หญิงสาวตื่นขึ้นพบว่าเธอนอนอยู่บนเตียงกว้าง มีผ้าห่มคลุมกาย ใกล้กันมีร่างสูงใหญ่ยังคงหลับอยู่ จำได้ราง ๆ ว่าเธอหลับไปหลังจากมีเซ็กซ์เร่าร้อนเพลียจนลุกไม่ไหว เขาคงอุ้มเธอมา
แม้ไม่ได้ใจดีจนถึงขั้นเช็ดล้างความเหนอะหนะออกจากกลางหว่างขาให้ แต่อย่างน้อยปรมะก็ไม่ใจร้ายทิ้งเธอไว้ให้นอนอยู่คนเดียวกลางโซฟาเหมือนอย่างหลายวันก่อน สงสัยคงขยาดที่โดนเธอต่อว่าไปทั้งวัน
“ตื่นได้แล้วปลื้ม อาบน้ำ จะได้เข้ามหาลัยพร้อมกัน” ตะวันปลุกคนที่นอนข้าง ๆ เสียงหวาน ลืมสิ้นแล้วเรื่องที่โดนทิ้งให้รอนาน ไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น อย่างน้อยก็กลับมาหากัน นอนด้วยกัน ปรมะไม่ได้ไปนอนกับใครที่ไหน
หญิงสาวลุกไปจัดการตัวเองจนเสร็จสรรพ ออกจากห้องนอนมาด้วยชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้น รวบผมที่ปล่อยยาวสยายขึ้นมัดเป็นดังโงะเพื่อเตรียมเข้าครัวทำข้าวต้มกุ้งเมนูโปรดของเขา แม้รสชาติจะไม่ถูกปากเท่าไหร่นักแต่เธอก็ทำด้วยใจ
มือบอบบางนำกุ้งสดที่ซื้อเตรียมไว้ในตู้เย็นออกมาล้างทำความสะอาด เธอบรรจงแกะกุ้งออกอย่างไม่ชำนาญนัก แกะเสร็จก็นำไปล้างกับโซดาและแป้งมันอีกรอบอย่างที่เคยเจอในคลิปสอนทำอาหาร ไม่แน่ใจว่าใช่วิธีที่ถูกต้องไหม โดนเงี่ยงแหลม ๆ ตรงหัวกุ้งตำก็หลายแผล ไหนจะน้ำคาว ๆ กระเด็นใส่ ตอนเจียวกระเทียมกับซอยต้นหอมก็อีรุงตุงนังกว่าจะเสร็จออกมาได้ทำตะวันถอนหายใจไปหลายรอบ
ตั้งแต่เกิดมาก็มีคนคอยทำให้ทุกอย่าง ทว่าเพื่อปรมะแล้วตะวันก็ยังอยากลองทำ เมนูนี้เธอลองมาหลายครั้ง แรก ๆ ก็รสชาติหมาไม่รับประทาน ทั้งที่น่าจะเป็นเมนูง่าย ๆ ไม่ได้มีขั้นตอนการปรุงอะไรมาก วัตถุดิบมีไม่กี่อย่างหากก็ยังยากสำหรับตะวัน
ทว่าหลังจากลองผิดลองถูกลองทำซ้ำ ๆ มาหลายครั้ง หญิงสาวคิดว่ารสชาติล่าสุดคงจะพอถูไถ เธอวางแผนไปถึงขั้นจะลงเรียนทำเบเกอรี่ ไม่สิ... เรียนทำแค่ครัวซองต์ก็พอเพราะปรมะชอบกินอยู่แค่นั้นคู่กับกาแฟดำตอนเช้า
เมื่อเสร็จสรรพตะวันก็ตักใส่ชาม มองดูเมนูที่ตนเองเป็นคนรังสรรค์ด้วยความภาคภูมิใจ หญิงสาวคว้าสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายแล้วอัปสตอรี่ก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับคอมเมนต์ชื่นชม ส่วนคอมเมนต์แซะปากหมาเธอจะไม่สนใจ
