงคอนโดฉันก็ไม่มีสติเอาเสียเลย เอาแต่คิดมากกับเรื่องที่เจอวันนี้ เหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เคยเกิดขึ้นแทนที่จะผ่านพ้นไปกลับกลายเป็นว่ามันยังอยู่ ถึงครั้งนี้จะรู้ตัวว่ามีคนจ้องจะทำให้ฉันเจ็บตัวทว่าก็ไม่อาจทราบได้จริง ๆ ว่าคนคนนั้นเป็นใครกัน นั่นทำให้ฉันยิ่งหวาดระแวง
สีหน้าของฉันบ่งบอกว่าคิดมากเกินไปจนคนข้าง ๆ บีบมือแน่นเหมือนเป็นการปลอบ จึงเงยหน้ามองฮีลที่ตอนนี้พยักหน้าให้แล้วให้สายตาสื่อสารออกมา ประมาณว่า ‘ไม่ต้องกลัว ฉันจะปกป้องเธอเอง’ นั่นทำให้ฉันใจชื้นขึ้น
“ฉันอยากรู้ว่าใครทำ”
“เดี๋ยวมันคงแสดงตัวเร็ว ๆ นี้ เธอก็ระวังตัวเอาไว้ให้มาก ๆ และอย่าห่างฉัน”
“ข้ออ้างหรือเปล่า”
“คิดว่าฉันปกป้องเธอไม่ได้?”
“นายปกป้องฉันได้อยู่แล้ว” หากนึกย้อนดี ๆ ฮีลก็เปรียบเสมือนฮีโรประจำกายของฉัน ตอนที่เกิดเรื่องร้าย ๆ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันก็เป็นมันนี่แหละที่คอยช่วยเหลือเอาไว้
น่าประทับใจจัง คิดแล้วก็อมยิ้มออกมา ตอนนี้ฉันเหมือนคนบ้าไปแล้ว แค่คิดยังไม่พอ จู่ ๆ ก็อยากพูดให้คนข้าง ๆ รู้ตัวไปด้วย “นายนี่เหมือนฮีโรของฉันเลย ทำไมถึงมาได้จังหวะตอนที่ฉันอยากได้ความช่วยเหลืออยู่เรื่อย”
“อือ เป็นได้หมดแหละ” ฮีลตอบนิ่ง ๆ ก่อนเอื้อมมือมาปลดเข็มขัดออกให้ พร้อมทั้งฉวยโอกาสนี้จุ๊บแก้มฉันไปหนึ่งหน
“...” สัมผัสอุ่นตรงนั้นทำให้ฉันร้อนวูบที่ใบหน้า
“เขิน?”
“หยุดแซวเลย” พอฉันไม่ด่ามันก็ทึกทักมั่วไปหมดอะเนอะ ไม่ได้เขินสักหน่อย ก็แค่...แค่รู้สึกว่าจู่ ๆ ก็เกร็งนิ้วเท้าจนต้องจิกมันเข้ากับรองเท้าผ้าใบที่สวมอยู่
“ฉันรอได้นะ คำตอบอะ” ไป ๆ มา ๆ เราก็ใช้เวลาคุยกันอยู่บนรถแทน มือข้างที่เคยปลดเข็มขัดออกให้ยกขึ้นมาเกี่ยวเส้นผมที่หล่นลงมาปรกหน้า นำมันไปทัดใบหูแล้วประสานสายตาฉัน “เขินให้ฉันบ่อย ๆ แล้วฉันจะรอ”
พูดมากจริง ตอนอยู่กับคนอื่นไม่เห็นมันพูดมากขนาดนี้เลย ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้ว จึงผลักมันออกเบา ๆ ก่อนเอื้อมมือไปเปิดประตูรถตรงไปยังลิฟต์โดยมีร่างสูงเดินตามหลัง กระทั่งคนขายาวก้าวเข้ามาเดินข้าง ๆ ฉัน ยกลำแขนแกร่งขึ้นมาโอบไหล่เอาไว้ราวกับต้องการประคองกันจนถึงคอนโดมัน
เหมียว
