แชร์

#2 คนเเปลกหน้า

ผู้เขียน: จันตรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 19:23:27

เสียงลมหายใจยังหนักหน่วง

ลีแอนน์และเดรย์วานยืนหยัดท่ามกลางซากศพแวมไพร์ที่พวกเขาสังหาร

แต่ความเงียบหลังการสู้รบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด

“เจ้าคิดว่าข้าควรไว้ใจเจ้าได้หรือ?”

ลีแอนน์ถามเสียงแข็ง ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย

เดรย์วานหันมายิ้มบาง ๆ

“ข้าเองก็ไม่ไว้ใจเจ้า…แต่นี่ไม่ใช่เวลามาทะเลาะกัน”

“ข้าไม่ใช่คนไว้ใจง่าย”

เธอก้าวไปเก็บมีดที่ตกลงพื้นอย่างระมัดระวัง

“เช่นเดียวกัน ข้าโดนทรยศมาหลายครั้ง”

เขาตอบ ก่อนชำเลืองมองไปทางเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นจากซอยข้าง ๆ

“เจ้าคิดว่าพวกมันยังไม่หมด?”

ลีแอนน์ถาม

เดรย์วานกดปืนเข้าที่เอว

“ใช่…พวกมันไม่ใช่แวมไพร์ธรรมดา พวกมันคือพวกที่มีฝีมือและโหดเหี้ยมกว่าที่ข้าเคยเจอ”

“งั้นเราจะสู้กับพวกมัน?”

เธอถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ถ้าอยากมีชีวิตรอดคืนนี้…ข้าคิดว่าเราคงต้องร่วมมือกัน”

เดรย์วานตอบ พร้อมชำเลืองมองหน้าเธอ

ความร่วมมือที่ไม่เต็มใจเกิดขึ้นในชั่วพริบตา

ลีแอนน์รู้ดีว่า ถึงจะไม่ไว้ใจ แต่ก็ต้องพึ่งพาเดรย์วาน

“ข้าไม่เคยชอบใครมาคุมข้า”

เธอพูด ลีแอนน์ผลักประตูบ้านไม้เก่า เปิดเข้ามาช้า ๆ

กลิ่นไม้แห้งและสมุนไพรอ่อน ๆ ต้อนรับเธอกลับสู่ความคุ้นเคย

ที่นี่คือบ้านของเธอ…แม้จะไม่อบอุ่นนัก แต่ก็คือที่ของเธอ

เสียงฝีเท้าจากด้านหลังไม่เบาและไม่เร่ง

เธอรู้ดีว่าใครตามมา

แต่ไม่ได้หันไปมองจนกระทั่งเสียงนั้นหยุดอยู่ตรงหน้าประตู

เดรย์วานยืนอยู่ใต้ชายคา ใบหน้าเปียกฝนและเหนื่อยล้า

“ข้าไม่มีที่ไปคืนนี้” เขาพูดเรียบ ๆ

“หากเจ้ายอมให้ข้าอาศัยพัก...แค่ชั่วคืนเดียว ข้าจะไม่รบกวนเจ้า”

ลีแอนน์จ้องหน้าเขา ดวงตาเย็นเฉียบ

“ข้าไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าบ้าน”

เขานิ่งไปนิด ก่อนพยักหน้า

“เจ้ามองว่าข้าเป็นคนแปลกหน้า ทั้งที่เราเพิ่งร่วมรบเคียงกัน?”

“ข้าก็ร่วมรบกับสุนัขเฝ้าประตูในตลาดเหมือนกัน แต่ข้าก็ไม่พามันเข้าบ้าน”

เธอตอบเสียงนิ่ง ไม่ได้ประชด…แค่ชัดเจน

เดรย์วานยิ้มบาง ๆ แต่แววตาหม่น

“เข้าใจแล้ว ข้าจะไม่ขอซ้ำสอง”

เขาหันหลัง เดินออกจากชายคาช้า ๆ

ฝนเริ่มตกอีกครั้ง — เม็ดเล็ก ๆ ที่เหมือนแทงเข้าผิว

ลีแอนน์ยังยืนนิ่งอยู่ที่ประตู

ไม่ได้ปิดมันทันที

ไม่รู้เพราะความลังเล...หรือความเงียบที่แปลกประหลาดในใจ

ฝนยังคงตกพรำ...

