Home / โรแมนติก / My wife เมื่อหมดรัก / บทที่ 23 พ่อแม่สามีที่ดีที่สุด

Share

บทที่ 23 พ่อแม่สามีที่ดีที่สุด

Author: Sitha
last update Last Updated: 2025-08-31 00:15:06

ค่ำวันนั้นอิสริยาหอบของส่วนตัวมาเก็บในห้องนอนของลูก  ซึ่งปู่ย่าเพิ่งจัดแยกให้จากที่ปกติเวลาที่มาที่นี่สามคนพ่อแม่ลูกจะนอนห้องเดียวกันเสมอ 

          “ห้องนอนสีชมพู  หนูชอบจังค่ะแม่”  น้องเพียงกระโดดขึ้นเตียงอย่างร่าเริง  ตอนนี้เธออาบน้ำสวมชุดนอนเตรียมตัวเข้านอนแล้ว

“ชอบแบบนี้ พ่อทำห้องที่บ้านให้ใหม่ดีไหมครับ”  สกนธีเปิดประตูเข้ามา  เพราะว่าห้องเด็กของน้องเพียงนั้นมีประตูเชื่อมกับห้องนอนเดิมของเขา  เพื่อความสะดวกที่พ่อแม่จะได้มาดูแลลูกได้หากเกิดอะไรกลางดึก

“ดีค่ะพ่อ  ทำที่ร้านใช่ไหมคะ”  เด็กหญิงเอียงคอถาม

“ที่ร้านก็เป็นสีชมพูอยู่แล้วไงลูก”  คนเป็นแม่ท้วง ทำให้เด็กหญิงทำสีหน้ายุ่งยากใจ 

“มันไม่เหมือนค่ะแม่  คนละสี” 

“ห้องนี้ชมพูอมม่วงแบบพาสเทล  ห้องนั้นชมพูอย่างเดียวใช่ไหมลูก”  สกนธีพูดนำทำให้เด็กน้อยพยักหน้า

“ใช่ค่ะพ่อ”  เธอหันมาหามารดาพลางกอดแขนอ้อน  “นะคะแม่  หนูอยากได้ห้องแบบนี้ที่บ้านเรา” 

“ถ้าแม่ไม่อนุญาตพ่อทำให้ที่บ้านเรานะคะ  แล้วหนูกับแม่ก็กลับไปนอนบ้านบ้างก็ได้”  สกนธีต่อรอง  หากอิสริยาไม่อนุญาตก็ถือว่าดีเสียอีก  เพราะเขาจะได้มีเหตุอ้างพาลูกกลับไปนอนบ้าน  และถ้าลูกไปหญิงสาวก็ต้องไปด้วยเพราะเธอไม่มีวันปล่อยให้ลูกไปกับเขาตามลำพังแน่ๆ

  อิสริยาถอนใจ  “ก็ได้ค่ะลูกแต่ให้พ่อออกเงินนะคะ  แม่ไม่จ่ายนะ”  อยากทำดีนักก็จ่ายไป  เมื่อก่อนไม่เห็นอยากจ่ายอะไรสักอย่าง

“ได้เลย  เดี๋ยวพี่ทำให้เอง”  สกนธีตอบรับพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งด้านขวาของเด็กหญิง  ตรงข้ามกับอิสริยาที่นั่งด้านซ้าย

“พ่อนอนด้วยคนได้ไหมคะลูก  พ่อนอนคนเดียวแล้วเหงา” 

“พ่อเหงาเหรอคะ”  ลูกสาวถาม

“ใช่สิคะ  ทุกทีมานี่เราก็นอนกันสามคนหนูจำได้ไหมลูก” 

เด็กหญิงพยักหน้าเห็นด้วย  เพราะทุกครั้งที่มาบ้านปู่ย่าบ้านเราจะนอนด้วยกันจริงๆ เธอจำได้ 

