“ใกล้เวลาเรียนแล้วเบลขอตัวก่อนนะคะ” เธอลุกขึ้นเอาหนังสือไปเก็บเข้าชั้น มาร์วินเดินเข้าไปช่วยคนที่เขย่งสุดปลายเท้าเพื่อเก็บหนังสือ
“ขอบคุณค่ะ ตัวสูงจังเลย” เธอหันมาขอบคุณเขาแต่ใกล้กันมากจนจมูกเธอชนเข้ากับแผงอกแกร่งเข้าพอดี “เจ็บไหมน่ะ” มาร์วินยื่นมือไปค้ำชั้นหนังสือแล้วก้มลงมามองจมูกเล็กน่ารักของเธอ “เจ็บนิดหน่อยค่ะ แดงไหมคะ” “อืม! นิดหนึ่งนะ” เขามองอย่างสังเกตพร้อมกับส่งมืออีกข้ามมาลูบให้เบาๆ จมูกของจริงแฮะ คงจะสวยแบบแม่ให้มาทุกตรง “งั้นเบลขอตัวนะคะ” หมับ! เขาจับแขนเล็กไว้ “เย็นนี้ไปทานข้าวกับพี่ได้ไหม” “เย็นนี้มีนัดแล้วค่ะ เอาไว้วันหลังนะคะ เบลไปนะ” มาร์วินปล่อยแขนเล็ก แล้วมองตามหลังเธอไปจนสุดสายตา มีนัดแล้วงั้นเหรอ นัดกับใคร เกิดอยากรู้ขึ้นมาทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยจะสนใจ ถ้าจะมีคู่แข่งขึ้นมา เพราะมั่นใจว่ายังไงผู้หญิงต้องเลือกเขาอยู่ดี แต่พอเป็นเฌอเบลทำไมเขาถึง มีความไม่มั่นใจขึ้นมาได้นะ และดันอยากรู้ว่าคู่แข่งเขาเป็นใครขึ้นมาด้วยนะสิ เขาบ้าไปแล้วจริงๆ เป็นเอามากเพิ่งจะเจอเธอแค่สองครั้งเองนะ ตึกคณะวิศวะ “มาร์วินยังไง เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ น้องเฌอเบลที่มึงบอกว่าชอบ มันยังกันแน่ถึงลงทุนตามน้องเขาไปทั่วแบบนี้ ชอบจริงรึเปล่าวะ” ออสตินถามเขาทันทีที่เจอหน้ากัน “ชอบจนอยากมอบเกียร์ให้เลย” มาร์วินนั่งลงแล้วหันมาตอบออสตินด้วยสีหน้าจริงจัง “พูดขนาดนี้ แสดงว่าคนนี้ตัวจริงแล้วสินะ แล้วน้องเขาชอบมึงแล้วด้วยใช่ไหมวะ” แม็กซ์เวลถาม “ยังไม่รู้วะ เพิ่งเริ่มจีบ” “อ้าว! แล้วทำไมมึงถึงไปชอบเขาขนาดนั้นละวะ” เคเดนที่พูดน้อยที่สุดแต่ดันถามตรงใจเพื่อนทุกคนที่สุด “ไม่รู้วะตอบไม่ได้รู้แต่ว่าชอบ สเปกไปหมด ชอบทุกอย่าง” “งั้นก็ลุย จีบให้ติด” ออสตินเชียร์เพื่อนเต็มที่ “อืม!” “ว่าแต่เพื่อนสนิทของนายเขาโอเคเหรอนายจะมีแฟน” แม็กซ์เวลถามขึ้นมา “ปันปันแค่เพื่อน ฉันบอกพวกนายมาเป็นร้อยรอบแล้วมั้ง ฉันไม่ได้คิดอะไรกับปันปันจริงๆ” มาร์วินอธิบายให้เพื่อนฟังรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะปันปันเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวของเขาที่สนิทกันพอสมควร