ใครจะเชื่อว่าหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่าง “คาริสา” จะยังครองความเป็นโสดมาจนทุกวันนี้ บางคนบอกว่าเธอมาตรฐานสูงเกินไป บางคนบอกว่าเธออาจจะเคยเจ็บช้ำจากความรักจนเข็ดขยาด แต่เหล่าเพื่อนสนิทต่างคิดไปในทางเดียวกันว่าเธอกำลังรอ “คนไกลบางคน” เธอมั่นใจว่าไม่ได้ยึดติดกับคำสัญญาที่ให้ไว้กับ “กฤษณ์” เพื่อนชายคนสนิทที่คิดไม่ซื่อ ทว่าเด็กหนุ่มที่ปรากฏในความฝันบ่อยครั้ง กับสัญญาแต่งงานเด็กเล่นเมื่อสิบปีก่อนที่ยังอยู่ในกรอบรูปวันปัจฉิมนิเทศน์ที่ผนัง กลับคอยย้ำเตือนให้เธอไม่อาจลืมเขาได้สักวัน จนกระทั่ง...เขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอพร้อมเอ่ยทวงสัญญาด้วยสีหน้าจริงจัง
View Moreบทนำ
“...ฉันชอบเธอ”
“อะไรนะ”
“ริสา ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน”
“กฤษณ์ แน่ใจนะว่านายไม่ได้เป็นไข้” คาริสาหัวเราะกลบเกลื่อน พร้อมกับยื่นมือออกไป ทำท่าจะแตะหน้าผากของเด็กหนุ่มเพื่อวัดไข้
“ไม่เอาน่า ฉันกำลังจริงจังนะ” กฤษณ์เบี่ยงศีรษะหลบหลังมือของคนตัวเล็ก ใบหน้าคมดูเคร่งเครียด ไม่มีแววล้อเล่นสักนิด ท่าทางแบบนี้ทำให้เด็กสาวที่นึกว่าเพื่อนแกล้งนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
ผ่านไปเกือบสองนาที คาริสาถึงได้เอ่ยปากทำลายความเงียบระหว่างพวกเขาสองคน “แต่เราเพิ่งจบ ม.ปลาย เองนะ อนาคตก็ไม่รู้จะเป็นยังไง ให้มาคิดเรื่องมีแฟนตอนนี้...ฉันว่าเร็วไปสิบปี”
“ได้...สิบปี”
“...” คาริสารู้สึกเหมือนตนเองตามอะไรไม่ค่อยทัน
“ถ้าสิบปีฉันยังไม่เปลี่ยนใจ แล้วเธอยังไม่มีใคร เรามาแต่งงานกัน” พอมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่เหมือนจะมีเครื่องหมายคำถามแปะเอาไว้กลางหน้าผาก กฤษณ์จึงขยายความให้ด้วยเสียงดังฟังชัด
แต่นั่นกลับทำให้ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นอีก
คาริสาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นบ้า หรืออ่านนิยายน้ำเน่ามากเกินไปกันแน่ แต่นัยน์ตาสีนิลคมเข้มที่ฉายแววจริงจังกลับทำให้เธอไม่กล้าหัวเราะ
“ได้...ถ้าถึงวันนี้ในอีกสิบปีข้างหน้า แล้วฉันยังไม่มีใคร ก็จะรับนายไว้เป็นเจ้าบ่าว” คาริสายิ้มตอบ แต่ในใจไม่เชื่อสักนิดว่าอีกฝ่ายจะรอตนเองได้นานถึงสิบปี ดีไม่ดีไปเจอน้องใหม่ที่มหาวิทยาลัยก็ลืมเธอแล้ว
“งั้นรอตรงนี้เดี๋ยว ห้ามไปไหนนะ” ว่าแล้วร่างสูงก็แล่นไปยังอาคารเรียนด้วยความเร็วราวสัญญาณอินเทอร์เน็ตระดับ 4G
ผ่านไปสิบนาที เด็กหนุ่มที่หายตัวไปก็วิ่งกลับมา พอมาถึงก็ดึงสาวน้อยที่ยืนรอเขาจนขาแข็งไปยังม้าหินที่อยู่ไม่ไกล หลังจากปล่อยมือ ก็คลี่กระดาษขนาดเอสี่จำนวนสองใบลงบนโต๊ะ แล้วล้วงปากกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อวางไว้เคียงกัน
“อะไรของนาย” คาริสามองกระดาษสลับกับใบหน้าที่กำลังยิ้มร้ายของกฤษณ์อย่างงุนงง
“สัญญาแต่งงานไงล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“สะ...สัญญาอะไรนะ” ดวงตาของคาริสาเบิกกว้างเป็นหนที่สองของวัน คิดไม่ถึงว่ากฤษณ์จะมาไม้นี้
“สัญญาแต่งงานไงล่ะ พูดปากเปล่าจะไปมีน้ำหนักอะไร เดี๋ยวเธอบอกว่าจำไม่ได้ ฉันก็แย่น่ะสิ”
