เสี่ยวเหอตัดสินใจครั้งสำคัญ คิดว่าถูกผิดอย่างไรก็ช่าง เพราะไม่มีทางเลือก ทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาคลั่งไคล้นางไม่เลิก ไหนๆ ก็เคยจูบมาแล้วตอนอายุสิบเจ็ด ทำอีกสักครั้งคงไม่เป็นไรไป นางคิดแล้วจึงยกมือเกาะคอเขา
“อะไร” เขาเลิกคิ้วถาม แต่ก็ไม่ได้ถอยหนีหรือยืดตัวขึ้น
เสี่ยวเหอชิงจูบเขาอย่างรวดเร็ว พยายามทำให้เร่าร้อนมากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ดุนดันลิ้นเข้าไปในปากของเขาเพื่อควานหาลิ้นนุ่ม เมื่อเขายอมเปิดปากให้นางสำรวจลิ้นของเขา นางก็รีบโลมเลียลิ้นนั้นเล่น ขบกัดปลายลิ้นไม่ต่างจากที่เขาเคยชอบทำ
ชิงถิงแม้จะตกใจเล็กน้อยกับการกระทำอันอุกอาจของหญิงสาวคนรัก แต่ก็รู้สึกว่านางช่างน่ารัก จึงปล่อยให้นางทำต่อไป ทั้งยังรู้สึกหอมหวานในใจอย่างบอกไม่ถูก
เสี่ยวเหอกลืนกินริมฝีปากและลิ้นของเขาอยู่นาน เรียวลิ้นพันกันจนยุ่งเหยิง สุดท้ายนางก็แอบขบริมฝีปากของเขาแรงๆ กัดไม่ปล่อยจนนางมั่นใจว่าสามารถสร้างบาดแผลที่ริมฝีปากล่างเขาได้แน่แล้ว จึงยอมถอนจุมพิตในที่สุด
“อือ..เจ็บนะ” เขาตำหนิ แต่น้ำเสียงแล้วรู้ว่าพึงพอใจมาก
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะคิดอย่างไร แต่ชีวิตนี้ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าแต่งกับผู้ใด นอกจากข้าเท่านั้น” เสี่ยวเหอประกาศกร้าวอย่างกล้าหาญ แม้เสียงจะสั่นเครือแหบพร่า
นางเห็นว่าแววตาของชิงถิงเต็มไปด้วยความสุขและความสับสน แต่นางไม่สนใจแล้ว ทำเรื่องน่าอายเช่นนี้ ยังจะยืนเผชิญหน้ากับเขาได้อยู่หรือ หากเป็นกลางวันเขาคงเห็นว่านางหน้าแดงไปถึงคอ
เสี่ยวเหอเห็นเขายังนิ่งอึ้งก็เตรียมวิ่งเข้าโรงเตี๊ยม แต่วิ่งยังไม่ทันพ้นสองก้าวก็ถูกมือของเขาจับลากกลับมา!!
