LOGINเรื่องราวความรักของเพื่อนที่แอบหลงรักเพื่อนสนิทตัวเองแต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวจะมองหน้ากันไม่ติด
View Moreมหาลัยxxxx
“โทษทีลี่ตื่นสายอ่ะ...รอนานไหม?” หญิงสาวผิวขาวรูปร่างสูงโปร่งใส่ชุดนักศึกษากระโปรงยาวคลุมเข่ากับเสื้อที่โหลมโพกวิ่งกระหืดกระหอบมาอย่างเหนื่อยอ่อนมาที่โต๊ะหินอ่อนสถานที่นัดพบประจำของแก๊ง “ไม่นานหรอกมึง...พวกกูก็เพิ่งมา” แจสซี่สาวสวยประเภทสองเพื่อนสนิทในกลุ่มคนนึงตอบกลับ เดิมทีนางชื่อแจ็คแต่บังคับให้เพื่อนๆเรียกว่าแจสซี่ “มึงนี่นะ...ดูซีรีส์เกาหลีดึกล่ะสิตื่นสายตลอดเลยห่าจิก” โซดาสาวสวยเซ็กซี่ประจำกลุ่มรู้ทันตลอดเลย “ช่างมันเถอะไปกินข้าวก่อนป่ะเดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน” กันต์ เพื่อนหนุ่มสุดหล่อตัดบทก่อนจะชวนกันไปกินข้าว โดยมีน้ำหอมที่กำลังคุยโทรศัพท์กับแฟนหนุ่มพยักหน้าให้ก่อนจะเดินตามกันไปโรงอาหาร และโซ่เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนเดินตามกันไปกินข้าวที่โรงอาหารก่อนขึ้นไปเรียนด้วยกัน สวัสดีค่ะทุกคนฉันชื่อลิลลี่ เพื่อนๆชอบเรียกอีลี่ เรียนอยู่ปี3เทอมสองแล้วค่ะ กลุ่มพวกเรามีอยู่6คน กินนอนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ปี1แต่ทุกคนก็รักกันดี สมาชิกในกลุ่มก็มี โซ่ โซดา กันต์ แจสซี่ น้ำหอม แล้วก็ฉัน พวกเราเรียนคณะเดียวกัน ห้องเดียวกัน ไปไหนส่วนใหญ่ก็จะไปด้วยกัน พวกมันก็เดาถูกนั่นแหละเมื่อคืนเป็นวันหยุดที่ฉันไม่ต้องไปทำงานพิเศษที่ร้านหนังสือฉันก็เลยนอนดูซีรี่ส์เกาหลีจนดึก พอตอนเช้าเลยตื่นสายจนได้ฉันเช่าห้องอยู่คนเดียวต้องนั่งรถเมย์มาเรียนทุกวัน ส่วนตอนเย็นก็จะมีเพื่อนคอยไปส่งที่จริงพวกมันก็ชวนฉันไปอยู่ด้วยแหละ แต่ฉันเกรงใจไม่อยากรบกวนพวกมันมาก แค่มันคอยไปส่งที่ห้องตอนเลิกเรียนหรือบางทีไปส่งทำงานพิเศษก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว ฉันทำงานพิเศษหาเงินเรียนเองตั้งแต่เด็กเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่จริงๆเป็นใครด้วยซ้ำ มีคนเอาฉันมาทิ้งไว้หน้าบ้านเด็กกำพร้ามีเพียงสร้อยเส้นหนึ่งห้อยล้อคเก็ตรูปดอกลิลลี่ติดกายมา แม่ครูจึงรับเลี้ยงฉันไว้และตั้งชื่อให้ว่าลิลลี่ จนเริ่มโตขึ้นมาหน่อยที่บ้านก็เริ่มมีเด็กเยอะมากขึ้น ฉันก็เลยขอออกมาใช้ชีวิตเพียงลำพังตั้งใจทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง รับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆช่วยตัวเองไป เพราะไม่อยากทำให้ที่บ้านต้องลำบากไปมากกว่านี้ แต่เวลาว่างฉันก็หาเวลากลับเยี่ยมพวกเขาบ่อยๆนะ ใช้ชีวิตมาอย่างปากกัดตีนถีบ แต่ไม่เคยงอมืองอเท้าหรือลักขโมยของใครกิน แม่ครูสอนเอาไว้ว่าเกิดเป็นคนทั้งทีต้องมีศักดิ์ศรีของตัวเองไม่คดโกงใครมีก็กินไม่มีก็อดแค่นั้นเอง ฉันก็จำคำสอนของแม่ครูมาใช้เสมอมา ฉันรู้สึกว่าตัวเองก็มีความโชคดีกับเขาเหมือนกันที่ถึงแม้จะไม่มีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนใครเค้า เป็นเด็กจนๆที่สอบได้ทุนเข้ามาเรียนที่นี่และทำงานเก็บเงินเรียนไปด้วย ตอนที่เข้ามาเรียนปีหนึ่งใหม่ๆไม่มีใครอยากคบฉันสักคน พวกเขามองฉันเป็นเหมือนตัวประหลาดที่ไม่น่าคบหาสมาคมด้วย มีเพียงคนเดียวที่ยื่นมือมาช่วยในวันที่ฉันโดนขัดขาจนล้มลงกองกับพื้น เขาเดินมาอุ้มฉันขึ้นจากพื้นพาไปทำแผลพร้อมกับด่าว่าฉันโง่ที่ยอมให้คนอื่นรังแก และเป็นเพื่อนคนแรกที่ฉันมีในชีวิต เขาบอกกับฉันว่าเขาจะเป็นเพื่อนให้ฉันเองจะไม่ให้ใครมารังแกฉันได้อีก จนมีอีก4คนเข้ามาร่วมแก๊งด้วยสร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้ฉันได้เยอะเลยทั้งๆที่พวกเขาเป็นลูกเศรษฐีทุกคนแต่ก็ยังไม่รังเกียจที่จะคบคนจนๆอย่างฉัน มันคงไม่แปลกถ้าหากฉันจะแอบหลงรักโซ่เพื่อนสนิทของตัวเองเพราะเขาดีกับฉันทุกอย่าง ใช่ค่ะฟังไม่ผิดหรอก ฉันแอบหลงรักเขามาตั้งแต่แรกเจอเพราะความเป็นสุภาพบุรุษความมีน้ำใจของโซ่ แต่เพราะฉันรู้ตัวว่ายังไงก็คงเป็นมากกว่าเพื่อนไม่ได้ แค่ฐานะที่ต่างกันมากเกินไปฉันก็ไม่ผ่านแล้วยังไม่รวมถึงน่าตาที่แสนจะธรรมดาไม่น่าดึงดูดยิ่งแล้วเข้าไปใหญ่ ฉันจึงเก็บมันเอาไว้ให้ลึกสุดใจคนเดียว แค่เขายอดลดตัวมาคบหาเป็นเพื่อนด้วยก็ดีมากพอแล้ว ฉันรู้ตัวว่ารูปร่างหน้าตาค่อนข้างจะธรรมดามากไปหน่อยจึงไม่แปลกที่จะไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยในชีวิต ในขณะที่เพื่อนๆมีแฟนกันแทบจะทุกคน รวมไปถึงโซ่ด้วย ใช่โซ่เองก็มีแฟนแล้วชื่อลูกหยีรักกันมากด้วย ทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่ด้วยกันทีไรหัวใจฉันก็เจ็บแปลบๆทุกที แต่ต้องอดทนยิ้มแย้มแสดงความยินดีแล้วแอบไปร้องไห้เวลาอยู่คนเดียวทุกที เหมือนละครน้ำเน่าเลยเนอะ แต่ว่านี่คือเรื่องจริงๆชีวิตจริงๆของฉัน.
