Share

#26 ผู้ถูกสังเวย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-20 17:39:15

ทะเลยามรุ่งอรุณนั้นเงียบอย่างผิดปกติ

เสียงคลื่นซัดฝั่งแผ่วลงจนเหมือนโลกหยุดหายใจ — และเมืองดาร์กวาเรนที่ครั้งหนึ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ บัดนี้เงียบงันดั่งสุสาน

อีธานยืนอยู่กลางลาน ข้างนีร่า ไอล่า และมาริเบล

พวกเขายืนเงียบเหมือนนักโทษที่เพิ่งรู้ว่า "กำแพงรอบตัวไม่ใช่กำแพง" — แต่คือเนื้อของสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็น

นีร่าหลุบตามองผิวแตกร้าวบนแขนตนเองที่เริ่มแตกกระจายเป็นลวดลายแห้งกรังอีกครั้ง

น้ำทะเลเมื่อคืนหล่อเลี้ยงเธอได้เพียงครู่... ตอนนี้ผิวเริ่มร่วงหล่นอีกหน

เธอไม่พูดอะไร... เพราะทุกคนรู้แล้วว่าต้องหนี

แต่หนีไปไหน?

จนกระทั่ง...

“เรือ!”

เสียงของไอล่าเบา แต่เฉียบคมเหมือนใบมีด

ทุกคนหันขวับไปที่ขอบผาเบื้องหน้า — ที่นั่น

ฝ่าหมอกยามเช้าบางเบา มีเรือขนาดกลางลำหนึ่ง

แล่นตรงมาอย่างเชื่องช้า

ธงบนหัวเสากระพือในลม — เป็นสัญลักษณ์ที่อีธานจำได้

… นั่นเรือของมนุษย์” เขาพึมพำ

ทันทีที่เรือเข้าเทียบท่า...

กลุ่มชายชุดเกราะสีเข้มกระโดดลงมาพร้อมอาวุธครบมือ

ท่าทางเคร่งขรึม แต่ไม่ใช่เพื่อสู้รบ — แต่เพื่อภารกิจที่เงียบงันยิ่งกว่า

หัวหน้ากลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีดำขลิบทอง

ผิวเข้มจากแดดดินแดนไกล และดวงตาสีเทานิ่งเฉียบ

“ท่านคือ...?” มาริเบลถามอย่างระวัง

ชายคนนั้นปรายตามองเธอ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคลื่นที่กัดเซาะฝั่งทุกคืน

“ข้า... เป็นทหารที่เมืองเวย์มาร์ท”

> “มันไม่ใช่เมือง มันคือสิ่งมีชีวิตโบราณที่มนุษย์เคยบูชา —

แต่เมื่อเราเลิกเซ่นสังเวย มันเริ่มหลอกล่อ...

ด้วยเสียงหัวเราะ แสงไฟ และคำเชื้อเชิญจากบางสิ่งที่เลียนแบบเรา”

> “มันล่อลวงนักเดินทาง กลุ่มเล็ก ๆ ทีละกลุ่ม

แล้วกินพวกเขา ด้วยวิธีที่อ่อนโยนที่สุด —

ทำให้พวกเขารู้สึก ‘อบอุ่นและปลอดภัย’ ก่อนตาย”

นีร่ายืนนิ่ง

น้ำตาไม่ได้ไหล แต่ความเย็นแล่นไปทั่วกระดูก

เพราะเธอรู้ดี...

ความอบอุ่นที่เธอรู้สึกในแสงไฟ ความเอื้อเฟื้อของผู้คน — มันคือ “การย่อย”

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่ใช่คนกลุ่มแรกที่ติดอยู่ที่นี่” ชายชุดคลุมกล่าว

“แต่โชคดี... เจ้าทำให้มันหลับก่อนจะกลืนเจ้าทั้งหมด”

ไอล่าถามเสียงแผ่ว “เราสังหารมันแล้วหรือ?”