ไม่นานปรมะก็เดินออกมาจากห้องหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว นั่งลงฝั่งตรงกันข้าม หญิงสาวนั่งเท้าคางมองเขาแล้วยิ้มให้ เป็นยิ้มพราวเต็มใบหน้า ตาเธอก็ยิ้มอย่างเคย เวลาอารมณ์ดีมักยิ้มแบบนี้เสมอ
ก็ดี จะได้ไม่โวยวายเรื่องเมื่อคืนที่เขามาช้ากว่าเวลาที่นัดไว้ ปรมะเลือกหยิบกาแฟมาจิบไม่สนใจข้าวต้มกุ้งที่หญิงสาวตักมาเสิร์ฟให้
“ทำไมไม่กิน” ตะวันเปลี่ยนจากยิ้มสดใสมาถามเสียงนิ่งมองเขาตาไม่กะพริบเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่คิดจะแตะข้าวต้มกุ้งที่เธอเลื่อนชามไปให้ จนปรมะถอนหายใจ
“ฝีมือเธอมันน่ากระเดือกลงซะที่ไหน” คำพูดไม่รักษาน้ำใจอย่างเคย แต่ตะวันก็ยังอดทนไว้ เธอชิน ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพูดแบบนี้เสียเมื่อไหร่
“ครั้งนี้อร่อยแล้ว ลองชิมดูหน่อยเร็ว” หญิงสาวคะยั้นคะยอ ตักขึ้นมาเป่าแล้วยื่นไปจ่อปากเขาแต่ชายหนุ่มก็ยังเบือนหน้าหนี
“ไม่” เสียงตอบเรียบเรื่อยติดรำคาญ
ตะวันก็ขยันทำโน่นทำนี่ให้เขากินจัง เกิดเป็นคุณหนูอยู่เฉย ๆ ดี ๆ ไม่ชอบ แต่ดันทุรังหาทำนั่นนี่ให้เขาเป็นหนูทดลองอยู่เรื่อย จะไม่ปฏิเสธเลยหากมันกินได้กินอร่อย แต่นี่อะไร พรสวรรค์ไม่มี พรแสวงก็ไม่น่าจะช่วยอะไร
“เลิกทำเถอะ คราวหลังซื้อเอานะ” แค่เห็นก็ไม่อยากอ้าปากรับเข้าไป
“ใจร้าย” หญิงสาวตัดพ้อ แล้วลุกเดินเข้าห้องนอนไปไม่นานก็ออกมาด้วยชุดนักศึกษาพอดีตัว กระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่า แม้ไม่โป๊มากหากก็โชว์ส่วนโค้งเว้าให้คนมองเกิดกระหายได้ไม่ยาก
ตะวันเดินมาคว้ากระเป๋าและกุญแจรถที่วางบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาห้องรับแขกแล้วเตรียมออกจากห้อง ตัวเธอเองก็ไม่กินแล้วข้าวต้มอะไรนั่น ปรมะใจร้ายจนพาลไม่อยากอาหารไปด้วย
“ตะวัน!” ไม่ทันที่หญิงสาวจะเดินออกจากห้องเขาก็เรียกเสียงดัง เธอหันกลับไปสบตาคู่คมที่มองดุ ๆ แสดงออกถึงความไม่พอใจ คุณชายปรมะผู้เย็นชาและชอบออกคำสั่งกำลังกลับมาประทับร่างอีกแล้วสินะ
“อะไร” หญิงสาวแสร้งเอียงคอถามหน้าซื่อตาใส
“ปล่อยผม” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยสั่งหากตะวันก็ไหวไหล่ แววตาคู่สวยแกมท้าทายว่า... ‘ไม่ทำ มีอะไรไหม’
