로그인2 สัปดาห์ผ่านไป
‘ประกาศถึงนักเรียนโรงเรียนวาสอุดมวิทยาทุกคน ในวันพรุ่งนี้ในคาบเรียนที่เจ็ด จะมีการเลือกชุมนุม ณ หอประชุมศิษย์เก่าสัมพันธ์วาสวิทฯ ให้ทุกคนตรวจดูรายชื่อชุมนุมที่สนใจในรายชื่อที่แนบมาให้นี้ สวัสดี // สภานักเรียนวาสอุดมวิทยา’ กานต์เปิดดูข้อความอัตโนมัติ ที่แจ้งเข้ามาในมือถือ พร้อมเพื่อน ๆ ในห้องถึงข่าวแจ้งถึงการเลือกชุมนุม เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นทันที เมื่อทุกคนได้อ่านข้อความดังกล่าว “มีแต่ชุมนุมที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย” “นั่นดิ เลือกอะไรดี” “บอล มึงจะเลือกชุมนุมไรวะ” “กูว่าจะเลือกว่ายน้ำว่ะ” บอล หนุ่มน้อยที่ดูน่าจะดูแตกเนื้อหนุ่มที่สุดในกลุ่ม ผิวแดงดำแดด กับรูปร่างทรงนักกีฬา สูงใหญ่ ค่อนข้างล่ำเมื่อเทียบกับเด็กมอหนึ่ง “เออ มึงเคยไปเรียนพิเศษมาหนิ ใช่ป้ะ // นายล่ะ แคน” “เราลังเลอะ ว่าจะเลือกแลปวิทย์ฯหรือจินตคณิตดี” แคน หนุ่มน้อยผมหยิกดำ ร่างบางสูงผอม ผิวสีน้ำผึ้ง เอ่ยตอบ ด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย “เราก็คิดเหมือนนายเลย แคน” เซคัล หนุ่มน้อยแว่นหนาเตอะ ตัวเล็กขาวผ่อง ตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้น เพราะน่าจะมีเพื่อนในกลุ่มลงชุมนุมด้วย “นายสองคนก็หนีจากวิทย์ฯคณิตสักหน่อยก็ไม่ได้เลยเนอะ” “ไม่ต้องมองกู กูยังคิดไม่ออก” ไนตัส หนุ่มน้อยรูปร่างสมส่วน หน้าตาคมทรงแขก ตอบกลับด้วยเสียงนิ่ง พลางก้มหน้าเล่นเกมมือถือต่อ อย่างสันโดษ “ส่วนเรา … เราว่าจะไปหนังสั้นอะ กานต์ไปกับเราป้ะ” พีท หนุ่มน้อยช่างพูด ตัวเล็กคล่องแคล่ว ดูกระปรี้กระเปร่า ความมั่นใจสูง เอ่ยชวนกานต์ที่นั่งเหม่อมองหน้าต่างอย่างลำพัง “หึ … เราเหรอ เรายังไม่รู้เลยอะพีท เราน่าจะจะต้องถามป๊อบก่อนอะ” กานต์หันกลับมาตอบด้วยตาเบิกโพลง เพราะกระทันหันที่ต้องตอบ ไม่ได้คิดถึงเรื่องชุมนุมในหัวเลย ‘เออ --- ป๊อบ …’ ทันทีที่นึกชื่อของป๊อบได้ เด็กหนุ่มก็รีบเก็บของเข้ากระเป๋า สะพายหลัง ลุกจากเก้าอี้ เดินเร่งพรวดออกจากวงสนทนา ที่นั่งกันกระจุกอยู่มุมหน้าห้องตรงหน้าต่าง คล้ายกับนึกอะไรออก แล้วต้องทำทันทีในตอนนั้น “กานต์ ! ไปไหนอะ ไม่ไปกินข้าวกับพวกเราเหรอ” เสียงเรียกตามหลัง แต่ก็ไม่ทันเพราะหนุ่มน้อยวิ่งพ้นสายตาก่อนที่ประโยคเอ่ยชวนจะสิ้นสุดลง หนุ่มน้อยเดินเร่งจ้ำอ้าว ผ่านตึกใหญ่หลายตึก ทั้งวิ่งแทรกในบางจังหวะที่ไม่มีผู้คน ในช่วงพักเที่ยงแน่นอนว่า ตามตึกเรียนจะกลายเป็นตึกร้างในชั่วขณะ เพราะนักเรียนส่วนใหญ่จะไปกองกันอยู่ที่เดียว