ชายผู้นั้นส่ายหน้า

“ไม่ได้สังหาร... มันหลับ เพราะอิ่มจากผู้มาก่อนเจ้า”

อีธานหันมองหญิงขายแอปเปิลคนนั้นอีกครั้ง — ยังยืนนิ่ง มือค้างในอากาศ ปากอ้าเล็กน้อย ไม่มีลมหายใจ

เขากลืนน้ำลายลงยากยิ่งกว่าสิ่งใด

การเดินทางกลับ

กลุ่มของอีธานถูกเชิญขึ้นเรือ

นีร่านั่งเงียบอยู่ท้ายลำ เธอเอามือจุ่มลงในน้ำทะเลเงียบ ๆ

ผิวที่แห้งกรังค่อย ๆ กลับมาเนียนนุ่มราวละอองคลื่น —

แต่ลึกในใจเธอ กลับไม่แน่ใจว่า “ควรกลับไปอยู่ใต้ทะเล” หรือ “อยู่อย่างเจ็บปวดบนแผ่นดิน”

อีธานนั่งข้างเธอ แต่อยู่ห่างพอสมควร

เขาเหลือบมองเธอเหมือนมีบางสิ่งคาอยู่ในอก แต่ยังไม่กล้าพูด

ชายชุดคลุมยืนประจำท้ายเรือ มองหมอกที่ค่อย ๆ ปิดคลุมดาร์กวาเรนไว้เบื้องหลัง

เขาเอ่ยประโยคสุดท้ายเบา ๆ กับอีธาน

“หากเจ้ารู้สึกว่าที่นั่นเหมือนฝัน... ก็จงขอบคุณที่มันจบลงแล้ว”

ทันทีที่ขึ้นจากท่าเรือ

พวกเขาพบถนนปูหินสะอาดตา

สองข้างทางประดับด้วยโคมทองคำ

มีทหารสวมเสื้อเกราะปักตราโล่และมังกรเฝ้าทางอย่างเป็นระเบียบ

แต่นีร่ารู้... กลิ่นของที่นี่ไม่เหมือนลมทะเล

มันไม่มีไอเกลือ ไม่มีละอองชีวิตจากคลื่น —

มีแต่ “กลิ่นของโลกมนุษย์” ที่จัดแต่งให้ดูอ่อนโยน

คำเชิญจากราชวัง

“ท่านทั้งหลาย”

เสียงของอัศวินหนุ่มในชุดคลุมสีเงินทักขึ้น

“เจ้าชายเฟอเรสแห่งเวย์มาร์ท รับทราบการเดินทางของท่าน และประสงค์จะต้อนรับทุกคนด้วยอาหารค่ำในคืนนี้ ณ พระราชวัง”

อีธานหันมองเพื่อนทุกคน —

ไอล่าพยักหน้าเงียบ ๆ ส่วนมาริเบลนั้นขมวดคิ้วอย่างลังเล

นีร่าไม่ได้พูดอะไร

แต่ลึกในตาเธอมีแววระแวง... เหมือนเสียงเกลียวคลื่นที่กระซิบเบื้องหลัง

ค่ำคืนใต้แสงเทียน

พระราชวังเวย์มาร์ทตั้งอยู่บนเนินเขาสูง

โถงรับรองถูกแต่งด้วยผ้าม่านสีทอง ขลิบแดง

แชนเดอเลียร์คริสตัลส่องประกาย

แสงเทียนนับพันสะท้อนบนผนังหินอ่อน

เหมือนแสงจากผิวน้ำ แต่แช่แข็งไว้ในเวลา

พวกเขาถูกเชิญนั่งบนโต๊ะยาว

กับอาหารอันประณีต — เนื้อย่างหอมฉุย ไวน์สีแดงราวโลหิต

และเสียงดนตรีแผ่วเบาในพื้นหลัง

จากปลายห้อง ร่างสูงสง่างามของเจ้าชายปรากฏ

เจ้าชายเฟอเรส — ชุดคลุมสีดำสนิท ตัดกับผิวขาวซีด และดวงตาสีอำพันที่มองทุกคนเหมือนอ่านหนังสือ

“พวกเจ้าคือผู้รอดจาก... ดาร์กวาเรนสินะ” เขาพูดช้า ๆ แต่นุ่มนวล

อีธานพยักหน้าอย่างระวัง

นีร่าขยับตัวเล็กน้อย แผ่นหลังตึง... เธอสัมผัสได้ว่าชายผู้นี้ “รู้มากกว่าที่ควร”

การเต้นรำที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย

หลังอาหารจบลง

เสียงดนตรีเปลี่ยนเป็นจังหวะช้า ๆ

พื้นหินเริ่มวาวราวกับน้ำ กลายเป็นลานเต้นรำที่แปลกประหลาด

“มาเถิด” เจ้าชายเฟอเรสยื่นมือเชิญนีร่า

เธอลังเล

แต่ก้าวออกไป — ขณะเท้าแตะพื้น เธอรู้สึกว่าผิวน้ำใต้ฝ่าเท้าขยับได้

“นี่ไม่ใช่แค่หิน...” เธอกระซิบ

เฟอเรสยิ้ม “เจ้าสัมผัสได้เร็วดี ข้าชอบผู้ที่ตื่นไว”

