“คุณนั่งเล่นไปก่อนนะคะ เดี๋ยววิไปดูชาในครัวมาให้”
วิเวียนกล่าวเสียงหวาน ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวกลัวว่าอีกคนจะเกร็งในบ้านเธอ จึงพยายามทำตัวสบายๆ ให้เขาได้เห็นมากที่สุดเพื่อจะได้ทำตัวถูกกันทั้งคู่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่มีแววจะได้เกร็งนั้นเป็นเจ้าของบ้านอย่างเธอมากกว่า ชายที่นั่งสบายอยู่บนโซฟายังคงกวาดตามองรอบๆ ไม่สิ้นไม่สุด จนไปสดุดกับภาพบางอย่างที่ถูกแขวงไว้บนผนัง วิเวียนในชุดราตรีสีฟ้าครามอ่อนที่มีแสงจากเพชรระยิบระยับตกแต่งรอบๆชุดจนประกาย ทำให้คนสวมใส่ออร่าพุ่งทะลุรูปภาพ เรียกรอยยิ้มจากคนมองที่ไม่อาจละสายตาได้ เธอดูสวยสง่าเสียจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าหากผู้หญิงคนนี้อยู่ในชุดเจ้าสาวของตน จะสง่าขนาดไหนกันเชียว เซบาสเตียนนั่งอมยิ้มกับภาพจินตนาการในหัว ที่ไม่รู้ล่องลอยไปถึงไหน งานแต่งที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ฉายภาพให้คนทั้งโลกได้รับรู้ว่าผู้หญิงในชุดเจ้าสาวที่สวยที่สุดคนนี้เป็นของเขา เวลาเดียวกันที่เกิดเสียงเรียกหวานเปร่งขึ้นก่อนคนตัวเล็กจะเดินกลับมาพร้อมถาดนํ้าชาหอมกรุ่นในมือ "ชาค่ะ" " นี่เป็นชาแบบใหม่ที่วิเพิ่งลองทำ คุณเป็นคนแรกที่ได้ชิมเลยนะคะ " วิเวียนอธิบายพร้อมรินชาใส่ถ้วยให้กับคนบนโซฟาด้วยความตั้งใจ ทุกการกระทำของเธอตกอยู่ในสายตาเซบาสเตียน เธอช่างเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ล้นเหลือ ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เคยเบื่อเลยจริงๆ "ผมดีใจนะครับ ที่ได้เป็นคนแรก" เซบาสเตียนยิ้มกล่าวด้วยความประทับใจ ทว่าในใจนึกคิด จะดีใจมากกว่านี้หลายเท่าเลย หากได้เป็นคนแรกและคนเดียวที่เธอทำให้ “รสชาติเป็นยังไงบ้างคะ” ดวงตากลมแป๋วคอยลุ้นตามที่นํ้าชาถูกซดเข้าปากอีกคน เมื่อแก้วชาถูกวางลงที่เดิม เจ้าของชาไม่รอช้าที่จะเปร่งเสียงถามทันทีด้วยแววตาตื่นเต้น “ผมเพิ่งเคยได้ลองชาที่ดีขนาดนี้เป็นครั้งแรกเลยนะครับ มันหอมกลมกล่อมมากจนไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย คุณทำให้ผมทึ่งในตัวคุณได้ทุกวี่ทุกวันจริงๆ “ เซบาสเตียนตอบตามความจริงทั้งหมดที่มาจากใจ เขาทั้งประทับใจและทึ่งในความไม่เหมือนใครของวิเวียน เธอเปรียบเสมือนนางฟ้าที่สวรรค์ส่งมาให้เขา