หลังเปิดประตูเสียงแมวก็ดังขึ้น จะเป็นสัตว์เลี้ยงของใครไปไม่ได้นอกจากข้าวปุ้นแมวของยัยลูกปลามัน แต่ว่านะ ปกติเลี้ยงแต่ในห้องไม่ค่อยให้ออกมาเดินเพ่นพ่าน แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ปล่อยออกมาได้
“ข้าวปุ้น แม่แกไปไหนเหรอ”
เหมียว
“มันไม่ดูแลแกใช่ไหม”
เหมียว
“น่าข่วนหน้าสักทีเนอะ ๆ”
เหมียว
“คุยรู้เรื่องด้วย” ในที่สุดโดนนินทามาก ๆ มันก็โผล่หน้าออกมา
“รู้เรื่องดิ ข้าวปุ้นนี่มันเชื่องจริง ๆ เลย ร้องเหมียวอย่างเดียวเลย”
“สมองกระทบกระเทือนหรือเปล่า แมวมันก็ต้องร้องงั้นอยู่แล้วป้ะ จะถามอะไรมันก็เหมียวหมดแหละ”
“ก็มันร้องได้จังหวะไง ฉันเลยว่ามันเชื่อง” ยัยคนนี้นี่! ทำไมมันเกิดมาเพื่อขัดฉันไปเสียทุกอย่างก็ไม่รู้
“รีบเอาเข้าไปในห้อง” คนที่ชอบฟังอยู่เงียบ ๆ เอ่ยขึ้น ที่ผ่านมาฉันแทบไม่เห็นข้าวปุ้นเลยก็เพราะไอ้ฮีลแพ้ขนแมว หากสัมผัสใกล้ ๆ ไม่น่าจะดี
ได้ยินดังนั้นลูกปลาก็พาข้าวปุ้นเข้าห้องในทันที จนตรงนี้เหลือแค่เราสองคน
ช่วงนี้จะต้องเซฟตัวเองโดยการเว้นระยะห่าง ดังนั้นเวลาว่างจึงไม่มีอะไรมากนอกจากหากิจกรรมทำในคอนโดแห่งนี้ โชคดีที่ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส สวนเล็ก ๆ หรือสระว่ายน้ำ ดังนั้นหากจะกักตัวเองอยู่ในนี้ก็ไม่น่าเบื่อสักเท่าไร วันนี้จึงกะว่ายน้ำคลายร้อนสักหน่อย
“ฮีล! ขอไวน์” ฉันที่นั่งอยู่บนแพยางตะโกนบอกคนที่อยู่ริมสระให้เอาไวน์มาเสิร์ฟ
“อือ” ตอบแค่นั้นก็ถือแก้วไวน์กระโจนลงน้ำมาส่งให้ถึงที่ ท่าทางน่ารักนี้ทำให้ฉันต้องบีบที่แก้มเบา ๆ เป็นการเอ็นดูพร้อมทั้งส่งยิ้มหวาน ๆ ให้
“ทำดีมาก” ว่าแล้วก็กระดกไวน์เข้าปาก ส่วนคนที่ทำหน้าที่ส่งของยังยืนอยู่จุดเดิม ซบหน้าลงกับต้นขาของฉันอย่างออดอ้อน “อะไรของนายอีก”
“อยาก” คำสั้น ๆ ได้ใจความ แต่มันจะมาอยากตอนนี้ไม่ได้ ที่นี่คือสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เดี๋ยวลูกปลากับพี่ฮัทมาเห็นจะทำยังไง
ไม่ว่าเปล่าด้วยนะ คนข้างล่างไสแก้มกับหน้าขาฉันไปพลาง ๆ สลับกับใช้เรียวลิ้นแตะลงตรงนั้นจนฉันขนลุกซู่
“ไม่ได้”
“ทำไม”
“ตรงนี้ไม่ได้” เท่านั้นฉันก็ถูกดึงให้ตกน้ำ แก้วไวน์หล่นลงจากมือจมลงสู่ก้นสระ ส่วนตัวฉันก็จมตามลงไปเช่นกัน
รีบเกาะที่ลาดไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้หลังโผล่ขึ้นจากน้ำ การถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้ฉันแสบตาจนได้
