LOGIN
เสียงดนตรีแจ๊สแว่วหวานผสานกับเสียงพูดคุยจอแจของผู้คนในชุดราตรีหรูหราดังก้องไปทั่วห้องบอลรูมขนาดใหญ่ของโรงแรมระดับหกดาว ใจกลางมหานครที่เต็มไปด้วยแสงสี
งานเลี้ยงหน้ากากการกุศลประจำปีของตระกูลดังช่างดูงดงามราวกับภาพฝันสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับ มินตราหญิงสาวในชุดเดรสยาวสีน้ำเงินเข้มที่ขับผิวขาวผ่องให้ดูโดดเด่น สถานที่แห่งนี้คือความอึดอัดที่เธออยากจะหนีออกไปให้เร็วที่สุด
ใบหน้าสวยหวานถูกซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากขนนกสีขาวเหลือบเงิน เผยให้เห็นเพียงริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อและดวงตากลมโตที่ฉายแววกังวล เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาคู่ครองหรือโอ้อวดความร่ำรวยเหมือนคุณหนูไฮโซคนอื่น แต่เธอมาในฐานะ ตัวแทนของเจ้านายที่บังเอิญป่วยกะทันหัน
หน้าที่ของเธอเพียงแค่นำของขวัญมามอบให้เจ้าภาพและรีบกลับ
แต่นั่นคือสิ่งที่เธอคิด... ก่อนที่แก้วไวน์ใบนั้นจะถูกยื่นมาตรงหน้า
"ดื่มหน่อยสิครับคุณผู้หญิง เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพ" บริกรหนุ่มยิ้มอย่างเป็นมิตร
มินตราปฏิเสธไม่เป็น เธอจิบมันไปเพียงเล็กน้อยเพื่อรักษามารยาท แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น โลกทั้งใบของเธอก็เริ่มหมุนคว้าง
ความร้อนวูบวาบประหลาดเริ่มก่อตัวขึ้นที่หน้าท้องน้อย ลามไล่ไปตามกระแสเลือดอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง ขาเรียวสวยเริ่มสั่นเทา ลมหายใจเริ่มติดขัดและหอบถี่ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามไรผม
‘เกิดอะไรขึ้น... ทำไมร้อนแบบนี้’
มินตราพยายามประคองสติ เธอรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างรุนแรง หญิงสาวรีบวางแก้วลงแล้วพยายามเดินฝ่าฝูงคนเพื่อหาทางออก แต่สายตาที่เคยคมชัดกลับเริ่มพร่ามัว
แสงไฟระยิบระยับของแชนเดอเลียร์กลายเป็นเส้นแสงที่โงนเงน สมองสั่งการให้เดินไปทางประตูทางออกทิศเหนือ แต่ร่างกายกลับทรยศ พาเธอเซถลาเข้าสู่โซนวีไอพีที่เงียบสงัดและมืดสลัว
เสียงดนตรีเริ่มแผ่วเบาลง เหลือเพียงเสียงหัวใจของเธอที่เต้นโครมคราม ความต้องการบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้จักกำลังปะทุขึ้นภายในกาย มันทรมาน... แต่ก็วาบหวามอย่างน่าประหลาด
"ต้อง... ต้องหาน้ำ..." มินตราพึมพำเสียงแหบพร่า มือบางผลักประตูบานหนึ่งที่แง้มอยู่โดยไม่ได้ดูป้ายหน้าห้อง
ภายในห้องนั้นมืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์สลัวที่ลอดผ่านผ้าม่านหนาหนักเข้ามา อากาศภายในเย็นจัดจากเครื่องปรับอากาศ แต่กลับไม่สามารถดับความร้อนรุ่มในกายของเธอได้เลย
...
ในมุมมืดที่สุดของห้อง บนโซฟาหนังราคาแพง ร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้หนึ่งกำลังนั่งกุมขมับ เส้นเลือดที่ขมับแสดงถึงความอดกลั้นของออสติน' ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศ กำลังต่อสู้กับความต้องการในร่างกายตัวเองเช่นกัน
ดวงตาคมกริบตอนนี้แดงก่ำด้วยฤทธิ์ยาและโทสะ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าถูกคู่ค้าทางธุรกิจวางยาในเครื่องดื่ม หวังจะส่งลูกสาวใส่พานถวายให้เขาเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่คนอย่างออสติน เกลียดที่สุดคือการถูกลูบคม เขาหนีออกมาซ่อนตัวที่นี่เพื่อรอให้ฤทธิ์ยาเบาบางลง แต่ดูเหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้าง
กึก...
เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้ออสตินเงยหน้าขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายแป้งเด็กลอยเข้ามาแตะจมูก แทนที่จะเป็นกลิ่นน้ำหอมฉุนกึกแบบที่พวกผู้หญิงหิวเงินชอบใช้ กลิ่นนี้กลับกระตุ้นสัญชาตญาณดิบเถื่อนในตัวเขาให้ลุกโชนยิ่งกว่าเดิม
"ใครวะ ออกไป!" เขาคำรามเสียงต่ำ พยายามไล่ผู้บุกรุก นี่คนพวกนั้นคงรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ห้องนี้
เขาคงไม่พ้นโดนแบลคเมล์แน่ครั้งนี้ ไม่น่าเชื่อว่ากลิ่นของลูกสาวของเสี่ยวิชัยจะหอมได้ขนาดนี้
แม้จะถูกตะคอกไล่ แต่มินตราในเวลานี้สติสัมปชัญญะแทบไม่เหลือแล้ว เสียงตวาดนั้นแทนที่จะทำให้กลัว กลับดึงดูดเธอให้เข้าหา เธอเห็นเพียงเงาตะคุ่มของใครบางคนที่น่าจะเป็นที่พึ่งพิงได้ ร่างบางเซถลาเข้าไปหาเขา มือเล็กไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยว
"ช่วย... ช่วยด้วย... ร้อน..."
เสียงหวานที่สั่นเครือนั่นทำให้ออสตินชะงัก เขามองเห็นร่างอรชรภายใต้ชุดราตรีสีน้ำเงินที่กำลังเดินโซเซเข้ามา มือหนากำหมัดแน่น แต่ฤทธิ์ยาที่รุนแรงเกินต้านทานทำให้เขามองเห็นเธอเป็นเพียงที่ปลดปล่อย
“ออกไปตอนที่คุณยังมีเวลา…”
“มะ ไม่ ฉันร้อน ช่วยฉันด้วย”
หญิงสาวหนีบขาจนแน่น หน้าท้องของเธอปั่นป่วนไปหมด จนเธอต้องเกร็งมันจนแน่น
ร่างกายร้อนรุ่มอยากให้มีคนมาสัมผัส หญิงสาวรู้สึกถึงหัวนมที่แข็งชูช่อสัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาของชุดราตรีเนื้อลื่นที่เธอสวม
“ชะ ช่วยทำให้ฉันหายร้อนสักที”
ทันทีที่มินตราเดินมาถึงตัว ออสตินที่กำลังกดสัญชาตญาณของตัวเองอยู่ก็เหมือนถูกจุดชนวนแรงระเบิดกลางอก สายตาของเขาจับจ้องร่างบางในชุดราตรีสีน้ำเงินที่กำลังหอบหายใจ หน้าแดงจัด ดวงตาวาววับด้วยแรงปรารถนาอย่างไม่มีการซ่อนเร้น
เธอมองเขาเหมือนเป็นคนเดียวในโลกที่เธอต้องการ และนั่นทำให้สติของเขาหลุดรุ่ย
เขากระชากแขนเรียวเข้าหาตัวเองอย่างแรงจนร่างบางเซล้มมานั่งบนตัก ชนเข้าแผงอกแกร่งเต็มแรง “นี่นะเหรอ ลูกสาวเสี่ย…”
มินตราหลุดเสียง “อื้อ!” ด้วยความตกใจ แต่แรงกระแทกนั้นกลับยิ่งทำให้เธออยากแนบอกอวบอิ่มเข้าหาเขามากกว่าเดิม สายตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความต้องการล้นทะลัก ราวกับทั้งร่างพร้อมมอบให้เขาทุกอย่างไม่ว่าต้องการแบบไหน
ความร้อนจากร่างกายทั้งคู่ปะทะกันจนเหมือนประกายไฟแตกพรึ่บอยู่ในอากาศ ความปรารถนาหนักหน่วงสาดเข้าทั้งสองจนลืมทุกอย่างนอกจาก “กันและกัน”
“โคตรหอม…” ออสตินงึมงัมข้างหูขาวๆ กดใบหน้าเข้าหาต้นคอระหงของเธอ ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดผิวบอบบางจนมินตราสั่นสะท้าน ขนอ่อนลุกชูชัน เธอจับเสื้อสูทของเขาแน่น
