เสียงที่ถามมันแผ่วเบาอยู่ข้างหูลมหายใจผ่าวร้อนที่รดต้นคอเธออยู่เธอสัมผัสมันได้ดี ทำเอาขนอ่อน ๆ ตามร่างกายลุกซู่
"คุณออสตินค่ะ" "เรียกฉันคุณตินก็พอ" "คะ คือ หนูมีข้อตกลงที่มากกว่านั้น" คราวนี้ชายหนุ่มต้องผละร่างกายที่เคยชิดใกล้ให้ถอยห่างออกไปเล็กน้อย ดวงตาคมของเขาจ้องมองใบหน้าเนียนด้วยความสงสัยข้อตกลงที่มากกว่านั้น "ว่ามาสิ" "คือ หนูพูดอย่างไม่อายก็ได้ หนูต้องการเงิน!" "ต้องการเงินงั้นเหรอ?" "หนูจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก" "เท่าไร่?" เขาไม่ถามถึงเหตุผลที่เปียโนต้องใช้ด้วยซ้ำ ทำเอาหญิงสาวใบหน้าสวยต้องสบตาคู่คมของเขาพร้อมความคิดในใจเหมือนมันจะง่ายหรือว่านี่เป็นการลองใจเธอ "หนูไม่รู้ว่ามันจะมากไปไหม หากคุณตินต้องการ เอ่อ....." "ฉันอยากรู้แค่จำนวนเงินไม่ต้องพล่ามอะไรมากมาย" "อ้อ ค่ะ....." คำพูดที่แสนเยือกเย็นนั้นทำเอาเปียโนชะงักไปสักพักแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะตอบเขา "ห้าแสนค่ะ" ริมฝีปากของเขาเหยียดเป็นเส้นตรงสีหน้าไม่แสดงอาการใด ๆ ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ ทุกการกระทำนั้นมันอยู่ในสายตาของเปียโนเป็นอย่างดี ร่างเล็กเดาไม่ออกเลยว่าตอนนี้หนุ่มหล่อตรงหน้าเธอคิดอะไรอยู่ หรือเขาอาจจะคิดว่าเธอเสนอราคาที่แพงไป "หากมันมากไป....." "ตกลง!" คำพูดเรียบเฉยพร้อมแก้วที่วางไว้ที่เดิมมันเกิดขึ้นพร้อมกัน สายตาคมนั้นกวาดมามองเธออีกครั้งทำเอาเปียโนต้องหลบลง "ห้าแสนเธอต้องการวันนี้เลยไหม" "ค่ะ?" ทำไมมันดูง่ายขนาดนี้ เงินห้าแสนสำหรับเขามันไม่มีความหมายเลยหรือไง แต่อย่างนั้นเปียโนเธอก็แอบดีใจลึก ๆ เพราะจำนวนเงินนี้คือค่าผ่าตัดของพ่อเธอ ชายหนุ่มล้วงเช็กแผ่นเล็กในเสื้อสูท เขาตวัดลายเซ็นพร้อมจำนวนเงินลงไปอย่างไม่คิดมาก จากนั้นก็ยื่นส่งให้เปียโนที่นั่งข้าง "ห้าแสนที่เธอขอ" "มัน...ง่ายขนาดนั้นเลยหรือคะ" "ทำไมละ เธอกล้าขอฉันก็กล้าให้" "แต่....." เปียโนยังพูดไม่ทันจบร่างของเธอก็ถูกออสตินดึงเข้ามาสวมกอดแน่นอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ใบหน้าของเธอกับเขามันแนบชิดริมฝีปากของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ "ฉันให้เธอง่าย หวังว่าเธอเองจะให้ฉันง่าย ๆ เหมือนกัน" "อ่ะ คือ?...." จูบบ เรียวปากหยักได้รูปแนบลงที่ริมฝีปากอวบอิ่ม โดยที่ร่างเล็กของเปียโนไม่ทันได้ตั้งหลักเธอสะดุ้งกับเหตุการณ์นั้น มันเป็นครั้งแรกกับการจูบของผู้ชาย เขาไม่เพียงแค่จูบสัมผัสบางเบาแต่จูบนั้นมันดูดดื่มทุกท่วงท่า ทำเอาดวงตากลมของสาวสวยต้องเบิกกว้างพร้อมการผลักเขาให้ถอยห่าง ฮึก! เขาถอนจูบออกจากเรียวปากสวยจ้องมองเธออย่างไม่กะพริบตา วินาทีนี้เปียโนหายใจหอบกระเส่าตัวสั่นเล็กน้อยพร้อมก้มหน้าหลบตาเขา "นี่แค่มัดจำ ตอนนี้ฉันไม่สะดวกเล่นกับเธอหากฉันต้องการเธอเมื่อไหร่ฉันจะติดต่อไป...