“อาจารย์ปล่อยพวกเราช้าไปตั้งยี่สิบนาที หิวข้าวจะแย่แล้ว”
ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับเบลเพื่อนสนิทสุดซี้ที่รู้จักกันเมื่อตอนรับน้องพร้อมสำทับไปว่า “อาจารย์เดินเข้าห้องมาสอนพวกเราเลทไปแค่ห้านาที แต่ปล่อยนักศึกษาอย่างพวกเราเลทไปตั้งสิบห้านาที
จริง ๆ เราควรจะชินได้แล้วแหละแต่ก็ไม่ชินสักที เพราะวิชานี้ชอบทำให้พวกเราหิว!” ฉันกลอกตา ลูบท้อง โคลงหัว ขณะเดียวกันก็ลง มือเก็บชีท เก็บปากกายัดใส่กระเป๋าดินสอแล้วถึงได้หยิบโทรศัพท์ออกมาจากช่องเล็กด้านในหลังจากที่ไม่ได้แตะต้องมันนานถึงสองชั่วโมงกว่าคลาสนี้อาจารย์แกจัดว่าเข้มงวดเรื่องการใช้มือถือในชั่วโมงเรียนมากถึงมากที่สุด ทุกคนที่ลงเรียนกับแกจะรู้กันถ้วนหน้าว่าถ้า
ไม่อยากมีปัญหากับแกอย่าได้ควักมันออกมาเชียว เพราะถ้าเกิดสายตาแหลมคมของเจ๊แกดันกวาดมาเห็นเข้ารับรองได้ว่าเรื่องใหญ่แน่นอน เคยมีตัวอย่างให้เห็นกันมาแล้ว แถมยังมีเสียงเล่าลือเสียงเล่าอ้างส่งต่อ กันมาเป็นทอด ๆ ให้ได้ยินประจำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีข้อยกเว้นนะ ย้ำว่าต้องกรณีที่ร้ายแรงจริง ๆ ถึงได้รับการผ่อนปรน“เออหิวว่าแต่เราจะไปกินข้าวร้านไหนดี ไม่เอาโรงอาหารนะ”
“อือ เบื่อเหมือนกัน งั้นร้านป้านีมะ ไม่ได้ไปกินหลายวันละ”
“Harlan Gun”
ฉันอ่านทวนชื่อของคนที่เพิ่งส่งคำร้องขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก เดาว่าน่าจะเป็นคนในมอนี่แหละ รูปโปรไฟล์ก็เป็นเป็นรูปหันหลังฉันเลยมองไม่รู้ว่าเป็นใคร และด้วยความอยากรู้ที่มีมากกว่าปกติฉัน
เลยกดเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวเพื่อตรวจสอบดูก่อนว่าควรจะรับหรือ ไม่รับดี มีเพื่อนร่วมกันไหม ถ้าท่าทางไม่น่าไว้ใจฉันก็ลบทิ้งทันทีเช่นกันถือเป็นความโชคดีของฉันอย่างหนึ่งที่เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวไม่ได้ปิดกั้นตั้งค่าเฉพาะเพื่อนเท่านั้น ฉันเลยเลื่อนดูเรื่องราวที่ผ่านมาได้ยาว ๆ แต่เซ็งตรงที่มันไม่มีอะไรให้ล้วงให้เจาะลึกข้อมูลส่วนตัวคนแอดมาเท่าไรเลยไง มีแต่คนแท็กเกม แท็กโน่นนี่นั่นมาเต็มไทม์ไลน์จนดูรกไปหมด
เห็นแบบนี้แล้วไม่เซ็งยังไงไหวจริงปะ
แต่ถึงจะเซ็งและแอบบ่นในใจแต่ฉันก็ยังไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจไว้เพียงเท่านี้นะ ยังคงมุ่งมั่นไถนิ้วไล่ดูลึกลงไปเรื่อย ๆ แม้จะเริ่มเมื่อยนิ้วมากแล้วก็ตาม มันต้องมีอะไรให้เห็นบ้างแหละ และพอเลื่อนดูลึกลงไปลึกลงไป
ฉันก็เจอ...
ปืน!
ไม่ใช่ปืนพกพาที่มีไว้ใช้ป้องกันตัวนะ
เป็นปืนที่เป็นคน!
