Share

#11 คลั่ง

last update Huling Na-update: 2025-07-22 16:23:08

ลีแอนน์ยังคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือเบนแน่นจนข้อนิ้วซีด เธอพยายามข่มตัวเองให้ไม่กลัว ทั้งที่เสียงข้างนอกกำลังสั่นประสาทอย่างที่สุด

ครืด... แกร่ก... โครม!!!

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เสียงอีกต่อไป—เศษอิฐจากกำแพงด้านข้างร่วงลงมาเป็นผงๆ ตามด้วยเสียงคำรามต่ำแหบ เสียงที่เหมือนอะไรบางอย่างที่ไม่ควรมีชีวิตกำลังแงะผนังเข้ามา

“มันเจาะเข้ามาได้แล้ว!” ชายผมยาวที่ก่อนหน้าทะเลาะกับลีแอนน์ร้องเสียงหลง รีบหันหลังคว้าปืนที่วางพิงไว้

ออร์เรนกระชากเขากลับด้วยแขนกล

“อย่าเพิ่งตื่นตระหนก!”

“ตะ...แต่! พวกมันเข้ามา—!”

“ยังไม่พังเข้ามาได้หมด เรามีเวลาไม่กี่นาที!”

เสียงเล็บข่วนแผ่นเหล็กดังสะเทือนหู แสบแก้วหูจนลีแอนน์ต้องหลับตาปี๋ เธอก้มลงกระซิบเบนอีกครั้ง

“ฟังนะ ถ้าแกยังได้ยินฉัน…ต้องอยู่ต่อให้ได้ ได้ยินไหม? อย่าไปไหนเด็ดขาด”

เบนไม่ตอบ แต่เปลือกตาขยับนิดหน่อย เหมือนพยายามดิ้นจากฝันร้ายที่พันธนาการเขาอยู่

“ลีแอนน์!” อาลีนเรียกเสียงด่วน “ช่วยกันปิดช่องทางลมหลังห้องก่อน เผื่อเราต้องหนี!”

ลีแอนน์กัดฟัน ก่อนหันไปกระชากผ้าเก่าๆ ที่คลุมลังไม้ข้างผนังโยนให้ชายร่างผอม

“ปิดรูนั้นไว้ เอาให้แน่น อย่าให้พวกมันได้กลิ่น!”

อาลีนลากลังอีกใบไปขวางทางลม ออร์เรนเดินกลับมากลางห้อง ตะโกนเสียงเข้ม

“ทุกคน! แบ่งสองกลุ่ม! กลุ่มหนึ่งปิดทาง กลุ่มสองเตรียมอาวุธ ถ้ามันทะลุเข้ามา เราต้องชะลอมันให้นานพอสำหรับคนที่เหลือจะหนี!”

เสียงคำรามแผดลั่น เหมือนสัตว์คลั่งหลายตัวประสานกัน ทั้งห้องสั่นสะเทือนเหมือนอุโมงค์จะถล่ม

แกร่ก...! ปัง!

บานเหล็กที่เคยปิดแน่นงอเข้ามานิดหนึ่ง เหล็กตรงมุมโค้งจนเห็นแสงจากภายนอกลอดเข้ามาเป็นเส้น

“มันมาแล้ว!” ชายคนหนึ่งตะโกน

ออร์เรนตะโกนกลับเสียงแข็ง

“ทุกคนประจำที่! ถ้าประตูพัง พุ่งไปทางท่ออากาศทันที!”