เพราะเรียนด้วยกันมาตอนปฐมและบ้านเคยอยู่ใกล้กัน มาแยกกันตอนมัธยมเพราะเขาย้ายบ้านย้ายโรงเรียน มาเจอกันอีกครั้งตอนมหาลัยแต่ก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม ทุกคนเลยคิดว่าปันปันชอบเขา พากันเอ่ยแซวถึงเธออยู่เสมอ “เออเพื่อนก็เพื่อน” แม็กซ์เวลพูดยิ้มๆ “ว่าแต่คืนนี้ไปไหนกันดี อยากเมาว่ะ ไปไหมพวกมึงน่ะ มาร์วินเอ่ยชวน” “ได้นะกูไปได้” แม็กซ์เวลพูด “เคเดน ออสติน สองคนยังไง” “อืม! ไปก็ไป” ออสตินพูด เคเดนพยักหน้าตอบรับ “งั้นไปร้านพี่ออโต้แหละ” มาร์วินสรุปให้ทุกคนแล้วก็ลุกขึ้นเดินนำเพื่อนๆ ไปเรียน ด้านเฌอเบล หลังเลิกเรียนเธอมานั่งรอเจนนิส ก่อนที่จะไปดูหนังตามที่นัดกันไว้ “เบลรอนานรึเปล่า” “ไม่นานหรอกไปกันเลยไหม” “ไปสิ” เฌอเบลเดินนำไปที่รถสปอร์ตคันหนูของเธอ เปิดประตูขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ “เบลวันนี้ยังไงกัน ได้ข่าวแก๊งพี่มาร์วินเขาช่วยกันตามหาตัวเธอไปทั่ว” “ดังไปถึงคณะมนุษย์เลยเหรอ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เขาหาสักหน่อย” “ตกลงพี่เขาตามจีบจริงจังแล้วนะนั้นแกรู้ตัวแล้วใช่ไหมเบล” “อืม!” “ตกลงแกชอบเขา” “ก็ยังไม่ถึงขั้นชอบหรอก ภายนอกก็แค่ถูกใจหน้าตา” “แล้วอีกเรื่อง เบลแกรู้ไหมว่าพี่มาร์วันเขาเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ปันปัน โจทย์แกด้วยนะ ฉันก็เพิ่งรู้” “เฮ้ย! เวรกรรม โลกจะกลมอะไรขนาดนี้ว่ะ” เฌอเบลถึงกับส่ายหัวกับเรื่องเกินคาดหมาย “ไม่เท่านั้น เพราะยัยพี่ปันปันน่ะ นางดูเหมือนจะแอบๆ หวงพี่มาร์วินด้วยนะ แบบแนวแฟนโซนอะไรแบบนั้นน่ะ” “เฮ้อ! เวรกรรมเข้าไปอีก เอาเป็นว่าฉันไม่ยุ่งดีกว่าไม่อยากมีปัญหากับยัยพี่ปัน” “ดีแล้วเบล แค่เรื่องไม่จริงยัยพี่ปันยังปั่นไปทั่ว จนคนเขามองแกไม่ดี” “ที่คณะก็ไม่ค่อยจะมีใครจะชอบฉันอยู่แล้ว ตั้งแต่ยัยพี่ปันปัน ปั่นข่าวว่าฉันแย่งแฟนนาง นี่ถ้าฉันไปคบกับเพื่อนสนิทนางอีกมีหวังได้ตายแน่ เจนนิส” “ช่างเถอะนะเฌอเบลเรื่องเก่าเราไม่ได้ผิดอะไร เอาเป็นว่าเราไม่ไปยุ่งกับเขาก็พอ แต่เรื่องวันนี้ข่าวน่าจะเข้าหูยัยพี่ปันปันแล้วละ พรุ่งนี้ไม่รู้จะมาหาเรื่องอะไรแกอีกรึเปล่า ฉันก็เพิ่งรู้ว่านางเป็นเพื่อนสนิทกับพี่มาร์วิน เพราะเพื่อนเล่าให้ฟังวันนี้นี่แหละ ไม่งั้นจะได้รีบเตือนแก” “ช่างเถอะตอนนี้ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว อะไรก็ฉันอยู่แล้ว แกก็น่าจะรู้นะเจนนิส” เฌอเบลพูดพร้อมกับทำหน้าปลงๆ “เราสวยไม่ได้ผิดสักหน่อย มีแต่คนอื่นนั่นแหละที่เข้าใจผิด บางเรื่องถ้าแกไม่ได้ทำ ก็พูดบ้างก็ได้นะเฌอเบล ก็ไม่ตอบโต้บางทีในความคิดคนอื่นคือก็ยอมรับนะ” “เอาเป็นว่าต่อไปถ้ามีอะไรที่ฉันไม่ผิดฉันจะไม่ยอมละกัน ดีไหม” “ดีค่ะเพื่อน ต้องแบบนี้สิ” “แต่เรื่องพี่มาร์วิน ฉันก็คงจะผิดนิดหนึ่งแหละแก เพราะฉันก็อ่อยพี่เขาด้วยเหมือนกัน ตอนไปซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่เขา ฉันกอดเอวเขาแน่นเลย” เฌอเบลเล่าให้เจนนิสฟังแล้วก็ยิ้มแห้งๆ “เวรกรรม” เจนนิสถึงกับอุทานออกมา “ก็ใครให้พี่เขาหุ่นน่ากอดขนาดนั้นกันละ แล้วฉันก็ไม่เคยนั่งมอเตอร์ไซค์ด้วย กลัวตกอ่ะ” “ยัยบ้าเฌอเบล” “แล้วถ้าพี่เขามาตามอีก แกจะปฏิเสธเขายังไงอ่อยขั้นสุดขนาดนั้น” “นั้นสิ วันนี้พี่เขาก็เพิ่งบอกว่าเขาจะไม่หยุด” “งั้นก็ไม่เป็นไร ปล่อยให้พี่มาร์วินเคลียร์กับยัยเพื่อนสนิทของเขาไป ส่วนแกก็นั่งสวยๆ เพราะพี่เขามาจีบแกเอง ถ้าเขาโอเคก็คบ ถ้าแกชอบเขาฉันก็ไม่ห้ามหรอก บางทีถ้าแกมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักทีก็น่าจะดีเหมือนกันนะเฌอเบล ข่าวลือบ้าๆ จะได้จบไปสักที” “เจนนิสแกก็รู้ว่าฉันไม่สนข่าวลือบ้าๆ นั่น” “ฉันรู้ แต่ถ้ายังมีข่าวพวกนี้ต่อไป ผู้ชายดีๆ ที่ไหนจะเข้ามาหาแกละจริงไหม ดูตอนนี้สิที่เข้ามาแต่ละคน เจ้าชู้หวังเอาทั้งนั้น พอไม่เล่นด้วยก็หาว่าหยิ่ง หาว่าเล่นตัว ปากดี หน้าตัวเมียทั้งนั้น” “เจนนิสใจเย็น ช่างแม่งเถอะ ฉันมีแกที่เข้าใจก็พอแล้วนะเพื่อน” “แต่บรรดาคนที่มาจีบแกไม่รวมพี่มาร์วิน ฉันแอบเชียร์ สกายเพื่อนฉันมากที่สุดนะ” เจนนิสพูดขึ้นมาเมื่อนึกถึงสกายเพื่อนสนิทของเธอ ที่มาบอกกับเธอตรงๆ ว่าชอบเฌอเบล เธอเลยบอกว่าลองจีบดูสิ แต่ถ้าเบลไม่ชอบก็อย่าไปโกรธเบลนะ “สกายเป็นคนดี แต่ฉันคิดกับเขาแค่เพื่อนจริงๆ และอยากให้เขาคิดกับฉันแบบนั้นมากกว่า