“อ๊าย! ไอ้บ้า อะ...อื้อ” หลังก่นด่าได้คำเดียวก็ถูกฉกที่เรียวปาก ฮีลใช้ริมฝีปากตัวเองปิดปากฉันจนต้องกลืนคำต่อ ๆ มาลงในลำคอ ก่อนไล้เรียวลิ้นเข้ามาชอนไชในปากฉัน ควานหาอะไรนักหนาไปทั่วไม่รู้ มือที่โอบเอวเอาไว้เริ่มเลื่อนลงต่ำ ในขณะที่ขยับจูบไปก็ใช้สองมือบีบขยำที่ก้นกลมกลึงของฉันไปด้วย
“เข้าห้องกัน” พยักหน้ารับทันที แหงล่ะ ใครจะอยู่ตรงนี้นานได้ ฉันรู้ว่ามันไม่หยุดแน่และหากฉันยังดื้อดึงมันคงได้กระแทกกันตรงนี้ ดังนั้นจึงตอบรับอย่างไม่มีข้อแม้
วงแขนแกร่งอุ้มฉันขึ้นแล้ววางลงบนขอบสระ แล้วใช้ความแข็งแรงของร่างกายดีดตัวเองขึ้นมาโดยไม่ต้องใช้บันได ก่อนที่เราสองคนจะเข้าห้องนอน
ด้วยความที่เปียกกันทั้งคู่เราจึงต้องใช้ห้องน้ำเป็นสนามรบแทน
“ชุดสวยดีนี่” มันเอ่ยชม ชุดที่ใส่วันนี้คือหนึ่งในชุดที่มันเลือกให้หลายวันก่อน ในคราแรกฉันตั้งใจว่าจะเอาไปใช้ที่ทะเลสุราษฎร์ฯ แต่ถ้าจะรอนานขนาดนี้ก็ใส่มันที่นี่เลยก็ได้ คนเลือกอุตส่าห์เลือกให้ซะดิบดี ใส่ให้มันเห็นสักหน่อยละกัน
“อ๊ะ!” ฝ่ามือหนากอบกุมที่เต้าอวบแล้วออกแรงบีบที่ทรวงอกนุ่มหยุ่น ใบหน้าคมคายโน้มตัวลงมาแล้วฝังคมเขี้ยวลงบนซอกคอระหงจนต้องร้องอ๊ะออกมา สะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อความเจ็บแปลบตรงเข้าเล่นงาน พลันทำให้ร่างกายของฉันเบียดเสียดเข้ากับร่างกำยำของอีกฝ่ายมากขึ้น
เราสองคนนัวเนียกันอยู่ในอ่างท่ามกลางสายน้ำที่กำลังไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนท่วมตัวไปครึ่งหนึ่ง ฝ่ามือร้อนของฮีลไล้ไปทั่วร่างกายของฉัน ทั้งที่อยู่ท่ามกลางมวลความชุ่มฉ่ำแต่กลับรู้สึกว่าร่างกายร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหน้าอก
หน้าใจที่กระเพื่อมขึ้นลงตามระดับหายใจ ทั้งร่างกายที่อยู่ไม่สุข กระสับกระส่ายจนหาทางออกโดยการเบียดชิดหาร่างแกร่งตรงหน้าริมฝีปากอันร้ายอาจปล่อยออกจากต้นคอลากไล้ต่ำลงมาสัมผัสที่หน้าอกของฉัน ฮีลปล่อยนิ้วเรียวยาวออกจากยอดจุกแล้วใช้ปลายลิ้นแตะมันลงไปแทน ในขณะที่ฉันประคองศีรษะของอีกฝ่ายเอาไว้
“อื้อออ”
ฉันจิกเกร็งนิ้วเท้าแน่นพร้อมทั้งครางสยิวออกมา เมื่ออีกฝ่ายใช้นิ้วเกี่ยวชุดว่ายน้ำช่วงบนลงไปอยู่ใต้ราวนมแล้วสัมผัสตรง ๆ รัวลิ้นกับส่วนปลายของยอดอกจนความอ่อนนุ่มเปลี่ยนเป็นแข็งชูชันในที่สุด