ลีแอนน์มองหน้าเบน เหงื่อชุ่มโชก หน้าซีดแต่หายใจยังอยู่

“ขอโทษนะ…” เธอกระซิบ “ฉันอาจต้องทิ้งแกไว้ตรงนี้สักพัก”

แล้วเธอก็คว้าปืนลุกขึ้น ก้าวไปยืนข้างออร์เรน

“เอาระเบิดมาให้ฉันก้อนหนึ่ง” เธอพูดเสียงต่ำ

ออร์เรนเหลือบมอง แล้วส่งก้อนระเบิดพร้อมเชือกสั้นให้เธอ

“อย่าเพิ่งจุด จนกว่าฉันจะบอก”

เสียง “ปึ้ง! ปัง! แกร่ก!!” ดังขึ้นตลอดทุกวินาที

ประตูเริ่มงอมากขึ้น ราวกับจะปลิวได้ทุกเมื่อ

ลีแอนน์กระชับปืนแน่น นิ้วโป้งแตะอยู่บนสลักนิรภัยของชนวนระเบิด

เธอหันไปทางทุกคนในห้อง ดวงตาคมกริบ เปื้อนเหงื่อและน้ำตาแต่ยังนิ่งสนิท

“ถ้ามันบุกเข้ามา…” เธอพูดเสียงแน่น “เราจะลากมันลงนรกไปด้วยกัน!”

แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

แกร๊ง!

ประตูเหล็กหลุดจากบานพับ!

ร่างขนาดใหญ่ บิดเบี้ยว ผิวหนังหลุดลอกเหมือนต้มไม่สุก โผล่เข้ามาใต้กรอบประตู

ออร์เรนตะโกนลั่น

“ยิง!!!”

เสียงปืนแตกเปรี้ยงเปรี้ยงสะท้อนก้องทั่วอุโมงค์ ในขณะที่ฝุ่นโคลน เศษเนื้อ และกลิ่นเน่าฉุนลอยฟุ้ง

เสียงคำรามผสมกับเสียงแหลมแสบหู

พวกมันเข้ามาแล้วจริงๆ

เสียงปืนแตกเปรี้ยงในอุโมงค์ที่มืดชื้น ร่างแรกของพวกซากร้างโดนกระสุนเจาะเข้าเต็มเบ้าตาเน่าหนอน ก่อนมันจะล้มทั้งยืน ฟาดไหล่ใส่ผนังอิฐจนเศษปูนกระจายตามพื้น

แต่แค่ตัวเดียวไม่ได้หยุดฝูงที่ตามมา

ร่างต่อๆ มายกแขนห้อยๆ ที่เต็มไปด้วยแผลเหวอะ ข้อศอกพลิกผิดรูป หน้าผุเน่าบิดเบี้ยวขึ้นฟาดเข้ากับบานประตูเก่า แสงสลัวจากเตาไฟสะท้อนในตาที่ไม่มีสติของมัน

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงปืนดังสนั่น ลีแอนน์ยิงรัวเข้าเบ้าตา-กลางหน้าผาก-ลำคอไม่หยุด ปืนสะบัดในมือแต่เธอไม่ปล่อย มุมปากมีเลือดซึมจากแรงกัดฟันเกินควร

“อย่าให้มันผ่านเข้ามา!” ออร์เรนคำราม แขนกลเหวี่ยงปืนกลเบา ยิงเป็นชุดใส่ร่างที่พุ่งมาด้วยความคลั่ง

แกร่ก!

ร่างซากร้างตัวหนึ่งพุ่งเข้าชนชายผมยาวที่เคยขู่จะโยนเบนออกไป เขาเบิกตาโพลง ก่อนจะร้องสุดเสียง

มันเร็ว—!”

ยังไม่ทันขาดคำ ซากร้างกัดเข้าที่ต้นแขนเขาเต็มๆ เสียงเนื้อฉีกดังกึ่ก! เลือดพุ่งกระเซ็น

เขาร้องโหยหวน ล้มลงดิ้นกับพื้น ขาเตะปัดไปมาด้วยความเจ็บปวด อาลีนหันไปจะช่วย แต่ก็โดนอีกตัวพุ่งเข้ามาขวางไว้ตรงกลาง