“เอางี้จริงดิ”
“เออ...เอางี้แหละ”
สาวน้อยตวัดหางตาใส่เด็กหนุ่มอย่างรำคาญทีหนึ่ง ก่อนคว้าปากกาลูกลื่นมาเซ็นชื่อตนเองลงไปในกระดาษอย่างขอไปที จากนั้นก็มองอีกฝ่ายเซ็นชื่อจนเสร็จ
“สัญญาฉบับนี้มีสองใบ ต่างคนต่างเก็บไว้ หลังจากครบกำหนดสัญญา หากอีกหนึ่งปีให้หลังไม่มีใครทวงถาม สัญญาฉบับนี้ถือว่าสิ้นสุด” เด็กหนุ่มร่ายข้อตกลงราวกับนักกฎหมายที่เธอเคยดูในซีรีส์สืบสวนสอบสวน
“จ้า...ตามนั้น ดิฉันจะรอคุณชายกฤษณ์มาทวงสัญญานะเจ้าคะ” คาริสาจีบปากจีบคอ ทำเสียงสูงเลียนแบบตัวละครในซีรีส์ย้อนยุคที่ดูเมื่อคืน
“ถึงเวลาฉันมาจริง ๆ เธออย่าคิดเบี้ยวก็แล้วกัน”
ดิ๊งดะดิ๊ง ดะดิ๊ง...
พรึบ!
เสียงนาฬิกาปลุกดึงคาริสาออกจากความฝัน เธอเอื้อมมือไปคว้าสมาร์ตโฟนพลางใช้ปลายนิ้วกดลงบนคำว่า “ปิด” เพื่อหยุดเสียงเพลงที่ดังแสบแก้วหูนั่นทันที ในที่สุดห้องก็กลับคืนสู่ความสงบ
พอความง่วงงุนทุเลาเบาบาง คาริสาก็หวนคิดถึงความฝันที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
หลังจากวันนั้น เธอเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ส่วนกฤษณ์ต้องย้ายตามบิดาซึ่งดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไปยังประเทศอังกฤษ จึงไม่ได้เข้าศึกษาที่เดียวกันตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก
เพียงเท่านี้กระดาษแผ่นนั้นก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว
คาริสาครุ่นคิดพลางมองไปยังกรอบรูปบานใหญ่ที่เธอตกแต่งไว้อย่างน่ารัก ภายในนั้นอัดแน่นไปด้วยความทรงจำในวันวาน เสื้อนักเรียนสีขาวที่ถูกขีดเขียนคำอวยพรและคำอำลาในวันปัจฉิมนิเทศ รูปถ่ายของนักเรียนชั้น ม.6/4 ดอกไม้ที่เธอได้รับในวันนั้น รวมไปถึงกระดาษเอสี่แผ่นหนึ่งที่ลงลายมือชื่อของเธอกับเด็กหนุ่มในความฝัน
คาริสาหัวเราะพลางส่ายศีรษะน้อย ๆ ในขณะที่มองกระดาษซึ่งถูกเขียนขึ้นเมื่อสิบปีก่อนแผ่นนั้น
สัญญานี้จะเป็นจริงได้อย่างไร ในเมื่อระยะทางห่างไกลไม่ใช่สิ่งเดียวที่เป็นอุปสรรค
แม้ใครต่อใครจะกล่าวว่าโลกทั้งใบถูกย่อลงด้วยพลังของสิ่งที่เรียกว่าโซเชียลมีเดีย
ต่อให้พวกเขาสามารถพบหน้ากันได้ผ่านวิดีโอคอล รับรู้เรื่องราวความเป็นไปของอีกฝ่ายผ่านไทม์ไลน์ของแอปพลิเคชันดังที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร F ก็ตาม แต่ในโลกของความเป็นจริง ทั้งสองต่างมีสังคมของตัวเอง ดังนั้นนอกจากกดไลก์และคอมเมนต์ใต้รูปถ่ายหรือสเตตัสทั้งหลาย พวกเขาก็แทบไม่ได้พูดคุยเรื่องอื่น ๆ เหมือนสมัยเป็นเพื่อนร่วมชั้น
“ตอนนี้นายก็คงคิดว่ามันตลกเหมือนกันใช่ไหม” คาริสามองหน้าเด็กหนุ่มในรูปถ่ายแล้วพึมพำเบา ๆ
นี่ก็ผ่านไปสิบปีแล้ว คนก็อยู่ไกล ต่อให้ตอนนี้เธอและเขาต่างยังไม่มีคนรู้ใจ แต่สัญญาเด็กเล่นแบบนั้น ใครจะคิดเป็นจริงเป็นจังกันเล่า
คาริสาคิดว่าความเป็นไปได้ที่เขาจะกลับมานั้นน้อยมาก เธอเองก็ไม่ควรไปคิดเป็นจริงเป็นจังกับเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว จึงสะบัดศีรษะเบา ๆ เพื่อไล่ความคิดออกไป ทว่าจู่ ๆ ก็มีอีกความคิดแวบเข้ามา
แต่ถ้าพ่อคุณดันบ้าดีเดือดกลับมาทวงสัญญาเข้าจริง ๆ เธอจะทำอย่างไร
เซย์เยส? หรือเซย์โน?
