LOGINร่างกายขยับไปเองจนเกิดเรื่องแล้วสิ เธอจะรู้สึกยังไง คงไม่เกลียดหน้าเขาไปเลยใช่ไหม เอสรีบผละออกก่อนทุกอย่างจะเกินเลยไปมากกว่านี้
ทว่าตรงหน้าคือมินนี่ที่หน้าแดงเป็นพริกสุก ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขาไม่กระพริบ เด็กคนนี้คิดอะไรอยู่ แต่ถ้ายังไม่ยอมถอยเขาคงได้ทำไม่ดีกับเธอแน่ ผลที่ตามมาอาจจะเลวร้ายกว่าที่คิด “เอ่อ...ขอโทษนะ...ไม่ได้ตั้งใจ” เอสพูดติดขัด เพราะยิ่งอธิบายเหมือนเธอจะโกรธกว่าเดิม “ช่างเถอะ...หนูไม่ถือ...ไม่ได้ตั้งในใช่ไหม” “ใช่...เดี๋ยวก่อนสิ” เธอพูดจบก็หันหลังเดินออกมาไม่สนใจเขาจริง ๆ เอสได้แต่วิ่งตามอย่างรีบร้อน ก่อนจะเห็นเธอจัดการเอกสารให้เขาอยู่ เธอคงหมายความอย่างที่พูดใช่ไหม? “ไปเถอะค่ะ จะพาไปดูรถ” เธอพูดจบก็เดินนำไปที่ห้องพิเศษ ที่นี่มีรถหรูระดับ 200 ล้านขึ้นไป แต่ละคันดูดีมาก เป็นรถในฝันของใครหลายคนเลย รถไฟฟ้าที่แรงเร็ว และ หรูหราในตัว “ขอคันนี้...FF12 รุ่นเปิดประทุน สีแดงสวยดีนะ” “ได้ค่ะ...นี้คือเอกสารที่ต้องจัดเตรียม” มินนี่ยื่นเอกสารมาให้ แต่สีหน้าของเธอยังคงนิ่งไม่ยิ้มสวย ๆ ให้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เอสจึงรีบจัดการเรื่องเอกสารก่อนที่จะไปจ่ายเงิน แล้วเดินมาหามินนี่ที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ “เรียบร้อยแล้ว” “ขอบคุณที่ใช้บริการนะคะ” เธอลุกขึ้นขอบคุณก่อนจะยิ้มให้ไม่ถึงสองวิ แล้วนั่งทำงานต่อ “เป็นไร...ไม่ดีใจเหรอที่พี่มาอุดหนุน อยากให้ได้ค่าคอมมิชชั่นไง” เขาพูดด้วยเหตุผลแต่มินนี่ยังไม่สนใจ ริมฝีปากเป็นเส้นตรงแบบนี้คงยาก “ถ้งงั้นพี่ไปก่อนนะ ตอนเย็นเจอกันที่ร้าน DN นะ” ไม่รอให้เธอตอบเขาก็ออกไปแล้ว พร้อมกับขับรถสุดหรูอย่างสมบูรณ์แบบ ปล่อยให้สาว ๆ พนักงานขายมองตามไม่กระพริบ “มินนี่...เธอโชคดีจังได้รู้จักกับผู้ชายแบบนั้น อิจฉาจัง ดูเหมือนเขาจะชอบเธอนะ” เพื่อนพนักงานของเธอพูดขึ้น “ใช่แล้วเธอ นัดชวนไปเจอด้วย” “ไม่ใช่หรอก พี่เขาเห็นฉันเป็นน้องสาว (แม้จะไม่ได้ตั้งใจจูบ) อย่าคาดหวังเลย เขารวยขนาดนั้นจะสนใจคนอย่างฉันได้ไง" แม้จะรู้สึกเสียดายที่ได้เจอกันอีกครั้ง แถบเขายังโสด แต่เธอยังถูกทำเหมือนเป็นน้องสาวอยู่เหมือนเดิม จะต้องทำยังไงถึงจะได้เลื่อนสถานะกันนะ เอสขับรถไปหาซื้อเสื้อผ้าสักหน่อย ที่ห่างดังในเมืองเป็นศูนย์รวมของเสื้อผ้าระดับพรีเมี่ยม คนดังหรือนักธุรกิจต่างพากันมาซื้อ ตึก BK คือที่สุด