เขาลากนางเข้าไปในตรอกแคบๆ ระหว่างกำแพงสูง ผลักนางติดผนังและจูบไปทั่วราวกับคนบ้าคลั่ง สองมือขยำหน้าอกของนางอย่างต้องการจะครอบครองเป็นเจ้าของ เสี่ยวเหอตกใจพยายามร้องห้าม
“เดี๋ยว..เดี๋ยว..ช้าก่อน” สองมือก็ผลักเขาเต็มแรงแต่ไม่เกิดผล คล้ายผลักใส่กำแพงอิฐหนาก็ไม่ปาน
ชิงถิงยกตัวเสี่ยวเหอจนเท้าแตะไม่ถึงพื้น เขาใช้ขาข้างหนึ่งดันแยกขานางออกจากกัน ก่อนจะยกทั้งตัวของนางมาควบขี่ตรงเอวของเขา ยังคงจูบบดเบียดราวกับจะฝังนางเข้าไปในกำแพงให้ได้ จุมพิตไปทั่วใบหน้า จูบปิดปากไม่ให้นางพูดมากหรือมีโอกาสได้ห้ามปราม
สักครู่ก็เลื่อนริมฝีปากมาเล็มกัดบริเวณคอหอมๆ ของนาง ขบคอระหงแรงๆ หลายครั้ง เสี่ยวเหอเจ็บมากจนอยากจะร้องไห้ แต่เขายกมือมาปิดปากนางไว้ นางได้แต่กอดไหล่กว้างไม่ให้ตัวเองตกพื้น
ชิงถิงขบกัดจนพอใจ ก่อนจะลิ้มเลียรอบรอยขบเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้นาง เขาอยากทำมากกว่านี้แต่เขากลับหยุด หายใจหอบราวกับได้ใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อหักห้ามใจตัวเอง
“ไหน..ใครพูดว่า ห้ามทำ แล้ว..เหตุใดเจ้าจึงเริ่มก่อน” เขาเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความกำหนัด
เสี่ยวเหอสั่นสะท้าน เจ็บปวดเพราะถูกเขาดูดกัด นางไม่อยากตอบเจ้าคนบ้าคลั่งนี่อีกแล้ว แม้เขาจะเห็นว่านางน้ำตาคลอเบ้าก็ยังรู้สึกชื่นชอบ มากกว่าจะคิดว่าทำมากเกินไปจนนางเจ็บหรือไม่
เขาเห็นคนรักน้ำตาไหลเพราะความเจ็บ จึงจูบซับน้ำตาและเลื่อนลงมาจุมพิตริมฝีปากบางอย่างปลอบประโลม แต่ยังคงพูดติเตียนนางไม่ขาด
“ทั้งหมดนี่..เจ้าเป็นคนเริ่ม โทษข้าไม่ได้”
ชิงถิงพรมจูบไปทั่วหน้าของนาง จูบไปจูบมาก็ยังไม่พอใจ จึงค่อยๆ ขบเม้มรุกเร้ามากขึ้น เขาโลมเลียตั้งแต่คางไปยังติ่งหู และวนกลับมาทั่วคอระหงของนาง
เสี่ยวเหอรู้สึกว่าคอของตัวเองเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุด ยังคงจูบย้อนกลับมาที่ริมฝีปากของนาง กินชั้นบนเสร็จก็กินชั้นล่างต่อ ปากชมพูระเรื่อถูกเขาขบเม้มจนแดงก่ำ
“อา..”
เสี่ยวเหอเริ่มตัวสั่นเพราะความวาบหวาม นางชอบวิธีที่เขาทำร้ายนาง แม้จะรุนแรงแต่เร่าร้อนจนร่างกายไม่อาจทานไหว ต่อให้พยายามครองสติตัวเองเอาไว้ สุดท้ายก็ยังคงถูกเขาชักพาจนต้องขานรับเสียงกระเส่า
ชิงถิงบดเบียดช่วงล่างกับสะโพกของร่างบอบบาง เขาแข็งตึงเพราะนางน่ากลืนกินไปทุกสัดส่วน มือหนึ่งบีบคลึงสะโพกพร้อมกับประคองไม่ให้นางตก อีกมือก็บีบนวดอกอิ่มอย่างเมามัน
เสี่ยวเหอถูกเขาชักพาจนเคลิบเคลิ้ม แต่เมื่อเขากัดริมฝีปากของนางจนเจ็บ หญิงสาวจึงได้สติอีกครั้ง นางรู้สึกว่าช่วงจังหวะนี้เหมาะสมที่จะแก้แค้นเขาคืนบ้างแล้ว เพราะเขากำลังเคลิบเคลิ้มกับรสจูบ ไม่ทันระวังตัว