“แม่งเอ๊ย!!!” เธอตะโกน ถอยหลังไปพร้อมยิงเข้าใบหน้าอีกศพที่กำลังคร่อมชายผมยาว

แต่สายไปแล้ว

กรามของซากร้างตะปบใส่คอเขา ก่อนเสียงกระดูกจะหักดังกร๊อบ

เลือดพุ่งรดพื้นหิน เสียงดูดกลืนดังแผล่บๆ จนทุกคนในห้องแข็งค้างไปครู่หนึ่ง

“ถอย! ถอยไปหลังลังไม้!” ออร์เรนตะโกน ทุกคนรีบล่าถอยตามเสียงคำสั่ง

ลีแอนน์ยิงอีกนัดจนปืนหมดแม็ก เธอถอยกลับมาใกล้เบน รีบเปลี่ยนกระสุนมือสั่น

เบนยังหายใจหอบๆ อยู่บนเตียง ตัวเปียกเหงื่อเหมือนโดนราดน้ำร้อน ท่ามกลางความวุ่นวาย ร่างเขาเริ่มชักกระตุกเบาๆ อีกครั้ง

“อย่าเพิ่ง…ขอร้อง…” เธอกระซิบเสียงสั่น มือคว้ามีดสั้นไว้ในอีกข้าง

ซากร้างตัวหนึ่งไต่ผนังเหมือนแมลงสาบ มันปีนขึ้นแล้วกระโจนลงตรงหน้าชายร่างผอมที่ยืนเผลออยู่

ตึง!

ร่างของเขาล้มกระแทกพื้น เสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้น ออร์เรนไม่รีรอ ยิงเข้ากลางหลังซากร้าง จนมันสะดุ้งแล้วล้มตายทับร่างเหยื่อ

ชายคนนั้นยังรอด…แต่แขนซ้ายถูกกัดจนเลือดโชก หน้าเขาขาวซีดเหมือนกระดาษ

“ไปหลังห้อง! ไปทางระบายอากาศเดี๋ยวนี้!” ออร์เรนตะโกนซ้ำ มือข้างหนึ่งยกดินระเบิดขึ้นแล้วจุดชนวนสั้น ๆ ทิ้งไว้บนลังไม้

“มีแค่ห้านาที! อย่าเสียเวลา!”

อาลีนรีบไปช่วยประคองชายร่างผอม ลีแอนน์ยืนค้าง ยังมองเบนที่นอนแน่นิ่ง

“ลีแอนน์ ไปเถอะ!” ออร์เรนตะโกนใส่หน้าเธอ “พาเขาไปไม่ได้แล้ว!”

“ฉันจะไม่ทิ้งเขาไว้ตรงนี้!!” เธอกัดฟันคำราม เสียงสั่น แต่ดวงตาแข็งกร้าวยิ่งกว่าอาวุธ

“แกไปก่อนก็ได้ ถ้าแกจะเลือกแบบนั้น!” เธอพูดพลางช้อนแขนเบนขึ้นทั้งตัว แม้น้ำหนักเขาจะทำเอาหลังเธอแทบทรุด

เสียงปืนยังดังปังๆ ข้างหลัง พวกซากร้างไต่เข้ามาเรื่อยๆ จากช่องทางที่ทะลุกำแพง

ออร์เรนสบถลั่น เดินเข้าไปช่วยเธอช้อนตัวอีกข้าง

“งั้นก็เร่งมือ! ถ้าจะพาเขาไป ก้าวเท้าให้เร็วซะ!”

ทั้งสองลากเบนที่แทบไร้น้ำหนักของตัวเองแล้ว กระเสือกกระสนไปยังช่องระบายอากาศข้างหลังอุโมงค์

ชายร่างผอมกับอาลีนปีนเข้าไปก่อนแล้ว ลีแอนน์กับออร์เรนตามติดในวินาทีสุดท้าย

เสียงระเบิดหลังห้องดัง ตูม!

แรงอัดพัดเอาฝุ่นผงกับเศษอิฐตามหลังเข้ามา ร้อนแสบผิวจนลีแอนน์รู้สึกเหมือนโดนไฟไหม้หลัง

เธอหอบหายใจแรง ดึงเบนตามเข้าไปในช่องแคบ ๆ ที่ต้องคลานผ่านทีละคน

เสียงซากร้างกรีดร้องอยู่ข้างหลัง ร่างบางตัวโดนแรงระเบิดกระเด็นใส่กำแพง เสียงกระดูกหักและเลือดราดทั่วพื้น

ในความมืดอับของช่องระบายอากาศ ลีแอนน์คลานข้างๆ เบน มือยังไม่ปล่อย

“อีกนิดเดียว…อีกนิดเดียวเท่านั้น…” เธอพึมพำเหมือนอธิษฐาน

ข้างหน้าเป็นแสงจางๆ จากปลายท่อ อาลีนตะโกนเรียก

“เร็ว! ทางนี้!!”

