Home / แฟนตาซี / Undisclosure / กลุ่มต้องสงสัย

Share

กลุ่มต้องสงสัย

last update Huling Na-update: 2025-02-12 15:14:18

เจ้าหน้าที่สอบสวนหันไปปรึกษากัน อเล็กซิสมองสำรวจไปรอบห้อง เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายทำหน้านิ่งราวกับรูปปั้นหินอ่อน อเล็กซิสพยายามมองหาชื่อของตำรวจสาวเหมือนที่เคยทำกับเจ้าหน้าที่คนอื่น แต่ผมเปียหางปลาของหญิงสาวบังป้ายชื่อเธอเอาไว้

ไม่กี่นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่สาวกลับมาสอบสวนอเล็กซิสต่อ

“คุณเดวิส โปรดมองที่หน้าจอนี้นะ” อเล็กซิสเงยหน้า จ้องแผนผังภายในสถานีตำรวจบนจอภาพแบนขนาดประมาณหนังสือเล่มใหญ่เล่มหนึ่ง เธอไม่เคยเห็นเทคโนโลยีล้ำสมัยเช่นนี้มาก่อน เพราะว่าเพียงแค่เจ้าหน้าที่สัมผัสหน้าจอ ทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นเองราวกับมีเวทมนตร์ เพียงแค่สัมผัสก็ควบคุมแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ผ่านหน้าจอเท่านั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนหญิงนับหนึ่งถึงสิบแล้วส่งสัญญาณให้นายตำรวจโจเซฟปลดล็อกข้อมือข้างขวาของเธอ “ช่วยวาดแผนผังเมื่อครู่ให้ทีนะจ๊ะ” เธอสั่งแล้วคว่ำหน้าจอลง

“ข้างซ้ายค่ะ” อเล็กซิสบอกกับนายตำรวจ เขาพยักหน้าแล้วเปลี่ยนมาปลดล็อกมือข้างซ้ายแทน

พวกเขาให้กระดาษใสกับปากกาสีดำมาอย่างละหนึ่ง อเล็กซิสเริ่มวาดแผนผังตามความจำของเธอ ซึ่งใช้เวลาประมาณห้านาทีเท่านั้น จากนั้นเธอจึงส่งรูปวาดให้กับนายตำรวจ เขาล็อกแขนเธออีกครั้ง

เจ้าหน้าที่สาววางรูปวาดลงบนจอแล้วยกขึ้นให้ดูเพื่อแสดงให้เห็นว่ารูปวาดของอเล็กซิสนั้นตรงกับแผนผังตัวอย่างพอดิบพอดี

“คุณค้นพบทักษะนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

“น่าจะประมาณเจ็ดขวบ ไม่ค่อยแน่ใจนะคะ”

“แล้วคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นหรือแปลกกว่าคนอื่นหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะ มันก็แค่ทักษะการจำ มีคนอีกหลายคนที่มีทักษะหลายอย่างเก่งกว่าของฉันเสียอีก หรืออาจจะแปลกกว่าก็ได้ ฉันชอบความสามารถนี้นะคะ โดยเฉพาะเวลาทำข้อสอบ มันสะดวกดี”

เจ้าหน้าที่สาวหัวเราะเบา ๆ “ก็จริงนะ แล้วพ่อแม่ของคุณทราบหรือเปล่า”

อเล็กซิสชะงักราวสองสามวินาที เพราะกลัวว่าคนพวกนี้จะพยายามหาข้ออ้างจับพ่อแม่ของเธอ “ค่ะ...ทราบค่ะ พวกเขาบอกว่าพระเจ้ามอบพรสวรรค์ที่แสนวิเศษให้กับฉัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะแตกต่างหรือเก่งกว่าคนอื่น”

“พวกเขาพูดอย่างนั้นหรือจ๊ะ ไม่ใช่ว่า พวกเขาพยายามช่วยปกปิดหรอกนะ”

อเล็กซิสพยายามหาคำพูดที่ดีที่สุด “ไม่ค่ะ ถ้าพวกเขาพยายามจะปกปิดพรสวรรค์นี้ พวกเขาคงบอกให้ฉันซ่อนมันไว้ให้มิด แต่พวกเขาไม่ได้บอกแบบนั้น พวกเขามองว่ามันเป็นของขวัญล้ำค่า” มันเป็นความจริงครึ่งเดียว แต่ไอ้เครื่องช็อกไฟฟ้าก็ไม่ได้ทำอันตรายออสโล่เลย

