หลายวันต่อมา…
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! เสียงกระสุนจากการลั่นไกของ ‘ติณณ์’ หรือ ‘เตโช’ ถูกสาดเข้าใส่เป้ายิงระยะไกลและเจาะทะลุเข้าจุด X กลางเป้าโดยไม่มีหลุดรอดออกไปเลยสักนัด ด้วยฝีมือที่ถูกฝึกจนชำนาญตั้งแต่เล็กจนโตโดยไม่มีใครเคยรับรู้นอกจากผู้เป็นปู่และสมาชิก Nightshade ที่เคยมาซ้อมยิงเล่นๆ ด้วยกันหลายครั้ง “หึ.. สงบ เยือกเย็น สมกับตำแหน่งผู้นำของ Dark Shadow” น้ำเสียงของชายสูงวัยผู้เป็นปู่ที่บินมาหาเขาเป็นการเฉพาะกิจพูดออกมาอย่างภูมิใจ แม้สีหน้าจะดูนิ่งเรียบไม่ต่างจากคนที่ลดปืนลงมาบรรจุกระสุนช้าๆ อย่างเบามือ “...ไม่เคยอยากเป็น” เตโชตอบกลับไปเสียงเรียบและแอบหงุดหงิดกับสิ่งที่เขากำลังเผชิญ สำหรับเขามันไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการรู้ว่าพ่อของตัวเองเป็นสมาชิกแก๊งค์มาเฟียในวันที่ท่านโดนลอบฆ่าพร้อมกับแม่ของเขา ซึ่งตอนนั้นเขายังเด็กมากและไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘มาเฟีย’ ด้วยซ้ำ แต่เพราะพ่อของเตโชเป็นลูกชายคนเล็กที่มักจะทำตัวรั้น และอยู่นอกกรอบเสมอ ท่านจึงไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับของสมาชิก Dark Shadow เท่าไหร่ ผิดกับลุงของเขาซึ่งเป็นพี่ชายของพ่อที่โดดเด่นท่ามกลางเหล่าสมาชิกจนถูกจับตามองและวางตัวเป็นผู้นำของแก๊งค์ แต่ก็ถูกลอบฆ่าพร้อมกับภรรยาที่สวีเดนเมื่อหลายปีก่อนหลังจากพ่อเขาเสียเช่นกัน เหลือทิ้งไว้เพียงลูกชายหนึ่งคนที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะถูกไว้ชีวิตเอาไว้อย่างปรานี ซึ่งที่ผ่านมาเด็กผู้ชายคนนั้นอยู่ในความดูแลของคนในแก๊งค์มาตลอดเพื่อปั้นให้พร้อมรับตำแหน่งผู้นำคนต่อไป เพราะไม่เหลือญาติที่ไหนแล้ว เตโชเลยถูกส่งตัวมาอยู่ในความดูแลของท่านปู่โดยเฉพาะ ไม่ได้ไปฝึกรวมกับสมาชิกคนอื่นๆ พอเริ่มโตขึ้นมาหน่อย เขาก็เลือกหนีมาใช้ชีวิตที่ประเทศไทยเงียบๆ คนเดียวพร้อมกับสมบัติที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ สร้างธุรกิจและ ‘ZTUDIO’ เป็นอาณาจักรของตัวเอง กับกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกันในนาม ‘Nightshade’ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเตโชก็ไม่ได้ทิ้งการฝึก ซึ่งเป็นศิลปะป้องกันตัวที่สมาชิกแก๊งค์ทุกคนต้องมีติดตัวไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง โดยคนที่จัดหาครูฝึก