ทว่าแม้ชาดอกไม้ในถ้วยจะหอมกรุ่นขนาดไหนก็คงสู้กลิ่นของเจ้าตัวคนทำไม่ได้ เพียงได้อยู่ไกล้ก็ทำเอาเขาลุ่มหลงกลิ่นกายหอมอ่อนๆธรรมชาติที่มาจากตัวเธอ อดคิดไม่ได้เลยว่าหากได้ลิ้มลองรสชาติจะหวานขนาดไหน แต่อีกคนหารู้ไม่ว่าภายในใจชายที่ทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวนั้นคิดเกินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ถ้อยคำชมทำเอาหญิงสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่อาจหุบด้วยความดีใจ เธอชอบทำนุ่นทำนี่แล้วคำชมเป็นสิ่งที่เยียวยาจิตใจดวงน้อยได้ดีสุดๆ เขาเองก็ทำเธอหวั่นไหวได้แทบจะทุกวี่ทุกวัน ดั่งว่ารู้จักจุดอ่อนเธอดีจนขยี้ได้ตรงแทบจะทุกจุด “งั้นคุณนั่งจิบชาไปก่อนนะคะ เดี๋ยววิไปจัดการห้องให้” วิเวียนรีบบ่ายเบี่ยงบทสนทนาอื่น ก่อนที่เจ้าหัวใจมันจะออกนอกลู่นอกทางไปมากกว่านี้จนหาหนทางกลับไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนก็จะเหลี่ยมเยอะพอสมควร “ไม่ต้องหรอกครับ” เซบาสเตียนรีบเอ่ยห้าม นำพาคนที่ตั้งท่ากำลังจะลุกออกไปต้องหยุดนิ่งหันกลับมามองหน้าเขาด้วยสีหน้างุนงง “คะ?” “คุณวิไม่ต้องลำบากไปจัดห้องให้ผมหรอกครับ ผมนอนแบบไหนก็ได้หมดครับ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่” "แต่ว่าห้องรับแขกวิไม่ได้เข้าไปดูนานแล้ว ฝุ่นเต็มแน่ๆ เลยค่ะ “ วิเวียนตอบด้วยนํ้าเสียงหนักใจ จะให้แขกอย่างเขานอนห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่นกระจัดกระจายก็คงจะดูเลวร้ายเกินไป แต่อีกคนก็ยังคงดื้อดึง “ไม่เป็นไรจริงๆครับ ผมนอนได้” เซบาสเตียนยืนยันหนักแน่น ไม่ยอมให้เจ้าของบ้านได้ก้าวออกไป “งั้น…. ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยววิพาคุณไปดูก่อน ถ้าไม่ได้จะได้จัดการเลย” “เอางั้นก็ได้ครับ” วิเวียนยิ้มรับเมื่ออีกคนตกลง ก่อนทั้งคู่จะพากันเดินไปยันโซนห้องรับแขกที่อยู่ตรงกันข้ามกับอีกห้องที่ดูเหมือนจะเป็นห้องของเจ้าของบ้าน รู้งี้คนจ้องแต่จะรุกก็เผยยิ้มร้ายออกมาไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ในหัวเต็มไปด้วยแผนสมกับสายเลือดนักธุรกิจจริงๆ “คุณนอนได้จริงๆหรอคะ ฝุ่นเต็มเลย…” วิเวียนยิ้มแห้ง หันมองหน้าอีกคนแหยๆ ด้วยความเกรงใจ เมื่อเธอพยายามโน้มน้าวเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมให้เธอทำความสะอาด