LOGINในที่สุดความพยายามของเอกก็ประสบผลสำเร็จ เขาง้อฝนจนเธอยอมกลับมาเข้าใจและให้อภัย ความตึงเครียดที่เคยมีสลายไปเมื่อฝนร้องไห้จนหลับไปเหมือนเด็กน้อย เอกเฝ้ามองเธออยู่ข้างเตียงด้วยความรักและความทะนุถนอม แต่เมื่อเห็นว่าเธอหลับแล้ว เขาจึงเดินเบาๆ ออกไปที่ห้องของตัวเอง เอกกลับมานั่งที่ปลายเตียงความรู้สึกโล่งใจแผ่ซ่านเข้ามา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก ในใจพลันคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องไปคุยกับแม่ของฝนอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้การจากไปของพ่อทำให้เขาไม่อยากเร่งรัดอะไร แต่ตอนนี้เขาคิดว่าไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปอีก เขาอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับผู้หญิงคนนี้ อยากดูแลและปกป้องเธอไปตลอดชีวิต
ริมทะเล เช้าวันต่อมา เอกตื่นแต่เช้าและออกมาเดินเล่นที่ชายหาดคนเดียว มองดูคลื่นซัดเข้าหาฝั่งด้วยใจที่พะว้าพะวัง อยากชวนฝนมาด้วยแทบขาดใจ แต่ก็ไม่อยากไปรบกวนเวลาพักผ่อนของเธอ แค่คิดว่าเธอยังหลับสบายอยู่บนเตียง เขาก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ทันใดนั้น เสียงแหลมที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง "ทำไมไม่ปลุกกันเลย! จะออกมาเดินเล่นคนเดียวได้ไง!" เอกหันไปมอง ภาพที่เห็นทำเอาหัวใจเขาหยุดเต้น ฝนในชุดเดรสยาวสีชมพูอ่อนที่พลิ้วไหวตามแรงลมยามเช้า เนื้อผ้าบางเบาจนเขามองเห็นเงาบิกินี่สีชมพูอ่อนที่อยู่ข้างในอย่างชัดเจน มันเป็นภาพที่สวยงามและเย้ายวนใจจนเขายืนนิ่งราวกับถูกสาป "ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ?" เขากระซิบถามด้วยความตกใจ รีบเดินเข้าไปบังเธอจากสายตาคนอื่นราวกับกลัวว่าใครจะมาเห็นสมบัติล้ำค่าของเขา "อะไรกันคะ? เรามาทะเลนะ ไม่ได้มาปฏิบัติธรรม" ฝนทำหน้าไม่เข้าใจ ดวงตากลมโตของเธอกะพริบปริบๆ อย่างไร้เดียงสา "พี่รู้ แต่จำเป็นต้องโป๊ขนาดนี้เลยเหรอ" เอกถามเสียงขรึม รู้สึกหงุดหงิดที่ต้องเห็นคนอื่นมองแฟนตัวเอง ฝนหัวเราะเบาๆ ในลำคอ "อ้าว... ที่มองเมื่อกี้ไม่ได้ตะลึงในความสวยหรอกเหรอ?" เอกหน้าแดงเล็กน้อย แต่สายตาก็ยังจ้องเธอไม่วาง "ก็ใช่... แต่ก็ไม่ได้อยากให้คนอื่นเห็นด้วยสักหน่อย" "นี่มันสมัยไหนแล้วคะคุณลุง? มาทะเลทั้งทีจะให้ฝนใส่ชุดนุ่งขาวห่มขาวหรือไง มันก็ต้องแต่งแบบนี้แหละ" เธอยิ้มกว้างอย่างน่ารัก เอกถอนหายใจยาวๆ "ไม่มีใครเขาอยากให้คนอื่นมามองแฟนตัวเองหรอก" ฝนยิ้มอย่างขบขัน "ผู้หญิงก็เหมือนกันแหละ แล้วเสื้อเชิ้ตของพี่นี่กระดุมมีทำไมไม่ติด ถ้าจะติดแค่สองเม็ดก็ไม่ต้องติดกะได้มั้ง!" "ก็พี่ไม่ได้เข้าประชุมนี่ จะให้ใส่สูทผูกไทมาเดินทะเลหรือไง" เอกย้อนกลับทันควัน "พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ ตัวเองยังอยากใส่ชุดสบายๆ เลย แล้วจะมาว่าฝนทำไม"ฝนโต้กลับ "ก็ไม่อยากให้ใคร มองไง มีแต่คนวัยเดียวกันมองอยู่ ใครจะไม่หวง" ขณะพูด เอกใช้มือทั้งสองข้างรวบเอวของฝนเข้ามาแนบชิด พลางลูบไล้ผิวเนียนนุ่มที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมอย่างถือสิทธิ์ ฝนสะดุ้งเฮือกเล็กน้อย "เป็นอะไรเนี่ย? อย่าบอกนะคิดอะไรอยู่! เห็นผู้หญิงใส่ชุดเปิดนิดเปิดหน่อยไม่ได้เลยเหรอ" เธอดันมือเอกออก "โอ๊ย! ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย" เอกรีบปฏิเสธ เขาทำหน้าเป็นลูกหมาตัวโตที่ถูกเข้าใจผิด "ไม่ใช่อะไรล่ะ เห็นมองจนตาจะทะลุอยู่แล้ว!" ฝนทำท่างอนแล้วหันหลังให้ เอกเห็นแผ่นหลังเนียนๆ ของเธอ เขาจึงรีบเข้าไปสวมกอดจากด้านหลังแล้วใช้คางเกยไหล่ของเธอไว้ "โอ๊ย! อะไรของพี่เนี่ย" ฝนพูดพร้อมกับพยายามแกะมือเขาออก เอกเห็นรอยขนอ่อนที่ลุกซู่ที่ไหล่ของเธอ จึงเอาคางถูไปมาตรงนั้น "อย่าถูสิ! มันคัน!" "คือ...พี่ว่าพี่ไปโกนออกดีกว่า" "ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ ทำไมต้องมีหนวดด้วย" ฝนพูดอย่างเซ็งๆ แล้วเดินกลับบ้านพักไป เอกรีบเดินตามเข้าไปที่ห้องพักแล้วรีบเข้าไปจัดการโกนหนวดให้เกลี้ยง เมื่อเอกเดินออกมา ก็มองเห็นไหล่ขาวเนียนของฝน "ไหน ขอลองใหม่อีกรอบได้มั้ย" เอกรีบเดินเข้าไปหา "หยุดเลยนะ! อย่ามาเนียน!" เธอผลักอกเขาไว้ "อ้าว! ก็จะได้รู้ไงว่ามันเกลี้ยงหรือเปล่า" เอกยิ้มเจ้าเล่ห์ "ไหนขอยืมไหล่หน่อยสิ" ฝนส่ายหน้าแต่ก็ยอมให้ เอกใช้คางถูไปที่ไหล่ของเธอ ก่อนจะกอดเธอจากด้านหลังแน่น "อุ๊ย!"... ฝนดิ้นขลุกขลักแล้วแกะมือเขาออก ทั้งสองหันหน้าเข้าหากันในระยะประชิด ฝนเงยหน้ามองเอกที่ตัวสูงกว่า แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง "พี่รักฝนจริงๆ ใช่มั้ย ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบใช่มั้ย" เอกจ้องตาเธอแล้วตอบด้วยความมั่นใจ "รัก...รักมาก รักจนอยากจะเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ ไม่อยากให้ห่างตัว" "ฝนไม่ใช่หนูแฮมเตอร์นะ ทำไมชอบเปรียบเทียบแปลกๆ" ฝนยิ้มเขินๆ "เดี๋ยวก็เป็นปลาบ้าง คราวนี้จะบอกว่าเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ ฝนไม่ใช่สัตว์เลี้ยงสักหน่อย" "ก็พี่เปรียบเทียบไง พี่ไม่อยากให้ฝนไปอยู่กับใคร อยากอยู่ใกล้ๆ ฝนตลอดเวลา" "มันก็แค่ช่วงนี้หรือเปล่า? ช่วงแรกๆ พี่ยังไม่เบื่อใช่ไหม" ฝนถามด้วยความกังวล "จะเบื่อได้ยังไงแฟนพี่น่ารักขนาดนี้ พี่ไม่มีทางเบื่อที่จะตามง้อหรอก เด็กเอาแต่ใจอย่างฝน..." เอกพูดพร้อมกับใช้ปลายนิ้วชี้แตะไปที่ปลายจมูกเล็กและดึงตัวเธอมากอดไว้แน่น "พี่คิดไว้แล้วว่าถ้ามีแฟนเป็นฝนพี่ต้องตามเอาใจ"เอกพูดต่อ "พี่ไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนเลยใช่มั้ย"ฝนถาม "ใช่ ก่อนหน้านี้พี่ไม่เคยสนใจอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่พอมาเจอฝน ชีวิตที่ไม่มีสีสัน ไม่มีรสชาติของพี่ก็เหมือนได้รับการเติมเต็ม" ฝนยิ้มอย่างมีความสุข "แล้วตอนที่เจอฝนครั้งแรกพี่รู้สึกยังไงคะ" เอกยิ้มแล้วพูดอย่างนึกสนุก "จะให้บรรยายความรู้สึกตอนนั้นเหรอ" "ทำไมคะ...