แชร์

#3 ผู้ล่า

ผู้เขียน: จันตรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 19:43:41

เช้าตรู่...

ไอเย็นยังจับอยู่บนกระจกหน้าต่าง แสงอาทิตย์แรกของวันลอดผ่านม่านบาง ๆ เข้ามาในบ้านไม้

กลิ่นสมุนไพรจาง ๆ ยังลอยอยู่ในอากาศจากการทำแผลเมื่อคืน

ลีแอนน์ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง

เธอนั่งจิบชาสมุนไพรเงียบ ๆ อยู่ตรงเก้าอี้ไม้ใกล้หน้าต่าง สายตาเหลือบมองเดรย์วานที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเบาะ

รอยแผลที่หัวไหล่พันผ้าไว้อย่างเรียบร้อย

เขาหลับสนิท ไม่มีท่าทางเจ็บปวดอีก

เสียงนกร้อง...

เงียบสงบกว่าที่เธอคาดในเช้าแบบนี้

แต่แล้ว

“ก็อก ๆ ๆ”

เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามที หนักแน่นแต่ไม่เร่งรีบ

ลีแอนน์ชะงัก มือที่ถือแก้วชาหยุดกลางอากาศ

เดรย์วานลืมตาช้า ๆ หันมามองเธอโดยไม่พูด

“ข้าไม่ได้รอใคร” เธอพูดเบา ๆ

เสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แทรกเสียงผู้ชาย

“ข้าไม่ได้มาตามหาปัญหา ขอคุยแป๊บเดียว ลีแอนน์!”

เธอขมวดคิ้วทันที

“เสียงนั่น...ซาเวล”

เดรย์วานยันตัวลุกขึ้นช้า ๆ

“เขาเป็นใคร?”

“คนรู้จักเก่า...พ่อค้าเร่ที่ไม่ได้มาแบบธรรมดา เขาเป็นพวกที่ ‘เห็น บางอย่าง”

ลีแอนน์ตอบ ขณะเดินไปเปิดประตู

ทันทีที่บานประตูเปิดออก

ชายวัยประมาณสามสิบ สวมเสื้อคลุมยาวเก่า ๆ มีขนนกผูกติดไหล่

ตาสีน้ำผึ้งของเขากวาดมองเข้ามาในบ้านอย่างไม่ไว้ใจ

“ข้ายังไม่ตายหรอก ขอบใจที่ไม่เปิดรับข้ามาตั้งแต่ตีห้า”

เขาเอ่ยติดขำ แต่เสียงแฝงความจริงจัง

“ข้ามิได้ต้อนรับเจ้าบ่อยนัก อย่าทำเหมือนเจ้าคุ้นนักกับบ้านข้า”

ลีแอนน์ตอบเรียบ ๆ ก่อนจะหลีกให้เขาเข้ามา

เมื่อซาเวลเดินเข้ามาในบ้าน เขาก็เห็นเดรย์วานทันที

สายตาเขาหรี่ลงทันควัน มือแตะที่ห่อผ้าข้างเอวเหมือนเตรียมดึงบางสิ่ง

ลีแอนน์รีบเอ่ย

“เขาไม่ใช่ศัตรู เจ้ามาเรื่องอื่นก็พูดมาเถอะ”

ซาเวลยังไม่ละสายตาจากเดรย์วาน

“ข้าเห็นร่องรอยบางอย่างเมื่อคืน บนหลังคาเรือนทิศเหนือ...มีคนเจ็บเลือดไหลเหมือนลากผ่านไม้เก่า”

เขาพูดเสียงเบา

เดรย์วานกับลีแอนน์สบตากันทันที

สีหน้าเธอเปลี่ยนไป

“แปลว่า...มีพวกมันรอดจากเมื่อคืน?”

เธอถาม

“ใช่ และที่น่ากลัวกว่าคือ...”

