วันศุกร์..
@All night Pub
‘อยากเป็นคนที่เธอรักแบบเขาที่ไม่ต้องพยายาม
ไม่มีข้อแก้ไขอะไร เธอก็รัก มันดีกว่าที่ฉัน
ต้องพยายาม ให้เธอรัก ให้เธอสนใจ’
วันนี้เข้าใจแล้วว่าความดีชนะใจผู้หญิงไม่ได้ คนที่ไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่ จะทำดีแค่ไหนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ไอญดาไม่เคยรักเขาเหมือนที่รักเดย์ แม้ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เพราะในใจเธอมีแค่เดย์
ผิดหวังซ้ำสองกับผู้หญิงคนเดิม ครั้งแรกเพราะเสียใจที่ไม่ได้จีบเธอแล้วปล่อยเธอหลุดไปง่ายๆ และเมื่อไหร่ได้โอกาสแก้ตัว ได้กลับไปทำในสิ่งที่เคยค้างคาใจแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง เพราะสุดท้ายไอญดาก็ยังเลือกเดย์
หลังจากคืนไอญดาให้เดย์พร้อมปลีกตัวออกมาเพื่อให้ทั้งสองได้มีเวลาด้วยกัน ได้ปรับความเข้าใจกัน ในเมื่อหัวใจทั้งสองยังตรงกัน ถ้าจะกลับมาหากันอีกครั้งมันก็คงไม่ยาก ก็แค่ต้องคุยกัน เคลียร์ใจกัน ไนท์เชื่อว่าไอญดากับเดย์จะเริ่มต้นด้วยกันใหม่ได้
เหอะ! บทพระรองแสนดี!
ความจริงไม่ได้เป็นคนแสนดีขนาดนั้น ถ้าเธอมีใจให้เขาเหมือนกับเดย์ สาบานได้เลยว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปเด็ดขาด แต่ตอนนี้ที่ต้องรับบทพระรองแสนดี หาวิธีให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน แม้กระทั่งพาเดย์ไปส่งให้ไอญดาถึงที่คอนโดของเธอ เขาก็ทำมันมาแล้ววันนี้ แม้จะเจ็บแต่ก็ทำเพราะเธอไม่ได้รักเขา…
เธอรักเดย์!
แพ้แล้ว ยอมแล้วจริงๆ หยุดที่จะดันทุรังตัวเองแล้วยอมถอยออกมาเพื่อคนที่รักทั้งสองคนได้มีความสุข หัวใจเธอไม่ได้เป็นของเขา ไม่เคยเป็นเลย สู้ไปก็แพ้ ดันทุรังไปก็เปล่าประโยชน์ แพ้ตั้งแต่แรกแล้ว
ได้ทำในสิ่งที่ค้างคาใจไปแล้ว ทำมันเต็มที่สุดแล้ว สุดท้ายยังไงก็ไม่ใช่คนที่เธอเลือก!
“กูผิดตรงไหนวะ” เสียงของคนที่นั่งคอพับในมือถือแก้วเหล้าที่โซฟาตัวตรงข้ามเอ่ยขึ้นมาเสียงยานคาง จึงทำให้ไนท์หลุดผวังแล้วขึ้นหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงผู้ร่วมโต๊ะโดยบังเอิญคืนนี้
คิริน อยู่ในกลุ่มเพื่อนสถาปัตย์ของชิน ไนท์ไม่เคยสุงสิงด้วยมากนัก มีคุยกันบ้างตามร้านขายอะไหล่มอเตอร์ไซต์ เนื่องจากคิรินก็ชอบขับมอเตอร์ไซต์เหมือนกัน มีเจอผ่านในมหาลัยบ้าง แต่ไม่เคยแฮ้งเอ้าท์หรือนั่งดื่มเป็นเรื่องเป็นราวด้วยกันมาก่อน
ทว่าคืนนี้เหมือนโชคชะตาพาให้คนอกหักสองคนมาเจอกัน เนื่องจากโต๊ะเต็มไนท์เลยขอมานั่งกับคิรินที่นั่งดื่มคนเดียวก่อนแล้ว
แต่ด้วยความที่ต่างคนต่างมีนิสัยพูดน้อยเหมือนกัน ถามไถ่กันไม่กี่คำถามก็นั่งกระดกเหล้ากันอยู่เงียบๆ จมอยู่กับความคิดตัวเอง
จนตอนนี้คิรินคอพับไปแล้วด้านไนท์ก็กำลังรู้สึกเหมือนโลกหมุน เห็นทุกอย่างเป็นภาพซ้อน
สภาพนี้กลับห้องยังไงดีวะ?
