"ขอโทษนะคะทางเราจะเปลี่ยนอาหารให้ แต่ลูกค้าก็ต้องจ่ายค่าอาหารเอง"
"อะไรวะไหนมึงบอกจะพากูมากินฟรีไง" เพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันกระซิบถาม "เดี๋ยวค่อยหาวิธีใหม่" คลับแห่งนี้รองรับลูกค้าได้เยอะมาก พนักงานเลยจำไม่ได้ว่าคนไหนที่เคยมีปัญหา แถมครั้งนั้นคนที่เข้ามาเคลียร์ก็ไม่ใช่ข้าวปุ้นด้วยเลยไม่รู้ปัญหานี้ "ทำไมถึงไม่ทวนเมนูให้แน่ใจก่อน" ข้าวปุ้นเรียกพนักงานคนนั้นมาตำหนิ เพราะถ้าจะไม่พูดเลยก็ไม่ได้ "ทวนแล้วค่ะ แต่พอยกอาหารมาลูกค้าบอกไม่ได้สั่ง" "ช่างมันก่อนไปบอกพ่อครัวจัดอาหารมาเปลี่ยนให้ลูกค้า" "ค่ะ" ข้าวปุ้นมองไปดูลูกค้ากลุ่มนั้นเธอเชื่อพนักงานของตัวเอง แสดงว่าลูกค้ากลุ่มนั้นต้องมีปัญหาแน่ "สวัสดีค่ะเสี่ย คิดว่าเสี่ยจะไม่มา" เวลาเดียวกันนั้นหน้าคลับ เด็กที่รอรับแขกจำเสี่ยกระเป๋าหนักคนนี้ได้เลยรีบเข้ามาต้อนรับ "วันนี้ห้องพิเศษไม่ว่างแล้วค่ะ คราวหลังเสี่ยโทรมาหาจอยก่อนก็ได้นะคะ" "ไม่เป็นไรฉันจะนั่งโต๊ะข้างนอก" งานก็เยอะแต่ยังปลีกตัวมาที่นี่ได้ คำตอบที่ให้กับตัวเองเวลานี้คือแค่จะมาดูงานเพื่อไปปรับใช้กับสถานบันเทิงของตัวเองที่กำลังจะเปิดตัว "ถ้างั้นตามจอยมาทางนี้เลยค่ะ" หลังจากที่อาหารถ้วยใหม่มาบริการ ข้าวปุ้นก็พยายามจับตามองลูกค้ากลุ่มนั้น และก็เห็นสิ่งผิดปกติ เธอเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเป็นคลิปวีดีโอไว้ "เฮ้ยทำไมอาหารถึงมีแมลงลงไปวะ" และมันก็เป็นแบบที่ข้าวปุ้นคิด ลูกค้ากลุ่มนี้วางแผนจะเข้ามากินฟรีนี่เอง แสดงว่าเคยทำแบบนี้มาแล้ว "พ่อครัวเพิ่งทำเสร็จให้ใหม่ๆ เลยค่ะไม่มีทางที่แมลงจะลงไป" "หนูมาดูนี่" ลูกค้าคนนั้นตักแมลงที่ตัวเองเพิ่งวางลงขึ้นมาให้กับพนักงานเสิร์ฟเห็น "ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะ" "ฉันว่าไปเรียกเจ้าของมาดีกว่า" "ไม่ต้องไปเรียกหรอก" ข้าวปุ้นเดินตรงเข้ามาตอนที่ลูกค้าถามหาเจ้าของที่นี่ "ฉันขอเชิญพวกคุณออกไป" ตอนนั้นข้าวปุ้นกระซิบบอกพนักงานให้ไปตามบอดี้การ์ดของร้านเข้ามา "อ้าวทำไมพูดหมาๆ แบบนี้ล่ะ" "คุณจะให้ฉันเอาหลักฐานออกมาให้ดูใช่ไหมคะ" "หลักฐานอะไรวะ" "เรื่องนี้ฉันสามารถเอาผิดพวกคุณได้นะ" ข้าวปุ้นหยิบโทรศัพท์ออกมากำลังจะส่งให้ลูกค้าได้ดูว่าเธอถ่ายคลิปไว้แล้ว แต่ลูกค้าก็ปัดโทรศัพท์ของเธอตกก่อน "คุณทำอะไร!" "ถือไม่ระวังเองมาใส่ร้ายคนอื่น" ตอนที่ข้าวปุ้นกำลังโน้มตัวลงไปจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของมันก็เอื้อมไปหวังจะแตะสะโพกของเธอ ตุ๊บ!! โครม~ เก้าอี้ที่ลูกค้าคนนั้นนั่งอยู่กระเด็นล้มลงไปตามแรงถีบ "โอ๊ย อะไรวะ!" มันลุกขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นลูกค้าที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ กัน แต่ยังไม่ทันได้มีเรื่องกันมากกว่านั้นบอดี้การ์ดของทางร้านก็รีบเข้ามาลากลูกค้าคนที่โวยวายออกไปข้างนอกก่อน "เสี่ยเป็นยังไงบ้างคะ" จอยที่นั่งเอ็นเตอร์เทนเสี่ยอยู่รีบลุกขึ้นมาดูตอนบอดี้การ์ดเคลียร์พื้นที่แล้ว "ไม่เป็นไร" "กลับไปนั่งที่เดิมกันเถอะค่ะ" ข้าวปุ้นไม่รู้ว่าตอนนั้นทำไมเสี่ยเจ้าของโรงแรมนั่นถึงได้ถีบลูกค้าจนกระเด็น เธอไม่เห็นเลยไม่ได้ขอบคุณ แต่เขาคงไม่ต้องการคำขอบคุณหรอกเพราะตอนนี้เดินไปนั่งกับเด็กคนนั้นแล้ว หลังจากที่เธอหันหลังให้อัคคีก็มองตาม เขาแปลกใจทำไมเธอถึงไม่เข้ามาหาอีก ก็ในเมื่อเธออยากเข้าหาเขาไม่ใช่เหรอ อุตส่าห์เปิดโอกาสให้แล้วนะเนี่ย แต่อัคคีก็อยู่ที่นี่นานไม่ได้ พรุ่งนี้มีงานเลยต้องกลับก่อน เลิกงานของคืนนั้น.. ด้วยความเคยชินเธอขับรถตรงกลับบ้านจนลืมเลยว่าต้องไปรอรับชุด ห้องของข้าวปุ้นอยู่โซนห้องคนรับใช้ เธอถูกย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่คุณท่านเสียไป ส่วนคุณทรงอัปสรก็ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ก่อนหน้าเธอก็ถูกเลี้ยงดูเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแต่พอหมดที่พึ่งก็เป็นแบบที่เห็น ด้วยความเหนื่อยล้ากลับมาถึงข้าวปุ้นก็หลับเป็นตาย แต่มาตื่นอีกทีตอนที่มีคนเคาะประตูห้องรัวๆ "ใครคะ" "คุณผู้หญิงบอกให้มาเอาชุด" "ชุด?" ตายแล้วลืมได้ยังไงเนี่ย ข้าวปุ้นหันไปดูนาฬิกาว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ถ้าไปรับชุดกลับมาคงไม่ทันแน่ เธอเลยรีบออกมาแจ้งว่าลืมแวะเอาชุด "อะไรนะ สิ่งสำคัญขนาดนั้นทำไมเธอถึงลืม รู้ไหมว่าคืนนี้เป็นงานเลี้ยงบริษัทของสามีฉัน" "ข้าวขอโทษค่ะเดี๋ยวข้าวจะออกไปเอามาให้ตอนนี้เลย" ตอนนี้เธอยังคงอยู่ในชุดนอน เพราะไม่มีเวลาแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า "ไม่ทันแล้ว