เขาโน้มตัวลงกระซิบใกล้หูเธอ

“ที่เจ้ารอดมาได้จากเกาะนั้น... ไม่ใช่เพราะมันปล่อยเจ้ามา”

“แต่มันส่งเจ้ามา เพื่อกลับบ้าน...ที่แท้จริง”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #33 ผู้คุมกฏเเห่งทะเล

    เสียงดาบชนดาบ ปะทะกับคำสาปและพลังโบราณท้องฟ้าถูกฉีกเป็นสองขั้วแสงและเงาผสานกันในสมรภูมิครั้งนี้“สงครามแห่งสองโลก…เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอีธานกับนีร่าและมาริเบล รวมถึงไอล่า ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเล็ก ๆ ริมผาเสียงคลื่นกระทบโขดหินเป็นจังหวะช้า ๆ คล้ายกล่อมให้ใจเย็นลงนีร่านั่งลงบนโขดหินขรุขระ มือยังสั่นจากพลังที่ไหลเวียนในตัวผิวเกล็ดเงินยังส่องแสงริบหรี่ในความมืด“ข้าไม่เคยรู้ว่าพลังนี้จะรุนแรงขนาดนี้...” เธอพูดเสียงเบา“ทุกครั้งที่ใช้...มันเหมือนข้ากำลังสูญเสียตัวเองไปทีละน้อย”อีธานนั่งลงข้าง ๆ“ข้าเข้าใจดี...แต่เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว”เขาวางมือทาบลงบนมือของนีร่า“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”มาริเบลเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูด“พี่สาว...เรากลัวนะ กลัวว่าเจ้าอาจเปลี่ยนไปจนเราจำไม่ได้”นีร่าหันไปมองน้องสาวด้วยสายตาอบอุ่น“ข้าเองก็กลัว...กลัวว่าจะกลายเป็นสิ่งที่ข้ากลัวที่สุด”ไอล่ายืนเงียบ ๆ ข้างหลัง ก่อนพูดขึ้น“แต่ข้ารู้ว่า...พลังที่เจ้าได้รับ ไม่ใช่คำสาปอย่างเดียว มันคือโอกาส”“โอกาสอะไร?” อีธานถามด้วยความสงสัย“โอกาสที่จ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #32 ผู้ที่ตื่นจากการหลับไหล

    ขณะเดียวกัน แบร์กตันยืนอยู่หน้าชายฝั่งเขาโยนหินก้อนหนึ่งลงทะเล ไม่กี่วินาทีต่อมา ฟองน้ำจำนวนมากผุดขึ้นและสายลมเย็นผิดธรรมชาติก็พัดมา เขาหัวเราะแผ่วเบา“ข้าไม่ต้องการทองคำอีกแล้ว”“ข้าอยากเป็น...สิ่งที่ไม่มีวันตาย ใต้ท้องทะเล…” คืนแรม...ลมเย็นจนทะลุผิวกระดูกบนฝั่ง ม่านหมอกบาง ๆ คลุมผืนทรายราวผ้าขาวคลุมศพอีธานสะดุ้งตื่นเสียงอะไรบางอย่างดังจากริมหาดแอ่ด...เสียงโซ่ครูดพื้นหินเสียงหายใจลึกเหมือนจากปอดของสัตว์ที่ไม่เคยหายใจบนบกเขาคว้าดาบทันที“นีร่า?”ไม่มีเสียงตอบเขาวิ่งออกมานอกถ้ำและภาพตรงหน้าทำให้หัวใจเขาชะงักกลางหมอกหนามีเงาร่าง 3–4 ตน สูงโปร่ง ผิวซีดเหมือนเปลือกหอยพวกมันเดินช้า ๆ บนทรายเสียงก้าวแต่ละก้าวลากเหมือนขาไม่มีพละกำลังแต่ในดวงตา — ไม่มีแววชีวิตใด ๆพวกมัน...ไม่ใช่เงือกธรรมดา เงือกพวกนี้มีรอยเย็บตามข้อมือเหมือนถูกฝังและเย็บปิดปากกว้างกว่าปกติ และเต็มไปด้วยฟันแหลมที่ไม่ควรอยู่ในร่างเงือกอีธานก้าวถอยหลังอย่างเงียบเชียบ แล้วทันใดนั้น — พวกมันหันขวับมาทางเขา“เราต้องหนี!” เขาตะโกนวิ่งกลับเข้าถ้ำไอล่า กับมาริเบลลุกขึ้นคว้าอาวุธ“เกิดอะไรขึ้น?”“พวกมัน...ขึ้