“เธอกับครอบครัวของเธอคิดว่าสิ่งนี้ปกติ” เจ้าหน้าที่ชายที่เพิ่งสอบสวนเวดแทรกขึ้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่คนอื่นพยักหน้าว่าเห็นด้วย ท่าทางที่เหมือนกันหมดของพวกเขาทำให้เธอเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดในช่องท้อง คนพวกนี้ดูเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ออกมาจากโรงงานเดียวกัน

อเล็กซิสพยายามไม่ปล่อยให้ความวิตกกังวลรบกวนความคิด เด็กสาวพูดความจริงและความจริงนั้นจะไม่ทำอันตรายเธอทีหลัง หากพวกเขาพยายามที่จะแจ้งข้อหาแปลก ๆ ล่ะก็ ไม่มีทาง เธอมั่นใจ ไม่เป็นอะไรหรอก เราก็แค่มีความจำดีเท่านั้นเอง พ่อมักบอกว่ามันเป็นพรสวรรค์ที่พิเศษแต่ไม่ได้อันตราย แต่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณสตีเว่นกันแน่ ทำไมพวกเขาถึงเอ่ยชื่อของเธอ

“คุณเดวิส คุณมีอาการอย่างไรเวลาอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่น”

“ก็คัน ๆ น้ำมูกไหล ผื่นขึ้นที่ผิวหนังค่ะ”

เธอเกลียดเวลาพวกเขาสบตากัน

สุดท้าย เจ้าหน้าที่หญิงประกาศคำตัดสินออกมาจนได้ “สำหรับกรณีของคุณ เราไม่อาจบอกได้อย่างเต็มปากว่าคุณมีอาการไฮโปคอนดริเอซิสหรืออาการที่คนไข้คิดไปเองว่าป่วย เพราะว่าคุณถูกทำให้เชื่อตั้งแต่เด็กว่าตัวเองเป็นโรคภูมิแพ้ฝุ่น บางครั้ง ร่างกายของเราก็เล่นตลกกับเรานะจ๊ะ แต่ว่าจากผลตรวจเลือด คุณไม่มีอาการแพ้สารใดเลย ซึ่งหมายความว่า ร่างกายของคุณแข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นแมรี่ สตีเว่นจงใจกรอกข้อมูลเท็จลงในประวัติการรักษาของคุณเพื่อปกปิดบางสิ่งในตัวคุณ...จากสายตาของพวกเรา”

“มันเป็นพรสวรรค์ธรรมดาเท่านั้น” เวดโพล่งออกมา อีกครั้งที่กระแสไฟฟ้าช็อกเข้าร่างอเล็กซิส “ขอโทษ ๆ ฉันขอโทษ”

“ไม่ต้องพูดอะไรอีกนะ” อเล็กซิสขอร้องเพื่อนชาย แม้รู้อยู่เต็มอกว่าเขาแค่อยากปกป้องเธอและตัวเขาเอง นั่นเป็นเพราะว่า ถ้าทางการไม่พบกลุ่มต้องสงสัยหรือกลุ่มเสี่ยงเข้าสักคน เวดแค่เพียงจ่ายค่าปรับแล้วกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

“เราเสียใจนะจ๊ะที่ต้องแจ้งว่า คุณเข้าข่ายกลุ่มต้องสงสัย”

มันเป็นอาการเดียวกับเมื่อครั้งที่เธอเห็นจูนกับเดวี่อยู่ด้วยกัน ความว่างเปล่าเฉียบพลันที่เกิดขึ้นในอก หลังจากนั้นคลื่นแห่งความผิดหวังซัดเข้าใส่

“ฉันพูดความจริง และทักษะนี้ก็เป็นเพียงทักษะปกติไม่ได้แปลกประหลาดอะไรเลย”

อเล็กซิสบอก พยายามควบคุมน้ำเสียงและระดับให้เป็นปกติ

“เด็กน้อย พวกเรามีความเห็นตรงกันว่าคุณมีคุณสมบัติที่จะอยู่ในกลุ่มต้องสงสัยและจำเป็นต้องเข้าโปรแกรมบำบัด อย่าห่วงเลยจ้ะ เราจะรักษาคุณเอง”

รักษาเหรอ ตลกสิ้นดี ฉันไม่ได้ป่วย แล้วฉันจะโต้แย้งคำตัดสินผิด ๆ แบบนี้ไม่ได้เหรอไง อเล็กซิสพยายามควบคุมตัวเองให้สงบ หายใจเข้า หายใจออก

มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับคำตัดสินง่าย ๆ เหมือนที่อเล็กซิสเคยทำ เพราะว่าคำตัดสินส่งผลกระทบที่มากกว่านั้น เมื่อไม่กี่วันก่อน หากไม่นับเรื่องที่เธออกหักซึ่งกลายเป็นเรื่องเก่าแรมปีไปแล้ว อเล็กซิสยังคงเห็นตัวเองในฐานะนักศึกษาปีหนึ่งที่กำลังจะเดินเข้าวิทยาลัยการแพทย์ในเดลฟี ในกรณีที่เธอไม่ได้ทุนการศึกษา แม้จะไม่มีเดวี่กับจูน แต่เส้นทางชีวิตของเธอยังโรยด้วยกลีบกุหลาบ อเล็กซิสจะเข้าสโมสรหญิงล้วนสักกลุ่ม แล้วก็สมัครเข้าทีมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย เธอยังรับงานถ่ายแบบให้กับนิตยสารเพื่อหารายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากนั้นกลับบ้านทุกวันหยุด การถูกตีตราว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัยหมายถึงอนาคตทั้งหมดดับวูบ หมดสิ้นทั้งอิสรภาพและความฝัน โปรแกรมบำบัดที่พวกเขาอ้างว่าจะรักษาคนพวกนี้ไม่เคยประสบความสำเร็จว่าสามารถรักษาคนที่ถูกกล่าวหาได้ ไม่มีใครกลับมาเล่าความจริงว่าพวกเขาเจออะไรและถูกกระทำเช่นไร อเล็กซิสไม่อาจกลับบ้านได้อีกแล้ว ทั้งที่ บ้าน คือ สถานที่ที่ดีที่สุด เธอไม่อาจกลับไปอยู่กับคนที่เธอรักได้อีกแล้ว

นี่เหรอ...อิสรภาพครั้งใหม่

“คุณมีอะไรจะพูดกับพวกเราอีกหรือเปล่า”

“เชื่อฟังพวกเขา” เสียงของเจสซี่เตือน ไม่ หัวใจของเธอแย้ง แต่...แล้วฉันจะทำอะไรได้เหรอ ฉันจะเปลี่ยนใจพวกเขาได้อย่างไร ถ้าฉันพยายามที่จะปกป้องตัวเอง ออสโล่ก็จะบาดเจ็บ

“ไม่มีค่ะ” อเล็กซิสฝืนใจตอบ น้ำตาคลอเบ้า

เธอเป็นเด็กดีและเชื่อฟังผู้ใหญ่เสมอ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้เธอพ้นภัย อเล็กซิสไม่ใช่คนเดียวที่ร้องไห้ เบลินดาและเวดก็ร้องเหมือนกัน เพราะทั้งสองทราบชะตากรรมตัวเองแล้ว พวกเราเป็นเพียงทาสของระบบที่เสื่อมทราม

“...เหรอ ถ้าพวกคุณพบว่ามีกลุ่มต้องสงสัยหรือกลุ่มเสี่ยง ผมต้องเข้าโปรแกรมด้วยใช่หรือเปล่า”

เธอมองเวด แต่เขาไม่ได้มองหน้าใคร เด็กหนุ่มเอาแต่จดจ่ออยู่กับเท้าของเขา ฉันขอโทษ ฉันขอโทษที่สู้เพื่อตัวเองไม่ได้ ฉันขอโทษที่ลากนายเข้ามาด้วย

คนสุดท้ายคือออสโล่ เธอหวังว่าเขาจะรอดจากความอยุติธรรมนี้ แต่ถึงกระนั้น ชายที่สัมภาษณ์เขากลับยกตัวอย่างความผิดปกของเกรดที่ครูโดบี้ส์ ผู้เป็นคุณครูสอนวิชาคณิตศาสตร์บันทึกไว้ เธอยังเป็นพี่สาวของนางพยาบาลสตีเว่นด้วย

“...คุณเจสเซ่น เราแน่ใจว่ากรณีของคุณเหมือนกับกรณีของคุณเดวิส นั่นคือคุณนายโดบี้ส์พยายามที่จะปกปิดความสามารถของคุณ ตามประวัติแล้ว เป็นไปได้ที่ว่าคุณจะมีคุณสมบัติเข้าข่ายกลุ่มต้องสงสัย พวกเรามีความเห็นตรงกันว่าคุณควรเข้ารับโปรแกรมบำบัดเช่นเดียวกับคุณเดวิส”

“มันไม่ชัดเลยสักนิดว่าผมเป็นกลุ่มต้องสงสัย ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าผมจะเข้าข่าย ผมไม่คิดว่าตัวเองสมควรได้รับ...”