ลีแอนน์กับออร์เรนคลานตามมาจนสุด เบนหมดสติไปแล้วแต่ยังหายใจ

ทุกคนออกมาจากท่อได้ในสภาพมอมแมม ผ้าฉีก เปื้อนเลือด และตัวสั่นจากทั้งพิษและความกลัว

ตรงหน้าคือพื้นที่เปิดโล่งหลังโกดังร้างกลางเมือง ซากตึกครึ่งถล่มล้อมรอบ มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดผ่านฝุ่นควัน

ลีแอนน์ทรุดลงทันที กอดร่างเบนแน่นกับอกเหมือนเด็กกลัวฝันร้าย

ออร์เรนยืนหอบ ใบหน้าฉาบเงื่อเต็มจนเส้นเลือดขมับปูด

อาลีนเดินเข้ามาคุกเข่าข้างๆ มองดูชีพจรเบนก่อนพยักหน้าเบาๆ

“เขายังอยู่…แต่ต้องรักษาด่วน ไม่งั้นเชื้อลามถึงสมอง…”

“เราจะเอาเขาไปที่ศูนย์พักไหม?” ชายร่างผอมถามเสียงสั่น

ออร์เรนมองรอบตัว—ถนนร้าง ไร้แสง ไร้เสียง แต่ลึกเข้าไปข้างในยังได้ยินเสียงคำรามห่างๆ ของพวกมัน

เขาพยักหน้า

“เราจะไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง…ไม่เหมือนพวกมัน”

ลีแอนน์ลูบหน้าผากเบน น้ำตายังเปื้อนแก้ม แต่สายตาเริ่มมีประกายแข็งกร้าวอีกครั้ง

“เขาจะรอด…ต้องรอด…”

อาลีนวางมือบนไหล่เธอแน่นๆ เหมือนจะบอกว่า—เราไม่ทิ้งกัน

เสียงคำรามแว่วมาอีกครั้งจากทางเดิม

ออร์เรนยกแขนกลขึ้นช้าๆ แล้วพูดเสียงเข้ม

“ถ้าใครยังมีแรง…เตรียมตัวเดิน เราไม่มีเวลาร้องไห้”

ลีแอนน์พยักหน้า แล้วลุกขึ้นประคองเบนไว้ในอ้อมแขน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #11 คลั่ง

    ลีแอนน์ยังคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือเบนแน่นจนข้อนิ้วซีด เธอพยายามข่มตัวเองให้ไม่กลัว ทั้งที่เสียงข้างนอกกำลังสั่นประสาทอย่างที่สุดครืด... แกร่ก... โครม!!!ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เสียงอีกต่อไป—เศษอิฐจากกำแพงด้านข้างร่วงลงมาเป็นผงๆ ตามด้วยเสียงคำรามต่ำแหบ เสียงที่เหมือนอะไรบางอย่างที่ไม่ควรมีชีวิตกำลังแงะผนังเข้ามา“มันเจาะเข้ามาได้แล้ว!” ชายผมยาวที่ก่อนหน้าทะเลาะกับลีแอนน์ร้องเสียงหลง รีบหันหลังคว้าปืนที่วางพิงไว้ออร์เรนกระชากเขากลับด้วยแขนกล“อย่าเพิ่งตื่นตระหนก!”“ตะ...แต่! พวกมันเข้ามา—!”“ยังไม่พังเข้ามาได้หมด เรามีเวลาไม่กี่นาที!”เสียงเล็บข่วนแผ่นเหล็กดังสะเทือนหู แสบแก้วหูจนลีแอนน์ต้องหลับตาปี๋ เธอก้มลงกระซิบเบนอีกครั้ง“ฟังนะ ถ้าแกยังได้ยินฉัน…ต้องอยู่ต่อให้ได้ ได้ยินไหม? อย่าไปไหนเด็ดขาด”เบนไม่ตอบ แต่เปลือกตาขยับนิดหน่อย เหมือนพยายามดิ้นจากฝันร้ายที่พันธนาการเขาอยู่“ลีแอนน์!” อาลีนเรียกเสียงด่วน “ช่วยกันปิดช่องทางลมหลังห้องก่อน เผื่อเราต้องหนี!”ลีแอนน์กัดฟัน ก่อนหันไปกระชากผ้าเก่าๆ ที่คลุมลังไม้ข้างผนังโยนให้ชายร่างผอม“ปิดรูนั้นไว้ เอาให้แน่น อย่าให้พวกมันได้กลิ่น!”อาลีนลากล

