Mag-log inฝนสะดุ้งเล็กน้อยจากสัมผัสที่อ่อนโยน แต่กลับไม่ได้ขัดขืน เธอยอมให้เอกซบใบหน้าลงบนซอกคออย่างเต็มใจ สัมผัสอุ่นๆ ของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นจนราวกับจะหลุดออกมาจากอก
"พี่เอก..." เสียงของฝนแหบพร่า เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ดวงตากลมโตที่เคยฉายแววเจ้าเล่ห์ บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งเขินอายและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
เอกมองใบหน้าของฝนที่แดงก่ำ เขารับรู้ถึงความรู้สึกทั้งหมดที่เธอมีให้ เขาค่อยๆ เลื่อนใบหน้าขึ้นมาประทับจูบลงบนหน้าผากเนียนนุ่มของเธออย่างแผ่วเบา ตามด้วยเปลือกตา จมูก และสุดท้ายก็เป็นริมฝีปากอิ่ม ริมฝีปากที่แตะกันอย่างแผ่วเบาในทีแรก เริ่มลึกซึ้งและร้อนแรงขึ้น เอกใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าของเธอไว้ ในขณะที่อีกข้างโอบเอวเธอไว้แน่น สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ฝนเคลิบเคลิ้ม เธอหลับตาพริ้มแล้วโอบรอบคอของเขาไว้
ในจังหวะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกัน ฝนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบว่า "ทำไมพี่ถึงยอมแพ้...ไม่เห็นจะจับฝนปล้ำเลย"
เอกยิ้มมุมปากและตอบด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำและอ่อนโยน "ไม่ได้ยอมแพ้ แต่กำลังจะทำให้ฝนรู้ว่าผู้ชายคนนี้โรแมนติกเป็น" พูดจบ เขาก็ช้อนตัวเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวและเดินไปยังเตียง ดวงตาที่จ้องมองเธอยังคงเต็มไปด้วยความรักที่ล้นปรี่ ก่อนจะวางเธอลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล
"พี่จะทำให้ติดกับจนไม่มีวันหนีไปจากพี่ได้..." เอกกระซิบเสียงพร่า พลางจ้องมองดวงตาคู่สวยของเธออย่างลึกซึ้ง แววตาที่ฉายออกมานั้นไม่ได้มีเพียงความต้องการ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่ยากจะปิดบัง
เอกปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เรียงเป็นลอนสวยงามราวกับงานแกะสลัก ฝนบรรจงลูบไล้แผงอกแข็งแกร่งก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือลงสู่หน้าท้อง เอกสะท้านเฮือกเมื่อมือเรียวเล็กสัมผัสกล้ามเนื้อนั้นและค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปอีก เขาก้มลงซบเนินอกอวบอิ่ม ประทับจูบหนักหน่วงลงบนผิวเนียนนุ่ม ปลดเปลื้องอาภรณ์ของฝนออกอย่างแผ่วเบาจนเห็นบิกินี่สีชมพูอ่อนที่ขับผิวขาวผ่องให้ดูโดดเด่นสะดุดตา เสื้อคลุมผ้าบางเบาแนบสนิทไปกับผิวของเธอราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ภาพนั้นปลุกเร้าอารมณ์ดิบในกายของเอกจนเขาจนเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองไม่ได้ในตอนนี้เอกจ้องมองภาพเบื้องหน้าด้วยสายตาที่ลุ่มหลง ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาสบตากับเธออีกครั้ง ฝนยิ้มอย่างขวยเขินปนยั่วยวน "ไหนบอกว่าจะโรแมนติกไงคะ"