เธอเอาชุดไปให้ฉันที่โรงแรม" "โรงแรมอะไรคะ" "โรงแรมอัครเทวี" ก็คือโรงแรมอัครเทวีทรัพย์นั่นแหละคนส่วนมากจะเรียกแค่นั้น "ค่ะ" จะกลับเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่ทันแล้ว ไปมันชุดนี้เลยแล้วกัน เธอต้องฝ่ารถติดมาที่ร้านซักแห้ง เพื่อมารับชุดแล้วก็ต้องไปส่งคุณผู้หญิงที่โรงแรมอีก หลังจากที่ได้ชุดแล้วข้าวปุ้นก็ขับรถตรงไปทางโรงแรม กว่าจะมาถึงตอนนี้ก็ค่ำมืดมากแล้ว ถ้าจะไปทำงานก็คงไม่ทัน >>{"ชุดมาแล้วค่ะ"} ข้าวปุ้นโทรไปแจ้งเผื่อว่าท่านจะให้คนออกมาเอาชุด {"มาแล้วก็เอาเข้ามาให้ฉันสิ อยู่ห้องรับรองแขกของโรงแรม"} >>{"แต่ว่าข้าว.."} {"จะแต่อะไรล่ะ อีกนิดเดียวฉันก็สายแล้ว"} หวังว่าทางโรงแรมคงให้เข้านะ โอ๊ยอยากจะบ้าตายช่วงนี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ข้าวปุ้นนำชุดนั้นมากอดแนบกับตัวเองแล้วก็รีบเดินเข้าไปในโรงแรม ที่ต้องกอดชุดไว้เพื่อให้ปิดบังชุดนอนที่เธอใส่อยู่ด้วย "คุณลูกค้า?" ไม่เคยมีใครใส่ชุดนอนเข้ามาในโรงแรมพนักงานต้อนรับเลยงงนิดหน่อย "ฉันเอาชุดมาให้เจ้านายค่ะ ท่านบอกว่าอยู่ห้องรับรองแขก" "อ๋อเชิญทางนี้เลยค่ะ" ข้าวปุ้นจำพนักงานคนนี้ได้ แต่พนักงานคงจำเธอไม่ได้ ถ้าจำได้ก็แปลกดูสาระรูปตัวเองสิคนละเรื่องกับคืนงานแต่งเลย โอ๊ยหวังว่าคงไม่เจอคนรู้จักนะ กึก! ชุดในมือร่วงลงพื้นตอนที่เดินสวนกับใครบางคน และเขาคนนั้นก็หยุดแล้วหันกลับไปมองดูว่าตัวเองตาฝาดหรือเปล่า สวรรค์คงไม่ได้ยินคำขอจากเราแน่เลย ทำไมต้องเจอเขาในสภาพแบบนี้ด้วยเนี่ยHot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 140 ตอนจบ"ได้ยินแม่บอกว่าคุณยังไม่ทานข้าวเที่ยงเหรอ"แพรไหมพยักหน้าตอบไม่ใช่แค่ข้าวเที่ยงหรอกข้าวเช้ายังทานไม่ค่อยลงเลยด้วยความเป็นหมอเขาเลยสอบถามอาการของเธอให้แน่ใจ ว่าเธอมีอาการแพ้ท้องแบบไหนเพราะการแพ้ท้องมีหลายแบบ พอรู้ถึงอาการของเธอแล้วรังสิมันต์เลยเข้าไปในตัวเมืองเพื่อจัดยามาให้เธอทานก่อน และหาอาหารบำรุงครรภ์มาเตรียมไว้ให้เธอในระหว่างที่เขาทำเรื่องวันต่อมา.."แม่เก็บของทำไมคะ" แพรไหมเปลี่ยนเสื้อผ้านักศึกษาออกมาเตรียมจะไปเรียนแล้วก็เห็นว่าแม่กำลังเก็บของ"เราจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯไงลูก""ย้าย?""