สถานที่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกมาให้ก็คือปู่ของเขาคนนี้อยู่ดี เตโชไม่เคยสนใจว่า Dark Shadow จะทำอะไรกันบ้างในแต่ละวัน แม้ในวันประทับตราแก๊งค์รุ่นล่าสุดนี้ทุกคนจะได้ประทับตราพร้อมกัน แต่เขาก็ไม่สนิทใจกับใครใน Dark Shadow เลยสักคน เขาคิดแค่ว่ามันต้องประทับตราเอาไว้ให้รู้ว่าเป็นทายาทผู้นำสูงสุดของแก๊งค์นี้ก็เท่านั้น และเมื่อมันเกิดมาในตระกูลนี้จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ Dark Shadow เต็มปากก็ทำยากอยู่ดี แต่สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดสำหรับเขาที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อเร็วๆ นี้ คือเขากลับถูกท่านปู่เสนอชื่อให้เข้ารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดแทนแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร โดยท่านให้เหตุผลว่าที่นั่งตรงนั้นถูกปล่อยว่างมานานเกินไป เท่ากับว่าตอนนี้ตำแหน่งผู้นำจะถูกส่งต่อจากปู่ของเขาสู่รุ่นหลานซึ่งอาจเป็นใครคนใดคนหนึ่งระหว่างเขากับลูกพี่ลูกน้องอีกคนที่มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ เหมือนกัน และผลที่ออกมาคือ...เขาชนะญาติผู้พี่อย่าง ‘คิระ’ ลูกชายของลุงที่ผ่านการฝึกมาอย่างหนักไม่ต่างกันเลย ด้วยเสียงสุดท้ายจากท่านปู่ที่ก็ไม่รู้คิดอะไรถึงได้ลงมติไปแบบนั้น “แกเหมาะสม” ชายสูงวัยพูดออกมาด้วยท่าทางสุขุมและลุ่มลึกจนยากที่จะคาดเดา แต่เตโชก็ไม่ได้สนใจอะไรสักเท่าไหร่ เขาพร้อมจะถอนตัวออกจาก Dark Shadow ตลอดเวลา ที่อดทนฝึกมาแค่เพราะมันเป็นกฎ กฎที่หนาเป็นเล่มๆ จนทุกวันนี้แทบจะจำได้ไม่หมด มันเป็นสิ่งเดียวที่เขาคิดอยู่เสมอเวลาลั่นไกว่าวันหนึ่งจะลองแหกกฎพวกนั้นดูสักที เอาให้ดิ้นตายทั้งแก๊งค์ไปเลย “อีกไม่กี่วันจะถึงพิธีแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ เตรียมตัวให้พร้อมด้วย” น้ำเสียงทรงพลังของผู้เป็นปู่พูดขึ้นมาอย่างออกคำสั่ง แล้วเตโชก็สวนกลับไปอย่างท้าทายในทันทีเช่นกัน “ผมไม่ไป” “งั้น Nightshade จะไปแทน” พอได้ยินแบบนั้นเตโชถึงกับกำปืนในมือแน่นแล้วหันขวับไปที่เจ้าของคำพูดนั้นทันที “อย่ายุ่งกับ...!” “..ครอบครัวแก?” ผู้นำคนปัจจุบันของ Dark Shadow พูดขึ้นพร้อมแสยะยิ้มมุมปากอย่างท้าทายเขากลับไปบ้าง ก่อนจะพูดต่อจนเตโชหัวร้อนขึ้นมาและกำปืนในมือแน่นกว่าเดิมด้วยความโกรธจัด “หึ..