ปรมะลุกพรวดจากแพนทรีแล้วก้าวฉับ ๆ มาทางหญิงสาว เขาประชิดตัวแล้วคว้าคอเธอมาจูบหนัก ๆ มืออีกข้างดึงยางรัดผมของเธอให้ดังโงะหลุด ปล่อยผมยาวสยายให้ทิ้งตัวลงจะถึงเอว
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ” ชายหนุ่มออกคำสั่ง บอกไปกี่ครั้งไม่รู้จักจำ ตะวันตั้งใจทำให้เขาหงุดหงิดใจ “อย่ามัดอีก”
“เอาแต่ใจ” ตะวันต่อว่า ทีกับเธอไม่เคยจะยอมให้ ในขณะที่เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้
ปรมะชอบผู้หญิงผมยาวเธอรู้ ทุกวันนี้ถึงยอมไว้ยาวเอาใจเขา แต่แค่ขอมัดรวบหน่อยก็ไม่ได้
ตะวันมองเจ้าของห้องเดินตรงไปทางลิฟต์ แล้วหันกลับไปมองถ้วยข้าวต้มกุ้งสองชามที่เป็นหมัน เธอจะเดินกลับเข้าไปเก็บชามหากเจ้าของห้องก็เรียกไว้
“วางไว้นั่น เดี๋ยวแม่บ้านเข้ามาจัดการ” สายตาคมออกคำสั่งให้เธอรีบตามมา
หญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปในลิฟต์เงียบ ๆ แล้วก้มลงมองมือทั้งสองข้างที่มีซากอารยธรรมจากการแกะกุ้งจนถลอกปอกเปิก กลบความนุ่มเนียนสวยงามไร้ความหยาบกระด้างที่เธอพร่ำบำรุงอย่างสม่ำเสมอแล้วก็ต้องถอนหายใจ
ได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมกันนะ ทั้งที่เธอก็เลือกได้ ทำไมถึงยังมองแต่เขา ต้องยอมเขาทุกอย่าง ทนให้เขาออกคำสั่งต่าง ๆ นานา แม้กระทั่งในเรื่องที่ไม่ได้ชอบ ไม่อยากจะทำ ทั้งที่เธอก็ไม่เคยยอมใคร แต่พอเป็นปรมะใจก็อ่อนยอมเขาง่าย ๆ ทุกทีเลย
หญิงสาวใช้เวลาในการเตรียมของกลับไทยเกือบครึ่งเดือนจนเพื่อนบ่นว่าจะเตรียมอะไรหนักหนา[ที่นานนี่เตรียมของกลับไทยหรือเตรียมใจกันค้า...] จูลี่บ่น สี่สาวโทรหากันในคืนก่อนที่ตะวันจะเดินทาง“เตรียมของค่ะ ลองมามีลูกอ่อนที่ชื่อแจ็คสันหยางดูสิคะเพื่อนขา... จะรู้ว่าเรื่องเยอะขนาดไหน” ตะวันบ่นกลับ ทำเอาอีกสามคนพร้อมใจกันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจกันว่าแจ็คสันเรื่องเยอะ ไอ้นี่ก็จะเอาไป ไอ้นั่นก็หวง ยิ่งบอกว่าไปอยู่สักพักใหญ่เด็กชายยิ่งอยากเอาของทุกชิ้นในห้องและของเล่นที่เป็นของตัวเองไปด้วยกันหมด เรียกได้ว่าย้ายบ้าน จนตะวันต้องปรามว่าเราไม่สามารถเอาทั้งหมดนี้ไปได้แจ็คสันเลยใช้เวลาเลือกนานมาก ไหนจะบอกว่าอยากอำลาญาติ ๆ ทุกคนด้วยการวนไปนอนทุกบ้านหลังละคืน