ซาเวลหยิบผ้าผืนเล็กจากกระเป๋า หย่อนลงบนโต๊ะ

กลางผ้า มี "สัญลักษณ์" — รูปรอยฟันแบบผิดธรรมชาติ

สัญลักษณ์ของพวกที่ “ถูกฝึก” มาเพื่อล่าโดยเฉพาะ

“นี่ไม่ใช่แวมไพร์ธรรมดา...” เดรย์วานพูดช้า ๆ

ซาเวลพยักหน้า

“ข้ากลัวว่า...พวกมันกำลังตามหาเจ้า”

ลีแอนน์มองสองคนที่ตอนนี้เหมือนพัวพันกันในเงาที่ลึกขึ้นทุกที

ทั้งที่เมื่อคืนเธอยังคิดจะปิดประตูใส่หน้าเขาอยู่เลย…

ฝนเริ่มหยุดตกแล้ว แต่บรรยากาศในบ้านยังหนาวเย็นเหมือนถูกจับจ้อง

ลีแอนน์พิงผนัง มือกุมกำปืนสั้น

สายตาแข็งกร้าวเมื่อหันไปมองเดรย์วาน

“ข้าไม่ไว้ใจเจ้า...แต่ตอนนี้ เราต้องจับมือกัน”

เดรย์วานนิ่ง ไม่พูดอะไรแต่สบตาเธอหนักแน่น

“ข้าเองก็ไม่ได้เลือกทางนี้เช่นกัน”

เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังมาจากประตูหน้าบ้าน

“เจ้าทั้งสอง...มีแขกมาเยี่ยม” เสียงเข้มของออร์เรน เคลย์ ดังขึ้น

ชายวัยกลางคนร่างใหญ่ ตาบอดข้างหนึ่ง

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลและความเข้มงวด

“ข้าฟังข่าวจากซาเวลแล้ว” เขาพูดอย่างไม่ไว้ใจเดรย์วาน

“แต่ถ้าเจ้าอยากรอด...ต้องพิสูจน์ตัวเอง”

ลีแอนน์ขมวดคิ้ว...เจ้าไม่ต้องมาขู่ เรารู้หน้าที่ของเรา”

ออร์เรนพยักหน้า

“ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งลีแอนน์ แต่นี่ไม่ใช่สงครามครั้งก่อน เป็นการล่าเพื่อความอยู่รอด”

เดรย์วานยิ้มบาง ๆ

“ข้าพร้อมจะพิสูจน์ ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่”

ฟินน์ หนุ่มเจ้าเล่ห์ นักเทคนิคประจำหน่วย ปรากฏตัวพร้อมกล่องเครื่องมือ

“ข้าหวังว่าเจ้าอยากได้ของเล่นใหม่ ข้าเตรียมไว้ให้แล้ว” ฟินน์พูดอย่างติดตลก

ลีแอนน์ถอนใจเบา ๆ

“ข้าเกลียดของเล่นของเจ้า...แต่ก็ต้องใช้”

ออร์เรนเคลย์กวาดสายตามองรอบห้อง

“ฟังข้าดี ๆ ตอนนี้ พวกแวมไพร์ที่เรากำลังจะเจอ ไม่ใช่แค่ศัตรูธรรมดา

พวกมันเป็นพวกที่ผ่านการฝึกมาอย่างโหดเหี้ยม มีทักษะเหนือมนุษย์ และบางตัว...อาจเคยเป็นมนุษย์มาก่อนด้วยซ้ำ”

ลีแอนน์พ่นลมหายใจออกแรง ๆ

“ข้าไม่แคร์อดีตพวกมันหรอก ขอแค่ฆ่ามันให้หมดก็พอ”

เดรย์วานยืนพิงกำแพง

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าคิดยังไงกับข้า

แต่ตอนนี้ อย่ามองข้าเป็นศัตรู เพราะข้าเป็นฝ่ายเดียวกับพวกเจ้า”

ออร์เรนขมวดคิ้ว

“เจ้าพูดง่าย แต่นายยังมีสายเลือดแวมไพร์เต็มตัว ข้าไม่ไว้ใจง่าย ๆ”

ฟินน์เดินมาวางกล่องเครื่องมือบนโต๊ะ

“ข้าเตรียมอุปกรณ์ใหม่มาให้พวกเจ้า ลองดูนี่!”