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #10 พิษ

    เสียงครืดๆ ที่ลากเล็บขูดพื้นเมื่อกี้ ไม่ได้เงียบไปเฉยๆ มันกลับยิ่งดังขึ้นกว่าเดิม เหมือนพวกมันเริ่มเดินเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆลีแอนน์นั่งฟังอยู่ตรงเตียง ใจเต้นโครมๆ จนแทบได้ยินเองในอก เบนที่นอนอยู่ก็สะดุ้งเหมือนละเมอ ใบหน้าซีดเผือดจนมองแทบไม่ออกว่าเป็นคนออร์เรนยังยืนชิดประตู ตาจ้องรูเล็กๆ ตรงบานเหล็ก เสียงหายใจเขาหนักกว่าเดิมครืด... ครืด... ครืด...เล็บยาวๆ ของพวกซากร้างครูดผ่านผนังอิฐ คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงเดียว แต่มีหลายเสียง สลับกันไปมาจนคนฟังขนลุกเสียงหายใจข้างนอกก็เริ่มดังขึ้น เหมือนพวกมันยืนกันเต็มปากทางเดิน“มันใกล้เข้ามา…” นักล่าคนหนึ่งเริ่มตะโกนโวยวาย สีหน้าเขาซีด“พวกมัน…ดมกลิ่นได้ใช่ไหม…” หญิงร่างเล็กที่ชื่ออาลีนพูดเสียงสั่น มือเธอกำด้ามปืนเเน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้น“ใช่” ออร์เรนตอบเสียงเรียบ แต่ดวงตาข้างเดียวก็มีแววกังวล “กลิ่นเลือดมันแรง พวกมันคงคลุ้มคลั่งกัน”ครืด…ครืด…แกร่ก…กรร เสียงเล็บครูดแรงขึ้น คราวนี้เหมือนมีตัวหนึ่งข่วนประตูเหล็กเป็นแนวยาว จนเสียงโลหะดังเอี๊ยด..ชวนให้เเสบเเก้มหู ลีแอนน์กัดฟันแน่น มองไปทางเบนที่หายใจรวยริน“…เราอยู่กันครบไหม” เธอถามด้วยเสียงห