กลิ่นของหญิงสาวทำให้เขาทนแทบไม่ได้คิดว่า ถ้าเสี่ยวิชัยจะเสนออะไรมา เขาพร้อมเจรจา แต่ตอนนี้ขอให้เขาได้กินความหวานนี้ก่อน
ออสตินไม่คิดรออะไรอีก เขาบดริมฝีปากลงบนปากนุ่มในทันที จูบหนักแน่น ดิบ เถื่อน เร่าร้อนแบบไม่ให้เธอได้หายใจเต็มปอดแม้แต่เสี้ยววินาที ลิ้นของเขาแทรกเข้ากวาดรุนแรงราวคนหิวกระหาย เธอครางแผ่ว อ่า… ลมหายใจติดขัด ร่างทั้งร่างอ่อนระทวยกับแรงจู่โจมที่เขามอบให้
เสียงจูบดัง ชื้น แฉะ และร้อนจนมินตรารู้สึกเหมือนถูกแผ่ดเผา
แทนที่จะถอย เธอเบียดหน้าอกอิ่มเข้าแนบเขาแน่นกว่าเดิมเหมือนจะบอกว่าขออีก แขนเรียวขาวยกขึ้นโอบต้นคอแกร่งออสตินรู้สึกเขาต้องการกินเธอให้มากกว่านี้ เขาจับเอวเธอยกรวดเดียว จนมินตราลอยขึ้นแล้วลงไปนั่งคร่อมบนตักแข็งแรงของเขา
ทันทีที่สะโพกของเธอวางแหมะตักเขา เธอก็สะดุ้งเฮือก บางสิ่งที่แข็งขืนและร้อนผ่าวกำลังดันใต้เนื้อผ้าบาง ๆ ของเธอ มันใหญ่ มันยาว มันแข็งจนเธอหายใจไม่ทั่วท้อง
ความต้องการพุ่งขึ้นแทบระเบิด มินตราหอบหายใจแรง ๆ สัญชาติญาณบอกเธอให้ถูไถส่วนอ่อนไหวของตัวเองลงกับความแข็งขืนของเขาถ้าอยากหายทรมานเธอต้องทำ และเธอก็ทำอย่างไม่อาย กลีบอวบอูมในบิกินี่ตัวจี์วชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน ประกบลงกับท่อนลำใหญ่โต ก่อนที่สะโพกผายจะเคลื่อนตัวสไลด์ถอยหน้าถอยหลัง
ออสตินรู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิดออก
กลิ่นความสาวของเธอลอยออกมาจากข้างใต้ หอมจนเขาอยากกินเธอทั้งตัว
เขาเผลอคราง อืมม… มือของเขาจับเอวเธอแน่นเหมือนจะฝังรอยไว้ ความอดทนที่มีน้อยนิดถูกเธอเผาไหม้จนหมด เขาดึงเกาะอกชุดราตรีที่เกะกะออก เผยให้เห็นเต้าใหญ่สวยที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหอบของเธอ
เขาก้มลงทันที งับยอดอกนุ่มเต็มปาก ดูดแรงจนเกิดเสียง จ๊วบ… แล้วลากลิ้นวน ก่อนจะย้ายไปอีกข้าง มือหนาบีบบี้สองเต้าราวกับเป็นลูกโป่งใส่น้ำ ก่อนจะอ้าปากงับเต้าแล้วดูดราวกับจะมีน้ำนมไหลออกมา ฟันคมๆกัดถันสีชมพูราวกับคนหิวโซ
มินตราเงยหน้าร้องคราง สูดปาก “อ่าา…ซิ้ดดด”
ตัวสั่นระริกสะท้านกับความเสียวที่ไหลทะลักไม่หยุด
ออสตินเงยหน้าขึ้นมา จูบเธออีกครั้งอย่างร้อนผ่าว ขณะมือหนาล้วงเข้าไปในกระโปรงแหวกข้าง จนเจอขอบบิกินี่ตัวจิ๋ว เขากระชากมันออกตามแรงอารมณ์แล้วโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี
นิ้วร้อนซุกซนไม่รอช้ากรีดลงไปตามร่องแฉะที่เปียก ก่อนจะบดขยี้นิ้วลงไป
“อ๊ะ อ๊าาา เสียว ซิ้ดดด” มินตราแอ่นอก จิกผมของเขาจนแน่น
เขายิ้มมุมปาก บดคลึงแรงขึ้น จังหวะรัวขึ้น จนเสียงน้ำของเธอดัง แฉะๆๆๆ
ก่อนเขาจะสอดนิ้วลึกเข้าไปในช่องสวาทที่อุ่นนุ่มชุ่มชิ้น“แน่นชิบ…” เขาครางอย่างหื่นกระหาย “เสียวมากไหม เดี๋ยวจะเสียวกว่านี้อีก”