ริมฝีปากของเอกเคลื่อนจากจุมพิตแสนหวานมาสู่ลำคอระหง แล้วค่อยๆ ไล้ต่ำลงไปถึงเนินอกอวบอิ่ม ฝนแอ่นกายรับสัมผัสจากเขาอย่างเต็มที่ มือเรียวเล็กของเธอลูบไล้ไปตามแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม แล้วค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปอย่างตั้งใจจนหยุดอยู่ที่กางเกงที่เขาสวมอยู่
เอกผละริมฝีปากออกจากกายเธอแล้วเงยหน้าขึ้นมองด้วยดวงตาเป็นประกายระยับ เขาเผยรอยยิ้มมุมปากอย่างชัดเจน ก่อนจะคว้ามือของฝนมาจุมพิตเบาๆ แล้วค่อยๆ ปลดกระดุมกางเกงของตัวเองออกอย่างช้าๆ โดยที่สายตายังคงจ้องมองเธอไม่กะพริบ เขาถอดกางเกงออกแล้วโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ก่อนจะโถมตัวเข้าใส่เธออีกครั้งด้วยความปรารถนาอันท่วมท้น
"พี่ไม่ใส่ได้ไหม...!" เอกถามเสียงแผ่ว แต่ชัดเจนในความต้องการ
ฝนพยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ เขาไม่อยากมีสิ่งใดมาขวางกั้นระหว่างเขาและเธอในห้วงเวลาที่สำคัญที่สุดเช่นนี้ เอกก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากของเธออย่างเนิ่นนาน ก่อนจะค่อยๆ ลากริมฝีปากและปลายจมูกลงมาตามลำคอระหง สูดดมความหอมกรุ่นที่ทำให้เขาแทบคลั่ง ฝนแหงนหน้าขึ้นรับสัมผัสจากเขา ปล่อยให้เอกไล่จูบลงมาตามเรือนร่างของเธออย่างช้าๆ ราวกับจะทำความรู้จักกับผิวทุกอณูเขาหยุดลงที่สะดือเล็กๆ ของเธอแล้วประทับรอยจูบแสนร้อนแรงลงไป ฝนจิกปลายผมของเขาไว้ด้วยความตื่นเต้น เอกเข้าใจในทันที เขาหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะคลอเคลียริมฝีปากและลิ้นอยู่รอบสะดือของเธออย่างยั่วยวนจนฝนเริ่มเคลิบเคลิ้มและคล้อยตามไปกับทุกสัมผัสของเขา
เขาค่อยๆ ลากริมฝีปากลงต่ำไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงล่างของหญิงสาว เอกไม่รีบร้อนแต่เต็มไปด้วยความละมุนละไม เขาบรรจงประทับจูบแผ่วเบาลงบนปลายกลีบชมพู ฝนสะดุ้งเฮือกพร้อมกับเสียงครวญครางแสนหวานที่หลุดออกมาจากลำคอ ดวงตาของเธอปิดสนิท รับรู้เพียงสัมผัสที่อ่อนโยนและร้อนแรงในคราวเดียวกัน
"อือออ...พี่เอก..."
เสียงครวญครางที่แสนหวานนั้นยิ่งทำให้อารมณ์ของเอกหื่นกระหายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เขาใช้ลิ้นสอดแทรกเข้าไปในช่องทางที่แคบและอุ่นชื้น กระดกลิ้นเลียไปตามร่องอย่างชำนาญ ฝนจิกปลายนิ้วลงบนผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ เธอโคลงศีรษะไปมาด้วยความเสียวซ่านที่แล่นไปทั่วร่าง พยายามหายใจเข้าออกอย่างถี่กระชั้นแต่กลับไม่เป็นผล เอกเร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้นตามเสียงครวญครางของเธอที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เขาบรรจงมอบสัมผัสที่ร้อนแรงและอ่อนโยนให้เธออย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ไม่นานนักฝนก็ถึงจุดสูงสุด เธอเกร็งไปทั้งร่างก่อนจะปล่อยเสียงครางอันน่าหลงใหลออกมาจนขาดห้วงเอกมองร่างบางที่นอนหอบหายใจอยู่ตรงหน้าด้วยความหลงใหล เขาดันตัวขึ้นมาแล้วทาบทับร่างของเธอไว้ ก่อนจะกระซิบเสียงพร่าข้างหูของเธอ "ความโรแมนติกยังไม่จบแค่นี้หรอกนะ...คนดี"
เอกดันร่างแกร่งกำยำของตัวเองเข้าทาบกับร่างบางของฝน เขาสอดขาเข้ามาในระหว่างเรียวขาของเธออย่างช้าๆ ก่อนจะก้มลงจูบและไซร้ตามซอกคอและเนินอกอวบอิ่มของเธออย่างหลงใหล