ตอนนี้ไนท์เองก็ไม่รู้เลยว่าถ้าเขาลุกขึ้นยืนจะรอดหรือร่วง
เมาฉิบหาย!
“กูทำอะไรผิด อยากได้อะไรกูก็หามาให้ อยากกินอะไรกูก็พาไปกิน แต่สุดท้ายทิ้งกูไปอยู่ดี”
“มึงไม่ได้ผิดเลยคิริน คนจะไปยังไงก็ต้องไป”
“แต่เลิกกันดีๆ ก็ได้หนิวะ”
“...”
“ไม่รักกันแล้วก็บอกกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องแอบไปมีคนอื่นด้วย ทำไมต้องสวมเขาให้กูด้วย”
“...” พอได้ยินเรื่องของคิรินเขาก็รู้สึกว่าเรื่องของตัวเองมันเบาลงทันที เพราะเรื่องของคิรินมันหนักหนาสาหัสจริงๆ
ผู้หญิงที่คบกันมาตั้ง2 ปีนอกใจไปนอนกับผู้ชายคนอื่น แถมคิรินยังเห็นทั้งสองนัวเนียกันต่อหน้าอีก และเธอคนนั้นนอกกายนอกใจคิรินแบบนั้นมาเป็นปีแล้ว
แค่ไนท์ได้ยินยังเจ็บแทนคิรินเลย
“ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวในโลกนะคิริน คนดีๆ อย่างมึงต้องได้เจอผู้หญิงที่ดีกว่านี้ เชื่อกู” คำปลอบใจเดียวเขาให้กับคิรินได้
“แต่..กูรักคนนี้”
“กูเข้าใจ” เข้าใจดีเลย
ไม่ว่าผู้หญิงคนอื่นจะสวย จะดีมากกว่าแค่ไหนแต่เขาแม่งก็รักอยู่คนเดียว..
“คิริน กลับเถอะวะ” ไนท์เต๊ะเบาๆ ที่เท้าของคนที่นั่งคอพับเหมือนหลับไปแล้วพร้อมพยายามแหกปากแข่งกับเสียงเพลงในผับเรียก
“เออ กูกลับล่ะ” แล้วอยู่ๆ คนที่นั่งคอพับก็ลุกขึ้นดื้อๆ แถมไม่มีร่วง มีแค่เซนิดๆ แต่ก็ทรงตัวได้
“มึงจะกลับยังไง”
“เดี๋ยวเรียกรถมารับ”
“งั้นไป กูก็จะออกไปเรียกรถเหมือนกัน” ขอออกไปสูดอากาศให้สร่างก่อนแล้วค่อยเรียกรถกลับบ้าน สภาพตอนนี้ตาลาย คงกดเบอร์เรียกรถยังไม่ถูก
ให้ตายเถอะ แล้วจะแดกอะไรเบอร์นี้ แดกเหมือนชีวิตนี้ไม่เคยลิ้มลองรสชาติสุราเมรีมาก่อน พอกรอกเข้าปากครั้งแก้วแรกก็ติดใจจนกรอกหมดขวด ยังดีที่ขวดที่สองดื่มไปแค่นิดเดียว ไม่งั้นคงตายห่ากันพอดี
ทั้งสองแหวกว่ายผู้คนในผับออกมาด้วยสภาพที่ค่อนข้างลำบาก ลำพังแค่เดินให้ตรงยังยาก แล้วนี่ต้องเบียดตัวแทรกตัวกับผู้คนที่กำลังกระโดดโลดเต้นกันอย่างบ้าคลั่ง กว่าจะออกมาได้เล่นเอาตัวเกือบซ้ำเพราะเซไปชนคนนั้นทีคนนี้ที
“เฮ้ยพี่! ทำไมเมาแอ๋แบบนี้อ่ะ แล้วเมาขนาดนี้กลับยังไงเนี่ย” พอเดินออกมาหน้าผับ คิรินก็ถูกเรียกด้วยน้ำเสียงเล็กแหลมของเจ้าของร่างบาง หน้าตาน่ารัก สวยหวานอมเปรี้ยว
“เอารถมา”
“สภาพนี้เหรอจะขับรถกลับ เดี๋ยวก็ไม่ได้แก่ตายหรอก” ถึงใบหน้าจะดูน่ารักน่าชัง ทว่าปากเธอแซ่บไม่เบา เล่นเอาสองหนุ่มสะดุ้งมองเธออย่างอึ้งๆ
“แช่ง”