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #31 เงาสะท้อนของสายเลือด

    ภายในคือห้องกลวงขนาดใหญ่มีแคปซูลแก้วโบราณเจ็ดใบเรียงอยู่กลางห้องภายใน…คือร่างของเงือกอีกเจ็ดตน — ที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับ กึ่งตื่นร่างพวกมันไม่เน่า ไม่ชรามีร่องรอยการดัดแปลงร่างกายคล้ายกับนีร่า แต่รุนแรงกว่าหลายเท่าเสียงในหัวเธอดังขึ้นอีกครั้ง“เลือดของเจ้า…คือสิ่งสุดท้ายที่ขาดไป”“พวกเรา...จะตื่นอีกครั้ง”นีร่าก้าวถอยหัวใจเธอเต้นแรงคำถามคือ…เธอควรจะ “ปลุก” พวกนี้จริง ๆ หรือไม่?เสียงก้องในหัวของเธอเบาลง จนเหลือเพียงคำเดียว “...เลือก...”เสียงจากใต้ทะเลเงียบลงนีร่าค่อย ๆ ว่ายออกจากห้องโบราณที่ฝังอยู่ใต้ผืนน้ำหัวใจยังเต้นแรง…แต่ครั้งนี้เป็นเพราะความหวั่นไหว ไม่ใช่ความกลัวในหัวเธอมีคำถามเต็มไปหมด"พวกเขาคือเผ่าพันธุ์ของข้า...หรือคือฝันร้ายของข้า?""ข้าควรปลุกพวกเขาไหม...หรือปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นตายไปตามกาลเวลา?"เธอไม่ได้ให้คำตอบเธอเลือกที่จะ "ปิดประตู" นั้น…ชั่วคราวเมื่อกลับขึ้นฝั่งอีธานรีบวิ่งเข้ามาหาเธอทันที“เจ้าโอเคไหม!?”นีร่าพยักหน้าเบา ๆ แต่แววตาเธอยังว่างเปล่าเล็กน้อยเหมือนคนที่กลับมาจากการเห็นบางสิ่ง…ที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกนี้เธอไม่พูดถึงห้องนั้นไม่พูดถึงเงือกเจ็ดตน

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #30 เสียงเรียกจากใต้ทะเล

    เสียงดังจากข้างใน มาริเบลวิ่งออกมา พร้อมไอล่า“อย่าเข้าใกล้นาง” ไอล่ากัดฟันแต่ช้าไปแบร์กตันสะบัดมือทหารกลุ่มหนึ่งโผล่จากป่า กระชับปืนหอกทะเลในมือเขาไม่ได้มาคนเดียว... เขาวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น ในกระท่อมนีร่าสะดุ้งตื่น ดวงตาเธอยังแดงเรืองนิด ๆเธอรู้...พลังของเธอเรียกใครบางคนมาเสียงของแบร์กตันดังลอดเข้ามา “นีร่า — ออกมาเถอะ ข้าไม่ใช่ศัตรูของเจ้า ข้าแค่ต้องการให้เจ้าช่วย...แบ่งเลือดของเจ้าให้ข้าสักหยด”“แค่นั้นจริง ๆ ข้าสาบาน”นีร่าลุกขึ้นช้า ๆเธอรู้ดี...เขาโกหกสายตาแบบนั้น แววโลภแบบนั้น — ไม่มีใครหยุดเพียงแค่ “หยดเดียว”นีร่าเดินออกมาเธอยืนต่อหน้ากัปตันแบร์กตันดวงตาเธอยังคงมีลายสีเงินอ่อน แผ่นผิวบนแขนยังเผยเกล็ดบาง ๆ“เจ้ากลัวตายงั้นหรือ?” เธอถามเบา ๆแบร์กตันหัวเราะ“ไม่ใช่กลัว...แค่เบื่อการรอคอยอย่างไม่มีจุดจบ”เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดเรียบ ๆ“ข้าไม่ให้เลือดข้าแก่คนที่เห็นชีวิตเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน”“ข้าเกิดมาเพื่อหยุด...ไม่ใช่ส่งต่อมัน”แบร์กตันขมวดคิ้ว“งั้นข้าจะเอาเลือดเจ้าด้วยตัวข้าเอง”เขาดึงมีดออกจากข้อมือ — และทหารทั้งหมดกรูก้าวหน้าอีธานร้อง “นีร่า อย่า!”แต่สายไ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #29 การเป็นอมตะ