. .ครุ่นคิดวุ่นวายใจไปก็เท่านั้น อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนวิญญานเมียหลวงมาเข้าสิง สองเท้าก้าวฉับๆโดยมียัยลี่วิ่งตามมาติดๆ ตรงไปยังคนที่ยืนอยู่ร้านข้างหน้าทันที "สวัสดีค่ะ...พี่ภาค!!!" เสียงเย็นๆขุ่นกระด้างมันออกมาของมันเองจริงๆฉันเป็นคนเรียบร้อยนะ แต่เวลาที่ลมเพชรหึงมันแทรกเข้ามาอากัปกิริยามันก็จะกระด้างหน่อยๆ "อ่ะอ้าวนี่สองคนมายังไงกันนี่!" พี่ภาคหันมาเจอฉันแล้วทำไมต้องแสดงอาการตกใจขนาดนี้อ่ะ "ก็ขับรถมากันไงคะถามแปลกแล้วไหนพี่บอกว่าวันนี้ไม่ว่างไงคะแล้วมาได้ยังไงมาทำอะไร แล้วมากับใครอ่ะคะ?" "โห!!!มาเป็นชุดเลยใจเย็นๆก่อนนะตัวเล็กนะ" พี่ภาคมองหน้าฉันแล้วกลั้นขำเล็กน้อย 'ทำไมต้องขำอ่ะนี่ฉันซีเรียสอยู่นะ' "แก...ใจเย็นๆก่อนนะ" ยัยลี่ค่อยๆปลอบประโลมให้ฉันหายโมโห "แล้วคุณเป็นใครกันมาถึงก็ใส่ๆเป็นชุดไม่มีสมบัติผู้ดีเอาซะเลย" ยัยผู้หญิงที่ยืนเล่นหูเล่นตาอยู่ข้างๆพี่ภาคพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ "แล้วเธอล่ะเป็นใคร?มายุ่งวุ่นวายอะไรกับสามีคนอื่นเค้า" ฉันต่อปากต่อคำกับแม่นั่นต่อ "ฉันเคยเป็นคนสำคัญของเขามากๆมาก่อนและตอนนี้ก็ยังสำคัญอยู่" ผู้หญิงคนนั้นว่าและหันไปกอดแขนพี่ภาคไว้ "หรอคะ?สำคัญกว่าเมียขอ
วันนี้เป็นวันเกิดของโซดาเพื่อนสนิทของยัยลี่และเป็นเพื่อนใหม่อีกคนของฉัน คืนนี้เราก็แต่งองค์ทรงเครื่องมากันในธีมย้อนยุคยัยลี่นี่มาในชุดทองกวาวเชียวล่ะ ส่วนฉันก็เสื้อแขนกระบอกกับกระโปรงบานลายดอกเก๋ๆนี่ขนาดแต่งธรรมดานะหนุ่มๆในงานยังมาตาเป็นมันเชียว'สวยเหมือนกันนะนี่เราอิอิ'แน่นอนว่าพี่ภาคต้องสั่งยัยลี่ให้ดูแลฉันให้ดีๆอย่าให้ใครมายุ่มย่ามกับฉันแน่ๆ ปาร์ตี้ในงานก็ผ่านไปได้ด้วยดี ฉันเองก็สนุกไปด้วยจนเพลินเผลอดื่มไปซะเยอะจนเกือบจะเมาไปเหมือนกัน จนกระทั่งพี่เก้าเอาเค้กมาเซอร์ไพส์และขอโซดาแต่งงาน ทุกคนในงานกรี๊ดกร๊าดกันมากรวมถึงตัวฉันด้วยแน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกย่อมฝันที่จะมีการขอแต่งงานแสนหวานอยู่แล้ว โซดาร้องไห้หนักมากเพราะความดีใจเพื่อนๆทุกคนก็ตื้นตันใจและมีความสุขไปกับนางด้วย ไม่รู้ว่าเราปาร์ตี้กันถึงไหนยังไง ฉันมารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าในห้องพักของตัวเองแล้ว พร้อมอาการเจ็บแปลบบริเวณช่วงท้องน้อยและแสบๆบริเวณใจกลางร่าง 'หรือว่าา...''นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันวะแล้วตกลงฉันกลับมาที่ห้องตัวเองได้ยังไง'ทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้วะ'งงในงงไปอีก' เดี๋ยวนะ!แล้วยัยลี่ล่ะยัยลี่ไปไห