พอขับมาจอดรถไว้ที่ชั้นG ก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นที่ 20 เขามีร้านที่หมายตาไว้แล้ว อย่างที่เคยบอกเขาเป็นคนที่ได้แต่ฝัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนแรกที่เดินเข้ามาในร้าน พนักงานทุกคนหันมามองด้วยความสงสัย แถมยังซุบซิบเบา ๆ ก่อนจะมีคนหนึ่งเดินเข้ามาหา “สวัสดีค่ะคุณลูกค้า มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าค่ะ” เธอดูเป็นมืออาชีพมาก สีหน้าท่าทางไม่ดูถูกคนอื่น ไม่มีอารมณ์ส่วนตัว และ ยังยิ้มแย้มราวกับนางสาวประกวด “พอดีกำลังหาแนวการแต่งตัว อยากให้หาเสื้อผ้าที่เหมาะ ๆ ให้หน่อย” “เชิญทางนี้เลยค่ะ” หลังจากซื้อเสื้อผ้าครบ ก็ได้เวลาไปฃานเลี้ยงรุ่น ดีเลยจะได้กินข้าวที่นั้นเลย ตอนนี้เขาไม่ใช่คนจน ๆ แถมแต่งตัวดีขึ้นมาแล้ว หวังว่าจะไม่มีใครดูถูกได้อีกนะ เมื่อมาถึงห้องจัดงานก็เห็นเพื่อนสมัยมัธยมหลายคนนั่งกันตามโต๊ะแล้ว พวกเราจองห้องจัดเลี้ยงขนาดเล็กเพราะคนไม่เยอะ ตอนนี้ก็น่าจะมาครบหมด มีหลายคนที่เห็นเอส แล้วทักทายตามมารยาท นั้นคือเพื่อนร่วมชั้นปกติ แต่จะมีอยู่กลุ่มหนึ่งที่มองเขาด้วยสายตาดูถูกมาตลอด เป็นกลุ่มของ วิโรจน์ เรื่องราวต้องย้อนไปเมื่อตอนเรียน เพราะเรื่องเรียนที่ดีกว่า หน้าตาดีกว่าสาว ๆ ชอบมากกว่า และยังได้คบกับวิภาดาอีก วิโรจน์เองก็ชอบวิภาดาเหมือนกัน ทำให้กลุ่มของวิโรจน์ ที่มี มืด,มิก และ สาวสวยสุดแซ่บอย่าง ผิง อยู่ด้วย ตอนนี้พวกนั้นนั่งโต๊ะเดียวกับคุณครูประจำชั้น และดูจากการแต่งตัวแล้ว คงจะประสบความสำเร็จไม่น้อยเลย แต่ไม่ได้ตามข่าวเลยไม่รู้ว่าใครได้ดีบ้าง “มาแล้วเหรอ มานั่งตรงนี้สิที่นี่มีที่ว่างอยู่” เป็นผิงที่น้องเรียก ปกติเธอไม่สนใจเขา แม้แต่หางตายังไม่มอง วันนี้ทำดีด้วยคิดว่าจะมีเรื่องดีหรือเปล่า? รอดูเถอะพวกนี้รวมตัวเมื่อไหร่ต้องมีเรื่องปวดหัวตามมาแน่ ทุกคนมองตามผิง จึงเห็นเอสที่สวมสูทราคาแพง บวกกับช่วงนี้ไม่กังวลเรื่องเงินทำให้ดูดีขึ้นมาก ไหนจะส่วนสูงที่ฟ้าประทานอีก ราวกับไม้แขวนเสื้อดี ๆ นี้เอง “นั้นเอสเหรอ ทำไมดูดีจัง” “ยังหรอเหมือนเดิมเลยนะ” สาว ๆ ต่างพากันชมไม่หยุดปาก ทำให้บางคนกำมือแน่นกดเก็บความโกรธแทบไม่อยู่แล้ว “หล่อไปก็เท่านั้น ไม่มีงานทำก็ไร้ค่า เธออยากไปคบกับเอสก็เอสสิ" วิโรจน์พูดกับผู้หญิงที่ชมเขาจนพวกนั้นเงียบไป พวกเธอจะคบกับคนแบบเอสได้ไง เพราะเรื่องราวของเขาถูกขุดมาพูดจนคนในรุ่นรู้กันหมด คนว่างงาน