“ร้านรัน ๆ กัน ๆ ที่แกว่ามันอยู่ตรงไหนพริกหวาน”
ฉันเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะใส่ยัยแจนที่ทำหน้างงปนสงสัยใส่ฉัน “อยู่ตรงไหนฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันอะไอ้ร้านรัน ๆ กัน ๆ ของแกเนี่ย” พอฉันบอกไปแบบนั้นยัยแจนผู้ใสซื่อก็ยังคงทำหน้างงใส่ไม่เลิก ฉันเลยต้องอธิบายใช้ชัดขึ้น “ก็ที่ฉันไม่รู้เป็นเพราะฉันไม่ได้พูดถึงร้านข้าวไงแจน”
“อ้าว แล้วสรุปแกพูดถึงอะไรล่ะถ้าไม่ใช่ร้านข้าว”
“คน”
“ใคร”
“ปืน คนที่ฉันเคยเล่าให้แกสองคนฟังเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนไง
ที่เรียนวิศวฯ อะ แกจำกันได้ไหม เขาแอดเพื่อนในเฟซบุ๊กมา” ฉันพูดพลางกดรับคำขอของปืนในที่สุด“ถามจริง”
“ก็จริงไงแจน”
“ไหนขอฉันกับยัยเบลดูหน้าปืนคนหล่อหน่อยเร็ว”
“แฟนยัยพิมพ์เขาเป็นลูกชายเจ้าของร้านทอง ตามจีบยัยพิมพ์อยู่นานกว่าแม่ลูกสาวฉันจะยอมใจอ่อนตกลงปลงใจคบหาด้วย ไอ้ตอนเรียนมหา’ลัยน่ะไม่เคยมีแฟนอย่างใครเขาหรอก” ปากป้าณีพูดกับป้าหมอนคนที่แกกำลังเม้าท์ด้วย ทว่าปรายตามองมาทางฉันที่นั่งโต๊ะติดกัน ประโยคต้นพูดอวยลูกสาวตัวเอง ประโยคหลังนี่กระทบกระเทียบ นี่แหละนิสัยป้าฉัน ซึ่งก็คือลูกพี่ลูกน้องของพ่อตอนนี้ขั้นตอนการทำบุญเลี้ยงพระแล้วผ่านพ้นไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวรับประทานอาหารร่วมกัน ป้าณีแกสั่งโต๊ะจีนมาหกสิบโต๊ะ อันนี้ทราบจากแม่ พี่พิมพ์วันนี้แต่งตัวสวยจัดเต็ม ข้างกายมีแฟนหนุ่มซึ่งได้รับการชื่นชมจากป้าณีไม่ขาดตามติดไม่ห่าง“โชคดีของยัยพิมพ์มันแล้วณีเอ๊ย แต่จะว่าไปแล้วลูกหลานตระกูลเธอได้แฟนหน้าตาดีกันทั้งนั้น” ป้าหมอนเอ่ยขึ้นมา ไม่ต้องคอยเงี่ยหูฟังฉันก็ได้ยินแม้ว่าเสียงดนตรีในงานจะดัง “อย่างแฟนของยัยหนูพริกหวานนั่นก็ดูดีเชียว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะทางบ้านคงไม่ธรรมดา ผิวพรรณงี้ผุดผ่อง หน้าหล่อยังกับพระเอกละครแน่ะ ได้ยินใครว่าขับรถราคาหลายล้านเลยนะ”“แฟนยัยพิมพ์ก็เปลี่ยนรถขับเป็นว่าเล่น เอาเถอะยังไงฉันขอตัวไปคุยกับแขกคนอื่นต่อแล้วกันนะหมอน”“ป้าณีแก
“แฟนปืนสวยจัง”ลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้านประโยคแรกที่ได้ยินก็ทำฉันยิ้มกว้าง วางมือลงบนฝ่ามือแกร่งที่ยื่นออกมารอรับ ริมฝีปากสวยแนบจูบลงบนหลังมือฉันด้วยสัมผัสทะนุถนอม ก่อนเขาจะรวบเอวฉันเข้าไปกอดแนบอก“แฟนเค้าก็หล่อมากกกก” ลากเสียงพลางคล้องแขนโอบรอบลำคอแกร่ง โน้มคนตัวสูงให้ก้มต่ำลงมาหา จูบหนัก ๆ ที่แก้มนุ่มซึ่งนุ่มน้อยกว่าฉันนิดนึง ก่อนจะเกยคางกับแผ่นอกแข็ง ๆ แหงนคอมองดวงตาลุ่มลึกที่แสนอบอุ่น“ชักไม่อยากให้ดื้อไปออกงานแล้วสิ หรือเราจะไม่ไปดี” ปืนพึมพำ จูบเปลือกตาฉันตามด้วยจมูก แก้มทั้งสองข้าง และมาหยุดที่ริมฝีปาก“เปลี่ยนใจมานอนกอดกันอยู่บ้านแทนเถอะค่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันปืนคิดถึงกอดอุ่น ๆ ของดื้อ” แล้วเขาก็จูบจุ๊บปากฉันติด ๆ กันจนฉันหลุดเสียงหัวเราะ คิดถึงส่วนหนึ่ง หวงก็ส่วนหนึ่งแหละอาการนี้อะ หลังกลับจากบ้านสวนปืนฉันก็เอ้อระเหยอยู่ในกรุงเทพฯ ต่ออีกสามวัน แล้วถึงได้กลับมาบ้าน ตอนมาปืนก็มาส่งนี่แหละ แต่เขาจะมาขลุกตัวอยู่บ้านฉันลากยาวมันก็ไม่เหมาะ อีกอย่างเขาต้องช่วยงานพ่อกับแม่ด้วย เพราะใกล้สิ้นปีแบบนี้ทั้งร้านอาหาร และบริษัทต่างก็ยุ่งพอกัน เมื่อวานกว่าจะขับรถมาถึงที่บ้านฉันก็ปาเข้าไ
‘เกียร์วิศวฯ คือเกียร์แห่งความภาคภูมิใจ มีไว้เพื่อระลึกถึงความยากลำบากว่ากว่าจะได้มากูต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหน ส่วนเกียมัวคือเกียร์ที่กูก็ต้องพึงระลึกอยู่เหมือนกันว่าอย่าได้ทำอะไรให้เกียนี้ระคายเคืองเพราะอาจส่งผลถึงชีวิตกูได้’“ยิ้มอะไรคะดื้อ” เสียงทุ้มนุ่มถามข้างหู“คิดถึงเรื่องเกียร์อยู่ค่ะ” เงยหน้ายิ้ม แผ่นหลังพิงอกแกร่งสบาย“เกียร์เหรอคะ ดื้อหมายถึงเกียร์อะไร เกียร์ที่ปืนให้ดื้อเก็บรักษาเอาไว้ หรือปืนที่เกียมัว” เขาเขี่ยปลายจมูกฉัน ประโยคท้ายกระซิบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ“ก็ทั้งสองแหละ” ฉันยิ้มเต็มใบหน้า ปืนรัดแขนแน่นแสดงอาการมันเขี้ยวฉัน ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าคนเยอะเขาคงจับฉันฟัดไปแล้ว ไม่ทำแค่หอมแก้มธรรมดาหรอก“นี่ ๆ ๆ ที่เราจะปาร์ตี้หมูกระทะกันเนี่ย มีของครบเหรอ”“เออว่ะ ถ้าแจนไม่ทักคงไม่มีใครคิด” เป้ขมวดคิ้ว เท้าเอว“ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงคืนนี้ก็ได้กิน”“พูดแบบนี้หมายความว่ามึงเตรียมไว้แล้วเหรอวะไอ้ปืน”“อือ”สรุปได้ว่าก่อนมาปืนให้คนงานช่วยเตรียมซื้อเสบียงไว้รอท่าพวกเราอยู่ก่อนแล้ว เหมือนเขารู้อะว่าความต้องการของทุกคนคืออะไร รางวัลที่เขาสมควรได้ฉันเลยจัดไปชุดใหญ่ หอมแก้มเน้
เราใช้เวลากินข้าวกันประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นฉันก็ไล่ปืนให้ไปนั่งดูทีวี ส่วนฉันก็ทำหน้าที่เก็บกวาดโต๊ะอาหารแล้วถึงนำจานชามทั้งหมดมาล้างทำความสะอาด เสร็จจากในครัวฉันก็แวบมาดูปืนแป๊บหนึ่ง เห็นเขานั่งดูหนังเงียบ ๆ ฉันก็ยิ้มพอใจก่อนจะหมุนตัวเดินมาทางห้องนอน อาบน้ำอีกสักรอบ คืนความสดชื่นให้ร่างกาย“ถึงว่าทำไมหายมานาน”เท้าพลันชะงักเมื่อได้ยินเสียงเอื่อยเฉื่อยทักขึ้นมา ฉันคลี่ยิ้มแล้วเดินตรงมาที่เตียง แขนยาว ๆ ข้างหนึ่งเด่ออกรอท่าให้ฉันถลาเข้ามาอยู่ในวงแขน ส่วนอีกข้างกำมือถือฉันไว้ ระหว่างเราไม่มีความลับต่อกัน ใครจะใช้ของใครจึงไม่ใช่ปัญหา เขาเล่นของฉัน ฉันเล่นของเขา หยิบผิดหยิบถูกสลับเครื่องกันประจำเพราะตอนนี้ เราใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ความคิดปืนอีกแหละ เงินเขาด้วย“นึกว่าจะได้นอนหลับสบายบนเตียงคนเดียวซะอีก” แสร้งบ่นทว่าก็ทิ้งตัวลงนอนซบอกอุ่น ๆ ที่ช่วงหลังมานี้ฉันใช้มันนอนต่างหมอนเป็นประจำ“คิดว่าจะได้นอนหลับสบายจริง ๆ เหรอคะคนสวย” ถามเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนจะงับแก้มฉันไปคำใหญ่ และดูดจนเกิดเสียงดังบ๊วบ ชอบเล่นอะไรแบบเนี้ย “ตอนอาบน้ำใหม่ ๆ นี่น่ากินนักแหละ” คราวนี้
