Z Club
ไนต์คลับที่เหล่าผู้คนแห่งลาสเวกัสต่างยกให้เป็นคลับที่อยากมาเที่ยวในวันศุกร์มากที่สุดท่ามกลางสถานที่เที่ยวต่าง ๆ มากมายที่แข่งขันกันอย่างสูงในระแวกนี้
ด้วยการตกแต่งที่โดดเด่นไม่เหมือนใครและสถาปัตยกรรมล้ำยุค ทำให้เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกอนาคต ผนังกระจกที่สะท้อนแสงไฟนีออนโทนน้ำเงินและแดงตัดกันอย่างมีเสน่ห์ รวมถึงเพดานที่ถูกออกแบบให้เหมือนดวงดาวในกาแล็กซีส่องแสงวูบวาบกระทบที่พื้นแสนสมจริง
นี่คือไนต์คลับที่ "จาง อินหลง" ลูกชายคนเล็กของตระกูลมาเฟียผู้ทรงอำนาจแห่งฮ่องกงและมาเก๊าเป็นผู้ดูแล แม้จะอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปี แต่การมีความสามารถด้านธุรกิจนั้นสืบต่อมาทาง DNA อย่างเข้มข้น
และการที่เขาดูแลไนต์คลับที่อเมริกาแทนที่จะกลับไปฮ่องกงเพราะว่าความ 'รักอิสระ' ในตัวของเขามันมากกว่าการกลับไปอยู่ในอุ้งมือของบิดาที่ฮ่องกง
เพราะเขาไม่ค่อยจะถูกกับพ่อเท่าไหร่...ด้วยความที่เขาเอาแต่ใจ และหัวแข็ง จึงทำให้มีปากเสียงกันอยู่บ่อย ๆ โดยเขาเองก็รู้ตัวว่าตนเองไม่ได้เดินตามทางที่พ่อขีดไว้เท่าพี่ชายทั้งสองอย่าง 'จาง ไท่หมิง' และ 'จาง ฟานอี้' สักเท่าไหร่
พ่ออยากให้เรียนที่อังกฤษ เขาเลือกมาอเมริกา
พ่อไม่อยากให้สักนอกร่มผ้าเพราะยังไงก็ต้องมีมาดนักธุรกิจที่น่าเชื่อถือ แต่เขาสักแม้กระทั่งที่คอ และหน้าอก เรียกได้ว่าเห็นชัดในทุกด้าน
พ่ออยากให้กลับมาฮ่องกง แต่แน่นอนว่าเขาไม่กลับ
อะไรที่ทำให้พ่อขัดใจดูเหมือนว่าเขาจะทำมันเสียทุกอย่าง จนรู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ที่นี่มาเกือบแปดปีแล้ว
ถึงแม้จะชอบขัดใจพ่ออยู่เสมอ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเป็นลูกคนรวย มีอำนาจ และบริวารในมือมันก็ย่อมดีกว่าเป็นคนไม่มีอะไรเลยอยู่แล้ว...เพราะชีวิตของจาง อินหลง นั้นมีทุกอย่างที่ใครใฝ่ฝัน
รถ นาฬิกา เงินทอง เพนต์เฮาส์ หรือแม้กระทั่งผู้หญิง...ทุก ๆ อย่างล้วนมากองอยู่แทบเท้าโดยไม่ต้องกระดิกนิ้ว เฉกเช่นในตอนนี้ที่เขานั่งอยู่ข้างบนห้อง VIP ที่ปิดล้อมด้วยกระจกใสทำให้เห็นบรรยากาศความสนุกสนานของผู้คนข้างล่างอย่างชัดเจน ก็มีวีวี่หญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่ตอนนี้กำลังติดพันเขาอย่างจังมานั่งอยู่บนตัก
"คุณนั่งดูมานานแล้ว...เราไปสนุกกันเถอะค่ะ" ฝ่ามือเรียวลูบไล้กรอบหน้าคมไปมาอย่างเอาใจ เธอใช้ปลายนิ้วเชยชมความหล่อเหลาของจาง อินหลงด้วยความหลงใหล
เริ่มจากผมสีดำสนิทกับคิ้วหนาเข้ม นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่คมกริบดุจมีดแหลมคมที่ดูเยือกเย็น จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสวยงามราวกับจิตรกรบรรจงวาด และรูปร่างแข็งแรงกับส่วนสูงที่น่าจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบแปดถึงร้อยเก้าสิบได้ บวกกับออร่าบางอย่างที่ทำให้เขาดูสง่างามและน่าเกรงขามสมกับเป็นลูกเจ้าพ่อ