เล่นเกมเอาเป็นเอาตายเพื่อหาเงินซื้อบะหมี่มายาไส้ ดูสภาพนี้ใครจะสนใจ ทว่าสิ่งที่ทำให้วิโรจน์ไม่พอใจคือ เอสไม่ได้มาในสภาพทรุดโทรมอย่างที่เขาคิดไว้ แต่อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าเสื้อผ้าที่เอสใส่ก็แค่ของปลอม ตัดมาที่งานเลี้ยงคุณครูที่รู้เรื่องว่าเอสไม่มีงานก็รู้สึกเสียใจ เพราะลูกศิษย์ของเขาอย่างน้อยก็มีงานทำ เขาเองก็รู้สึกล้มเหลวที่ทำให้เอสว่างงานแบบนี้ “เอส...ครูขอพูดหน่อย ได้ยินว่าเธอไม่มีงานเหรอ ให้ครูหางานเอาไหม?” แน่นอนว่าคุณครูสายใจ เป็นครูที่หวังดีกับนักเรียนทุกคน เธอเป็นครูมาสามสิบกว่าปี สร้างนักเรียนมาหลายรุ่นแล้ว เอาก็เห็นความใจดีของครู แต่ไม่ใช่เพราะครูที่ทำให้เขาล้มเหลว แต่เป็นเพราะเขาเอง “อย่าเลยครับคุณครู ต่อให้มีเงินเดือนเยอะเขาก็ไม่ทำหรอก ได้ยินว่าเขาไม่อยากเป็นลูกน้องใคร” เอสได้แต่นั่งฟังแล้วยิ้มในใจ มันรู้ได้ไงว่าเขาคิดแบบนั้น หรือคนที่เก็บตัวไม่เข้าสังคมจะเป็นแบบนั้นหมด หมอนี่เหมารวมจริง ๆ “จริงเหรอ” “อย่าสนใจผมเลยครับ ตอนนี้ผมได้งานแล้วครับคุณครู” “ก็ดีแล้ว...ดีใจกับเธอด้วยนะ” “ครับ...” เอสไม่ได้สนใจคนอื่น แล้วตักอาหารมากิน มีแต่ของอร่อย เขาเองไม่ใช่คนเลือกกินด้วยสิ แต่ระหว่างนั้นก็มีมืด กับมิก คอยพูดหาเรื่องอยู่ตลอด แต่ก็ถูกเขาตอบกลับง่าย ๆ ทำให้พวกนั้นไม่พอใจมาก พวกเขาอยากเห็นเอาสติหลุด โมโห อับอายจนวิ่งหนีไป ไม่ใช่คนที่มั่นใจเต็มร้อยแบบนี้ “ได้ยินว่านายถูกยัยดาทิ้งเหรอ แย่หน่อยนะ” วิโรจน์จี้จุดให้เขาเจ็บ เรื่องนี้ทุกคนก็สนใจกันมาก อยากรอเหยียบอยู่ก็เยอะ “ใช่แล้ว เลิกกันได้สามปีแล้วมั้ง” “เหรอ...อย่าโทษยัยเพราะนายสภาพแบบนี้ใครจะครบได้ ถ้าเธอคบกับฉันตอนนี้คงสบายไปแล้ว” วิโรจน์พูดพลางยิ้มเยาะ ก่อนทที่คนอื่นจะหัวเราะชอบใจ “แรงมาก...อย่าจี้สิเพื่อน เดี๋ยวเอสก็เสียใจหรอก" “ก็เรื่องจริง ยุคนี้รักกินไม่ได้หรอกนะ” พูดไปเถอะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะเสียหน้าจนไม่กล้าเจอใครแน่ แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไร ต้องขอบคุณระบบจริง ๆ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความปกติ แปลกก็ตรงที่ผิงไม่เอากับคนอื่นด้วย เธอแต่งตัวในชุดกระโปรงสั้นมาก ๆ กับเสื้อกล้ามรัดรูปโชว์เนินอกขาว สวมเสื้อโค้ทยืนสีดำ เธอเป็นสาวสวย ออกจะแรง ตอนเรียนได้ยินว่าเธอชอบเก็บแต้มด้วยการมีอะไรกับรุ่นพี่คนอื่น เธอมานั่งข้างเอสวันนี้ ยิ่งแปลกเพราะเธอไม่ชอบคนจนเป็นที่สุด ทว่าวันนี้เธอเหมือนส่งสายตาให้เขาบ่อย ๆ ใต้โต๊ะก็เอาขามาถูอีก คิดอะไรของเธออยู่เนี่ย “อย่าไปสนใจเลยนะ พวกเขายังไม่โต” เธอกระซิบบอกเขา ก่อนจะยกแก้วไวน์ในมือมาชนกับเอส จนคนในโต๊ะมองตาม “อย่าบอกนะว่าเธอจะชอบเอส” มิกพูดเสียงดัง คนในห้องโถงก็ตกใจที่ได้ยิน เพราะระดับผิง คนที่ไม่เคยขาดผู้ชาย และคบแต่คนรวย ๆ จะชอบเอสได้ “มีเรื่องให้สนุกแล้วสิ” “คบกัยนเลยนางฟ้ากับหมาวัด” ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่น้องชายของเขามันไม่เป็นสุขแล้ว จะยั่วขนาดนี้คนหมกมุ่นอย่างเขาจะทนไหวเหรอ ยิ่งเป็นใต้โตึอีก อารมณ์มันขึ้นง่ายด้วย พอหันมามองเจ้าตัวก็ยิ้มร่า ดูท่าแอลกอฮอล์คงจะทำงาน “อย่าสนใจเลยนะ...ดื่มเถอะ...นายไม่ชอบฉันเหรอ” ประโยคสุดท้ายเธอพูดให้ได้ยินแค่สองคนก่อนจะยิ้มให้เขาไปหนึ่งยก จะเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ แต่ตอนนี้หัวใจแทบจะทะลักออกมาแล้ว ก่อนอื่นก็ตั้งสติให้ดีก่อนยะ “ไวน์หมดแล้ว เลี้ยงไวน์ผิงหน่อยสิคะ” เธอเอาหน้ามาอ้อนให้เลี้ยง แถมยังเอาความนุ่มนิ่มมาแนบต้นแขน จะว่าไปตัวเธอหอมมาก ผิวเนียนนุ่ม ถ้าไม่รู้ว่าเธอกินไม่เลือกมีหวังตกหลุมพรางแน่นอน “ได้สิ...เอามาเลย” เมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ้มสวย ก่อนจะลุกขึ้น “จะเลี้ยงแค่โต๊ะเราคงไม่ดีหรอก ที่นี่มีตั้งสี่โต๊ะ นายก็เลี้ยงสี่ขวดสิ แรกฉันจะเลี้ยงเอง แต่ไม่อยากหักหน้านาย” วิโรจน์ยิ้มมีเลศนัย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะมีอะไรหรอก อยากดื่มก็ตามสบายเลย “ได้สิ...เอาตามนั้น” เอสหันไปบอกผิงที่ลุกขึ้นจะไปเอาไวน์ ก่อนที่เธอจะก้มลงมาจุ๊บแก้มเขา แล้วเดินยิ้มออกไป ทำให้หลายคนต่างพูดว่าทั้งสองคบกันแล้ว วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรทำไมพวกนี้ดูจะรับมือง่ายไปหน่อย...คงไม่มีอะไรหรอกนะ"อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วยเหลือประเทศ หรือเห็นแค่กำไรเหมือนบางคนพูด เพราะมีแค่ทางนี้ที่พอเป็นไปได้"เอสพูดน้ำเสียงหนักแน่น ตรงไปตรงมาที่สุด พร้อมกับหันมาส่งสายตามองยาหยีเธอกำลังจะตอบกลับ แต่ถูกบิดาห้ามเอาไว้ก่อน คราวนี้เธอยอมเชื่อฟัง แล้วส่งสายตาไม่พอใจใส่เอส'ก็แค่พวกเห็นแก่ตัว จะหวังดีอะไร'เอสนั่งรอคำตอบจากทั้งสองคนที่กำลังปรึกษากัน แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่ง่าย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้เขากู้เงินไปทำการวิจัย แต่เพราะระบบห้ามณัทพงศ์ครุ่นคิดเงียบ ๆ เขาจะสามารถไว้ใจคนอื่นได้เหรอ เพราะแม้แต่ในหน่วยงานรัฐยังมีคนของพวกนั้นแฝงตัวอยู่ ถ้าหากสิ่งที่กำลังจะผลิตหลุดออกไป พวกนั้นคงรู้ตัว และลงมือจัดการเสียก่อน'จะทำไงดี...