วันที่เขาประกาศกร้าวว่า 'อย่าล้ำเส้น' พิมดาวก็พยายามใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอทำตัวเหมือนวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในคฤหาสน์
เธอหลบไม่ให้เขารำคาญสายตาเมื่อเห็นหน้าด้วยการไปขลุกตัวอยู่ตรงบริเวณห้องจิบน้ำชาที่เห็นวิวสวนและอ่านหนังสือเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังใส่ใจรอเขากลับมาถึงบ้านก่อนแล้วค่อยนอน (แยกห้อง) พร้อมกัน
เขามักจะกลับมาในเวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งเป็นส่วนมาก ซึ่งระหว่างนั้นเธอก็จะพัฒนาตนเองด้านอื่น ทั้งการฝึกบุคลิกภาพให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น การอ่านหนังสือ ดูซีรีส์ฝึกภาษาที่แน่นอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก และพอกะ ๆ เวลาว่าสามีจะเดินทางกลับมา เธอถึงจะเดินไปแอบดูอยู่บริเวณประตูบานเลื่อน เพราะคฤหาสน์หลังนี้มีขนาดใหญ่และเก็บเสียงมาก ทำให้ไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไร
และเมื่อเห็นเขาลงจากรถหญิงสาวก็จะรีบไปแอบแถวห้องครัวเพื่อเลี่ยงการปะทะ ซึ่งลูปชีวิตของเธอก็จะวนเวียนแบบนี้ทุกวัน
"ใกล้จะมาแล้วมั้ง" หญิงสาวพึมพำกับตัวเองพลางเก็บหนังสือไปวางไว้ในตู้โชว์และเดินออกไปหน้าประตู แต่ก็ดันพบร่างสูงใหญ่ที่เดินโซซัดโซเซเข้ามาในบ้านด้วยสภาพเมามายอย่างไม่ทันตั้งตัว
ในตอนแรกพิมดาวก็แอบอยู่แถว ๆ ตู้ แต่พอเห็นจังหวะที่เขากำลังจะเดินลงมานั่งที่โซฟาและดูเหมือนจะเซเธอเลยรีบวิ่งเข้าไปประคองด้วยสัญชาตญาณ
"ระวังค่ะเฮีย"
"ปล่อย..." อินหลงยกมือมาปัดป้องหญิงสาว ทั้งยังส่งสายตาดุ ๆ มาที่เธอ ใบหน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่ก็ยังคงฉายสีหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นเธอมาอยู่ใกล้
"อยากจะผิดกฎข้อที่สองหรือยังไง..." แม้จะเมาจนพูดแทบไม่รู้เรื่อง สติก็แทบเลือนหายแต่ทิฐิที่คนตัวสูงมีให้เธอนั้นไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
"ถ้ามันจำเป็นก็ต้องผิดแหละค่ะ" พิมดาวนั่งย่อตัวลงข้าง ๆ และประคองร่างแกร่งที่โอนเอนไปมาให้นอนแนบไปบนโซฟา รู้ดีว่าต้องอย่าล้ำเส้นที่เขาขีดไว้ แต่การเห็นเขาอยู่ในสภาพนี้แล้วมันก็อดไม่ได้จริง ๆ
"อือ..." คนตัวสูงครางอื้ออึงในลำคออย่างไม่ได้ศัพท์ พิมดาวจึงจัดการถอดถุงเท้าและไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นมาซับตามใบหน้าหล่อเหลา
"อย่ามาแตะตัวฉัน..." แม้จะแทบหลับไปแล้ว แต่จิตใต้สำนึกของคนตัวสูงก็ยังคงปฏิเสธเธอจนถึงที่สุด หญิงสาวถอนหายใจออกมาเล็กน้อย พลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าของเขาต่อไป
เธอไล่ซับตามกรอบขมับจนถึงสันกรามและลำคอที่มีรอยสักเท่ ๆ อย่าง 'Liberté' ไล่ลงมาตามความยาวทีละตัวอักษรซึ่งเธอก็ไม่รู้หรอกว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่พอมาอยู่บนร่างกายแสนสง่างามแล้วมันดูเป็นศิลปะที่สวยสุด ๆ
"..." ระหว่างที่มือน้อยกำลังทำหน้าที่เช็ดตัวให้อินหลงอยู่นั้น ลมหายใจของเธอก็เริ่มติดขัด เพราะปลายนิ้วที่สัมผัสโดนผิวร้อนของเขาทำให้เธอรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมา
เธอพยายามสลัดความคิดมากมายในหัวออกไป และหยุดการเช็ดเนื้อตัวอยู่แค่ลำคอกับไหปลาร้าโค้งสวยของเขา แม้ว่าแก้มของเธอจะมีอาการร้อนผ่าวแต่เธอก็ต้องไม่สนใจ...
หญิงสาวเดินไปหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวคนที่นอนหลับไปแล้วสังเกตได้จากลมหายใจสม่ำเสมอ และกลับมานั่งอยู่บนโซฟาตัวข้าง ๆ นั่งมองหน้าเขาสักพักพลางคิดว่าเวลานอนหลับแบบนี้ก็ดูสงบดีนี่นา มันจะมีช่วงเวลาที่เธอกับเขาจะพูดจากันดี ๆ กันบ้างไหมนะ...
นั่งมองไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มจะเคลิ้ม พิมดาวไม่รู้ว่าตัวเองเผลอนั่งจ้องมองใบหน้าหล่อเหลานั้นนานเท่าไหร่ จนกระทั่งภาพต่าง ๆ เริ่มมืดลงเรื่อย ๆ และกลายเป็นการหลับใหลตามเขาไป
เวลา 05.00 นาฬิกา
"..." หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงสาวใช้เริ่มออกมาทำงานบ้านกันแล้ว และนาฬิกาบ่งบอกเวลาตีห้า เธอจึงรีบขยี้ตาและหันไปมองหาร่างสูงที่เคยนอนอยู่บนโซฟาตัวยาว แต่ก็พบกับความว่างเปล่า...
เขาตื่นแล้วเหรอ...แล้วเมื่อกี้เธอเผลอนั่งหลับไปพร้อมกับเขาแบบนี้จะโดนต่อว่าอีกไหมเนี่ย
"ขอโทษที่ทำให้ตื่นนะคะคุณพิม"
"ไม่เป็นไรค่ะ...แล้วเฮียล่ะคะ"
"คุณชายขึ้นไปบนห้องไม่ถึงสิบนาทีนี้เองค่ะ"
"อ๋อค่ะ ฝากงานบ้านด้วยนะคะ" ว่าจบหญิงสาวก็รีบเดินขึ้นไปชั้นสองด้วยความเมื่อยล้า เธอผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ปกติเธอไม่ใช่คนหลับง่ายขนาดนั้น
ปัง!
ทันทีที่เดินมาถึงชั้นสอง ประตูห้องของอินหลงก็เปิดออกมาอย่างแรงจนเธอสะดุ้งโหยง
"ต่อไปอย่าคิดจะแตะตัวฉันตอนเมาอีก เธออยากผิดกฎข้อที่สองหรือยังไง มีปัญญาจ่ายค่าปรับให้ฉันเหรอ" พอประจันหน้ากันเขาก็เปิดฉากตำหนิเธอทันที ตอนนี้แววตาที่เคยเมามายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาตามธรรมชาติซึ่งเป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่าเขาสร่างเมาแล้ว...และจำทุกอย่างได้
"พิมไม่ได้มีเจตนาแบบแบบนั้นนะคะ พิมแค่เห็นว่าเฮียเมาเลยจะเช็ดตัวให้..."
"ฉันโตแล้วนะไม่ใช่เด็ก รู้ขอบเขตของตัวเองบ้าง"
"..." พิมดาวถึงกับเงียบ จะให้เธอทำยังไงในเมื่อมีคนเมานอนแอ๋อยู่ต่อหน้าและคน ๆ นั้นก็คือสามีทางทะเบียนสมรสของเธอ ถ้าหญิงสาวปล่อยให้เขาล้มลงกับพื้นเธอก็โดนต่อว่าอยู่ดี
"อย่าทำตัวเหมือนเป็นคนสำคัญในชีวิตฉัน...เคยบอกแล้วไงว่าอย่าล้ำเส้น" หญิงสาวเม้มปากแน่น แค่ดูแลเขาตอนเมาแทบไม่ได้สติมันผิดขนาดนั้นเลยหรือถึงต้องพูดจาแรง ๆ ใส่เธออีกแล้ว
สรุปง่าย ๆ ทำดีก็ด่า ไม่ทำดีเลยยิ่งจะโดนด่าหนักกว่าเดิม แล้วเธอจะไปเลือกอะไรได้นอกจากทำดีต่อไปและโดนด่าเหมือนเดิม
"พิมขอโทษค่ะถ้าทำให้เฮียไม่สบายใจ" คำขอโทษออกมาจากปากคนตัวเล็กอย่างกล้ำกลืน แม้จะมั่นใจว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่สถานะของเธอตอนนี้นั้นไม่สามารถแข็งข้อกับเขาได้ ถ้าทำให้เขาไม่พอใจก็แค่ขอโทษ มันไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นคนของเธอลดลงหรอก
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาทำให้เธอรู้สึกว่าไร้ศักดิ์ศรีความเป็นคนนั่นแหละจะเป็นวันที่เธอไม่ทน
"รู้แล้วก็อย่าทำอีก" แม้เสียงของเขาจะดูลดระดับความแข็งกร้าวลงนิดหน่อยหลังจากได้ยินคำขอโทษจากเธอ แต่มันก็ยังคงกระด้างไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไหร่
ปัง!