ลีแอนน์ยืนอยู่หลังประตูบ้านไม้เก่า เงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าของเดรย์วานที่เดินจากไป

เธอถอนใจครั้งหนึ่ง กำลังจะผลักประตูปิด...

เสียง ปัง!

บางอย่างล้มลงตรงสนามหน้าบ้าน เสียงหนัก รุนแรงพอให้เธอชะงัก

ลีแอนน์คว้ามีดเงินที่เหน็บข้างเอว รีบเปิดประตูแล้ววิ่งออกไป

ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมรั้ว เดรย์วานนอนราบกับพื้น

ร่างของเขาชุ่มไปด้วยฝน เสื้อคลุมฉีกขาดตรงหัวไหล่ และเลือดสีดำไหลซึมออกมาจากบาดแผลเก่า

“ข้า...ไหว”

เขาพูดอย่างพยายามจะลุก แต่แขนด้านหนึ่งสั่นระริก

“บาดแผลเดิม...” เธอก้มมอง ก่อนพูดเสียงเข้ม

“เจ้าไม่บอกว่าข้อต่อไหล่เจ้าเคยถูกกัด?”

“มันหายไปนานแล้ว ข้าไม่คิดว่ามันจะกลับมาแย่ตอนนี้...” เขาตอบ

“ฝนทำให้มันอักเสบ”

ลีแอนน์กัดฟันแน่น

เธอหันหลังไปมองบ้านตัวเอง แล้วหันกลับมาหาเขาอีกครั้ง

“เจ้าอย่าคิดว่าข้าสงสาร”

เธอพูดเสียงเรียบ

“ข้าไม่ขอให้เจ้าเมตตา”

เขายิ้มบาง ๆ แม้จะเจ็บจนตัวสั่น

“แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครตายอยู่หน้าบ้านข้า”

เธอพูดต่อ แล้วโน้มตัวลง

ลีแอนน์ประคองเขาอย่างระมัดระวัง

“ข้าพาเจ้าเข้าไป...ก็เพียงเพื่อรักษา ไม่ใช่ให้เจ้าอยู่ต่อ”

เดรย์วานพยักหน้า

“ข้าสัญญา...ถ้ารุ่งเช้า ข้าลุกไหว ข้าจะไปเอง”

ประตูไม้ถูกเปิดออกอีกครั้ง

คราวนี้ร่างของชายผู้ไม่เป็นที่ต้อนรับ...ได้ก้าวข้ามเข้ามา

ภายในบ้านเงียบสนิท

แสงตะเกียงน้ำมันส่องวูบไหวบนกำแพงไม้

ลีแอนน์วางเดรย์วานลงบนเบาะผืนเก่าหน้าเตาผิง หยิบผ้าขาวกับสมุนไพรออกจากกล่องไม้ใต้โต๊ะ

เขานั่งพิงกำแพง ดวงตาหลับแน่น แต่ยังพอมีแรงหายใจสม่ำเสมอ

“เจ้าไม่ต้องฝืนจะพูด” เธอกล่าว

“อยู่นิ่ง ๆ ข้าจะล้างแผล”

เธอค่อย ๆ ถอดเสื้อคลุมเขาออกอย่างระวัง

บาดแผลที่หัวไหล่เผยให้เห็นรอยกัดเก่าที่ปะปนกับเนื้อใหม่

เหมือนบาดแผลนั้นไม่เคยหายจริง ๆ…แค่แฝงตัวเงียบ ๆ จนถึงเวลามันปะทุขึ้นอีกครั้ง

เดรย์วานหายใจแรงเล็กน้อยตอนน้ำยาเย็นชะโลมลง

“ข้าไม่เคยชอบความรู้สึกนี้เลย…”

ลีแอนน์เหลือบมอง

“เจ้าเจ็บ?”

