ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“อร๊ายยยย!!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นด้วยความกลัวและตกใจ มือเล็กปิดหูทั้งสองข้างเอาไว้แน่น ก่อนที่ร่างกายจะลอยไปตามแรงของชายหนุ่ม
ตุบ!!
“โอ๊ย!”
ร่างเล็กถูกเหวี่ยงเข้ามาในรถ ทำให้ร่างกายกระแทกกับเบาะอย่างแรง ใบหน้าสวยยู่หน้าด้วยความเจ็บ ถึงแม้ในใจอยากจะด่าคนทำมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเธอกลัวจนทำอะไรไม่ถูก
ปรื้นนน~
รถยนต์คันหรูขับเคลื่อนออกไปด้วยความเร็ว พร้อมกับรถยนต์อีกสองคันขับตามออกไปติดๆ
“หมอบลง!!” มาเฟียหนุ่มเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงดุดัน พร้อมกับจับคนตัวเล็กให้นั่งลงที่พื้นเพื่อความปลอดภัย
“ช่วยหนูด้วย หนูยังไม่อยากตาย” ฮันน่าหลับหูหลับตายกมือขึ้นไหว้ด้วยความกลัว เกิดมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยสักครั้ง ทำเอาร่างเล็กสั่นไปหมดทั้งตัว
เคย์สันมองคนตัวเล็กนั่งตัวสั่น ก่อนจะยกยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ก่อนหน้านี้เธอยังทำเป็นเก่งอยู่เลยด้วยซ้ำ
ปัง!! ปัง!!
เสียงปืนดังขึ้นตลอดทาง และไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงเลยสักนิด โชคดีที่เวลานี้ไม่มีผู้คนขับรถผ่าน และตอนนี้เหลือรถยนต์เพียงสองคันที่ตามไล่ยิงกันอยู่ ส่วนรถยนต์อีกคันนั้นถูกยิงเสียหลักลงข้างทางไปแล้ว
“สงสัยจะเป็นพวกเดิมครับ รอบก่อนมันทำไม่สำเร็จก็เลยกลับมาแก้มือใหม่” โรมันรายงานไปตามที่คิดเอาไว้ เพราะศัตรูของเจ้านายมีเพียงไม่กี่คนที่จ้องจะตามฆ่าแบบนี้
“รอบนี้พวกมันคงอยากตายจริงๆ” น้ำเสียงทุ่มต่ำเอ่ยบอก ทั้งที่รอบก่อนเขาให้โอกาสปล่อยตัวไป แต่ก็ไม่สำนึกแบบนี้คงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแล้ว
“พวกมันดักรอที่หน้าบ้านเยอะเลยครับ” โอนิกซ์ได้รับรายงานจากลูกน้องที่บ้านมาก็รีบรายงานเจ้านายทันที
“งั้นไปพักที่เพนท์เฮาส์”
นอกจากบ้านพักหลังใหญ่เคย์สันยังมีเพนท์เฮาส์ส่วนตัว ซึ่งเป็นที่ๆ ปลอดภัยที่สุดสำหรับเขา
“ครับ” โรมันรับทราบแล้วเปลี่ยนเส้นทาง ตรงไปยังเพนท์เฮาส์ส่วนตัวของเจ้านายทันที
ปัง!! ปัง!!
“พระเจ้าช่วยหนูด้วย หนูยังไม่อยากตายตอนนี้ หนูยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ได้โปรดช่วยหนูด้วยค่ะ” คนตัวเล็กเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไหว้ขอพร ไม่ยอมมองหน้าใคร
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าเสียงปืนจะสงบลง เนื่องจากเป็นเส้นทางใหม่ ทำให้ฝ่ายศัตรูไม่คุ้นชิน จึงถูกลูกน้องของมาเฟียหนุ่มดักทำร้ายจนรถเสียหลักไป
“จะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ต่อไปครับ”
โรมันถามขึ้นเมื่อรถยนต์จอดสนิทที่หน้าเพนท์เฮาส์ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่ต้องถามอะไร มีผู้หญิงสาวสวยตามมาขนาดนี้คงไม่รอดแน่ และเจ้านายคงจะจัดการเธอตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว
แต่พอเจ้านายแต่งงานและสูญเสียภรรยาไปพร้อมกับลูกในท้อง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด ราวกับเคย์สันคนเก่าได้ตายไปแล้ว จากชีวิตที่เคยมีสีสันตอนนี้มีเพียงความว่างเปล่าและมืดมน เขาไม่สนใจหรือยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย
และที่เจ้านายยังนิ่งอาจจะเป็นเพราะยังไม่อยากรักใคร ยังไม่อยากเปิดใจกลัวคนรักจะได้รับอันตรายเหมือนที่เคยผ่านมาอีก
“เห็นหรือยังว่าชีวิตมาเฟียเป็นยังไง มันไม่ได้สวยหรูเหมือนในนิยายหรือซีรี่ย์ที่เธอเคยดูหรอก รีบกลับไปซะ!!”