เสียงร้องของเบลินดาดังโหยหวนเหมือนกับเสียงของเวดและอเล็กซิสก่อนหน้านี้ ออสโล่ปิดปากตัวเองสนิท อเล็กซิสเหลือบเห็นน้ำตาไหลจากหางตาของเขา แต่เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้อย่างอดทน ในห้องนี้ ทุกคนสมควรได้รับการปล่อยตัวจากเคสเอชโอวันบ้าบอคอแตกมากกว่าถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัยเสียเอง พวกเขากล้ำกลืนความขมขื่นลงไปข้างใน เพราะว่าบางครั้ง น้ำตาไม่อาจช่วยปลดปล่อยความเศร้า แล้วอนาคตของพวกเขาล่ะ ใครจะรับผิดชอบ พวกเขาจะถูกทำอะไรบ้าง ใครจะรู้

มันไม่ใช่เรื่องตลก

นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Undisclosure    ผู้โบยบิน

    ไมเคิลไม่ตอบสนองคำขอร้องของเร็กกี้หากแต่พยายามรวบรวมสมาธิภายในเวลาอันจำกัด เขาเคยช่วยอเล็กซิสจากระเบิดมาแล้ว ทำไมครั้งนี้เขาจะช่วยตัวเองและเร็กกี้จากความร้อนไม่ได้ เด็กหนุ่มพยายามนึกถึงตอนที่ตัวเองสู้กับไซบอร์กตัวแรก ยามนั้นเขาอยู่กับอเล็กซิส และเมื่ออยู่กับแฝดสาว ดูเหมือนพลังและความคิดอ่านจะเพิ่มทวีคูณภาพของร่างของพ่อหายวับไปกลับเปลวเพลิงผุดขึ้นมาในหัว เขาจะปล่อยให้ตัวเองและแฝดอีกคนตายแบบพ่องั้นหรือ ชะตากรรมของแฝดทั้งสองจะเหมือนลูก้าใช่หรือไม่ใช้ประสบการณ์ในตอนนั้น ไมเคิล คิด! เขาต้องออกไปให้ได้ และต้องช่วยให้เร็กกี้มีชีวิตอยู่ต่อ ทักษะของชายคนนี้จำเป็นต่อการอพยพ พ่อแม่ ปาสคาล ได้โปรดเถอะ ชี้ทางสว่างที เขาไม่รู้จักพระเจ้า ไม่เคยเชื่อว่าใครอยู่เบื้องบนหรือจะมีจริงหรือไม่ หรือตอนนี้เขาเป็นเพียงฝุ่นในจักรวาล แต่ในเมื่อฝุ่นตัวนี้มีชีวิตจิตใจและมีคนที่ต้องปกป้อง เขาอยากจะเชื่อว่าสิ่งลี้ลับบางอย่างจะประทานทางออกมาให้“ฆ่าฉัน!” เร็กกี้ตะโกนอีกครั้ง แก้มแดงขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกดูเหมือนเลือดฝาดหน่อย ๆ แต่เมื่อผ่านไปสักพักผิวกลับแดง

  • Undisclosure    โอกาสกี่เปอร์เซ็นต์?

