Share

#58 ผู้คนจากเมือง

last update Last Updated: 2025-08-02 13:14:03

เสียงฝีเท้าดังสวบสาบของไอล่าหยุดลงหน้าประตูไม้ผุบ้านหลังหนึ่งที่ปลายหมู่บ้าน ท่ามกลางแสงยามเย็นสีทองอ่อน เธอยืนมองแผ่นไม้ที่เคยมีตราครอบครัวตรึงอยู่ แต่ตอนนี้เหลือแค่รอยไหม้ดำสนิทเป็นรูปนิ้วมือทั้งห้า

“ที่นี่มันเคย...?” ไอล่าถามเสียงเบา

อีธานพยักหน้า “บ้านของฉันเอง ถูกเผาเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่พวกโจรสลัดบุกมาปล้นครั้งใหญ่”

ไอล่าหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง แล้วก้มหน้าลงช้าๆ “ขอโทษที่ถาม...”

“ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว” เขายิ้มบางๆอย่างฝืน ก่อนหันกลับเดินไปยังลานกลางหมู่บ้าน

ชาวบ้านเริ่มออกมารวมตัวกันหลังเสียงระฆังเตือนภัยเงียบสงบลง เด็กๆ วิ่งเล่นกันตามซอกทางแคบที่ปูด้วยหินเรียงตัวไม่เสมอ ผู้ใหญ่ต่างจับกลุ่มกระซิบกระซาบถึงข่าวลือเรื่องเรือโจรสลัดที่มีครีบปลาแหลมยื่นออกจากใต้ท้องเรือ

“พวกมันไม่ใช่มนุษย์แล้ว...” ชาวประมงแก่คนหนึ่งกระซิบ “ฉันเห็นเองกับตา! มันว่ายอยู่ใต้น้ำ แล้วขึ้นมายืนบนเรือเหมือนผีทะเล!”

“บ้าแล้ว แกเมาเหล้าต่างหาก!” ชาวบ้านอีกคนแย้ง แต่ก็ไม่มีใครหัวเราะตาม ทุกคนสีหน้าหนักเครียด ไม่เหมือนครั้งก่อน

จู่ๆ เสียงเคร้งคร้างของโลหะก็ดังขึ้นที่ชายป่าด้านนอกหมู่บ้าน แล้วมีใครบางคนเดินโผล่ออกมาจากเงาไม้

ร่างสูง ผอมเกร็ง ใส่เสื้อคลุมสีคล้ำยาวจรดพื้น หน้าผากเขามีรอยสักคล้ายสัญลักษณ์เรือหักกลาง เสียงของเขาเหมือนลมทะเลเป่าผ่านท่อสนิม

“ท่านผู้เฒ่าอยู่ไหน... ข้าจะขอเข้าพบ”

ชายคนนั้นชื่อ คอร์ลอส เขาเคยเป็นชาวบ้าน แต่หายตัวไปหลายปีก่อน หลังครอบครัวของเขาถูกปล้นตายเกลี้ยง วันหนึ่งเขากลับมา พร้อมเรื่องเล่าแปลกประหลาดว่ามี ‘ผู้คุมแห่งมหาสมุทร’ คอยชี้ทางให้ผู้แข็งแกร่งได้ครองเกาะทั้งหมด ถ้าพวกเขายอมทิ้งจิตใจเดิมไว้

อีธานเดินออกมาจากกลุ่มคน ดวงตาเยือกเย็นมองตรงไปที่ชายตรงหน้า “นายไม่ควรกลับมา”

คอร์ลอสยิ้มเย็น “ใครบอกล่ะ ฉันกลับมาเพื่อช่วยพวกเจ้า...ให้พ้นจากความกลัวไง”

“เราไม่ต้องการคำแนะนำจากคนที่เคยเผาหมู่บ้านตัวเองเพื่อหนีความจริง”

คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศหม่นลงทันที

คอร์ลอสแค่นหัวเราะในลำคอ ก่อนเดินเข้าไปใกล้อีธานช้าๆ

“เจ้ากล้าพูดแบบนี้...ต่อหน้าผู้ที่เคยเห็นนรกทะเลมาแล้วหรือ? เจ้ากล้าสาบานไหมว่าอีกไม่กี่วัน พวกเราจะไม่ตายทั้งหมดเพราะพวกครึ่งคนครึ่งสัตว์?”