คุณหมอยังไม่บอกเราเหรอ""ยังไม่บอกค่ะ" เมื่อคืนนี้กินยาที่เขาให้ไปง่วงนอนมากเลยหลับ ตอนที่เธอหลับรังสิมันต์ออกมาปรึกษาแม่เรื่องนี้ ทั้งสองเลยตกลงว่าจะไปอยู่ที่นั่น แต่ก่อนนางอาจจะยังลังเลอยู่แต่ตอนนี้มีหลานเล็กๆ แถมหลานอีกคนก็กำลังจะเกิด นางจะเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ไม่ได้แล้ว"แล้วพี่หมอล่ะลูก""ตอนนี้เข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ"ไม่นานรังสิมันต์ก็ออกมาจากห้องเห็นแม่ของเธอกำลังเก็บของอยู่พอดี"ตอนเช้าผมจะพาแพรไปคุยเรื่องเรียนก่อนนะครับ ช่วงสายๆ เดี๋ยวผมมาช่วยเก
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 139 >>{"สวัสดีครับคุณแม่ ผมนึกว่าแพร"} {"เมื่อกี้ยัยแพรก็อยู่ตรงนี้แหละ แต่ตอนนี้เข้าไปอ้วก"}>>{"แพรเป็นอะไรครับ?"} {"ตาหมอมีธุระด่วนจะคุยกับน้องไหมล่ะ"}>>{"พอดีว่าพรุ่งนี้ผมต้องเดินทางไปสัมมนาที่ต่างประเทศครับเลยอยากจะคุยกับแพรก่อน ว่าแต่วันนี้แพรทานอะไรบ้างครับ"} เขาวินิจฉัยเธอผ่านทางโทรศัพท์ เพราะคนที่จะอาเจียนได้มีหลายปัจจัย แต่ก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายทั้งนั้นเลย ร่างกายถึงได้ขับของพวกนั้นออกมา {"วันนี้น้องไปเรียนแม่ไม่รู้ว่าที่มหาวิทยาลัยทานอะไรบ้างเดี๋ยวรอน้องออกมาก่อนนะลูก"}ไม่นานแพรไหมก็ออกมาแม่เลยบอกว่าคุณหมอรอสายอยู่ {"ค่ะคุณหมอ"}>>{"แพรมีอาการเป็นยังไงบ้าง"} {"เวียนหัวคลื่นไส้ค่ะ"}>>{"มีอาการเวียนหัวร่วมด้วยเหรอ? เป็นมากี่วันแล้ว"} {"หลายวันแล้วค่ะ แต่เป็นๆ หายๆ"}>>{"ไปหาหมอหรือยัง"} {"ทีแรกแพรนึกว่าอาการนี้มันจะหายไปแล้วเลยไม่ได้ไปหาหมอค่ะ"}>>{"ประจำเดือนเดือนนี้มาหรือยัง"} ประโยคต่อมาของคำถามทำให้แพรไหมถึงกับชะงัก {"เกี่ยวอะไรกับประจำเดือนคะ"}>>{"ตอบผมมาก่อน"} {"ยังไม่มาเลยค่ะ"}>>{"เดือนสุดท้ายมาวันที่เ
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 138เช้าวันต่อมา.."สายแล้ว" มือหนาเอื้อมไปบีบจมูกเธอเบาๆ เพื่อเป็นการปลุกให้ตื่น"อืม" นอกจากจะไม่ตื่นแล้วเธอยังคงฝังใบหน้าลงกับแผ่นอกของเขาแนบแน่นขึ้น"วันนี้วันศุกร์ต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ""ไม่ไป" เสียงงัวเงียเปล่งออกมาเบาๆ โดยที่ไม่ได้ขยับเขยื้อน"ไม่ไปไม่ได้""ถ้ากลับมากลัวไม่เจอคุณหมอ""ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าแม่จะกลับมา""จริงหรือคะ" จากที่งัวเงียอยู่เมื่อครู่ดูสดใสขึ้นมาทันทีทันใด"จริงสิ""ถ้าแพรไปเรียนคุณหมอก็เหงาสิคะ""ไม่เป็นไรหรอก"เขาไม่เป็นไรแต่เรานี่สิจะไม่ใจขาดก่อนเหรอ ยิ่งรู้ว่าเขารออยู่ที่บ้านเธอรู้ว่าตัวเองต้องคิดถึงเขามากแน่เลยแต่แพรไหมก็ต้องไปเรียนเดี๋ยวเขาหาว่าเกเรรังสิมันต์ขับรถของแม่มาส่งเธอที่มหาวิทยาลัย เพราะเขาไม่ได้เอารถมาด้วย ตอนมาที่นี่ก็ให้รถที่สนามบินมาส่ง"คุณหมอลงไปด้วยกันไหมคะ""ไปได้เหรอ" เขากลัวว่าเธอจะอายเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่มีแฟนอายุเยอะกว่า"ไปได้สิคะ" อยากจะอวดแฟนใจจะขาดอยู่แล้ว พอลงจากรถแพรไหมก็ควงแขนของคุณหมอเดินเข้ามาที่คณะ"แพร?" มีเพื่อนหลายคนที่รู้จักคุณหมอ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่รู้จัก "คนนี้เหรอคุณหมอสุดหล
ตุ๊บ! อยู่ดีๆ ร่างของจิรายุก็กระเด็นออกจากประตู"กรี๊ดด" สาวๆ สองคนที่ยืนรอลุ้นอยู่ด้านหลังตกใจกรีดร้องเสียงดัง เพราะคิดว่าขโมยขึ้นบ้านจริงๆ ส่วนจิรายุที่เป็นทัพหน้าตอนนี้กองอยู่กับพื้นหน้าประตูบ้านชั้นบน"โอ๊ยย" มีไม้ในมือแท้ๆ แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้"ใคร! ออกมานะ" แพรไหมที่เข้าไปพยุงจิรายุตะโกนเข้าไปในบ้าน บอกให้คนที่ทำร้ายเพื่อนออกมาจากที่ซ่อนจังหวะเดียวกันนั้นเจ้าของเท้าที่ถีบจิรายุก็เผยโฉม"คุณหมอ?" แพรไหมแทบขยี้ตาดูอีกรอบว่าเธอมองถูกหรือเปล่า หรือคิดถึงเขามากจนมองโจรเป็นเขา"ผมเอง" ตอนที่พูดสายตาเขามองมือเธอที่กำลังพยุงไอ้ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นอยู่"คุณหมอจริงๆ ด้วย" แพรไหมรีบปล่อยมือแล้วตรงเข้าไปหาเขา "คุณหมอมาได้ยังไงคะ""นั่งเครื่องมา""แล้วคุณหมอรู้จักบ้านของแพรได้ยังไงคะ" นอกจากรู้จักบ้านแล้วเขาต้องมีกุญแจบ้านเธอด้วยถึงจะเข้ามาได้แบบนี้"เจอแม่ที่โรงพยาบาล" ตอนที่พูดเขายังคงมีท่าทีไม่สบอารมณ์สายตายังคงมองไปดูไอ้คนที่มันสำออยอยู่ที่จริงจิรายุไม่ได้สำออยหรอกใครเจอเข้าไปก็ต้องจุกกันบ้างแหละ"จิเธอเป็นอะไรไหม" พอนึกได้ว่าลืมเพื่อนแพรไหมกำลังจะหันกลับไปถามแต่ถูกมือหนาโอบเข้ามาก่อนจะ