เขายกปืนกระสุนเงินขึ้นมาให้ดู

“กระสุนนี้พิเศษกว่าเดิม เจาะเกราะแวมไพร์ได้ดีขึ้น 30%”

ลีแอนน์หยิบปืนขึ้นมาดู

“ดี แต่ข้าหวังว่ามันจะไม่พังง่าย”

ฟินน์ยักไหล่

“ของพังแล้วข้าซ่อมเอง อย่าห่วง”

เดรย์วานถอนหายใจยาว

“เวลาเหลือน้อย ข้าอยากรู้แผนล่าของพวกเจ้าเป็นยังไง”

ออร์เรนเดินไปที่แผนที่บนผนัง

“พวกแวมไพร์รวมตัวกันในป่าทางเหนือ มีฐานที่มั่นลับ เราจะต้องเข้าไปสอดแนมเก็บข้อมูลให้ได้ก่อนโจมตี”

ลีแอนน์พยักหน้า

“ข้าจะเข้าไปเป็นมือสังหารเงียบ ส่วนใครจะไปกับข้า?”

ออร์เรนหันไปมองเดรย์วาน

“เจ้าสองคนต้องไปด้วยกัน ข้าไม่ไว้ใจนายมากพอที่จะแยก”

เดรย์วานพยักหน้า

“ตามใจเจ้า แต่ข้าจะทำให้เห็นว่าข้าอยู่ฝ่ายไหน”

ฟินน์ยิ้มเจ้าเล่ห์

“งั้นข้าจะคอยดูแลจากระยะไกล พร้อมส่งของเล่นใหม่ให้พวกเจ้า”

ลีแอนน์ถอนใจลึก ๆ

“ข้าไม่ชอบงานเป็นทีม...แต่ครั้งนี้ ข้าไม่มีทางเลือก”

เสียงฝนหยุดสนิท

แต่พายุในใจพวกเขายังไม่สงบเลยสักนิด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #11 คลั่ง

    ลีแอนน์ยังคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือเบนแน่นจนข้อนิ้วซีด เธอพยายามข่มตัวเองให้ไม่กลัว ทั้งที่เสียงข้างนอกกำลังสั่นประสาทอย่างที่สุดครืด... แกร่ก... โครม!!!ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เสียงอีกต่อไป—เศษอิฐจากกำแพงด้านข้างร่วงลงมาเป็นผงๆ ตามด้วยเสียงคำรามต่ำแหบ เสียงที่เหมือนอะไรบางอย่างที่ไม่ควรมีชีวิตกำลังแงะผนังเข้ามา“มันเจาะเข้ามาได้แล้ว!” ชายผมยาวที่ก่อนหน้าทะเลาะกับลีแอนน์ร้องเสียงหลง รีบหันหลังคว้าปืนที่วางพิงไว้ออร์เรนกระชากเขากลับด้วยแขนกล“อย่าเพิ่งตื่นตระหนก!”“ตะ...แต่! พวกมันเข้ามา—!”“ยังไม่พังเข้ามาได้หมด เรามีเวลาไม่กี่นาที!”เสียงเล็บข่วนแผ่นเหล็กดังสะเทือนหู แสบแก้วหูจนลีแอนน์ต้องหลับตาปี๋ เธอก้มลงกระซิบเบนอีกครั้ง“ฟังนะ ถ้าแกยังได้ยินฉัน…ต้องอยู่ต่อให้ได้ ได้ยินไหม? อย่าไปไหนเด็ดขาด”เบนไม่ตอบ แต่เปลือกตาขยับนิดหน่อย เหมือนพยายามดิ้นจากฝันร้ายที่พันธนาการเขาอยู่“ลีแอนน์!” อาลีนเรียกเสียงด่วน “ช่วยกันปิดช่องทางลมหลังห้องก่อน เผื่อเราต้องหนี!”ลีแอนน์กัดฟัน ก่อนหันไปกระชากผ้าเก่าๆ ที่คลุมลังไม้ข้างผนังโยนให้ชายร่างผอม“ปิดรูนั้นไว้ เอาให้แน่น อย่าให้พวกมันได้กลิ่น!”อาลีนลากล