ทุกคนเริ่มกระซิบกันหนักขึ้น บางคนเงยหน้ามองอีธานอย่างไม่แน่ใจ เสียงแห่งความลังเลเริ่มดังขึ้นท่ามกลางหมอกเย็น

แต่แล้ว ไอล่าก็ก้าวออกมา ยืนข้างอีธานอย่างไม่ลังเล เธอพูดช้าๆ แต่หนักแน่น

“บางทีพวกเราควรกลัวมากกว่าคือ พวกคนที่เอาความกลัวมาเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่พวกมันที่มาจากทะเล”

คำพูดนั้นทำให้หลายคนเงียบกริบ แม้แต่คอร์ลอสก็ชะงัก

เขากัดฟันกรอด ก่อนจะถอยห่างไป แล้วพูดทิ้งท้ายไว้ “จะได้เห็น...ว่าเจ้าจะยังพูดแบบนี้ได้อีกไหม...เมื่อเลือดไหลทั่วลานหมู่บ้านนี้...อีกครั้ง”

แล้วเขาก็เดินหายไปในเงามืด

---

อีธานหันมามองไอล่าช้าๆ สีหน้าเขาเปลี่ยนจากโกรธเป็นขอบคุณเพียงแวบเดียว แล้วก็กลืนหายไปกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

“เราต้องเตรียมหมู่บ้านให้พร้อม พวกมันมาแน่” เขาบอกชาวบ้าน แล้วหันกลับไปมองต้นไม้ไกลลิบริมป่า ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีศาลไม้เล็กๆ บูชาเทพแห่งสมดุล...

แต่ตอนนี้ — ศาลนั้นถูกทำลายไปแล้ว เหลือเพียงไม้แตกหัก กับผ้าสีซีดที่ปลิวไปตามลมทะเล

เรือประมงลำเล็กเทียบท่าท่ามกลางความวุ่นวายของท่าเรือเมืองใหญ่อีกฝั่งหนึ่งของแผ่นดิน นีน่ายืนโงนเงนอยู่บนดาดฟ้า มือคว้าขอบไม้เอาไว้แน่น เธอมองฝั่งตรงหน้าด้วยตาเบิกกว้าง — บ้านเรือนปูนผสมไม้สูงสามสี่ชั้นเรียงกันแน่น บางหลังกำแพงมีเถาวัลย์พันเลื้อย บางหลังก็มีป้ายผ้าขึงขายของห้อยระโยงระยาง เสียงคนตะโกนขายของ เสียงล้อเกวียน เสียงฝีเท้ากระทบพื้นหินดังก้องทั่วทั้งถนนสายท่าเรือ

“ที่นี่คือเมืองเซนเทียสินะ?” นีน่าถามเสียงเบา สะพายถุงผ้าบนบ่าอย่างระมัดระวัง

ดรานพยักหน้าช้าๆ เขามองดูฝั่งอย่างระวัง แม้จะเติบโตมาท่ามกลางทะเลและเกาะเล็กๆ แต่ชายหนุ่มก็เคยได้ยินตำนานของเมืองนี้ — เมืองที่เคยรุ่งเรืองด้วยการค้าและมนตร์เก่า ก่อนจะล่มสลายไปบางส่วนเพราะภัยพิบัติเมื่อหลายสิบปีก่อน และเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน

“อย่ามัวยืนตาค้างอยู่เลยนีน่า เดี๋ยวจะโดนชนตกน้ำเอา” ดรานว่า ก่อนจะยื่นมือให้เธอก้าวลงจากเรือ

พอเหยียบฝั่งได้จริงๆ นีน่ารู้สึกเหมือนเท้าไม่ติดพื้น ใจหนึ่งตื่นเต้นที่ได้ออกมาเจอโลกกว้างเสียที แต่อีกใจก็ระแวงระวังไปหมด ผู้คนที่เดินสวนกันแต่งตัวหลากหลาย ทั้งชายหญิงในเสื้อผ้าผ้าหยาบ สีซีด และนักเดินทางสวมเสื้อคลุมปักลายประหลาด

“แล้วเราจะไปไหนต่อดี?” เธอถาม

ดรานชี้ไปยังทางเดินแคบๆ ที่ทอดยาวเข้าไปในตัวเมือง “เราต้องหาที่พักก่อน จากนั้นค่อยหางานทำ หาอาหารกิน แล้วค่อยคิดเรื่องอื่น”