แถมห้องยังเต็มไปด้วยฝุ่น แม้จะไม่มากจนอยู่ไม่ได้ แต่มันก็ยังดูไม่ดีอยู่นั่นแหละ “ไม่เป็นไรจริงๆครับ ผมนอนได้ คุณวิไม่ต้องห่วงนะครับ ผม— ฮัชชิ้ว!” นอนได้.. สะที่ไหนกันล่ะ นอนได้ก็บ้าแล้ว ฮัชชิ้วสะดังขนาดนั้นทำเอาวิเวียนสดุ้งเลยมั้ยล่ะ "คุณ! วิว่าคุณไม่โอเคหรอกค่ะ วิไปเอาไม้มากวาดสักหน่อยก็ยังดี " อีกคนเมื่อเห็นท่าไม่ดีก็ลนลานรีบตั้งท่าจะทำแต่ความสะอาด แต่คนหัวแข็งก็ยังคงยืนยันไม่ยอมอยู่เหมือนเคย “ไม่ๆๆ ไม่ต้องครับคุณวิ ผมโอเคจริงๆครับ เดี๋ยวร่างกายมันก็ชินไปเอง นี่ก็เริ่มดึกแล้ว คุณวิไปนอนเถอะนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงผมเลยครับ” “แต่ว่า…..” วิเวียนยังคงลังเล แม้ปากเขาจะบอกว่าโอเค แต่ดูหน้าคมลูกครึ่งนั้นสิ ตอนนี้เริ่มแดงแปร๊ดอย่างกับอะไร คำพูดช่างสวนการกระทำขนาดนี้จะไม่ให้เธอเป็นห่วงได้ยังไงกัน " เชื่อผมเถอะนะครับ ผมนอนได้จริงๆ" เซบาสเตียนโน้มน้าวเสียงอ่อนโยน ทำเอาหัวใจดวงน้อยยวบลงกันไปแทบจะถึงตาตีน ผู้ชายอะไรเสียงหล่อได้ขนาดนี้ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นอันต้องยอมจนได้ “งั้นก็ได้ค่ะ แต่ถ้าคุณต้องการอะไรรีบเรียกวิเลยนะคะ วิอยู่ห้องตรงข้ามกับคุณนี้เอง “ วิเวียนเตือนเสียงหนักแน่น ทำเอาอีกคนหลุดยิ้มด้วยความเอ็นดูในท่าทางของเธอ "ครับ ฝันดีนะครับคนสวย" เซบาสเตียนยิ้มกรุ่มกริ่ม ซึ่งอยู่ๆก็ทำเธอนึกถึงเรื่องน่าอายที่ได้เผลอทำลงไปเมื่อตอนเที่ยงขึ้นมา นำพาเจ้าหัวใจบ้าลุกขึ้นมาเต้นแข่งกันจนดังตุบตับไม่เป็นจังหวะ เห็นท่าอยู่ต่อคงไม่ดีสักเท่าไหร่ วิเวียนรีบพยักหน้ารับเบาๆ ด้วยท่าทีเขินอายก่อนจะรีบเพ่นเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองเจ้าคนต้นเหตุปึ้ง! วิเวียนที่นั่งเหม่ออยู่ในภวังค์ความเศร้าถึงกับสดุ้งโหยงเมื่ออยู่ๆซาร่าก็ทุบโต๊ะด้วยแรงโมโหจนเกิดเสียงดังปั้ง หลังจากที่เธอเล่าทุกอย่างให้ลูกน้องสาวฟัง “อะไรกันคะ! จะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว ไอ้คุณชายนั่น!” ไม่ยักรู้ว่าคนที่จะโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟแทนที่จะเป็นตัวเธอเองแต่ตอนนี้กลับเป็นซาร่าสะงั้น “ใจเย็นๆซาร่า” “จะให้ใจเย็นได้ยังไงกันคะ พี่วิรู้มั้ยคะว่าตอนนี้ซาร่าอยากทำอะไรมากที่สุด