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #10 พิษ

    เสียงครืดๆ ที่ลากเล็บขูดพื้นเมื่อกี้ ไม่ได้เงียบไปเฉยๆ มันกลับยิ่งดังขึ้นกว่าเดิม เหมือนพวกมันเริ่มเดินเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆลีแอนน์นั่งฟังอยู่ตรงเตียง ใจเต้นโครมๆ จนแทบได้ยินเองในอก เบนที่นอนอยู่ก็สะดุ้งเหมือนละเมอ ใบหน้าซีดเผือดจนมองแทบไม่ออกว่าเป็นคนออร์เรนยังยืนชิดประตู ตาจ้องรูเล็กๆ ตรงบานเหล็ก เสียงหายใจเขาหนักกว่าเดิมครืด... ครืด... ครืด...เล็บยาวๆ ของพวกซากร้างครูดผ่านผนังอิฐ คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงเดียว แต่มีหลายเสียง สลับกันไปมาจนคนฟังขนลุกเสียงหายใจข้างนอกก็เริ่มดังขึ้น เหมือนพวกมันยืนกันเต็มปากทางเดิน“มันใกล้เข้ามา…” นักล่าคนหนึ่งเริ่มตะโกนโวยวาย สีหน้าเขาซีด“พวกมัน…ดมกลิ่นได้ใช่ไหม…” หญิงร่างเล็กที่ชื่ออาลีนพูดเสียงสั่น มือเธอกำด้ามปืนเเน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้น“ใช่” ออร์เรนตอบเสียงเรียบ แต่ดวงตาข้างเดียวก็มีแววกังวล “กลิ่นเลือดมันแรง พวกมันคงคลุ้มคลั่งกัน”ครืด…ครืด…แกร่ก…กรร เสียงเล็บครูดแรงขึ้น คราวนี้เหมือนมีตัวหนึ่งข่วนประตูเหล็กเป็นแนวยาว จนเสียงโลหะดังเอี๊ยด..ชวนให้เเสบเเก้มหู ลีแอนน์กัดฟันแน่น มองไปทางเบนที่หายใจรวยริน“…เราอยู่กันครบไหม” เธอถามด้วยเสียงห