เสียงประดูห้องนอนถูกปิดดังปังต่อหน้าเธอ หญิงสาวยืนกำหมัดนิ่งงันอยู่หน้าห้องของอินหลง พลางปล่อยให้ความเงียบกัดกินหัวใจไปเรื่อย ๆ เพราะเธอคงทำอะไรไม่ได้นอกจากพยายามเป็นภรรยาที่ดีของเขาต่อไป แม้ว่าเขาจะเกลียดกันก็ตาม
"คุณพ่อลองอุ้มเลยค่ะ" เมื่อผ่านขั้นตอนการคลอดลูกจนมาพักอยู่ในห้อง VVIP แล้ว พยาบาลก็นำลูกน้อยของเขาและเธอมาให้คุณพ่อมาเฟียลองอุ้มแม้จะมือสั่นน้ำตาซึมไปบ้าง แต่ท่าทางของเขานั้นแสนจะแข็งแรงและดูมืออาชีพสมกับไปเข้าคอร์สติวการเลี้ยงลูกมาอย่างเข้มข้นตลอดหลายเดือนจริง ๆ ตอนนี้ทุกคนต่างอมยิ้มให้กับภาพที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น...บุคคลที่เคยเอาแต่ใจและฝีปากเจ็บ ๆ จนทุกคนร้องไห้เพราะเขามามากกำลังอยู่ในโหมดคุณพ่อที่เห่อลูกเห่อเมียที่หนึ่งเขาอุ้มลูกน้อยอ้วนกลมโยกไปมาเบา ๆ อย่างเอ็นดู และจึงวางเหมยอิงไว้ที่เตียงเด็กแรกเกิดข้าง ๆ ภรรยา"น่ารักจังเลยหลานอาม่า โตมาสวยเหมือนหม่าม้าหนูแน่ ๆ " เกศมณีเดินเข้าไปมองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของหลานสาวด้วยความรักตอนนี้ครอบครัวจางอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อตอนรับหลานสาวคนแรกของตระกูล...พวกเขาทั้งเอ็นดูและหมั่นแวะเวียนมาพูดคุยกับเจ้าตัวน้อยที่นอนหลับพริ้มอย่างรักใคร่ นั่นทำให้พิมดาวตื้นตันใจเป็นอย่างมากที่ทุกคนรักและเอ็นดูลูกสาวของเธอแม้เธอจะเติบโตมาด้วยการเป็นลูกสาวที่พ่อไม่ค่อยจะรักสักเท่าไหร่ แต่เธอก็มั่นใจได้ว่าเหมยอิงจะไม่ได้รับประสบการณ์แบบเธอแน่นอน เพราะดวงใจ
"เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน!""..." หญิงสาวหยิบที่ตรวจครรภ์มาจากสามี ขีดทั้งสองนั้นชัดเจนจนมือไม้ของเธอสั่น แม้ว่าใจลึก ๆ จะพอรู้ว่าตัวเองน่าจะท้อง แต่เมื่อผลตรวจออกมาตอกย้ำความเป็นจริงแบบนี้ก็ทำให้พิมดาวดีใจจนน้ำตารื้นได้ ถึงจะดีใจแค่ไหนแต่หญิงสาวก็รู้สึกกลัวและไม่มั่นใจ"พิมไม่ดีใจเหรอ" อินหลงรีบเดินมาโอบภรรยาด้วยความเป็นห่วง"ดีใจค่ะ แต่ก็กลัว...""กลัวอะไรครับ""พิมไม่มั่นใจ พิมไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ดีไหม" หญิงสาวพูดตรง ๆ ถึงความกังวลในอนาคต"โถที่รัก พิมต้องเป็นหม่าม้าที่ดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว น่ารัก ใจดี ทำกับข้าวก็เก่ง มีอะไรที่ต้องกังวลครับ" ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูภรรยาตัวน้อย เขาเข้าใจที่เธออาจมีความกลัวและกังวล เพราะว่ากันตามตรงเธอก็อายุเพียงยี่สิบต้น ๆ เอง แถมยังผ่านเรื่องราวมามากมาย และสามีก็ยังใจร้ายกับเธอมาตั้งนาน"ฮือ...พิมดีใจ" คนตัวเล็กโผเข้ากอดสามีที่เพิ่งจะดีกันได้ไม่กี่ชั่วโมงด้วยความรักใคร่ ไม่อาจปฏิเสธเลยว่าทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา เธอมักจะรู้สึกปลอดภัยราวกับถูกโอบกอดด้วยภูเขาแสนอบอุ่นอยู่เสมอ"ฮ่า ๆ โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะครับ" อินหลงหัวเราะกับท่าทีเหมือนเด็กน้อยข
