Share

บทที่ 13 หาเงินเข้ากระเป๋า

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2024-12-22 17:11:23

บทที่ 13 หาเงินเข้ากระเป๋า

มู่ยวี่เฉินกลับมาทันเห็นเหตุการณ์พอดีที่บ้านใหญ่จะเข้ามาทำร้ายน้องๆ ชายหนุ่มจึงรีบเดินมาอยู่ด้านหน้าน้องทั้งสองคนและมองคนตรงหน้าด้วยแววตาวาวโรจน์

“กล้าทำร้ายทั้งสองคนก็ลองดู แล้วลุงจะรู้ว่านรกมันเป็นยังไง”

“ฉันก็แค่มาดูว่ามีเนื้อหมูป่าเหลืออีกหรือเปล่า ยังไงฉันก็มีศักดิ์เป็นลุงของพวกแก อย่างน้อยๆ ควรจะแบ่งมาให้ฉันบ้าง” มู่เผิงรีบเปลี่ยนน้ำเสียงและท่าที เพราะรู้ดีว่าหลานชายคนนี้ย่อมทำจริงอย่างที่พูด

“เงินที่ลุงใหญ่เอาไปจากน้องๆ ลุงยังจ่ายคืนไม่หมดหรือว่าลุงต้องการเพิ่มยอดหนี้อีก”

มู่ยวี่เฉินตอบกลับ ทำให้มู่เผิงนั้นรีบเดินออกจากบ้านแทบไม่ทันเพราะเงินที่เอามานั้นแทบไม่เหลือแล้ว หากตอแยต่อรับรองเขาต้องชดใช้เงินเพิ่มแน่นอน เมื่อมู่เผิงจากไป มู่หยางจึงไปหยิบเงินที่ขายหมูป่ามาได้ยื่นให้กับพี่ชาย ชายหนุ่มจึงเรียกน้องทั้งสองคนมาพูดคุย

“พี่จะพาพวกเราทั้งสองคนไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ด้วย เราทั้งสองคนยินดีจะย้ายตามพี่ไปหรือเปล่า เรื่องนี้พี่คุยกับชิงเย่วแล้ว เธอเองก็จะย้ายไปตั้งรกรากที่เซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นถิ่นเดิมของเธอ เราทั้งสองจะได้ไม่เหงาด้วย ส่วนเรื่องเรียนพรุ่งนี้พี่จะทำเรื่องย้ายให้ ทั้งสองคนตกลงไหม หากจะปล่อยให้อยู่กันเองพี่ไม่ไว้ใจบ้านใหญ่ หากพี่ไม่อยู่รับรองคนเห็นแก่ตัวพวกนั้นต้องมาหาเรื่องเราทั้งสองคนอีก”

มู่ยวี่เฉินเลือกที่จะพูดกับน้องทั้งสองคนตามตรง แม้ว่าเขาจะตัดสินใจว่าจะพาน้องๆ ทั้งสองคนไปอยู่ด้วยก็ตาม แต่ก็ต้องการถามความเห็นชอบด้วย หากอาหยางและเสี่ยวปิงไม่ไป อยากอยู่ที่อำเภอนี้เขาตั้งใจจะหาบ้านเช่าในอำเภอให้ เพื่อที่ทั้งสองจะได้เดินทางไปกลับระหว่างเรียนหนังสือโดยไม่ต้องลำบาก

“ไปครับ / ไปค่ะ” ทั้งสองคนตอบแทบจะไม่ต้องคิด ยิ่งมี

หลิวชิงเย่วไปด้วยทั้งสองคนดีใจมาก

“พี่ใหญ่ พี่ชิงเย่วจะไปเซี่ยงไฮ้ด้วยจริงๆ เหรอ” มู่ฟ่านปิงพูดอย่างดีใจ ในที่สุดเธอยังคงได้อยู่กับพี่ชิงเย่วเหมือนเดิม ตอนนี้พี่ชิงเย่วตัวคนเดียวแล้วเธอกลัวว่าพี่ชิงเย่วจะเหงา