เปียโน!" คราวนี้ร่างเล็กต้องเงยหน้ามองเขา เธอจำได้ว่ายังไม่แนะนำตัวกับเขาด้วยซ้ำแต่เขาดันรู้จักชื่อเธอแล้ว "ออกไปได้แล้ว ฉันมีงานต้องเคลียร์" "คะ ค่ะ" เขาสั่งแล้วก็หยิบไอแพดขึ้นมาดู การกระทำเหล่านั้นมันทำให้เปียโนงวยงงเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้เลยว่าเขาสนใจเธอแบบไหนกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้เขาดันให้เงินเธอจริง ๆ ระหว่างที่เปียโนจะเดินออกมาจากห้องก็ปรากฏร่างชายตัวสูงที่แทรกเข้ามาในห้องอีกคน ใบหน้าของเขานิ่งสนิทสายตาจับจ้องไปทางออสติน "นายครับ" เปียโนได้ยินแค่นั้น เธอก็หลุดออกมาจากห้องวีไอพีแล้ว คงเดาไม่ยากว่าผู้ชายที่เข้าไปเมื่อกี้น่าจะเป็นคนของเขา คงเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมากสำหรับคนตัวเล็ก เงินจำนวนห้าแสนอยู่ในมือเธอแล้ว คราวนี้คงต้องเดินเรื่องการผ่าตัดให้สมบูรณ์ สองวันต่อมา จากที่ได้รับเงินจำนวนมากจากชายหนุ่มร่างสูง เปียโนก็เข้ามาคุยกับคุณหมอเรื่องการผ่าตัดของพ่อแน่นอนว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน คุณหมอที่จะผ่าตัดนัดเธอกับพ่ออีกสองอาทิตย์ ส่วนเรื่องผ่าตัดเธอยอมเป็นเด็กโกหก หลอกให้พ่อมาตรวจร่างกายซ้ำและให้หมอเป็นคนบอกเรื่องการผ่าตัดแต่ไม่ได้บอกเรื่องค่ารักษา ส่วนนิลภพเขาคิดแค่ว่าทางโรงพยาบาลคงใช้สิทธิ์ที่มีไม่คิดว่าค่าใช้จ่ายครั้งนี้จะเกินไปถึงครึ่งล้านบาท นับจากวันนั้นก็ยังไม่ได้เข้ามาที่เลาจน์ เปียโนเธอขอลางานกับพี่แก้วไว้สองวัน ส่วนออสตินก็ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาด้วยซ้ำ ดูเหมือนทุกอย่างจะง่ายไปเสียหมดหรือว่านี่เป็นโชคชะตาหรือเพราะฟ้าคงสงสารเธอ เธอคิดแบบนั้น "พ่อค่ะ นานแล้วที่เราไม่ได้ทานข้าวนอกบ้านวันนี้พ่ออยากทานอะไรเดี๋ยวหนูเลี้ยงเอง" "จะมาเลี้ยงทำไม หาเงินได้ก็เก็บไว้เถอะลูกแค่นี้พ่อก็ทำให้หนูลำบากมากพอแล้ว" "ไม่ลำบากเลยค่ะ หนูแค่อยากตอบแทนพ่อบ้าง ตอนที่พ่อทำงานพ่อก็พาหนูมาทานข้าวบ่อยครั้ง ถึงเวลาที่หนูต้องเลี้ยงพ่อบ้างแล้ว" ระหว่างที่สองพ่อลูกลงจากแท็กซี่แล้วก็เดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน ไหน ๆ เธอก็หยุดเลยใช้โอกาสนี้อยู่กับนิลภพถือโอกาสเลี้ยงข้าวพ่อสักมื้อ เปียโนเธอเป็นเด็กขี้อ้อนตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอชอบคล้องแขนซบไหล่พ่อแม้จะโตเป็นสาว แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่รู้เลยคือ สายตาคมที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟหรูภายในห้าง เขาเห็นเธอและจ้องมองมานานแล้ว ออสตินยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ เขาว่างมันลงที่เดิมก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ชวนขนลุก "เธอจำเป็นต้องใช้เงินอย่างนั้นเหรอ เธอคิดว่าเธอเล่นอยู่กับใคร เปียโน!" เหตุการณ์ที่ทำให้เขาเข้าใจเธอผิด หญิงสาวที่ยิ้มร่าอยู่กับพ่อบังเกิดเกล้าภายใต้สายตาอันโหดร้ายของชายหนุ่มร่างสูง เปียโนเธอคงไม่รู้ว่าเจ้าของจำนวนเงินมากมายกำลังคาดโทษเธออยู่หลังจากที่ออกจากบ้านอนันต์ธวัชแล้ว ระหว่างทางเปียโนก็เอาแต่สนใจแมวตัวสีขาวเธอทั้งกอดทั้งหอมมันต่อหน้าออสติน"ท่าทางจะรักมันมากสินะ""ใช่ค่ะ แมวตัวนี้หนูเก็บมันมาเลี้ยงมันถูกทิ้งไว้กลางถนน น่าสงสารจะตาย""ทำไมต้องเอามาฝากบ้านนั้นเลี้ยง""ก็พี่โอโซนเป็นคนเดียวที่จะเลี้ยงมันได้ ช่วงนั้นพ่อหนูก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง จะให้หนูฝากใคร""ฝากกันไว้ยังกับคนเป็นแฟนกัน""ที่จริงพี่เขาก็จีบหนูนั่นแหละ" ประโยคของเธอทำเอาออสตินต้องเลี้ยวลงข้างไหล่ทางพร้อมทั้งเหยียบเบรกอย่างแรง"อุ้ยย คุณติน""เธอบอกว่าเขาจีบแล้วเธอชอบเขาหรือเปล่า""เขาก็เป็นคนดีนะ""นิลวรรณ!!!" "หนูกำลังดูพฤติกรรมคุณอยู่นะ" พอเธอพูดแบบนั้นออสตินก็หันกลับมานั่งตัวตรงข่มความรู้สึกทั้งหมดที่มีกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ตั้งสติสงบอารมณ์หึงหวง"เอาเถอะยังไงก็แค่อดีตดูท่าเจ้าหมอนั้นก็คงไม่มายุ่งกับเธอ""ค่ะ"เหมียว"สำลีแกไม่ต้องตกใจ ที่แกเจอเนี่ยยังน้อยนะ ฉันเจอเยอะกว่าแกเสียอีก"คำพูดแซะของเธอทำเอาออสตินถึงขั้นหน้าซีดเผือดก็มันจริงเขาเองก็ทำกับเปียโนไว้เยอะ รู้สึกว่าทุกอย่างมันอึมครึมไปหมดออสตินเลยตัดบทเรื่องอื่น"จริงสิ อาทิตย์หน้าฉันอยากไปเยี่ยม
เปียโนเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ตามเดิม เมื่อมาถึงสิ่งที่เธออยากทำที่สุดก็คือคุยกับเจ้าของบ้าน"พี่ธนาค่ะ เจ้านายพี่อยู่ที่ไหนคะ""คุณตินพึ่งขึ้นข้างบนเมื่อกี้ครับ"เปียโนมองไปที่ชั้นบนของบ้านก่อนที่เท้าน้อย ๆ ของเธอก็ย่างขึ้นบันไดฉับ ๆ เมื่อมาถึงห้องเขาเธอก็จัดการเคาะเรียกสองครั้ง ก่อนที่เสียงคนข้างในจะอนุญาตให้เข้าไปแอ๊ดดดเปียโนแทรกร่างเข้าไปภายในห้อง เห็นว่าชายหนุ่มดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังนอนเหยียดตัวยาวบนที่นอน พร้อมกับหลับตานิ่ง"คุณติน คุณทำแบบนั้นต้องการอะไรกันแน่""เธอพูดอะไรฉันไม่ได้ยิน" เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักทำให้เปียโนรู้สึกหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ขอบเตียงแล้วโพล่งเสียงดังฟังชัด"หนูถามคุณว่าคุณเล่นอะไรอยู่"พรึ่บ"อร๊ายยย" ร่างของเปียโนถูกดึงลงมาแล้วออสตินก็เหวี่ยงเธอลงนอนราบเป็นเขาที่ขึ้นไปทับร่าง"หูไม่ได้หนวกสักหน่อยพูดเสียงดังทำไมกัน""ก็คุณบอกว่าไม่ได้ยิน""เอ้...เราไม่ได้ทำกิจกรรมบนเตียงมานานเท่าไรแล้วนะ ว่าแต่ครั้งก่อนที่อยู่คอนโดฉันก็ไม่ได้ป้องกันผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ทำไมเธอไม่ท้องแอบซื้อยามากินหรือเปล่า""ห๊ะ คุณพูดอะไรเนี่ย" สิ่งที่เป
