로그인กริ้ง ~
สิ้นเสียงสัญญาณเข้าห้องเรียนในคาบแรก หนุ่มน้อยรีบเบิ่งพรวดเข้ามาในห้องพยาบาล มองควานหาสาวน้อย จนพบร่างเล็กน้อยห่มผ้าคลุมโปงอยู่สุดห้อง “ป๊อบ เป็นไงบ้าง” “ป๊อบดีขึ้นแล้วกานต์ --- กานต์มาทำไม ทำไมไม่ไปเรียน” “กานต์กำลังจะไปเรียนแล้ว คาบแรกวิชาสุขศึกษาน่ะ ห้องข้าง ๆ นี่เอง” “อ่อ” “ว่าแต่ป๊อบห่มผ้าทำไมน่ะ หนาวเหรอ” “นิดหน่อยน่ะกานต์” “แต่ ... ป๊อบเหงื่อชุ่มเลยนะ” หนุ่มน้อยก้มลงปาดเหงื่อข้างขมับของสาวน้อย “เอิ่ม ... ป๊อบเพิ่งกินยาไป สงสัยยากำลังออกฤทธิ์ กานต์ไปเรียนเถอะ ป๊อบอยู่คนเดียวได้” หนุ่มน้อยมองออกกลับมาหน้าห้อง ที่มีกระจกใสบานใหญ่กั้น “โอเค งั้นกานต์ไปเรียนแล้วนะ ถ้ามีอะไรให้กานต์ช่วยบอกได้เลยนะ” “โอเค” หนุ่มน้อยเดินออกจากห้องจนลับสายตา สาวน้อยสาดตามองจนสุดสาย ก่อนจะถีบผ้าห่มหนาพ้นตัว สาวน้อยครุ่นคิดว่าจะออกไปเรียนดีไหม ในเมื่อตอนนี้อาการก็ปกติดีที่สุดแล้ว หรือจะนอนเป็นผักอบร้อนคนเดียวในนี้ คิดไปคิดมามันก็เหงาอยู่ไม่น้อย ที่ต้องอยู่คนเดียวในห้องที่มีเตียงว่างเรียงรายนับสิบ จนเกิดความคิดในหัวว่า ‘วันนี้ไม่มีใครป่วยเลยหรือไงนะ’ เพียงไม่นานเมื่อสิ้นความคิด เสียงเปิดประตูที่เหมือนจะกำลังคุ้นหูก็เปิดเข้ามา พร้อมเสียงเท้าเดินลงส้นดังผ่านกระเบื้อง “เจสมาแล้วค่า” เพื่อนสาวของเธอก้าวนั่งเก้าอี้ข้างเตียง ทิ้งตูดลงอย่างมั่นใจ พร้อมถอดกระเป๋าสะพายหลัง ทิ้งวางลงข้างเก้าอี้ “อ้าวเจส ไปเรียนเหรอ ขึ้นคาบแล้วนะ” สาวน้องเบิ่งตาโพรง เมื่อเห็นร่างบางอ้อนแอ้นเดินมานั่งด้วยความมั่นใจ “ไม่อะ ขี้เกียจเรียน ขอนั่งส่องเฟซบุ๊กพี่มอปลายในนี้ดีกว่า” “แต่ว่า ...” “มึ๊งงงงงงง พี่เขาหล่อมากอะ เป็นนักวอลเลย์โรงเรียนด้วย กรี๊ด กรี๊ดไม่ไหว” เจสเบี่ยงหน้าจอมือถือให้ป๊อบดู “เออหล่อว่ะ พี่เขาชื่อไรน่ะ” “พี่เขาชื่อพี่กล้า มอห้าห้องหนึ่ง” “แกเก็บข้อมูลเร็วขนาดนั้นเลยเหรอเจส” สาวน้อยหัวเราะร่าออกมา พร้อมมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความนับถือในฝีมือ “นี่เจสนะคะ ผ่านหน้าครั้งเดียวข้อมูลก็เข้ามาฝังอยู่ในหัวแล้วค่ะ” เจสหัวเราะร่าตามกัน “นี่พวกเธอ !!! หัวเราะกันอะไรขนาดนั้น ไม่ปงไม่ป่วยกันแล้วมั้ง” เสียงแหลมนิ่งดังลั่นเข้ามากลบเสียงประตูจนมิด พร้อมมือที่ถือแก้วกาแฟร้อนกลิ่นกรุ่นทั่วห้อง สาวน้อยเริงร่าทั้งสองผลักเสียงหัวเราะพ้นตัว พร้อมเงียบกริบลงในทันที ครูนิสา ครูสาวใหญ่อายุสี่สิบปลาย ๆ ที่มาพร้อมกับแฟชั่นประจำตัว เสื้อตัวใหญ่รุ่ย ๆ หลากสี กับกระโปรงยาวปลายบาน ที่นักเรียนหลายคนเจอทีไรต้องก้มหน้าหนีทุกครั้ง