ตุ๊บ!
“หยีไปทำอะไรให้พี่กันต์ถึงต้องทำกับหยีแบบนี้!” ฉันคว้าหมอนบนเตียงปาใส่เขาแต่มันกลับไม่โดน มันแค่แฉลบขาเขาไปเท่านั้น แต่ใจจริงอยากจะปาหินก้อนใหญ่ ๆ ใส่หัวให้ตายไปเลยด้วยซ้ำ!
“ก็หลายเรื่องนะครับแต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” ฉันเกลียดท่าทางของเขา! เกลียดสีหน้าไม่ยี่หระกับอะไร เกลียดรอยยิ้มบาง ๆ เวลาพูดของเขา!
“เรื่องอะไร เรื่องที่เคยขับรถชนรถพี่กันต์ หรือเรื่องที่บอกให้พี่กันต์ตัดใจจากปั้นหยา เรื่องพวกนี้ใช่ไหมหรือมันยังมีเรื่องอะไรอีก!” คือเรื่องแต่ละเรื่องที่ฉันพูดมามันโคตรเป็นเรื่องที่ไม่น่ามาแก้แค้นกันเลย มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรังแกกันถึงขนาดนี้ มีแค่คนที่โคตรเลวบวกกับความเป็นโรคจิตเท่านั้นที่คิดจะเอาเหตุผลแค่นั้นมาทำร้ายกัน!
“จะมีเรื่องอะไรอีกมันก็เป็นเรื่องของพี่ครับ” ฮะ? ตลก! ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ฉันไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้นฉันเข้าไปทุบหัวเขาแน่ แต่ถึงขาเดินไม่ไปไม่ได้มือฉันมันก็ยังทำอะไรได้!
เพล้ง!
“หยีเป็นคนชอบทำลายข้าวของเหรอครับ?” ฉันอยากทุบหัวเขาแต่ทำไม่ได้ก็เลยเอาไอ้รูปปั้นเซรามิคที่ถือไว้ในมือตั้งแต่แรกปาไปทางเขาแต่คนเลวก็ยังหลบได้ พอหลบแล้วก็หันไปมองรูปปั้นที่มันกระทบกับผนังจนแตกกระจายก็หันมาถามฉันด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มอีกแล้ว!
“ไอ้ชั่ว! นายมันโคตรเลวเลย ไอ้โรคจิต!”
“พี่เพิ่งบอกว่าพี่ไม่ใช่คนดีไปหยก ๆ นี่เนอะ” นอกจากจะไม่สะทกสะท้านไอ้เลวคนนี้ยังกวนประสาทฉันกลับได้อย่างหน้าตาเฉย ร้ายใส ๆ แต่โคตรร้ายลึกเลย
“ไอ้ชั่ว! โคตรชั่วขนาดนี้นายทนใส่หน้ากากเป็นคนดีตลอดเวลาได้ยังไงกัน!”
“ไม่เห็นจะยากเลยนี่ครับ คนทุกคนก็ใส่หน้ากากกันหมดนั่นแหละ หรือว่ายาหยีไม่เคยใส่?”
“ถึงคนทุกคนจะเคยใส่แต่คงไม่หนาเท่าหน้ากากที่นายใส่หรอก!”
“หึ ๆๆ ไปอาบน้ำไหม เมื่อคืนจัดการหยีเสร็จพี่ก็เหนื่อยมากเลยไม่ได้เช็ดทำความสะอาดให้ หลายยกไปหน่อย”
“กรี๊ด!!! ไอ้เลว! จะไปตายที่ไหนก็ไป!” ฉันไม่เคยเสียสติขนาดนี้มาก่อน มันโกรธจนปวดหัวแล้วก็ปวดมากจนหัวแทบระเบิด ไม่มีคำไหนเลยที่เขาจะรู้สึกสะทกสะท้านกับคำพูดของฉัน ถ้าเขาชั่วแล้วแสดงออกว่าชั่วฉันยังพอทนได้แต่นี่ชั่วแล้วยังยิ้มระรื่นทำหน้าตาเป็นคนดีเป็นสุภาพบุรุษฉันทนไม่ได้จริง ๆ
พอเห็นฉันกรี๊ดอาละวาดไอ้สารเลวมันก็ส่งยิ้มเอ็นดูมาให้ ยิ้มเอ็นดูส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วก็หันหลังเดินออกไป จิตใจมันต้องชั่วแค่ไหนถึงจะทำแบบนี้ได้
แล้วสุดท้ายฉันก็ต้องฝืนร่างกายลุกขึ้นไปอาบน้ำ รู้สึกทุเรศตัวเองที่สุด! หลับยังไงเหรอยาหยีหลับจนโดนข่มขืน หลับหรือโดนวางยากันแน่!