ไม่มีทางอื่นอีกเหรอ'"เอาเป็นว่าเรื่องนี้ฉันคงต้องปรึกษากันก่อน แล้วจึงให้คำตอบนะ"เข้าดูลังเลจริง ๆ เพราะยังไม่ไว้ใจเอส จึงอยากขอเวลาคิดอีกหน่อย"ได้ครับ...ผมยินดีช่วย""ขอบคุณมาก มีคนแบบนะเธอประเทศชาติคงพัฒนาไปอีกระดับแน่"เอสยิ้มตอบก่อนจะขอตัวกลับ พร้อมอเล็กซ์ที่เดินออกมา ทว่าก่อนจะออกจากบ้าน ทั้งสองต้องหยุดเท้าที่จะเดินไปข้างหน้า เพราะสาวสวยเดินมาขวา
ทหารติดอาวุธพอเห็นหน้าทั้งสองก็เหมือนจะรู้จักอเล็กซ์ พวกเขาไม่ได้ห้าม พร้อมกับเปิดประตูให้ทั้งสองเข้าไปข้างใน ก่อนจะปิดประตูไว้เหมือนเดิมเอสมองรอบห้องโถงขนาดใหญ่ ราวกับพระราชวัง ทุกซอกทุกมุมตกแต่งด้วยของเก่า ทำให้ได้กลิ่นบรรยากาศของยุคนั้น เอสสะดุดกับชุดโซฟาตรงกลางชุดโซฟาดูไม่ธรรมดา มีลวดลาย และดีไซน์สวยงาม เข้ากับการตกแต่งห้อง และคนสองคนที่นั่งอยู่ ทำให้เอสประหม่าเล็กน้อย"มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ" ชายวัยหกสิบกว่า รูปร่างกำยำเอ่ยปากเชิญ"สวัสดีครับ"ทั้งสองคนกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม ก่อนจะนั่งลงช้า ๆ ด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะเอส ที่เพิ่งเคยเจอคนใหญ่คนโตของประเทศ ทำให้รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รนรานมาก"นี่คือ...คนที่พูดถึงเหรอ"ชายคนนั้นถามขึ้น พร้อมกับสายตาที่มองสำรวจเอส เขาดูตกใจไม่น้อย หลังจากสืบข้อมูลของเขา จากคนที่ล้มเหลวที่สุด กลายเป็นคนที่รวยเทียบเท่ามหาเศรษฐี ในเวลาไม่ถึงเดือน ทำให้นายทหารทึ่งในตัวเขามาก'เบื้องหลังของคุณคืออะไรกันนะ คนที่ฉันไม่สามารถตรวจสอบได้เลยเหรอ'ประธานใหญ่ BKAS หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะแนะนำตัวให้ทั้งสองคนรู้จัก คนที่ถามก่อนหน้า คือผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ในระหว่างที่งานเลี้ยงกำลังดำเนินไป อย่างครื้นเครงแม้ว่าบริษัทซัพพลายเออร์หลายแห่งจะทยอยกลับ แต่ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังอยู่ แต่น้อยจนนับนิ้วได้ทำให้สีหน้าของวิโรจน์ไม่ค่อยพอใจ เพราะแบบนี้บริษัทจะไปรอดยังไง แต่ในสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว นอกจากเตรียมตัวปรับโครงสร้าง และ ประธานใหญ่ไม่ใช่เขา แต่คือตัวแทนบริษัท BBOSSพนิดาเดินมานั่งพัก หลังจากทักทาย และสานสัมพันธ์กับแขกในงาน เธอดื่มไปเยอะจนแก้มแดงทั้งสองข้าง"หึ...