นิ้วเขาขยับลึกกว่าเดิม
มินตราแหงนหน้าครวญคราง “อ๊าาาา สะเสียว…”
ทันใดนั้น เขาหยุดนิ้ว ปลดเข็มขัด ก่อนที่เสียงรูดซิบจะดังขึ้น
มือหนาล้วงลงไปในกางเกงแล้วดึงแก่นกายออกมาให้เธอเห็นเต็มตา
มินตราตาค้าง ช่างใหญ่โตอะไรขนาดนี้ ออสตินจับมือเธอไปกำท่อนลำนั้นไว้เอง
“จับสิ” เขากระซิบเสียงต่ำ “มันเป็นของเธอแล้ว”
มินตราเริ่มลูบไล้ ยิ่งใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเพราะความเสียว เธอยิ่งเร่งจังหวะ เสียงลมหายใจของเขาหนักขึ้น ชัดขึ้น จนเห็นเลยว่าเขาแทบจะระเบิดคามือเธอ
ออสตินไม่รอช้าเขาจับเอวเธอ แล้วยกขึ้นให้เธอนั่งคร่อมแก่นกายของเขาเต็ม ๆ
ความใหญ่โตที่จ่อตรงปากทางลี้ลับ มันร้อน ผ่าว เต้นตุบ ๆ
มินตราลังเลในครั้งแรก แต่ความเสียวซ่านจากฤทธิ์ยา ทำให้เธอหยุดความลังเลทั้งหมดลง เธอสูดปากแรง พยายามกดสะโพกลงช้า ๆ
ความแน่นคับผสมความเจ็บแล่นพรวดขึ้นจนเธอกัดฟันข่มความเจ็บนี่มันครั้งแรกของเธอ ที่ไม่น่าประทับใจ แต่เธอต้องการเหลือเกิน ดุ้นใหญ่ร้อนรุ่มนี้จะช่วยบรรเทาความวูบวาบรุ่มร้อนให้เธอได้ สะโพกอวบอิ่มกดลงไปอีกนิด มินตราหอบหายใจ รู้สึกถึงความแปลกที่สอดแทรกเข้ามา ทั้งใหญ่โตและคับแน่น
“ไหวไหม… ครั้งแรกเหรอคุณ…ซิ้ดดด” เสียงทุ้มกัดฟันถาม ออสตินไม่เคยเจออะไรที่แน่นขนาดนี้มาก่อน
เธอไม่ตอบ แค่พยักหน้า
สาวซิงเหรอเนี่ย…
ชายหนุ่มพยายามช่วยหญิงสาว หยัดสะโพกขึ้นสวนสะโพกอวบอิ่มที่กดลงมา ดันให้ตัวตนของเขาลึกเข้าไปในตัวของเธออีก ริมฝีปากหยัก กัดหัวนมที่ล่อตาล่อใจเบาๆ พลางดูดเลียให้หญิงสาวคลายความเจ็บทางด้านล่าง
ไม่นานนัก ความใหญ่โตก็เข้าไปอยู่ในร่างของหญิงสาวจนสุดลำ
มินตราแทบล้มตัวลงบนอกเขา “อ๊าาาาาา…” ร่างสั่นสะท้านไม่หยุด รับรู้ถึงความใหญ่โตในช่องท้อง ทั้งจุกทั้งแน่นไปหมด
“ฟิตจนผมแทบขยับไม่ได้…” เขากัดฟันกรอด จับเอวเธอแน่นจนขึ้นรอยแดง
“เธอควบเองได้ไหม”
“อ๊ะ…อา…” ริมฝีปากอิ่มถูกฟันซี่เล็กขบจนแน่น ควบเองอย่างนั้นเหรอ คนมันไม่เคย แต่… มันเสียวเสียวจนเธอหยุดไม่ได้แล้ว
สะโพกขาวเนียนยกขึ้นรูดรั้งท่อนลำขึ้น ยามที่ผิวเนื้อด้านในถูกส่วนใหญ่โตครูดผ่าน เธอเสียววูบจนสั่นไปทั้งตัว เมื่อยกตัวขึ้นสะโพกอวยก็ค่อยๆกดลง มันแน่นจนจุกไปหมด
เสียงทุ้มที่ชมเธอว่าเก่ง ยิ่งทำให้มินตราเหมือนเด็กได้รางวัล เธอค่อยๆเร่งจังหวะทีล่ะนิด ความเสียวที่ได้รับแล่นไปทั่วร่าง หญิงสาวหวีดร้องเมื่อการขย่มครั้งที่ห้าเธอเริ่มจับจังหวะได้
“อ่าา…. ซิ้ดดดดด” ความคับแน่นที่ผ่อนคลายขึ้นทำให้จังหวะการขย่มตอไหลลื่นขึ้น
มันเสียวจนเธอรั้งใบหน้าของเขาให้เงยขึ้น แล้วกดจูบเสียงดังจ๊วบจ้าบ
ออสตินเหมือนจะไม่ทันใจ เขาเกร็งสะโพกแล้วกระแทกท่อนลำสวนกับการควบขี่ของเธอ ม้าตัวนี้เป็นม้าพยศ