“ไม่...ข้าแค่ไม่ชอบให้ใครแตะตัว”

เขาพูดเบา ๆ แล้วหัวเราะในลำคอ

“แปลกดีที่ข้ายอมให้เจ้าทำได้”

“อย่าคิดว่าเป็นเพราะเราสนิทกัน”

เธอตอบโดยไม่หันไปสบตา

“ข้าแค่เคยทำแผลให้พวกบาดเจ็บมาก่อน เจ้าไม่ใช่รายแรก”

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดเสียงแผ่ว

“แต่ข้าอยากให้ข้า...เป็นคนสุดท้าย”

มือของลีแอนน์หยุดชั่ววูบ

เธอไม่ตอบอะไร

เสียงเตาผิงแตกเปรี๊ยะ ๆ ในห้องเงียบ

สายตาของเธอมองแผลตรงหัวไหล่ แล้วพูดเบา ๆ

“รอยกัดนั่น...ไม่ใช่ของพวกแวมไพร์ธรรมดา”

เดรย์วานลืมตาขึ้น

“ข้ารู้…เพราะข้ารู้จักมันดี”

เธอถามตรง

“มันคือใคร?”

เขาเงียบไปนาน...นานพอจะฟังเสียงฝนกระทบหลังคา

ก่อนตอบเสียงเบาเหมือนคำสารภาพ

“มันคือพี่ชายข้า”

ลีแอนน์ชะงัก

มือเธอที่แตะผ้าพันแผลหยุดอยู่ตรงแผลนั้นพอดี

“ข้าเคยมีครอบครัว” เขาพูดต่อ

“แต่คืนนั้น...พวกเขาถูกแวมไพร์ฆ่าทั้งหมด เหลือข้า กับมัน”

“พี่เจ้ารอด?” เธอถาม

“เขารอด...แต่เขาไม่เหมือนเดิม เขากลายเป็นสิ่งที่ข้าไล่ล่าในทุกวันนี้”

ลีแอนน์ไม่รู้จะพูดอะไร

ได้แต่พันผ้าเงียบ ๆ แล้วลุกขึ้นช้า ๆ วางผ้าชุบน้ำลงในกะละมัง

ก่อนจะหันกลับมา

เห็นเดรย์วานหลับตาลงเหมือนหมดแรง

ใบหน้าเขานิ่ง เหนื่อย และจริงใจในความเงียบ

เธอก้าวถอยหนึ่งก้าว กำลังจะหันหลัง

“ลีแอนน์...” เขาเรียกชื่อเธอเบา ๆ

เธอหยุด

“มีอะไร?”

“ข้า...ขอบใจเจ้า”

เธอไม่ตอบ

เพียงแค่เดินไปปิดหน้าต่างให้แน่นขึ้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #11 คลั่ง

    ลีแอนน์ยังคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือเบนแน่นจนข้อนิ้วซีด เธอพยายามข่มตัวเองให้ไม่กลัว ทั้งที่เสียงข้างนอกกำลังสั่นประสาทอย่างที่สุดครืด... แกร่ก... โครม!!!ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เสียงอีกต่อไป—เศษอิฐจากกำแพงด้านข้างร่วงลงมาเป็นผงๆ ตามด้วยเสียงคำรามต่ำแหบ เสียงที่เหมือนอะไรบางอย่างที่ไม่ควรมีชีวิตกำลังแงะผนังเข้ามา“มันเจาะเข้ามาได้แล้ว!” ชายผมยาวที่ก่อนหน้าทะเลาะกับลีแอนน์ร้องเสียงหลง รีบหันหลังคว้าปืนที่วางพิงไว้ออร์เรนกระชากเขากลับด้วยแขนกล“อย่าเพิ่งตื่นตระหนก!”“ตะ...แต่! พวกมันเข้ามา—!”“ยังไม่พังเข้ามาได้หมด เรามีเวลาไม่กี่นาที!”เสียงเล็บข่วนแผ่นเหล็กดังสะเทือนหู แสบแก้วหูจนลีแอนน์ต้องหลับตาปี๋ เธอก้มลงกระซิบเบนอีกครั้ง“ฟังนะ ถ้าแกยังได้ยินฉัน…ต้องอยู่ต่อให้ได้ ได้ยินไหม? อย่าไปไหนเด็ดขาด”เบนไม่ตอบ แต่เปลือกตาขยับนิดหน่อย เหมือนพยายามดิ้นจากฝันร้ายที่พันธนาการเขาอยู่“ลีแอนน์!” อาลีนเรียกเสียงด่วน “ช่วยกันปิดช่องทางลมหลังห้องก่อน เผื่อเราต้องหนี!”ลีแอนน์กัดฟัน ก่อนหันไปกระชากผ้าเก่าๆ ที่คลุมลังไม้ข้างผนังโยนให้ชายร่างผอม“ปิดรูนั้นไว้ เอาให้แน่น อย่าให้พวกมันได้กลิ่น!”อาลีนลากล