เขาเป็นเพื่อนสนิทแกด้วยไงเจนนิส” “ฉันเข้าใจ ฉันเคยบอกสกายแล้ว แต่ถ้าแกไม่ชอบมันนะเบล ฉันว่ายังไงสกายก็เข้าใจ มันเป็นคนดีมีเหตุมีผล ฉันจะช่วยพูดกับมันด้วยให้เข้าใจแก” “รักแกมากเลยเจนนิส” เฌอเบลหันมามองเพื่อนส่งสายตาซึ้ง “จะมาทำซึ้งอะไรตอนนี้ เดี๋ยวก็ดูหนังเศร้าอีกนะ ค่อยไปร้องกันในโรงหนังดีกว่าไหมเฌอเบล” “ก็ได้ เดี๋ยวเบลเลี้ยงข้าวนะคะคุณเจนนิสเพื่อนรัก อยากกินอะไรบอกนะคะ” “ได้เลยค่ะ หิวมาเลยด้วย” ครืดดด ครืดดดด เสียงเรียกสายเข้า โทรศัพท์เจนนิส “เบลยัยชาเนลโทรมาฉันขอรับสายนะ” “รับสิ” “ฮัลโหลชาเนลว่าไงคะ” “ฉันจะโทรมาชวนแกไปคลับคืนนี้สนใจไหม พวกเราไปกันเกือบยกคลาส” “ไปได้แต่ฉันขอหิ้วเฌอเบลไปด้วยได้ไหม” “มาสิ มาสนุกด้วยกัน” “ได้งั้นคืนนี้เจอกันค่ะคุณชาเนลคนสวย” เจนนิสวางสายจากชาเนลหันมามองเฌอเบล “ไปด้วยกันนะเบล สนุกๆ ไม่ต้องดื่มก็ได้” “อืม! ไปก็ไปถ้าแกดื่มเดี๋ยวฉันขับรถให้เอง” เฌอเบลละสายตาจากถนนหันมาส่งยิ้มให้เจนนิสนิดหนึ่ง “โอเคขอบใจนะ ดูหนังเสร็จแล้วกลับไปแต่งตัวสวยๆ เริ่ดๆ กันเนอะ” “จัดไปจ้ะ”สามปีต่อมา “พี่วินค่ะ” เฌอเบลเดินเข้ากอดคลอเคลียสามีที่นั่งดูหนังอยู่ “หิวเหรอ”เฌอเบลส่ายหน้า มาร์วินยิ้ม “หิวพี่ใช่ไหม”“นี่พี่ เรื่องนี้ตลอดเลยนะคะ”มาร์วินเลิกคิ้ว มองเธอล้อๆ “แล้วมาอ้อนจะเอาอะไรครับที่รัก”“เบลอยากไปเที่ยวบ้านคุณยายพี่เค้ก พี่เดลล่าก็ไป พี่เจ้าน้อยก็ไปค่ะ พี่วินให้เบลไปนะคะ”“ใครจะขับรถไป”“พวกเราขับกันเองสิคะ เอารถไปคันเดียวก็พอค่ะ ไปนอนแค่สองคืน บ้านคุณยายพี่เค้กน่าสนุกออก เบลอยากไป”“พี่ไม่ว่าง”“เบลยังไม่ได้บอกเลยว่าให้พี่ไปด้วย เราจะไปกันเฉพาะสาวๆ ค่ะ”“ไม่ได้แน่ ไอ้ออสตินไม่ยอมหรอก เคเดนก็ไม่ปล่อยเมียมันไปแน่”“ใครบอกละคะ พวกพี่เขาอนุมัติเรียบร้อยแล้วค่ะ เหลือพี่หมีวินคนเดียวนี่แหละนะคะ ให้เบลไปกับพี่ๆ นะคะ แค่ไปบ้านคุณยายเอง นะ นะ”“ทำไมไอ้พวกนั้นมันยอมกันง่ายจังวะ รึว่ามีแผนเมียไม่อยู่หนูร่าเริงกันรึเปล่า” มาร์วินแกล้งพูดให้อีกคนระแวง “อย่าเลยนะ เบลจัดการพี่แน่ๆ”“จัดการยังไงก่อน เราไม่อยู่สักหน่อย จะไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ”“เดี๋ยวเหอะ พี่แต่งงานแล้วนะ”“พี่ล้อเล่น ใครจะไปไหนละ งานยุ่งจะแย่ เมียไม่อยู่ก็นอนบ้านนี่แหละครับ”“พูดแบบนี้แสดงว่าพี่อนุญาตให้เบ