“จริงสิ แต่ว่าช่วงแรกๆ พี่อาจจะต้องเช่าบ้านให้เราทั้งสองคนอยู่ก่อนนะ เพราะว่าพี่พักที่กองทัพ พี่จะขอทำเรื่องมาพักนอกค่ายหากทำเรื่องได้แล้วพี่จะได้มาอยู่กับเราทั้งสองคนตลอด แต่ก่อนที่จะทำเรื่องได้พี่จะมาอยู่กับเราได้เฉพาะวันหยุด เราสองคนจะโกรธพี่ไหม ที่พี่ไม่ได้อยู่ด้วย”

มู่ยวี่เฉินเป็นเพียงพลทหารไม่มียศอะไร แม้ว่าตอนนี้ทางผู้บังคับบัญชาจะยื่นชื่อของเขาเพื่อขอเลื่อนขั้นให้แล้วก็ตาม แต่ก็ต้องรอภารกิจครั้งถัดไป เขาจึงยังคงพักอาศัยที่กองทัพรวมกับทหารนายอื่น

แต่กลับไปครั้งนี้เขาจะลองยื่นเรื่องเพื่อขอพักนอกค่ายทหารดู หากไม่ได้คงต้องรอเขาเลื่อนตำแหน่งก่อนก็แล้วกันและเขาเชื่อว่าน้องทั้งสองคนจะเข้าใจ

“ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ว่าพี่ใหญ่ต้องทำงาน หน้าที่ของทหารต้องดูแลชาวบ้านและประชาชน พี่ไม่ต้องทำอะไรที่ลำบากและผิดกฎเพื่อพวกเราหรอกครับ เราสองคนอยู่กันได้ พี่ใหญ่ค่อยมาหาผมกับน้องเล็กวันหยุดก็พอ เราสองคนไม่โกรธพี่หรอก”

มู่หยางนั้นเข้าใจพี่ใหญ่ เขารู้ว่าการเป็นทหารนั้นไม่ได้สบายมากนัก เพียงแค่เขาและน้องเล็กได้อยู่ใกล้กับพี่ใหญ่ก็พอแล้ว

“หนูก็ไม่โกรธพี่ใหญ่เหมือนกัน หนูกับพี่รองเข้าใจ แต่ถ้าจะชวน

พี่ชิงเย่วมาอยู่กับเราด้วยล่ะ พี่ใหญ่จะโกรธหรือเปล่า หนูสงสารพี่ชิงเย่ว

ตอนนี้เธอเหลือตัวคนเดียวแม้ว่าจะกลับไปยังที่ที่เคยจากมา แต่ตอนนี้

พี่ชิงเย่วไม่เหลือใครแล้ว”

มู่ฟ่านปิงไม่กล้าสบตาพี่ชายมากนักเพราะกลัวพี่ชายจะดุ ปกติ

พี่ใหญ่ไม่ชอบสุงสิงกับใครเธอเข้าใจดี

“เสี่ยวปิงลองคุยกับเธอดูว่าเธอจะว่ายังไง พี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

ดีเสียอีกจะได้มีคนช่วยดูเราทั้งสองแทนพี่ ตอนที่พี่ทำงานพี่จะได้หมดห่วง”

มู่ยวี่เฉินขยี้หัวน้องสาวด้วยความเอ็นดูและภูมิใจในตัวของน้องๆ แม้ว่าบ้านของพวกเขาจะไม่ได้รวย แต่น้องทั้งสองกลับมีน้ำใจช่วยเหลือ

คนอื่น อีกทั้งเขาเองก็เป็นห่วงด้วยเหมือนกันว่าหญิงสาวจะอยู่ยังไงทั้งที่เธอเหลือเพียงตัวคนเดียว