แรงที่อัดสวนเข้ามาทำให้มินตรากรีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า
ความเสียวพุ่งจนเธอเกร็งกระตุก ไม่นานนักมินตราก็เหมือนใกล้แตะขอบสวรรค์ ข้างในถ้ำสวาทตอดเป็นจังหวะ รัดเอาส่วนแข็งขืนเป็นจังหวะระรัวก่อนที่กายขาวจะกระตุกรัวๆ
“อ้ะ อ่าาา เสร็จๆค่ะ เสร็จแล้ว…”
ออสติสสูดปาก ความอ่อนนุ่มด้านในรัดลำของเขาจนแทบแตก แต่ยังก่อนตรงนี้มันยังไม่ถนัด ออสตินถอนลำหลุดออกมาเสียงดังเหมือนเปิดขวดไวน์ แล้วอุ้มเธอไปที่เตียง เขาจับขาเธอแยกออกกว้าง ก่อนจะดันตัวตนเข้าไปอีกครั้ง
มินตราร้องลั่น “อ๊าาาาา ลึก…ลึก…”
ออสตินกดสะโพกกระแทกอย่างแรง รัว เร็ว ไม่ผ่อน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง สองเต้าเต่งตึงขนาดใหญ่กระเด้งกระดอนตีกันจนหญิงสาวต้องยกมือรวบมันเอาไว้
มินตราหวีดร้อง มือคว้าหมอนแน่น ร่างเกร็ง กระตุกหนักเมื่อถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง
ไม่นานนักออสตินที่ถูกช่องทางรักเธอขมิบรัวไม่หยุดก็ครางต่ำลึก สะโพกกระแทกสุดแรง แล้วปล่อยความร้อนทะลักเข้าไปในตัวเธอจนมิด
เขาทิ้งตัวลงนอนทับเธอ หายใจแรง ร้อนผ่าว ก่อนจะเงยหน้า จูบเธอแบบโหยกระหายอีกครั้ง
แล้วบทรักบทใหม่เริ่มขึ้นใหม่อีกครั้งโดยไม่พักแม้แต่วินาทีเดียว
นาฬิกาดิจิทัลบนผนังบอกเวลาเกือบตีหนึ่ง ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนชั้นสูงสุดของคอนโดมิเนียมย่านดังที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามา ออสตินทิ้งตัวลงบนโซฟาหนังสีดำตัวยาว เขาปลดเนกไทราคาแพงโยนทิ้งไปบนพื้นอย่างไม่ไยดี ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนออกเพื่อระบายความอึดอัดที่สุมอยู่ในอก"น่ารำคาญ..."ชายหนุ่มสบถออกมาเสียงต่ำ มือหนาคว้าแก้ววิสกี้ที่รินค้างไว้ขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ความร้อนของแอลกอฮอล์บาดลึกไปในลำคอ แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับไฟโทสะที่กรุ่นอยู่ในใจเขาตลอดทั้งบ่ายสาเหตุของความหงุดหงิดไม่ใช่เรื่องหุ้นตก ไม่ใช่เรื่องคู่แข่งทางธุรกิจ... แต่เป็นยัยป้าเลขาหน้าใหม่ที่ชื่อมินตราคนนั้น…ทั้งที่เขากลั่นแกล้ง หวังจะเห็นเธอทำงานพลาด แต่กลายเป็นว่าตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา เธอทำงานได้ดีเยี่ยมไม่มีที่ติจนน่าขนลุก เอกสารทุกชิ้นถูกจัดหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบ ตารางงานถูกจัดใหม่จนมีประสิทธิภาพสูงสุด กาแฟที่เธอชงมาให้ก็รสชาติดีจนเขาหาเรื่องติไม่ได้ยิ่งเธอทำดี เขายิ่งหงุดหงิด!มันเหมือนทฤษฎีของเขาถูกสั่นคลอน ปกติผู้หญิงที่เข้ามาทำงานกับเขามีแค่สองประเภท คือ 'สวยแต่โง่' หรือ 'เก่งแต่ขี้อวด' แต่ยัยป้านี่กลั
อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ใจกลางย่านธุรกิจ บรรยากาศภายในชั้นผู้บริหารสูงสุดที่ปกติจะเงียบสงบและเต็มไปด้วยความหรูหรา วันนี้กลับคุกรุ่นไปด้วยรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากห้องทำงานใหญ่ที่ปลายสุดทางเดิน"ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้! ฉันบอกว่าอย่าอ่อย ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง!"เพล้ง!เสียงตวาดลั่นดุจฟ้าผ่าตามมาด้วยเสียงแก้วแตกกระจาย ดังทะลุประตูไม้สักบานหนาออกมา ทำเอาบรรดาผู้สมัครงานสาวสวยห้าคนที่นั่งรออยู่หน้าห้องถึงกับสะดุ้งโหยง ตัวสั่นงันงกราวกับลูกนกตกน้ำวินาทีต่อมา ประตูห้องท่านประธานก็ถูกกระชากเปิดออก ร่างระหงของเลขาคนสวยในชุดเดรสรัดรูปวิ่งร้องไห้โฮออกมาด้วยสภาพน้ำตานองหน้า เครื่องสำอางราคาแพงไหลเยิ้มเปรอะเปื้อนใบหน้า"ฮือๆๆ... โรคจิต ใครจะไปทนทำงานด้วยได้วะ" เธอตะโกนก้องก่อนจะวิ่งหนีหายเข้าไปในลิฟต์ ทิ้งไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมฉุนกึกและความหวาดผวาให้แก่ผู้ที่ยังเหลืออยู่"คนต่อไป! เข้ามา!"เสียงทุ้มต่ำดังลอดออกมาจากห้องนั้น มันไม่ใช่คำเชิญชวน แต่เหมือนเรียกไปรับโทษ ผู้สมัครสาวสวยคนแรกที่นั่งอยู่ใกล้ประตูที่สุดหน้าซีดเผือด เธอลุกขึ้นยืนขาสั่นพับๆ หันมามองเพื่อนร่วมชะตากรรมแล้วส่ายหน้า"มะ... ไม
"แม่จ๋า..."เสียงเล็กๆ ที่เจือความน่าเอ็นดูดังขึ้นทำลายความเงียบของเช้าวันใหม่ในบ้านเช่าหลังเล็กชานเมืองมินตราที่กำลังนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเก่าสะดุ้งตื่น ร่างบางรีบดีดตัวลุกจากฟูกนอนที่ปูอยู่กับพื้นห้องโล่งๆ"สายป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย" มินตราพึมพำกับตัวเอง พลางรีบกุลีกุจอวิ่งไปดูที่มุมครัวเล็กๆภาพที่เห็นคือ ออโต้ลูกชายคนโตวัย 4 ขวบ ยืนเขย่งปลายเท้า เกาะขอบเคาน์เตอร์ครัว จ้องมองหม้อหุงข้าวเก่าคร่ำครึด้วยสายตานิ่งๆ คิ้วน้อยๆ ขมวดเข้าหากันเหมือนกำลังสงสัยว่าทำไมแสงไฟสีแดงถึงไม่ทำงาน ส่วนมือป้อมๆ ก็พยายามกดสวิตช์ย้ำๆ"แม่จ๋า กดแล้วมันเด้งขึ้นมาตลอดเลย" เด็กชายฟ้องเสียงอ่อย หันมามองแม่ด้วยแววตาที่ถอดแบบมาจาก ผู้ชายคนนั้น ราวกับแกะ ทั้งดวงตาคมกริบที่ดูนิ่งเกินวัยและโครงหน้าที่ฉายแววหล่อแต่เด็ก แต่ในเวลานี้มันเต็มไปด้วยความผิดหวังแบบเด็กๆ ที่หิวข้าว"โธ่ลูก... หม้อใบนี้มันเกเรอีกแล้วเหรอครับ" มินตราถอนหายใจเฮือกใหญ่ รีบเข้าไปดู ก็พบว่าหม้อหุงข้าวคู่ยากนิ่งสนิทไปแล้วจริงๆ "สงสัยคราวนี้จะพังจริงๆ แล้วล่ะลูก เอายังไงดีล่ะเนี่ย""ฮืออออ... แม่จ๋า อะตอมหิววววว ท้องร้องจ๊อกๆ แล้ววว"เสียงร้องงอ