ด้านนนท์ เขาขับรถไปหาปันปันตามที่อยู่ที่มาร์วินให้มา เขาจอดรถเรียบร้อย และพอดีกับที่ปันปันเดินออกมาจากคอนโด นนท์สังเกตเห็นท้องของเธอที่โตมากพอสมควรแล้ว “ปันกำลังจะไปไหน”นนท์เห็นเธอเดินมาที่รถ และขึ้นไปนั่งไม่นานก็ขับออกไป นนท์เลยไม่รอช้ารีบขับรถตามออกไป ปันจะไปไหนกันแน่ ตอนแรกนนท์คิดว่าปันปันจะไปโรงพยาบาล แต่เธอเพิ่งขับรถเลยไปเมื่อกี้ เขาขับรถตามเธอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปันปันเปิดไฟเลี้ยวเข้าไปในโรงแรม @Cherbelle Grand Hotel“ปันมาทำไมที่นี่” นนท์จอดรอและค่อยขับตามเข้าไปห่างๆ ยังไม่อยากให้ปันปันรู้ว่าเขาแอบตาม ปันปันเดินไปทักทายเพื่อนของเธอ และแยกย้ายกัน เพื่อนเธอโทรมาบอกเธอว่าเฌอเบลอยู่ที่โรงแรม และปันปันก็ขับรถมาที่โรงแรมทันที เพราะเธอรู้ว่ามาร์วินอยู่ที่บริษัท ถ้ามาหาเฌอเบลที่นี่เพื่อก่อกวนเล่นสนุกๆ ก็เป็นอะไรที่ควรทำ เพราะมันซะใจดี เฌอเบลไปนั่งที่ห้องอาหารภายในโรงแรม และเริ่มสั่งอาหาร รอจนอาหารมาเสิร์ฟ“ขอโทษนะคะ” ปันปันเรียกพนักงานของโรงแรม “ครับ คุณลูกค้า” พนักงานเดินมาให้บริการเธอด้วยท่าทางสุภาพ “เมื่อกี้ฉันบอกว่าฉันไม่ทานผักชี แล้วทำไมยังใส่มาค่ะ” ปันปันแกล้งโวยวายใส่พนั
เฌอเบลบิดตัวไปมา คว้ามือหาอีกคนโดยที่ยังไม่ได้ลืมตา “เฌอเบลพี่อยู่นี่”มาร์วินยิ้ม ยืนมองคนตัวเล็กอย่างนึกเอ็นดู เขาตื่นสักพักแล้ว และเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ “พี่ตื่นนานแล้วเหรอคะ”“สักพักแล้ว เราลุกไหวไหม”“เบลหายแล้วค่ะ”“หายเพราะกินน้ำพี่งั้นเหรอ”“พี่เลิกพูด”มาร์วินหัวเราะ เดินเข้าไปดึงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นจากเตียง “วันนี้เราพักผ่อนอยู่บ้านนะ ยังไม่ต้องไปเรียนหรอก แต่พี่ต้องไปทำงานกลับเย็นๆ อยู่ได้ใช่ไหม” “ไม่ได้ค่ะ” เฌอเบลกอดคนตัวโตซบหน้าบนแผงอกแกร่ง มาร์วินยืนอมยิ้มเขาดีใจที่ได้คนขี้อ้อนกลับมา “งั้นเอาไงดีตามพี่ไปบริษัทด้วยไหม”“หน้าเบลดูเป็นไงบ้างคะวันนี้ ยังโทรมอยู่รึเปล่า