...วางยางั้นเหรอ?
ใช่! ฉันว่าฉันโดนวางยาแน่นอนไม่อย่างนั้นฉันไม่มีทางหลับเป็นตายขนาดนี้ได้แน่ ยิ่งคิดว่าเขาวางยาฉันเพื่อพามาข่มขืนมันก็ยิ่งโกรธ จากความรู้สึกดีที่มีให้มานานจนถึงวินาทีนี้มันหายไปหมดเลยค่ะ มันมีแต่ความเกลียดความขยะแขยง!
“จะไปไหนครับ” พอเดินออกมาด้านนอกห้องนอนก็เจอไอ้เลวนั่งดูทีวีด้วยท่าทางสบายใจ
“กลับบ้านฉันสิ จะให้อยู่รอชันสูตรศพให้นายเหรอ”
“หึ ๆๆ ก็ถ้าพี่ตายคาอกยาหยีเมื่อไหร่ที่รักก็ค่อยชันสูตรศพพี่นะคะ” นั่นปาก? สาบานว่านั่นคือปากคน!
ฉันทั้งโกรธ ทั้งเกลียด ทั้งขยะแขยงไม่อยากจะเสวนาด้วยก็เลยตรงดิ่งไปที่ประตู แต่มันดันเปิดไม่ออก!
“รหัสอะไร” ฉันถามทั้งที่หันหลังอยู่ ไม่อยากหันไปมองหน้ากลัวจะเผลอตัวถุยน้ำลายใส่หน้ามัน
“เดี๋ยวค่อยกลับ มานั่งดูหนังกับพี่ดีกว่าครับ”
“บอกรหัสมา” อย่าว่าแต่ดูหนังด้วยกันเลยแค่เสี้ยวของหนังหน้ามึงกูก็ดูไม่ลง!
“พี่บอกให้มานั่งดูหนังกับพี่ยาหยีไม่ได้ยินเหรอครับ”
“ได้ข่มขืนฉันจนสมใจแล้วก็ปล่อยฉันไปสักที” ฉันจะอดทนไม่ให้ตรงเข้าไปเตะหัวไอ้ชั่วคนนี้ไม่ไหวอยู่แล้ว ได้แต่ยืนข่มอารมณ์กำหมัดแน่นเพื่อรอเวลาที่จะได้ออกไป แต่ถ้าทนไม่ไหวก็คงจะเข้าไปจัดการเขาจริง ๆ
“ยังไม่สมใจเลยค่ะ เมื่อคืนเหมือนพี่เอากับตุ๊กตายางไม่ค่อยฟินเท่าไหร่ อ้อ! แต่ฟิตมากนะพี่ชอบ”
“...” ฉันทนนิ่งทั้งที่ใจมันเป็นไฟแล้วเพราะพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ อยากจะกรี๊ดแค่ก็คงมีแต่ฉันที่เจ็บคอเปล่า ๆ
“มานั่ง อย่าขัดใจพี่ถ้าไม่อยากชีวิตพัง” เขาใช้สายตาบังคับแค่นิดเดียว แต่คำพูดที่พูดออกมามันทำให้ฉันอยู่ไม่สุข
“นายจะแบล็คเมล์ฉันเหรอ?” แค่ข่มขืนมันก็เป็นตราบาปในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่จะติดตัวไปจนวันตาย แล้วนะแค่นี้มันยังเลวร้ายไม่พออีกเหรอ?