แสงพระจันทร์ยามค่ำคืนสาดส่องเข้ามาในห้องนอนที่เพิ่งเป็นสถานที่เปิดศึกรักไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา ภาพแรกที่เธอมองเห็นคือใบหน้าหล่อราวกับรูปปั้นสลักที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขหลังจากจบบทรักแสนเร่าร้อนบนเตียง เขาก็อุ้มเธอเข้าไปอาบน้ำและสูบพลังเธอไปอีกหลายครั้งจนหญิงสาวต้องบอกให้เขาพอก่อน เพราะเธอเขาสั่นจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว แม้คนตัวสูงจะแอบบ่นอุบอิบเพราะยังกินไม่หนำใจ แต่ก็ยอมใส่อาบน้ำใส่ชุดและมานอนให้เรียบร้อยตามคำสั่งภรรยาหญิงสาวกวาดสายตาไปมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เวลาที่เธอสะดุ้งตื่นมานั้นประมาณตีสองเอง อีกนานกว่าจะเช้า หญิงสาวเลยพยายามหลับตาเพื่อจะนอนอยู่ในอ้อมกอดของสามีต่อแต่อาการปั่นป่วนก็เข้าเล่นงานเธอเวียนหัวมาก รู้สึกคลื่นไส้หนักจนต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำและนั่นทำให้สามีของเธอตื่นขึ้นมาทันที"พิม เป็นอะไรครับ!""อ้วก..." พิมดาวอาเจียนออกมาเต็มอ่างล้างหน้าโดยมีอินหลงเดินเข้ามาลูบหลังภรรยาที่กำลังอาเจียนอย่างหนัก น้ำตาใส ๆ เอ่อคลอเพราะความทรมานในการออกแรงอาเจียนใช้เวลาอยู่พักหนึ่งเธอก็ปลดปล่อยของเสียออกมาจนหมด พิมดาวรีบล้างปากและกำลังจะทำความสะอาดซากอ้วกของต
"อ่า...เสียว" อินหลงสูดปากร้องครางเมื่อถูกการสุขสมของภรรยาบีบรัดตัวตนของเขาจนแทบจะเสียการควบคุม ชายหนุ่มดันเรียวขาขาวให้ขึ้นไปชิดกับทรวงอกนุ่ม จนตอนนี้สะโพกของเธอลอยเด่นขึ้นเหนือเตียงนอน พาให้ร่างกายนุ่มนิ่มรองรับการตะบี้ตะบันกระแทกของเขาอย่างลึกขึ้นไปอีกมือหนากดขาภรรยาจนแนบแน่นติดไปกับเต้าตูมและตะบี้ตะบันตอกกระแทกท่อนเอ็นใส่โพรงเนื้ออุ่นอย่างหนักหน่วงเสียงเนื้อกระทบเนื้อผสานกับเสียงครางของเขาและเธอดังก้องไปทั่วทั้งห้อง เขาไม่แคร์ว่าใครจะได้ยิน เพราะการได้เอากับเมียแบบดุเดือดแบบนี้แหละที่เขาโหยหามานานแสนนาน และเขาไม่จำเป็นต้องปกปิดความเสน่หาที่มีต่อร่างกายเธออีกต่อไปแล้วต่อจากนี้และตลอดไป เขาจะแสดงออกในทุก ๆ วันว่ารักและหลงใหลในตัวเธอมากแค่ไหน อินหลงอยากให้ภรรยาภูมิใจว่ามีสามีที่รักและเทิดทูนอย่างสุดหัวใจ"อ่า...เมียจ๋า รักนะครับ""รัก รักที่สุด" ระหว่างที่กำลังโจนจ้วงเข้าใส่ร่างบางอยู่นั้น เขาก็บอกความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมากับภรรยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะตอนนี้เขารักเธอจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว..."อ๊า...พิมก็รักเฮียค่ะ" แม้จะถูกสามีบดเบียดมาไม่ได้พัก แต่คำว่ารักของเขานั้นชัดเจนในหัวใจ เ
"บ้า! ไปปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" พิมดาวฟาดไปที่ไหล่แกร่งแรง ๆ อย่างเขินอาย จะให้แม่บ้านมาได้ยินตอนเธอกำลังทำอะไรต่อมิอะไรกับสามีได้ยังไง เธอก็เขินเป็นนะ"ก็ได้ครับ" เขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่ยังคงไม่ยอมปล่อยเรือนร่างพิมดาวให้เท้าติดพื้น เขายังคงอุ้มเธอเกี่ยวเอวไว้อย่างนั้น และเวลาที่ก้าวเดินส่วนตรงนั้นก็จะเสียดสีกันอย่างน่าหวาดเสียวฟุ่บ...เมื่อปิดประตูเสร็จเรียบร้อย คนตัวสูงก็พาร่างเล็กลงมานอนบนเตียงและรีบทาบทับกายแกร่งลงมาคร่อมตัวเธอไว้ เขาประกบริมฝีปากลงมาและเริ่มจุมพิตอันดุดันอีกครั้งริมฝีปากของทั้งคู่ต่างบดขยี้กันและกัน ลิ้นร้อนแลกเปลี่ยนเป็นพัวพันเกี่ยวกระหวัดจนเสียงดังชัดเจน...เขาจูบเธอหนักแน่นราวกับต้องการกลืนกินลมหายใจที่โหยหามานานแสนนาน"อื้อ..." พิมดาวร้องครางอู้อี้ในลำคอเมื่อฝ่ามือร้อนของสามีปัดป่ายไปตามเนื้อตัวนุ่มนิ่มและจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ของเธอให้หมดไป อินหลงผละริมฝีปากออกและหันไปจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนตอนนี้ทั้งสองเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงประจักษ์แก่สายตาของกันและกันริมฝีปากร้อนของเขาไล่จูบที่แก้มใสทั้งสองข้างและเลื่อนไล้ลงมาซุกไซ้กับซอกคอขาวเนียนที่มีกลิ่น
"เฮีย...อย่าร้องไห้ค่ะ" พิมดาวทั้งตกใจและสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่จริงใจของเขาจนน้ำตาไหลตามกัน ยิ่งเขาสะอื้นดังขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของพิมดาวก็เหมือนจะขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ "เฮียรักพิม..." คำบอกรักเจือเสียงหอบหายใจทำเอาหยาดธาราไหลรินออกมาเป็นสาย"เฮียจะไม่ยอมหย่ากับพิมเด็ดขาด ไม่…เฮียทำไม่ได้จริง ๆ เฮียขอร้องนะ ขอโอกาสให้ผู้ชายแย่ ๆ ที่รู้ตัวช้าได้ไหมครับ""เฮียรักพิม…เฮียขาดพิมไม่ได้ ฮึก" เขายังคงสะอื้นไห้อย่างต่อเนื่อง หยดน้ำตาของเขาหลั่งไหลออกมาจนเปรอเปื้อนบริเวณเอวเธอไปหมดเขากำลังเสียใจอยู่จริง ๆ … ไม่ใช่อาการผีออกผีเข้า แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยอมทุกอย่าง หมดสิ้นอีโก้ทุกทางตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว…และเธอยอมรับทั้งหัวใจอย่างซื่อสัตย์เลยว่า...โคตรรักเขาเลย รักจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจนะที่เลือกจะมอบใบหย่าให้สามีพิมดาวเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาเลย แต่เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคน...ในวันแรกที่เธอคุยกับพ่อแม่ของเขาว่าจะหย่า พวกท่านก็ช็อกพอสมควรที่เธอตัดสินใจแบบนั้นแต่ที่เธอเลือกจะหย่า นั่นก็เพราะยึดมั่นในสัญญาที่เคยเซ็นไว้กับเขา คือเรื่องจบเมื่อไหร่