ถ้าโทรมเบลไม่ไปดีกว่า”“ไหนดูสิ”เฌอเบลเงยหน้าให้คนตัวโตดู มาร์วินยิ้มจุ๊บจมูกเล็ก “เปล่งปลั่งมากแก้มชมพู ปากแดงน่าจูบ แสดงว่าได้เซ็กซ์บำบัดชุดใหญ่ไป หน้าตาบ่งบอกว่าอิ่มมาก”“หยุดเลยพี่น่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ เบลไปอาบน้ำดีกว่า” เฌอเบลเดินสะบัดก้นเข้าห้องน้ำไป มาร์วินได้ส่ายหัวยิ้มตาม เขาเดินเข้าห้องแต่งตัวไปเปลี่ยนชุด เสร็จแล้วมานั่งรอคนสวยอาบน้ำ เฌอเบลเดินออกมาจากห้องน้ำ แวะหอมแก้มคนตัวโตแล้วเดินเข้าห้องแต่งต
เฌอเบลลืมตา ตะแคงตัวขยับเข้าไปหาร่างหนา มาร์วินดึงผ้าห่มคลุมให้ร่างเล็ก คว้าเอวบาง เข้ามากอดแนบชิด “เบลพี่เห็นข้อความในโทรศัพท์ ที่ปันปันคอยส่งมาให้เบลหมดแล้ว ทำไมเบลไม่บอกพี่ ทนฟังปันปันพูดโกหกทำไม มันไม่จริงเลยนะที่ปันบอกว่าพี่ดีใจที่ได้ลูกชายมันไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนคุณแม่ท่านไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก ท่านแค่เอ็นดูปันปัน และท่านไม่รู้ด้วยว่าสิ่งที่ท่านใจดีกับปันปันจะโดนปันปันเอาสิ่งเหล่านั้นมาทำร้ายอีกคนอย่างเบล”“เบลอย่าคิดมากเรื่องคุณแม่นะ เรื่องนี้พี่จะคุยกับท่านเอง คุณแม่คงคิดว่าพี่กับเบลเลิกกันไปแล้ว เลยพยายามเชียร์ปันปันเพราะคิดว่าเด็กในท้องปันยังไงก็หลานท่าน”“แต่เบลเชื่อพี่สิ เด็กไม่ใช่ลูกพี่แน่ๆ พี่กับปันไม่เคยมีอะไรกัน พูดรอบที่ล้านพี่ก็จะพูดเหมือนเดิม เบลอดทนหน่อยเถอะนะ รอแค่เด็กคลอดอีกไม่กี่เดือน รอพี่หน่อยได้ไหม พี่อยากดูแลเบลพี่เป็นห่วงมากนะ”“เป็นห่วงอะไรกัน พี่แกล้งเบลสารพัด ให้เบลไปทำงานเยอะแยะ” เฌอเบลต่อว่าพร้อมกับหน้างอใส่เขา “หึ! พี่โกรธเรื่องเคเจ แต่ตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้ว พี่กับเคเจเจอกัน และเคลียร์กันรู้เรื่องแล้ว”“เจอกันเหรอคะ”“อืม ทำไม”“แล้วมีเรื่องกันรึเ
มาร์วินปล่อยให้คนตัวเล็กนอน ปรับแอร์ในห้องไม่ให้หนาวจนเกิดไป มองคนป่วยอย่างนึกเอ็นดู เขาเดินออกไปด้านนอกลงไปด้านล่างเพื่อหาอะไรดื่ม เขานั่งลงที่บาร์เครื่องดื่มจิบไวน์ ติ้ง!ติ้ง!