พวกเขาเดินไปตามถนนหินที่ปูขรุขระ ผ่านร้านขายผลไม้แปลกตา ผ่านพ่อค้ากำลังเชือดปลาอย่างคล่องแคล่ว และเด็กๆ ที่วิ่งเล่นพร้อมหัวเราะคิกคัก ในเมืองนี้ทุกอย่างดูมีชีวิต — แตกต่างจากบ้านเกิดริมผาอันเงียบเหงาเหลือเกิน

ไม่นาน ทั้งสองก็เจอห้องเช่าเล็กๆ ที่ชั้นล่างเปิดเป็นร้านซ่อมเรือ ส่วนชั้นบนปล่อยให้เช่าราคาถูก กลิ่นยางไม้และคราบน้ำทะเลอบอวลอยู่ในอากาศ

“มีแค่เตียงเดียว พอไหวมั้ย?” ดรานถามขึ้นมาขณะรับกุญแจจากเจ้าของบ้าน

นีน่าเลิกคิ้ว แต่ก็พยักหน้า “ฉันนอนพื้นก็ได้ นายเหนื่อยมาทั้งคืน”

เสียงหัวเราะของเจ้าของบ้าน — หญิงวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ — ดังขึ้นอย่างอารมณ์ดี “ถ้าไม่ทะเลาะกันตายก่อน ก็น่าจะอยู่ได้หลายคืน”

หลังจากจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อย พวกเขาออกมาเดินสำรวจเมืองอีกครั้งในช่วงบ่าย เมืองเซนเทียเริ่มเผยอีกด้านให้เห็น — ตลาดเวทมนตร์ย่อยๆ ที่ซุกอยู่ในตรอกแคบๆ ผู้ชายในชุดคลุมยาวกำลังจารึกยันต์ลงบนผ้าลินิน หญิงสูงวัยกำลังเป่าขนนกสีฟ้าบางอย่างให้ลอยขึ้นกลางอากาศ

“นายเคยเห็นแบบนี้ไหม?” นีน่าถามพลางโน้มตัวเข้าไปดูใกล้ๆ

ดรานส่ายหัว “เวทพวกนี้หายากในฝั่งบ้านเรา แต่ถ้าหาเงินได้มากพอ บางอย่างอาจมีประโยชน์มาก”

ทั้งคู่เดินผ่านร้านอาหาร ร้านเครื่องหนัง ร้านขายสมุนไพร จนมาหยุดอยู่ที่จุดแสดงดนตรีของนักเร่ร่อนกลุ่มหนึ่ง เสียงพิณหยอกล้อลม เสียงร้องเพลงเก่าของท้องทะเลดังกล่อมผู้คนให้หยุดเดิน นีน่ายืนฟังตาเคลิ้ม ราวกับเรื่องราวจากอีกโลกที่คุ้นเคยกำลังเรียกเธอกลับบ้าน

“เราคงต้องเริ่มต้นจากที่นี่สินะ” เธอกระซิบ

“เริ่มต้นใหม่ และหวังว่าวันหนึ่ง เราจะมีคำตอบว่าทำไมถึงต้องมาอยู่ที่นี่” ดรานพูดเสียงนิ่ง ก่อนจะยื่นผลแอปเปิ้ลที่ซื้อมาสดๆ ให้เธอหนึ่งลูก “กินซะ เราจะได้มีแรงหางานพรุ่งนี้”

นีน่าหัวเราะเบาๆ รับผลไม้มากัดคำเล็กๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #62 กำเนิดราชินีองค์ใหม่

