Share

17 : ยอม

Author: Lucky rich
last update Last Updated: 2025-10-19 13:06:56

17:

ยอม

แอ๊ดดดดด

หน้าประตูมีผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาคุ้นๆท่าทางดีมีฐานะกับผู้หญิงหน้าตาสะสวยดูดีไปทุกกระเบียดนิ้วแต่กิริยาท่าทางไม่น่าดูสักเท่าไหร่ ดูจากสายตาที่มองจิกมากวาดสายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย

"เอ่อ..สะสวัสดีค่ะ"

"นี่น่ะหรอแม่ผู้หญิงที่ตาโซ่เก็บมาเลี้ยงไว้"

ทันทีที่ฉันยกมือไหว้คนที่สูงวัยก็เอ่ยสวนขึ้นมาทันที

"ใช่ค่ะคุณป้าขาแม่นี่แหละค่ะที่มาเกาะพี่โซ่...มีคนบอกน้องเพรียวมา"

ผู้หญิงสูงวัยปราดสายตามองมาที่ฉันอย่างไม่เกรงใจ มองจนฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวอะไรสักอย่างในสายตาพวกเขา

"ฉันเป็นแม่ของโซ่แล้วฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอเป็นใครมาอยู่กับลูกชายฉันในฐานะอะไร แต่ผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายที่หอบผ้ามาอยู่กับผู้ชายอย่างเธอควรจะเจียมเนื้อเจียมตัวไว้บ้างว่าเรามันคนละชั้นกัน"

"............" ฉันได้แต่เงียบฟังเฉยๆนึกหาคำพูดอะไรไม่ออก

"ส่วนนี่น้องเพรียวลูกสาวท่านรัฐมนตรีคู่หมั้นของโซ่ผู้หญิงที่เหมาะสมและคู่ควรกับโซ่ที่สุดหลังเรียนจบเขาก็จะแต่งงานกันทันที"

เหมือนโดนกำปั้นใครซัดเข้าที่ใบหน้า หมัดแรกยังไม่ทันจางหาย หมัดที่สองตามมาซ้ำเข้าอีกที จุกในใจจนพูดไม่ออก สงสารชะตาชีวิตตัวเองเหลือเกิน

"อย่าหาว่าฉันใจร้ายใจดำเลยนะฉันมีลูกชายแค่คนเดียวอยากให้เขาได้เจอคนดีๆคนที่คู่ควรกับเขาไม่ใช่ผู้หญิงที่มีแต่ตัวแบบเธอที่อยู่ๆก็หอบผ้าหอบผ่อนตามเค้ามา"

"คะ...คือว่า"

"เอาอย่างนี้เธอต้องการเท่าไหร่แลกกับการที่จะไปจากชีวิตลูกชายของฉันซะ"

ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบให้แทน คนรวยเค้าพูดกันง่ายดีเนอะไม่พอใจอะไรกันก็ใช้เงินฟาดหัวกันเข้าไป สำหรับฉันถึงแม้จะต้องอดตายแต่ฉันก็มีศักดิ์ศรีของความเป็นคนเหลืออยู่ แม้ในสายตาคนอื่นฉันจะไม่เหลือแม้แต่ความเป็นคนเลยก็ตาม

"อย่าลำบากเลยค่ะ ดิฉันตั้งใจที่จะย้ายออกไปอยู่แล้วค่ะ"

"เธออย่ามาเสแสร้งทำเป็นคนดีมีศักดิ์ศรีไปหน่อยเลยรับเงินจากคุณป้าแล้วก็ไปซะต้องการเท่าไหร่ก็ว่ามา?"