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านเนื้อหนา เข้ามากระทบเปลือกตาที่ปิดสนิทของหญิงสาวที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงกว้าง ความรู้สึกแรกที่มินตราสัมผัสได้ไม่ใช่ความสดชื่นของการตื่นนอน แต่เป็นความปวดร้าวที่แล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย ราวกับร่างกายของเธอเพิ่งผ่านสงครามอันหนักหน่วงมาหมาดๆ "อือ..."เสียงครางแผ่วเบาเล็ดลอดออกจากริมฝีปากที่บวมเจ่อ มินตราพยายามขยับตัว แต่ก็พบว่ามีบางสิ่งพาดทับอยู่ช่วงเอว ความอึดอัดนั้นทำให้เธอต้องฝืนลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตาที่ยังพร่ามัวคือท่อนแขนกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวสีแทนเข้มตัดกับความขาวสะอาดของผ้าปูที่นอน ไล่สายตาขึ้นไป เธอพบแผ่นอกกว้างที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจสม่ำเสมอ และเมื่อเงยหน้าขึ้นอีกนิด ลมหายใจของเธอก็สะดุดกึกใบหน้าคมเข้มของชายแปลกหน้าคนหนึ่งกำลังหลับสนิทอยู่ห่างจากเธอเพียงคืบ จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้มพาดเฉียง และริมฝีปากหยักลึกที่ดูดุดันแม้ในยามหลับใหลสมองที่เคยว่างเปล่าของมินตราเริ่มประมวลผล ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวานเริ่มไหลย้อนกลับมา. งานเลี้ยงหน้ากากที่บริษัทส่งเธอมา"ไม่จริง..."เสียงหวานกระซิบกับตัวเองด้วยค
บทที่ 1: คืนแห่งกลลวง เสียงดนตรีแจ๊สแว่วหวานผสานกับเสียงพูดคุยจอแจของผู้คนในชุดราตรีหรูหราดังก้องไปทั่วห้องบอลรูมขนาดใหญ่ของโรงแรมระดับหกดาว ใจกลางมหานครที่เต็มไปด้วยแสงสี งานเลี้ยงหน้ากากการกุศลประจำปีของตระกูลดังช่างดูงดงามราวกับภาพฝันสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับ มินตราหญิงสาวในชุดเดรสยาวสีน้ำเงินเข้มที่ขับผิวขาวผ่องให้ดูโดดเด่น สถานที่แห่งนี้คือความอึดอัดที่เธออยากจะหนีออกไปให้เร็วที่สุดใบหน้าสวยหวานถูกซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากขนนกสีขาวเหลือบเงิน เผยให้เห็นเพียงริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อและดวงตากลมโตที่ฉายแววกังวล เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาคู่ครองหรือโอ้อวดความร่ำรวยเหมือนคุณหนูไฮโซคนอื่น แต่เธอมาในฐานะ ตัวแทนของเจ้านายที่บังเอิญป่วยกะทันหัน หน้าที่ของเธอเพียงแค่นำของขวัญมามอบให้เจ้าภาพและรีบกลับ แต่นั่นคือสิ่งที่เธอคิด... ก่อนที่แก้วไวน์ใบนั้นจะถูกยื่นมาตรงหน้า"ดื่มหน่อยสิครับคุณผู้หญิง เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพ" บริกรหนุ่มยิ้มอย่างเป็นมิตรมินตราปฏิเสธไม่เป็น เธอจิบมันไปเพียงเล็กน้อยเพื่อรักษามารยาท แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น โลกทั้งใบของเธอก็เริ่มหมุนคว้างความร้อนวูบวาบประหลาดเริ่มก