ไม่น่าจะได้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ใช้ต่อรองกับแกได้ผลเสมอ” “เพราะ Nightshade ไม่เคยลอบกัดเหมือน Dark Shadow!” เขาโพล่งออกไปทั้งที่ยังกัดฟันแน่น สำหรับเตโช.. Nightshade เป็นทั้งเพื่อน พี่น้อง และครอบครัวของเขา อาจไม่ได้แสดงออกอะไรกันมาก แต่ทุกคนใน Nightshade ล้วนเป็นคนสำคัญที่ห้ามใครหน้าไหนมาแตะต้อง “แต่สุดท้าย..พอแปลความหมายออกมา เรามันก็มีความ Dark ไม่ต่างกันเลยไม่ใช่รึไง” พูดจบชายสูงวัยก็แสยะยิ้มออกมาอย่างได้ใจ พอได้ยินแบบนั้น เตโชก็ยกแขนขึ้นเล็งกระบอกปืนที่บรรจุกระสุนปืนเรียบร้อยตรงไปที่เป้านิ่งที่อยู่ไกลๆ นั่น แต่ตาของเขายังหันไปจ้องเจ้าของคำพูดนั้นด้วยสีหน้าเหยียดหยันกลับไปบ้าง “ถ้าเอาแบบลึกซึ้ง.. เรามันต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยต่างหาก!” ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! แล้วเตโชก็ลั่นไกโดยไม่หลบตาคนที่เขาส่งยิ้มท้าทายออกไปเลยสักวินาทีเดียว แต่ถึงจะไม่จ้องไปที่เป้านิ่งนั่นเลยสักครั้ง กระสุนก็ยังทะลุผ่านจุด X ไปทุกนัดแบบไม่พลาดเป้าเลยสักนิด แกร๊งงง~ กึกกก.. “ขอแนะนำว่าถ้าไม่รู้อะไร ท่านเงียบเอาไว้ดีกว่า!” เสียงปลอกกระสุนหล่นลงมาเสียงดังพอให้ได้ยินมัน พร้อมกับปืนในมือของเตโชที่ถูกวางลงอย่างใจเย็น แต่ข้างในเต็มไปด้วยความรุ่มร้อนเมื่อคิดว่าเรื่องวุ่นวายของเขา Nightshade อาจมีเอี่ยวไม่ทางใดก็ทางหนึ่งวันต่อมา...
“ไอ้โม วันนี้ผัวเอ็งไม่มารับเร๊อะ” นาทีแรกที่ฉันก้าวขาออกจากหอพัก ป้าแจ๋วที่กำลังผัดข้าวในกระทะก็ตะโกนออกมาดังลั่นจนคนรอบข้างแอบยิ้มกันใหญ่ “ผัวเผอไรป้า บอกว่าไม่ใช่ไง” ฉันตอบกลับไปอย่างเซ็งๆ คนยิ่งรีบๆ อยู่จักรยานก็โดนหมอนั่นโยนลงข้างทางจนล้อกระเด็นไปละ วันนี้เลยต้องรีบเดินไปให้ถึงถนนใหญ่ แล้วนั่งวินต่อไป ม. นี่ไง -.- “เสียดายวันนั้นยังขูดไม่เจอเลขเด็ด ไม่งั้นล่ะมึ๊งงงง.. 30 ล้านเหนาะๆ ข้าจะบินไปเที่ยวรอบโลกเลย” ป้าแจ๋วแกก็ยังเพ้อเลื่อนลอยทั้งที่ผัดข้าวก๊องแก๊งอยู่อย่างนั้น โอ๊ยยย คิดถึงจักรยานโว้ยยย ขาก็เพิ่งจะหายดีแต่ต้องมาเดินลากไปลากมาเดี๋ยวได้อักเสบอีก เจริญ! “เลิกฝันกลางวันเหอะป้า ไปละเดี๋ยวสาย” ฉันบอกป้าแจ๋วแล้วเดินเลี่ยงออกมา แต่แกก็ยังตะโกนตามหลังมาอีกจนฉันเริ่มหัวร้อนขึ้นมา “อ้าว แล้วจักรยานเอ็งไปไหน?!” “โอ๊ย อย่าย้ำได้มั้ย มันพัง!!!” ฉันตะโกนกลับไปแล้วทำท่าเหวี่ยงๆ ใส่ป้าอย่างหงุดหงิดย้ำจริงย้ำจัง ย้ำอะไรกันนักกันหนา เซ็งโว้ย! “เอ้อออ อะไรของมัน -.-?” แล้วเสียงป้าแกก็แว่วๆ มาอีกแต่ช่างเหอะขี้เกียจสนใจละ รำคาญ!