"ได้สิ" คนตัวสูงกล่าวกับหญิงสาวในอ้อมกอด ก่อนจะโอบเอวเธอให้ขึ้นมาบนตัวเพราะเข้าใจดีว่า 'สนุก' ของเธอหมายถึงเรื่องบนเตียง ซึ่งเขาก็จัดเต็มให้ตลอดอยู่แล้ว แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะโน้มใบหน้าไปซุกไซ้กับลาดไหล่เนียน เสียงเคาะประตูจากบอดีการ์ดก็ดังขึ้นมาก่อน
"เข้ามา" ชายหนุ่มตอบรับอย่างหัวเสีย
"นายครับ มีแขกเราสองคนจะลากผู้หญิงที่เมาไม่ได้สติออกไปครับ"
"...อีกแล้วเหรอ" เขาถอนหายใจออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์นัก หลายคนอาจจะคิดว่ามาเฟียอย่างเขาล้วนทำแต่เรื่องผิดกฎหมาย แต่มันต้องไม่ใช่การรังแกหรือข่มเหงผู้หญิง...เขาไม่เคยยอมหลับตาข้างเดียวให้กับเรื่องพวกนี้ เห็นทีต้องลงไปจัดการด้วยตัวเองให้เด็ดขาด
อินหลงลุกออกจากเก้าอี้และดันร่างน้อยให้พ้นทาง ก่อนรีบเดินลงบันไดไปยังพื้นที่เกิดเหตุ ทันทีที่เขาปรากฎตัวฝูงชนที่กำลังเต้นอย่างเมามันก็แหวกทางให้เขาโดยอัตโนมัติ เพราะรังสีอำมหิตและจำนวนบอดีการ์ดที่เดินตามทำให้ทุกคนพอจะเดาได้ว่าเขาเป็นใคร และยิ่งใหญ่แค่ไหน
"ทำอะไร" เสียงทุ้มเอ่ยถามชายสองคนที่พยายามประคองร่างแขกผู้หญิงออกไปจากไนต์คลับ
"ยัยนี่มากับกู"
"ไม่จริง ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้"
"มึงเสือกอะไรด้วยวะ ไอ้ลิงเหลือง" หนึ่งในสองคนนั้นเอ่ยคำเหยียดชาวเอเชียขึ้นมาและพากันหัวเราะอย่างสะใจ นี่พวกมันเมาจนดูไม่ออกเลยเหรอว่าเขาเป็นใคร
"แน่ใจแล้วเหรอที่พูดแบบนี้กับกู" เขาแค่นหัวเราะในใจใส่ไอ้ขยะสองตัวที่รนหาที่ตายไม่เข้าเรื่อง อินหลงพยักหน้าหนึ่งทีบอดีการ์ดทุกคนก็พร้อมใจกันเข้าไปจัดการจนพวกมันนอนอยู่กับพื้นท่ามกลางเสียงโอดครวญ
"อ๊าก ปล่อยกู!" แน่นอนว่าการ์ดเหล่านั้นไม่ปล่อย และยังกดพวกนั้นจนแทบจะจมดิน อินหลงมองเศษเดนมนุษย์ทั้งสองอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะใช้เท้าใหญ่ที่ถูกสวมด้วยรองเท้าขัดมันอย่างดีเตะเข้าไปที่ศีรษะของสองคนนั้นอย่างแรงคนละหลายที
"อย่ามากร่างในที่ของกู...จัดการมันให้เรียบร้อย และพาแขกผู้หญิงไปพักด้วย" เหล่าการ์ดรับคำสั่งอันเด็ดขาดของอินหลงและจัดการกระทืบพวกมันต่อ จากนั้นจึงช่วยกันพาแขกผู้หญิงขึ้นไปพักบริเวณห้องพักเพื่อรอให้เธอสร่างเมา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นที่คลับของเขา...มันเกิดขึ้นบ่อยจนเขาเองก็เบื่อที่มีคนในสังคมที่คิดจะฉวยโอกาสกับคนที่ไม่ได้สติเยอะมากมายขนาดนี้
เขาก็ไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่...กระทำเหี้ย ๆ กับผู้หญิงมาก็เยอะ แต่เหี้ยของเขากับพวกมันไม่เหมือนกัน อย่างมากเขาก็แค่ด่า ไล่ ขู่ให้ตกใจ และก็มั่นใจได้เลยว่าคนอย่างเขาจะไม่ไปย่ำยีใครแน่นอน