เพราะแกจะชอบด่าพวกที่ชอบเล่นโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา เป็นครูสอนวิชาสุขศึกษาที่ทำหน้าที่เป็นครูห้องพยาบาล “คะครู ?” สาวน้อยอ้ำอึ้งตอบไป โดยไม่ได้ฟังว่าครูพูดอะไร “ไหน ครูดูอาการหน่อยซิ๊” ครูนิสาเดินมาข้างเตียงเบียดเจสที่นั่งอยู่ นาบหลังมือเข้าหน้าผากของสาวน้อย “ไม่เป็นไรแล้วหนิ ไปเรียนได้แล้ว” ครูนิสาวางทาบแค่เสี้ยววิ แล้ววินิจฉัยในทันที “แล้วนี่ ! เล่นแต่โทรศัพท์ จะเก็บลงไหม หรือจะให้ครูยึด” ครูนิสาหันเหวี่ยงหน้าตึงใส่เจส ที่ยังนั่งไถส่องค้างหน้าโปรไฟล์พี่กล้าอยู่ “คะครู ?” เจสหันเงยหน้ามองครูด้วยสีหน้ามึนงง “ครูว่าพวกเธอควรไปเรียน หรือจะให้ครูโทรบอกที่ปรึกษา ห้องหนึ่งทับแปดใช่ไหม ?” ครูนิสาหยิบมือถือเคสหนังพับที่ตกรุ่นมาแล้วสามปี ยื่นห่างออกตัว ไถจิ้มด้วยนิ้ว “ไปก็ได้ค่ะครู พวกหนูไปเรียนแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ” สาวน้อยก้มลงหยิบกระเป๋าของเธอ พร้อมกระเป๋าของเจสพาดไหล่ใบละข้าง คว้าแขนเจสที่นั่งทำหน้ามึนอยู่ แทบจะตัวปลิวออกจากห้องในทันที “เด็กพวกนี้นี่” ครูนิสาอุทานตามหลัง พร้อมกดส่งโพยตัวเลขสองหลัก สามหลักนับสิบ ๆ ตัว ผ่านไลน์ แล้วยกมือถือขึ้นไหว้เหนือหัว ‘สาธุ ขอให้โดนด้วยเถอะ’ ณ ห้องเรียนวิชาภาษาไทย “ป๊อบ ! แกจะเข้าไปจริงเหรอ ?” “เข้าสิ เรามาถึงห้องแล้วนะ” “แต่มันเลยเวลามายี่สิบนาทีแล้วนะ ขืนเข้าไปตอนนี้โดนด่าแหง ๆ” “เราย่องเข้าไปไหม ?” สองสาวยื้อยุดผลักกันไปมากระซิบกระซาบประตูหลังห้อง “น้อง ! ทำไรกันน่ะ” เสียงทุ้มหนาพูดขวางขณะที่ทั้งสองกำลังเยื้องย่างก้มต่ำเข้าห้อง สองสาวถอยหลังพลัน ด้วยความตกใจ พร้อมเงยหน้ามองเสียงทุ้ม “พะ พะ พี่ --- พี่กล้า” เจสมองหน้า ชายหนุ่มหน้าตี๋สูงโปร่งผิวขาวสว่างพอ ๆ กับสีเสื้อนักเรียนที่ใส่ ที่เพิ่งส่องไปเมื่อสักครู่ มือกุมปากกรี๊ดดังก้องอุ้งมือ ส่วนสาวน้อยมองมาที่มือหนาใหญ่เส้นเลือดปูดโปน ที่จับแขนเล็กของเธอไว้แน่น จนเลือดแทบจะไม่เดิน “เอิ่ม --- พี่คะ พี่ชื่อพี่กล้าใช่ไหมคะ คือ --- พี่กล้าคะ ปล่อยแขนหนูได้แล้วค่ะ” สาวน้อยพยายามแกะมือใหญ่ออกจากแขนเธอ “ใช่ครับ พี่ชื่อพี่กล้า น้องรู้จักพี่ได้ไง” “อ่อ รู้จากผ่านอีนี่ค่ะ” สาวน้อยชี้ไปยังเพื่อนสาว ที่ตอนนี้เหมือนจะขาดสติ “แล้วน้องล่ะ ชื่ออะไร” “พี่จะรู้จักชื่อหนูไปทำไมละคะ ไม่บอกค่ะ ปล่อย !” สาวน้อยพยายามแกะมือใหญ่ออกอีกครั้งกริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงง ~ เสียงสัญญาณดังลั่นทั่วโรงเรียน