    กลับสู่ปัจจุบันนีร่าผงะออกจากแท่นหิน ดวงตาเธอเปลี่ยนกลับเป็นปกติ แต่น้ำตาไหลอาบแก้ม“ไม่...ข้าไม่อยากเป็นแบบนั้น” เธอกระซิบ “ข้าไม่อยากฆ่าใคร...ไม่อยากกลายเป็นสัตว์ร้าย”อีธานประคองเธอแน่น “เจ้าคือเจ้าคนเดิม นีร่า...เราเลือกทางเดินของตัวเองได้”ชายชราเพียงเงียบ ก่อนเดินไปยังผนังด้านหลัง เขาดึงแผ่นศิลาออก เผยให้เห็น ตราประทับสุดท้าย — รูปเกล็ดเงือกสีเงินไขว้กับเลือดสีแดง“เลือดเจ้าคือประตูสุดท้ายที่จะเปิดพลังของ ‘อาทรามา’”“แต่หากเจ้าปิดมันด้วยตนเอง — เจ้าจะสูญเสียพลังทั้งหมด... กลายเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา”นีร่าก้มหน้าสั่น “ข้าต้องเลือกระหว่าง ‘เป็นตัวข้า’ หรือ ‘เป็นสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้’...”มาริเบลเดินเข้ามาจับมือพี่สาว“ไม่ว่าพี่จะเลือกอะไร ข้าก็จะอยู่กับพี่...จนกว่าจะถึงที่สุด”เสียงจากเบื้องบนเริ่มดังขึ้นอีกครั้งแสงไฟจากตะเกียงและเสียงรองเท้าเหล็กกระทบพื้นหินสะท้อนเข้ามาในอุโมงค์กองทหารของเจ้าชายเฟอเรส...อีธานหันมามองทุกคนเสียงฝีเท้าเริ่มใกล้เข้ามาทหารของเจ้าชายเฟอเรสกำลังเข้าประชิดอุโมงค์ใต้พระราชวัง พวกอีธานไม่มีเวลาอีกแล้วนีร่ายืนหน้าตรงต่อหน้าตราประทับสุดท้ายเธ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #28 อาทรามาผู้ตื่นขึ้นจากการหลับไหล

    บรรยากาศในวิหารใต้ดินเงียบงันจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคนชัดเจนแสงจากลวดลายโบราณบนพื้นค่อย ๆ จางลง ทิ้งไว้เพียงแสงสีน้ำเงินสลัวจากแท่นศิลาเบื้องหน้านีร่ายืนเซเล็กน้อย เธอรู้สึกเหมือนร่างกายเบาหวิว แต่ขณะเดียวกันกลับร้อนรุ่มภายในอีธานพยายามประคองเธอ “เจ้าไหวไหม?”“เหมือนข้า...ได้ยินเสียง...” นีร่ากระซิบ ดวงตาของเธอกำลังเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเรืองแสงจาง ๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัวมาริเบลเบิกตากว้าง “ตาของเจ้า...นีร่า...เหมือนตาของแม่เราในคืนสุดท้าย...”ทันใดนั้นเอง เสียงบางอย่างดังขึ้นจากมุมมืดของวิหารเสียงฝีเท้าเก่าแก่... และเงาหนึ่งปรากฏออกจากหลังเสาหินชายชราผิวซีดในผ้าคลุมสีดำเดินออกมาช้า ๆ ดวงตาเขาขุ่นมัวคล้ายคนมองทะลุอดีตมาหลายร้อยปี“ในที่สุด... นางก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”ทุกคนชะงัก“เจ้าคือใคร?” ไอล่าถาม มือแตะดาบอย่างระวังชายชราไม่ตอบคำถามตรง เขาจ้องนีร่าแน่นิ่งก่อนพูดเสียงแผ่ว “เงือกแห่งคำสาป...เงือกที่ถูกสร้างขึ้นจากเลือดของราชาและคราบเกลือพันปี”นีร่าถอยหลังไปก้าวหนึ่ง หัวใจเธอเต้นแรงจนรู้สึกชาไปทั้งร่าง“ข้า...ไม่เข้าใจ” เธอพูดเบา ๆชายชราก้าวเข้าใกล้แท่นศิลาเขาวางมือลงบนตราสัญลั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status