บ้าน่าริสา นี่เธอชักจะฟุ้งซ่านมากไปแล้ว
คาริสายกมือขึ้นเขกศีรษะตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ แล้วลงความเห็นว่าตัวเองคงดูซีรีส์เกาหลีมากเกินไปจนเก็บเอาไปฝัน...
“มันเป็นหน้าที่ที่พี่ต้องปกป้องน้องทิชาอยู่แล้ว” สิ้นคำพูดสุดเท่ บรรดาแฟนคลับที่พยายามจิ้นคนทั้งคู่ก็พิมพ์แซวกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็ส่งโดเนทให้เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าโอเค ถ้าไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบจะคบหากัน“แหมทุกคน พูดอย่างนี้ทิชาก็เขินแย่สิคะ”“ไม่ต้องเขินหรอกครับ คนเยอะแยะ” คิรากรเล่นมุกไปตามเรื่อง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูกแฟนหมาด ๆ มองอย่างอาฆาตจากด้านหลัง“แหม พี่คินก็ ไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอคะ”“น้องทิชาน่ารัก จะให้พี่พูดจาใจร้ายได้ยังไง”“พี่คินก็...” เกมเมอร์สาวทรงโตหัวเราะคิกคัก เหลือบมองคิรากรที่ตั้งหน้าตั้งตายิงซอมบี้ด้วยแววตาหวานเชื่อม แต่ก็ต้องมีอันสะดุ้ง“อุ๊ย! แม่”ปาริมากระแทกถาดใส่อาหารลงตรงที่ว่างบนโต๊ะ แล้วมองหญิงสาวที่น่าจะอ่อนกว่าตนเองหลายปีด้วยแววตาเยียบเย็น คิรากรหันไปมองตามเสียง เห็นแฟนหมาด ๆ ของเขาทำหน้าบอกบุญไม่รับ ทั้งที่ปลุกปลอบตนเองอยู่ในใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็ยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบอยู่ดี“ทุกคนครับ ในเมื่อวันนี้เราเล่นจบ Ep07 พอดี ผมกับน้องทิชาก็ขอจบไลฟ์สดไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้า บายชาวเกมเมอร์” คิรากรรีบพูดปิดรายการ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะ
คิรากรคว้าร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอดไว้แนบอก ก่อนก้มลงจูบพวงแก้มของปาริมาหนัก ๆ สูดลมหายใจรับกลิ่นหอมละมุนอย่างเต็มที่ “พูดแบบนี้ปาล์ม…ยอมเป็นเมียพี่แล้วใช่ไหม”“ใจเย็น ๆ พ่อคุณ แค่แฟนก็พอเหอะ” ปาริมาหัวเราะคิกคัก“เอายังไงก็ได้ พี่แล้วแต่ปาล์มเลย”“งั้น ให้เป็นพี่ชายข้างบ้านเหมือนเดิมดีไหมนะ”“ถ้าเป็นแล้วเอาปาล์มได้ พี่ก็ไม่ขัด” คิรากรยักคิ้ว มองเธอด้วยนัยน์ตาพราวระยับ ก่อนก้มลงจุมพิตบนกลีบปากสีหวานของเธอ“เดี๋ยวเถอะ” หญิงสาวที่ตอนแรกคิดจะแกล้งคนอื่น แต่ตอนนี้ตนเองกลับหน้าแดงไปหมด ทำเป็นเสียงเข้มใส่คนตัวโตที่กำลังพรมจูบไปทั่ว ทำเอาเนื้อตัวเธอเริ่มอ่อนระทวย“ว่ายังไงครับ” ชายหนุ่มกระซิบชิดริมหูเธอ“ก็ต้องให้เป็นแฟนอยู่แล้ว แต่ว่านับจากนี้ไปพี่คินเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะคะ”“ต่อให้ต้องตาย พี่ก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน”ชายหนุ่มค่อย ๆ บรรจงจุมพิตผิวกายขาวระจ่างของอดีตน้องสาวข้างบ้านที่เปลี่ยนมาเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ แล้วเริ่มต้นกระบวนการทวนความจำให้ปาริมา ตอกย้ำสัมผัสให้ตราตรึงจนทั่วทุกอณูของเธอหลังจากถูกกระตุ้นความทรงจำไปทุกสัดส่วนปาริมาก็อ่อนเพลียจนลุกแทบไม่ไหว แต่เกมส์เมอร์หนุ่มที่บุกต