    เขาคิดว่าตัวเองจะโดนกระแทกตาย แต่หลังกับกระแทกกับโครงอ่อนหนุ่ม...ไม่ถึงกับนุ่มมากนักแต่ไม่ได้ทำให้หลังเขาหัก อย่างน้อยมันก็ยืดหยุ่น ไมเคิลคลำมือลงบนสิ่งที่ว่า มันเหมือนกิ่งไม้สานต่อกันเป็นรัง เขาหันไปรอบ ๆ เจอเร็กกี้ติดแหงกอยู่ด้านบน ถ้าไม่ใช่เพราะมีไอ้นี่กันไว้ ลำตัวเขาคงกระแทกกับกำแพงหรือไม่ก็เพดาน ทว่าดูจากสภาพแล้วก็ยังมีบางส่วนบาดเจ็บแรงดูดยังคงอยู่ พวกเขาได้แต่นอนนิ่ง ๆ เหมือนหนูติดอยู่ในกับดักกาวเพียงแต่กาวเป็นรากไม้ เนื้อแก้ม ใบหู เส้นผมเหมือนถูกดึงอยู่ตลอดเวลา จนผ่านไปสักพัก ประตูทางเข้าปิดลง ร่างคนทั้งสองตกลงบนพื้น“นายเป็นไง” เขาถาม ขณะยืนขึ้น เร็กกี้ครวญออกมาคำนึงแล้วตอบมา“แขนหัก” สีหน้าชายหนุ่มเหยเก แขนข้างขวาห้อยกับลำตัว ใบหน้าและริมฝีปากซีด “ขอบใจฉันทีหลังได้”ไมเคิลมองไปข้างหน้า ประตูปิดสนิท เขาเห็นเงาเคลื่อนไหวอยู่ราง ๆ เมื่อแรงดูดหายไป ข้างนอกเริ่มสู้ใหม่ ไมเคิลวิ่งไปจับประตู มันปิดสนิท พยายามผลักและเขย่าเท่าไรก็ไม่เป็นผล“กับดักอะไรของมัน นี่ใช่ไหม กับดักที่มันว่า เขาถามชายหนุ่ม

  • Undisclosure    ศรัทธา

    ร่างของเขาหล่นกระแทกบนพื้น แขนสะเทือนไปถึงหัวไหล่ แม้จะอยู่ภายใต้ชุดเกราะแต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิง เรี่ยวแรงที่สะท้อนกลับมานั้นยิ่งกว่าหุ่นยนต์พิฆาตทั้งสองรุ่นเลยทีเดียว ขณะที่เขาพยายามจะลุกขึ้นมาใหม่ก็ได้ยินเสียงปะทะ คนที่เหลือคงซ้ำต่อ แต่เมื่อเขาเงยหน้าได้ก็เห็นว่าชายหนุ่มทั้งหมดนอนกระจายร้องโอยกันหมดมิน่ามันถึงเฝ้าประตูแค่ตัวเดียว เวลานี้ไมเคิลนึกกลับคำในใจ หรือว่ากับดักนั้นง่ายกว่า หรือว่านี่คือกับดัก และแล้วเขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้าของเร็กกี้ ไซบอร์กจะถูกปล่อยออกมาตามรอบเวลา แล้วพวกข้างล่างเล่า มันพอดีกับที่เจ้าตัวนี้โผล่มาหรือไม่เสียงหัวเราะของเด็กสาวดังขึ้นอีกครั้ง มันเดินมองไปทีละร่างเหมือนกำลังเล่นสนุก ยังไม่คิดจะเอาชีวิตใครสักคนในตอนนี้ ดวงตาบนหน้านั้นเหลือบไปมา ลักษณะท่าทางมีชีวิตแต่ก็ไม่มีชีวิต ดูซุกซนแต่ก็เย็นชา เขาไม่แน่ใจว่าเธออายุเท่าไร แต่น่าจะเด็กกว่าไมเคิล ทางการทำอะไรกับเหล่าไซบอร์ก เขารู้ว่าคนพวกนี้เคยเป็นมนุษย์ปกติ แต่ดูตรงหน้าสิ...เธอยังเด็กแต่กลับสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปแล้วหรือ“เธอพูดได้ไหม” เขาเอ่ยถามออกไปมันหยุดชะงักแ

  • Undisclosure    หน่วยกล้าตาย

    ยิ่งได้กอด เขายิ่งรู้สึกว่าอเล็กซิสผอมลงมากจนน่ากลัว ยังดีที่ไออุ่นของเธอไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันอบอุ่นเหมือนแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ ไม่ร้อนบ่มผิว เหมือนมีสายลมเย็นสบายพัดผ่านและทำให้เขาหวนนึกถึงแม่ตลอด การกอดครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อฟื้นฟูพลังงานในกาย แต่เพื่อเพิ่มกำลังใจให้ตัวเอง มันอาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้ายหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่อเล็กซิสไม่ห้ามให้เขาขึ้นไป เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าพวกเขาทำไม่สำเร็จ เธอก็จะตามไปหาเขาด้วย นาฬิกาชีวิตของทุกคนเหลือไม่ถึงสองชั่วโมงและมันก็ลดลงเรื่อย ๆ ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ ทุกคนก็ตาย เหตุและผลง่าย ๆ แต่พวกเขาจะยึดความหวังไว้จนกว่าจะวินาทีสุดท้าย“จำไว้นะ หากฉันขึ้นไปได้ นายก็ต้องอยู่” ดวงตาสีน้ำเงินดูดุดันขึ้นยามเธอจริงจัง“อื้อ” เขาพยักหน้า “เราจะไม่จากกันอีก”“ไม่” เธอส่ายหน้า มุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นน้อย ๆ “รักษาตัวนะ...น้องชาย”เขายิ้ม เธอพยายามจะเป็นพี่จนเขายอม เด็กหนุ่มหันไปสบตากับชายหนุ่มผมสีดำ ดวงตาสีเข้มคล้ายเม็ดนิลสบกลับมาเหมือนต้องการจะให้ความมั่นใจผ่านเพียงสายตา ไมเค