"พร้อมรึยังคนดีของพี่" เขาพึมพำด้วยเสียงแหบพร่า ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาทำให้ฝนโอบรอบคอของเขาแน่นกว่าเดิม เป็นการบอกความต้องการที่ชัดเจนว่าเธอพร้อมแล้ว เอกเข้าใจในทันที เขาค่อยๆ โน้มตัวลงมาสบตาเธออีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่แสนอบอุ่น ก่อนจะก้มลงไปจูบเธออย่างดูดดื่มเพื่อปลอบโยนและนำทาง
เมื่อจูบเริ่มร้อนแรงขึ้น เขาก็เคลื่อนตัวลงไป เขาค่อยๆ ดันแก่นกายอุ่นๆ เข้าไปในช่องทางที่อุ่นและคับแน่นของเธออย่างช้าๆ เพียงแค่ปลายสัมผัส ฝนก็ร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด "โอ๊ย....!!!" "จะ...เจ็บ...พี่เอก...!" "ฝนเจ็บ....!"เสียงเธอโรยริ่วและขาดหายไป เอกชะงักทันที เขามองเธอด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดหัวใจ
"เจ็บเหรอครับคนดี..." เขาถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดในชีวิต ก่อนจะผละออกมาแล้วบรรจงจูบไปที่หน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา แล้วจึงกลับมาจูบที่ริมฝีปากเพื่อปลอบประโลม ฝนหลับตาลงปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่ต้องการ เมื่อแน่ใจว่าเธอพร้อมแล้ว เอกก็ค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าไปอย่างช้าๆ อีกครั้ง...และในที่สุด ทั้งสองก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรักเอกมองไปยังใบหน้าหวานของหญิงสาวที่หลับตาพริ้ม มือของเธอกำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี่ ริมฝีปากสีชมพูถูกขบเม้มไว้ด้วยความอัดอั้นของอารมณ์ ภาพตรงหน้ายิ่งกระตุ้นความปรารถนาที่พลุ่งพล่านในตัวเขา จากความนุ่มนวลที่เคยมีก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความกระหายที่ร้อนแรง
"โอ๊ย...!" "โอ๊ย...!!!"ฝนร้องเสียงหลง เมื่อเอกใช้สองมือรวบเอวเธอแล้วกระแทกเข้ามาอย่างหนักหน่วงและรวดเร็ว
"พี่...พี่เอก...ฝนจุก...!" เสียงของเธอขาดห้วงและสั่นเครือ เอกชะงักทันทีเมื่อได้ยินคำนั้น เขามองเธอด้วยความห่วงใย ก่อนจะลดความแรงลงและเริ่มขยับเอวเข้าออกอย่างช้าๆ แต่ยังคงเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของเขา "ขอโทษนะคนดี..." เขาพึมพำเสียงพร่า ก่อนจะโน้มตัวลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นว่าฝนเริ่มปรับตัวเข้ากับจังหวะของเขาได้ เธอจึงเริ่มโยกเอวขึ้นและร่อนลงอย่างช้าๆ เพื่อรับสัมผัสจากเขา ในจังหวะนั้นเอง เอกก็พลิกตัวลงมาแล้วยกเธอขึ้นมาคร่อมไว้ด้านบนอย่างชำนาญ ฝนมองเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังจะทำ แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธ เอกใช้มือจับไปที่เอวบางของเธอ แล้วค่อยๆ นำให้เธอโยกตัวขึ้นลงตามจังหวะช้าๆ ที่เขาต้องการ ฝนยังไม่ชำนาญนัก แต่การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลและเย้ายวนของเธอก็ทำให้เอกหลงใหลจนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ มือของเธอกำแน่นอยู่ที่อกของเขา และยิ่งเธอจิกเล็บลงไปแรงเท่าไหร่ ก็เหมือนจะยิ่งบ่งบอกว่าความสุขสมกำลังจะมาถึง ซี๊ดดด....!"อื้อ...อ้า...!"