“เย้ๆ ๆ พี่ใหญ่ใจดีที่สุดเลย ขอบคุณมากนะคะ หนูรักพี่ใหญ่และพี่รองมากนะ” มู่ฟ่านปิงกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ก่อนจะโผเข้ากอด

พี่ใหญ่และพี่รองของเธอ ทำให้สามพี่น้องกอดกันตัวกลมและหัวเราะอย่างมีความสุข

“พี่ใหญ่ครับแล้วเราจะเอายังไงกับบ้านหลังนี้ดีครับ หากเราไปแล้วใครจะอยู่”

“พี่จะจ้างให้ป้าหลันคอยหมั่นมาดูแลและคอยความสะอาดให้ ยังไงพี่คิดจะกลับมาทุกปีเมื่อถึงวันไหว้บรรพบุรุษ”

มู่ยวี่เฉินพูดถึงป้าหลันซึ่งเป็นภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้าน เขาเชื่อว่าจะช่วยดูแลบ้านให้เขากับน้องๆ ได้ หากปีไหนไม่ได้กลับมาจะได้ให้ป้าหลันตั้งเครื่องเส้นไหว้แทน จากนั้นพี่น้องทั้งสามคนต่างคุยเรื่องที่จะย้ายไป

เซี่ยงไฮ้กันต่อ ส่วนพรุ่งนี้มู่ยวี่เฉินตั้งใจจะไปลาออกให้น้องทั้งสองคนที่โรงเรียนพร้อมกับไปดูหลิวชิงเย่วด้วย

เช้าวันต่อมาหลิวชิงเย่วรีบอาบน้ำและแต่งตัวเดินออกมาจากโรงแรม เธอเดินถามชาวบ้านว่าตลาดมืดอยู่ที่ไหน เมื่อได้สถานที่แน่ชัด

เธอจึงรีบเดินไปที่จุดหมายอย่างรวดเร็ว เพราะเธอมีเวลาหาเงินเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น แม้ว่าจะมีเงินสินเดิมที่พ่อทิ้งไว้ให้มากมายแค่ไหนก็ตาม แต่มีมากก็ไม่เสียหายอะไร

สำหรับเธอหากไม่หาเพิ่มเข้ามาไม่ว่ายังไงเงินก็ต้องหมดเข้าสักวัน เพราะเธอตั้งใจว่าเมื่อไปถึงเซี่ยงไฮ้แล้วเธอจะหาซื้อร้านและบ้านหลังเล็กๆ อยู่ ความตั้งใจของเธอยังคงเหมือนเดิมคืออยากจะเปิดร้านเสื้อผ้าและขายเครื่องสำอางไปด้วย ในเมื่อเธอมีของมากมายสามารถเรียกออกมาได้

ทุกอย่าง เธอไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร อีกทั้งเธอจะเปิดร้านค้าเพิ่มอีกหลายๆ ร้าน แต่ก็ต้องดูทำเลเสียก่อนต่อให้ร่างเดิมจะเคยอยู่ที่นั่น แต่ไม่ใช่เธอ

เมื่อมาถึงตลาดมืดหญิงสาวพบชาวบ้านมากมายมาจับจ่ายซื้อของ และมีพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่มีหน้าร้านต่างก็ปูผ้าตั้งพื้นขาย หลิวชิงเย่วเห็นตัวอย่างแล้ว เธอจึงเอาบ้าง จากนั้นจึงหลบเข้าซอกกำแพงลับตาคนจากนั้นนึกถึงเสื้อผ้าทั้งชายหญิงจึงเอาออกมามากมายหลายแบบ

รวมทั้งรองเท้าอีกหลายสิบคู่เธอเอามาทุกขนาด เพื่อให้ลูกค้าได้เลือก รวมถึงนาฬิกาข้อมือแบบธรรมดา ส่วนยี่ห้อดังเธอเอาออกมาเหมือนกันเผื่อว่ามีคนสนใจ เอาเป็นว่าภายในเจ็ดวันนี้หากมีใครมาสอบถามและหาซื้ออะไร เธอจะเอาออกมาขายทั้งหมด