"นิดหน่อยๆฮัลโหล...แก!!!"เสียงยัยลี่ตะโกนเรียกชื่อฉันข้างๆหูพร้อมโบกมือผ่านหน้าฉันไปมา"ห๊ะๆอื้อ!...ตกใจหมด"ฉันสะดุ้งหลุดจากภวังค์ทันที หลังจากที่ตกใจเสียงเรียกดังๆของยัยลี่ ในขณะที่เผลอไผลไปคิดถึงคนที่เป็นเจ้าของหัวใจเข้า"เรียกตั้งนานมัวแต่เหม่อคิดถึงพี่ภาคอยู่ใช่ม่ะ?นั่นแน่!""เปล๊าา!ไม่มีอะไรฉันก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยต่างหากเล่า""จริง!ว่าแต่คอแกไปโดนอะไรมาทำไมมันเหมือนรอย...""อะ..ห๊ะอ่อฉันโดนยุงกัดอ่ะเกาไปเกามามันเลยแดงไปหมดเลย...ช่างมันเถอะแกมีไรเปล่า?""อ่อยุงตัวนี้ดุเนอะกัดซะแดงเชียว ดูท่าทางจะขี้หวงซะด้วย...ไม่มีไรแกว่าจะชวนลงไปหาไรกินน่ะ""อื้อๆไปสิๆฉันก็หิวเหมือนกัน"หลังจากที่เมื่อเช้าฉันโดนยุงดูดพลังงานไปอีกเยอะจนเกือบจะมาทำงานสายเสียนี่จนไม่ทันได้กินข้าวเช้าเลยด้วยซ้ำนอกจากกาแฟเย็นที่แวะซื้อมากินแก้วเดียวแค่นึกถึงเขาผู้ชายที่เป็นเจ้าหัวใจของฉันในอกก็สั่นสะท้านไม่หยุดหลังจากผ่านค่ำคืนที่วาบหวาบไปแล้ว ในตอนเช้าที่ลืมตาตื่นขึ้นก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายนอนกกกอดฉันอยู่บนเตียง ท่อนแขนอันอบอุ่นพาดทับเอวบางๆของฉันเอาไว้แผ่วเบาอย่างกลัวฉันจะอึดอัด คางอุ่นๆเกยอยู่บนกระหม่อมฉัน
ความวาบหวาบเข้าเกาะกุมหัวใจเมื่อปลายนิ้วมือเขากอบกุมยอดอกบีบคลึงอย่างกับมันเป็นของเล่น ซาลาเปาสีขาวผ่องที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อนนอกจากเขาคนนี้เท่านั้นเขาขยำขยี้มันเล่นอย่างสนุกสนานจนฉันนึกกลัวว่ามันจะแตกคามือเขาเสียก่อนถึงเขาจะบีบเคล้นเล่นอย่างสนุกมือแต่กลับไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บเลย นอกจากความวาบหวิวแล้วมันยังวูบไหวไปยังจุดอ่อนไหวใต้ท้องน้อยฉันเหมือนเป็นละลอกคลื่นหฤหรรษ์มาทีละนิดๆปลายนิ้วคอยสะกิดปลายยอดเล่น ปากหยักๆก็คอยแต่ดอมดมไซร้ต้นคอหอมกรุ่นอย่างหลงไหล คนตัวเล็กกว่าแหงนเงยใบหน้าขึ้นคอยอำนวยความสะดวกให้ปากหยักเข้าดอมดมได้อย่างสะดวกขึ้นแม้จะบอกตัวเองเสมอว่าเป็นผู้หญิงต้องรู้จักรักนวลสงวนตัวไว้อย่าไปใจง่ายให้เขาดูถูกเล่น รู้ตัวอีกทีฉันก็อยากจะพลีกายให้เขาซะแล้วสิ บ้าจริง!"อ...อื้อออ"อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางกระเส่าเมื่อความรัญจวนใจมันเข้าเกาะกุมจิตใจ กายเล็กๆบิดเสียดสีกันไปมากับลำตัวหนาของคนข้างๆ เมื่อคนตัวโตกว่าชักนำพาไปสู่ความหรรษายิ่งขึ้นสองมือหนาเคล้นคลึงเต้างามก่อนจะลากปลายลิ้นเข้าครอบยอดอกชูชันลิ้มรสความหอมหวานจากปลายยอดนั่น ทั้งมือทั้งปากต่างระดมกำลังรีดเคล้นสองเต้าอย่างเม