“ไม่ได้แช่ง พูดเรื่องจริง เดินยังเซ จะขับรถยังไง ป่ะ เดี๋ยวหนูเรียกรถให้”
“ไปส่งด้วยดิ” คิรินบอกพร้อมวาดแขนพาดคอของคนตัวเล็กกว่าไว้
“ส่งขึ้นรถน่ะนะ ได้สิ”
“ส่งที่คอนโดดิ โคตรเมาเลย” ก่อนจะไปคิรินก็ไม่ลืมหันมาร่ำลาไนท์ “กูไปนะ มึงเรียกรถกลับเองได้ใช่ไหม”
“เออ ได้ มึงกลับเถอะ” จากบทสนทนาที่ต่อปากต่อคำของอีกสองคนตรงหน้า เห็นชัดว่ารู้จักกันประมาณหนึ่ง ไนท์เลยไม่ติดใจอะไรที่ผู้หญิงคนนั้นจะพาคิรินกลับ
แยกกับคิรินเสร็จไนท์ก็เดินเลี่ยงผู้คนมายืนบริเวณใกล้ๆ ลานจอดรถ พิงตัวไว้กับต้นไม้ แล้วล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ
ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่ดูดบุหรี่ตอนนี้ เพราะยิ่งดูดก็ยิ่งเมา อากาศสดชื่นข้างนอกไม่ได้ช่วยให้สร่างเมาเลย
“พี่ไนท์”
ไนท์ชื่อเงยหน้าขึ้นเมื่อถูกเรียกด้วยน้ำเสียงคุ้นหู แต่เขามองเห็นไม่ชัดเพราะตอนนี้เมาตาลายไปหมดกระทั่งเธอมาหยุดตรงหน้าถึงได้เห็นว่าเป็นใคร
“นานิ”
ไนท์รีบโยนบุหรี่ทิ้งบนพื้นแล้วใช้เท้าบี้ดับไฟ แล้วยกมือขึ้นปัดควันสีขาวทีพึ่งพ่นออกมาให้ห่างจากคนตัวเล็ก
สูบเอง ปอดพังเอง ห้ามเผื่อแผ่ให้คนอื่น
“เรามาเที่ยวเหมือนกันเหรอ”
“ค่ะ”
“แล้วมากับใคร” ไม่น่ามากับไอญดาแน่ เพราะช่วงนี้ไอญดาคงไม่ว่าง ต้องดูแลเดย์ที่เขาเอาไปทิ้งให้เมื่อตอนกลางวัน
“มากับเอิงเอย กับคิมค่ะ”
วันศุกร์นักศึกษาส่วนใหญ่ก็มาเที่ยวดื่มกันปกติอยู่แล้ว สาวน้อยตรงหน้าก็คงไม่ต่างกัน เพราะตั้งแต่เธอกับไอญดาเป็นเพื่อนกับเอิงเอยและคิมก็เห็นนัดกันทุกศุกร์
“แล้วออกมาทำอะไรตรงนี้”
“เริ่มรู้สึกมึนๆ เลยหนีออกมาสูดอากาศค่ะ”
“เมามากไหม”
“ก็ประมาณหนึ่งค่ะ แต่คงน้อยกว่าพี่” บอกยิ้มๆ เวลาปกติคงไม่กล้าคุยเล่นกับเขา แต่ตอนนี้เมานิดๆ เลยมีความกล้ามากกว่าเวลาปกติ
“งั้นเรียกรถให้หน่อยดิ” ใจก็อยากบอกเธอเหมือนที่คิรินบอกผู้หญิงคนนั้นไปส่งเพราะตอนนี้โคตรเมาแต่กลัวมันจะรบกวนเธอเกินไป
“แน่ใจนะคะ ว่าพี่นั่งกลับเองไหว”
“แล้วถ้าไม่ไหว เราจะไปส่งไหม?”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองสินะ! เพราะความเป็นเพื่อนกันมานานยูสึเกะคงไม่อยากให้เพื่อนกับน้องสาวสานสัมพันธ์กันในเชิงคู่รักเพราะถ้านานิกับมิลล์ไปกันไม่รอดอาจจะเสียความเป็นเพื่อนกันได้ ตอนนี้ไนท์เข้าใจแล้วว่าทำไมมิลล์ถึงไม่เข้าหานานิมากกว่านี้ทั้งที่มีโอกาส หลังจากประโยคฮุคของยูสึเกะ ไนท์ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเอง ไม่รับรู้แม้กระทั่งยูสึเกะเดินออกไป ในหัวตอนนี้มีแต่ความหวาดหวั่น หวั่นกลัวและสับสนพุ่งเข้าใส่จนสมองมันมึนงงคล้ายหูอื้อตาลายไปชั่วขณะ“พี่” เสียงเรียกของนานิทำให้ไนท์ตื่นจากพวัง “เป็นอะไรคะ เราเรียกตั้งหลายครั้ง”ไนท์ไม่ตอบแต่ตวัดแขนแกร่งคว้าร่างบางเข้ามากอด ใบหน้าคมลดลงวางไว้กับบ่าเล็กแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นเหมือนกลัวคนในอ้อมกอดหายไป“คุยอะไรกับพี่ยูคะ บอกเราได้ไหม” ความเงียบและอาการของไนท์ทำให้นานิอยากรู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกัน “เราคิดยังไงกับไอ้มิลล์” เสียงทุ้มเอ่ยถามแผ่วเบา“คะ?”“ชอบมันไหม คิดกับมันเกินเพื่อนพี่ชายรึเปล่า?”“ไม่ค่ะ เราคิดกับพี่มิลล์แค่พี่ชาย” อดีตเคยคิดเกินเพื่อนพี่ชาย แต่ปัจจุบันไม่แล้ว แต่นานิคิดว่าไนท์ไม่จำเป็นต้องรู้ความรู้สึกของเธอไหนอดีตเพราะมันก็แค่อดีต
เช้าวันต่อมาเพราะคอแห้งผากจนนอนต่อไปไม่ไหวเลยต้องฝืนตัวลุกจากเตียงอุ่นและร่างนุ่มนิ่มเดินออกห้องนอนไปยังห้องครัวเพื่อหาน้ำเย็นๆ ดื่มไนท์เดินเมาขี้หูขี้ตา ยกมือเสยผมที่ร่วงปรกหน้าปกตาแล้วเลื่อนไปทุบที่หัวที่ตอนนี้มันปวดตุบๆ จากอาการแฮ้งเหล้าไม่น่าแดกเยอะเลยกู วันนี้คงต้องชดใช้กรรมด้วยอาการปวดหัวทั้งวัน..แกร็ก~เปิดประตูห้องมาเท้าหนาก็ชะงักเมื่อเจอกับคนบางคนที่ไม่คิดว่าเจอที่นี่มันมาทำอะไรที่นี่?อีกหนึ่งหนุ่มที่มีสีหน้ายับยู่ยี่ด้วยอาการแฮ้งค์จากการดื่มจนน็อกเมื่อคืนกำลังยกขวกน้ำดื่มก็ชะงักเหมือนกันเมื่อเห็นไนท์ไนท์เดินกระแทกไหล่มิลล์ที่ยืนหน้าตู้เย็นเปิดประตูหยิบน้ำออกมาหนึ่งขวด ก่อนปิดประตูตู้เย็นด้วยเสียงดังปัง“มึงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง” กรอกน้ำเข้าปากไปเกือบครึ่งขวด ลำคอที่แห้งผากก็รู้สึกดี เลยทำให้ไนท์มีเสียงเอ่ยทักมิลล์“แล้วมึงล่ะมาทำอะไร”“กูก็มาหาเจ้าของห้อง”“กู..เจ้าของห้องพามา” มิลล์ตอบกลับอย่างยียวน“มึงอย่ามากวนตีน”“กูไม่ได้กวนตีน เจ้าของห้องพากูมาจริงๆ แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งที่กูมา” เขาเห็นไนท์แวบๆ กับน้องสาวของเพื่อนสนิทหลายครั้งแล้ว แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าได้เจอที่นี่ เด