มันยังไง ยิ้มแปลกๆ" "ก็...ในครั้งแรกที่พี่เจอฝน พี่ไม่เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง จู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมายืนชี้หน้าด่าแบบไม่มีเหตุผล แถมเมาหลับไม่รู้เรื่อง พี่ยังต้องมามาอุ้มเด็กที่ไหนก็ไม่รู้" "ตอนนั้นพี่อุ้มฝนเหรอ!" ฝนตาโต "ใช่ เพื่อนฝนบอกให้พี่ช่วยอุ้มไปส่งกลับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง เพื่อนฝนเขาเองก็เมาเหมือนกัน" "ทำไมถึงให้คนแปลกหน้ามาอุ้มล่ะ ไอ้ซันมันบ้าหรือเปล่า!" "อย่าว่าเขาเลย ถ้าไม่มีเขา พี่ก็อาจจะไม่ได้ใกล้ชิดฝนมากขนาดนี้จนมีวันนี้ก็ได้" เอกยิ้ม ฝนเงียบไปสักครู่ "แล้วตอนนั้นพี่รู้สึกยังไงที่โดนด่าคะ" "ตอนนั้นเหรอ...ตอนแรกก็รู้สึกงงๆ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมันเร็วมาก พี่แค่เห็นฟ้าท่าทางจะเมาก็เลยจะเข้าไปช่วยพยุง แต่ก็มีเสียงแหลมๆ ตะโกนด่าบอกว่าให้พี่ไปให้พ้น" "ไม่โกรธเหรอ" "ไม่โกรธนะ...กลับรู้สึกว่าตลกดี อยู่ๆ ก็มีเด็กที่ไหนไม่รู้มาด่า มันก็รู้สึกแปลกๆ แล้วก็อยากรู้จัก" "อยากรู้จักอะไร! ตอนที่เจอกันที่มอ. พี่ก็ยังว่าฝนอยู่เลย" "ตอนนั้นพี่ขอโทษแล้วไง" เอกหัวเราะ "ตอนนั้น...มันต่างจากความรู้สึกตอนแรกที่งงๆ กลายเป็นรู้สึกผิดที่ทำให้ฝนเสียน้ำตา เพราะพี่พูดว่าฝนตอนนั้นพี่ทำฝนร้องไห้" "ก็เจอกันหลังจากนั้นอยู่ครั้งสองครั้งนี่ พี่ไม่เห็นจะขอโทษฝนเลย"ในถามต่อ "ก็เจอทีไรฝนก็ด่าพี่ตลอด พูดแต่ว่าพี่เป็นคนหื่นตามไปเข้าใกล้พี่สาว" เอกทำหน้าเศร้าๆ "หน้าพี่มันเหมือนคนหื่นขนาดนั้นเลยเหรอ มันไม่ดูเหมือนคนสุขุมนุ้มลึกเลยเหรอ" "ก็ไม่รู้สิ...เพราะครั้งแรกที่เจอแบบนั้น มันก็มองดีไม่ได้" ฝนหัวเราะ "แล้วไม่สะดุดในความหล่อพี่เลยเหรอ พี่ดูดีขนาดนี้ทำไมถึงเอาแต่ด่าพี่" "ไม่อ่ะ...รอบตัวฝนคนหน้าตาดีเยอะแยะ ทำไมฝนต้องไปสะดุดตากับพี่ด้วย" เอกกอดเธอแน่นขึ้นไปอีกราวกับไม่อยากให้ใครมาแย่งชิง "อย่าพูดแบบนี้อีกนะ รู้มั้ยว่าคนแก่ขี้หึงจะเป็นยังไง" "รู้สิ...เดี๋ยวก็จับปล้ำมั้ง" ฝนพูดพร้อมกับทำหน้านิ่งๆ ดวงตากลมโตฉายแววเจ้าเล่ห์ "คนจะโรแมนติกหน่อยไม่ได้หรือไง"เอกพึมพัน เขาถึงกับทำหน้าเซ็ง แต่ในใจกลับหัวเราะก้อง 'ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ' ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น มือที่โอบเอวคอดกิ่วไว้ทั้งสองข้างก็ยิ่งกระชับแน่นขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของฝนที่ลอยมาแตะจมูก ทำให้เอกเคลิบเคลิ้มจนลืมตัว เขาเผลอก้มหน้าลงไปฝังจมูกสูดดมความหอมที่ซอกคอ ก่อนจะจรดริมฝีปากนุ่มๆ ลงไปบนไหล่เนียนของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา...การเจอกันของฝนกับเอกอยู่ใน