คุณหนูลูกเศรษฐีเอ่ยแทรกขึ้นมา

"เอางี้ฉันให้เธอห้าล้านแล้วไปจากที่นี่ซะเชื่อเถอะว่าชาตินี้เธอไม่มีปัญญาหาได้มากขนาดนี้แน่ๆรับๆไปแล้วก็ไสหัวไปซะ"

คุณแม่ของโซ่หยิบสมุคเช็คมากรอกจำนวนตัวเลขก่อนจะโยนใส่หน้าฉัน

ฉันค่อยๆใช้มือที่สั่นระริกหยิบแผ่นกระดาษใบนั้นขึ้นมาดู

"ไปซะผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับลูกชายของฉันหรอก"

ฉันกำเช็คใบนั้นแน่นกลั้นเสียงสะอื้นไห้ไว้ในอก ก่อนจะฉีกมันออกมาเป็นชิ้นๆ

"ขอโทษนะคะถึงดิฉันจะจนแต่ดิฉันก็ไม่เคยต้องการเงินจากคุณแม้แต่บาทเดียว"

"หนอยยยนังบ้าอวดดีที่สุด" คุณหนูผู้ดีหลุดคำหยาบออกมา

ฉันเดินหิ้วกระเป๋าใบเล็กออกมาพร้อมกับเสียงด่าทอลับหลังอย่างเกรี้ยวกราด ปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย ก่อนจะฮึดสู้อีกสักตั้ง ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน เมื่อที่แบบนี้ไม่เหมาะกับคนอย่างฉันจริงๆ

ตอนที่หิ้วกระเป๋าออกมาถึงหน้าประตูห้องฉันเจอผู้ชายคนหนึ่งที่บังเอิญเดินมาชนฉันพอดีจนฉันเซเกือบล้ม โชคดีที่เขารั้งเอวฉันไว้ได้ทันเลยทำให้ไม่หกล้มให้ต้องเจ็บตัวอีก โถชีวิตฉันแค่จะเดินยังมีคนชนซะเกือบล้มแล้วอนาคตข้างหน้าฉันจะเป็นยังไงเนี่ย

เหลืออีกแค่ปีนึงที่ฉันจะเรียนจบแต่ฉันตัดสินใจว่าจะดร็อปเรียนไปหาทำงานเก็บเงินสักปีนึงแล้วค่อยกลับมาเรียนต่อ จบทีหลังเพื่อนๆก็คงไม่เป็นไรถึงตอนนั้นพวกเขาคงจะเรียนจบกันแล้วล่ะไม่ต้องเจอใครอีก

ฉันตัดสินใจว่าจะขึ้นไปอยู่เมืองเหนือไปหาที่พักและสมัครงานที่นั่น

~หนึ่งปีต่อมา~

อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

อากาศที่นี่ดีมากสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก อันที่จริงตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะดร๊อปเรียนไว้ก่อน แต่อาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำว่าให้ฉันโอนหน่วยกิตไปเรียนต่อที่โน่นก็ได้ เสียดายเวลาเหลืออีกแค่ปีเดียว ฉันก็เลยตัดสินใจโอนหน่วยกิตมาเรียนมหาลัยที่นี่แทนแล้วทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนและวันเสาร์อาทิตย์เอา

ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้วนะคะรอรับปริญญาอย่างเดียว ตอนแรกฉันก็เป็นแค่พนักงานชั่วคราวในโรงแรมที่นี่ แต่ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้วทำงานได้เต็มที่แล้วล่ะ ตอนนี้ฉันก็เลยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรมแบบเต็มตัว

จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปีผ่านมาหนึ่งปีแล้วสินะนับตั้งแต่ย้ายมาจากที่นั่นฉันก็ไม่เคยรับรู้ข้าวคราวของบรรดาเพื่อนๆอีกเลย เรียกได้ว่าตัดขาดจากโลกภายนอกไปอย่างสิ้นเชิง โทรศัพท์ฉันเปลี่ยนเบอร์ใหม่ไม่เล่นโซเชี่ยลอะไรทั้งสิ้นใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แต่ถึงแม้จะผ่านมาเกือบปีแล้วแต่ความเจ็บปวดในใจยังคงอยู่ ไม่เคยมีคืนไหนที่จะหลับตาลงโดยที่ไม่ร้องไห้สักคืน หลับตาลงก็เห็นแต่หน้าผู้ชายใจร้ายทุกครั้งไป ฉันทำงานส่งเงินกลับไปให้ที่บ้านเด็กกำพร้าเหมือนเดิม ตั้งใจทำงานเก็บเงินได้จำนวนนึงแล้ว

"สวัสดีค่ะคุณภาค"

ฉันยกมือไหว้ผู้ชายที่เดินเข้ามาภายในโรงแรมที่ฉันทำงานอยู่ ผู้ชายตัวสูงผิวพรรณขาวละเอียด หน้าตาหล่อเหลา