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #9 พวกซากร้าง

    กลางคืน อุโมงค์ระบายน้ำเก่าใต้ซากเมืองร้างเสียงน้ำหยดเป็นจังหวะในอุโมงค์แคบ ลีแอนน์ประคองเบนที่ตัวสั่นระริกมาตลอดทาง แผลบนอกยังคงซึมเลือดสีเข้มเธอชำเลืองมองใบหน้าเขาที่ซีดเผือด ก่อนกระซิบเสียงเข้ม“อีกนิดเดียว…เดินต่อให้ได้”“ที่นี่…ที่ไหน…” เบนถามแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน“เขตตะวันตก เมืองร้างของนักล่า” เธอสูดลมหายใจลึก “พวกฉันมีฐานหลบภัยอยู่ใต้โรงเก็บศพเก่า”เบนสะอึก “…ฟัง…ไม่ค่อยน่าอยู่”“อย่าพูดมาก” เธอสวนเสียงแข็ง แต่ในดวงตายังมีแววเป็นห่วงลึกๆพวกเขาเดินผ่านกำแพงอิฐที่มีร่องรอยเลือดเก่าเป็นคราบ ลีแอนน์หยุดตรงประตูเหล็กสนิมเขรอะ ยกกำปั้นเคาะเป็นจังหวะเฉพาะสามครั้งเงียบจากนั้นเสียงล็อกกลไกซับซ้อนก็ดังกึกกัก ก่อนประตูจะค่อยๆ แง้มออก เผยให้เห็นช่องทางเดินมืดมิดชายร่างสูงคนหนึ่งยืนเฝ้า เขามีแขนกลสีเงินข้างหนึ่ง และผ้าคาดปิดตาข้างซ้ายดวงตาที่เหลือหรี่มองลีแอนน์ ก่อนเลื่อนมาที่เบน“ลีแอนน์” น้ำเสียงของเขาเข้ม แผ่วต่ำ “นั่นใคร”“ออร์เรน” เธอกลืนน้ำลาย “เขาคือเบน แฮรอน…ลูกชายอีแวน”บรรยากาศรอบตัวเงียบกริบไปทันทีชายที่ชื่อออร์เรนขยับช้าๆ ตามองเลือดสีเข้มที่ซึมจากผ้าพันแผล“…เลือดนั่น” เขา

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #8 เลือดอมตะ

    ในความมืดของอุโมงค์หิน ความตายไล่ตามมาติด ๆ เสียงคำรามโกรธจัดของคาร์เซียดังก้องสะท้อนในโถงใหญ่เหมือนฝันร้ายไม่สิ้นสุด เบนหอบหายใจแรง ความเหนื่อยอ่อนเกาะรัดร่างกายจนขาแทบอ่อน แต่เขายังฝืนก้าวไปข้างหน้า มือของลีแอนน์กำข้อมือเขาไว้แน่น ไฟจากหลอดที่เธอหยิบมันออกจากกระเป๋าคาดเอวส่องแสงสีเหลืองมัว ๆ บนพื้นหินเต็มไปด้วยคราบเลือด อากาศรอบตัวอับชื้น เหม็นกลิ่นสนิม ผสมกลิ่นเน่า จนแสบจมูก เสียงฝีเท้าของแวมไพร์ดังห่างออกไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้แปลว่าพวกมันจะยอมแพ้ คาร์เซียต้องตามมาแน่ เธอไม่ยอมให้เลือดของเบนหลุดมือเด็ดขาด “อีกไม่ไกล…ปลายอุโมงค์มีทางขึ้นไปข้างบน” ลีแอนน์หอบเสียงสั่น “จากตรงนั้น เราอาจหาทางออกไปถึงถนนได้” เบนพยักหน้า แม้สติจะพร่าเลือนเพราะเสียเลือดไปมาก เขามองแผลที่แขนซ้าย ตรงที่แทงเข็มเงินไว้ก่อนหน้านี้ เลือดสีเข้มยังไหลซึมออกมา แต่มันมีประกายเหมือนโลหะละลาย เขาจำได้ว่าเคยถามพ่อ…ว่าทำไมเลือดเขาถึงไม่เหมือนคนอื่น พ่อไม่เคยตอบตรง ๆ แค่บอกว่า “ถ้าเมื่อไหร่ที่มันไหลออกมา…จงระวัง ทุกคนจะอยากได้มัน” วันนี้ เขาถึงได้รู้ว่าพ่อพูดเรื่องจริง “นายต้องอุดแผล” ลีแอ