“เรียกพี่ไนท์ 2 นาทีได้ไหมน้า”“ล้อเหรอ เดี๋ยวโดน “ลงโทษคนล้อเลียนด้วยการซุกใบหน้าหล่อเหลาไปฟัดกับหน้าอกอวบ จนเจ้าของเต้างามเปิดปากหัวเราะเพราะความ,จั๊กจี้ใครว่าเมาแล้วเสร็จยาก เขาเสร็จเร็วฉิบหาย จับยัดแป๊บๆ แตกเฉย สัสเอ๊ย!“ฮ่าๆ พี่พอแล้ว เราจั๊กจี้”“รอบที่สองก็แก้ตัวแล้วไง จำแต่รอบที่ดีก็พอ”“^^”“กล่อมหน่อยครับ ง่วงแล้ว”กว่าจะง่วง จัดไปตั้งสองรอบ รอบแรกกินเวลาน้อยนิดแต่รอบสองยืดเยื้อเกินครึ่งชั่วโมงได้ เวลาปาไปกี่โมงแล้วไม่รู้ น่าจะดึกมากแล้ว เธอเองก็หนังตาหนักอึ้ง ฝืนลืมตาต่อไปไม่ไหวแล้วเหมือนกันเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ไนท์หลับภายในเวลาไม่กี่นาที“ง่วงขนาดนี้ ยังฝืนตัวเองทำจนได้ คนหื่น “เรียวปากบ่นเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม มือก็ยังลูบไล้กล่อมคนตัวโต แม้เขาจะหลับไปแล้ว เธอทำมันโดยไม่รู้ตัว มันเป็นความเคยชินที่เธอกล่อมไนท์หลับแบบนี้ทุกคืนครืดๆ ~กำลังจะเข้าสู่นิทราเสียงสั่นจากโทรศัพท์ก็ดังรบกวนเสียก่อน เวลานอนนานิมักจะใส่โหมดพระจันทร์ห้ามรบกวนเอาไว้ ถ้าใครมีเรื่องด่วนจริงๆ ก็ต้องโทรหามากกว่าหนึ่งครั้งถึงมีสายเข้าเหมือนเวลาปกติซึ่งสายเรียกเข้าตอนนี้ คนปลายสายคงมีเรื่องด่วน“พี่ยู” เ
ห้องนานิถึงห้องนานิก็ไล่คนเมาไปอาบน้ำทันที ด้วยความที่ไนท์เป็นคนรักสะอาดอยู่แล้ว แม้จะเมาแค่ไหนก็ฝืนกายไปอาบน้ำให้ได้“น้องนานิคร้าบ อาบน้ำให้พี่หน่อยครับ” เสียงยานคางตะโกนจากในห้องน้ำอย่างออดอ้อน“โตแล้ว อาบเองสิคะ” เมาแล้วอ้อนจัง อ้อนที่สุด เรียก ‘น้องนานิ’ ปิดท้ายด้วย’ ครับ’ เสียงหวาน แต่เธอไม่หลงกลหรอก“พี่เมา หัวฟาดพื้นทำไง”“พี่อาบเองได้ เรารู้ รีบอาบเลยค่ะ ไม่งั้นเราจะให้พี่นอนที่โซฟา” ดื้อจังนานิขยับตัวไปยืนใกล้ประตูห้องน้ำที่เปิดอ้าเอาไว้ด้วยฝีมือคนในห้องน้ำที่นึกอยากอาบน้ำโชว์ ที่เธอต้องยืนอยู่ตรงนี้เพราะเผื่อคนเมาลื่นล้มหัวฟาดตอนอาบน้ำขึ้นมาจริงๆ จะได้ยินและเข้าไปช่วยได้เร็วที่สุดแต่คิดว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นหรอก ตอนเดินขึ้นห้องไนท์ก็ดูสร่างเมามาบ้างแล้ว แต่เขาก็ยังคะยั้นคะยอขอให้เธอเข้าไปช่วยอาบน้ำ คิดเหรอว่าเธอจะตกหลุมพราง ขืนเข้าไปต้องโดนเขาจับกินแน่เสียงน้ำปิดลง นานิเลยขยับไปนั่งรอที่เตียงนอนแทน ได้ยินเสียงกุกกักที่อ่างล้างหน้าหลายนาทีก่อนร่างสูงใหญ่จะเดินออกห้องน้ำมาด้วยสภาพผ้าขนหนูพันเอว หัวเปียกหมาด หยดน้ำเกาะตามหน้าอกแกร่งและซิกแพ็กลีนๆเซ็กซี่จัง!แค่มองหน