“นอนเลยค่ะพ่อ  ห่มผ้าไหมคะ”  มือเล็กๆ ดึงผ้าห่มจะเผื่อให้บิดาแต่มารดาดึงไว้

“ให้คุณพ่อไปหยิบผ้าห่มที่ห้องโน้นมาเองค่ะลูก”  แค่นอนห้องเดียวกันก็แย่พอแล้ว  อย่าหวังว่าเธอจะยอมใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับเขา  หญิงสาวคิดในใจ

สกนธีรีบลุกกลับไปเอาผ้าห่มที่ห้องใหญ่มาทันที บทที่ อย่างน้อยประโยคนั้นก็แปลว่าเธออนุญาตให้เขานอนห้องเดียวกันได้  เขาใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็เดินกลับมาหลังจากที่หยิบผ้าห่มและปิดไฟที่ห้องใหญ่แล้ว  กลับมาทันเห็นสองแม่ลูกกำลังหาวทั้งคู่พอดี 

“นอนเลยครับแม่ลูก  เดี๋ยวพ่อไปปิดไฟเอง” 

“แม่ปรุงเสร็จแล้ว  หนูตักข้าวต้มใส่ถ้วยเลยลูก”  คุณธิดาบอกลูกสะใภ้ที่ลุกมาช่วยนางทำอาหารเช้าตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง  นางหันรีหันขวางเปิดตู้เย็นแล้วชวนคุยต่อ

“ที่บ้านเรามีแฮมกับไส้กรอก  หนูเพียงจะกินด้วยไหม” 

“ไม่ต้องหรอกค่ะแม่  ให้น้องเพียงกินข้าวต้มเหมือนคนอื่นก็ได้ค่ะ” 

อิสริยาปฏิเสธ  เธอมักจะสอนลูกให้เป็นคนอยู่ง่ายกินเองเวลาที่ไปที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง  ไม่อยากทำให้เจ้าของบ้านลำบากใจ  และอีกอย่างคือเด็กหญิงเองก็ชอบอาหารเช้าแบบไทยๆ มากกว่าอเมริกันเบรกฟาสต์  

“เดี๋ยวนี้แม่ยังทำอาหารเองทุกวันเลยเหรอคะ”   เธอถามต่อ

“ไม่แล้วลูก  ปกติให้แม่บ้านทำแทนจ้ะ ยกเว้นว่าวันไหนอยากทำเองหรือบางเมนูให้แม่บ้านทำแล้วไม่ถูกใจ”    

อิสริยาช่วยเด็กจัดโต๊ะอาหารเช้าเสร็จพอดีกับที่สกนธีพาลูกสาวลงมาที่ชั้นล่าง  เด็กหญิงอาบน้ำแต่งตัวแล้วโดยที่พ่อลูกใส่เสื้อครอบครัวเข้าเซตเดียวกัน

“วันนี้หนูจะไปพายเรือใช่ไหมคะน้องเพียง”  คุณศิริถามหลานสาวขณะที่รับประทานมื้อเช้าพร้อมหน้าพร้อมตา

“ค่ะคุณปู่  คุณปู่คุณย่าไปด้วยกันนะคะ”

“ไม่ไหวแล้วลูก ปู่ย่าแก่แล้ว  น้องเพียงไปกับพ่อแม่เถอะ”  ชายสูงวัยตอบพลางยิ้มใจดี

“โทรไปจองเรือไว้แล้วใช่ไหมลูก” 

เพราะกิจกรรมพายเรือคายัคล่องแก่งนั้นจะต้องโทรไปจองล่วงหน้า เพื่อให้ทางเจ้าของสถานที่เตรียมเรือที่เหมาะสมไว้ให้ 

“เรียบร้อยครับแม่  ผมโทรไปจองแล้วรอบสายๆ แดดจะได้ไม่ร้อน”  สกนธีไม่ได้จองแค่กิจกรรมพายเรือคายัค  แต่เขาดูกิจกรรมอื่นๆ ในที่นั่นไว้ด้วย  ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารแกะ  ให้อาหารปลาช่อนอเมซอน  ขับรถดักกี้และอื่นๆ