"อ๊าก!" เสียงโอดร้องของทั้งสองคนดังขึ้นพร้อมกันในทันทีที่เขาหันหลังจากมา ซึ่งก็สมควรแล้วที่จะโดนกระทืบ
"คุณพ่อลองอุ้มเลยค่ะ" เมื่อผ่านขั้นตอนการคลอดลูกจนมาพักอยู่ในห้อง VVIP แล้ว พยาบาลก็นำลูกน้อยของเขาและเธอมาให้คุณพ่อมาเฟียลองอุ้มแม้จะมือสั่นน้ำตาซึมไปบ้าง แต่ท่าทางของเขานั้นแสนจะแข็งแรงและดูมืออาชีพสมกับไปเข้าคอร์สติวการเลี้ยงลูกมาอย่างเข้มข้นตลอดหลายเดือนจริง ๆ ตอนนี้ทุกคนต่างอมยิ้มให้กับภาพที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น...บุคคลที่เคยเอาแต่ใจและฝีปากเจ็บ ๆ จนทุกคนร้องไห้เพราะเขามามากกำลังอยู่ในโหมดคุณพ่อที่เห่อลูกเห่อเมียที่หนึ่งเขาอุ้มลูกน้อยอ้วนกลมโยกไปมาเบา ๆ อย่างเอ็นดู และจึงวางเหมยอิงไว้ที่เตียงเด็กแรกเกิดข้าง ๆ ภรรยา"น่ารักจังเลยหลานอาม่า โตมาสวยเหมือนหม่าม้าหนูแน่ ๆ " เกศมณีเดินเข้าไปมองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของหลานสาวด้วยความรักตอนนี้ครอบครัวจางอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อตอนรับหลานสาวคนแรกของตระกูล...พวกเขาทั้งเอ็นดูและหมั่นแวะเวียนมาพูดคุยกับเจ้าตัวน้อยที่นอนหลับพริ้มอย่างรักใคร่ นั่นทำให้พิมดาวตื้นตันใจเป็นอย่างมากที่ทุกคนรักและเอ็นดูลูกสาวของเธอแม้เธอจะเติบโตมาด้วยการเป็นลูกสาวที่พ่อไม่ค่อยจะรักสักเท่าไหร่ แต่เธอก็มั่นใจได้ว่าเหมยอิงจะไม่ได้รับประสบการณ์แบบเธอแน่นอน เพราะดวงใจ
"เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน!""..." หญิงสาวหยิบที่ตรวจครรภ์มาจากสามี ขีดทั้งสองนั้นชัดเจนจนมือไม้ของเธอสั่น แม้ว่าใจลึก ๆ จะพอรู้ว่าตัวเองน่าจะท้อง แต่เมื่อผลตรวจออกมาตอกย้ำความเป็นจริงแบบนี้ก็ทำให้พิมดาวดีใจจนน้ำตารื้นได้ ถึงจะดีใจแค่ไหนแต่หญิงสาวก็รู้สึกกลัวและไม่มั่นใจ"พิมไม่ดีใจเหรอ" อินหลงรีบเดินมาโอบภรรยาด้วยความเป็นห่วง"ดีใจค่ะ แต่ก็กลัว...""กลัวอะไรครับ""พิมไม่มั่นใจ พิมไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ดีไหม" หญิงสาวพูดตรง ๆ ถึงความกังวลในอนาคต"โถที่รัก พิมต้องเป็นหม่าม้าที่ดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว น่ารัก ใจดี ทำกับข้าวก็เก่ง มีอะไรที่ต้องกังวลครับ" ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูภรรยาตัวน้อย เขาเข้าใจที่เธออาจมีความกลัวและกังวล เพราะว่ากันตามตรงเธอก็อายุเพียงยี่สิบต้น ๆ เอง แถมยังผ่านเรื่องราวมามากมาย และสามีก็ยังใจร้ายกับเธอมาตั้งนาน"ฮือ...พิมดีใจ" คนตัวเล็กโผเข้ากอดสามีที่เพิ่งจะดีกันได้ไม่กี่ชั่วโมงด้วยความรักใคร่ ไม่อาจปฏิเสธเลยว่าทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา เธอมักจะรู้สึกปลอดภัยราวกับถูกโอบกอดด้วยภูเขาแสนอบอุ่นอยู่เสมอ"ฮ่า ๆ โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะครับ" อินหลงหัวเราะกับท่าทีเหมือนเด็กน้อยข