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #10 พิษ

    เสียงครืดๆ ที่ลากเล็บขูดพื้นเมื่อกี้ ไม่ได้เงียบไปเฉยๆ มันกลับยิ่งดังขึ้นกว่าเดิม เหมือนพวกมันเริ่มเดินเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆลีแอนน์นั่งฟังอยู่ตรงเตียง ใจเต้นโครมๆ จนแทบได้ยินเองในอก เบนที่นอนอยู่ก็สะดุ้งเหมือนละเมอ ใบหน้าซีดเผือดจนมองแทบไม่ออกว่าเป็นคนออร์เรนยังยืนชิดประตู ตาจ้องรูเล็กๆ ตรงบานเหล็ก เสียงหายใจเขาหนักกว่าเดิมครืด... ครืด... ครืด...เล็บยาวๆ ของพวกซากร้างครูดผ่านผนังอิฐ คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงเดียว แต่มีหลายเสียง สลับกันไปมาจนคนฟังขนลุกเสียงหายใจข้างนอกก็เริ่มดังขึ้น เหมือนพวกมันยืนกันเต็มปากทางเดิน“มันใกล้เข้ามา…” นักล่าคนหนึ่งเริ่มตะโกนโวยวาย สีหน้าเขาซีด“พวกมัน…ดมกลิ่นได้ใช่ไหม…” หญิงร่างเล็กที่ชื่ออาลีนพูดเสียงสั่น มือเธอกำด้ามปืนเเน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้น“ใช่” ออร์เรนตอบเสียงเรียบ แต่ดวงตาข้างเดียวก็มีแววกังวล “กลิ่นเลือดมันแรง พวกมันคงคลุ้มคลั่งกัน”ครืด…ครืด…แกร่ก…กรร เสียงเล็บครูดแรงขึ้น คราวนี้เหมือนมีตัวหนึ่งข่วนประตูเหล็กเป็นแนวยาว จนเสียงโลหะดังเอี๊ยด..ชวนให้เเสบเเก้มหู ลีแอนน์กัดฟันแน่น มองไปทางเบนที่หายใจรวยริน“…เราอยู่กันครบไหม” เธอถามด้วยเสียงห