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #9 พวกซากร้าง

    กลางคืน อุโมงค์ระบายน้ำเก่าใต้ซากเมืองร้างเสียงน้ำหยดเป็นจังหวะในอุโมงค์แคบ ลีแอนน์ประคองเบนที่ตัวสั่นระริกมาตลอดทาง แผลบนอกยังคงซึมเลือดสีเข้มเธอชำเลืองมองใบหน้าเขาที่ซีดเผือด ก่อนกระซิบเสียงเข้ม“อีกนิดเดียว…เดินต่อให้ได้”“ที่นี่…ที่ไหน…” เบนถามแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน“เขตตะวันตก เมืองร้างของนักล่า” เธอสูดลมหายใจลึก “พวกฉันมีฐานหลบภัยอยู่ใต้โรงเก็บศพเก่า”เบนสะอึก “…ฟัง…ไม่ค่อยน่าอยู่”“อย่าพูดมาก” เธอสวนเสียงแข็ง แต่ในดวงตายังมีแววเป็นห่วงลึกๆพวกเขาเดินผ่านกำแพงอิฐที่มีร่องรอยเลือดเก่าเป็นคราบ ลีแอนน์หยุดตรงประตูเหล็กสนิมเขรอะ ยกกำปั้นเคาะเป็นจังหวะเฉพาะสามครั้งเงียบจากนั้นเสียงล็อกกลไกซับซ้อนก็ดังกึกกัก ก่อนประตูจะค่อยๆ แง้มออก เผยให้เห็นช่องทางเดินมืดมิดชายร่างสูงคนหนึ่งยืนเฝ้า เขามีแขนกลสีเงินข้างหนึ่ง และผ้าคาดปิดตาข้างซ้ายดวงตาที่เหลือหรี่มองลีแอนน์ ก่อนเลื่อนมาที่เบน“ลีแอนน์” น้ำเสียงของเขาเข้ม แผ่วต่ำ “นั่นใคร”“ออร์เรน” เธอกลืนน้ำลาย “เขาคือเบน แฮรอน…ลูกชายอีแวน”บรรยากาศรอบตัวเงียบกริบไปทันทีชายที่ชื่อออร์เรนขยับช้าๆ ตามองเลือดสีเข้มที่ซึมจากผ้าพันแผล“…เลือดนั่น” เขา

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #8 เลือดอมตะ

    ในความมืดของอุโมงค์หิน ความตายไล่ตามมาติด ๆ เสียงคำรามโกรธจัดของคาร์เซียดังก้องสะท้อนในโถงใหญ่เหมือนฝันร้ายไม่สิ้นสุด เบนหอบหายใจแรง ความเหนื่อยอ่อนเกาะรัดร่างกายจนขาแทบอ่อน แต่เขายังฝืนก้าวไปข้างหน้า มือของลีแอนน์กำข้อมือเขาไว้แน่น ไฟจากหลอดที่เธอหยิบมันออกจากกระเป๋าคาดเอวส่องแสงสีเหลืองมัว ๆ บนพื้นหินเต็มไปด้วยคราบเลือด อากาศรอบตัวอับชื้น เหม็นกลิ่นสนิม ผสมกลิ่นเน่า จนแสบจมูก เสียงฝีเท้าของแวมไพร์ดังห่างออกไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้แปลว่าพวกมันจะยอมแพ้ คาร์เซียต้องตามมาแน่ เธอไม่ยอมให้เลือดของเบนหลุดมือเด็ดขาด “อีกไม่ไกล…ปลายอุโมงค์มีทางขึ้นไปข้างบน” ลีแอนน์หอบเสียงสั่น “จากตรงนั้น เราอาจหาทางออกไปถึงถนนได้” เบนพยักหน้า แม้สติจะพร่าเลือนเพราะเสียเลือดไปมาก เขามองแผลที่แขนซ้าย ตรงที่แทงเข็มเงินไว้ก่อนหน้านี้ เลือดสีเข้มยังไหลซึมออกมา แต่มันมีประกายเหมือนโลหะละลาย เขาจำได้ว่าเคยถามพ่อ…ว่าทำไมเลือดเขาถึงไม่เหมือนคนอื่น พ่อไม่เคยตอบตรง ๆ แค่บอกว่า “ถ้าเมื่อไหร่ที่มันไหลออกมา…จงระวัง ทุกคนจะอยากได้มัน” วันนี้ เขาถึงได้รู้ว่าพ่อพูดเรื่องจริง “นายต้องอุดแผล” ลีแอ