#เรื่อง เกียร์รักปีนเกลียว ตอน 10,11,17,22และตอนที่31 (ตอนพิเศษ) ***นพพลเริ่มสงสัยตอนไหน?เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในงานแต่งงานของฟ้า ลูกสาวคนกลางของนพพล ที่นั่นนพพลได้เจอกับเอกเป็นครั้งแรก และรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เมื่อได้พูดคุยก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู เขาจึงแลกช่องทางการติดต่อกับเอกไว้เมื่อรู้ว่าเอกต้องย้ายมาทำงานที่สาขาต่างจังหวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน นพพลจึงชวนเอกให้มาเช่าบ้านใกล้ๆ ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่ได้มีความสงสัยใดๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ท่อน้ำที่บ้านแตก เอกได้เข้ามาช่วยซ่อมจนเสื้อผ้าเปียก นพพลจึงให้ฝนนำเสื้อมาให้เอกเปลี่ยน ขณะที่เอกถอดเสื้อ นพพลได้เห็นปานรูปใบหม่อนใต้ราวนมของเอก ซึ่งทำให้เขาตกใจและเริ่มสงสัยในตัวเอกอย่างมากหลังจากนั้น ในวันที่ฝนหมดสติและเอกโทรศัพท์ให้นพพลไปหาที่บ้าน ขณะที่เอกกำลังอุ้มฝนไปวางบนที่นอน นพพลได้แอบเข้าไปในห้องน้ำและเก็บเส้นผมรวมถึงแปรงสีฟันของเอกมา เพื่อนำไปตรวจ DNAนพพลจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เพราะเขาไม่อยากให้ประทินต้องผิดหวังหากผลตรวจออกมาไม่ใช่พ่อลูกกัน เขาอยากจะแน่ใจก่อนถึงจะบอกทุกคน เขาพยายามหาโอกาสให้ประทินได้พบกับเอกที่เขื่อน และตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ประทินฟัง แต่โชคร้ายที่นพพลกลับพลัด
บรรยากาศยามเช้าตรู่ ณ กระท่อมน้อยริมบึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แสงแดดสีทองสาดส่องกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ ดอกบัวสีชมพูและขาวพากันชูช่อบานรับแสงอรุณราวกับกำลังยิ้มทักทาย สายลมพัดเอื่อยๆ พากลิ่นหอมของดอกไม้ป่าลอยมาตามลม ผีเสื้อหลากสีโบยบินไปมาอย่างร่าเริง เถาไม้เลื้อยที่เคยดูโรยรากลับเขียวชอุ่มและมีดอกไม้เล็กๆ แซมอยู่ประปราย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาจากป่า บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยความสุขและความหวัง ราวกับธรรมชาติกำลังเยียวยาบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้บนเฉลียงไม้เล็กๆ ของกระท่อมกลางบึง ฝน นั่งอยู่คนเดียวในชุดสีขาวเรียบง่าย ใบหน้าของเธอดูสงบและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาของเธอมองไปยังผืนน้ำนิ่งๆ ที่สะท้อนเงาของท้องฟ้าสีคราม เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับเอาความสดชื่นจากธรรมชาติเข้าสู่ปอดอย่างเต็มที่ในวินาทีนั้นเอง อ้อมแขนแกร่งก็โอบเข้าที่เอวของเธอจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา พร้อมกับกลิ่นหอมสะอาดของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คุ้นเคย เอก ยืนอยู่ด้านหลังของเธอด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสมบูรณ์แบบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ยากจะปิดบัง ทั้งคู่ทอดสายตามองยาวไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าพ
