Masuk@ร้านนั่งชิว
น้ำหวานมาถึงสถานที่ที่นัดหมายก่อนจะกดโทรศัพท์ทักไปหาพี่รหัสของเธออย่างริต้า คนตัวเล็กในวันนี้สวมใส่กางเกงยีนส์เสื้อคอกลมธรรมดาแต่ทว่ารูปร่างของเธอก็ทำให้ผู้ชายในร้านหันมามองอยู่ดี คนตัวเล็กไม่ได้สนใจสายตาพวกนั้นพอเธอเห็นกลุ่มรุ่นพี่ก็รีบเข้าไปทักทายแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรุ่นพี่อีกกลุ่มมาด้วย
“น้องน้ำหวานนั่งเลยๆ ไม่ต้องเกร็งนะคนกันเอง”ริต้าพูดขึ้นข้างกายของเธอมีเตชินท์นั่งอยู่ทำให้คนตัวเล็กที่นั่งลงอยู่ตรงกันข้ามของชายหนุ่มโดยปริยาย
“ค่ะ”เธอพยักหน้ารู้สึกอึดอัดไม่น้อยเลยแต่ก็พยายามยิ้มแย้มให้กับรุ่นพี่ ติณณ์หันหน้ามาพูดคุยกับเธอ ส่วนใหญ่พูดถามเกี่ยวกับการเรียนว่าปีหนึ่งเป็นไงบ้างเรียนหนักรึเปล่าอะไรทำนองนี้ เธอนึกแปลกใจเหมือนกันที่ผู้ชายที่ดูแบดๆ อย่างชายหนุ่มทำไมถึงมาเรียนบัญชีถ้าบอกว่าเรียนพวกวิศวะคงจะเข้ากว่ามาก
“นึกไงมึงอยากมากินกับพวกกูไอ้เต”ติณณ์ถามญาติผู้พี่ที่โทรมาถามว่าวันนี้เขาจะไปไหนพอบอกว่ามีกินสายรหัสอีกฝ่ายก็มาด้วยซะงั้นแถมยังมีเหมันต์สายลมมาด้วยอีกทำให้ในวันนี้โต๊ะเขามีหลายคนเลย
“ไม่ไง อยากเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ”เตชินท์ตอบออกไปพร้อมกับมือหนายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม สายตาของชายหนุ่มตวัดมองคนตรงหน้าเล็กน้อยแต่ก็ต้องหันไปทางอื่นไม่อยากให้ใครสงสัยกับการกระทำของเขา
“เออๆ หลายคนก็สนุกดี น้องน้ำหวานมีคนอื่นมาดื่มด้วยไม่เป็นไรนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“เออ นี่เหมันต์ สายลมและก็ญาติพี่ ไอ้เตชินท์”จู่ๆ ติณห์ก็แนะนำรุ่นพี่ต่างคณะให้คนตัวเล็กได้รู้จักทำให้น้ำหวานต้องยกมือไหว้ทักทายตามมารยาทที่รุ่นน้องควรมี เธอไม่ได้อยากจะรู้จักอะไรหรอกโดยเฉพาะคนตรงหน้าเธอเพราะสิ่งที่ได้ยินมามันทำให้เธอไม่ชอบเลยสักนิด ไหนจะท่าทีที่พี่รหัสของเธอสนิทสนมกับเขาอีกสรุปแล้วผู้ชายคนนี้กำลังคบหากับใครกันแน่หรือว่าเขาเป็นประเภทที่ว่าคบไปทั่ว
“น้องน้ำหวานไม่ดื่มหน่อยเหรอครับ”เหมันต์เป็นคนชวนคุยขึ้น ทำให้คนตัวเล็กหันหน้าไปมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ไม่ค่ะ หวานไม่ชอบดื่มเหล้า”
“อ่า โอเคครับ ดีนะดื่มก็ไม่ดีหรอก”
“ค่ะ”เธอพยักหน้าตอบกลับไป น้ำหวานไม่ได้พูดคุยอะไรมากมายรุ่นพี่ถามคำก็ตอบคำ ส่วนใหญ่เธอจะเป็นผู้ฟังเสียมากกว่าจนกระทั่งนั่งไปสักพักหญิงสาวก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เธอรู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูกเธอไม่ได้อยากจะคิดไปเองแต่รู้สึกว่ามีคนมองอยู่ตลอดเวลาพอหันไปก็เห็นสายตาของชายคนตรงข้ามที่มองเธออยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามองอะไรเธอนักหรือว่าไม่พอใจที่เธอเคยชนเขาครั้งนั้นแต่เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อยแล้วก็คุยกันจบแล้วนี่น่า