ซาร่าอยากบุกบ้านไอ้คุณชายนั่นแล้วซัดหมัดนี่เข้าเบ้าหน้าหล่อๆที่มาหลอกคนอื่นเข้าให้จนเละเลยค่ะ!” วิเวียนถึงกับยิ้มแห้งกับอารมณ์โทสะของสาวน้อยที่เธอเอ็นดูเหมือนน้องสาวมาตลอด เพิ่งจะเคยเห็นหญิงสาวตัวเล็กๆอารมณ์พรุ่งพร่านแทนเธอได้ขนาดนี้ “พี่วิไม่ต้องห่วงนะคะ พรุ่งนี้ซาร่าจะจัดการทุกอย่างให้พี่เองค่ะ” “หื้ม?” คิ้วบางขมวดอย่างไม่เข้าใจ ดูจากสีหน้าที่มุ่งมั่นของซาร่าแล้วบ่งบอกว่าเธอไม่ได้พูดเล่นๆ ยัยเด็กคนนี้คิดจะทำอะไรกัน แล้วก็เป็นแบบที่เธอพูด เมื่อซาร่ามากดกริ่งหน้าบ้านเธอแต่เช้าตอนตีสี่ วิเวียนที่เพิ่งจะผลอยหลับไปจากการนั่งคิดมากได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องเดินงัวเงียมาเปิดประตู “มาค่ะพี่วิ
ถ้อยเสียงเบาแผ่วเอ่ยขึ้นดั่งน้อยใจ เรียกรอยยิ้มซุกซนจากอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างได้ใจ ดูเหมือนว่าแผนชั่วที่เพื่อนเขากล่าวจะได้ผลดีเลยล่ะ “คิดถึงผมหรอครับ” คนโตกว่ายกยิ้มเจ้าเล่ห์โน้มหน้าเข้ามาพูดไกล้อีกคนจนลมหายใจอุ่นรดเข้าสัมผัสผิวเนียน นำพาเสียงหัวใจดวงน้อยลุกขึ้นเต้นแข่งกันตุบตับ “ผมมีงานใหญ่ที่ต้องจัดการน่ะครับ พอรีบเคลียร์เสร็จผมก็รีบมาหาคุณนี่แหละอย่าน้อยใจสิครับ หื้ม” ไม่พูดเปล่า นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมอีกคนทัดหูไปด้วยอย่างอ่อนโยน ทำหัวใจดวงน้อยวูบไหวรีบหลบสายตาที่มองมา “ว…วิไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อยค่ะ” “งั้นก็โอเคครับ เรามานั่งคุยกันดีกว่า ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยนิดหน่อย” ดวงตาวูบไหวเงยมองเจ้าของคำพูด เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงถ้อยเสียงของเขาที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไป หรือว่าจะมีเรื่องใหญ่อะไรรึเปล่า “เรื่องอะไรคะ..” “คือว่า… ผมอยากให้คุณไปจัดสถานที่ให้น่ะครับ สถานที่ขอแต่งงาน…” ดวงตาคนฟังเบิ่กกว้างเหมือนตกอยู่ในภวังค์คำพูดของเซบาสเตียน เขาหมายความยังไงถึงคำว่าสถานที่ขอแต่งงาน คำถามมากมายตีกันในหัวเต็มไปหมด ใครกันที่จะแต่งงานหรือว่าเป็นเขา แล้วถ้าหากเป็นเขาล่ะ ทุกอย่