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #9 พวกซากร้าง

    กลางคืน อุโมงค์ระบายน้ำเก่าใต้ซากเมืองร้างเสียงน้ำหยดเป็นจังหวะในอุโมงค์แคบ ลีแอนน์ประคองเบนที่ตัวสั่นระริกมาตลอดทาง แผลบนอกยังคงซึมเลือดสีเข้มเธอชำเลืองมองใบหน้าเขาที่ซีดเผือด ก่อนกระซิบเสียงเข้ม“อีกนิดเดียว…เดินต่อให้ได้”“ที่นี่…ที่ไหน…” เบนถามแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน“เขตตะวันตก เมืองร้างของนักล่า” เธอสูดลมหายใจลึก “พวกฉันมีฐานหลบภัยอยู่ใต้โรงเก็บศพเก่า”เบนสะอึก “…ฟัง…ไม่ค่อยน่าอยู่”“อย่าพูดมาก” เธอสวนเสียงแข็ง แต่ในดวงตายังมีแววเป็นห่วงลึกๆพวกเขาเดินผ่านกำแพงอิฐที่มีร่องรอยเลือดเก่าเป็นคราบ ลีแอนน์หยุดตรงประตูเหล็กสนิมเขรอะ ยกกำปั้นเคาะเป็นจังหวะเฉพาะสามครั้งเงียบจากนั้นเสียงล็อกกลไกซับซ้อนก็ดังกึกกัก ก่อนประตูจะค่อยๆ แง้มออก เผยให้เห็นช่องทางเดินมืดมิดชายร่างสูงคนหนึ่งยืนเฝ้า เขามีแขนกลสีเงินข้างหนึ่ง และผ้าคาดปิดตาข้างซ้ายดวงตาที่เหลือหรี่มองลีแอนน์ ก่อนเลื่อนมาที่เบน“ลีแอนน์” น้ำเสียงของเขาเข้ม แผ่วต่ำ “นั่นใคร”“ออร์เรน” เธอกลืนน้ำลาย “เขาคือเบน แฮรอน…ลูกชายอีแวน”บรรยากาศรอบตัวเงียบกริบไปทันทีชายที่ชื่อออร์เรนขยับช้าๆ ตามองเลือดสีเข้มที่ซึมจากผ้าพันแผล“…เลือดนั่น” เขา

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #8 เลือดอมตะ

    ในความมืดของอุโมงค์หิน ความตายไล่ตามมาติด ๆ เสียงคำรามโกรธจัดของคาร์เซียดังก้องสะท้อนในโถงใหญ่เหมือนฝันร้ายไม่สิ้นสุด เบนหอบหายใจแรง ความเหนื่อยอ่อนเกาะรัดร่างกายจนขาแทบอ่อน แต่เขายังฝืนก้าวไปข้างหน้า มือของลีแอนน์กำข้อมือเขาไว้แน่น ไฟจากหลอดที่เธอหยิบมันออกจากกระเป๋าคาดเอวส่องแสงสีเหลืองมัว ๆ บนพื้นหินเต็มไปด้วยคราบเลือด อากาศรอบตัวอับชื้น เหม็นกลิ่นสนิม ผสมกลิ่นเน่า จนแสบจมูก เสียงฝีเท้าของแวมไพร์ดังห่างออกไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้แปลว่าพวกมันจะยอมแพ้ คาร์เซียต้องตามมาแน่ เธอไม่ยอมให้เลือดของเบนหลุดมือเด็ดขาด “อีกไม่ไกล…ปลายอุโมงค์มีทางขึ้นไปข้างบน” ลีแอนน์หอบเสียงสั่น “จากตรงนั้น เราอาจหาทางออกไปถึงถนนได้” เบนพยักหน้า แม้สติจะพร่าเลือนเพราะเสียเลือดไปมาก เขามองแผลที่แขนซ้าย ตรงที่แทงเข็มเงินไว้ก่อนหน้านี้ เลือดสีเข้มยังไหลซึมออกมา แต่มันมีประกายเหมือนโลหะละลาย เขาจำได้ว่าเคยถามพ่อ…ว่าทำไมเลือดเขาถึงไม่เหมือนคนอื่น พ่อไม่เคยตอบตรง ๆ แค่บอกว่า “ถ้าเมื่อไหร่ที่มันไหลออกมา…จงระวัง ทุกคนจะอยากได้มัน” วันนี้ เขาถึงได้รู้ว่าพ่อพูดเรื่องจริง “นายต้องอุดแผล” ลีแอ