คือโรงอาหาร ‘ก๊อก ๆ ๆ’ เสียงเคาะประตูกระจกถูกเคาะด้วยกระดูกหลังนิ้ว ก่อนจะค่อย ๆ แง้มประตูช้า ๆ เดินย่องก้มหน้าเข้าไป “อ้าว ! ป๊อบไม่อยู่แล้วนี่” กานต์พูดลั่นออกมาคนเดียว “มาหาสาวน้อยเป็นลมเมื่อเช้าเหรอลูก ออกไปตั้งแต่คาบแรกแล้วนะ” ครูนิสา เลื่อนแว่นตาขึ้นมาสวม ก่อนจะเอยบอกกับเด็กหนุ่มที่ยืนมองเตียงเปล่า “ครับ … ครู ขอบคุณครับ” หนุ่มน้อยก้มไหว้ครูที่นั่งอยู่ แล้วเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “อ้าวกานต์ ! ไม่ไปกินข้าวเหรอ” “ไงข้าวฟ่าง เอ่อ… กำลังไปน่ะ … ว่าแต่ฟ่างเห็นป๊อบไหมอะ” “ป๊อบอยู่โรงอาหารน่ะ เพิ่งเดินสวนกันเมื่อกี๊นี่เอง” “โอเค ขอบคุณนะ” “ว่าแต่ … ใครน่ะ” หนุ่มน้อยกระซิบถามยักหน้าไปข้างหลังเธอ “อ๋อ --- พี่น่ะ” สาวน้อยหันมองหนุ่มหล่อรุ่นพี่ ที่ถือกระเป๋าให้ ก่อนตอบกลับด้วยสีหน้าเชิงผู้ชนะ “โอเค เจอกันนะ” “เจอกัน” หนุ่มน้อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดส่งข้อความหาสาวน้อย ‘ป๊อบอยู่ไหน กินข้าวยัง ?’ ทันทีที่กดส่ง ก็มีข้อความตอบกลับในทันที ‘ป๊อบอยู่โรงอาหารกับเจส กานต์นั่งไหน’ ‘กานต์ยังไม่กิน เดี๋ยวไปหานะ’ หนุ่มน้อยปิดหน้าจอ ยัดลงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเร่งฝีเท้ามุ่งไปโรงอาหารทันที ณ โรงอาหาร ผู้คนนับพันเดินวุ่นเบียดเสียดกันล้นออกมาข้างนอก รวมถึงคิวแลกคูปองแลกซื้อก็ยาวเหยียดล้นมาที่ถนน หนุ่มน้อยพอจะรู้เงื่อนไขของการซื้ออาหารที่นี่ดี เพียงแต่โรงอาหารสำหรับเด็กเล็กไม่วุ่นวายเต็มไปด้วยผู้คนมากขนาดนี้ จึงเดินไปต่อแถวทันที เพื่อที่จะแลกคูปอง “น้องคะ พี่ฝากแลกหน่อยได้ไหม” สาวสวยชุดมอปลายสูงขาวผ่องจัดฟัน ยื่นเงินใบร้อยให้เขา “คะ … ครับ” หนุ่มน้อยมองเห็นคนข้างหน้า ที่มีเพื่อนฝากแลกเหมือนกัน “พี่เอาเท่าไหร่ครับ” “แปดสิบบาท … มึงเอาด้วยป้ะ” รุ่นพี่สาวหันถามเพื่อนที่ยืนรอในร่ม “เอา ๆ” “เอาร้อยหกสิบน้อง” พร้อมยื่นเงินใบร้อยให้อีกใบ “ขอบคุณนะสุดหล่อ ถ้ามีโอกาสตอบแทน พี่จะให้เป็นแฟน” รุ่นพี่สาวยิ้มให้อย่างสดใส ก่อนจะหันไปหัวเราะกับเพื่อนสาวในร่ม ที่ทรงบุคลิกแทบจะเหมือนกันทุกจุด ‘นี่คงเป็นธรรมเนียมปกติที่ต้องเรียนรู้ในชีวิตมัธยมสินะ ที่เราต้องรู้ไว้ มันเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับเรา’ หนุ่มน้อยคิดในใจ ก่อนจะเดินก้าวอีกก้าว เพื่อตามแถวทันกริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงง ~ เสียงสัญญาณดังลั่นทั่วโรงเรียน