ผ่านไปสามวัน… “พี่วิ” ซาร่าเมื่อเห็นเจ้านายสาวเอาแต่นั่งเหม่อสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ทนดูไม่ได้จึงมานั่งข้างๆ “มีอะไรรึเปล่าซาร่า” “พี่วิโอเคมั้ยคะ หลายวันมานี้ซาร่าเห็นพี่เหม่อเหมือนมีอะไรในใจอยู่ตลอดเลย” “ไม่มีอะไรหรอก…” วิเวียนก้มหน้า ปากบอกไม่มีอะไร แต่สีหน้าเธอมันบ่งบอกชัด ความจริงซาร่าไม่ต้องถามก็รู้ เพียงแต่ไม่อยากให้เธอต้องเอาแต่นั่งหมกมุ่น “เฮ้อ… พี่รอคุณชายนั่นอยู่ใช่มั้ยคะ” วิเวียนเงียบไม่มีคำตอบ แสดงว่าเรื่องจริงน่ะสิ ไม่รู้ว่าไอ้คุณชายนั่นคิดอะไร มาตามติดพี่สาวเธอเหมือนจริงจัง แต่อยู่ๆ กลับมาเล่นหายหัวไปปล่อยให้วิเวียนต้องมานั่งกลุ้ม “ไอ้คุณชายบ้านั่น อย่าให้เห็นโผล่มานะ เดี๋ยวซาร่าจะซัดเข้าให้ มาทำให้คนอื่นมีใจแล้วหายหัวไปไหนไม่รู้” ซาร่าบ่นอุบ มันน่าโมโหจริงๆเลยมั้ยล่ะ “เอาน่าซาร่า เค้าคงจะยุ่งกับงาน” “แต่ก็ควรจะบอกกันสักคำสองคำมั้ยล่ะคะ” ทันทีที่ซาร่าสวนไปแบบนั้น แววตาคู่สวยก็สั่นไหวขึ้นมาทันที ลูกน้องสาวพูดมีเหตุผลพอสมควร สีหน้าวิตกของเธอทำเอาซาร่าแทบกลืนนํ้าลายลงคอด้วยความรู้สึกผิด เธอปากมากจนลืมคำนึงถึงความรู้สึกวิเวียนเลย อยากจะตบผีใน
“ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ คุณลุงสนใจดื่มชาก่อนมั้ยคะ” วิเวียนรีบยิ้มหวานชวนเบรย์เดนนั่งเป็นการไถ่โทษที่ต้องให้เขารอนาน ส่วนชายวัยกลางเมื่อสายตาสบอยู่บนใบหน้าสวยก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา เธอสวยและเรียบง่ายจนสบายตาไม่พอแถมยังเพิ่มความสบายใจให้คนมองเข้าไปทวีคุณ ไม่แปลกใจหากลูกชายจะประทับใจในตัวแม่หนูคนนี้นักหนา “เอาสิ” เบรย์เดนไม่ตราหนักใจที่จะยิ้มตอบพร้อมนั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนตามคำชวนของวิเวียน เขารู้สึกถูกชะตากับแม่หนูคนนี้เสียเหลือเกิน แม้กระทั่งท่าทางการรินชาของเธอยังดูเรียบร้อยสบายตาจนเขาประทับใจไม่น้อย “คุณลุงลองชิมดูนะคะ ชานี่เป็นชนิดพิเศษที่ทางร้านคิดค้นทำขึ้นมาเองค่ะ” “งั้นหรอ…” ชายวัยกลางเกิดนึกสงสัย ยกแก้วชาขึ้นจิบก็ต้องขมวดคิ้มเข้มเข้าหากัน เมื่อเพียงมันแตะถึงลิ้นเขาก็รับรู้ได้ถึงชนิดของชาทันที “ชาดอกไม้?” “ใช่ค่ะ คุณลุงเคยดื่มหรอคะ” “ภรรยาลุงชอบทำให้ดื่มอยู่บ่อยๆน่ะ” แววตาเขาดูมีความหมายเมื่อกล่าวถึงภรรยา แต่ก็แอบมีความเศร้าหมองแฝงอยู่ในนั้น จนวิเวียนที่จับสังเกตได้อดไม่ไหวที่จะพลั้งปากถามออกไป “คุณลุงคงจะรักเธอมากเลยสินะคะ..” “รักสิ รักมากเลยล่