เสียงครางต่ำจากเอกทำให้ฝนพอใจ เธอเริ่มร่อนเอวเร็วขึ้นและแรงขึ้นตามเสียงของเขา "พี่เอก...!" "พี่่...!" "อื้อ...อื้อ...!" จนในที่สุด ร่างกายของเธอก็เกร็งกระตุกไปทั่วทั้งร่าง ปล่อยเสียงครางแผ่วออกมาอย่างน่าหลงใหล "อ้า...!" เมื่อเห็นว่าฝนถึงฝั่งฝันแล้ว เอกก็พลิกตัวกลับมาให้เธออยู่ด้านล่างอีกครั้งอย่างไม่รอช้า เขากระซิบเสียงพร่าข้างหูของเธอ "ถึงตาพี่แล้วนะคนดี" เขาเริ่มขยับเอวเข้าออกอย่างหนักหน่วงและรวดเร็ว ฝนร้องครวญครางด้วยความสุขที่เขาบรรจงมอบให้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ฝน...ฝน...ฝน... มีความสุขไหม....ฝนจ๋า...พี่มีความสุขเหลือเกิน..." เอกพร่ำเรียกชื่อเธอไม่หยุดหย่อน"ฝน...ก็...มีความสุข..." เสียงของเธอโรยริ่วแต่ยังเต็มไปด้วยความสุข
"อ้าาาา...พี่เอก...!"
เอกเร่งจังหวะให้ถี่และแรงขึ้นอีกครั้ง เสียงร้องแห่งความสุขของทั้งคู่ดังประสานกันไปทั่วห้อง
"พี่จะไม่ไหวแล้ว..." เขาพึมพำกับตัวเอง แล้วก้มลงกระซิบข้างหูเธอ "สร้างครอบครัวกับพี่นะคนดี...อยู่กับพี่ตลอดไปนะ" เขาใช้มือลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน ฝนพยักหน้าพร้อมกับน้ำตาแห่งความสุขที่ไหลริน เอกก้มลงจุมพิตหน้าผากของเธอแล้วเริ่มขยับเอวอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่มีอะไรมาขวางกั้นระหว่างเขาและเธอ และความสุขสมของทั้งคู่ก็มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน "ฝน...!" "พี่...เอก...!" "อ้าาาา...!" ทั้งสองร่างเกร็งกระตุกในคราวเดียวกัน เอกปลดปล่อยความรักทั้งหมดเข้าสู่ภายในตัวเธอโดยไม่ได้สวมเกราะป้องกัน ทั้งคู่หอบหายใจโรยริน ก่อนที่เขาจะก้มลงจูบหญิงสาวอย่างอ่อนโยน "ขอบคุณนะ..." เขาพึมพำ ก่อนจะดึงร่างของเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยความรัก แล้วฝังจมูกลงไปที่ซอกคอหอมกรุ่นของเธออย่างหลงใหล....นพพลเริ่มสงสัยตอนไหน?เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในงานแต่งงานของฟ้า ลูกสาวคนกลางของนพพล ที่นั่นนพพลได้เจอกับเอกเป็นครั้งแรก และรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เมื่อได้พูดคุยก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู เขาจึงแลกช่องทางการติดต่อกับเอกไว้เมื่อรู้ว่าเอกต้องย้ายมาทำงานที่สาขาต่างจังหวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน นพพลจึงชวนเอกให้มาเช่าบ้านใกล้ๆ ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่ได้มีความสงสัยใดๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ท่อน้ำที่บ้านแตก เอกได้เข้ามาช่วยซ่อมจนเสื้อผ้าเปียก นพพลจึงให้ฝนนำเสื้อมาให้เอกเปลี่ยน ขณะที่เอกถอดเสื้อ นพพลได้เห็นปานรูปใบหม่อนใต้ราวนมของเอก ซึ่งทำให้เขาตกใจและเริ่มสงสัยในตัวเอกอย่างมากหลังจากนั้น ในวันที่ฝนหมดสติและเอกโทรศัพท์ให้นพพลไปหาที่บ้าน ขณะที่เอกกำลังอุ้มฝนไปวางบนที่นอน นพพลได้แอบเข้าไปในห้องน้ำและเก็บเส้นผมรวมถึงแปรงสีฟันของเอกมา เพื่อนำไปตรวจ DNAนพพลจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เพราะเขาไม่อยากให้ประทินต้องผิดหวังหากผลตรวจออกมาไม่ใช่พ่อลูกกัน เขาอยากจะแน่ใจก่อนถึงจะบอกทุกคน เขาพยายามหาโอกาสให้ประทินได้พบกับเอกที่เขื่อน และตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ประทินฟัง แต่โชคร้ายที่นพพลกลับพลัด