“พี่ไม่ได้จะแบล็คเมล์ พี่แค่หาอะไรมาต่อรองให้หยีไม่ขัดใจพี่แค่นั้นเองค่ะ”
“อย่าพยายามปั้นคำพูดดี ๆ เพื่อกลบเกลื่อนความชั่วที่มาจากสมองส้นตีนของนาย!” ไม่ไหวแล้วโว้ย! ถ้าใครคิดว่ายาหยีอ่อนแอขอบอกเลยว่าไม่ค่ะ ฉันไม่ได้อ่อนแอ ฉันไม่ได้เป็นคนอ่อนหวานอ่อนต่อโลก ฉันเป็นแค่คนธรรมดาที่ใช้ชีวิตปกติและมีทั้งอารมณ์เย็น ร้อน กับร้อนมาก!
“หัวร้อนเหรอครับ” ถามหน้าซื่อเพื่อ!
“นายทำอะไรไว้ นายถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอ!”
“ไม่ใช่เรื่องที่พี่ต้องบอกครับ หยีรู้แค่ว่าพี่ไม่มีทางเอาอะไรพวกนั้นไปลงโซเชี่ยลหรือยาหยีไปประจานให้ใครดูหรอก” แล้วต้องการอะไรกันแน่ พูดเหมือนเป็นคนดีแบบนี้แล้วตกลงว่าต้องการอะไรกัน!
“ถ้างั้นก็บอกรหัสประตูมาสักที” พูดอะไรก็คงไม่มีประโยชน์ใช่ไหมคะ ถ้างั้นก็ควรที่จะหาทางออกไปจากที่นี่ก่อนก็พอ
“เฮ้อ~ เรานี่พูดยากพูดเย็นจริง ๆ ฟังให้ดีนะครับที่รัก พี่จะไม่ทำร้ายหยีด้วยการประจานให้ใครเห็น แต่ถ้าที่รักขัดใจพี่บ่อย ๆ พี่ขอรับรองด้วยเกียรติว่าจะส่งอะไรเด็ด ๆ ไปให้พ่อกับแม่ที่รักดูแน่นอน” เขา... เขาขู่ฉันด้วยคำขู่ที่ทำฉันพูดไม่ออก อยากตะโกนให้ลั่นก็ทำไม่ได้เพราะมันจุกไปทั้งใจ สิ่งที่มันออกมามีแค่น้ำตา แค่เขาพูดจบน้ำตาฉันก็ไหลออกมาทันที
“ทำได้ยังไง~ ทำร้ายกันขนาดนี้ได้ยังไงพี่กันต์?” ฉันหมดแรงแล้วจริง ๆ คำที่ถามเขาก็ยังเบาหวิวจนฉันแทบจะไม่ได้ยินเสียงของตัวเองด้วยซ้ำ ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายขนาดนี้
“พี่ก็บอกไปแล้วไงครับจะให้พี่พูดซ้ำอีกทำไม มาดูหนังดีกว่าหรือว่าหิวข้าวมีอาหารนะเดี๋ยวพี่ไปอุ่นให้” เอายาพิษมากรอกปากกูเถอะ อย่าเอาอาหารมาให้กินเลย
“...” ฉันได้แต่เงียบเพราะจับต้นชนปรายไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
“เมื่อคืนพี่จัดการส่งข้อมูลผู้ติดต่อมาจากไลน์หยีหมดแล้วนะครับ ทั้งของพ่อแล้วก็แม่ ยังจะดื้อกับพี่อีกไหมคนดี” ฉันจะฆ่าเขา สาบานว่าฉันจะหาทางฆ่าเขา! หรือถ้าฆ่าไม่ได้ฉันก็จะทำทุกทางให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าฉัน!
ฉันต้องทนจำใจเดินไปนั่งอยู่ข้างเขา ปล่อยให้เขาโอบไหล่ในระหว่างที่ดูหนัง เขาตั้งใจดูแถมยังดูจะสนุกกับมันแต่สำหรับฉันไม่ว่าเสียงจากเครื่องโฮมเธียเตอร์จะดังแค่ไหนแต่มันไม่เข้าหูฉันเลย มีแค่เสียงสะอื้นที่มันดังอยู่ในใจเท่านั้น
“จะให้กลับได้รึยัง” พอหนังจบฉันก็รีบบิดตัวออกจากการโอบไหล่ของเขาแล้วก็ถามทันที อยากจะไปให้พ้นจากที่ตรงนี้ใจแทบขาดแล้ว
“ยังครับ เดี๋ยวค่อยกลับ”
“ฮะ? นี่จะเล่นอะไรนักหนาสนุกมากเหรอ?” ฉันถามแต่ก็ไม่ได้คำตอบ ได้แค่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม โรคจิต! เขามันโรคจิต!