เคย์สันมองหญิงสาวที่นั่งกลัวจนตัวสั่น ถึงแม้จะจอดรถแล้วแต่เธอก็ยังปิดหูปิดตาไม่ยอมเปิด
“ไปส่งเธอให้ถึงบ้าน” น้ำเสียงเด็ดขาดเอ่ยบอกลูกน้อง
“ครับ” โรมันรับคำสั่งและทำตามหน้าที่
“ฉันไม่กลับ!!” ฮันน่าตอบเสียงแข็ง มาถึงขนาดนี้แล้วเธอจะไม่ยอมกลับไปง่ายๆ เด็ดขาด
“….” มีเพียงความเงียบ ทุกคนต่างมองไปที่สาวสวยด้วยความสงสัย
“ถ้าอยากให้กลับก็เอาเบอร์มาสิ” ฮันน่ายังคงหาเรื่องต่อรอง ยังไงวันนี้เธอก็จะเอาเบอร์โทรเขาให้ได้
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปมไม่คิดว่าเธอจะดื้อขนาดนี้ ความตายมาเยือนแล้วแท้ๆ แต่ก็ไม่รู้จักเข็ด ไม่รู้จักจำ เมื่อกี้ยังนั่งกลัวจนตัวสั่นอยู่เลย
แต่เคย์สันก็ไม่ได้สนใจในคำพูดของหญิงสาว ร่างสูงเดินตรงเข้าไปยังเพนท์เฮาส์ส่วนตัวทันที
โรมันลูกน้องคนสนิทมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่พอดูไปดูมาผู้หญิงคนนี้ก็สวย และยังมีหน้าตาที่คล้ายกับคุณมีนาอดีตภรรยาของเจ้านายอีกด้วย
ฮันน่ารีบเดินตามมาเฟียหนุ่มเข้าไปภายในเพนท์เฮาส์อย่างไม่รอช้า โดยที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่จะตามมา
เมื่อก่อนเพนท์เฮาส์ถูกตกแต่งด้วยสีขาวสว่าง แต่พอมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เคย์สันก็สั่งให้เปลี่ยนทุกอย่างในห้องเป็นสีดำจนหมด
เคย์สันชอบทำงาน และใช้เวลาว่างทั้งหมดตามสืบเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เวลานอนเขามักจะฝันร้ายถึงเรื่องราวในอดีต เขาก็เลยใช้เวลาทั้งหมดตามสืบเรื่องราวของอดีตภรรยา เพราะเขาเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างแน่นอน
“ที่คุณไม่ยอมให้เบอร์เพราะอยากเล่นตัวหรืออยากให้ฉันอยู่ด้วยกันแน่ ทำไมถึงไม่ยอมให้สักที”
ฮันน่าตัดสินใจถามไปตามตรงในสิ่งที่เธออยากรู้ เพราะไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็อยากอยู่ใกล้ผู้หญิงสวยๆ กันทั้งนั้น และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะคิดเข้าข้างตัวเอง
ร่างสูงหันกลับไปมองใบหน้าสวยอย่างเอาเรื่อง ไม่คิดว่าเธอจะดื้อขนาดนี้ ตอนอยู่บนรถยังทำเป็นกลัวจนตัวสั่น แต่ทำไมตอนนี้เธอดื้อไม่ยอมฟัง หรือว่าเธออยากจะลองดีกับเขา!!
..