"สวัสดีครับ...บอกแล้วไงว่าให้เรียกพี่ภาคน่ะ"

"ไม่ได้ค่ะคุณภาคเป็นเจ้านายลี่ไม่กล้าหรอกค่ะ"

ใช่ผู้ชายหล่อลากคนนี้เป็นเจ้านายของฉันเองเขาเป็นเจ้าของโรงแรมนี้และเป็นคนที่รับฉันเข้ามาทำงานด้วย ใจดีขี้เล่นบังคับให้ฉันเลิกเรียกเขาว่าคุณภาคแล้วเปลี่ยนมาเรียกเขาว่าพี่ภาคแทน แต่ฉันไม่กล้าอาจเอื้อมหรอกนะ

"เฮ้อ...ลี่นะลี่บอกแล้วไงว่าให้คิดซะว่าเราทำงานเป็นครอบครัวเดียวกันไม่มีเจ้านายไม่มีลูกน้องทำไมไม่เชื่อพี่บ้างนะ"

คุณภาคถอนหายใจส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินผ่านฉันไปและเดินย้อนกลับมาหาฉัน

"เย็นนี้ไปกินข้าวกับพี่นะห้ามปฏิเสธเด็ดขาด"

"..........."

เออเนอะเกิดเป็นอิลี่ไม่เคยมีคำว่าไม่นอกจากคำว่าได้อย่างเดียวสินะ ไม่ว่าใครอิลี่ก็ต้องยอมตลอด

ฉันรู้ว่าคุณภาคคิดยังไงกับฉัน แต่ทั้งชีวิตนี้ฉันรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากโซ่ ฉันรู้ว่าตัวเองโง่มากทั้งโง่ทั้งงี่เง่าที่ไม่ยอมตัดใจลืมโซ่ไปซักที แต่ชีวิตที่ตั้งแต่มีโซ่เข้ามามันมีแต่ความผูกพันธ์ ความห่วงหา หลายสิ่งหลายอย่างมากเหลือเกินที่ทำให้ฉันไม่สามารถเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิตได้อีก

ใครจะรู้ว่าฉันต้องทำใจให้เข้มแข็งซักแค่ไหนที่ต้องจากมาทั้งๆที่รักเขามากเหลือเกิน แต่ในเมื่อเขาไม่เคยรักเราเลย แถมครอบครัวเขาก็ยังรังเกียจเราอีกต่างหาก ไม่รู้ชาติที่แล้วฉันทำเวรกรรมอะไรกับใครไว้นะชาตินี้ถึงต้องมาชดใช้อย่างแสนสาหัส ตั้งแต่จำความได้พ่อแม่ก็ไม่มีอย่างคนอื่นเค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าเป็นใครทำไมต้องทิ้งฉันไปด้วย พอเริ่มโตหน่อยก็ออกมาใช้ชีวิตเพียงลำพังปากกัดตีนถีบดิ้นรนเลี้ยงตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง พอเจอคนที่รักเขาก็ไม่รักกลับแถมทำร้ายใจจนเจ็บสาหัส เจอคำดูถูกเหยียดหยามต่างๆนาๆ

"ลี่ๆเป็นอะไร?ร้องไห้ทำไมเนี่ย"

อ้าวนี่ฉันร้องไห้หรอเนี่ย ลองเอามาปาดๆน้ำตาเอ้านี่ฉันร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย

"อ๋อเปล่าๆแสบๆตาสงสัยฝุ่นมันเข้าตาอ่ะ"

"โอเคไม่เป็นไรก็ดีแล้วงั้นฉันไปทำงานก่อนนะเจอกันตอนเลิกงาน"

นิดหน่อยเพื่อนร่วมงานของฉันที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะมาเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของฉันบอกก่อนจะวิ่งไปอีกด้านนึง เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวตัวเล็กๆน่าตาจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดูเชียวล่ะ แถมนิสัยใจคอก็ใช้ได้ น่ารักอ่อนหวานนิสัยดีเชียวล่ะ