แสงพระจันทร์ยามค่ำคืนสาดส่องเข้ามาในห้องนอนที่เพิ่งเป็นสถานที่เปิดศึกรักไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา ภาพแรกที่เธอมองเห็นคือใบหน้าหล่อราวกับรูปปั้นสลักที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขหลังจากจบบทรักแสนเร่าร้อนบนเตียง เขาก็อุ้มเธอเข้าไปอาบน้ำและสูบพลังเธอไปอีกหลายครั้งจนหญิงสาวต้องบอกให้เขาพอก่อน เพราะเธอเขาสั่นจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว แม้คนตัวสูงจะแอบบ่นอุบอิบเพราะยังกินไม่หนำใจ แต่ก็ยอมใส่อาบน้ำใส่ชุดและมานอนให้เรียบร้อยตามคำสั่งภรรยาหญิงสาวกวาดสายตาไปมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เวลาที่เธอสะดุ้งตื่นมานั้นประมาณตีสองเอง อีกนานกว่าจะเช้า หญิงสาวเลยพยายามหลับตาเพื่อจะนอนอยู่ในอ้อมกอดของสามีต่อแต่อาการปั่นป่วนก็เข้าเล่นงานเธอเวียนหัวมาก รู้สึกคลื่นไส้หนักจนต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำและนั่นทำให้สามีของเธอตื่นขึ้นมาทันที"พิม เป็นอะไรครับ!""อ้วก..." พิมดาวอาเจียนออกมาเต็มอ่างล้างหน้าโดยมีอินหลงเดินเข้ามาลูบหลังภรรยาที่กำลังอาเจียนอย่างหนัก น้ำตาใส ๆ เอ่อคลอเพราะความทรมานในการออกแรงอาเจียนใช้เวลาอยู่พักหนึ่งเธอก็ปลดปล่อยของเสียออกมาจนหมด พิมดาวรีบล้างปากและกำลังจะทำความสะอาดซากอ้วกของต
"อ่า...เสียว" อินหลงสูดปากร้องครางเมื่อถูกการสุขสมของภรรยาบีบรัดตัวตนของเขาจนแทบจะเสียการควบคุม ชายหนุ่มดันเรียวขาขาวให้ขึ้นไปชิดกับทรวงอกนุ่ม จนตอนนี้สะโพกของเธอลอยเด่นขึ้นเหนือเตียงนอน พาให้ร่างกายนุ่มนิ่มรองรับการตะบี้ตะบันกระแทกของเขาอย่างลึกขึ้นไปอีกมือหนากดขาภรรยาจนแนบแน่นติดไปกับเต้าตูมและตะบี้ตะบันตอกกระแทกท่อนเอ็นใส่โพรงเนื้ออุ่นอย่างหนักหน่วงเสียงเนื้อกระทบเนื้อผสานกับเสียงครางของเขาและเธอดังก้องไปทั่วทั้งห้อง เขาไม่แคร์ว่าใครจะได้ยิน เพราะการได้เอากับเมียแบบดุเดือดแบบนี้แหละที่เขาโหยหามานานแสนนาน และเขาไม่จำเป็นต้องปกปิดความเสน่หาที่มีต่อร่างกายเธออีกต่อไปแล้วต่อจากนี้และตลอดไป เขาจะแสดงออกในทุก ๆ วันว่ารักและหลงใหลในตัวเธอมากแค่ไหน อินหลงอยากให้ภรรยาภูมิใจว่ามีสามีที่รักและเทิดทูนอย่างสุดหัวใจ"อ่า...เมียจ๋า รักนะครับ""รัก รักที่สุด" ระหว่างที่กำลังโจนจ้วงเข้าใส่ร่างบางอยู่นั้น เขาก็บอกความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมากับภรรยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะตอนนี้เขารักเธอจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว..."อ๊า...พิมก็รักเฮียค่ะ" แม้จะถูกสามีบดเบียดมาไม่ได้พัก แต่คำว่ารักของเขานั้นชัดเจนในหัวใจ เ