เสียงดังมาจากโทรศัพท์ในกระเป๋าของเฌอเบล มาร์วินหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาดู ปันปัน : ส่งรูปชุดเด็กปันปัน : ดูสิเฌอเบล ว่าคุณย่าเขาเห่อหลานเขาแค่ไหน ซื้อชุดให้หลานอีกแล้ว มาร์วินมองข้อความที่ปันปันส่งมาหาเฌอเบลอย่างรู้สึกอึ้งไป ไม่คิดว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย เขากดรหัสเพราะเขารู้รหัสโทรศัพท์เฌอเบล และเฌอเบลก็รู้เครื่องของเขาด้วยเพราะเราไม่มีอะไรปิดบังกัน แล้วเข้าไปอ่านข้อความทั้งหมด ที่ปันปันคอยส่งมาหาเฌอเบลตลอด เหมือนเป็นการเยาะเย้ย ต่างๆ นานา มาร์วินไล่อ่านข้อความ และพอรู้ว่ารูปเขา บางรูปมาจากคุณแม่เขา ที่คอยถ่ายส่งให้ปันปัน ท่านคงไม่รู้ว่าปันปัน เอารูปพวกนั้นคอยส่งมาเยาะเย้ยเฌอเบล เฌอเบลต้องเจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ความเป็นจริงเลย และเขาอ่านจนมาถึงข้อความของวันที่ เฌอเบลหนีเขาออกมาจากเพนต์เฮาส์ของเช้าวันที่เขาทะเลาะกับเธอและมีอะไรกัน ปันปัน: ส่งรูปอัลตราซาวด์ปันปัน : วินเขาดีใจมา
ครืดดด ครืดดด เสียงสายเรียกเข้าโทรศัพท์เขา พี่มาร์กี้โทรเข้ามา เขารีบกดรับสาย “ฮัลโหลครับ”“มาร์วินพวกกระเป๋าแล้วก็ของใช้ ของน้องเบลจะให้พี่เอาไปเก็บไว้ที่ไหน”“อืม…” มาร์วินหันมามองคนตัวเล็กนิดหนึ่ง แล้วลุกขึ้นเดินไปคุยกับพี่สาวที่ระเบียง เฌอเบลมองตามคนตัวสูง ที่ยืนหันหลังถอดเสื้อคุยโทรศัพท์อยู่ เขาหล่อและดูดีที่สุดในสายตาเธอเสมอ เฌอเบลยิ้มกับตัวเอง เอนตัวซบแก้มหนุนแขนตัวเองลงบนโซฟาตะแคงหน้ามองเขาเพลินๆ อยากเดินเข้าไปกอดเขาทางด้านหลังแบบนั้นจัง พอเลยคิดอะไรเนี่ย เฌอเบลรีบขจัดความคิดของตัวเองออกไปและหลับตาลงจนเผลอหลับไป มาร์วินคุยกับพี่สาวนานพอสมควร เพราะต้องเล่าทุกอย่างให้พี่มาร์กี้ฟัง พอคุยเสร็จหันมามองทางเฌอเบล คนตัวเล็กนอนหนุนแขนตัวเองอยู่ ตาสวยหลับพริ้ม “หลับแล้วเหรอ”มาร์วินเดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆ มองแก้มใสที่ซูบผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวนุ่มตอนนี้เล็บที่เคยถูกต้องแต่งสวยงามอยู่ตลอดที่เขาเคยเห็น แต่ตอนนี้ตัดสั้น ไม่ได้แต่งเติมทาสีใดๆ เขารู้สึกสงสารเธอขึ้นมา มือหนายกขึ้นลูบหัวเล็กเบาๆ ไม่อยากให้เธอลำบากอีก มาร์วินขยับเข้าหาเขาคิดถึง ยังคิดถึงเธอตลอด โน้มหน้าเข้าไปหอมแก้