“คงไม่มีอะไรหรอก”เธอบอกตัวเองก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำหลังร้านแห่งนี้แต่ก็เห็นร่างสูงยืนสูบบุหรี่อยู่หลังร้านเหมือนกัน หญิงสาวไม่ได้สนใจจึงจะเดินหนีแต่เตชินท์เรียกเธอเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว”
“คะ? พี่เรียกหวานเหรอ”
“มีคนอื่นอีกรึเปล่าล่ะ”เขาบอกทำให้คนตัวเล็กมองรอบๆ ซึ่งตอนนี้บริเวณนี้ไม่มีใครอื่นนอกจากเธออยู่
“พี่มีอะไรคะ”
“จำฉันไม่ได้เหรอที่เธอเคยชน”
“จำได้ค่ะ แต่วันนั้นหวานขอโทษไปแล้วนะคะ”ใบหน้าเรียบนิ่งของคนตัวเล็กที่มองมาที่ชายหนุ่มเหมือนกำลังไม่เข้าใจกับการที่เขามาพูดแบบนี้กับเธอ
“กลับไปที่บ้านฉันถึงรู้ว่ามีรอยช้ำที่หน้าอก จากการที่เธอชนวันนั้น”เตชินท์พูดโกหกออกมา พอคนตัวเล็กได้ยินก็ดูตกใจไม่น้อยเลย เธอไม่ได้ตั้งใจให้เขาเจ็บตัวไม่คิดว่าการที่เธอชนเขาในวันนั้นจะทำให้อีกฝ่ายเป็นแบบนี้
“พี่เป็นหนักรึเปล่าคะ ไปหาหมอรึยัง”
“ยัง ก็เจ็บอยู่”พอได้เห็นสีหน้าที่ซีดเผือดลงคนตัวสูงก็นึกขำ เขาเขี่ยบุหรี่ทิ้งก่อนจะเดินตรงมาหาคนตัวเล็ก
“เธอจะรับผิดชอบยังไง?”เตชินท์ก้มหน้าลงมาใกล้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ผสมกับน้ำหอมแบรนด์หรูทำให้น้ำหวานรู้สึกมึนงงไม่น้อย เธอพยายามตั้งสติไม่ตื่นตัวไปกับการกระทำของอีกฝ่ายที่จู่ๆ ก็มาใกล้เธอแบบนี้
“งั้นไปหาหมอไหมคะ ยังมีรอยช้ำอยู่รึเปล่า”เพราะผ่านมาหลายวันแล้วเธอก็ไม่รู้ว่าในตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง
“ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ก็ยังเจ็บๆ อยู่ ไม่ต้องถึงกับต้องไปหาหมอหรอก”
“งั้นพี่จะให้หวานรับผิดชอบยังไงคะ หวานไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย”
“ทำงานบ้านเป็นไหม”เขาถามคนตัวเล็กออกไป หญิงสาวจึงนิ่งชะงักไปเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายมาถามเธอในเรื่องนี้แต่เธอก็พยักหน้าตอบเขากลับไป
“งั้นก็ไปทำความสะอาดห้องให้หน่อยเพราะช่วงนี้แม่บ้านไม่อยู่ ฉันก็ยังเจ็บๆ อยู่ด้วยเลยไม่ได้ทำความสะอาดห้องเลย”
“คะ?”เธอตกใจไม่น้อยที่เขาบอกให้เธอไปทำความสะอาดห้องให้แบบนี้ เธอกับเขาไม่ได้สนิทกันเสียหน่อยแบบนี้มันไม่แปลกหรอกหรืออีกอย่างเธอไม่อยากอยู่ใกล้เขาด้วย
“ทำไมทำหน้าแบบนี้หรือไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ”เขาเริ่มทำสีหน้าไม่พอใจกับการที่เห็นเธอไม่อยากไปห้องของเขา ปกติมีผู้หญิงอยากจะขึ้นห้องเขาจะตายไป
“ไม่ใช่นะคะแต่ว่า...”