ดูมันนะ! กว่าจะยอมเสด็จมาได้ลึก ๆ คือแจ็คสันกำลังกลัว ไม่ชินที่ต้องเดินทางไกล เด็กชายไม่เคยมาอยู่ที่ไทยเลยสักครั้งเท่าที่เขาจำความได้ เขาโตและชินกับคฤหาสน์ตระกูลหยาง ที่นั่นคือเซฟโซน ตะวันและคนอื่น ๆ จึงไม่อยากเร่ง รอจนกว่าเด็กน้อยจะสบายใจการเดินทางในวันพรุ่งนี้ก็เป็นการเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว มีการสแกนตั้งแต่นักบินยันพนักงานระดับล่างของสายการบิน
“โทษทีมึง”“ไม่เป็นไรมึง แต่อีนั่นเป็นอะไรก่อน ทางตั้งเยอะแยะไม่เดิน ขอโทษไม่เป็นรึไง” ตะวันตวัดค้อนใส่หลังไว ๆ ของคนที่เดินมาชน ที่ตอนนี้เดินห่างไปไกลลิบแล้ว“คุณหนูเป็นอะไรไหมครับ” บอดีการ์ดก้าวเข้ามาถามด้วยภาษาจีน ตะวันปัดมือตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า...“ไม่เป็นไร แค่เลอะ”“ไปล้าง ๆ นั่นห้องน้ำ” ตะวันกับต้าเหนิงพากันเดินเข้าห้องน้ำใกล้ ๆ โดยที่จูลี่และแจ็กกี้ก็ตามไปด้วยกัน แยกกันเข้าห้องน้ำชาย เหล่าบอดีการ์ดสองคนยืนรอแถวนั้นแต่ยังเว้นระยะห่างเพราะตะวันสั่งว่าอยากได้ความเป็นส่วนตัวห้องน้ำนี้มีทางเข้าสองทาง กล้างขวางแต่คนไม่พลุกพล่านสองสาวช่วยกันล้างทำความสะอาดเอาคราบเหนียว ๆ จากน้ำเชื่อมและคราบสีเหลืองจากมะม่วงไทยออกจากเสื้อราคาแพงของตะวันที่วันนี้เลือกใส่สีขาวมา“โอ้ย ออกยากด้วยนะ กลับไปซักที่บ้านเถอะ”“เออ จากที่สกปรกไม่มาก ตอนนี้เปียกเป็นทางเลยมึง สรุปเลอะกว่าเดิม” ตะวันพูดขำ ๆ“เคมึง กูฉี่แป๊บ” ต้าเหนิงเข้าห้องน้ำ ตะวันเลยก้มหน้าควานหาลิปสติกในกระเป๋ามาเติมปาก หากทันทีที่เงยหน้าขึ้นมามองกระจก ลิปสติกสีชมพูพีชยังไม่ทันได้จรดลงบนริมฝีปากบาง ตะวันก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายฉกรรจ์สองคน
“ทำไม อยากให้กลับไปว่างั้น” ตะวันถาม สีหน้าหญิงสาวราบเรียบเหมือนกับน้ำเสียง“แค่ถาม... กูสงสารหลาน”“สงสารอะไร แจ็คไม่เคยถามถึงพ่อเลยสักครั้ง” เธอเลี้ยงแจ็คสันมาอย่างดี คิดว่าให้ความรักความอบอุ่นกับลูกได้เต็มที่ และเพราะตอนนี้แจ็คสันอาจจะยังเด็กเกินกว่าจะถามถึงบิดาผู้ให้กำเนิด หรืออาจเพราะความไม่ขาด มีคนรักมากมาย อบอุ่นจนล้นแจ็คสันเลยไม่เคยถามอะไร ส่วนโตไปจะถามไหมค่อยว่ากันอีกที“เออ กูก็ลืมว่าทุกวันนี้ลูกมึงมีแดดดี้เยอะมาก...” แจ็กกี้ปล่อยขำเมื่อคิดถึงบรรดาผู้ชายที่เข้ามาขายขนมจีบให้ตะวัน