เมื่อได้ของครบตามที่ใจต้องการเธอจึงมองหาที่ว่างเมื่อได้จุดหมาย จึงมาปูผ้าและรีบนำสินค้าที่เตรียมไว้ออกมาขายทันที

“เสื้อผ้าดีๆ ถูกๆ ตัวละสามสิบหยวนเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย

นะคะ รองเท้าคู่ละยี่สิบหยวนเช่นกัน เร็วได้หากช้าอดนะคะ เร่เข้ามาจ้า

เร่เข้ามา” เมื่อเห็นว่ามีหลายคนเรียกลูกค้าแบบนี้หลิวชิงเย่วจึงได้เอามั่ง

“แม่หนูแน่ใจนะว่าขายแค่สามสิบหยวน” ป้าท่านหนึ่งถามย้ำ

อีกครั้ง เธอมองอย่างไม่ค่อยเชื่อว่าเสื้อผ้าจะขายตัวละสามสิบหยวนจริงๆ

“ใช่ค่ะป้า และไม่ต้องกลัวฉันไม่ได้ขโมยใครมา ฉันมีแหล่งซื้อและเอากำไรแค่เล็กน้อยแต่ฉันเน้นปริมาณมากกว่า หากขายหมดนี่ฉันก็ได้กำไรพอสมควร”

ดูเหมือนจะน้อยแต่เสื้อผ้ายังอยู่ในถุงอย่างดีกองพะเนินแบบนี้ เป็นร้อยตัวอยู่นะ วันนี้เสื้อผ้าพรุ่งนี้ค่อยว่ากันว่าจะเอาอะไรออกมาขายให้ครบเจ็ดวันก่อน จนกว่าจะถึงวันเดินทาง

เมื่อได้รับคำยืนยันจากแม่ค้าหน้าหวาน ลูกค้าต่างเข้ามาเลือกซื้อมากมาย สุดท้ายทุกอย่างจึงขายหมดไม่เหลือแม้กระทั่งนาฬิกา หลิวชิงเย่วจึงรีบเก็บของและรีบเดินออกจากตลาดมืด หากพรุ่งนี้มาคงต้องหาอะไรกินมาก่อน ไม่เช่นนั้นจะหมดแรงเหมือนวันนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   ตอนพิเศษ 4 ซวี่เซิ่งเสว่ - เกาฮ่าวซวน

    ตอนพิเศษ 4 ซวี่เซิ่งเสว่ - เกาฮ่าวซวนหลังจากที่ตัดสินใจก้าวเดินออกมาจากหลี่เหว่ยเฉียงพร้อมกับลูกน้อย ซวี่เซิ่งเสว่ไม่ได้รับความลำบากเท่าไหร่ เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของนายหญิงโรงน้ำชาในเวลาสามสี่ปีที่ผ่านมา มีเกาฮ่าวซวนที่คอยดูแลเธอและลูกมาตั้งแต่ก้าวเท้าเหยียบปักกิ่ง ตอนนี้เธอจึงมีตำแหน่งหัวหน้างานด้านห้องอาหารและดูแลในส่วนของการแสดงของโรงน้ำชาเหมยกุ้ยเสี่ยวเหยาอายุสี่ขวบ ใครเห็นก็หลงรักแม่หนูน้อยคนนี้ คำแรกที่เรียกได้คือคำว่าพ่อ ซึ่งนั้นก็คือเกาฮ่าวซวน เธอเองก็เกรงใจเพราะพี่ฮ่าวซวนยังไม่แต่งงาน และไม่ใช่มองไม่ออกว่าเขาคิดยังไงกับเธอ แต่บาดแผลที่เธอเจอมามันสาหัสนัก อีกทั้งหลี่เหว่ยเฉียงคือรักแรก มันยากที่จะลืมจริงๆ แต่คงมีสักวันที่เธอลืมได้และขจัดภาพของหลี่เหว่ยเฉียงออกจากหัวใจ เพราะถ้าหากเธอรับรักพี่ฮ่าวซวนตอนนั้นเท่ากับเธอทำร้ายทั้งตัวเธอเองและพี่ฮ่าวซวน จนมาถึงวันนี้เธอคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเปิดรับเขาเข้ามาในชีวิต เป็นพ่อจริงๆ ของเสี่ยวเหยาตัวน้อยเสียทีเย็นนี้ซวี่เซิ่งเสว่จึงกลับมาทำอาหารด้วยรอยยิ้มและเต็มเปี่ยมด้วยความสุข เพราะเธอนัดให้พี่ฮ่าวซวนมากินอาหารด้วยกัน ระหว่างที่ทำ