ฉันกลั้นหายใจขณะเปิดและปิดประตู ก่อนจะเดินย่องเบา ลงน้ำหนักแค่ปลายเท้าเข้ามาในห้องนอนกว้าง ร่างสูงเปลือยท่อนบนอวดแผ่นหลังขาวจั๊วะของผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ที่กำลังนอนคว่ำหน้า ไม่รู้สึกรู้สากับอุณหภูมิที่เปิดเอาไว้เย็นจัด ฉันกัดริมฝีปากพลางอมยิ้ม คลานเข่าขึ้นมานั่งทับขาอยู่บนเตียง ใช้นิ้วชี้จิ้มสะกิดจึก ๆ บริเวณเหนือขอบกางเกงนอนขายาวก็ยังไม่ขยับจึงตัดสินใจเหยียดขาข้างขวาตวัดคร่อมสะโพกสอบก่อนจะพาตัวเองปีนขึ้นมานอนทับเรือนกายแข็งแรง แกล้งเป่าลมเข้าไปในหูสะอาด ปลุกคนนอนตื่นสายให้ตื่นจากการนอนหลับฝันดี“ปืนนนนน”“อือ”“ตื่นได้แล้วค่ะ ตอนนี้จะเที่ยงแล้วนะคะ”พรึ่บ“ว้าย” กรีดเสียงร้องด้วยความตกใจ ปืนพลิกตัวทีเดียวฉันก็ตกอยู่ใต้ร่างในอ้อมแขนเขา ทิ้งน้ำหนักตัวกว่าเจ็ดสิบกิโลกรัมให้ฉันเป็นคนแบกรับเอาไว้“แฟนปืนตัวหอมจังค่ะ” เสียงแหบแห้งของคนเพิ่งตื่นงึมงำ จมูกกับปากคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอ ฉันแทรกนิ้วเข้าไปซุกในเส้นผมนุ่มลื่น สิ่งที่โปรดปรานอีกอย่างหนึ่งของฉันคือการได้เล่นผมเขา แล้วเขาเองก็ชอบที่ฉันหมั่นนวดคลึงหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ ผู้ชายหลายคนอาจจะถือ ไม่ปลื้มที่แฟนเล่นหัวแต่ส
หลังจากกินอิ่มเราก็หอบหิ้วของฝากมาให้พ่อกับแม่ ปืนเขาคอยถามตลอดว่าเอาอันนั้นไหม พ่อจะกินไหม แม่จะชอบรึเปล่า แล้วเขาก็เข้ากันได้ดีกับน้องชายฉันมาก ๆ ฉันดีใจนะ ดีใจมากเลยล่ะที่การคบกันของเราสองคนไม่ได้นำพาความหนักใจให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อนฉันหลาย ๆ คนเจอปัญหาครอบครัวแฟนไม่ปลื้ม เข้ากับใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าวันใดวันหนึ่งฉันต้องเจอกับสถานการณ์แบบนั้นจะทำยังไง ซึ่งมันก็ไม่ได้คำตอบ เพราะเรายังไม่เจอ จนวันนี้ฉันมีแฟน และปัญหานั้นฉันกับปืนไม่มี จึงบอกได้เลยว่ามันคือความโชคดีของเรา “แอบคิดถึงผู้ชายคนไหนรึเปล่าคะดื้อถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” “อื้อ” “อื้อนี่คือไรดื้อ” “ก็คิดไง” “ว่าไงนะ!” “คิดถึงปืน” ยิ้มอ้อนปืนก่อนเอนหัวพิงไหล่เขาอย่างออดอ้อน “คิดถึงปืนในแง่ไหนเล่าให้ฟังหน่อย พูดดีมีรางวัล พูดไม่ดีต้องโดนทำโทษ” ฉันอมยิ้ม ปืนยกมือขึ้นลูบผม ได้ยินเสียงสูดดมแถวข้างขมับแล้วพึมพำว่า “หอม” “คิดว่าเค้าโชคดีจังที่ได้เจอกับเธอ และที่โชคดีไม่แพ้กันคือครอบครัวของเรารักและเอ็นดูเรา” มุ