เป็นเสียงสัญญาณที่บอกว่าวันทั้งวันที่เหน็ดเหนื่อยนี้ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขอให้พวกเจ้ากลับไปใช้ชีวิตต่อที่บ้านนะ หนุ่มน้อยเดินรั้งท้ายกลุ่มคู่กับเพื่อนเนิร์ดแว่น ที่กระเป๋าสะพายหลังแอ่น ปลายทางคือหน้าโรงเรียน ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยร้านขายของกิน เต็มแน่นทั่วทางเท้า ในช่วงหลังเลิกเรียน สิ่งที่นักเรียนใฝ่หามากกว่าการได้กลับบ้านคือของกิน การเรียนทั้งวัน โดยมีอาหารตกถึงท้องแค่ตอนเที่ยงกับช่วงเปลี่ยนคาบ ที่แอบแวะร้านค้าโรงเรียน ไม่เพียงพอต่อความต้องการเลยสักนิด การได้กินของอร่อย ๆ หลังเลิกเรียนนับเป็นสิ่งวิเศษสุด ๆ แล้วในแต่ละวัน “เอาลูกชิ้นหกไม้ครับ” บอลชะโงกหน้า สั่งแม่ค้าที่ง่วนอยู่กับออเดอร์ก่อนหน้า “ไม่ไปกินน้ำปั่นร้านลุงใจดีกับเราจริงดิ” พีทออดอ้อนกอดแขนล่ำสูงของบอล “โทษทีว่ะเพื่อน กูต้องไปซ้อมว่ายน้ำอะ” “มึงจะว่ายน้ำไปตลอดชีวิตเลยเหรอวะ” “ว่ายน้ำน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่กูทำได้ดีที่สุดว่ะ” “เออนะ ตั้งแต่เริ่มเรียนว่ายน้ำด้วยกันมาตอนปอหนึ่ง มึ
2 สัปดาห์ผ่านไป‘ประกาศถึงนักเรียนโรงเรียนวาสอุดมวิทยาทุกคน ในวันพรุ่งนี้ในคาบเรียนที่เจ็ด จะมีการเลือกชุมนุม ณ หอประชุมศิษย์เก่าสัมพันธ์วาสวิทฯ ให้ทุกคนตรวจดูรายชื่อชุมนุมที่สนใจในรายชื่อที่แนบมาให้นี้ สวัสดี // สภานักเรียนวาสอุดมวิทยา’กานต์เปิดดูข้อความอัตโนมัติ ที่แจ้งเข้ามาในมือถือ พร้อมเพื่อน ๆ ในห้องถึงข่าวแจ้งถึงการเลือกชุมนุม เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นทันที เมื่อทุกคนได้อ่านข้อความดังกล่าว“มีแต่ชุมนุมที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย”“นั่นดิ เลือกอะไรดี”“บอล มึงจะเลือกชุมนุมไรวะ”“กูว่าจะเลือกว่ายน้ำว่ะ” บอล หนุ่มน้อยที่ดูน่าจะดูแตกเนื้อหนุ่มที่สุดในกลุ่ม ผิวแดงดำแดด กับรูปร่างทรงนักกีฬา สูงใหญ่ ค่อนข้างล่ำเมื่อเทียบกับเด็กมอหนึ่ง“เออ มึงเคยไปเรียนพิเศษมาหนิ ใช่ป้ะ // นายล่ะ แคน”“เราลังเลอะ ว่าจะเลือกแลปวิทย์ฯหรือจินตคณิตดี” แคน หนุ่มน้อยผมหยิกดำ ร่างบางสูงผอม ผิวสีน้ำผึ้ง เอ่ยตอบ ด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย“เราก็คิดเหมือนนายเลย แคน” เซคัล หนุ่มน้อยแว่นหนาเตอะ ตัวเล็กขาวผ่อง ตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้น เพราะน่าจะมีเพื่อนในกลุ่มลงชุมนุมด้วย“นายสองคนก็หนีจากวิทย์ฯคณิตสักหน่อยก็ไม่ได้เลยเนอ