“ฉันถามว่านายสนุกมากเหรอ!”
“สนุก เอาคนมาเป็นของเล่นมันสนุกดี พี่ก็ไม่เคยเล่นนะแต่พอได้เล่นแล้วเพิ่งรู้ว่ามันโคตรสนุกเลย” พอฉันตะคอกดังลั่นเขาก็หันมาตอบ แว๊บหนึ่งฉันเห็นแววตาโกรธปนสะใจแต่มันก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแล้วมันก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าของคนดีอย่างเดิม
“ปล่อยฉันไปสักทีฉันขอร้อง” ฉันจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ช่วงนี้ได้ยินปั้นหยาบ่นว่าจะเป็นโรคประสาทตายเพราะพี่กราฟแต่ฉันว่าถ้าฉันเจอคนร้าย ๆ ที่ร้ายแล้วแสดงออกชัดเจนแบบนั้นฉันยังจะรู้สึกดีกว่าเจอร้ายแบบโรคจิตที่เราไม่มีทางมองออกว่าเขากำลังคิดอะไรต้องการอะไรแบบนี้
“อยากกลับแล้วเหรอครับ”
“ฉันอยากกลับตั้งแต่ลืมตาตื่นแล้ว นายคิดว่าฉันอยากอยู่ที่นี่กับคนที่ข่มขืนฉันนาน ๆ รึไง!”
“อืม~ ถ้างั้นเรามาเปลี่ยนจากคนที่ข่มขืนเป็นผัวแบบที่ยาหยีสมยอมดีไหมคะ” เขาหันมาถามด้วยรอยยิ้มแล้วโน้มตัวเข้ามาหาฉัน
“จะทำอะไรออกไปนะ!” ฉันโดนเขาคร่อมตัวเอาไว้บนโซฟาก็ร้องลั่นด้วยความกลัว ฉันไม่อยากโดนข่มขืนอีก แค่รู้ว่าโดนข่มขืนทั้งที่ไม่รู้ตัวก็เหมือนตายทั้งเป็นแล้วแต่ครั้งนี้ฉันมีสติฉันมีสติครบถ้วนถ้าต้องโดนข่มขืนอีกครั้งฉันคงเหมือนตกนรกทั้งเป็นจนอยากฆ่าตัวตายจริง ๆ
“ชู่ว์~ เบา ๆ ครับ ยิ่งเสียงดังพี่ยิ่งมีอารมณ์นะ เวลาผู้หญิงครางดังพี่ยิ่งกระแทกแรง”
“กรี๊ด!!! ไอ้โรคจิต! ไอ้สารเลว!” ฉันกรี๊ดลั่นแล้วก็พยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่มันไม่ได้ผล ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหนื่อย
“ถ้ายอมดี ๆ พี่จะให้กลับเร็วนะยาหยี แต่ถ้ายังดื้อด้านพี่จะเอายาปลุกเซ็กส์ยัดปาก พี่สาบานว่านอกจากจะไม่ได้กลับบ้านที่รักยังจะเอาแต่ร้องขอให้พี่เอาทั้งคืน~”
“นี่เลวมากจนต้องใช้ยาเลยเหรอ?” อึ้งค่ะ อึ้งจนไม่มีคำบรรยาย
“อยากลองดูไหมล่ะที่รัก” ฉันเกลียดคำพูดดี ๆ น้ำเสียงทุ้ม ๆ ของเขาที่สุด!
ฉันไม่พูดอะไรต่อนอกจากเบือนหน้าหนี เอาเลยอยากจะทำอะไรก็ทำ ทำให้มันจบแล้วก็ปล่อยให้ฉันกลับไปสักที!