เมื่อรับประทานมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว  สกนธีก็พาสองสาวแม่ลูกขึ้นรถขับออกไปยังสถานที่พายเรือคายัคที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านไร่นัก  เมื่อไปถึงเขาติดต่อเจ้าหน้าที่และจ่ายเงินแล้วทุกคนก็ได้รับเสื้อชูชีพ  ซึ่งเรือที่เขาจองไว้เป็นเรือคายัครุ่นใหม่ของที่นี่เป็นเรือแบบสามที่นั่ง  ซึ่งต่างจากปีก่อนที่มาคือเป็นเรือคายัคสองที่นั่ง 

“ความจริงคุณจองเรือแบบเดิมก็ได้นะ  ฉันรอบนฝั่งได้ค่ะ”  อิสริยาออกตัว  เพราะว่ารอบที่แล้วเธอก็ปล่อยให้สองพ่อลูกเล่นกันแค่สองคน 

สกนธีก้มลงถามลูกสาว  “หนูอยากให้แม่ไปเล่นกับเราด้วยไหมคะน้องเพียง”  

เด็กหญิงพยักหน้าทันที  “อยากค่ะ  หนูอยากนั่งตรงกลางแม่เล่นกับหนูนะคะ” 

หญิงสาวกลอกตามองบนเมื่อได้ยินเช่นนั้น  ถ้าขืนสกนธียังเอาลูกมาอ้างทุกเรื่องเธอมีแต่ต้องยอมไปตลอดละมั้ง  อยากจะขัดใจลูกแต่เมื่อมองเห็นสีหน้าสดใสของเด็กหญิงสุพิชชาเธอก็ได้แต่เก็บคำปฏิเสธไว้ในอก

          “กรี๊ด...”  เสียงของเด็กหญิงวัยหกขวบดังไปทั่วบริเวณลำน้ำที่ไม่ได้กว้างมากเท่าใด  ทันทีที่เรือถูกปล่อยออกจากจุดเริ่มต้นเรือพุ่งตัวลงสู่ผิวน้ำด้วยความรวดเร็วตามความชันของตลิ่งเหมือนเวลาที่เราเล่นสไลเดอร์

          ในบางช่วงของเส้นทางมีหินก้อนใหญ่เรียงรายกันทำให้เรือถูกคลื่นซัดไปมา  แต่ตลอดทางก็มีเจ้าหน้าที่คอยอยู่ดูแลเป็นระยะทำให้ไม่น่ากลัว  ส่วนน้องเพียงก็ร้องกรี๊ดอย่างสนุกสนาน  เด็กน้อยส่งเสียงคุยกับแม่บ้าง เอี้ยวตัวมาคุยกับพ่อที่นั่งท้ายเรือบ้างอย่างร่าเริง

          การพายเรือล่องแก่งสิ้นสุดลงในเวลาราวหนึ่งชั่วโมง  หลังจากที่ขึ้นฝั่งถอดเสื้อชูชีพแล้ว  อิสริยาพาลูกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกน้ำจนชุ่มออก  เด็กหญิงที่ยังสนุกเต็มที่พูดแจ้วๆ ทำให้หญิงสาวรู้ว่าตัวเองคิดไม่ผิดที่ตามใจลูก  เพราะเธอไม่เห็นน้องเพียงมีความสุขขนาดนี้มานานมากแล้ว 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 3