นางกัดริมฝีปากเขาเต็มแรง รับรู้ถึงรสและกลิ่นเลือด
“โอ้ะ..ซี้ด.. เจ้ากัดข้าหรือ”
เขาปล่อยนางลงพื้น ยกมือไปแตะบริเวณที่ถูกกัด กำลังสำรวจว่าเลือดออกมากหรือไม่ แต่ยังไม่ทันไร เสี่ยวเหอก็ยกขาเหยียบลงไปที่เท้าเขาเต็มแรง ทุ่มแรงทั้งหมดผลักเขาออกไป วิ่งเข้าโรงเตี๊ยมด้วยความเร็วสูงสุด
นางวิ่งไม่หยุด ไม่กล้าหันกลับไปมอง วิ่งไปจนถึงห้อง ปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย สุดท้ายจึงยอมให้ตัวเองทรุดตัวลงกับพื้นห้อง ขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ หัวใจเต้นแรง ริมฝีปากสั่นระริก
เสี่ยวเหอยิ้มอย่างมีความสุขที่แก้เผ็ดเจ้าหมาบ้านั่นได้บ้าง รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากที่สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างดี ถึงจะคิดถึงจูบของเขามากเพียงใดก็ยังมีสติไม่ปล่อยให้เขาเอาเปรียบได้อีก นึกถึงสีหน้าโมโหของชิงถิงแล้วก็ทำให้นางอารมณ์ดีมาก หญิงสาวหัวเราะคิกคักเบาๆ
“นอนได้แล้ว เจ้าไปไหนมาจนป่านนี้ ยังจะมานั่งหัวเราะคิกคักอีก” เสียงพี่หลันเหมยอู้อี้ บ่นจากบนเตียงนอน
เสี่ยวเหอนอนห้องเดียวกับพี่สาว เห็นว่าทำให้พี่ตื่น จึงรีบทำทีว่าไปเข้าห้องน้ำมาและขึ้นเตียงนอนเลย นางไม่รู้สักนิดว่าพี่หลันเหมยไม่ได้หลับเพราะน้องสาวหายไปกับบุรุษในยามค่ำคืน เฝ้ารอให้น้องสาวตัวดีกลับมาอย่างกระวนกระวายด้วยความเป็นห่วง ทั้งยังต้องคอยโกหกน้องคนอื่นๆ ว่าเสี่ยวเหอหลับไปนานแล้ว
วันรุ่งขึ้น เสี่ยวเหอตื่นมาที่โรงเตี๊ยมเดิม พี่หลันเหมยไม่อยู่แล้ว มองออกไปข้างนอกหน้าต่างของโรงเตี๊ยม คล้ายจะมีบ้านผู้คนเกิดขึ้นมากกว่าเมื่อวาน เสี่ยวเหอจึงลงมาด้านล่าง
“ฮูหยิน ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” สาวน้อยน่ารักคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา นาง พร้อมเรียกนางว่าฮูหยิน ครั้งนี้เสี่ยวเหอรู้แล้วว่ากลับมาช่วงเวลาใด
ฮูหยินเสี่ยวเหอนั่งรถม้ากับสาวใช้กลับไปที่จวนของท่านรองแม่ทัพอย่างมีความสุข เมื่อรถม้าจอดที่หน้าจวนก็เห็นว่าชิงถิงกำลังจะขึ้นม้าไปที่ใดสักแห่งด้วยความเร่งรีบ
“ชิงชิง” นางตะโกนเรียกเขา รีบวิ่งเข้าไปกระโดดกอดคอสามี
“เจ้ากลับมาแล้วหรือ” ชิงถิงเพียงยิ้มรับ กอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง เขารู้ว่าฮูหยินคนนี้คือคนรักที่เขารอคอย
“ข้ากลับมาแล้ว” นางพยักหน้าดีใจ กอดเขาแน่น