บรรยากาศยามเช้าตรู่ ณ กระท่อมน้อยริมบึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แสงแดดสีทองสาดส่องกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ ดอกบัวสีชมพูและขาวพากันชูช่อบานรับแสงอรุณราวกับกำลังยิ้มทักทาย สายลมพัดเอื่อยๆ พากลิ่นหอมของดอกไม้ป่าลอยมาตามลม ผีเสื้อหลากสีโบยบินไปมาอย่างร่าเริง เถาไม้เลื้อยที่เคยดูโรยรากลับเขียวชอุ่มและมีดอกไม้เล็กๆ แซมอยู่ประปราย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาจากป่า บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยความสุขและความหวัง ราวกับธรรมชาติกำลังเยียวยาบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้บนเฉลียงไม้เล็กๆ ของกระท่อมกลางบึง ฝน นั่งอยู่คนเดียวในชุดสีขาวเรียบง่าย ใบหน้าของเธอดูสงบและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาของเธอมองไปยังผืนน้ำนิ่งๆ ที่สะท้อนเงาของท้องฟ้าสีคราม เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับเอาความสดชื่นจากธรรมชาติเข้าสู่ปอดอย่างเต็มที่ในวินาทีนั้นเอง อ้อมแขนแกร่งก็โอบเข้าที่เอวของเธอจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา พร้อมกับกลิ่นหอมสะอาดของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คุ้นเคย เอก ยืนอยู่ด้านหลังของเธอด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสมบูรณ์แบบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ยากจะปิดบัง ทั้งคู่ทอดสายตามองยาวไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าพ
เปลือกตาสีไข่ค่อยๆ ขยับ ก่อนที่นิ้วกลางจะกระตุกขึ้นอย่างแผ่วเบา พลอยใสที่นั่งอยู่ข้างเตียงรู้ทันทีว่าเพื่อนของเธอกำลังจะฟื้น ฝนค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นพลอยใสนั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องด้วยความสงสัยและความงุนงง ในใจเธอยังคงตั้งคำถาม "ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ? ฉันยังไม่ตายอีกเหรอ?" ภาพสุดท้ายที่จำได้ก่อนหมดสติคือภาพของเอกกับแม่ที่อยู่ข้างๆฝนหันไปถามพลอยใส "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วแกมาได้ยังไง?"พลอยใสไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับพูดขึ้นเสียงสั่นเครือ "ฝน แกเป็นอะไร ทำไมแกไม่บอกฉัน! ทำไมถึงคิดแบบนี้ได้ยังไง แกรู้ไหมว่าถ้าแกเป็นอะไรไป จะมีคนอีกตั้งหลายคนที่เสียใจ...ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้!" พลอยใสโผเข้ากอดเพื่อนรักที่กำลังอ่อนเพลียจนพูดอะไรไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆทันใดนั้น ฟ้าเปิดประตูเข้ามา "ฝน! เป็นยังไงบ้าง? พี่ได้ข่าวก็รีบมาเลย ทำไมทำแบบนี้ มีอะไรทำไมไม่บอกพี่!" ฟ้าโผเข้ากอดน้องสาวแล้วร้องไห้ ฝนร้องไห้ตามอีกครั้ง กอดพี่สาวด้วยความเสียใจกับเรื่องราวที่ตัวเองต้องเผชิญ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไร พลอยใสทำได้เพียงลูบหลังปลอบใจ ก่อนจะหันไปมองฟ้าด้วยความไม่เข้า
ฝนกอดรองเท้าข้างน้อยของพ่อไว้แน่น ความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวด ด้วยความสิ้นหวัง รู้ตัวอีกที เธอก็ไปยืนอยู่ริมตลิ่งของเขื่อนชลประทาน สายตาเหม่อมองไปยังผืนน้ำกว้างที่นิ่งสงบ ราวกับกำลังรอคอยที่จะกลืนกินความเจ็บปวดทั้งหมดของเธอลงไป"พ่อ...หนูจะตามพ่อไป..." เธอพึมพำ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ความทรงจำที่เคยมีร่วมกับพ่อฉายชัดขึ้นในหัว ภาพที่พ่อเคยยิ้มให้เธอ เคยโอบกอดเธออย่างอบอุ่น และภาพที่พ่อบอกว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนแต่ตอนนี้...พ่อไม่อยู่แล้ว...