00.30 น.เวลานี้คนไม่ได้มีนัดฉลองหลังสอบที่ไหนก็ควรเข้านอนได้แล้ว ไม่ใช่กำลังถอยรถเข้าจอดในลานจอดรถย่านสถานบันเทิงแถวมหาลัยอย่างตอนนี้มันไม่ได้เป็นแผนปุ๊บปั๊บเนื่องจากคนเมาเกริ่นๆ เอาไว้หรือจะเรียกว่าขอร้องก็ได้ ว่าถ้าวันนี้เขาเมามารับได้ไหม ซึ่งคำตอบก็คือได้ ไม่งั้นเธอคงไม่มาอยู่ตรงนี้ตอนนี้ ทั้งที่ควรนอนหลับน้ำลายยืดไปแล้วนั่งรอในรถได้ไม่ถึงนาทีก็เห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยในชุด all black เดินออกจากผับ ด้วยท่าทางที่เดาได้ไม่ยากว่าเขาเมาแน่นอนตอนส่งข้อความไปอ้อนให้มารับ เธอยังต้องนั่งแกะข้อความที่พิมพ์มาผิดๆ ถูกๆ ของเขาเลยริมฝีปากบางกระตุกยิ้มดีใจเมื่อเห็นรถญี่ปุ่นที่จอดอยู่คันหน้าสุด ดึกดื่นขนาดนี้เธอยังมารับเขา เมาครั้งไหนก็เป็นเธอที่คอยดูแล น่ารักชะมัดแบบนี้ต้องให้รางวัลไนท์สาวเท้าก้าวยาวๆ มายังรถของนานิที่มองปุ๊บของรู้ว่าเป็นของเธอ คนในรถไม่ได้ลดกระจกลงต่ำจนเห็นข้างใน ทำเพียงแค่ลดลงเพื่อรับอากาศข้างนอกทว่ายังก้าวไปไม่ถึงไหน ก็มีผู้หญิงหน้าตาดีในชุดเดรสรัดรูปอวดหุ่นน่าขย้ำเดินเข้ามาทัก“พี่ไนท์”นานิหุบยิ้มฉับเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาทักไนท์ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน เม
เมื่อการสอบปลายภาควันสุดท้ายเสร็จสิ้นลง สี่หนุ่มก็พากันมาฉลองที่ร้านอาหารกึ่งบาร์ต่างจากปกติที่จะพากันฉลองที่ผับแถวมหาลัย แต่ด้วยความที่เดย์ยังไม่ถอดเฝือกและยังต้องใช้ไม้ค้ำเดินอยู่ แม้จะลดเหลือแค่อันเดียวแล้วก็ตามแต่ก็ยังเดินเหินไม่สะดวกเหมือนปกติ ทั้งสี่เลยจึงต้องปรับเปลี่ยนสถานที่ฉลองมาเป็นที่นี้เพราะขืนพาเดย์ไปผับในสภาพนี้ คงดูกระเสือกกระสนเกินไป ป่วยอยู่แต่เสือกอยากแดกเหล้าอะไรประมาณนี้ แถมข้างในยังแออัดมากไม่เหมาะกับคนที่เดินเหินยังไม่สะดวกอย่างเดย์แม้แต่นิดและแม้จะเป็นนัดของหนุ่มๆ แต่ไอญดาก็ได้รับอนุญาตให้ติดสอยห้อยตามมาเพราะต้องขับรถมาส่งและรับเดย์กลับเนื่องจากอีกสามหนุ่มไม่ได้เอารถมาเพราะเตรียมตัวจัดหนักกันเต็มสตรีม วันนี้เลยไม่มีใครเป็นสารถีไปรับเดย์ และอีกเหตุผลหนึ่งคือเดย์ติดแฟนสาวมากไปไหนก็ต้องหนีบไปด้วยทุกที ไอญดาจึงได้ร่วมวงกับหนุ่มๆ อยู่บ่อยครั้งวันนี้ไนท์เรียกรถมา รวมถึงเรนจิกับชินด้วย ที่ถือคติเมาไม่ขับ ก่อนหน้านี้มีดื่มแล้วขับบ้าง ถ้าไม่เมามาก แต่ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุกับเดย์ทำให้อีกสามหนุ่มคิดถึงชีวิตตัวเองมากขึ้นและชีวิตคนอื่นบนท้องถนนด้วยขณะที่ไนท์เดินเข้ามาที่