Home / แฟนตาซี / Undisclosure / สงครามน้ำลาย

Share

สงครามน้ำลาย

last update Last Updated: 2025-02-12 13:37:19

คาเลบสาบานได้เลยว่าเห็นเจ้าหน้าที่สาวคนนั้นสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อกล้ำกลืนคำพูดและโทสะที่สาดเข้ามาราวกับห่ากระสุนลงไปเฮือกใหญ่ เธอใช้ความพยายามอย่างมากที่จะคงสีหน้าและอารมณ์ของตัวเองไม่ให้เดือดตาม หญิงสาวที่ตะโกนอยู่นั้นชื่อ แมรี่ คาร์เตอร์ เป็นแม่ของเบลินดา คาร์เตอร์ ประธานสภานักเรียนและหนึ่งในผู้เข้าร่วมชิงทุนรัฐบาล ลูกสาวของเธอสอบติดวิทยาลัยเดียวกับอเล็กซิส และตอนนี้ คุณนายคาร์เตอร์กำลังเบี่ยงประเด็น ไม่ว่าลูกสาวของเธอจะเคยอยู่ที่นั่นหรือไม่ ความจริงก็คือ หากลูกสาวของเธอเป็นแขกในงานนั้นก็เป็นเหตุผลที่ตำรวจจับเด็กสาวเอาไว้ แต่ก็นะ ทุกคนก็อยากจะช่วยลูกตัวเองกันทั้งนั้น

“เราคุมตัวลูกสาวของคุณเพื่อสืบสวนค่ะ คุณนายคาร์เตอร์ ลูกสาวของคุณรายงานพวกเราว่า มีการกระทำที่บ่งบอกว่าเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงตามรัฐบัญญัติปี 2966 พวกเราภูมิใจที่เธอทำหน้าที่พลเมืองที่ดี แต่ตามกฎหมาย เรายังต้องสอบสวนเธอเพื่อขอข้อมูลและสืบหาความจริงอีก โปรดเข้าใจพวกเราด้วยค่ะ ขอให้คุณใจเย็น ๆ แล้วนั่งรอนะคะ”

คาเลบและเจสซี่มองหน้ากันทันที พวกเขาบังเอิญทราบตัวการของเรื่องยุ่ง ๆ นี้แล้วสิ

“แล้วทำไมถึงจับลูกฉันไว้ในคุก!”

ผู้ปกครองทั้งหมดลุกขึ้นยืนอย่างเหลืออด ทั้งหมดจ้องหญิงสาวอย่างโกรธเคือง โดยเฉพาะคุณมิลเลอร์ พ่อของเวด “หยุดโวยวายได้แล้ว! เอาล่ะครับทุกท่าน ทีนี้เรารู้กันสักทีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นในวันนี้ คุณนายคาร์เตอร์ ลูกสาวของคุณโกหกคำโตเลยทีเดียว แถมยังทำให้พวกเราลำบากกันทั้งหมด"

คุณนายคาร์เตอร์จ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจ ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตที่มัดเป็นมวยอยู่ข้างท้ายทอยหลุดลุ่ยเมื่อเธอหันซ้ายหันขวา มองหน้าแต่ละคน หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น ไม่แยแสสายตาคนอื่น “ประทานโทษนะคะ ลูกสาวของฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”

นายมิลเลอร์เปลี่ยนสายตาจากโกรธเคืองเป็นเหยียดหยามทันที “งั้นคุณควรทราบไว้นะครับ ว่าพวกเขากำลังถ่ายวิดีโอแกล้งเพื่อนกันอยู่ มันเป็นมายากล ผมมองพวกเขาอยู่ตลอด ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงบ้าบออะไรนั่นสักหน่อย ไม่ใช่แม้แต่กลุ่มต้องสงสัยด้วยซ้ำ ลูกคุณปากมากแล้วยังโง่อีก!”

“นี่คุณกล้าดียังไง!”

“ลูกสาวคุณโกหก” พวกผู้ปกครองที่อยู่ข้างคุณมิลเลอร์เริ่มตะโกนใส่หญิงสาว แต่ละคนต่างมีอารมณ์เดือดกันทั้งนั้น เมื่อคุณมิลเลอร์เห็นว่ามีหลายคนสนับสนุนเขา จึงไม่ยอมหยุดโจมตีคู่กรณีง่าย ๆ เขาโพล่งความคิดแย่ ๆ หนึ่งขึ้นมา “รู้แล้ว ลูกสาวคุณก็เข้าชิงทุนเหมือนกันนี่นา เธอคงอยากจะป้ายสีลูกชายผมสินะ ใช่สิ ผมแน่ใจว่าเพราะเหตุผลนี้แน่ ๆ” พลันเขาหันมาสบตากับคาเลบพอดี “เธอป้ายสีลูกสาวของคุณหมอด้วยนะครับ”

คาเลบอยากหายตัวไปเดี๋ยวนั้น เขาโกรธแมรี่ คาร์เตอร์หรือไม่ แน่นอนสิว่าโกรธมาก แต่การที่พวกเขามานั่งทะเลาะกับคาร์เตอร์ไม่เป็นผลดีต่อเด็ก ๆ เอาเสียเลย ตรงกันข้าม มันอาจจะทำให้เรื่องแย่ลงมากขึ้นไปอีก

ทว่าคุณนายเจสเซ่นส์ แม่ของออสโล่ยกมือขึ้น “ลูกชายของฉันก็ด้วยค่ะ ลูกสาวคุณจงใจแกล้งลูกชายฉันชัด ๆ” เธอคิดไม่เหมือนคาเลบ เธอขอเข้าร่วมสงครามน้ำลายนี้