    สิบปีต่อมา “พ่อขา หนูขอไปเรียนต่อที่มช.นะ พ่อให้หนูไปนะคะ” สุพิชชาในวัยสิบแปดปีเต็ม เธอเป็นเด็กสาวที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านเป็นผู้ใหญ่แล้วอ้อนขอบิดาในเรื่องเรียน “อืม... พ่อว่า” สกนธีคิดหนัก เขาเป็นพ่อที่ขึ้นชื่อว่าหวงลูกสาวทั้งสองคนมาก โดยเฉพาะคนโตที่กำลังเป็นสาวสะพรั่ง จะทำใจปล่อยให้ไปอยู่ไกลขนาดนั้นได้อย่างไร “หนูยื่นคะแนนผ่านแล้วหรือยังลูก” อิสริยาถามแทน“ผ่านแล้วค่ะแม่สาขาแอนนิเมชันและวิชวลเอฟเฟกต์ อาทิตย์หน้าต้องไปสัมภาษณ์ รอบรับตรงคะแนนผ่านยี่สิบคนรับสิบห้าค่ะ” “งั้นเดี๋ยวพ่อแม่ไปด้วย” สกนธีตัดสินใจ ในวัยของลูกเขาเองก็ผ่านมาแล้ว รู้ว่าไม่ควรห้ามและปิดกั้นลูกไม่ให้ออกไปเผชิญโลกภายนอก“พิงค์ไปด้วยค่ะ” สโรชาวิ่งลงมาจากบันไดทันได้ยินพอดี “ไปกันหมดบ้านล่ะ ถ้าน้องเพียงสอบผ่านเราก็หาบ้านไว้ที่นั่นสักหลังนะคะพี่เก่ง” อิสริยาสรุป“เย้... ดีใจจังเราจะมีบ้านที่เชียงใหม่แล้ว” ดูเหมือนว่าลูกสาวคนเล็กจะดีใจกว่าคนที่ขอไปเรียนเสียอีก สกนธีมองลูกแล้วส่ายหน้าไปมาด้วยความเอ็นดู แม้ว่าเขาเองจะมีความใจหายลึกๆ ว่าอีกหน่อยลูกจะโตกันหมดแล้วก็ตามห้าวันต่

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 2

    หนึ่งปีต่อมา“เราจะซื้อไปทำไมคะแม่ ดอกไม้พวกนี้” น้องเพียงในวัยแปดขวบถามหลังจากที่ช่วยมารดายกถุงใส่พวงมาลัยสดขนาดยาวสามเมตรขึ้นรถ“เอาไปไหว้เหล่ากงไงลูก” น้องเพียงทำหน้านึก “อ๋อ... ไปเชงเม้งเหรอคะแม่”“ใช่จ้ะลูก บ้านเราไปกันพรุ่งนี้” เพราะว่าครอบครัวของอิสริยาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ดังนั้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนจะเป็นช่วงเทศกาลเชงเม้งหรือการไปไหว้บรรพบุรุษ สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะต้องไปพร้อมหน้าพร้อมตากันไม่ว่าจะเป็นเสี่ยกวงและภรรยา ลูกชาย ลูกสะใภ้ ลูกเขย และบรรดาหลานๆโดยที่ปีนี้ครอบครัวของอิสริยาจะเอารถไปเอง โดยที่เธอนัดกับคนอื่นๆ ไว้ว่าให้ไปเจอกันที่สุสานที่จังหวัดสระบุรีในช่วงสายได้เลย เช้าวันนั้นเด็กๆ ตื่นเต้นที่จะได้ไปต่างจังหวัดจึงพากันตื่นเร็วทั้งพี่ทั้งน้อง อิสริยาให้พี่เลี้ยงลูกตามไปหนึ่งคนเพื่อคอยดูเด็กๆ ในช่วงที่ทำพิธีไหว้เมื่อจัดของขึ้นรถเรียบร้อยแล้วในตอนเช้า ยังไม่ถึงหกนาฬิกาดีรถยนต์เจ็ดที่นั่งก็เคลื่อนตัวออกเดินทาง สกนธีเพิ่งเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้เมื่อต้นปีเพราะมันเป็นรถรุ่นครอบครัว เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกหลายคน “ลูกอมกาแฟหน่อยไหมคะ