เขาก้มลงมาซุกไซร้ซอกคอของฉัน ทั้งไซร้ทั้งเอาลิ้นมาดูดเลียแล้วก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาจนหมดทุกเม็ดจากนั้นก็ลากริมฝีปากไล้ตามลำคอลงมาหาเนินอก
ฉันตัวสั่นเพราะสัมผัสจากเขาไปทั้งตัว สั่นทั้งตัวแล้วก็หัวใจเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้รับสัมผัสแบบนี้มาก่อน แต่ก็รู้สึกขยะแขยงไปพร้อมกัน ฉันกำลังโดนเขาทำอะไรทั้งที่ฉันไม่เต็มใจเลยสักนิดเดียว ฉันขยะแขยงจนน้ำตาไหลออกมา ทำไมฉันต้องนอนให้เขาทำระยำตำบอนแบบนี้ด้วย ทำไม!
จ๊วบ~
“อืม~ พี่เพิ่งรู้เมื่อคืนว่ายาหยีของพี่นมใหญ่มาก~” เขาครางออกมาแล้วก็เอาปากกัดเสื้อชั้นในเพื่อดึงมันให้ขึ้นไปกองอยู่บนเนินอก ฉันอยากจะสะบัดตัวออกแต่เขาก็รู้ทันรีบล็อคข้อมือฉันเอาไว้
“อย่าดื้อสิครับที่รัก” เขาปรามฉันเบา ๆ แต่สายตาตอนนี้ไม่ได้เป็นคนดีแล้วค่ะ สายตามันหื่น หื่นจนฉันต้องเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วเขาก็เอาปากขบยอดอกของฉันไว้
“อื้อ~”
จ๊วบ~
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ~
พอขบเสร็จเขาก็ดูดมัน ดูดเต็มแรงเหมือนคนกระหายจนเกิดเสียงดัง แล้วก็เอามือล้วงเข้าไปในกระโปรงพร้อมกับสอดนิ้วเข้าไปในกางเกงชั้นในจนสัมผัสกับร่องรักของฉัน ฉันไม่ไหวแล้วฉันทนนอนให้เขาย่ำยีศักดิ์ศรีของตัวเองแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
“ฮื่อ ๆๆ ขอร้อง~ อย่าทำ ฮื่อ ๆๆ ขอร้องหยีขอร้องเถอะนะพี่กันต์~ ” ถึงร่างกายจะเริ่มรู้สึกเสียววูบวาบขึ้นมาเพราะโดนสัมผัสแต่จิตใต้สำนึกของฉันไม่ได้รู้สึกเคลิ้มตามหรือต้องการสัมผัสพวกนั้นเลยสักนิด
“อยากให้พี่หยุด?” เขาเงยหน้าจากหน้าอกขึ้นมาถามฉันก็รีบพยักหน้าตอบ
“ค่ะ ฮึก! พี่กันต์หยุดเถอะนะหยีขอร้อง” ฉันน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดแล้ว ขอร้องเถอะขอให้เขายังหลงเหลือความเป็นคนอยู่สักนิดก็ยังดี
“โอเคครับ” เขาส่งรอยยิ้มบาง ๆ มาให้แล้วดึงเสื้อชั้นในของฉันลง ใจของฉันตอนนี้เริ่มมีความหวังที่จะหลุดพ้นแล้ว
“ขะ ขอบคุณนะคะ” ฉันรีบดีดตัวขึ้นหลังจากที่เขาผละออกแล้วก็ลนลานใส่เสื้อให้เรียบร้อย
“ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกครับที่รัก พี่แค่หยุดเพราะถุงยางมันหมด” เขาพูดช้า ๆ เนิบ ๆ แล้วใช้มือเชยคางฉันขึ้นมา ความรู้สึกดีใจเมื่อกี้ก็เลยเริ่มลดน้อยลง
“หมายความว่ายังไง?” ฉันถามเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่ไว้ใจเลยสักนิด เพราะรอยยิ้มคนดีจอมปลอมจอมตอแหลที่เขาส่งมาให้ตอนนี้นี่แหละที่ทำให้ฉันไม่ไว้ใจ
“หมายความว่าเมื่อคืนพี่ใช้ถุงยางหมดแล้วไงครับ ที่รักลงไปซื้อให้พี่หน่อยเร็ว~”