ค่อย ๆ ยกตัวขึ้นเมื่อรู้สึกว่าส่วนล่างเริ่มจะถูกลวนลาม สองแขนเปลี่ยนมาโอบรอบลำคอแล้วยกตูดลอยขึ้นเหนือพื้นเพื่อให้คนที่กำลังตะโบมดูดหน้าอกได้ถอดชิ้นส่วนข้างล่างออกไป ก่อนที่เรียวนิ้วจะกรีดกรายเล่นตรงทางแยกของเนินเนื้อ หยอกล้อไปมาจนมันลื่นไหลไปหมด
“อ๊า” เกิดอารมณ์ร่วมจนครางดังขึ้นเรื่อย ๆ ฮีลปล่อยปากออก ประสานสายตาฉันด้วยแววตาลูกแมวชวนให้เอ็นดูเหมือนข้าวปุ้นไม่มีผิด
“ป้อนฉันหน่อย”
เท่านั้นฉันก็ดีดตัวลุก สองขาที่สั่นเทาจากความกระสันค่อย ๆ ขยับไปจนถึงริมฝีปากของอีกฝ่าย ยกมันขึ้นพาดกับขอบอ่างข้างหนึ่งแล้วกดสะโพกลงไป ประจวบเหมาะกับการที่ฮีลแลบลิ้นออกมาเตรียมพร้อมจะชิม ค่อย ๆ ตวัดไปมาจนฉันสยิวซ่าน จนจิกเล็บลงที่ลาดไหล่ของมันอย่างแรง
“พะ...พอแล้ว” ร้องบอกเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อฮีลใช้ลิ้นนานเกินไปจนฉันจะเสร็จ ร่างกายรู้สึกเกร็งขึ้นเรื่อย ๆ มือที่เคยจิกที่ลาดไหล่ปล่อยออกมาดันตัวเองออก ทว่าไม่ทันการณ์เสียแล้ว น้ำหล่อลื่นมากมายไหลออกมาจากร่องน้อย
ฉ่ำแฉะ และมันก็เริ่มแห้งเหือดลงคอของอีกฝ่ายไป “อ่า!”ฉันล้มตัวลง พิงหลังกับขอบอ่างอย่างหมดแรง ก่อนจะถูกยกตัวขึ้นให้นั่งลงบนหน้าตัก โดยที่มีท่อนเอ็นร้อนสอดใส่เข้ามาด้วย “อ๊า”
ความคับแน่นส่งผลให้ฉันกัดฟันเสียว สัมผัสอุ่นตรงพวงแก้มต่ำลงไปถึงลำคอสร้างความฟินจนต้องเชิดหน้าขึ้นให้อีกฝ่ายกระทำได้ตามใจ ก่อนที่เสียงกระซิบจะดังเบา ๆ ข้างหูฉัน “ฉันรักเธอมินนี่”
“ฉันรักเธอ”
“อืมมม” ฉันยังคงหลับตาลง ฟังคำบอกรักของอีกฝ่ายแล้วรู้สึกชอบใจ ค่อย ๆ ขยับกายขึ้นลงด้วยความรู้สึกแปลก ๆ มันใจเต้นแรง เต้นแรงผิดปกติจากเซ็กซ์ครั้งก่อนเป็นไหน ๆ แถมยังมีความสุขมากเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ รู้เพียงว่าสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือการจูบ จูบอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ แล้วกอดมันเอาไว้แน่น ๆ
เหตุการณ์ร้าย ๆ ที่ตัวเองเกือบจะโดนข่มขืนไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวการมีอะไรกับคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย รู้สึกได้ว่าอ้อมกอดและสัมผัสจากคนคนนี้อบอุ่นจนลบภาพวันนั้นออกไปได้อย่างสิ้นเชิง
นี่ฉันรักมันแล้วใช่ไหม แบบนี้หรือเปล่าที่เรียกว่ารัก
รักกับเซ็กซ์ หากมันไปด้วยกันได้แล้ว มันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น