และคนที่เธอรักก็กำลังทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดฝนค่อย ๆ ยื่นมือออกไป ปล่อยรองเท้าข้างน้อยของพ่อให้ร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำช้า ๆ ราวกับกำลังปล่อยความหวังสุดท้ายในชีวิตให้จมหายไปกับสายน้ำนั้น"ลาก่อน...ทุกอย่าง..."ในวินาทีนั้นเอง...เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่ทนต่อความเจ็บปวดอีกต่อไป ร่างของเธอค่อย ๆ ก้าวเดินลงไปในน้ำอย่างเชื่องช้า น้ำที่เย็นเยียบไม่สามารถหยุดยั้งความรู้สึกที่ร้อนรุ่มในหัวใจได้ เธอเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผืนน้ำค่อย ๆ กลืนร่างของเธอไปจนมิดและในตอนนั้นเอง...ทุกอย่างก็ดับลง...เธอรู้สึกเหมือนร่างกายลอยเคว้งคว้
"ผมไม่เข้าใจเลยครับคุณอา ท่าทีของนวลในตอนนั้น..."นวล มองซ้ายมองขวา เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ไม่ควรใช้เสียง นวลจึงรากเอกออกมา ยังบริเวณข้างนอกวอร์ด จาก สถานที่ ที่ห้ามรบกวนผู้ป่วยและ บุคลากรของโรงพยาบาลเอกมองหน้าอาด้วยความสับสน ทั้งที่เขาชื่อเอก แต่ทำไมทุกคนถึงเรียกเขาว่า 'นนท์' นนท์เป็นใคร แล้วเอกคือนนท์ นนท์คือเอกจริงหรือ? ความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ"ภาพความทรงจำเมื่อ 28 ปีก่อนย้อนกลับมาฉายซ้ำในหัวนวล"วันนั้น เอก หรือ นนท์ ในวัยเด็กกำลังจะไปเยี่ยมน้องสาวคนใหม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนพร้อมกับพ่อ ขณะที่พ่อกับอาขอตัวไปทำธุระ เอกจึงต้องอยู่กับนวลที่โรงพยาบาลนวลพาน้องสาวตัวน้อยมาฉีดวัคซีน เอกเลยตามมาด้วย แต่แล้วพ่อของเอกก็ขอตัวไปทำธุระอีก ปล่อยให้เอกอยู่กับนวลและน้องสาวตัวน้อยลำพังขณะที่นวลกำลังติดต่อชำระเงินค่าบริการโรงพยาบาล ก็มีหญิงสาวเสียสติคนหนึ่งเดินมาอุ้มน้องสาวตัวน้อยไป เธอคิดว่าเด็กคนนั้นคือลูกของตัวเองที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน เอกเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปทันทีแต่ในระหว่างที่กำลังวิ่งตามออกไปนั้นเอง รถคันหนึ่งก็เฉี่ยวเข้าที่ร่างของเอ
ฝนตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเอก เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยังคงหลับใหลอย่างมีความสุข รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของเขาฝนเดินไปที่ระเบียงและมองออกไปยังวิวทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝัน ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุข ความรัก และความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ความเหงาที่เคยมีในใจมาตลอด ฝนยืนมองวิวอยู่นาน ก่อนที่วงแขนแข็งแรงของเอกจะเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตที่ท้ายทอยแผ่วเบา"ฝนไม่หนีไปจากพี่จริงๆ ด้วย..." เอกพึมพำด้วยเสียงแหบพร่าในยามเช้า ฝนจึงหันไปมองเขาแล้วซบหน้าลงกับแผงอกที่เปลือยเปล่าของเขาอย่างออดอ้อน"จะให้ฝนหนีไปจากความโรแมนติกของพี่เอกได้ยังไงคะ" เธอกระซิบตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เอกหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะกอดเธอไว้แน่นขึ้น"พี่รักฝนนะครับ""ฝนก็รักพี่เอกค่ะ...รักหมดหัวใจเลย"เอกก้มลงจูบฝนอย่างดูดดื่มอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นที่แสนโรแมนติกของทั้งคู่"พี่เอกคะ... กลับจากที่นี่ เราเข้าไปหาแม่ของฝนดีไหมคะ"เอกที่กำลังกอดเธออยู่จากด้านหลังคลายอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตาเธออย่าง