เปลือกตาสีไข่ค่อยๆ ขยับ ก่อนที่นิ้วกลางจะกระตุกขึ้นอย่างแผ่วเบา พลอยใสที่นั่งอยู่ข้างเตียงรู้ทันทีว่าเพื่อนของเธอกำลังจะฟื้น ฝนค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นพลอยใสนั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องด้วยความสงสัยและความงุนงง ในใจเธอยังคงตั้งคำถาม "ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ? ฉันยังไม่ตายอีกเหรอ?" ภาพสุดท้ายที่จำได้ก่อนหมดสติคือภาพของเอกกับแม่ที่อยู่ข้างๆฝนหันไปถามพลอยใส "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วแกมาได้ยังไง?"พลอยใสไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับพูดขึ้นเสียงสั่นเครือ "ฝน แกเป็นอะไร ทำไมแกไม่บอกฉัน! ทำไมถึงคิดแบบนี้ได้ยังไง แกรู้ไหมว่าถ้าแกเป็นอะไรไป จะมีคนอีกตั้งหลายคนที่เสียใจ...ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้!" พลอยใสโผเข้ากอดเพื่อนรักที่กำลังอ่อนเพลียจนพูดอะไรไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆทันใดนั้น ฟ้าเปิดประตูเข้ามา "ฝน! เป็นยังไงบ้าง? พี่ได้ข่าวก็รีบมาเลย ทำไมทำแบบนี้ มีอะไรทำไมไม่บอกพี่!" ฟ้าโผเข้ากอดน้องสาวแล้วร้องไห้ ฝนร้องไห้ตามอีกครั้ง กอดพี่สาวด้วยความเสียใจกับเรื่องราวที่ตัวเองต้องเผชิญ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไร พลอยใสทำได้เพียงลูบหลังปลอบใจ ก่อนจะหันไปมองฟ้าด้วยความไม่เข้า
ฝนกอดรองเท้าข้างน้อยของพ่อไว้แน่น ความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวด ด้วยความสิ้นหวัง รู้ตัวอีกที เธอก็ไปยืนอยู่ริมตลิ่งของเขื่อนชลประทาน สายตาเหม่อมองไปยังผืนน้ำกว้างที่นิ่งสงบ ราวกับกำลังรอคอยที่จะกลืนกินความเจ็บปวดทั้งหมดของเธอลงไป"พ่อ...หนูจะตามพ่อไป..." เธอพึมพำ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ความทรงจำที่เคยมีร่วมกับพ่อฉายชัดขึ้นในหัว ภาพที่พ่อเคยยิ้มให้เธอ เคยโอบกอดเธออย่างอบอุ่น และภาพที่พ่อบอกว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนแต่ตอนนี้...พ่อไม่อยู่แล้ว...และคนที่เธอรักก็กำลังทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดฝนค่อย ๆ ยื่นมือออกไป ปล่อยรองเท้าข้างน้อยของพ่อให้ร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำช้า ๆ ราวกับกำลังปล่อยความหวังสุดท้ายในชีวิตให้จมหายไปกับสายน้ำนั้น"ลาก่อน...ทุกอย่าง..."ในวินาทีนั้นเอง...เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่ทนต่อความเจ็บปวดอีกต่อไป ร่างของเธอค่อย ๆ ก้าวเดินลงไปในน้ำอย่างเชื่องช้า น้ำที่เย็นเยียบไม่สามารถหยุดยั้งความรู้สึกที่ร้อนรุ่มในหัวใจได้ เธอเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผืนน้ำค่อย ๆ กลืนร่างของเธอไปจนมิดและในตอนนั้นเอง...ทุกอย่างก็ดับลง...เธอรู้สึกเหมือนร่างกายลอยเคว้งคว้