หน้าที่ฉันคือคอยต้อนรับลูกค้าที่จะมาเข้าพักที่โรงแรมที่นี่ คอยอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้ลูกค้าแนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆให้ด้วย โรงแรมจะมีวันหยุดให้อาทิตย์ละ1ครั้ง ในช่วงวันหยุดฉันก็รับจ๊อบพิเศษเป็นไกด์นำทางให้ลูกค้าที่อยากไปเที่ยวถือเป็นอาชีพเสริมที่ทำรายได้ดีเลยเชียวล่ะ โดยคนที่แนะนำลูกค้าให้ฉันก็คือคุณภาคนี่แหละ คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาทุกอย่างแต่ฉันก็ไม่สามารถให้เค้าเป็นมากกว่านี้ได้อีก แต่คุณภาคเค้าก็เข้าใจฉันนะ เพราะนี่ไม่ใช่แค่คนแรกที่ฉันบอกปฏิเสธ มีหลายคนเข้ามาขอโอกาสดูแลฉัน แต่ฉันไม่สามารถเปิดใจรับใครได้อีกแล้ว

หลังเลิกงานฉันมายืนรอยัยนิดหน่อยเพื่อจะให้เธอไปทานข้าวกับคุณภาคด้วยกัน ฉันก็แค่ไม่อยากไปไหนตามลำพังกับคุณภาคแค่สองคนเพราะฉันไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดและมองไม่ดีนั่นแหละ

"มาแล้วๆไปกันยัง?"

นิดหน่อยวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาอย่างเหนื่อยอ่อน

"เห้ยใจเย็นๆไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้รอคุณภาคก่อน"

"ห๊ะ!!!คุณภาคไปด้วยหรอ?"

"ก็ใช่แล้วแกจะตกใจทำไมเนี่ยยย"

"อ้าวหรอแฮ่ๆลืมตัว"

บางทีนิดหน่อยมันก็ไม่เนียนไปนะหัวเราะแบบกร่อยๆออกมา มันก็คงจะคล้ายๆแบบฉันล่ะมั้งที่แอบรักเพื่อนตัวเอง แต่มันแอบหลงรักเจ้านายตัวเองไงล่ะ

"รอนานไหมครับ?" คุณภาคมาแล้วพร้อมปรายตามองมาที่นิดหน่อยแว๊บนึง ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉัน

"คุณภาคคะลี่ขอให้ยัยนิดหน่อยไปด้วยนะคะ พอดีเรานัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะไปทานข้าวกัน"

"ได้สิ...ไปกันเลยไหม?"

"ค่ะๆไปค่ะ"

พวกเราไปรถคุณภาคโดยมียัยนิดหน่อยที่ถูกฉันผลักไปนั่งข้างหน้ากับคุณภาคแทนฉันที่นั่งด้านหลังรถเอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My friend เพื่อนร้ายเพื่อนรัก   บันทึกรักฉบับนิดหน่อย : 9 (จบ)

    ครุ่นคิดวุ่นวายใจไปก็เท่านั้น อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนวิญญานเมียหลวงมาเข้าสิง สองเท้าก้าวฉับๆโดยมียัยลี่วิ่งตามมาติดๆ ตรงไปยังคนที่ยืนอยู่ร้านข้างหน้าทันที "สวัสดีค่ะ...พี่ภาค!!!" เสียงเย็นๆขุ่นกระด้างมันออกมาของมันเองจริงๆฉันเป็นคนเรียบร้อยนะ แต่เวลาที่ลมเพชรหึงมันแทรกเข้ามาอากัปกิริยามันก็จะกระด้างหน่อยๆ "อ่ะอ้าวนี่สองคนมายังไงกันนี่!" พี่ภาคหันมาเจอฉันแล้วทำไมต้องแสดงอาการตกใจขนาดนี้อ่ะ "ก็ขับรถมากันไงคะถามแปลกแล้วไหนพี่บอกว่าวันนี้ไม่ว่างไงคะแล้วมาได้ยังไงมาทำอะไร แล้วมากับใครอ่ะคะ?" "โห!!!มาเป็นชุดเลยใจเย็นๆก่อนนะตัวเล็กนะ" พี่ภาคมองหน้าฉันแล้วกลั้นขำเล็กน้อย 'ทำไมต้องขำอ่ะนี่ฉันซีเรียสอยู่นะ' "แก...ใจเย็นๆก่อนนะ" ยัยลี่ค่อยๆปลอบประโลมให้ฉันหายโมโห "แล้วคุณเป็นใครกันมาถึงก็ใส่ๆเป็นชุดไม่มีสมบัติผู้ดีเอาซะเลย" ยัยผู้หญิงที่ยืนเล่นหูเล่นตาอยู่ข้างๆพี่ภาคพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ "แล้วเธอล่ะเป็นใคร?มายุ่งวุ่นวายอะไรกับสามีคนอื่นเค้า" ฉันต่อปากต่อคำกับแม่นั่นต่อ "ฉันเคยเป็นคนสำคัญของเขามากๆมาก่อนและตอนนี้ก็ยังสำคัญอยู่" ผู้หญิงคนนั้นว่าและหันไปกอดแขนพี่ภาคไว้ "หรอคะ?สำคัญกว่าเมียขอ