“งั้นก็ตามนี้ ทำความสะอาดห้องฉันแค่อาทิตย์เดียวพอ หลังจากแม่บ้านกลับมาก็ไม่ต้องไปทำหรอก”คนตัวเล็กช่างใจแต่เธอก็รู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บตัว อีกอย่างแค่อาทิตย์เดียวคงไม่เป็นไรหรอก
“งั้นก็ได้ค่ะ”เธอตอบตกลงกลับไปคำตอบของเธอทำให้เสือร้ายยิ้มร่าอยู่ในใจที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ เตชินท์ยื่นมือไปหาเธอการกระทำของชายหนุ่มมันทำให้เธอไม่เข้าใจ
“คืออะไรคะ”
“เอาโทรศัพท์มาไง ไม่งั้นจะติดต่อยังไง”
“เอ่อ ก็ได้ค่ะ”เธอจำใจยื่นโทรศัพท์ไปให้อีกฝ่ายกดเบอร์โทรศัพท์ ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น เขายื่นให้เธอคืนหญิงสาวก็รีบกลับมาด้วยสีหน้างงๆ เล็กน้อยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
“พรุ่งนี้เลยแล้วกัน เลิกเรียนกี่โมงเดี๋ยวไปรับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่แจ้งที่อยู่พี่ก็พอ”เธอปฏิเสธเขาออกไปเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายมารับเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่มีผู้หญิงทะเลาะกันเธอเลยกลัวกลัวว่าผู้หญิงของเขาจะมาหาเรื่องเธอถ้าหากเห็นว่าเธอขึ้นรถไปกับเขา
“ไปรับไม่ได้?”
“หวานไปเองดีกว่าค่ะ งั้นพรุ่งนี้พี่ค่อยส่งโลเคชั่นมานะคะ”เธอตัดบทก่อนจะเดินหนีเขาเข้าไปในร้าน การกระทำของหญิงสาวทำให้เตชินท์มองตามหลังนิ่งนัยว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกเลยก็ว่าได้ที่เดินหันหลังหนีเขาแบบนี้
“หึ น่าสนใจดี”เขายกมุมปากคิดว่าเธอเล่นตัวเพื่อทำให้เขาสนใจมากขึ้นแต่ก็ยอมรับว่าวิธีนี้ของเธอได้ผลดีทีเดียวเพราะมันทำให้เขาสนใจเธอจริงๆ
เตชินท์มายังร้านสะดวกซื้อ เขาเดินไปยังโซนขายผ้าอนามัยของผู้หญิงก่อนจะมองด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เกิดมาไม่เคยมาซื้ออะไรพวกนี้เลยแต่ตอนนี้เขามาทำบ้าอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงชอบใช้แบบไหนเพราะมันมีหลายแบบหลายขนาดหลายกลิ่นอีกด้วยนั่นจึงทำให้เตชินท์หยิบมาหลายอัน ก่อนจะหาซื้อขนมซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วย คนตัวสูงหลบสายตาพนักงานที่กำลังอมยิ้มอยู่คงจะขำที่เขามาซื้ออะไรพวกนี้สินะแต่คนตัวสูงพยายามไม่สนใจ หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จเขาก็รีบออกมาทันทีก่อนจะแวะไปยังร้านขายยาขอซื้อยาแก้ปวดท้องประจำเดือนจากเภสัชกร“พี่เตชินท์ บังเอิญจังเลยคะ”เสียงริต้าเอ่ยทักทายเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินออกมาจากร้านขายยา เธอเห็นรถเขาจึงรีบจอดรถมาทักทายอีกฝ่ายเพราะช่วงนี้ชายหนุ่มไม่ค่อยตอบข้อความเธอเลย“อืม”“พี่ไม่สบายเหรอคะ ถึงมาร้ายขายยา”“อืม ฉันไปก่อนนะมีธุระ”“เดี๋ยวสิคะ พี่เตชินท์จะไปคิงบาร์รึเปล่าคืนนี้ ริต้ามีนัดกับพวกเพื่อน พี่ไปด้วยกันไหมคะ”“ไม่”คำตอบสั้นๆ แต่ทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียใจไม่น้อย เธอเคยหลับนอนกับอีกฝ่ายแล้วแท้ๆ แต่ทำไมชายหนุ่มถึงไม่สนใจใยดีเธอเลย หรือว่าครั้งนั้นเธอทำไม
คำถามในข้อความที่เตชินท์ส่งมาสร้างความงงงวยให้แก่หญิงสาวไม่น้อย เธอกำลังจะพิมพ์ถามกลับไปแต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงรถหรูแล่นมาจอดทางด้านหลัง ทำให้คนตัวเล็กรีบหันไปมอง เจ้าของรถเปิดประตูลงมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดไม่น้อยเลย“พะ พี่เตชินท์ พี่มาได้ไง”“ขึ้นรถ”“ฮะ เอ่อ หวานไม่ว่าง”เธอไม่พอใจแต่ก็พยายามพูดดีๆ ออกไปเพราะไม่อยากทะเลาะกับอีกฝ่ายในตอนนี้อีกอย่างเธอหิวข้าวจะตายอยู่แล้ว“ฉันไม่สน!”เตชินท์ไม่พูดเปล่าเขากระชากเรียวแขนของน้ำหวานบีบบังคับให้เธอขึ้นมาบนรถของเขา การกระทำของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าสวยหวานเบ้ออกมาเล็กน้อยแต่ก็ยอมขึ้นไปบนรถของอีกฝ่ายปัง!เสียงประตูห้องสุดหรูของชายหนุ่มปิดลงดังลั่นตามอารมณ์หงุดหงิดของเจ้าของห้อง หญิงสาวที่ถูกพามาที่นี่เอาแต่ยืนสะดุ้งตกใจอยู่กลางห้องอย่างไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้เขาหงุดหงิดกันเขาถึงได้เป็นบ้าแบบนี้“ฉันถามว่าใคร!”เตชินท์หันหน้ามาจ้องมองคนตัวเล็กพร้อมกับเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“พี่หมายถึงอะไรคะ”“หึ ไปยืนร่านกับใครฉันก็หมายถึงคนนั้นล่ะ”หัวคิ้วของน้ำหวานเป็นปมก่อนจะร้องอ๋อในใจเมื่อเข้าใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้หมายถึงใคร แต่เธอไม่ได้ไปทำแบบที่
“ทำไมมาช้า แล้วนี่ใครว่ะ?”เป็นเหมันต์ที่เอ่ยถามหลังจากที่สายลมนั่งลงพร้อมดึงให้คนตัวเล็กที่ดูไม่เต็มใจอยากจะมาด้วยนั่งลงข้างๆ“นี่วันใหม่เพื่อนกู”คนถูกแนะนำว่าเพื่อนมีสีหน้าเรียบนิ่งพอสมควร“เพื่อน?”