“ไม่ปล่อย บอกมาก่อนว่าชื่ออะไร”“อ๋อ...ปานใจ” ชายหนุ่มอ่านชื่อบนหน้าอกของเธอ“งั้นพี่เรียกเรียกน้องปานใจนะ”“หนูชื่อเจสซี่ค่ะพี่ อยู่มอหนึ่งห้องแปด” เสียงแหลมแจ๋วพูดโทนสองสามสี่ แทรกขึ้นพร้อมชะโงกหน้าคั่นผู้สนทนาทั้งสอง“น้องปานใจกำลังหลบเรียนเหรอคะ ?” ชายหนุ่มผลักหน้าเจสออกจากเรดาร์ เอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงหวานปนสายตาเจ้าเล่ห์“ไม่ได้หลบค่ะ กำลังเข้าเรียน” สาวน้อยตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะอยากคุยด้วย“หลบแหละพี่ว่า --- พี่ควรจะบอกครูดาหวันไหมนะ” ชายหนุ่มมองชะเง้อเข้าไปในห้อง ที่ครูกำลังพูดคุยกับนักเรียนอยู่“หนูว่าพี่ควรปล่อยแขนหนูก่อนค่ะ” สาวน้อยมองส่งสัญญาณมาที่แขน ที่ชายหนุ่มกำลังกำแน่น“อ่า --- พี่ลืม โอเค ปล่อยแล้ว” ชายหนุ่มยกมือขึ้นข้างตัว‘เดชผล ปานใจ’ เสียงครูเรียกเช็กชื่อในห้องดังลอดออกมาข้างนอก‘น่าจะหลบค่ะครู’ สาวน้อยผมหยิกหน้าห้องตอบกลับ และครูก็กำลังวางปากกาลงกระดาษที่ถืออยู่ในมือ เพื่อเช็กชื่อขาด“ครูครับ น้องปานใจอยู่นี่ครับ” ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงดัง ทำเอาคนทั้งห้องมองหันมายังต้นเสียงสาวน้อยเบิ่งตาโตเต็มไปด้วยสีหน้าตกใจ หันหน้าหนีจากกลุ่มเพื่อน ที่พยายามชะโงกหน้าผ่านช
กริ้ง ~ สิ้นเสียงสัญญาณเข้าห้องเรียนในคาบแรก หนุ่มน้อยรีบเบิ่งพรวดเข้ามาในห้องพยาบาล มองควานหาสาวน้อย จนพบร่างเล็กน้อยห่มผ้าคลุมโปงอยู่สุดห้อง“ป๊อบ เป็นไงบ้าง”“ป๊อบดีขึ้นแล้วกานต์ --- กานต์มาทำไม ทำไมไม่ไปเรียน”“กานต์กำลังจะไปเรียนแล้ว คาบแรกวิชาสุขศึกษาน่ะ ห้องข้าง ๆ นี่เอง”“อ่อ”“ว่าแต่ป๊อบห่มผ้าทำไมน่ะ หนาวเหรอ”“นิดหน่อยน่ะกานต์”“แต่ ... ป๊อบเหงื่อชุ่มเลยนะ” หนุ่มน้อยก้มลงปาดเหงื่อข้างขมับของสาวน้อย“เอิ่ม ... ป๊อบเพิ่งกินยาไป สงสัยยากำลังออกฤทธิ์ กานต์ไปเรียนเถอะ ป๊อบอยู่คนเดียวได้”หนุ่มน้อยมองออกกลับมาหน้าห้อง ที่มีกระจกใสบานใหญ่กั้น“โอเค งั้นกานต์ไปเรียนแล้วนะ ถ้ามีอะไรให้กานต์ช่วยบอกได้เลยนะ”“โอเค”หนุ่มน้อยเดินออกจากห้องจนลับสายตา สาวน้อยสาดตามองจนสุดสาย ก่อนจะถีบผ้าห่มหนาพ้นตัวสาวน้อยครุ่นคิดว่าจะออกไปเรียนดีไหม ในเมื่อตอนนี้อาการก็ปกติดีที่สุดแล้ว หรือจะนอนเป็นผักอบร้อนคนเดียวในนี้ คิดไปคิดมามันก็เหงาอยู่ไม่น้อย ที่ต้องอยู่คนเดียวในห้องที่มีเตียงว่างเรียงรายนับสิบ จนเกิดความคิดในหัวว่า ‘วันนี้ไม่มีใครป่วยเลยหรือไงนะ’เพียงไม่นานเมื่อสิ้นความคิด เสียงเปิดประตูที่เ