เป็นเสียงสัญญาณที่บอกว่าวันทั้งวันที่เหน็ดเหนื่อยนี้ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขอให้พวกเจ้ากลับไปใช้ชีวิตต่อที่บ้านนะ หนุ่มน้อยเดินรั้งท้ายกลุ่มคู่กับเพื่อนเนิร์ดแว่น ที่กระเป๋าสะพายหลังแอ่น ปลายทางคือหน้าโรงเรียน ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยร้านขายของกิน เต็มแน่นทั่วทางเท้า ในช่วงหลังเลิกเรียน สิ่งที่นักเรียนใฝ่หามากกว่าการได้กลับบ้านคือของกิน การเรียนทั้งวัน โดยมีอาหารตกถึงท้องแค่ตอนเที่ยงกับช่วงเปลี่ยนคาบ ที่แอบแวะร้านค้าโรงเรียน ไม่เพียงพอต่อความต้องการเลยสักนิด การได้กินของอร่อย ๆ หลังเลิกเรียนนับเป็นสิ่งวิเศษสุด ๆ แล้วในแต่ละวัน “เอาลูกชิ้นหกไม้ครับ” บอลชะโงกหน้า สั่งแม่ค้าที่ง่วนอยู่กับออเดอร์ก่อนหน้า “ไม่ไปกินน้ำปั่นร้านลุงใจดีกับเราจริงดิ” พีทออดอ้อนกอดแขนล่ำสูงของบอล “โทษทีว่ะเพื่อน กูต้องไปซ้อมว่ายน้ำอะ” “มึงจะว่ายน้ำไปตลอดชีวิตเลยเหรอวะ” “ว่ายน้ำน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่กูทำได้ดีที่สุดว่ะ” “เออนะ ตั้งแต่เริ่มเรียนว่ายน้ำด้วยกันมาตอนปอหนึ่ง มึ
2 สัปดาห์ผ่านไป‘ประกาศถึงนักเรียนโรงเรียนวาสอุดมวิทยาทุกคน ในวันพรุ่งนี้ในคาบเรียนที่เจ็ด จะมีการเลือกชุมนุม ณ หอประชุมศิษย์เก่าสัมพันธ์วาสวิทฯ ให้ทุกคนตรวจดูรายชื่อชุมนุมที่สนใจในรายชื่อที่แนบมาให้นี้ สวัสดี // สภานักเรียนวาสอุดมวิทยา’กานต์เปิดดูข้อความอัตโนมัติ ที่แจ้งเข้ามาในมือถือ พร้อมเพื่อน ๆ ในห้องถึงข่าวแจ้งถึงการเลือกชุมนุม เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นทันที เมื่อทุกคนได้อ่านข้อความดังกล่าว“มีแต่ชุมนุมที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย”“นั่นดิ เลือกอะไรดี”“บอล มึงจะเลือกชุมนุมไรวะ”“กูว่าจะเลือกว่ายน้ำว่ะ” บอล หนุ่มน้อยที่ดูน่าจะดูแตกเนื้อหนุ่มที่สุดในกลุ่ม ผิวแดงดำแดด กับรูปร่างทรงนักกีฬา สูงใหญ่ ค่อนข้างล่ำเมื่อเทียบกับเด็กมอหนึ่ง“เออ มึงเคยไปเรียนพิเศษมาหนิ ใช่ป้ะ // นายล่ะ แคน”“เราลังเลอะ ว่าจะเลือกแลปวิทย์ฯหรือจินตคณิตดี” แคน หนุ่มน้อยผมหยิกดำ ร่างบางสูงผอม ผิวสีน้ำผึ้ง เอ่ยตอบ ด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย“เราก็คิดเหมือนนายเลย แคน” เซคัล หนุ่มน้อยแว่นหนาเตอะ ตัวเล็กขาวผ่อง ตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้น เพราะน่าจะมีเพื่อนในกลุ่มลงชุมนุมด้วย“นายสองคนก็หนีจากวิทย์ฯคณิตสักหน่อยก็ไม่ได้เลยเนอ