    อุโมงค์หินใต้ดินคดเคี้ยวและแคบจนแทบต้องคลาน รอยสลักเวทมนตร์เรืองแสงสีน้ำเงินริบหรี่เป็นระยะ แสงจากเปลวไฟพกพาทำให้เงาทั้งสามยาวยืดบนผนังเหมือนปีศาจในตำนานคาเอลหอบเบาๆ ขณะคลานตามหลังดราน “อย่าเข้าใจผิดนะ ข้าไม่กลัวที่มืด...แค่ไม่ค่อยถูกกับที่ที่ มีอะไรดุกว่าข้าอยู่ข้างหน้า เท่านั้นเอง”“เงียบหน่อย” ดรานสบถเบาๆ “เสียงสะท้อนมันดังไกลมากที่นี่”“โอเค โอเค ข้าจะเงียบ…หลังจากบอกว่าเข่าข้าไปบี้หอยที่พื้นนี่เข้าแล้วแน่ๆ มันแหลมเหมือนมีความแค้น!”นีร่าอดหัวเราะไม่ได้ “นี่ถ้าติดเกราะเหมือนเงือกที่เมืองใต้น้ำ คงรอดหอยได้ล่ะมั้ง”คาเอลยักคิ้วให้ทั้งคู่ แม้ในความมืด “พวกนั้นเกล็ดหนา ฉันแค่...บางกว่า นุ่มกว่า เรียกได้ว่าเป็นเงือกฉบับขนมปังปิ้ง”ดรานหลุดขำจมูก “เงือกขนมปังปิ้งเนี่ยนะ”“ใช่ และขนมปังปิ้งจะพาคุณรอดจากความตายได้ทันใดนั้น แผ่นหินใต้เท้าพังครืดลง! ทั้งสามร่วงลงไปในโพรงเบื้องล่าง ก่อนจะกระแทกพื้นน้ำตื้นเสียงดัง ซ่า!นีร่าดีดตัวลุกขึ้นก่อน มือลูบน้ำออกจากตา “ทุกคนปลอดภัยไหม!?”“ขาอยู่ แขนอยู่” ดรานคราง“ข้าเจอน้ำ...แล้วก็หอยอีก” คาเอลพูดพลางดีดเปลือกหอยออกจากคอเสื้อ “เอาจริงนะ—ข้าเริ่มคิด

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #61ห้องขังเเห่งคำตัดสิน

    ทางเดินหินแคบเริ่มกว้างออกเป็นโถงใต้ดินสูง เสาแกะสลักเป็นรูปคล้ายสัตว์ทะเลยักษ์เรียงรายอยู่สองข้าง เสียงหยดน้ำสะท้อนก้องคล้ายเสียงหัวใจเต้นช้าๆ ลึกลงไปในพื้นดินคาเอลเดินช้าๆ พิงไหล่นีร่า บางครั้งเขาสะดุดเพราะบาดแผลที่ยังไม่หาย ดรานเดินนำ ถือคบไฟไว้ในมือแต่แล้ว...พรึ่บ!เปลวไฟดับลงกะทันหัน เหลือเพียงความมืดสนิทและลมเย็นเฉียบพัดผ่านเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากรอบทิศ ก่อนที่แสงจากโคมเวทมนตร์สีน้ำเงินจะลอยขึ้นเป็นวงรอบตัวพวกเขา ส่องให้เห็นร่าง บุรุษและสตรีในผ้าคลุมสีเทาอมน้ำเงิน หน้ากากเรียบไร้อารมณ์ ตรงกลางหน้าผากมีเครื่องหมายสลักเป็นเกล็ดปลากลับหัว“หยุดอยู่ตรงนั้น” เสียงหนึ่งกล่าว—ราบเรียบแต่น่าเกรงขามดรานชักดาบ แต่มือแข็งค้างกลางอากาศ ราวกับถูกตรึงไว้ด้วยเวทบางอย่าง นีร่าก้าวไปขวางหน้า“เรามาเพื่อตามหาความจริง ไม่ได้หมายจะทำลายอะไรทั้งนั้น!”ชายผู้สวมหน้ากากยกมือขึ้น—และพื้นใต้เท้าก็เปิดวูบ---ห้องขังใต้โถงพิพากษาแสงเพลิงเย็นสีฟ้าจุดขึ้นตามซอกหิน พวกเขาถูกขังในห้องหินทรงกลม มีประตูเหล็กสูงกว่าเกือบสามเมตร คาถาป้องกันซับซ้อนจนดรานไม่กล้าแตะต้องคาเอลนั่งซบผนัง ดวงตาหลับลงครู่หนึ่ง

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #60 มนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนสภาพ

    หมู่บ้านริมผา – เวลาสองยามเพลิงจากแนวคบไฟถูกจุดขึ้นรอบหมู่บ้าน เสียงเปลวไฟแตกพรึ่บพรับแข่งกับเสียงคลื่นที่เริ่มโหมกระหน่ำ พื้นดินสั่นเล็กๆ จนเด็กเล็กบางคนเริ่มร้องไห้ไอล่าคาดแหลงไว้ข้างเอว เดินตรวจแนวป้องกันกับอีธาน ก่อนหยุดตรงจุดที่น้ำทะเลเริ่มซึมเข้ามา“ครีบพวกมันเร็วขึ้นเรื่อยๆ...” ไอล่าพึมพำเสียงหวีดเบาๆ ดังแทรกอากาศ ราวเสียงไวโอลินขูดสายอย่างไม่ประสาน เสียงนั้นมาจากเรือดำที่ลอยเข้ามาใกล้จนเห็นได้ชัด — ไม่มีคนขับ ไม่มีเสียงฝีพาย แต่ค่อยๆ เคลื่อนเข้าหาฝั่งเหมือนถูกดูดเข้ามาทันใดนั้น เสียงคล้ายแตรเป่า — แต่ทุ้มต่ำและสะท้อนก้องเหมือนเปลือกหอยยักษ์ — ดังขึ้นจากทะเล“พวกมันเริ่มพิธีแล้ว!” อีธานร้อง “ถ้าเราไม่ขัดจังหวะตอนนี้ มันจะเปิดประตูขึ้นมาจริงๆ!”“ประตูที่พวกเงือกเผ่าเก่าเคยผนึกไว้?” ไอล่าขมวดคิ้วอีธานไม่ตอบ แต่วิ่งไปหยิบคันศรประดิษฐ์พิเศษจากศาลาไม้ที่เก็บอาวุธกลางหมู่บ้าน หัวลูกศรทำจากหินสีฟ้า...เป็นของที่นีร่าเคยทิ้งไว้เขาหันไปหาไอล่า “ถ้านีร่ายังอยู่ เธอคงรู้ว่าจะทำยังไง...แต่ตอนนี้เราต้องลองเสี่ยง”ไอล่าหยิบคันธนูขึ้นมา “งั้นยิงไปที่เรือนั่นเลย?”อีธานพยักหน้าฟิ้ว!ลูกศ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #59 เเผนที่

    เปลวไฟจากคบไฟกระพริบสั่นไหวตามแรงลมทะเล ชาวบ้านกำลังช่วยกันกางแผงไม้เสริมแนวป้องกันรอบหมู่บ้าน หลายคนขุดดินทำคูน้ำหรือผูกตาข่ายลวดไว้กับทุ่นลอยตามแนวชายป่าไอล่าใช้มีดเล็กฝนปลายไม้แหลมอยู่ตรงลานหน้าบ้านอีธาน เสียงขูดเบาๆ ฟังแล้วเหมือนเสียงลมหอบ“ข้างศาลนั่น มีอะไรไหม?” เธอถามขณะตัดไม้โดยไม่มองหน้าเขาอีธานเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบ “มีเศษเปลือกหอย...แบบที่ไม่ควรอยู่บนฝั่ง และก็มีสิ่งนี้”เขายื่นชิ้นไม้แตกหักที่มีลวดลายแกะสลักคล้ายเกล็ดปลามนุษย์ บางส่วนถูกเผาจนดำ ไอล่ารับมาแล้วขมวดคิ้ว“นี่เป็นสัญลักษณ์ของเทพแห่งสมดุล” เธอพึมพำ “แต่กลับหัว”“เหมือนมีใครเจตนาให้คำอวยพรกลับกลายเป็นคำสาป” อีธานว่าเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เสียงฝีเท้าเบาๆ จะดังขึ้นจากแนวพุ่มไม้เด็กชายตัวเล็กๆ วิ่งเข้ามาหอบหายใจ หน้าเปื้อนฝุ่นดิน“อีธาน! ข้า...ข้าฝันแปลกๆ”อีธานลุกขึ้นทันที “ฝันอะไร ไค?”เด็กชายชื่อไคส่ายหน้าแล้วพูดเสียงสั่น “มีหญิงคนหนึ่ง...ผมยาวถึงเอว ตัวสีน้ำเงินเหมือนเงาในน้ำ เธอร้องเพลงเรียกข้า บอกให้...บอกให้กลับไปที่ทะเล”ไอล่ากับอีธานสบตากันโดยไม่พูด เด็กชายยังพูดไม่หยุด“ข้าตื่นขึ้นมาเจอน้ำเปียกที่ปลา