  • My friend เพื่อนร้ายเพื่อนรัก   บันทึกรักฉบับนิดหน่อย : 8

    วันนี้เป็นวันเกิดของโซดาเพื่อนสนิทของยัยลี่และเป็นเพื่อนใหม่อีกคนของฉัน คืนนี้เราก็แต่งองค์ทรงเครื่องมากันในธีมย้อนยุคยัยลี่นี่มาในชุดทองกวาวเชียวล่ะ ส่วนฉันก็เสื้อแขนกระบอกกับกระโปรงบานลายดอกเก๋ๆนี่ขนาดแต่งธรรมดานะหนุ่มๆในงานยังมาตาเป็นมันเชียว'สวยเหมือนกันนะนี่เราอิอิ'แน่นอนว่าพี่ภาคต้องสั่งยัยลี่ให้ดูแลฉันให้ดีๆอย่าให้ใครมายุ่มย่ามกับฉันแน่ๆ ปาร์ตี้ในงานก็ผ่านไปได้ด้วยดี ฉันเองก็สนุกไปด้วยจนเพลินเผลอดื่มไปซะเยอะจนเกือบจะเมาไปเหมือนกัน จนกระทั่งพี่เก้าเอาเค้กมาเซอร์ไพส์และขอโซดาแต่งงาน ทุกคนในงานกรี๊ดกร๊าดกันมากรวมถึงตัวฉันด้วยแน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกย่อมฝันที่จะมีการขอแต่งงานแสนหวานอยู่แล้ว โซดาร้องไห้หนักมากเพราะความดีใจเพื่อนๆทุกคนก็ตื้นตันใจและมีความสุขไปกับนางด้วย ไม่รู้ว่าเราปาร์ตี้กันถึงไหนยังไง ฉันมารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าในห้องพักของตัวเองแล้ว พร้อมอาการเจ็บแปลบบริเวณช่วงท้องน้อยและแสบๆบริเวณใจกลางร่าง 'หรือว่าา...''นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันวะแล้วตกลงฉันกลับมาที่ห้องตัวเองได้ยังไง'ทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้วะ'งงในงงไปอีก' เดี๋ยวนะ!แล้วยัยลี่ล่ะยัยลี่ไปไห