หลังจากประทับตราเสร็จ ติณณ์ก็ให้ฉันเข้ามารอเขาในห้องๆ หนึ่ง ก่อนจะเดินแยกไปทำธุระแล้วตามเข้ามาทีหลัง พอติณณ์เดินมาทิ้งตัวลงทั้งข้างฉันปุ๊บ ฉันเลยถามถึงเรื่องวันนี้ออกไปอย่างสงสัยทันที“ถามได้มั้ย? ติณณ์รู้ได้ยังไงว่าสภากฎ....”“ท่านปู่บอก”ฉันยังพูดไม่ทันจบติณณ์ก็ตอบกลับมาอย่างรู้ทัน คำถามนี้ฉันว่าใครๆ ก็สงสัยอ่ะ เพราะดูเหมือนเขาจะมารู้เรื่องนี้ทีหลังเหมือนกัน ถ้ารู้ตั้งแต่แรกก็คงไม่เสียเวลาทะเลาะกับคิระตั้งนานหรอก จริงมั้ย…“แล้ว..ท่านปู่ได้บอกมั้ยว่าเรื่องมันเป็นมายังไง”ฉันทำหน้าสงสัยออกไปเพราะลึกๆ ก็อยากรู้... มันจะด้วยเหตุผลอะไรกันนะ ถึงทำให้สภากฎที่ดูจะน่าเคารพนับถือทำเรื่องแบบนี้ได้ ไม่ Make sense เอาซะเลยแฮะ แล้วติณณ์ก็พยักหน้าและเริ่มเล่าเรื่องที่ได้รับฟังจากท่านปู่ออกมา“แม่ติณณ์ไปรู้มา..ว่าสภากฎจะยึดอำนาจ Dark Shadow เลยจำเป็นต้องกำจัดทายาททุกคนเพื่อให้ไม่มี Leader อีกต่อไป ซึ่งตอนนั้นว่าที่ Leader และ Leader’s Wife คือพ่อแม่ติณณ์และลุงกับป้า ...หรือพ่อแม่คิระ”พรึ่บบบ!พูดจบติณณ์ก็เอื้อมแขนมาคว้าเอวฉันอุ้มขึ้นไปนั่งตักเขาเบาๆ แล้วมุดหน้าของเขาลงมาใช้คางเกยไหล่ฉันเอาไว้“ท่
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!“.....”เสียงปืนดังสนั่นอยู่นานกว่าจะหยุด ฉันเลยใช้จังหวะนี้คว้ามือเลโอออก ก่อนจะหันไปเห็นโศกนาฏกรรมที่ทั้งติณณ์และคิระที่น่าจะเพิ่งเข้าใจอะไร กราดกระสุนรัวใส่ตัวแทนสภาฯ จนไม่หลงเหลือลมหายใจ แถมเลือดสีแดงฉานยังเปื้อนไปทั่วพื้นที่บริเวณนั้น แล้วเลโอก็รีบยื่นมือมาจะปิดตาฉันอีกแต่ยังคว้ามือเขาเอาไว้ และพูดออกไปเสียงเรียบหมับ!“นั่นติณณ์นะเลย์…”ฉันพูดออกไปพร้อมกับจ้องเข้าไปในตาของเลโออย่างต้องการให้เขาเข้าใจ คือภาพตรงหน้ามันน่ากลัวน่ะใช่ แต่นั่นติณณ์ไง! จะให้ฟังแต่เสียงโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดียังไงก็ใช่เรื่อง!พอฉันพูดจบเลโอก็พยักหน้าแล้วยอมเอามือออกทั้งที่ยังส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ แถมยังไม่ยอมถอยออกห่างจากฉันแม้แต่ก้าวเดียวแล้วอยู่ๆ Member กว่าครึ่งหอประชุมที่ไม่เห็นด้วยกับการพิพากษาที่ดูจะป่าเถื่อนแบบนั้น ก็ถึงกับวิ่งวุ่นลงมาและคว้าปืนขึ้นมาจ่อไปที่ติณณ์และคิระแบบไม่เกรงกลัวอะไร เท่าที่ดูคนพวกนั้นน่าจะเคารพในอำนาจของสภาฯ กันมากมายแบบที่ยอมตายแทนได้เลยด้วยซ้ำ“ไอ้พวกสวะ!”เสียงผู้อาวุโสท่านหนึ่งกล่าวขึ้นเหมือนตั้งตัวเป็นอร