แกคงพอใจสินะ บริษัทกำลังจะจมลงเหวแบบนี้ พวกแกจะทำให้บริษัทพังไม่เป็นท่า"อนันต์นั่งอยู่ข้างวิโรจน์ ที่ยังนั่งอยู่ กับหลานชาย และคนอื่นที่ยอมรับความจริงไม่ได้ พวกเขาไม่อยากกลับไป เพราะไม่สามารถข่มตาหลับลงได้"ทำไมคุณลุงพูดแบบนั้นละคะ การปรับโครงสร้างเป็นวิธีบริหารแบบสากล มีความโปร่งใส และ ทำให้บริษัทก้าวหน้ากว่าเดิม นี่ถึงจะเป็นประโยชน์ของบริษัท"'ทำไมยังไม่เข้าใจ หรือไม่อยากเสียผลประโยชน์ที่เคยได้ มากกว่าเงินปันผลเหรอ'พนิดาตอบกลับ พร้อมสีหน้าสงสัยในตัวของลุง เธอไม่เคยเห็นเขาคิดเพื่อบริษัทสักครั้ง คิดแต่จะทำยังไงให้ได้เงินเข้ากระเป๋ามากขึ้นพอเธอพูดแบบนั้นยิ่งท
"เรื่องนี้พิสูจน์ง่ายมาก ใช่ไหม" เอสหันไปพูดกับอเล็กซ์"หมายความว่าไง ก็เห็นชัดว่าแกทำธุรกิจสีเทา หรือไม่ก็แกล้งรวยยังไง" มังกรอดไม่ได้รีบตอบเอสยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบบัตรธนาคารสีดำด้านขึ้นมา เขาวางไว้บนโต๊ะ และดึงดูดความสนใจไม่น้อย พวกเขาอยู่ในวงการธุรกิจมานาน ย่อมรู้ดีว่าบัตรธนาคารที่ใช้ หมายถึงอำนาจทางการเงินของคนนั้น"เอาบัตรธนาคารกระจอกมาทำไม หรือจะบอกว่าแกรวยเพราะมีมันเหรอ" มังกรพูดเสียงดังในขณะที่คนอื่นเงียบกริบ แม้แต่ภัทรกับวิโรจน์ยังไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไร"หุบปากก่อนไอ้ลูกเวร นั่งลง" อนันต์ตวาดด่าลูกชายที่โง่จนมองไม่ออกประธานใหญ่คนอื่น ๆ ต่างจับจ้องที่บัตรธนาคารของเอส แค่เห็นชื่อของธนาคารพวกเขาก็เหงื่อตก รู้โล่งที่ไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้แต่พอมองดูวิโรจน์ที่ปากดีตั้งแต่ต้น ดูถูกเขาทุกอย่าง ก็ทำให้พวกนั้นยิ้มเยาะ คราวนี้บริษัท F&M คงได้เปลี่ยนมือแล้วละ"คุณอเล็กซ์...เกิดอะไรขึ้นทำไมถึง..." ภัทรพูดติดขัด รู้สึกงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น"อ่อ...เขาเป็นลูกค้าวีวีไอพีของเรานะครับ คงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขารวยจริง"ทุกคนอ้าปากค้างกับคำว่าวีวีไอพี ลูกค้าที่มีเงินในบัญชีแสนล้านขึ้นไปวิโรจ