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 1 

    “คุณพ่อขา แม่จะต้องอยู่ข้างในนานไหมคะ” เด็กหญิงสุพิชชากระตุกมือคุณพ่อของเธอที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัด“เดี๋ยวคุณแม่ก็ออกมาลูก” สกนธีจูงมือลูกสาวพามานั่งรอด้วยกัน “หนูหิวหรือยังคะ ไปหาอะไรกินก่อนไหมพ่อพาไป” ชายหนุ่มมองเวลา จากที่คุณหมอแจ้งไว้น่าจะพอมีเวลานิดหน่อยพาลูกไปหาอะไรรับประทาน“หิวค่ะ แต่หนูอยากรอแม่” เพราะว่าเด็กหญิงเพิ่งกลับจากโรงเรียนก็ตรงมาที่โรงพยาบาลเลย “ไปกินก่อนลูก กว่าแม่จะผ่าตัดเสร็จกว่าจะขึ้นห้องพัก” ชายหนุ่มบอกลูกสาว กำลังจะพาเด็กหญิงไปชั้นล่างแต่คุณนายอิสรีย์เดินมาถึงเสียก่อน“น้องเพียงไปกับอาม่าก็ได้ลูก เก่งรอดูเอ๋เถอะเดี๋ยวแม่พาน้องเพียงไปเอง” “ขอบคุณครับม้า” สกนธีขอบคุณแม่ของภรรยาที่มาช่วยดูแลหลาน หลังจากที่อันธิกาเป็นคนไปรับหลานจากโรงเรียนมาส่งหาพ่อแม่ที่โรงพยาบาล“แล้วนี่เอ๋จะทำหมันด้วยเลยไหม” นางถามต่อ“ไม่ทำครับ เดี๋ยวผมทำเอง” แม่ยายชะงักมองหน้าลูกเขย ก่อนจะยิ้ม “ดี ทำหมันก็เจ็บตัวเพิ่มแค่ผ่าคลอดก็เจ็บพอแล้ว ขอบใจนะ” หาได้น้อยบ้านที่ผู้ชายจะยอมเป็นฝ่ายทำหมัน เนื่องจากมองกันว่าไหนๆ ฝ่ายหญิงก็คลอดลูกอยู่แล้ว ควรจะทำหมันไปด

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 37 (จบ) ขอบคุณที่กลับมา

    อิสริยาและสกนธีจรดปลายปากกาลงในทะเบียนสมรสต่อหน้านายทะเบียนที่เชิญมานอกสถานที่ ทั้งสองผลัดกันเซ็นแล้วนายทะเบียนลงนามและตรวจสอบความเรียบร้อยดีแล้ว จากนั้นจึงมอบให้คู่บ่าวสาวเก็บไว้ถือคนละฉบับวันนี้เป็นวันแต่งงานอีกครั้งของสกนธีและอิสริยา ซึ่งจัดเป็นพิธีแบบครึ่งวันไม่มีงานเลี้ยงเย็นเนื่องจากเจ้าสาวตั้งครรภ์อยู่ ไม่สะดวกเข้าพิธีที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานแขกที่พวกเขาเชิญมาร่วมงานมีไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นคนสนิทหรือญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมวงการทั้งสิ้น งานจัดแบบสบายๆ เป็นงานแต่งงานในสวน ตามตารางเวลาจะมีพิธีเลี้ยงภัตตาหารและหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ พิธีส่งตัว จบที่การเชิญแขกร่วมรับประทานมื้อเที่ยงแบบเป็นกันเอง“รักกันนานๆ ดูแลกันไปตลอดนะลูก” คุณธิดาให้พรเป็นคนแรกในการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวอีกครั้งเพื่อเป็นสิริมงคลคู่บ่าวสาวในงานแต่งงานครั้งที่สองของลูกชายคนเดียว“พ่อขอให้ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข ทำอะไรเจริญก้าวหน้านะลูก เด็กๆ แข็งแรง พระเจ้าอวยพรลูก” ตามด้วยคุณศิริหลั่งน้ำสังข์พร้อมกับให้พรและมีเงินขวัญถุงใส่ซองให้บ่าวสาวคู่บ่าวสาวก้มลงไหว้คนทั้งสอง “ขอบคุณค่ะคุณแม่คุณพ่อ” “ขอบคุณครับพ่อแ