  • My friend เพื่อนร้ายเพื่อนรัก   บันทึกรักฉบับนิดหน่อย : 7

    "นิดหน่อยๆฮัลโหล...แก!!!"เสียงยัยลี่ตะโกนเรียกชื่อฉันข้างๆหูพร้อมโบกมือผ่านหน้าฉันไปมา"ห๊ะๆอื้อ!...ตกใจหมด"ฉันสะดุ้งหลุดจากภวังค์ทันที หลังจากที่ตกใจเสียงเรียกดังๆของยัยลี่ ในขณะที่เผลอไผลไปคิดถึงคนที่เป็นเจ้าของหัวใจเข้า"เรียกตั้งนานมัวแต่เหม่อคิดถึงพี่ภาคอยู่ใช่ม่ะ?นั่นแน่!""เปล๊าา!ไม่มีอะไรฉันก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยต่างหากเล่า""จริง!ว่าแต่คอแกไปโดนอะไรมาทำไมมันเหมือนรอย...""อะ..ห๊ะอ่อฉันโดนยุงกัดอ่ะเกาไปเกามามันเลยแดงไปหมดเลย...ช่างมันเถอะแกมีไรเปล่า?""อ่อยุงตัวนี้ดุเนอะกัดซะแดงเชียว ดูท่าทางจะขี้หวงซะด้วย...ไม่มีไรแกว่าจะชวนลงไปหาไรกินน่ะ""อื้อๆไปสิๆฉันก็หิวเหมือนกัน"หลังจากที่เมื่อเช้าฉันโดนยุงดูดพลังงานไปอีกเยอะจนเกือบจะมาทำงานสายเสียนี่จนไม่ทันได้กินข้าวเช้าเลยด้วยซ้ำนอกจากกาแฟเย็นที่แวะซื้อมากินแก้วเดียวแค่นึกถึงเขาผู้ชายที่เป็นเจ้าหัวใจของฉันในอกก็สั่นสะท้านไม่หยุดหลังจากผ่านค่ำคืนที่วาบหวาบไปแล้ว ในตอนเช้าที่ลืมตาตื่นขึ้นก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายนอนกกกอดฉันอยู่บนเตียง ท่อนแขนอันอบอุ่นพาดทับเอวบางๆของฉันเอาไว้แผ่วเบาอย่างกลัวฉันจะอึดอัด คางอุ่นๆเกยอยู่บนกระหม่อมฉัน

  • My friend เพื่อนร้ายเพื่อนรัก   บันทึกรักฉบับนิดหน่อย : 6

    ความวาบหวาบเข้าเกาะกุมหัวใจเมื่อปลายนิ้วมือเขากอบกุมยอดอกบีบคลึงอย่างกับมันเป็นของเล่น ซาลาเปาสีขาวผ่องที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อนนอกจากเขาคนนี้เท่านั้นเขาขยำขยี้มันเล่นอย่างสนุกสนานจนฉันนึกกลัวว่ามันจะแตกคามือเขาเสียก่อนถึงเขาจะบีบเคล้นเล่นอย่างสนุกมือแต่กลับไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บเลย นอกจากความวาบหวิวแล้วมันยังวูบไหวไปยังจุดอ่อนไหวใต้ท้องน้อยฉันเหมือนเป็นละลอกคลื่นหฤหรรษ์มาทีละนิดๆปลายนิ้วคอยสะกิดปลายยอดเล่น ปากหยักๆก็คอยแต่ดอมดมไซร้ต้นคอหอมกรุ่นอย่างหลงไหล คนตัวเล็กกว่าแหงนเงยใบหน้าขึ้นคอยอำนวยความสะดวกให้ปากหยักเข้าดอมดมได้อย่างสะดวกขึ้นแม้จะบอกตัวเองเสมอว่าเป็นผู้หญิงต้องรู้จักรักนวลสงวนตัวไว้อย่าไปใจง่ายให้เขาดูถูกเล่น รู้ตัวอีกทีฉันก็อยากจะพลีกายให้เขาซะแล้วสิ บ้าจริง!"อ...อื้อออ"อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางกระเส่าเมื่อความรัญจวนใจมันเข้าเกาะกุมจิตใจ กายเล็กๆบิดเสียดสีกันไปมากับลำตัวหนาของคนข้างๆ เมื่อคนตัวโตกว่าชักนำพาไปสู่ความหรรษายิ่งขึ้นสองมือหนาเคล้นคลึงเต้างามก่อนจะลากปลายลิ้นเข้าครอบยอดอกชูชันลิ้มรสความหอมหวานจากปลายยอดนั่น ทั้งมือทั้งปากต่างระดมกำลังรีดเคล้นสองเต้าอย่างเม