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #58 ผู้คนจากเมือง

    เสียงฝีเท้าดังสวบสาบของไอล่าหยุดลงหน้าประตูไม้ผุบ้านหลังหนึ่งที่ปลายหมู่บ้าน ท่ามกลางแสงยามเย็นสีทองอ่อน เธอยืนมองแผ่นไม้ที่เคยมีตราครอบครัวตรึงอยู่ แต่ตอนนี้เหลือแค่รอยไหม้ดำสนิทเป็นรูปนิ้วมือทั้งห้า“ที่นี่มันเคย...?” ไอล่าถามเสียงเบาอีธานพยักหน้า “บ้านของฉันเอง ถูกเผาเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่พวกโจรสลัดบุกมาปล้นครั้งใหญ่”ไอล่าหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง แล้วก้มหน้าลงช้าๆ “ขอโทษที่ถาม...”“ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว” เขายิ้มบางๆอย่างฝืน ก่อนหันกลับเดินไปยังลานกลางหมู่บ้านชาวบ้านเริ่มออกมารวมตัวกันหลังเสียงระฆังเตือนภัยเงียบสงบลง เด็กๆ วิ่งเล่นกันตามซอกทางแคบที่ปูด้วยหินเรียงตัวไม่เสมอ ผู้ใหญ่ต่างจับกลุ่มกระซิบกระซาบถึงข่าวลือเรื่องเรือโจรสลัดที่มีครีบปลาแหลมยื่นออกจากใต้ท้องเรือ“พวกมันไม่ใช่มนุษย์แล้ว...” ชาวประมงแก่คนหนึ่งกระซิบ “ฉันเห็นเองกับตา! มันว่ายอยู่ใต้น้ำ แล้วขึ้นมายืนบนเรือเหมือนผีทะเล!”“บ้าแล้ว แกเมาเหล้าต่างหาก!” ชาวบ้านอีกคนแย้ง แต่ก็ไม่มีใครหัวเราะตาม ทุกคนสีหน้าหนักเครียด ไม่เหมือนครั้งก่อนจู่ๆ เสียงเคร้งคร้างของโลหะก็ดังขึ้นที่ชายป่าด้านนอกหมู่บ้าน แล้วมีใครบางคนเดินโผล่ออกมาจา

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #57 พ่อค้าหาบเร่

    กลางคืนในหมู่บ้านชาวประมงที่พักชั่วคราวของพวกอีธาน ทะเลเบื้องหน้าเงียบสงัด ลมพัดโชยกลิ่นเค็มของเกลือ อีธานนั่งอยู่นิ่ง ๆ ริมฝั่ง จุดไฟไว้ข้างตัว เสียงเปลวไม้แตกดังเบา ๆ เคล้ากับเสียงคลื่นซัดฝั่งที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ“ยังไม่หลับเหรอ?” ไอล่าเดินเข้ามาช้า ๆ ชุดของเธอเปียกน้ำเล็กน้อย ดูเหมือนเพิ่งล้างตัวจากทะเลอีธานหันไปมองแล้วผงกหัวให้ เขาเคลื่อนตัวออกเล็กน้อยเป็นเชิงชวนให้นั่งด้วยกัน “นอนไม่หลับเหมือนกันเหรอ?”“ก็ใช่…” ไอล่าพูดเสียงเบา เธอนั่งลงข้าง ๆ ห่างจากเขานิดหน่อย “วันนี้ทั้งวันมันเงียบแปลก ๆ เหมือนพายุจะมา...แต่พอเงยหน้ามองท้องฟ้า กลับไม่มีเมฆเลย”“พายุที่เราไม่เห็น… มันน่ากลัวกว่าที่เราคิดนะ” อีธานพูดช้า ๆ ดวงตาสะท้อนเปลวไฟ เขาดูนิ่งมากกว่าปกติ“พูดเหมือนนักปรัชญาเลย” ไอล่าหัวเราะนิด ๆ พลางกอดเข่าตัวเอง “นายเคยมีคนรักไหม?”คำถามนั้นทำเอาอีธานชะงักไปครู่หนึ่ง เขาไม่ตอบในทันที ไอล่าเห็นเขาเงียบไปก็ก้มหน้าหลบสายตา รีบพูดกลบเก้อ “เอ่อ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะล้วงอะไรส่วนตัว”“มี…” เขาตอบเบา ๆ แต่ออกมาในโทนเสียงที่อบอุ่นอย่างประหลาด “เธอชื่อ…นีร่า”ไอล่าเงียบไปชั่วครู่ หัวใจเธอรู้ส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status