รูปหล่อ ฐานะรวยมาก และโพรไฟล์ดี ๆ ทั้งนั้นแล้วพวกนั้นก็ยังอยู่เป็น ส่วนใหญ่จะเข้าทางแจ็คสันอีกต่างหาก คนไหนเอาใจเก่งถูกใจแจ็คสันเรียกแดดดี้หมดไม่สนว่าแม่อย่างตะวันจะชอบไหม ล่าสุดของเล่นเต็มบ้านจนต้องมีโกดังเก็บไม่รู้ว่าหากปรมะรับรู้จะทำสีหน้าอย่างไร ตะวันที่เคยให้ความสำคัญกับมันเพียงคนเดียว ไม่เคยมองใคร ตอนนี้เป็นดวงตะวันที่เฉิดฉาย ส่วนตัวมันเอง แม้จะหันมองตะวันให้เต็มตายังทำไม่ได้ กับลูกชายก็ยังไม่เคยได้เห็นหน้า ถ้าตะวันเกิดมีคนรักใหม่ไม่รู้ปรมะจะยอมถอดใจหรือจะกัดลิ้นหนีตายไปเสียก่อนสี่สาวช็อปปิ
“เอ้อ ว่าจะถามอยู่ เรื่องที่จะฟ้องเป็นไงบ้าง ได้ทนายรึยัง” ตะวันหันมาสนใจเรื่องทองแก้บนเส้นนั้นที่มีเรื่องมีราวกันเธอเคยเตือนแล้วว่าให้เอาทองปลอมไปใส่ให้ย่านาคเพราะตอนบนก็ไม่ได้ระบุเสียหน่อยว่าแก้บนด้วยทองอะไรแบบไหน น้ำหนักเท่าไหร่ แล้วดูสิ จูลี่มันคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ซื้อทองคำแท้หนักตั้งสิบบาทไปแก้บน ฝ่ายนั้นก็หัวหมอไม่ยอมคืน สุดท้ายก็มีเรื่องกันจนได้ ได้ยินว่าวันก่อนเพื่อนบอกจะไปคุยกับทนายไม่รู้ว่าของสำนักงานไหนตะวันรอคำตอบอยู่นานแต่ทั้งจูลี่และแจ็กกี้กลับชะงักนิ่งไปจนผิดสังเกต“เป็นอะไรกัน มีปัญหาอะไรกัน อย่าบอกนะว่าฟ้องเอาคืนไม่ได้ เฮ้ย มันต้องได้สิแก มันยังเป็นสิทธิ์ของคนแก้บนนะ เรายังไม่ได้ยกให้เขาเลย ยอมได้ยังไง” ตะวันเริ่มตีโพยตีพายเมื่อเพื่อนไม่ตอบ จนสุดท้ายเป็นแจ็กกี้ที่ทนไม่ไหวตัดสินใจเปิดปากเล่า“ตะวัน กูมีเรื่องจะเม้า” แจ็กกี้ตั้งท่าจะเม้าจริงจังให้หายคันปาก อยากโทรมาเล่าตั้งแต่ก่อนบินมาฮ่องกงแล้วด้วยซ้ำแต่จูลี่สั่งห้ามไว้ และตอนนี้ก็เช่นกันที่กำลังโดนจูลี่ตะครุบปิดปากอย่างไว“มึงหยุด!”“อื้อ! อีออก” แจ็กกี้ที่โดนอุดปากดิ้นรน เรียกเพื่อนด้วยภาษาดอกไม้“มีอะไร” ตะวันหรี่
“โอ้ย กัดกันไม่พัก!” ตะวันส่ายหน้าแล้วบ่นยิ้ม ๆ เวลาผ่านไปหลายปี เหล่าเพื่อนสนิทก็ยังกัดกันไม่เว้นแต่ละวัน มีเปลี่ยนไปบ้างก็เรื่องการใช้คำที่ไม่หยาบคายกันมาก ยิ่งในตอนที่อยู่ต่อหน้าหลาน กลัวเด็กมันจะจำจูลี่ แจ็กกี้ และต้าเหนิงบินมาหาเพื่อนกับหลานที่ฮ่องกงบ่อยมาก ซื้อของเล่นมาฝากหลานทุกครั้ง