“ข้าแน่ใจ คนผู้นั้นเป็นนายหญิงใหญ่ของตระกูลหยวน ตระกูลหยวนเป็นพ่อค้าขายเกลือที่ได้รับสัมปทานโดยตรงของอำเภอนี้” พี่สาวอธิบาย“ขะ..ข้าไปรู้จักครอบครัวนั้นได้อย่างไรกัน” เสี่ยวเหอกลัดกลุ้ม ไม่ใช่นางเคยบอกท่านแม่ไปแล้วหรือว่าตัวเองมีคนที่อยากแต่งด้วยแล้ว เหตุใดจึงเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก“ก็..เมื่อเดือนที่แล้วเจ้ายังไปเที่ยวดูโคมมังกรในเทศกาลซีซีกับคุณชายตระกูลหยวนอยู่เลยไม่ใช่หรือ จะมาตกใจอะไรตอนนี้” เสียงที่ตอบมาไม่ใช่พี่สาว แต่เป็นเสียงของชิงถิง!!!!!เสี่ยวเหอและหลันเหมยหันไปดูพร้อมกัน ชิงถิงกำลังขนตะกร้าใส่ไข่สองใบใหญ่มา เขาวางตะกร้าไข่ไว้ที่พื้นเบาๆ“ให้เอาไปไว้ทางใด” ชิงถิงถามพี่หลันเหมย โดยไม่หันมามองเสี่ยวเหอเลยสักนิด พี่หลันเหมยหันมามองน้องสาวตัวเองที่แข็งค้างไปแล้วอย่างกังวล“ทางนี้” พี่สาวบอกชิงถิง ก่อนพาไปวางไข่ไว้บนชั้นวางและหยิบเงินให้เขาไปถุงหนึ่ง“ขอบใจเจ้ามากต้าจื่อ ขนมพวกนี้ฝากไปให้ท่านแม่ของเจ้าด้วย ตอบแทนที่คัดไข่ใบใหญ่ๆ มาให้ข้าเสมอ”ในขณะที่เสี่ยวเหอมองชิงถิงและพี่สาวเดินไปเดินมา ตัวเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ในหัวมีแต่คำที่เขาว่านางไปเดินเล่นดูโคมไฟมังกรกับคุณชายตระกูลหย
“ไม่เป็นไร แค่พี่หลันเหมยมีความสุข พบคนดี ข้าก็ดีใจแล้ว อย่างน้อยข้าอีกคนก็ได้เข้าร่วมงานแต่งอวยพรให้นาง แต่ข้าเห็นว่าเจ้าก็คงไม่ได้ไปงานแต่งของพี่หลันเหมยใช่หรือไม่ ข้าจึงไม่ได้ไปที่นั่น เพราะเจ้าคนเดียว ฮึ” เขาหัวเราะเบาๆ กับท่าทางย่นปากน่ารักเช่นนั้น“ข้าเป็นทหารอยู่ในกองทัพ ไม่สามารถลาไปงานแต่งของคนที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องได้ แต่ได้ส่งของไปร่วมแสดงความยินดีแล้ว เจ้าไม่ต้องห่วง” “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้านั่นแหละ” “ได้ๆ เพราะข้าเอง” เขายอมให้ ในใจเสี่ยวเหอเมื่อนึกย้อนถึงโลกก่อน พี่สาวตายทั้งที่อยู่ในชุดแดง การแต่งงานเช่นนี้ ช่างเป็นวาสนาที่ดีกับพี่หลันเหมยมาก นางรู้สึกดีใจมากๆ จากใจจริง คืนวันนั้นชิงถิงก็พร่ำพลอดบอกรักกับนางเช่นเคย แม้จะไม่ได้ส่งเสียงดังเท่ายามแก่ เพราะกลัวท่านพ่อท่านแม่ข้างบ้านได้ยิน ในขณะที่ยามเป็นรองแม่ทัพไม่ต้องสนใจสายตาใครแล้วแต่เขายามนี้ก็ยังคงกระซิบกระซาบบอกรักมากมาย บอกว่าคิดถึงนางมากเพียงใด เสร็จไปศึกหนึ่ง ก็ต่ออีกศึกหนึ่ง เขาทำเช่นนั้นหลายครั้งจนใกล้จะรุ่งเช้า เสี่ยวเหอง่วงนอนใกล้จะหลับเขาก็ไม่ยอม ชิงถิงพยายามปลุกนางให้ตื่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้กรำศึกไปพร้