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #7 นักล่าเลือดบริสุทธิ์

    เสียงคำราม ดังไปทั่วห้องโถง คาร์เซีย เบล เดินลงจากแท่นช้า ๆ สายตาจ้องเบนไม่วางตา แวมไพร์หลายตนเริ่มขยับเข้ามาใกล้ บางตนปีนขึ้นไปเกาะเสา บางตนย่องเข้ามาเงียบ ๆ เหมือนเสือกำลังล่าเหยื่อ เบนหายใจแรง มือเขาควานใต้เสื้อคว้าเข็มเงินอีกเล่ม คาร์เซียยกมือขึ้น สั่งเสียงเข้ม “จับมัน! อย่าให้มันรอดออกไปเด็ดขาด!” ทันใดนั้น แวมไพร์หลายตนพุ่งเข้าใส่เบนพร้อมกัน เบนแทงเข็มเงินลงที่แขนตัวเอง เลือดของเขาไหลออกมา มีสีเข้มและเป็นประกาย ทันทีที่แวมไพร์แตะโดนตัวเขา—ผิวของมันไหม้ทันที เสียงกรีดร้องดังลั่น พวกมันถอยหนีด้วยความตกใจ เบนใช้จังหวะนั้นกระชากโซ่เต็มแรง เสียงเหล็กขาดดังขึ้น ก่อนที่เขาจะรีบพุ่งตัวหนีไปอีกทาง เขาวิ่งผ่านทางแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยเงาและควันตะเกียง เสียงฝีเท้าและคำรามของแวมไพร์ตามมาติด ๆ ...แล้วเขาก็สะดุดล้มในซอกมืด “เบา ๆ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นใกล้หู มือของใครบางคนดึงเขาเข้าไปในมุมมืดด้านหลังเสาหินใหญ่ เธอคือ ลีแอนน์ หญิงสาวในเสื้อหนังสีดำ ผมยาวถักเปีย มองเขาด้วยสายตานิ่งสงบ “ตามฉันมา ถ้าไม่อยากตาย” เธอกระซิบ เบนพยักหน้า เธอพาเขาลัดไปตามทาง

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #6 กองทัพที่รอวันตื่น

    เพดานหยดน้ำลงบนพื้นหินที่เปรอะเปื้อนเลือดกลิ่นสนิมโลหะ คาวเลือด และเนื้อเน่าอบอวลหนาแน่นราวหมอกภายในห้องโถงขนาดใหญ่ร่างของแวมไพร์นับร้อยนอนเรียงรายบนแท่นหินเย็นเฉียบบางตนยังคงหลับ บางตนตัวกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นเลือดบางตน…ฟันเขี้ยวเริ่มโผล่ ทั้งที่ยังไม่ได้ลืมตาหญิงในชุดคลุมดำเดินผ่านพวกมันไปอย่างสง่างามคาร์เซีย เบล — ยืนอยู่ตรงแท่นสูงสุด ดวงตาแดงดั่งเปลวไฟสุม“เติมเลือด…พวกเขาต้องตื่นก่อนรุ่งสางคืนพระจันทร์สีเลือด”คำสั่งของเธอเฉียบขาด และดังสะท้อนทั้งห้องราวเสียงปีศาจเหล่าผู้รับใช้ของเธอ — แวมไพร์ชั้นต่ำแต่งชุดหนังดำต่างลากร่างมนุษย์เข้ามาเป็นแถวชายหญิงจากหมู่บ้าน ถูกปิดตา มัดมือ“ได้โปรด...ข้าแค่ชาวบ้าน...อย่าฆ่าเมียข้า...!”เสียงร้องไห้ของชายคนหนึ่งดังลั่นก่อนจะถูกกระชากหัวไปพิงแท่นฟันคมเฉือนผ่านคอ — เลือดไหลทะลักลงสู่รางหินที่เชื่อมต่อกับแท่นแวมไพร์รางเลือด ไหลผ่านร่องหินอย่างแม่นยำหล่อเลี้ยงไปถึงแต่ละร่างของแวมไพร์ที่ยังไม่ฟื้นพวกมันเริ่มขยับ...ฟันสั่นกระทบกันดัง กรอด...กรอด…หญิงสาวอีกคนกรีดร้องเมื่อถูกผลักลงบนแท่นโลหะเข็มขนาดเท่านิ้วมือจิ้มเข้าต้นคอ เลือดไหล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status