สนิทกับคนตระกูลหยาง โดยเฉพาะปู่และย่าของตะวันที่เอ็นดูทุกคนเหมือนลูกเหมือนหลาน พวกท่านเคยขอบคุณทั้งสามคนที่คอยมาสร้างรอยยิ้มให้ตะวันและแจ็คสันเหลนรักบ่อย ๆ รวมถึงคนในบ้านด้วยจนคุณอาโจชัวสุดหล่อสายเปย์ของตะวันถึงขั้นมอบสิทธิพิเศษให้บรรดาเพื่อนทั้งสามสามารถบินฟรีไทยฮ่องกงแบบไม่จำกัดครั้ง จัดชั้นที่นั่งบิสซิเนสคลาสให้ เพื่อที่ตะวันหลานรักจะได้เจอเพื่อนบ่อย ๆ ไม่เหงามาก จนทุกวันนี้ตะวันอยู่ดีมีความสุข กินได้นอนหลับ หน้าตาสดใสขึ้นในทุก ๆ วัน สิ่งนี้ต่างหากที่มันประเมินค่าไม่ได้สิ่งที่คนตระกูลหยางเชื่อเหมือนกันคือ ‘แม่ที่มีความสุขเท่านั้น ถึงจะสามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุขได้’แจ็คสัน หยาง ทายาทของตระกูลหยางจะได้เติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี และมีความสุขอย่างไรล่ะ“แล้วของขวัญของฉันล่ะ?” ตะ
ได้ยินจากปากเพื่อนสนิทของหญิงสาวก็ยังอดดีใจไม่ได้ ดีใจที่ตะวันสดใส แม้ส่วนลึกก็แอบเจ็บปวดใจเมื่อเขาไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ตะวันยิ้มได้อีกแล้วก็เท่านั้นเรื่องตะวันพอได้รู้บ้าง ตอนนี้เธอไว้ผมสั้นประบ่า หน้าตามัธยมแต่นมมหาลัย ยิ่งผมสั้นยิ่งเหมือนเด็ก เป็นเด็กที่โคตรน่าเอาเธอน่ารัก ผิวขาวจัด เวลามือเขาบีบหรือสัมผัสจะขึ้นสีชมพูชัดมาก เมื่อก่อนเขามักชอบให้เธอไว้ผมยาว ปล่อยสยาย เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะหวงต้นคอขาว ๆ ของเธอ ไม่ชอบให้ใครมอง กลัวจะมีใครหลงเวลาได้เข้าใกล้ กลิ่นตัวตะวันหอมจะตายชักคิดถึงเรื่องตะวันวนเวียนอยู่ในหัวตลอด แต่เรื่องลูกเขาไม่เคยรับรู้อะไรทั้งนั้นนอกจากเพศว่าเป็นเด็กผู้ชายตะวันเคยอัปรูปลูกชายอยู่บ้างสองสามครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นหน้า เป็นเพราะการรักษาความปลอดภัยในฐานะทายาทตระกูลหยาง ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งต้องระมัดระวังแต่หญิงสาวกลับโดนวิจารณ์ มีชาวเน็ตคอมเมนต์ถามเหตุผล ตะวันก็ให้เหตุผลว่าเพราะอยากรักษาสิทธิ์ของลูก และนั่นทำให้เธอโดนด่ายับว่ากระแดะและคำด่าทอเสียดสีสารพัดทั้งที่จริงการจะเปิดหรือไม่เปิดหน้าลูกเป็นสิทธิ์ของตะวัน ไม่ได้เกี่ยวห่าเหวอะไรกับพวกมันเลยด้วยซ้ำค