"บ้า! ไปปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" พิมดาวฟาดไปที่ไหล่แกร่งแรง ๆ อย่างเขินอาย จะให้แม่บ้านมาได้ยินตอนเธอกำลังทำอะไรต่อมิอะไรกับสามีได้ยังไง เธอก็เขินเป็นนะ"ก็ได้ครับ" เขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่ยังคงไม่ยอมปล่อยเรือนร่างพิมดาวให้เท้าติดพื้น เขายังคงอุ้มเธอเกี่ยวเอวไว้อย่างนั้น และเวลาที่ก้าวเดินส่วนตรงนั้นก็จะเสียดสีกันอย่างน่าหวาดเสียวฟุ่บ...เมื่อปิดประตูเสร็จเรียบร้อย คนตัวสูงก็พาร่างเล็กลงมานอนบนเตียงและรีบทาบทับกายแกร่งลงมาคร่อมตัวเธอไว้ เขาประกบริมฝีปากลงมาและเริ่มจุมพิตอันดุดันอีกครั้งริมฝีปากของทั้งคู่ต่างบดขยี้กันและกัน ลิ้นร้อนแลกเปลี่ยนเป็นพัวพันเกี่ยวกระหวัดจนเสียงดังชัดเจน...เขาจูบเธอหนักแน่นราวกับต้องการกลืนกินลมหายใจที่โหยหามานานแสนนาน"อื้อ..." พิมดาวร้องครางอู้อี้ในลำคอเมื่อฝ่ามือร้อนของสามีปัดป่ายไปตามเนื้อตัวนุ่มนิ่มและจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ของเธอให้หมดไป อินหลงผละริมฝีปากออกและหันไปจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนตอนนี้ทั้งสองเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงประจักษ์แก่สายตาของกันและกันริมฝีปากร้อนของเขาไล่จูบที่แก้มใสทั้งสองข้างและเลื่อนไล้ลงมาซุกไซ้กับซอกคอขาวเนียนที่มีกลิ่น
"เฮีย...อย่าร้องไห้ค่ะ" พิมดาวทั้งตกใจและสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่จริงใจของเขาจนน้ำตาไหลตามกัน ยิ่งเขาสะอื้นดังขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของพิมดาวก็เหมือนจะขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ "เฮียรักพิม..." คำบอกรักเจือเสียงหอบหายใจทำเอาหยาดธาราไหลรินออกมาเป็นสาย"เฮียจะไม่ยอมหย่ากับพิมเด็ดขาด ไม่…เฮียทำไม่ได้จริง ๆ เฮียขอร้องนะ ขอโอกาสให้ผู้ชายแย่ ๆ ที่รู้ตัวช้าได้ไหมครับ""เฮียรักพิม…เฮียขาดพิมไม่ได้ ฮึก" เขายังคงสะอื้นไห้อย่างต่อเนื่อง หยดน้ำตาของเขาหลั่งไหลออกมาจนเปรอเปื้อนบริเวณเอวเธอไปหมดเขากำลังเสียใจอยู่จริง ๆ … ไม่ใช่อาการผีออกผีเข้า แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยอมทุกอย่าง หมดสิ้นอีโก้ทุกทางตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว…และเธอยอมรับทั้งหัวใจอย่างซื่อสัตย์เลยว่า...โคตรรักเขาเลย รักจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจนะที่เลือกจะมอบใบหย่าให้สามีพิมดาวเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาเลย แต่เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคน...ในวันแรกที่เธอคุยกับพ่อแม่ของเขาว่าจะหย่า พวกท่านก็ช็อกพอสมควรที่เธอตัดสินใจแบบนั้นแต่ที่เธอเลือกจะหย่า นั่นก็เพราะยึดมั่นในสัญญาที่เคยเซ็นไว้กับเขา คือเรื่องจบเมื่อไหร่