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   ตอนพิเศษ 3 อาเผย - ซินอี้

    ตอนพิเศษ 3 อาเผย - ซินอี้หลังจากส่งนายหญิงกลับบ้าน อาเผยจึงให้ลูกน้องสืบเรื่องของหมอซินอี้คนสวย หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ได้รับคำตอบว่าคุณหมอซินอี้นั้นเป็นใคร ซินอี้เป็นลูกสาวนักการทูตประจำที่ปักกิ่ง มีพี่ชายเป็นทหารซึ่งก็คือนายพลจ้าน ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมของตัวเองหรือไม่ สนใจหญิงสาวครั้งแรกดันไปรักน้องสาวท่านนายพลเสียได้ แต่พอคิดว่าฐานะนั้นต่างกันเกินไปอาเผยจึงคลายความสนใจของตัวเองและตั้งหน้าทำงานตามปกติจนวันที่นายท่านกลับมาจากการฝึกซ้อมรบจากสถานที่จริงนายท่านให้กำลังใจและบอกให้เดินหน้า หากมั่นใจเขาและภรรยาจะเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอให้เอง ใครบ้างจะกล้าปฏิเสธคนสนิทของนายท่านแห่งโรงน้ำชาเหมยกุ้ยวันเวลาผ่านมาจนถึงวันที่หมอซินอี้ตอบรับคำเชิญของหลิวชิงเย่ว แม้ว่าจะไม่ได้มาต้อนรับด้วยตัวเอง แต่ก็ส่งอาเผยมาต้อนรับแทน“สวัสดีครับคุณหมอซินอี้” อาเผยเดินยิ้มร่าเข้ามาเมื่อพนักงานมาบอกว่าคุณหมอมาถึงแล้ว“สวัสดีค่ะคุณ...” ซินอี้ยิ้มให้และทักทายกลับไปแต่เธอไม่รู้จักชื่อของชายตรงหน้าจึงทำหน้าเหมือนจะถาม“ผมชื่ออาเผยครับ”“สวัสดีค่ะคุณเผย คุณไม่ต้องเรียกฉันคุณหมอหรอกนะคะ มันเป็นทางการจนเกินไปเ

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   ตอนพิเศษ 2 มู่ฟ่านปิง-มู่หยาง