"ได้...เรามาเริ่มกันดีกว่า พวกคุณบอกว่าผมไม่รวยจริง และ ไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัท BBOSS คุณทุกคนก็พิสูจน์ได้เลย" เอสพูดยืดยาว"แน่นอน พวกเรามีเบอร์ติดต่อของบริษัท BBOSS แค่โทรไปก็รู้แล้ว" ภัทรหยิบมือถือขึ้นมา"คราวนี้แกจะแก้ตัวยังไง ก็หนีไม่รอดหรอก" อนันต์กัดฟันพูด พร้อมกำหมัดขว่าแน่น"เตรียมตัวได้เลย รปภ รีบไปคุมตัวเขาไว้ก่อน เดี๋ยวพอถึงเวลาแล้วจะหนีไปได้" มังกรยิ้มมุมปาก แววตาแฝงไปด้วยแผนการพนิดานั่งฟังอย่างใจเย็น แต่ถึงขั้นนี้เธอคิดว่าเกินไป"หยุดนะ...เขายังไม่ผิดพวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไร"รปภ ร่างกำยำสามคนหยุดนิ่ง เพราะไม่กล้าขัดคำสั่ง ตอนนี้จึงรอให้ผู้มีอำนาจตัดสินกันเองค่อยลงมือตาม"เธอกล้าดียังไง คิดว่าตัวเองเป็นใครเหรอ หลังจบเรื่องนี้เธอต้องถูกทำโทษแน่ ใช่ไหมครับคุณภัทร"อนันต์ตะคอกใส่ ไม่ไว้หน้าประธานเลยสักนิด ก่อนจะหันไปส่งรอยยิ้มให้ภัทร เพราะรู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรกับ หลานสาวตน"ฉันจะจัดการเธอทีหลัง ตอนนี้จับตัวมันไว้ได้แล้ว"รปภ รับคำสังจึงเดินเข้าไปหาเอส แต่พวกเขาก็ต้องหยุดทันทีที่ได้ยินเสียงของอเล็กซ์"พวกคุณไม่ให้เกียรติผมเลยนะครับ อยู่ต่อหน้าผมยังทำตัวแบบนี้ได้เหรอ" เขาพู
"คุณอเล็กซ์ครับ ผมขอยืมเงินคุณได้ไหม พอดีอยากเอาไปพนันเล่นนิดหน่อย" เอสหันไปพูดกับอเล็กซ์อเล็กซ์อดขำในใจ คนที่มีเงินเยอะกว่าเขาเนี่ยนะ จะมาขอยืมเงิน แต่ถึงยังไงก็ต้องเล่นไปตามน้ำ เรื่องสนุกต่อจากนี้ต่างหาก"ได้สิ ผมจะรับประกันเอง อยากรู้ว่าเขาจะจัดการยังไง ถ้าความจริงถูกเปิดเผย""ขอบคุณ...ได้ยินแล้วใช่ไหม"ทั้งสามคนยิ้มเยาะก่อนจะกันมาหาอเล็กซ์ พวกเขาไม่คิดว่าเอาจะถูกช่วยไว้ เพราะภัทรอยากให้เอาเดิมพันชีวิต เขาจะได้ทรมานให้สาสมที่กล้ามาขวางทาง"เอ่อ...ผมว่าไม่ต้องถึงมือคุณอเล็กซ์ก็ได้ครับ เอาอย่างนี้เดิมพันชีวิตของนาย" มังกรหันไปพูดกับเอสในตอนท้าย"ใช่แล้ว ถึงแพ้เขาก็ไม่มีปัญญาจ่าย ให้เขาใช้ชีวิตตัวเองแทนดีกว่า""ได้...ใครกลัว"ทุกอย่างเข้าแผนของพวกเขา ตอนนี้มีอเล็กซ์เป็นพยาน ไม่ว่ายังไงพวกเขาคงคิดว่าชนะร้อยเปอร์เซ็นต์เอสนั่งเผชิญหน้ากับทั้งสามคน โดยมีคนอื่น ๆ ที่มีหน้ามีตาในวงการธุรกิจ นั่งเป็นพยานด้วย อย่างเช่น อเล็กซ์ กับประธานใหญ่บริษัทอื่นจากการสังเกตพวกเขา มานานเอาจึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ทั้งหมดเป็นเพราะนิสัย และ สันดานเดิมคล้ายกัน ไม่ว่าใครก็เลวพอกัน ต