@ DARK SHADOW CASTLE (JAPAN)ผลัวะ!เสียงฝ่ามือของรันเวย์กระทบเข้าที่หัวของติณณ์อย่างแรงพร้อมกับสีหน้าหงุดหงิดหลังจากที่รู้ข่าวว่าฉันท้อง ตามมาด้วยเสียงบ่นอุบอิบอย่างเอาแต่ใจจน Nightshade คนอื่นๆ ถึงกับส่ายหน้าให้กับความพาลหาเรื่องคนนั้นคนนี้ไปทั่วของพ่อลูกอ่อนขี้เหวี่ยงตรงหน้าฉัน“ไวนัก! ไม่ต้องเสือกคลอดก่อนล่ะ”พูดจบรันเวย์ก็ถลึงตาใส่ติณณ์ คือต้องใช้คำนี้จริงๆ อ่ะ เขาถลึงตาแบบจริงจังมาก! เดี๋ยวนี้หมอนี่อาการหนักน่าดู คือกลัวขั้นสุด กลัวว่าลูกตัวเองจะเป็นน้อง ซึ่งมันตลกชะมัด!“หึ..ก็ไม่แน่”แล้วติณณ์ก็ตอบกลับไปแบบกวนๆ จนรันเวย์ยิ่งหงุดหงิดหนัก เดินไปตบหัวบรรดาพ่อลูกอ่อน Nightshade ทั้งหมดแบบเรียงตัวอีกทีอย่างหมั่นเขี้ยวผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ!“ไอ้พวกเวร!”เขาบ่นอุบอิบออกมาแบบพาลๆ แล้วเดินกลับมานั่งหน้าบูดต่อจนเจด้าถึงกับออกอาการเอือมๆแต่ก็แอบขำในท่าทางนั้น แล้วติณณ์ก็ยังไม่วาย..พูดออกมาแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีกครั้ง แถมยังลอยหน้าลอยตาใส่รันเวย์อย่างอารมณ์ดีว่าใครในตอนนี้“เห็นแก่เพื่อนเหอะ ให้ลูกกูเป็นพี่”พอติณณ์พูดจบเท่านั้นแหละ รันเวย์ก็ชี้หน้าติณณ์กลับมาแบบเกรี้ยวกราดมาก แล้วโพล่งออกม
“อีกทีได้นะติณณ์..แต่มิณท้องเพิ่มไม่ได้แล้ว :)"พอฉันพูดจบติณณ์ก็ทำหน้าอึ้งออกมาแบบเห็นได้ชัด แล้วถอดท่อนเอ็นของเขาออกจากร่างกายของฉันแบบรีบร้อนและตกใจ“พูดใหม่มิณ.. พูดอีกที”ติณณ์จ้องหน้าฉันและพูดซ้ำๆ อย่างคาดหวังในคำตอบ แม้เขาจะดูตกใจมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ดูตื่นเต้นมากจนฉันหลุดยิ้มให้กับท่าทางนั้น และชี้นิ้วไปที่ติณณ์ช้าๆ“...นี่พ่อ”ก่อนจะย้อนกลับมาชี้ตัวฉัน…“...นี่แม่”และจบลงด้วยการชี้ไปที่หน้าท้องแบนราบของตัวเองที่ด้านในมีบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้น โดยที่ฉันเองก็เพิ่งจะรู้ตัว ซึ่งเขาก็มองมาอย่างตั้งใจฟัง“นี่ลูก”“หึ...”พรึ่บบบ!พอฉันพูดจบติณณ์ก็ทิ้งตัวลงมาอย่างรวดเร็วและกอดฉันไว้แน่นมาก แถมยังมุดหน้าหัวเราะเบาๆ ออกมาอย่างดีใจ จนฉันอดแซวทั้งที่ยังขำกับท่าทางแบบนั้นไม่ได้ >__มัวแต่ดีใจ คิ