    ตอนพิเศษ 2 มู่ฟ่านปิง-มู่หยางอย่าคิดว่าเหวินตงจะปล่อยร่างบางไป ในเมื่อเธอคือดวงใจของเขา เขาแอบรักมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มของเธอตอนเรียนมัธยมปลายแล้ว คิดว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆ เหรอ ไม่มีทางหรอก “ไม่ครับ พี่ไม่ปล่อย เสี่ยวปิงเต็มใจเป็นของพี่ พี่ก็ดีใจมากแล้วไม่จำเป็นต้องวางยาตัวเองหรอกนะ เพราะไม่เช่นนั้นเราจะไม่ได้นอนทั้งคืนแน่คืนนี้” เหวินตงพูดอย่างเจ้าเล่ห์ เนื้อกวางมาถึงปากแล้วคิดว่าเขาจะยอมปล่อยไปเหรอ หากเธอกล้าเดินออกไปจากห้องด้วยสภาพนี้ ใครเห็นเขาจะควักลูกตาออกมาจริงๆ มู่ฟ่านปิงตาโตมองอย่างตกใจ คนบ้านี่พูดไม่อายจริงๆ แต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไร เธอกลับโดนคนที่กำลังจะเป็นสามีอุ้มไปที่เตียงและปลดเปลื้องปราการสองชิ้นสุดท้าย ก่อนจะทำหน้าที่สามีให้เธอด้วยความรักและเป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ ห้องของซือโถก็ไม่ต่างจากห้องของมู่ฟ่านปิงเท่าไหร่ เพราะมีเจ้านายหนุ่มที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทมานั่งมึนอยู่ในห้อง “นายไม่ไปนอนเหรอ งานพรุ่งนี้ฉันเตรียมให้หมดแล้ว” ซือโถเอ่ยถาม แม้จะชอบชายหนุ่มตรงหน้ามากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เธอยังไม่กล้าอาจเอื้อมถึง

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   ตอนพิเศษ 1 พ่อแม่ลูกดก NC

    ตอนพิเศษ 1 พ่อแม่ลูกดก NCมู่ยวี่เฉินตั้งหน้าตั้งตาทำลูกสาวอย่างขะมักเขม้น เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปีหน้าเขาต้องมีก้อนแป้งตัวน้อยๆ น่ารักน่าชังอีกคนสองคน ทุกครั้งที่ตั้งใจทำสองแฝดมักจะก่อกวนพ่อเช่นเขาตลอด วันนี้ครอบครัวมีงานเลี้ยงอย่างน้อยเขาก็มีโอกาส หลังจากที่คุยกับน้องทั้งสองคนมู่ยวี่เฉินอุ้มภรรยารักเข้าห้องโดยไม่สนใจน้องๆ อีกเลย“ชิงชิงเราเข้ามิติกันเถอะนะ” ปากนั้นออดอ้อนขอเข้ามิติ แต่มือนั้นยุ่มย่ามถอดชุดภรรยาอย่างตั้งใจหลิวชิงเย่วนับวันสามีเธอยิ่งหน้ามึนกว่าเมื่อก่อน นี่ใช่สามีจอมเย็นชาของเธอหรือไม่ ผู้ชายที่เธอเจอตรงลำธารคนนั้นไปไหนแล้ว แม้ว่าจะแอบบ่นในใจแต่ก็ยังพาสามีสุดที่รักเข้ามิติตามคำขอเมื่อเข้ามาในมิติแล้วมู่ยวี่เฉินไม่สนใจอีก อุ้มภรรยารักนั่งที่โต๊ะกลางสนาม เขาจับขาเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะใช้ลิ้นของตัวเองไล่เลียกลีบดอกไม่งามของภรรยารัก ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ไม่ว่าจะกินและสัมผัสมากี่ครั้ง ดอกไม้ดอกนี้ของภรรยายังคงหอมหวานและสดใหม่สำหรับเขาเสมอไม่เพียงใช้ลิ้นเลียกลีบทั้งสองข้าง เขายังคงใช้ลิ้นตวัดจุดเสียวของภรรยาคือเกสรของดอกไม้ จนทำให้หลิวชิงเย่วบิดตัวด้วยความเสียว แต่กลับต

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   บทส่งท้าย ไม่มีอะไรมาพรากจากกัน