“เพื่อนสมัยเด็ก พอดีย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเรา”“เพิ่งย้ายมาเหรอ”“อืม”สายลมครางตอบเพียงแค่นั้นแต่ทว่ามีหรือที่เพื่อนทั้งสองจะเชื่อว่าผู้หญิงข้างกายเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น สายลมเป็นยังไงมีหรือที่พวกเขาจะไม่รู้ปกติไม่เคยเห็นสนใจผู้หญิงคนไหน มีผู้หญิงมากมายเข้าหาแต่ทว่าสายลมก็ไม่เคยเล่นด้วย คนภาพนอกคิดว่าอีกฝ่ายเย็นชาเข้าถึงยากมันก็เป็นเรื่องจริงแต่ถ้าเป็นคนสนิทอีกฝ่ายก็ปกติ“เธอชื่อวันใหม่เหรอ เรียนคณะอะไร”“บริหาร”“แล้วรู้จักกับไอ้ลมมานานยัง”“นานแล้ว”วันใหม่ตอบแค่นั้นท่าทีของเธอเหมือนไม่อยากตอบเลยด้วยซ้ำ คนตัวเล็กขยับกายออกห่างจากเพื่อนเก่าแต่ก็ถูกสายตาดุๆ มองมา“จะขยับไปไหน”“ร้อน อึดอัด”“มากไหม?”สายลมถามออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึงเพราะรู้ดีที่คนตัวเล็กขยับตัวออกห่างเป็นเพราะอะไร“ฉันไม่ได้อยากมาด้วย”“แล้วใครสน?”“ลม จะเกินไปแล้วนะ”ตั้งแต่ที่เธอได้เจอเขาอีก เขาก็ทำเรื่องมากมายกับเธอบีบบัง
2 อาทิตย์ผ่านไปเตชินท์: มาหาฉัน ห้ามเกินครึ่งชั่วโมงเป็นอีกวันที่น้ำหวานได้รับข้อความจากรุ่นพี่หนุ่ม ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาสั่งให้เธอไปหาทุกวันแทบไม่ให้เธอหยุดพัก คนตัวเล็กมีปฏิเสธแต่เขาก็ขู่เธอ ทำให้เธอต้องมาหาเขาอีกจนได้ ความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหวานกับเตชินท์มีแค่เพื่อนๆ ของเขารู้และแก้มใส อยู่มหาวิทยาลัยถ้าหากบังเอิญเจอกันเราทั้งสองทำเหมือนไม่เคยรู้จักกันเลย เขาเดินผ่านเธอหันหนีไปอีกทางซึ่งมันก็ดีแล้วที่เป็นแบบนี้แต่บางครั้งการที่เธอได้ยินคำพูดของคนอื่นเกี่ยวกับชายหนุ่มมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่“ทำไมมาช้า”ทันทีที่ใช้คีย์การ์ดเข้ามาในห้องสุดหรูน้ำเสียงไม่พอใจก็ถามขึ้นทันที“หวานทำรายงานก่อนมาค่ะ”เพราะเขาสั่งให้เธอแทนตัวเองแบบนี้เธอที่ไม่อยากมีปัญหาอะไรจึงพูดแทนตัวเองอย่างที่เขาต้องการ“อืม เดินมานั่งนี่”เขาตบลงข้างกายทำให้คนตัวเล็กเดินไปนั่งข้างๆ เขา“ทำหน้าไม่พอใจอะไร”“พี่จะให้หวานมาหาทำไมบ่อยจังคะ”“เบื่องั้นเหรอ”เธอไม่ตอบแต่ก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเบื่อหน่ายพอสมควร“หึ แต่ฉันยังไม่เบื่อเธอเลยนะ”เขาไม่พูดเปล่ายกมือขึ้นมาเกลี่ยเส้นผมของคนตัวเล็กเล่นไปมา“แล้วเมื่อไหร่กันคะ เมื