เวลาเดินทางไม่เคยหยุดนิ่ง จากอาทิตย์ก็ผันเปลี่ยนเป็นเดือน เปียโนเองก็เริ่มคิดอยากจะกลับมาเรียนใหม่อีกครั้ง รู้สึกว่าทุกอย่างตอนนี้จะดีขึ้นเจ้าหนี้ที่เคยโทรมาทวงก็ดันเงียบหาย แม้จะแอบแปลกใจแต่เธอก็ไม่ได้ถามนิลภพ รู้แค่ว่าพ่อดูมีความสุขมากขึ้นสุขภาพร่างกายก็ค่อนข้างแข็งแรงกว่าเมื่อก่อน ระหว่างที่เปียโนนั่งเช็ดถูถ้วยชามอยู่ในครัว มือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืดมือเรียวเล็กล้วงลงไปหยิบมือถือในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์พ่อของเธอเปียโนก็รีบกดรับ"ค่ะพ่อ"(ยุ่งอยู่หรือเปล่าลูก)"พ่อมีอะไรหรือคะ"(พ่ออยากให้หนูมาหาพ่อหน่อย พ่อมีอะไรจะให้ดู เดี๋ยวพ่อส่งพิกัดไปให้)"ได้สิคะ" หลังจากที่วางสายพ่อ แม้ว่าจะเกิดความสงสัยในคำพูดของพ่อแต่เปียโนก็ต้องเก็บเอาไว้ รอให้ถึงเวลาก็น่าจะเห็นเอง#คอนโดมิเนียมหรู"ทำไมพ่อถึงให้มาที่นี่นะ" คำถามที่เกิดกับตัวเองพร้อมดวงตาที่แหงนขึ้นไปมองตึกสูงตระหง่านตรงหน้า ก่อนที่เท้า น้อย ๆ ของเธอจะย่างเข้าไปในตัวตึกเมื่อรู้ตำแหน่งแล้วเปียโนก็มุ่งหน้าไปที่ชั้นห้าของอาคารแห่งนี้เบอร์ห้องที่พ่อบอกไว้เธอเดินมาถึงก่อนที่เท้าจะหยุดนิ่ง แล้วจัดการเคาะประตูเรียกก๊อ
เย็นของวันนั้นออสตินกลับบ้านเร็วกว่าปกติ และสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดน่าจะเป็นใบหน้าหวาน ๆ ของสาวใช้ที่บ้านเปียโนยกเมนูอาหารเย็นขึ้นมาตั้งที่โต๊ะ เมนูอาหารล้วนแต่น่าทานทั้งนั้น"นั่งทานด้วยกันสิ""ไม่เป็นไรค่ะ""ฉันบอกให้นั่งก็นั่งเถอะน่า"เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย เปียโนก็ต้องยอมเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง ส่วนออสตินดูเหมือนเขาจะพอใจมากที่คนตัวเล็กยอมที่จะนั่งทานเป็นเพื่อนเขา"ไหนลองเสนอเมนูที่เธอทำสิ""ก็มีแค่ผัดผักใส่หมู ส่วนแกงส้ม กับพะโล้ ป้าแม่บ้านเป็นคนทำ" เพียงแค่เสนอเมนูอาหารออสตินก็ไม่รอช้าที่จะตักผัดผักใส่ในจานตัวเอง แค่อาหารเข้าไปในปากก็เคี้ยวอย่างอร่อยทำเหมือนว่าไม่เคยทานมันมาก่อน และเขายังเอ่ยปากชมฝีมือเธอ"อร่อยดีนี่" แต่สิ่งที่มันทำให้เปียโนย่นคิ้วเรียวก็คือ เขาไม่แตะจานอื่นเลย ยิ่งทำให้เปียโนทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าอาการผีเข้าผีออกเมื่อก่อนมันหายไปไหนแล้ว คนที่นั่งทานอาหารตรงหน้าเธอตอนนี้เหมือนเป็นคนละคนเปียโนตักต้มพะโล้ใส่ในจาน พร้อมกับเหลือบสายตามองเขาบ่อยครั้ง ส่วนเขานะเหรอไม่สนใจเมนูอื่นตรงหน้าระหว่างที่ทานอาหาร เสียงรถอีกคันก็วิ่งเข้ามาในบ้าน ไม่กี่อ