  • Undisclosure    ยานลำเลียง

    มือและเท้าเย็นเยียบขึ้นมา แต่บลูพยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปกติ ยิ่งเห็นทุกคนในห้องนี้ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดแต่ยังไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกก็ยิ่งสะกดกลั้นไว้ข้างใน แม้ภายในใจไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกไหนก่อนระหว่างกลัวตายกับสูญเสีย“พวกนั้นว่าไง แล้วเจ้าคนที่คุมหุ่นยนต์ได้ล่ะ”เมลิสซ่าส่ายหน้า “เด็กคนนั้นใช้พลังไม่ได้ แต่พวกเขาดูจะจัดการกับของพวกนี้ได้บ้าง” เธอหลิ่วตาไปทางอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่รายล้อม “โคดี้พยายามจะปลดล็อกระเบิด ส่วนเรมีกำลังรวบรวมข้อมูลกับดักในตึกนี้ทั้งหมด แล้วก็เร็กกี้...” หญิงสาวถอนหายใจโล่งอก “เขาเคยทำงานในศูนย์วิศกรรมการบินและอวกาศของฟิวเจอร์ริสติกเลยพอจับจุดอะไรได้บ้าง ที่ฉันทำได้คือหาอะไรก็ได้ที่จะพอให้พวกมีมันสมองคิดออก เพราะคนอย่างฉัน แค่เปิดเครื่องยังงง”“ยาน?” ริงโก้ไม่แน่ใจนัก “เราจะหนีด้วยยานเหรอ”“อื้อ” เมลิสซ่าพยักหน้า “มันเป็นวิธีเดียวนี่”“แล้วคนอื่นล่ะ” เดสซิเรถามขึ้น “ยังมีคนกระจายอยู่ทุกเขต ซ่อนตัว หาท

  • Undisclosure    หาทางรอดครั้งที่??

    เทสซ่านิ่งงันไปพักหนึ่งก่อนสมองจะทำงานใหม่ เธอกลืนน้ำลายแล้วถามอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น พวกนั้นจะระเบิดตึกนี้...หรือทอยซิตี้?”แม้เป็นคนพูดเอง แต่เมื่อมันออกจากปากไปแล้ว เลือดในกายกลับเย็นวาบลงจนขนลุกไปหมด อเล็กซิสหน้าซีดลง สีหน้าแสดงออกว่ากำลังใช้สมองวิเคราะห์หนัก“เราต้องบอกลู” เทสซ่าสรุป ถ้าจะนับคนที่มีมันสมองดีเลิศ นอกจากเรมี อเล็กซิส และโคดี้แล้ว เธอนึกถึงลู หญิงสาวค่อนข้างเจ้าแผนการและมีประสบการณ์มากกว่า น่าจะเข้าใจตัวเลขนี้ได้ดีกว่า“บางที...” เรมีรุดเข้าไปที่โต๊ะแสตนเนอร์ อเล็กซิสเบี่ยงตัวเดินออกมาให้เขาจัดการ หน้าจอปรากฏข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย เทสซ่าสบตากับรีเวอร์ แววตาของเขาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่ถึงกับยอมแพ้3:24:34เทสซ่าจ้องมันราวกับว่าเธอจะมีพลังจิตสะกดให้หยุดได้...พลังจิต “โคดี้!” นึกได้แล้วก็หุนหันวิ่งออกไปแม้จะหลับสนิทไปไม่กี่ชั่วโมง แต่โคดี้ใช้พลังหนักหน่วงมากระหว่างอยู่นอร์ธ เลือดกำเดาออกถึงสองครั้ง และเมื่อครู่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้อยู่ในห้อง มีเพียง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status