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #7 นักล่าเลือดบริสุทธิ์

    เสียงคำราม ดังไปทั่วห้องโถง คาร์เซีย เบล เดินลงจากแท่นช้า ๆ สายตาจ้องเบนไม่วางตา แวมไพร์หลายตนเริ่มขยับเข้ามาใกล้ บางตนปีนขึ้นไปเกาะเสา บางตนย่องเข้ามาเงียบ ๆ เหมือนเสือกำลังล่าเหยื่อ เบนหายใจแรง มือเขาควานใต้เสื้อคว้าเข็มเงินอีกเล่ม คาร์เซียยกมือขึ้น สั่งเสียงเข้ม “จับมัน! อย่าให้มันรอดออกไปเด็ดขาด!” ทันใดนั้น แวมไพร์หลายตนพุ่งเข้าใส่เบนพร้อมกัน เบนแทงเข็มเงินลงที่แขนตัวเอง เลือดของเขาไหลออกมา มีสีเข้มและเป็นประกาย ทันทีที่แวมไพร์แตะโดนตัวเขา—ผิวของมันไหม้ทันที เสียงกรีดร้องดังลั่น พวกมันถอยหนีด้วยความตกใจ เบนใช้จังหวะนั้นกระชากโซ่เต็มแรง เสียงเหล็กขาดดังขึ้น ก่อนที่เขาจะรีบพุ่งตัวหนีไปอีกทาง เขาวิ่งผ่านทางแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยเงาและควันตะเกียง เสียงฝีเท้าและคำรามของแวมไพร์ตามมาติด ๆ ...แล้วเขาก็สะดุดล้มในซอกมืด “เบา ๆ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นใกล้หู มือของใครบางคนดึงเขาเข้าไปในมุมมืดด้านหลังเสาหินใหญ่ เธอคือ ลีแอนน์ หญิงสาวในเสื้อหนังสีดำ ผมยาวถักเปีย มองเขาด้วยสายตานิ่งสงบ “ตามฉันมา ถ้าไม่อยากตาย” เธอกระซิบ เบนพยักหน้า เธอพาเขาลัดไปตามทาง

  • The Witcher นักล่าเเวมไพร์   #6 กองทัพที่รอวันตื่น

    เพดานหยดน้ำลงบนพื้นหินที่เปรอะเปื้อนเลือดกลิ่นสนิมโลหะ คาวเลือด และเนื้อเน่าอบอวลหนาแน่นราวหมอกภายในห้องโถงขนาดใหญ่ร่างของแวมไพร์นับร้อยนอนเรียงรายบนแท่นหินเย็นเฉียบบางตนยังคงหลับ บางตนตัวกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นเลือดบางตน…ฟันเขี้ยวเริ่มโผล่ ทั้งที่ยังไม่ได้ลืมตาหญิงในชุดคลุมดำเดินผ่านพวกมันไปอย่างสง่างามคาร์เซีย เบล — ยืนอยู่ตรงแท่นสูงสุด ดวงตาแดงดั่งเปลวไฟสุม“เติมเลือด…พวกเขาต้องตื่นก่อนรุ่งสางคืนพระจันทร์สีเลือด”คำสั่งของเธอเฉียบขาด และดังสะท้อนทั้งห้องราวเสียงปีศาจเหล่าผู้รับใช้ของเธอ — แวมไพร์ชั้นต่ำแต่งชุดหนังดำต่างลากร่างมนุษย์เข้ามาเป็นแถวชายหญิงจากหมู่บ้าน ถูกปิดตา มัดมือ“ได้โปรด...ข้าแค่ชาวบ้าน...อย่าฆ่าเมียข้า...!”เสียงร้องไห้ของชายคนหนึ่งดังลั่นก่อนจะถูกกระชากหัวไปพิงแท่นฟันคมเฉือนผ่านคอ — เลือดไหลทะลักลงสู่รางหินที่เชื่อมต่อกับแท่นแวมไพร์รางเลือด ไหลผ่านร่องหินอย่างแม่นยำหล่อเลี้ยงไปถึงแต่ละร่างของแวมไพร์ที่ยังไม่ฟื้นพวกมันเริ่มขยับ...ฟันสั่นกระทบกันดัง กรอด...กรอด…หญิงสาวอีกคนกรีดร้องเมื่อถูกผลักลงบนแท่นโลหะเข็มขนาดเท่านิ้วมือจิ้มเข้าต้นคอ เลือดไหล

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status