ฮันน่ามาแล้วค่าาา
น้องก็ดื้อแบบคูณสิบไปเลยสิคะ ><
เช้าวันต่อมาฮันน่ากับเคย์สันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จทั้งสองก็จัดการเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เรียบร้อยค่าใช้จ่ายในงานทั้งหมดที่เคย์สันต้องจ่ายเกือบสองล้าน เพราะมีทั้งค่าสถานที่ ค่าอาหาร ค่าเวที ค่านักร้อง ค่าเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งยังไม่รวมค่าชุดกับค่าแต่งหน้าที่เขาจะต้องกลับไปเคลียร์ที่กรุงเทพฯ อีกวันนี้ฮันน่าชวนเคย์สันออกไปเดินเล่นที่ริมทะเล เนื่องจากต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวัน จึงต้องออกมาเดินเที่ยวเล่นชมบรรยากาศกันสักหน่อย“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฮันน่าถามขึ้นเมื่อเคย์สันเดินเข้ามาด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่“เอ่อ… คือ งานที่กรุงเทพมีปัญหา ต้องรีบกลับไปเคลียร์” เคย์สันอ้ำอึ้งก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา ซึ่งเป็นงานสำคัญที่เขาไม่อาจจะเลี่ยงได้“หนูขอไปเก็บของก่อนได้มั้ยคะ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ถึงในใจจะแอบผิดหวังอยู่บ้าง“ไม่อยู่เที่ยวต่อเหรอ” มาเฟียหนุ่มถามขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าฮันน่าชอบทะเลมากแค่ไหน ถ้าได้มาแล้วเขาก็อยากจะให้เธอได้พักผ่อนที่นี่ก่อน“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกลับพร้อมเฮียเลยดีกว่า” ฮันน่าตอบ“เดี๋ยวจะพามาเที่ยวใหม่
พิธีการต่างๆ ถูกดำเนินมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของงาน นั่นก็คือการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ ถึงแม้แขกบางส่วนจะทยอยกลับกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังเหลือบางส่วนที่รออยู่จนถึงขั้นตอนนี้ทุกคนต่างก็ร่วมอวยพรให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวออกไปเพื่อให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนและมีเวลาส่วนตัว“ม๊าอยากเลี้ยงหลานแล้วนะ” ก่อนจะออกไปคุณแม่ของฮันน่าก็ไม่ลืมที่จะพูดย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง“ม๊าคะ” ใบหน้าสวยร้อนแผ่วรู้สึกเขินอายในสิ่งที่คุณแม่พูดออกมา“ไม่ต้องห่วงนะครับ” เคย์สันหันไปบอกแม่ยายพร้อมรอยยิ้ม เพราะเขาเองก็อยากจะมีลูกแล้วเหมือนกันหลังจากที่ทุกคนเดินออกไป เคย์สันก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงกว้างทันที“เหนื่อยมั้ย” มาเฟียหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง มือหนาจับปลายคางให้เชิ่ดขึ้น เพื่อที่เขาจะได้มองใบหน้าสวยได้ชัดเจน“นิดหน่อยค่ะ” ฮันน่าฉีกยิ้มกว้างถึงแม้จะเหนื่อยแต่ทุกอย่างก็คุ้มค่าสำหรับเธอ“แล้วเมื่อไหร่เราจะมีลูกด้วยกัน” เคย์สันถามขึ้น เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าฮันน่าจะท้องเลยสักนิด ทั้งๆ ที่เขาตั้งใจทำมาตลอด“เฮียอยากมีลูกเหรอคะ” ฮันน่าถามย้ำด้วยความตก
วันต่อมาเวลา 16:00 น.แสงแดดอ่อนๆ กับสายลมเย็นสบาย เสียงคลื่นซัดสาดเป็นระยะ บรรยากาศเย็นสบายตามแบบฉบับของธรรมชาติหาดทราย สายลม แสงแดด ท้องฟ้าสีสวย กับทะเลสีคราม ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นความฝันของผู้หญิงหลายๆ คนโต๊ะเก้าอี้จัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงาม มีทั้งโซนอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับแขกทุกคนที่มาร่วมงานทางเดินเล็กๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เดินขึ้นเวที และตลอดทางก็มีดอกกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดจัดเรียงเอาไว้ทั่วงาน ซึ่งดูสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมากและตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเริ่มงานแล้ว แขกในงานก็เริ่มทยอยมากันจนใกล้จะครบแล้ว บรรดาเพื่อนๆ ต่างทำหน้าที่ต้อนรับแขกแทนเจ้าของงานได้เป็นอย่างดีทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างก็เป็นคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนสนิทที่ต่างก็มาร่วมแสดงความยินดีในงานวันนี้“ข้างนอกคนเยอะมั้ย” ความตื่นเต้นทำเอาเจ้าสาวของงานเดินไปเดินมาไม่หยุด ใครเข้ามาก็ถามทุกครั้งว่าคนเยอะหรือเปล่าฮันน่าอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา ภายนอกอาจจะดูเรียบๆ แต่กลับมีลายปักดอกไม้แฝงอยู่ด้านในเพื่อเพิ่มเสน่ห์และลวดลายให้ดูน่าค้นหามากขึ้น“ไม่เยอะหรอก” ค