“ไม่ปล่อย บอกมาก่อนว่าชื่ออะไร”“อ๋อ...ปานใจ” ชายหนุ่มอ่านชื่อบนหน้าอกของเธอ“งั้นพี่เรียกเรียกน้องปานใจนะ”“หนูชื่อเจสซี่ค่ะพี่ อยู่มอหนึ่งห้องแปด” เสียงแหลมแจ๋วพูดโทนสองสามสี่ แทรกขึ้นพร้อมชะโงกหน้าคั่นผู้สนทนาทั้งสอง“น้องปานใจกำลังหลบเรียนเหรอคะ ?” ชายหนุ่มผลักหน้าเจสออกจากเรดาร์ เอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงหวานปนสายตาเจ้าเล่ห์“ไม่ได้หลบค่ะ กำลังเข้าเรียน” สาวน้อยตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะอยากคุยด้วย“หลบแหละพี่ว่า --- พี่ควรจะบอกครูดาหวันไหมนะ” ชายหนุ่มมองชะเง้อเข้าไปในห้อง ที่ครูกำลังพูดคุยกับนักเรียนอยู่“หนูว่าพี่ควรปล่อยแขนหนูก่อนค่ะ” สาวน้อยมองส่งสัญญาณมาที่แขน ที่ชายหนุ่มกำลังกำแน่น“อ่า --- พี่ลืม โอเค ปล่อยแล้ว” ชายหนุ่มยกมือขึ้นข้างตัว‘เดชผล ปานใจ’ เสียงครูเรียกเช็กชื่อในห้องดังลอดออกมาข้างนอก‘น่าจะหลบค่ะครู’ สาวน้อยผมหยิกหน้าห้องตอบกลับ และครูก็กำลังวางปากกาลงกระดาษที่ถืออยู่ในมือ เพื่อเช็กชื่อขาด“ครูครับ น้องปานใจอยู่นี่ครับ” ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงดัง ทำเอาคนทั้งห้องมองหันมายังต้นเสียงสาวน้อยเบิ่งตาโตเต็มไปด้วยสีหน้าตกใจ หันหน้าหนีจากกลุ่มเพื่อน ที่พยายามชะโงกหน้าผ่านช
กริ้ง ~ สิ้นเสียงสัญญาณเข้าห้องเรียนในคาบแรก หนุ่มน้อยรีบเบิ่งพรวดเข้ามาในห้องพยาบาล มองควานหาสาวน้อย จนพบร่างเล็กน้อยห่มผ้าคลุมโปงอยู่สุดห้อง“ป๊อบ เป็นไงบ้าง”“ป๊อบดีขึ้นแล้วกานต์ --- กานต์มาทำไม ทำไมไม่ไปเรียน”“กานต์กำลังจะไปเรียนแล้ว คาบแรกวิชาสุขศึกษาน่ะ ห้องข้าง ๆ นี่เอง”“อ่อ”“ว่าแต่ป๊อบห่มผ้าทำไมน่ะ หนาวเหรอ”“นิดหน่อยน่ะกานต์”“แต่ ... ป๊อบเหงื่อชุ่มเลยนะ” หนุ่มน้อยก้มลงปาดเหงื่อข้างขมับของสาวน้อย“เอิ่ม ... ป๊อบเพิ่งกินยาไป สงสัยยากำลังออกฤทธิ์ กานต์ไปเรียนเถอะ ป๊อบอยู่คนเดียวได้”หนุ่มน้อยมองออกกลับมาหน้าห้อง ที่มีกระจกใสบานใหญ่กั้น“โอเค งั้นกานต์ไปเรียนแล้วนะ ถ้ามีอะไรให้กานต์ช่วยบอกได้เลยนะ”“โอเค”หนุ่มน้อยเดินออกจากห้องจนลับสายตา สาวน้อยสาดตามองจนสุดสาย ก่อนจะถีบผ้าห่มหนาพ้นตัวสาวน้อยครุ่นคิดว่าจะออกไปเรียนดีไหม ในเมื่อตอนนี้อาการก็ปกติดีที่สุดแล้ว หรือจะนอนเป็นผักอบร้อนคนเดียวในนี้ คิดไปคิดมามันก็เหงาอยู่ไม่น้อย ที่ต้องอยู่คนเดียวในห้องที่มีเตียงว่างเรียงรายนับสิบ จนเกิดความคิดในหัวว่า ‘วันนี้ไม่มีใครป่วยเลยหรือไงนะ’เพียงไม่นานเมื่อสิ้นความคิด เสียงเปิดประตูที่เ