“ไม่ได้!!!” เสี่ยวเหอปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด“ชิงชิงเป็นของข้าคนเดียว” นางโกรธมากชิงถิงยิ้มมุมปากอย่างไม่อาจควบคุม เขามองเสี่ยวเหออย่างรักใคร่ ตัวเขาคิดเสมอว่าเสี่ยวเหอเป็นคนอ่อนหวาน แต่ไม่เคยรู้เลยยามนางหึงหวงจะกลายเป็นนางเสือน่ากลัวได้ด้วยทางหนึ่งชิงถิงก็รู้สึกพึงพอใจ ให้นางได้ลิ้มรสความทรมานในการหึงหวงบ้างก็ดี นางจะได้รู้ว่าเขาต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้หลายปีมันไม่ใช่เรื่องรื่นรมย์อะไร เขาอยากให้นางหวงแหนเขาจนแทบขาดใจ“ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าเพียงทดสอบท่านว่าจริงใจหรือไม่ ในเมื่อท่านจริงใจกับข้า ข้าก็จะจริงใจกับท่าน ตัวข้าจะหายไป ขอเวลาไม่นานเกินเดือน” อนุจินยืนขึ้น ด้วยความหยิ่งทะนงในตนเอง“นี่....นี่เจ้า..เจ้าไม่ต้องรับอนุแล้วใช่หรือไม่?” เสี่ยวเหอหันมาถามชิงถิง“นั่นสิ เจ้าคิดว่าอย่างไร ข้ายังต้องรับนางเป็นอนุอีกเดือนหนึ่งหรือไม่นะ แล้วข้าต้องเข้าหอตามธรรมเนียมด้วยหรือไม่ ทำเช่นไรดี” เขายิ้มน้อยๆ ลูบหัวเสี่ยวเหอของเขาอย่างรักใคร่“...” เขาหยอกนางอีกแล้ว เสี่ยวเหอไม่เข้าใจเลยว่า เหตุใดเขามักจะชอบทำให้นางสับสน! เท่านี้นางก็หึงหวงเขาจนเจ็บปวดไปทั้งใจแล้ว เขาชอบให้นางทรมานเพราะหึงหวงเขาหร
นางเดินทางข้ามเวลาทุกวันเช่นนี้ จะเอากำลังที่ใดไปสู้รบกับเหล่าอนุที่ฮ่องเต้ประทานให้สามีของนางอย่างไร นางเคยได้ยินว่า สตรีพวกนั้นล้วนงดงามมีความสามารถ พร้อมทำทุกวิธีเพื่อจะปีนขึ้นเตียงของบุรุษ“เจ้าปฏิเสธไม่รับอนุไม่ได้หรือ ให้คนอื่นๆ รับแทนก็ได้ รองแม่ทัพมีเจ้าเพียงผู้เดียวหรือ” เสี่ยวเหอน้อยใจ“ข้าทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะติดหนี้บุญคุณของท่านแม่ทัพอยู่ จำเป็นต้องตอบแทนคุณ แต่ข้ารับรอง ข้ามีแค่เจ้า เชื่อข้าได้หรือไม่” เขาแก้ตัว ดึงนางมากอดปลอบ น้ำเสียงฟังคล้ายอ้อนวอนแปดส่วน หวาดหวั่นอีกสองส่วนเสี่ยวเหอเห็นท่าทางร้อนรนของเขา ท่าทางเอาอกเอาใจนาง แม้จะเป็นชิงถิงที่อายุมากแล้ว มีหนวดเคราเต็มหน้า แต่อย่างไรก็ยังน่ารักในสายตานาง นางกอดเขาตอบ ลูบหลังปลอบโยนราวกับกำลังปลอบเด็กน้อยชิงชิง“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ แต่ข้าไม่ยอมรับ หากเจ้ารับอนุ ข้าจะรับลูกบุญธรรม!!” นางอยากให้เขาเอาใจ“เจ้ามีลูกของตัวเองแล้วนะ” ชิงถิงผลักนางออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้าเสี่ยวเหอ ท่าทางตกใจไม่น้อยเสี่ยวเหอยิ่งทำหน้าตกใจไปใหญ่ นางเพิ่งเข้าหอกับเขาไม่กี่ครั้ง ไม่เคยอุ้มท้อง แต่เขากลับบอกว่านางมีลูกกับเขาแล้วเช่นนั้นหรือ!!ชิง