สามเดือนต่อมา@ภูเก็ตประเทศไทยฮันน่าตรวจดูความเรียบร้อยทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะงานนี้จะต้องออกมาดีและสวยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ อาหาร ดอกไม้ และโรงแรม เรียกได้ว่าฮันน่าดูแลทุกขั้นตอนทว่าฮันน่าคนเดียวคงดูแลไม่ไหว เพราะมีเพื่อนๆ คอยให้คำปรึกษาและแนะนำอยู่ตลอด อย่างเช่นตอนนี้…“งานนี้ต้องออกมาสวยมากแน่ๆ”นาเดียพูดขึ้นพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ เมื่อทุกอย่างใกล้จะเสร็จเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแค่เพียงเก็บรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ ก็น่าจะเสร็จเรียบร้อยดี“ขอบใจมากนะที่มาช่วย” ฮันน่าขอบคุณนาเดียที่มาช่วยเธอออกแบบและทำทุกอย่าง“เพื่อนจะแต่งงานทั้งทีก็ต้องมาช่วยสิ เดี๋ยวอีกหน่อยพวกนั้นก็คงมาถึง” นาเดียบอกพร้อมรอยยิ้ม และอีกหน่อยคริสตัลกับไอรินก็คงจะมาถึงกันแล้ว“แล้วพี่หมอล่ะ” ฮันน่าถามถึงคุณหมอคีรินทันที“ทำงานอยู่ คงจะมาถึงตอนดึกๆ นู้นแหละ” นาเดียตอบไป เพราะช่วงนี้คนไข้เยอะพี่หมอก็ทำงานจนแทบจะไม่ได้พัก“แล้วพวกนั้นถึงไหนกันแล้ว” ฮันน่าเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เมื่อเห็นนาเดียทำหน้าเศร้าขึ้นมา“อ้าว นั่นไงมาถึงพอดีเลย” นาเดียชี้ไปยังทางเดินที่มีสองสาวกำลังเดินมา“ใครเป็นคนออกแบบเนี่ย จัดงานได้
วันต่อมา“อื้อออ” ร่างเล็กรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อมีแสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องนอน ร่างกายร้าวระบมไปทั่วทุกส่วนจนแทบจะขยับไม่ได้ฮันน่ามองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งเขานั้นจะเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวในชีวิตเธอร่างบางพยายามขยับตัวช้าๆ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่น เพราะเธออยากจะให้เขาได้นอนพักต่ออีกสักนิดวันนี้ฮันน่าเลือกใส่ชุดเดรสแขนสั้นคลุมเข่าเนื้อผ้าเบาสบาย เพราะเธอจะต้องไปรับและพามินตราไปเที่ยวตลอดทั้งวัน“สายแล้วนะคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” ฮันน่าก้มลงกระซิบบอกที่ข้างหูของมาเฟียหนุ่มเหมือนทุกครั้ง“ทำไมช่วงนี้ตื่นเช้าทุกวันเลย” เคย์สันถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะเป็นฝ่ายปลุกเธอตลอด“พาหนูมินไปเที่ยวกันค่ะ” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีเมื่อพูดถึงเด็กตัวเล็ก“เที่ยวที่ไหน” เคย์สันยังคงถามต่อ เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพามินตราไปเที่ยวที่ไหน“ทะเลค่ะ หนูเตรียมชุดเอาให้เฮียแล้วนะคะ”“ห้ามใส่บิกินี” น้ำเสียงดุดันเอ่ยห้ามก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ“รู้ได้ไง” ฮันน่าถึงกับนั่งทำหน้าเซ็ง เพราะเธอแอบเตรียมชุดว่ายน้ำใส่ในกระเป๋าเ
@โรงแรม“เป็นอะไรหรือเปล่า?”เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องพัก เคย์สันก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าฮันน่าจะคิดมากเรื่องที่เขาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้มีนากับลูกสาว“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างเพื่อยืนยันคำตอบว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ“คิดมากเรื่องมีนามั้ย”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่ฉันเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้มีนากับลูกสาวไง”“หนูเข้าใจทุกอย่าง ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ” ฮันน่าตอบไปตามความจริง เพราะเธอไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิด“จริงเหรอ” มาเฟียหนุ่มถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ“จริงค่ะ แบบนี้สิคะถึงเหมาะที่จะเป็นพ่อของลูกในอนาคต” ฮันน่าบอกอย่างภูมิใจ อย่างน้อยเธอก็ได้คนดีๆ อย่างเคย์สันมาร่วมใช้ชีวิตด้วยกัน และเธอคงจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีและมีความสุขมากแน่ๆ“ฉันก็นึกว่าเธอจะน้อยใจซะอีก” เคย์สันตอบไปตามที่คิด“หนูไม่ใช่คนงี่เง่านะคะ แล้วอีกอย่างหนูก็เป็นคนดีด้วย” ฮันน่ายิ้มกว้างไม่อยากให้ชายหนุ่มคิดมาก“ขอบคุณนะที่เข้าใจฉัน” มือหนารวบร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น“ก็รักไงคะหนูถึงเข้าใจ” ฮันน่ากอดชายหนุ่มเอาไว้แน่นไม่ต่างกัน นับวันเธอยิ่งรักเขามากขึ้น“ไปอาบน้ำกันเถ