"ผมไม่เข้าใจเลยครับคุณอา ท่าทีของนวลในตอนนั้น..."นวล มองซ้ายมองขวา เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ไม่ควรใช้เสียง นวลจึงรากเอกออกมา ยังบริเวณข้างนอกวอร์ด จาก สถานที่ ที่ห้ามรบกวนผู้ป่วยและ บุคลากรของโรงพยาบาลเอกมองหน้าอาด้วยความสับสน ทั้งที่เขาชื่อเอก แต่ทำไมทุกคนถึงเรียกเขาว่า 'นนท์' นนท์เป็นใคร แล้วเอกคือนนท์ นนท์คือเอกจริงหรือ? ความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ"ภาพความทรงจำเมื่อ 28 ปีก่อนย้อนกลับมาฉายซ้ำในหัวนวล"วันนั้น เอก หรือ นนท์ ในวัยเด็กกำลังจะไปเยี่ยมน้องสาวคนใหม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนพร้อมกับพ่อ ขณะที่พ่อกับอาขอตัวไปทำธุระ เอกจึงต้องอยู่กับนวลที่โรงพยาบาลนวลพาน้องสาวตัวน้อยมาฉีดวัคซีน เอกเลยตามมาด้วย แต่แล้วพ่อของเอกก็ขอตัวไปทำธุระอีก ปล่อยให้เอกอยู่กับนวลและน้องสาวตัวน้อยลำพังขณะที่นวลกำลังติดต่อชำระเงินค่าบริการโรงพยาบาล ก็มีหญิงสาวเสียสติคนหนึ่งเดินมาอุ้มน้องสาวตัวน้อยไป เธอคิดว่าเด็กคนนั้นคือลูกของตัวเองที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน เอกเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปทันทีแต่ในระหว่างที่กำลังวิ่งตามออกไปนั้นเอง รถคันหนึ่งก็เฉี่ยวเข้าที่ร่างของเอ
ฝนตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเอก เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยังคงหลับใหลอย่างมีความสุข รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของเขาฝนเดินไปที่ระเบียงและมองออกไปยังวิวทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝัน ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุข ความรัก และความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ความเหงาที่เคยมีในใจมาตลอด ฝนยืนมองวิวอยู่นาน ก่อนที่วงแขนแข็งแรงของเอกจะเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตที่ท้ายทอยแผ่วเบา"ฝนไม่หนีไปจากพี่จริงๆ ด้วย..." เอกพึมพำด้วยเสียงแหบพร่าในยามเช้า ฝนจึงหันไปมองเขาแล้วซบหน้าลงกับแผงอกที่เปลือยเปล่าของเขาอย่างออดอ้อน"จะให้ฝนหนีไปจากความโรแมนติกของพี่เอกได้ยังไงคะ" เธอกระซิบตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เอกหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะกอดเธอไว้แน่นขึ้น"พี่รักฝนนะครับ""ฝนก็รักพี่เอกค่ะ...รักหมดหัวใจเลย"เอกก้มลงจูบฝนอย่างดูดดื่มอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นที่แสนโรแมนติกของทั้งคู่"พี่เอกคะ... กลับจากที่นี่ เราเข้าไปหาแม่ของฝนดีไหมคะ"เอกที่กำลังกอดเธออยู่จากด้านหลังคลายอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตาเธออย่าง