ชิงถิงกอดนางครู่หนึ่งก็ปล่อยนางลงพื้น“ข้ากำลังจะไปเมืองหลวง เจ้าอยากไปด้วยกันหรือไม่?”เสี่ยวเหออยากนอนอยู่ที่จวนของเขาและตื่นขึ้นมาที่จวนของเขา แต่นางก็อยากลองไปเมืองหลวงสักครั้ง“หากพรุ่งนี้ยังไม่ถึงเมืองหลวง แล้วข้าไม่ได้ตื่นขึ้นมาจะทำเช่นไร” นางกังวลเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว“แต่วันนี้ เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน สิ่งนี้สำคัญกว่า” เขาปลอบ“..แต่” เสี่ยวเหอไม่ชอบความไม่แน่นอน“พรุ่งนี้เจ้าตื่นมา ไม่ว่าที่ใดก็ต้องพบกับข้าอยู่แล้วไม่ใช่หรือ” เขาเสริม“..ได้ เช่นนั้นข้าไป” นางพยักหน้า นัยน์ตาส่องประกายอย่างมีความสุข แม้จะกังวล แต่หากมีเขา ไม่ว่าที่ใดนางก็ยินดีชิงถิงสั่งให้รีบเตรียมเสื้อผ้าของฮูหยินเล็กน้อยอย่างรวดเร็วและเตรียมรถม้า ก่อนเดินทางเขาเข้าไปนั่งในรถม้ากับฮูหยินของเขาด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะขี่ม้าไปเพื่อจะได้ย่นระยะเวลาระหว่างเดินทาง ไม่มีทหารม้าคนใดกล้าเข้าใกล้รถม้าของท่านรองแม่ทัพ มีเพียงคนขับรถม้าที่ต้องทนรับกรรม ต้องทนรับฟังท่านรองแม่ทัพพร่ำเพ้อ พูดมาก ด้วยการบอกรักฮูหยินเสียงแหบพร่า ครั้งแล้วครั้งเล่าจนบางครั้งรถม้าก็สั่นสะเทือนไปหมด คนขับรถม้าได้แต่เก็บความ
เสี่ยวเหอตัดสินใจครั้งสำคัญ คิดว่าถูกผิดอย่างไรก็ช่าง เพราะไม่มีทางเลือก ทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาคลั่งไคล้นางไม่เลิก ไหนๆ ก็เคยจูบมาแล้วตอนอายุสิบเจ็ด ทำอีกสักครั้งคงไม่เป็นไรไป นางคิดแล้วจึงยกมือเกาะคอเขา“อะไร” เขาเลิกคิ้วถาม แต่ก็ไม่ได้ถอยหนีหรือยืดตัวขึ้นเสี่ยวเหอชิงจูบเขาอย่างรวดเร็ว พยายามทำให้เร่าร้อนมากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ดุนดันลิ้นเข้าไปในปากของเขาเพื่อควานหาลิ้นนุ่ม เมื่อเขายอมเปิดปากให้นางสำรวจลิ้นของเขา นางก็รีบโลมเลียลิ้นนั้นเล่น ขบกัดปลายลิ้นไม่ต่างจากที่เขาเคยชอบทำชิงถิงแม้จะตกใจเล็กน้อยกับการกระทำอันอุกอาจของหญิงสาวคนรัก แต่ก็รู้สึกว่านางช่างน่ารัก จึงปล่อยให้นางทำต่อไป ทั้งยังรู้สึกหอมหวานในใจอย่างบอกไม่ถูกเสี่ยวเหอกลืนกินริมฝีปากและลิ้นของเขาอยู่นาน เรียวลิ้นพันกันจนยุ่งเหยิง สุดท้ายนางก็แอบขบริมฝีปากของเขาแรงๆ กัดไม่ปล่อยจนนางมั่นใจว่าสามารถสร้างบาดแผลที่ริมฝีปากล่างเขาได้แน่แล้ว จึงยอมถอนจุมพิตในที่สุด“อือ..เจ็บนะ” เขาตำหนิ แต่น้ำเสียงแล้วรู้ว่าพึงพอใจมาก“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะคิดอย่างไร แต่ชีวิตนี้ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าแต่งกับผู้ใด นอกจากข้าเท่านั้น” เสี่ย