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 136เพราะแบบนี้แหละเขาถึงยังไม่บอกเรื่องการประเมิน กลัวว่าเธอจะไม่สบายใจ เพราะผลการประเมินคะแนนของเธอได้มากที่สุดและเรื่องนี้อาจารย์ก็ปล่อยไปไม่ได้ เพราะนักศึกษาข้องใจกับการให้คะแนน แถมคนที่ให้คะแนนก็เป็นคนรักของคนที่ได้คะแนนสูงสุดด้วยทางอาจารย์เลยต้องโทรติดต่อกลับไปที่โรงพยาบาล ว่าพอจะให้เหตุผลเรื่องการให้คะแนนได้ไหม หรือถ้าให้เหตุผลไม่ได้ก็จะขอให้ทางโรงพยาบาลแก้คะแนนตามความเหมาะสม ไม่อยากให้มีผลกระทบต่อการฝึกงานของนักศึกษาเลยแต่พออาจารย์ได้รับรู้ถึงเหตุผลนั้นแล้ว รวมถึงคลิปที่ทางคุณหมอรังสิมันต์เตรียมไว้ให้ ก็ได้นำหลักฐานนั้นเข้ามาแจ้งกับนักศึกษาที่รังสิมันต์ไม่บอกเหตุผลตั้งแต่แรกเพราะเขาอยากกลั่นกรองคนในชีวิตของเธอด้วย ถ้าทุกคนยอมรับโดยไม่มีข้อกังขานั่นหมายถึงเพื่อนแท้เพื่อนแท้จะไม่แอบแทงข้างหลังกัน และเพื่อนแท้ก็ต้องมองเห็นว่าเธอช่วยเพื่อนมากแค่ไหน แต่คนที่กล้ามีข้อสงสัยนั่นหมายถึงเห็นแก่ตัวมากหวังแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียวหลังจากที่อาจารย์นำหลักฐานการให้คะแนนเข้ามาบอกนักศึกษาที่สงสัยเสร็จแล้วทุกคนก็เงียบ เพราะมันก็เป็นจริง แบบที่คุณหมอให้เหตุผลมาว่า
Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 135เช้าของวันต่อมา.. รังสิมันต์ไม่ได้บอกเธอหรอกว่าผลการประเมินของเธอได้เท่าไร แต่เขาก็ได้จนเสร็จเพราะถึงแม้เธอจะไม่ทำต่อเขาก็ทำเองได้ ..ที่ไม่บอกกลัวเธอจะคิดมากและแพรไหมก็เข้าใจ ในเมื่อเขาบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงเดี๋ยวก็คงไปรู้ที่มหาวิทยาลัยเองมาถึงโรงพยาบาลนักศึกษาฝึกงานก็ถูกเรียกตัวให้มาพูดคุยกัน เพราะพรุ่งนี้แล้วที่ทุกคนต้องเดินทางกลับ"สวัสดีครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการฝึกงานนี้จะช่วยให้นักศึกษาทุกท่านได้เรียนรู้การใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย""นอกจากจะหล่อแล้วแถมคำพูดคำจายังกินใจอีก""อย่าปลื้มมากนั่นผัวเพื่อน""เราก็มาฝึกงานที่นี่เป็นเดือนๆ ทำไมไม่เจอเหมือนยัยแพรเลย""แกได้ยินสุภาษิตไหมที่ว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่มาแข่งบุญวาสนามันแข่งกันไม่ได้หรอกนะ""ถ้านักศึกษาเรียนจบแล้วใครต้องการอยากมาสายอาชีพนี้ โรงพยาบาลแห่งนี้ยินดีต้อนรับนะครับ""จริงหรือคะคุณหมอ ดีจังเลยค่ะ""ผลการประเมินผมได้ส่งอีเมลไปทางมหาวิทยาลัยให้แล้วนะครับ"นักศึกษาทุกคนต่างก็กล่าวคำขอบคุณก่อนจะแยกย้ายไปแผนกที่รับผิดชอบ ส่วนมากวันนี้เป็นวันร่ำลาพี่ๆ ที่ช่วยกันฝึกสอน