“มะ…ไม่เอาค่ะ” เธอเบี่ยงศีรษะหลบใบหน้าหล่อเหลาที่เคลื่อนเขามาใกล้ มือทั้งสองก็ยันอกเขาเอาไว้สุดแรง ตอนแรกยังกลัวอยู่ว่าถ้าเขาใช้กำลังตนเองจะทำอย่างไร แต่ชายหนุ่มที่กำลังตั้งท่าจะช่วยทวนความจำให้กลับหยุดการรุกราน พอเธอหันมามองเขาตรง ๆ ก็พบว่ารอยยิ้มยั่วล้อที่มีเมื่อครู่จางหายไปแล้ว เหลือเพียงสีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่เคย ซึ่งทำให้เธอรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เลยรู้สึกว่าต้องอธิบายอะไรบ้าง “คือว่าปาล์ม เจ็บ…ตรงนั้น”“แน่ใจเหรอ ว่าแค่นั้น”“…” ปาริมากลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดถึงความกังวลของตนเองออกไปดีหรือเปล่า“มีอะไรก็พูดมาตามตรง” เขาทำเสียงเข้ม“คือว่า…เรื่องเมื่อคืน”“พี่จะรับผิดชอบทุกอย่าง ปาล์มสบายใจได้” ได้ยินแค่นั้นเขาก็ชิงตอบ เพราะคิดว่าเธอกังวลเรื่องนี้“พี่คินคะ ปาล์มว่า…” ปาริมาอึกอัก ถึงคิรากรจะพูดในสิ่งที่ตนเองอยากฟัง แต่เธอกลับรู้สึกไม่สบายใจ ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะไม่นำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลสำหรับผูกมัดผู้ชาย เธอไม่อยากให้เขานึกดูถูก “ปาล์มไม่คิดว่าพี่คินต้องรับผิดชอบอะไร”“ว่าไงนะ” หัวคิ้วของเขาขมวดมุ่นจนแทบจะพันกัน“ถ้าเมื่อคืนนี้ค
คิรากรมองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความสุขสมของเธออย่างภาคภูมิ เขาทำให้เธอเสร็จสมไปถึงสามครั้ง ตอนนี้ช่องสวาทจึงตอดรัดตัวตนของเขาแน่นหนึบ ชายหนุ่มจึงอดกระแทกร่องรักแรง ๆ ไม่ได้ สะโพกสอบออกแรงสอดเสยลำกายอย่างต่อเนื่อง เข้าสุดออกสุด จนปาริมาไม่อาจนอนนิ่งเฉยอยู่ได้ เธอเด้งสะโพกรับทุกจังหวะที่เขาถาโถมเข้าหาอย่างไม่ยอมแพ้ความเสียวกระสันพุ่งทะยานถึงขีดสุด และแล้วชายหนุ่มก็ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้มทุกหยาดหยดสู่ช่องทางสวาทของเธอ“ปาล์ม อ่า...” พี่ชายข้างบ้านที่กำลังจะเป็นเพียงอดีตสูดปากร้องครางเรียกชื่อปาริมาอย่างอดไม่ไหว เขาไม่คิดเลยว่าการได้ร่วมรักกับคนที่ใจปรารถนาจะสร้างความสุขสมได้มากมายขนาดนี้คิรากรยิ้มกริ่ม มองหญิงสาวที่นอนระทดระทวยอยู่ใต้ร่างเขาด้วยแววตารักใคร่ ยอมรับว่าตอนนี้ตนเองติดเนื้อพึงใจหลงใหลเธอจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว ชายหนุ่มก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนหวาน ถ่ายทอดความรู้สึกลึกซึ้งที่อัดแน่นมานานให้เธออย่างเต็มที่จนกระทั่งความเหนื่อยล้าผ่านพ้นไป คิรากรที่กำลังเต็มตื้นกับความหวานฉ่ำของปาริมา ก็พร้อมจะเริ่มต้นบทรักบทใหม่กับเธออีกครั้ง และอีกครั้งปาริมามัวเมาไปกับจังหวะที่เขาปรนเปร