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 36 ข่าวดี

    คดีของติยากรคืบหน้าอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มไปในทางดี เพราะว่าทนายติดต่อไปยังอดีตแฟนสาวอีกคนของเคน และได้รับทราบถึงพฤติกรรมที่ไม่ต่างกันกับที่ติยากรได้พบ นอกจากนั้นในอีกส่วนซึ่งเป็นคดีของสกนธีเองก็มีการได้คุยกับเพื่อนร่วมวงการหลายคน และพบว่าเคนไม่ได้ทำกับสกนธีเป็นคนแรก ดังนั้นจึงมีการรวบรวมผู้เสียหายหลายคนรวมฟ้องกันเป็นหลายกระทง ต่างกรรมต่างวาระและมูลค่าความเสียหายสูงถึงหลายสิบล้านคดีของติยากรและผู้เสียหายคนอื่นๆ ที่คดีที่เกี่ยวกับการแบล็กเมล ข่มขู่ ทำร้ายร่างกายและกรรโชกทรัพย์นั้น ศาลชั้นต้นได้พิจารณาแล้วและได้ตัดสินให้เคนจำคุกทั้งหมดสี่ปีสิบสองเดือน และเสียค่าปรับอีกสามแสนบาทและมีคำสั่งห้ามเข้าใกล้โจทก์ในระยะห่างที่ศาลกำหนดจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ซึ่งศาลได้รับอุทธรณ์ตามขั้นตอน นั่นหมายความคดีจะต้องยืดเยื้อไปอีกนาน ในส่วนคดีของสกนธีศาลได้ประทับรับฟ้องเคนเป็นจำเลยที่หนึ่ง และผู้มีส่วนรู้เห็นเป็นจำเลยที่สองและสามอีกหลายคน ซึ่งคดีของสกนธีเป็นคดีที่มีมูลความผิดและอัตราโทษที่รุนแรงไม่แพ้กัน คือคดีปลอมแปลงเอกสารราชการซึ่งถือเป็นความผิดอาญามีโทษทั้งจำและปรับทีมกฎหมายของคดีที่สกน

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 35 โอกาสครั้งที่ 2

    การก่อสร้างห้างใหม่กว่าจะแล้วเสร็จใช้เวลาหนึ่งปีพอดี ในวันเปิดงานหลังเทศกาลขึ้นปีใหม่ปีถัดมา นั้นก็เป็นเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเข้าศกใหม่และย้ายโกดัง สำนักงานและสินค้าทั้งหมดเข้าห้างใหม่ไปในเวลาเดียวกันกรรมการบริหาร หุ้นส่วน พนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อสร้างล้วนถูกเชิญให้มาร่วมในงานทำบุญเปิดห้างเพื่อเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นศักราชใหม่ ซึ่งรวมถึงอิสริยาและสกนธีกับทีมงานของเขาก็มาร่วมงานในวันนี้เช่นกัน“แม่ขาหนูสวยยังคะ” น้องเพียงในวัยหกขวบหมุนตัวไปมาให้มารดาดู เธอสวมชุดเจ้าหญิงฟูฟ่องสีชมพูที่เธอร้องอยากได้และคุณพ่อเป็นคนซื้อให้ตามสัญญา“สวยแล้วค่ะ อยู่นิ่งๆ ก่อนนะคะ รอพระสวดเสร็จก่อนลูก” หญิงสาวปรามลูกไม่ให้ขยับตัวไปมาเยอะจนเป็นการรบกวนคนอื่นให้เสียสมาธิในการรับพร“หนูจะไปหาคุณพ่อ” ว่าแล้วเธอก็วิ่งปรู๊ดไปหาสกนธีที่กำลังคุยกับเสี่ยกวงและอังกูร พ่อและพี่ชายของภรรยา“ขอบใจมากนะอาเก่ง ลื้อเก่งจริงๆ ดูสิเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้” เสี่ยกวงขอบใจพ่อของหลานสาวที่เป็นธุระเรื่องการสร้างห้างใหม่ให้ชายหนุ่มก้มศีรษะน้อมรับคำชมนั้น ซึ่งไม่ใช่เขาคนเดียวที่ทำให้งานสำเร็จลงได้ การก่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status