    บทส่งท้าย ไม่มีอะไรมาพรากจากกันสามปีผ่านไป หลิวชิงเย่วไม่คิดเลยว่าธุรกิจของเธอจะก้าวกระโดดได้ขนาดนี้ บริษัทเหมยกุ้ยขยายตัวจนติดอันดับหนึ่งของสายธุรกิจ ลูกชายที่น่ารักตอนนี้ก็อายุห้าปีแล้ว ความแสบความซนยังคงมีอยู่ ส่วนน้องทั้งสองเรียบจบเรียบร้อยแล้ว เธอจึงให้บริหารงานที่ปักกิ่งแทนเธอ พร้อมกับมอบกิจการให้ทั้งสองคนดูแลเพื่อเป็นทรัพย์สินของตัวเองอีกด้วยไม่เพียงแค่ธุรกิจของเธอเท่านั้นที่ก้าวกระโดด ตำแหน่งสามีของเธอเช่นกัน ตอนนี้ได้ติดยศเป็นผู้พันด้วยแรงสนับสนุนของพ่อบุญธรรม ท่านเกษียณตัวเองเพื่อออกมาดูแลและเลี้ยงหลานๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงท่านอื่น ไม่ใช่เพราะฐานะของนายท่านมู่ แต่เพราะความสามารถของตัวมู่ยวี่เฉินเองด้วยหากจะไม่พูดถึงหลี่เหว่ยเฉียงอดีตสามีของเธอคงไม่ได้ หลังจากที่สอบสวนและโดนโทษของการคบชู้แล้ว เขายังติดคุกเพิ่มอีกสามปีข้อหาพยายามทำร้ายเพื่อทหารด้วยกัน ในช่วงที่ติดคุกนางจ่างซื่อหรือแม่เฒ่าหลี่ตรอมใจที่ลูกชายโดนจับ และหญิงสาวที่หมายมั่นว่าจะเป็นลูกสะใภ้เธอกลับไม่สนใจ หลังจากรับโทษเสร็จหญิงสาวรายนั้นก็มีคนรักใหม่แม้อยากจะสืบหาสวี่เซิ่งเสว่แค่ไหนก็ไม่ได้ข่าวคราวเลย ทำให้นา

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   บทที่ 45 ความสำเร็จ

    บทที่ 45 ความสำเร็จการใช้ชีวิตของทุกคนยังคงดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น กิจการของหลิวชิงเย่วนั้นเจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ เธอยังติดต่อส่งขายเครื่องสำอางไปยังต่างประเทศ สร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง หากถามว่าเธอยังเอาของออกมาจากมิติไหม ตอบเลยว่ามีบ้างอย่างแต่ไม่ทั้งหมดตอนนี้เธอสร้างโรงทอผ้าเองแม้ว่าจะมีผ้าในมิติมากมายก็ตาม แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งลูกค้าถามว่าเอาผ้ามาจากไหนจะให้เธอตอบยังไง โรงงานของเธอนอกจากผลิตและตัดเย็บให้ร้านชิงเย่วบูติกแล้ว ยังผลิตให้ลูกค้ารายอื่นๆ อีกด้วย แต่แบบที่เปิดขายนั้นจะไม่ซ้ำกับร้านของเธอส่วนเนื้อผ้าขึ้นอยู่กับราคาและต้นทุนที่ลูกค้าให้งบมา ส่วนโรงน้ำชาจะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ ตั้งแต่เริ่มทำจนถึงวันนี้ก็สามปีแล้ว ตอนนี้โรงน้ำชาขยายเพิ่มไปอีกหลายสาขา ส่วนโชว์รูมรถยนต์ก็มียอดสั่งซื้อเข้ามาตลอดเช่นกัน ตอนนี้พี่ใหญ่จ้านซากำลังติดต่ออีกสองยี่ห้อเพื่อเป็นตัวแทนขาย หลิวชิงเย่วจะใช้เงินต่อเงินในการทำธุรกิจ นอกจากธุรกิจที่พูดก่อนหน้านี้ยังมีที่ห้างสรรพสินค้าที่กำลังก่อสร้างและโรงแรม ยังไม่รวมอะพาร์ตเม้นต์และคอนโดที่กำลังทำ ภายในสามปีเธอสร้างได้ขนาดนี้ถือว่าธุรกิจโตพอสมควรส่วนสองแฝดก็อา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status