สาวน้อยมองซ้ายมองขวา หาเพื่อนร่วมห้องที่น่าจะคุ้นตาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เจอ มีเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ผ่านเธอไปอย่างมีจุดหมาย ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะวันที่ครูให้แนะนำตัว เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตา เธอจึงแทบจะจำหน้าใครในห้องไม่ได้เลย และในตอนนี้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูก ครั้นจะเดินไปขอเข้าแถวกับกานต์ก็คงไม่ถูก จะเดินผ่านสายตาที่มองแบบเด่น ๆ ไปเดาหัวแถวข้างหน้าก็กลัวจะหน้าแตกเธอยืนงกงงท่ามกลางผู้คนผ่านไปผ่านมาเฉียดเบียดข้างกายเธอ เหงื่อที่มือผุดเม็ดออกมาจนเปียกชื้น แผ่นหลังเปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ไหลเป็นทางจนเปียกแฉะ เสียงหวานของพี่แจนประชาสัมพันธ์ผ่านไมค์เริ่มแผ่วเบาภายในหู เสียงรอบข้างเริ่มค่อย ๆ แผ่วลง แต่มีเสียงอู้อี้วี้ดดังขึ้นในหู ภาพนักเรียนเข้าแถวภายหน้ากลายเป็นภาพซ้อน ที่เพิ่มจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า ลมหายใจถี่ รู้สึกเหมือนหายใจเข้าไม่ถึงปอด“ป๊อบ !” เสียงแหลมเล็กเรียกดังลั่น นี่น่าจะเป็นเสียงเดียวที่เธอได้ยินในตอนนี้ตุ้บ !“ป๊อบ เป็นไร ลุกขึ้นก่อน ๆ” ท่อนแขนเล็กเรียวประคองแผ่นหลังเธอ ขึ้นมาจากพื้นดินกรุ่นฝุ่น ผู้คนกรู่เข้ามามุงดู เธอยังคงรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ใน
ตึ้ง ~ ตึ้ง ~“ป๊อบ ! เสร็จยังลูก กานต์มารอหน้าบ้านแล้วนะ”“เสร็จแล้วแม่ หนูจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ”สาวน้อยเยื้องย่างลากกายเล็กลงมาจากชั้นสองของบ้าน ด้วยชุดนักเรียนเอี่ยมอ่อง พร้อมกลิ่นละอองน้ำหอม และเครื่องประทินผิวกายกลิ่นฟุ้งทั่วบ้าน“แค่ไปโรงเรียนต้องขนาดนี้ไหมเนี่ย” แม่ยืนเท้าสะเอวซ้ายเอียงคอ มองดูลูกสาวที่ค่อย ๆ เยื้องย่างลงบันได พร้อมส่องกระจกบานเล็กในมือ“แล้ววววววววววว” สาวน้อยเบ้ปากกึ่งยิ้มเบา ๆ เอียงคอรับปฏิกิริยาของผู้เป็นแม่ ที่ได้แต่ยืนยิ้มปริ่มหัวเราะอยู่ผ่านหน้า“เร็วเข้า หนูกานต์มารอนานแล้ว”“เข้าใจแล้วค่ะแม่” สาวน้อยนั่งกับพื้นกระเบื้องเย็น สวมใส่รองเท้านักเรียนสีขาวตรงชั้นต่างระดับหน้าบ้าน ก่อนที่จะลุกเข้ามาในบ้านทั้งที่ใส่รองเท้าแล้ว มือเล็กคว้าหยิบนมจืดสองกล่องชิดกัน ที่แม่วางเอาไว้ให้แล้วเดินออกไป“ไปแล้วนะแม่” พูดจบเธอก็วิ่งแจ้นพ้นตัวบ้าน เหลือเพียงแม่ที่ยืนส่ายหน้าอมยิ้มในความเป็นลูกสาวของเธอ“กานต์รอนานไหม ? ” สาวน้อยเอ่ยถามหนุ่มน้อย ที่ยืนจับสายกระเป๋าบนบ่ากรีดตัวยืดตรงอยู่ตรงหน้า“ไม่นาน กานต์ก็เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง” หนุ่มน้อยยิ้มรับ พร้อมเม็ดเหงื่อที่ไหลเอื