พรึ่บบบ พลั่กกก “อื้อออ~”ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในห้องน้ำ ติณณ์ก็วางร่างฉันลงแล้วดันตัวฉันให้ถอยไปติดกับผนังห้องน้ำอย่างรีบร้อน ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดน้ำฝักบัว และประกบริมฝีปากของเขาลงมาอย่างรวดเร็วและร้อนแรงผ่านม่านน้ำจากฝักบัวตรงหน้าติณณ์แทรกลิ้นของเขาเข้ามาไล่ต้อนลิ้นฉันอย่างช่ำชอง พร้อมกับกระชากเสื้อผ้าของฉันจนขาดวิ่นหลุดติดมือ แล้วโยนมันออกไปแบบสนใจทิศทางใดๆ สักพักเขาก็ผละจูบออกแล้วโน้มตัวลงมาทิ้งรอยมากมายบนตัวฉันในพริบตา“อื้อออ อ๊ะ!”ฉันร้องครางออกไปอย่างเสียวซ่านกับสัมผัสที่ติณณ์มอบให้ และเลื่อนมือไปขยำกลุ่มผมของติณณ์เอาไว้อย่างระบายอารมณ์ พร้อมกับเงยหน้ารับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ…แล้วติณณ์ก็เลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมากอบกุมหน้าอกของฉันเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ บีบเคล้นมันเบาๆ จนแรงขึ้น..แรงขึ้นตามลำดับ ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายฉัน จนฉันเคลิบเคลิ้มล่องลอยตามรสสัมผัสของเขาไปอย่างกู่ไม่กลับ“อย่าอ่อยบ่อยได้มั้ย…”ติณณ์พูดออกมาเบาๆ พร้อมกับหายใจถี่ขึ้นตามระดับความรุนแรงของการกระทำ และเลื่อนมือไปปลดกระดุมกางเกงตัวเองอย่างรีบร้อน แต่ฉันกลับปัดมือเขาออกแล้วเป็นฝ่ายปล
::: TECHO :::หลังจากเสร็จภารกิจทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน รวมถึงผมกับมิณที่กำลังขับรถกลับคอนโด ส่วนเรื่องคำพิพากษาไอ้คิระกับคำอธิบายเรื่องข้อตกลงของ Emergency Privilege ทั้งของผมและมิณ จะมีการเรียกประชุม Member ทั้งหมดที่ Dark Shadow Castle (JAPAN) ในอีกสองวัน ซึ่งก็จะตรงกับวันสถาปนาพอดี และ Nightshade ที่มีเอี่ยวด้วยวันนี้จะต้องไปฟังคำพิพากษาร่วมกันทั้งหมด“ยิ้มไรคนเดียว”พอหันไปเห็นใบหน้าเล็กกำลังนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีและดูจะแฮปปี้เกินเรื่องไปหน่อยทั้งที่วันนี้เจอเรื่องหนักหนาสาหัสขนาดนั้น ผมเลยถามออกไปแบบงงๆ ในท่าทางที่แปลกไป แล้วมิณก็ตอบกลับมา“เปล่าหนิ”ใบหน้าเล็กทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็ดูจะปกปิดรอยยิ้มในแววตานั่นไม่มิด หน้าผมมีไรติดหรอวะ -.-? หรือมิณไปกินไรผิดมาตั้งแต่ที่เกาะละ วันนี้เมียแลอารมณ์ดีจัด“มีไรบอกมา”ผมส่งเสียงเข้มออกไป แล้วเอามือไปยีหัวมิณซ้ำๆ อยู่หลายที หึ..เกือบจะไม่ได้กลับมาเห็นรอยยิ้มแบบนี้แล้วมั้ยกู มีเมียเก่งแม่งโคตรน่าภูมิใจ เปิดใช้คำขอทีเล่นเอาตัวแทนสภากฎเหวอไปเลย บอกตามตรงใจผมตอนนั้นแม่งกระตุกวูบ เวลามิณทำอะไรแม่งเหนือความคาดหมายของผมตลอด แล้วมิณก