“เดี๋ยวพี่จะพิสูจน์ให้ดู ว่าพี่ต้องการปาล์มมากแค่ไหน ดีไหม” เขาเอ่ยเสียงหนักแน่น พร้อมส่งท่อนลำไปยังช่องทางรักของเธอตื้น ๆ เขาทำซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น รอจนกระทั่งหญิงสาวผ่อนคลายจากความแตกตื่น แล้วค่อยกดจนส่วนหัวหยักบานเข้าสู่กายเธอจนมิด“ฮึก...พิสูจน์แบบนี้ก็ได้เหรอ”คิรากรเพียงหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แล้วตั้งหน้าตั้งตาพิสูจน์คำพูดของตนเองต่อด้วยการดันลำเอ็นยาวใหญ่เข้าไปในถ้ำสวาทให้ลึกขึ้น แต่เส้นทางรักที่ยังไม่เคยถูกใครบุกเบิกมาก่อนทั้งคับแน่นและตอดรัดเสียจนตัวตนของเขารวดร้าวไปหมด“พี่คิน ปาล์มเจ็บ” หญิงสาวร้องประท้วงในขณะที่ความใหญ่โตค่อย ๆ แทรกลึกเข้ามา“อย่าเกร็ง เดี๋ยวพอมันเข้าไปสุดก็หายเจ็บแล้ว”“ไม่ไหว พี่คินเอามันออกไปก่อนได้ไหม”“ไม่ได้...เอาออกไม่ได้แล้ว”“เมื่อไหร่มันจะเข้าหมดอะ ปาล์มเจ็บ” หญิงสาวที่ถูกแท่งเพลิงอันเขื่องจู่โจมเริ่มดิ้น ทำให้ร่องสวาทยิ่งตอดรัดจนคิรากรรู้สึกเจ็บเหมือนกัน แต่ความเสียดเสียวมีมากกว่า และถ้าเขาหยุดทุกอย่างลงตอนนี้ ก็จะยิ่งเป็นการสร้างความทรงจำอันเลวร้ายเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งแรกให้ปาริมาให้ตายเขาก็จะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด!เกมเมอร์หนุ่มไม่อ
“อร่อยปะ” เขาถามพลางยักคิ้วให้เธออย่างกวน ๆ แต่มือทั้งสองข้างเริ่มสาละวน กับการบีบคลึงหน้าอกคัพบีของเธออย่างมันเขี้ยว“ไอ้พี่คินบ้า!” เธอสบถ เนื่องจากไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองอร่อย“เดี๋ยวเถอะ เป็นเด็กเป็นเล็กหยาบคายกับพี่ได้เหรอ” เขาส่งเสียงดุพร้อมกับใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บี้ยอดอกสาวแล้วดึงแรง ๆ เป็นการลงโทษที่เธอพูดไม่เพราะ “อือ...ปาล์มขอโทษค่ะ อ๊า...” ปาริมาสะดุ้ง แอ่นอกจนตัวโค้งไปตามแรงดึงของเขา“ดีมาก...เด็กดี” คิรากรค่อย ๆ ลูบศีรษะของปาริมาเหมือนที่เคยทำ แต่ดวงตาที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาทำเอาคนมองสะท้านไปทั้งกาย“พี่คิน ปาล์มกลัว มันจะเจ็บมากไหมอ่ะ” เธออ่านนิยายมาหลายเรื่อง และทุกครั้งที่นางเอกถูกเปิดซิง เช้ามาเหล่านักเขียนทั้งหลายก็มักจะบรรยายว่านางเอกได้รับบาดเจ็บตรงน้องสาว และที่แน่ ๆ มันต้องมีเลือดออก“ไม่ต้องกลัว แค่ทำตามที่พี่บอก รับรองว่าปาล์มจะสุขจนลืมเจ็บไปเลย”“แต่...แต่ว่า...ไอ้นั่นของพี่คิน เหมือนจะใหญ่มากเลยนะคะ” เธอไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าจะรับท่อนเอ็นที่เต้นตุบ ๆ อยู่บนหน้าท้องของเธอไหว ขนาดตอนนี้มันยังไม่เข้าไป ก็พาดยาวมาจนเกือบจะเลยสะดืออยู่รอมร่อ “ปาล์ม...จะฉีกไหม” ‘ฉีก
Comments