  • My friend เพื่อนร้ายเพื่อนรัก   บันทึกรักฉบับนิดหน่อย : 5

    จากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่พี่ภาคตามตื้อขอฉันเป็นแฟน จนในที่สุดฉันก็ใจอ่อนยอมตกลงคบกับเขาจนได้ เพียงแต่เรายังไม่ได้บอกใครเท่านั้นว่ากำลังคบกันอยู่ ตอนนี้ฉันมาช่วยงานลี่ที่โรงแรมของนาง โดยที่ยัยลี่จัดที่พักของโรงแรมสุดหรูให้ฉันพักฟรีๆห้องนึงเลยพี่ภาคเองก็มาหาฉันทุกอาทิตย์โทรมาคุยด้วยทุกคืน จนมันเป็นความเคยชินไปแล้วถ้าหากวันไหนที่เขาไม่โทรหามันก็จะรู้สึกแปลกๆกระวนกระวายใจจนต้องเป็นฝ่ายโทรหาเขาเสียเอง แล้วก็จะโดนล้อว่าทนคิดถึงเค้าไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายโทรมาเองเลยวันนี้ยัยลี่ส่งโลเคชั่นให้ฉันตามไปเจอบอกว่าเป็นห้องเพื่อนนางที่คืนนี้จะมีปาร์ตี้กัน พอเลิกงานฉันก็กลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องแล้วนั่งแท๊กซี่ออกไปตามนัดพอมาถึงฉันก็โทรขึ้นไปให้ยัยลี่ลงมารับฉันข้างล่าง แล้วก็พากลับขึ้นไปที่ห้องเพื่อนของนางที่อยู่ชั้น9"ไฮ้...พวกมึงนี่นิดหน่อยแม่...คนที่สองของกูเอง ส่วนนี่น้ำหอม แล้วนี่สามีนางชื่อกันต์ ส่วนที่นอยาวๆชื่อโซดา ส่วนคนหล่อๆคนนี้ชื่อแจสสส...ซี่""โอ๊ยยยอิลี่ต้องบอกว่าคนที่สวยๆสิยะถึงจะถูก" แจสซี่เพื่อนสาวของยัยลี่จีบปากจีบคอตอบพร้อมจิกตาใส่ นางน่ารักดีนะ"อิลี่อิผี...สวยๆอย่างกูจะมีนอได้ยังไ

  • My friend เพื่อนร้ายเพื่อนรัก   บันทึกรักฉบับนิดหน่อย : 4

    "แล้วหนูไม่สงสารพี่หรอ?พี่เจ็บนะ"แค่พูดไม่พอผมก็เลยจับมือเธอมาสาธิตให้ดูว่าผมเจ็บ...ตรงไหนบ้างส่งสายตาเว้าวอนให้คนตัวเล็กสงสารและเห็นใจในความทุกข์ทรมานของผม จับมือบางทาบทับขอบกางเกงก่อนจะรูดซิบกางเกงแสล๊คลงช้าด้วยหัวใจที่สั่นระรัว'ให้ตายเถอะ!ทำไมมันตื่นเต้นอะไรขนาดนี้'นี่แค่มือของยัยตัวเปี๊ยกเองนะ แล้วถ้าเป็นอย่างอื่นเช่น....ล่ะจะขนาดไหนกันแค่คิดเจ้างูใหญ่มันก็ประท้วงผงาดเต็มที่เพื่อจะออกมาดูโลกภายนอกเต็มที่ล่ะยัยตัวเปี๊ยกของผมยังกล้าๆกลัวทั้งๆที่ตอนนั้นทั้งจับทั้งขยำเล่นอย่างมันมือด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าล่ะตอนนั้นมันอยู่ใต้ร่มผ้านี่ แต่วันนี้สัมผัสเนื้อแท้เน้นๆเต็มกำมือเชียวล่ะฝ่ามือบางค่อยๆโอบรอบเต็มลำที่แผ่ขยายชี้หน้าอย่างท้าทาย ผมวางมือซ้อนทับมือเล็กๆของยัยเปี๊ยกเอาไว้ก่อนจะนำพามือให้กำแล้วรูดขึ้นรูดลงช้าๆ..."ซี๊ดดดดด..."เสียงแหบพร่าครางแผ่วๆในลำคอ ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบ้เพราะความเสียวซ่าน ภายในอุ้งมือร้อนฉ่าจนเหมือนจะลวกมือเอาซะเลย ท่อนเนื้อกระตุกเป็นจังหวะทั้งร้อนทั้งแข็งจนฉันอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ฝ่ามือข้างที่ว่างของพี่ภาคก็ลดมาเคล้นคลึงสองเต้าสล้างของฉันอย่างสบายอุรา'ทำไมฉันร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status