หลายวันผ่านพ้นทุกอย่างภายในบ้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด สำหรับเปียโนแล้วเธอรู้สึกว่าออสตินอ่อนโยนขึ้นไม่กระโชกโฮกฮากปากร้ายเหมือนเมื่อก่อน ดูจะสงบลงเสียด้วยซ้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรหรือเขากินยาผิดซองกันแน่แต่หลายวันมานี้สิ่งที่เธอเองก็เริ่มแปลกอีกอย่างคือเพื่อนสาวที่ติดต่อกันประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะติดต่อมาหาเธอเท่าไรนัก ไม่รู้ว่าแมงเม่าเป็นอย่างไร เมื่อนึกถึงเพื่อนก็อยากจะโทรหา เปียโนไม่รอช้าหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาเพื่อนทันทีครืด ครืด (เสียงรอสาย)(ว่าไงเปีย)"ก็แค่คิดถึงยุ่งเหรอช่วงนี้ไม่เห็นโทรหาฉันบ้าง"(เออ คือ ใช่ ๆ ฉันยุ่งก็เลยไม่ได้โทรหาแกเลย)"จริงสิ แกเจอพี่โอโซนบ้างหรือเปล่าเขาบอกไหมว่าฉันออกจากงานแล้ว"(บะ บอกเหรอ อ้อ ฉันจะไปเจอเขาได้อย่างไรละ ว่าแต่แก่ได้งานแถวไหนเห็นว่ากลับมาอยู่กับคุณลุง)"ทำไมแกรู้ว่าฉันจะกลับไปอยู่กับพ่อ"(นั่นสินะ ฮ่า ฮ่า ฉันเดา)"ยัยเม่าเธอมีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า ดูแกเปลี่ยนไปนะ"(ไม่มีสักหน่อย)"จริงนะ" (ที่รัก)"เอ้นั้นเสียงใคร แกอยู่กับผู้ชายเหรอ"(ไม่มี ๆ แค่นี้นะแกฉันยุ่งอยู่)แมงเม่ารีบตัดสายทำให้เรียวคิ้วของเปียโนย่นลงเล็กน้อย เก
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจากที่แคธี่มาเที่ยวเมืองไทยได้ร่วมอาทิตย์ เธอก็ต้องกลับไปที่เยอรมันตามเดิม ส่วนคนที่มาส่งก็คงเป็นออสตินกับเควิน"ฉันขอบใจเธอมากนะที่ช่วยดูแลพวกเรา""ยินดี"แคธี่ยิ้มหวานก่อนจะสวมกอดหนุ่มหล่อตรงหน้า จากนั้นทั้งคู่ก็โบกมือลากัน ส่วนเควินดูเหมือนจะติดใจสาวผมทองเพื่อนของแคธี่ ดูเหมือนว่าเขาเองจะยิ้มไม่หุบเช่นกันสองหนุ่มแยกย้ายและเดินทางกลับเพราะการไปส่งในครั้งนี้ใช้รถคนละคันกันออสตินไม่ได้เข้าไปที่บริษัท แต่เขามีนัดกับนิลภพที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่นัดในวันนี้น่าจะเป็นเรื่องหนี้สินและการตัดสินใจของนิลภพด้วยณ ร้านคาเฟ่"ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน""ไม่นานหรอกครับ ผมเองก็พึ่งมาถึง" นิลภพพูดจาอย่างสุภาพอ่อนโยนแม้ว่าออสตินจะเป็นรุ่นลูกของเขา แต่หน้าที่การงานอิทธิพลต่าง ๆ ของ T.GROP เขาเองก็พอรู้จักอยู่บ้างออสตินหย่อนสะโพกลงนั่งด้านหน้าของเขาคือกาแฟร้อนที่นิลภพพึ่งสั่งไว้รอเป็นจังหวะที่ออสตินมาถึงพอดี ออสตินยกกาแฟขึ้นมาจิบ เมื่อวางแก้วลงก็ยกขาขึ้นไขว่ห้างเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างไม่มีจังหวะ พร้อมเอ่ยถามด้วยท่าทางมาดเข้ม"หวังว่าคูณจะได้คำตอบให้ผมแล้วนะครับ""ผมถ