“หึ ปากเก่งแล้วเหรอ แบบนี้คงหายแล้วใช่ไหม?”เตชินท์พูดออกไปด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์แค่เห็นเธออยู่ตรงหน้าก็ทำให้เขามีความต้องการแล้ว หญิงสาวรีบส่ายหน้าไปมาทันที“ไม่ค่ะ ยังเอ่อยังไม่หาย”จากที่ตีฝีปากกับเขากลายเป็นว่าคนตัวเล็กไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกเพราะกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะทำอย่างที่พูด เตชินท์ไม่ยอมให้เธอกลับห้อง เขาสั่งอาหารให้มาส่งที่คอนโดก่อนจะมานั่งกินข้าวกับเธอ น้ำหวานรู้สึกกลืนแทบไม่ลง เธอไม่คิดเหมือนกันว่าทุกอย่างจะกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้จากคนที่ไม่เคยรู้จักแต่ในยามนี้เธอต้องมาเป็นผู้หญิงลับๆ ของเขาอีกวันผ่านไปน้ำหวานขอร้องจนสามารถกลับมาที่ห้องของตัวเองได้ เธออาบน้ำแต่งตัวในชุดนักศึกษาก่อนจะไปเรียนตามปกติ ก่อนหน้านี้เธอติดต่อหาแก้มใสอีกฝ่ายบอกว่าต้องกลับเชียงใหม่จึงต้องหยุดเรียนในวันนี้ เธอไม่ได้ถามอะไรมากมายเพราะดูเพื่อนกำลังมีเรื่องต้องจัดการเธอจึงมาเรียนคนเดียว หญิงสาวแทบไม่พูดคุยกับใครมากมายเธอเรียนของเธอเสร็จก็เดินทางกลับมาที่หอเตชินท์: สองทุ่มมาที่คอนโดเสียงข้อความที่เธอไม่อยากเห็นถูกส่งมาที่เครื่องของเธอ หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมา เธอมองเพดานนิ่งสมองกำ
น้ำหวานแทบอ่อนแรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหมือนว่าเธอไม่มีทางเลือกอะไรเลยนอกจากยอมผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันจะนานแค่ไหนกับการที่ต้องมาอยู่ในฐานะของเล่นของเขาแต่ถ้าหากเธอไม่ยอมชีวิตที่สงบสุขของเธอจะเป็นยังไงต่อไป เขาร่ำรวยมีอำนาจมากกว่าครอบครัวเธอก็แค่คนธรรมดาเพราะแบบนี้มันทำให้หญิงสาวกลั้นใจถามเขาออกไป“นานแค่ไหนกับสถานะบ้าๆ นั้น”“หึ ฉันเป็นพวกขี้เบื่อ ไม่นานหรอกเล่นจนเบื่อเดี๋ยวทิ้งเอง”“ทำไมพี่ถึงได้เลวขนาดนี้คะ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ”คำว่าเลวในครั้งนี้เล่นเอาหัวใจแกร่งกระตุกไม่น้อยเลยแต่ชายหนุ่มก็เหมือนไม่สนใจอะไรเขายักไหล่ยอมให้เธอด่าต่อไป“สรุป เอาไง”“หึ ถ้าฉันปฏิเสธพี่ก็คงทำเลวๆ กับฉันเหมือนที่ผ่านมา”เธอที่ไม่มีทางเลือกอะไรเลยจึงเอ่ยออกไป สายตายังคงมองชายหนุ่มด้วยความเกลียดชัง“เป็นผู้หญิงลับๆ ของฉันมันไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก อยากได้เท่าไหร่ก็พูดมาเธอจะได้ไม่ต้องไปทำงานที่ผับนั้น”หึ ไม่เลวร้ายงั้นเหรอเขากล้าพูดออกมาได้ยังไงกัน ได้ในเมื่อเขาพูดแบบนี้เธอก็จะยอมรับข้อเสนอของเขา เธอยอมเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเล่นไม่ซื่อด้วย กลัวว่าเขาจะรูปพวกนั้นไปปล่อยอย่างที่ขู่เอาไว้“ได้ ฉันยอมแต่พี่ก็