“ร้านนี้หรอ” เสียงทุ้มจากชายวัยกลางถามขึ้น ในขณะที่สายตาทอดมองไปยันร้านดอกไม้ที่ถูกตกแต่งประดับประดาสวยงามตรงหน้า เห็นลูกน้องมันมาฟ้องนักหนาว่าเจ้าลูกชายมันหลงเจ้าของร้านดอกไม้นี้หัวปักหัวปำ ก็เกิดนึกอยากจะมาดูให้เห็นกับตาสักหน่อย “ใช่ครับท่าน” “อืม…” เบรย์เดนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปเยือนในร้าน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความคุ้นเคยที่ห่างหายมานานหลายปี… “ยินดีต้อนรับค่ะคุณผู้ชาย” ในขณะที่สายตาคมกำลังทอดมองรอบๆ ก็เกิดเสียงหวานจากสาวน้อยแทรกขึ้นมาต้อนรับ “เชิญเดินดูได้ตามสบายเลยนะคะ” ซาร่าพูดซํ้าพร้อมยิ้มแย้มเป็นมิตร “ได้ข่าวว่าเจ้าของร้านนี้ฝีมือการจัดดอกไม้ดีมากและแตกต่างไปจากใครๆ” “จริงแท้แน่นอนค่ะคุณผู้ชาย อยากได้แบบไหนสามารถบอกได้เลยนะคะ ทางเราทำได้ทุกแบบทุกชนิดค่ะ” “อืม… จะเป็นการรบกวนมั้ยครับ ถ้าผมอยากคุยกับเจ้าของร้านหน่อย” “ไม่มีปัญหาค่ะ คุณลูกค้าเชิญนั่งรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวซาร่าไปตามให้ค่ะ” ดวงตาคู่คมหันกลับไปกวาดมองรอบๆ บรรยากาศที่คุ้นเคยนี้นำพาเขาย้อนคิดกลับไปถึงวันวานเก่าๆ ในวันที่แสงแดดอ่อนๆจากท้องฟ้าสาดส่องลงมาแตะยันพื้นหญ้าเข
รอยถึงกับอ้าปากเหวอ พอเวลาธรรมดาก็เอาแต่ร้องเรียกหาแต่ว่าที่เมีย แต่พอมาเวลาแบบนี้ สันดานนักล่าผู้หญิงที่ติดตัวมาแต่เกิดก็ไม่เคยจางหายเลยจริงๆ ดูจากสายตาที่กำลังล่อเหยื่อให้ติดกับนั่นสิ แหม เดี๋ยวจะฟ้องคุณคนสวยซะเข้าให้! “หืม ให้ผมหรอครับ” คิ้วเข้มขมวดขึ้นข้างนึงเบาๆ เชิงมองหญิงตรงหน้าที่กำลังยื่นแก้วไวน์แดงให้กับเขา “รอบๆนี้คงไม่มีใครหล่อเท่าคุณแล้วแหละค่ะ” ก็แหงสิ เขามันเทพบุรุษ เซบาสเตียนเหยียดยิ้มซุกซนพร้อมยื่นมือไปรับแก้วไวน์โดยไม่ปฏิเสธ ก็ไม่ต่างจากการบ่งบอกว่าเขายอมรับข้อเสนอของผู้หญิงตรงหน้า “เห็นว่าคุณทำหน้าเครียดๆ … ก็เลยอยากจะมาเสนอเป็นที่ระบายให้สักหน่อยน่ะค่ะ” ไม่เพียงแต่พูดเปล่า หญิงสาวรีบเซร่างตัวเองเข้าไกล้เขาพรางทาบฝ่ามือบางลงบนอกแกร่งแล้วลูบไล้ไปมา ส่งสายตาอ่อยสุดฤกษ์ วันนี้ไม่ได้ผู้ชายคนนี้ไปอยู่บนเตียงก็ให้มันรู้ไป “ที่ระบาย… หึ น่าสนใจนะครับ” “ฉันไม้พายนะคะ บอกไว้เผื่อคุณติดใจอยากจะรู้จักขึ้นมา” “ไม้พาย… ชักอยากรู้แล้วสิครับ ว่าไม้พายนี้จะพาผมไปถึงฝั่งได้รึเปล่า” “ไม่ลองจะรู้ได้ยังไงกันล่ะคะ” “ผมกะว่าจะรีบกลับห้องไปนอนพัก แต่ดูเหมือนม