สาวน้อยมองซ้ายมองขวา หาเพื่อนร่วมห้องที่น่าจะคุ้นตาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เจอ มีเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ผ่านเธอไปอย่างมีจุดหมาย ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะวันที่ครูให้แนะนำตัว เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตา เธอจึงแทบจะจำหน้าใครในห้องไม่ได้เลย และในตอนนี้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูก ครั้นจะเดินไปขอเข้าแถวกับกานต์ก็คงไม่ถูก จะเดินผ่านสายตาที่มองแบบเด่น ๆ ไปเดาหัวแถวข้างหน้าก็กลัวจะหน้าแตกเธอยืนงกงงท่ามกลางผู้คนผ่านไปผ่านมาเฉียดเบียดข้างกายเธอ เหงื่อที่มือผุดเม็ดออกมาจนเปียกชื้น แผ่นหลังเปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ไหลเป็นทางจนเปียกแฉะ เสียงหวานของพี่แจนประชาสัมพันธ์ผ่านไมค์เริ่มแผ่วเบาภายในหู เสียงรอบข้างเริ่มค่อย ๆ แผ่วลง แต่มีเสียงอู้อี้วี้ดดังขึ้นในหู ภาพนักเรียนเข้าแถวภายหน้ากลายเป็นภาพซ้อน ที่เพิ่มจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า ลมหายใจถี่ รู้สึกเหมือนหายใจเข้าไม่ถึงปอด“ป๊อบ !” เสียงแหลมเล็กเรียกดังลั่น นี่น่าจะเป็นเสียงเดียวที่เธอได้ยินในตอนนี้ตุ้บ !“ป๊อบ เป็นไร ลุกขึ้นก่อน ๆ” ท่อนแขนเล็กเรียวประคองแผ่นหลังเธอ ขึ้นมาจากพื้นดินกรุ่นฝุ่น ผู้คนกรู่เข้ามามุงดู เธอยังคงรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ใน
ตึ้ง ~ ตึ้ง ~“ป๊อบ ! เสร็จยังลูก กานต์มารอหน้าบ้านแล้วนะ”“เสร็จแล้วแม่ หนูจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ”สาวน้อยเยื้องย่างลากกายเล็กลงมาจากชั้นสองของบ้าน ด้วยชุดนักเรียนเอี่ยมอ่อง พร้อมกลิ่นละอองน้ำหอม และเครื่องประทินผิวกายกลิ่นฟุ้งทั่วบ้าน“แค่ไปโรงเรียนต้องขนาดนี้ไหมเนี่ย” แม่ยืนเท้าสะเอวซ้ายเอียงคอ มองดูลูกสาวที่ค่อย ๆ เยื้องย่างลงบันได พร้อมส่องกระจกบานเล็กในมือ“แล้ววววววววววว” สาวน้อยเบ้ปากกึ่งยิ้มเบา ๆ เอียงคอรับปฏิกิริยาของผู้เป็นแม่ ที่ได้แต่ยืนยิ้มปริ่มหัวเราะอยู่ผ่านหน้า“เร็วเข้า หนูกานต์มารอนานแล้ว”“เข้าใจแล้วค่ะแม่” สาวน้อยนั่งกับพื้นกระเบื้องเย็น สวมใส่รองเท้านักเรียนสีขาวตรงชั้นต่างระดับหน้าบ้าน ก่อนที่จะลุกเข้ามาในบ้านทั้งที่ใส่รองเท้าแล้ว มือเล็กคว้าหยิบนมจืดสองกล่องชิดกัน ที่แม่วางเอาไว้ให้แล้วเดินออกไป“ไปแล้วนะแม่” พูดจบเธอก็วิ่งแจ้นพ้นตัวบ้าน เหลือเพียงแม่ที่ยืนส่ายหน้าอมยิ้มในความเป็นลูกสาวของเธอ“กานต์รอนานไหม ? ” สาวน้อยเอ่ยถามหนุ่มน้อย ที่ยืนจับสายกระเป๋าบนบ่ากรีดตัวยืดตรงอยู่ตรงหน้า“ไม่นาน กานต์ก็เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง” หนุ่มน้อยยิ้มรับ พร้อมเม็ดเหงื่อที่ไหลเอื







![NightZ [II] DANGER ZENIOR](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)