คาเลบเหลือบมองเจสซี่ น่าแปลกใจที่ลูกชายหัวร้อนกลับยังคงสงบนิ่ง ไม่มีท่าทางโกรธเคือง สายตาของเขาจับตามองคนทั้งหมดแล้วรับฟังคนทะเลาะกันอย่างประเมินสถานการณ์ ริมฝีปากเผยอรอยยิ้มน้อย ๆเหมือนพอใจกับสถานการณ์ตรงหน้า

“ลูกคิดว่าไง เจสซี่”

“อย่ายุ่งกับพวกเขาเลยพ่อ นั่งเฉย ๆ ดีกว่า” เขากระซิบเตือนคาเลบ ทั้งที่ปกติแล้ว คำพูดนี้ควรเป็นฝ่ายคาเลบที่พูดเตือนเขามากกว่า “กฎหมายนี้ให้อำนาจกับพวกตำรวจเต็มที่ ถ้าเราเชื่อฟัง ทำตัวเรียบร้อย ก็จะดูดีในสายตาเจ้าหน้าที่ แถมยังเป็นประโยชน์กับอเล็กซ์ด้วย” เขาอธิบาย

“ตอนนี้ ผมแน่ใจแล้วว่าน้องจะปลอดภัย ไม่ต้องกังวลนะครับพ่อ มันชัดเหลือเกินว่าเด็กสาวคนนั้นโกหกคำโต พวกเขาจะตรวจสอบข้อมูลของอเล็กซ์ ผลการเรียนเอย ประวัติการรักษาพยาบาลเอย แล้วพอพวกเขาไม่พบสิ่งผิดปกติ บวกกับเมื่อเบลินดาสารภาพ ก็เป็นปัญหาของพวกเธอแล้ว ไม่เกี่ยวกับน้อง”

คาเลบหลบตาลูกชาย ผู้เป็นพ่อหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่ได้โล่งใจเหมือนกับเจสซี่ การตรวจสอบประวัติการรักษา นี่แหละปัญหาใหญ่ เขานึกถึงแมรี่ สตีเว่น พยาบาลที่บันทึกข้อมูลเท็จให้กับเด็ก ๆ ถ้าพวกเขาสืบสวนถึงขั้นตอนนี้ แมรี่กับอเล็กซิสแย่แน่ ๆ หากถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ไม่ได้เบาไปกว่าถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรอก

เขาเห็นภาพทะเลสีดำอันมืดมัว...ได้โปรดเถิดพระผู้เป็นเจ้า ปกป้องลูกสาวของลูกด้วย อย่าให้เธอจมหายไปในทะเลนั้นเลย

“พวกเขาแค่อ่านข้อมูลใช่ไหม” เขาถามลูกชายอีกครั้ง อยากให้ตัวเองแน่ใจว่าฝันร้ายจะไม่มีวันเป็นจริง สองพ่อลูกเดินหนีออกห่างจากสงครามอารมณ์ระหว่างนางคาร์เตอร์ นายมิลเลอร์ และผู้ปกครองคนอื่นเพื่อถกเถียงเรื่องของอเล็กซิสได้สะดวก

“ผมไม่แน่ใจนัก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างที่คิดไว้ตอนแรก ถ้าเบลินดาสารภาพความจริง เราคงรับน้องกลับบ้านได้ภายในพรุ่งนี้ แต่เมื่อไหร่ ผมไม่แน่ใจ อาจจะตอนบ่าย หรือไม่ก็ช่วงเย็น”

คาเลบกอดคอลูกชาย พวกผู้ปกครองเริ่มถกเถียงกันรุนแรงมากขึ้น แต่เพราะทั้งสองถูกเรียกตัวให้เข้าไปหาลูกสาวได้ก่อน จึงเป็นโอกาสดีที่จะหนีออกจากฉากนั้น

เจ้าหน้าที่พาพวกเขาไปยังห้องเยี่ยมผู้ต้องขัง ห้องเยี่ยมค่อนข้างเล็กกะทัดรัด มีเพียงโต๊ะหนึ่งตัวกับเก้าอี้อีกสาม อเล็กซิสนั่งรออยู่แล้ว หน้าตาสะลึมสะลือเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เมื่อเธอเห็นทั้งสองก็ลุกขึ้นยืนทันที แต่เพราะแขนถูกกุญแจมือล็อกเข้ากับโต๊ะ เธอจึงหงายหลังล้มลงไปกับเก้าอี้ หัวใจของเขาฟีบลงเมื่อเห็นแบบนี้ อเล็กซิสยิ้มให้ทั้งสองอย่างเหนื่อยอ่อน

“หนูขอโทษนะคะที่รบกวนพ่อกับพี่ แถมยังปลุกเวลานี้อีก”

“อย่าห่วงพวกเราเลย เธอเป็นไงบ้าง ได้นอนบ้างหรือยัง” เจสซี่ถาม เห็นชัด ๆ ว่าเขาเป็นห่วงน้องสาวมาก

อเล็กซิสสั่นหัว “นอนไม่ได้เลย พวกเขาจับพวกเราขังรวมไว้ในห้องขัง มีคนเยอะมากอยู่อัดกันเป็นปลากระป๋อง แล้วพวกเราก็คุยกันตลอดเวลา ตอนแรกพวกเรารู้สึกกลัวนะ อย่างเปปเปอร์กับเกรต้าร้องไห้ตั้งแต่ถูกจับจนถึงตอนนี้ ดูสิ ไหล่หนูเปียกหมดเลย เกิดเรื่องแบบนี้ ใครจะหลับลง ทุกคนมัวแต่ถกเถียงกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบได้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status