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #7 นักล่าเลือดบริสุทธิ์

    เสียงคำราม ดังไปทั่วห้องโถง คาร์เซีย เบล เดินลงจากแท่นช้า ๆ สายตาจ้องเบนไม่วางตา แวมไพร์หลายตนเริ่มขยับเข้ามาใกล้ บางตนปีนขึ้นไปเกาะเสา บางตนย่องเข้ามาเงียบ ๆ เหมือนเสือกำลังล่าเหยื่อ เบนหายใจแรง มือเขาควานใต้เสื้อคว้าเข็มเงินอีกเล่ม คาร์เซียยกมือขึ้น สั่งเสียงเข้ม “จับมัน! อย่าให้มันรอดออกไปเด็ดขาด!” ทันใดนั้น แวมไพร์หลายตนพุ่งเข้าใส่เบนพร้อมกัน เบนแทงเข็มเงินลงที่แขนตัวเอง เลือดของเขาไหลออกมา มีสีเข้มและเป็นประกาย ทันทีที่แวมไพร์แตะโดนตัวเขา—ผิวของมันไหม้ทันที เสียงกรีดร้องดังลั่น พวกมันถอยหนีด้วยความตกใจ เบนใช้จังหวะนั้นกระชากโซ่เต็มแรง เสียงเหล็กขาดดังขึ้น ก่อนที่เขาจะรีบพุ่งตัวหนีไปอีกทาง เขาวิ่งผ่านทางแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยเงาและควันตะเกียง เสียงฝีเท้าและคำรามของแวมไพร์ตามมาติด ๆ ...แล้วเขาก็สะดุดล้มในซอกมืด “เบา ๆ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นใกล้หู มือของใครบางคนดึงเขาเข้าไปในมุมมืดด้านหลังเสาหินใหญ่ เธอคือ ลีแอนน์ หญิงสาวในเสื้อหนังสีดำ ผมยาวถักเปีย มองเขาด้วยสายตานิ่งสงบ “ตามฉันมา ถ้าไม่อยากตาย” เธอกระซิบ เบนพยักหน้า เธอพาเขาลัดไปตามทาง

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #6 กองทัพที่รอวันตื่น

    เพดานหยดน้ำลงบนพื้นหินที่เปรอะเปื้อนเลือดกลิ่นสนิมโลหะ คาวเลือด และเนื้อเน่าอบอวลหนาแน่นราวหมอกภายในห้องโถงขนาดใหญ่ร่างของแวมไพร์นับร้อยนอนเรียงรายบนแท่นหินเย็นเฉียบบางตนยังคงหลับ บางตนตัวกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นเลือดบางตน…ฟันเขี้ยวเริ่มโผล่ ทั้งที่ยังไม่ได้ลืมตาหญิงในชุดคลุมดำเดินผ่านพวกมันไปอย่างสง่างามคาร์เซีย เบล — ยืนอยู่ตรงแท่นสูงสุด ดวงตาแดงดั่งเปลวไฟสุม“เติมเลือด…พวกเขาต้องตื่นก่อนรุ่งสางคืนพระจันทร์สีเลือด”คำสั่งของเธอเฉียบขาด และดังสะท้อนทั้งห้องราวเสียงปีศาจเหล่าผู้รับใช้ของเธอ — แวมไพร์ชั้นต่ำแต่งชุดหนังดำต่างลากร่างมนุษย์เข้ามาเป็นแถวชายหญิงจากหมู่บ้าน ถูกปิดตา มัดมือ“ได้โปรด...ข้าแค่ชาวบ้าน...อย่าฆ่าเมียข้า...!”เสียงร้องไห้ของชายคนหนึ่งดังลั่นก่อนจะถูกกระชากหัวไปพิงแท่นฟันคมเฉือนผ่านคอ — เลือดไหลทะลักลงสู่รางหินที่เชื่อมต่อกับแท่นแวมไพร์รางเลือด ไหลผ่านร่องหินอย่างแม่นยำหล่อเลี้ยงไปถึงแต่ละร่างของแวมไพร์ที่ยังไม่ฟื้นพวกมันเริ่มขยับ...ฟันสั่นกระทบกันดัง กรอด...กรอด…หญิงสาวอีกคนกรีดร้องเมื่อถูกผลักลงบนแท่นโลหะเข็มขนาดเท่านิ้วมือจิ้มเข้าต้นคอ เลือดไหล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status