ทวงบุญคุณ
ระหว่างที่พวกเราฉลองกับความสำเร็จที่ฉันสามารถสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศได้ กันอย่างสนุกสนาน อยู่ ๆ ก็มีเสียงรถยนต์ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน
"ใครมาน่ะ"พ่อเอ่ยขึ้นแล้วชะเง้อมองที่ด้านนอก พร้อม ๆ กับทุกคนในโต๊ะอาหาร
"เดี๋ยวแกนไปดูให้ค่ะ"ว่าแล้ว ฉันก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาที่หน้าบ้าน แต่ต้องหยุดชะงักด้วยความตกใจ เมื่อผู้ที่มาใหม่คือ
"เทมโป"ฉันสบถออกมาขณะที่หัวใจดวงน้อยเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ
"เพราะแบบนี้ใช่ไหม เธอถึงไม่รับโทรศัพท์ฉัน!"เขาเดินเข้ามาบีบที่แขนฉันแล้วขบกรามพูดน้ำเสียงทุ้มต่ำใบหน้าดุดัน แล้วใช้ตวัดสายตาไปที่รถคันหรูของภิสิงห์
"มะ ไม่ใช่.."ฉันเกิดอาการกลัวจึงพูดอย่างตะกุกตะกัก
"ฉันบอกเธอไว้ว่ายังไง"
"...."ฉันยืนตัวสั่นมันรู้สึกกลัวไปซะทุกอย่าง ที่สำคัญเขากำลังข่มขู่ฉันในบ้านตัวเอง ฉันจึงกลัวว่าพ่อแม่จะมารับรู้แล้วท่านจะเสียใจ
"อ้าว เทมโปนั่นเอง"เสียงของพ่อฉันมาช่วยไว้ทันเวลา เทมโปปรับสีหน้าพร้อมกับปล่อยมือที่บีบแขนฉันออก
"สวัสดีครับ...."เขายกมือขึ้นไว้แล้วส่งสายตามองเข้าไปในบ้าน
"....ฉลองอะไรกันอยู่เหรอครับ"แล้วก็เอ่ยถามอย่างสุภาพ
"อ๋อ...กำลังฉลองให้ยัยแกนที่สอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศได้น่ะ"สิ้นเสียง เทมโปก็หันขวับมาที่ฉันแล้วขบกรามแน่น
"เข้ามาก่อนสิเทมโป"เขาละสายตาจากฉันแล้วหันไปคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้กับพ่อ
"ครับ"เทมโปขานรับ แล้วเดินตามพ่อเข้าไปข้างในบ้าน
ฉันที่ยังยืนตัวสั่น หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ ต้องพยายามให้มันสงบลง ก่อนจะเดินตามเข้าไป
"สวัสดีครับคุณอา"เทมโปยกมือขึ้นไหว้ทันทีพอมาถึงที่โต๊ะอาหาร แล้วเหลือบมองภิสิงห์ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเลย
"นั่งก่อนสิเดี๋ยวอาไปยกจานมาให้"แม่พูดจบ ก็ลุกจากเก้าอี้เข้าไปในครัว
"คิดยังไงถึงมาที่นี่"ภิสิงห์เอ่ยถามคนที่เพิ่งมาใหม่
"ทำไมต้องคิด...ฉันมาที่นี่ออกจะนายน่ะเสนอหน้ามาทำอะไรที่นี่"
"หึ"ภิสิงห์แค่นหัวเราะในลำคอ แล้วไม่ได้ตอบกลับอะไร
"เทมโปคงรู้แล้วสินะว่า แกนจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและหว่าหวาก็จะไปด้วย"หว่าหวาเอ่ยแล้วฉีกยิ้มกว้าง ราวกับแฝงอะไรบางอย่างในรอยยิ้ม
"งั้นเหรอ"เทมโปตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ แล้วจ้องมาที่ฉันด้วยสายตาคาดโทษ ทำให้ฉันก้มหน้างุดหนีสายตาคู่นั้นทันที
"คิดดีแล้วเหรอครับ..ที่จะให้ออร์แกนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ"อยู่ ๆ ชายหนุ่มผมทองก็หันไปถามพ่อฉัน
"จริง ๆ แล้วอาคิดที่จะให้ยัยแกนไปเรียนต่อตั้งนานแล้วล่ะ"
"ที่ไทยก็มีที่เรียนเยอะแยะ..ทำไมต้องไปเรียนถึงต่างประเทศด้วย"ประโยคแรกพูดกับพ่อ แล้วหันมาขบกรามพูดกับฉันประโยคท้าย
"แกนคงอาจจะอยากหนีใครบางคนมั้ง"ภิสิงห์พูดขึ้นพร้อมกับจ้องไปที่ใบหน้าเทมโป
"หมายถึงใคร"เจ้าของใบหน้าหล่อผมสีทองเอ่ยถามเสียงแข็งกร้าว
"เหอะ"ภิสิงห์ไม่ตอบได้แต่กลั้วหัวเราะแล้วส่ายหน้า
"ไอ้เวรนี่!"ถึงแม้เขาจะสบถออกมาเบา ๆ แต่ฉันที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พอได้ยิน แล้วลอบหายใจกับการไม่มีความเคารพของเขา
"แล้วเธอจะทิ้งงาน?"เทมโปเอ่ยถามฉันท่ามกลางคนในโต๊ะอาหารที่ต่างพากันสงสัย
"งานอะไรเหรอ"เป็นพ่อของฉันที่เอ่ยขึ้น
"ออร์แกนรับปากกับผมไว้ครับว่า..."หันมาที่ฉันด้วยสายตากดดัน
"...เรียนจบจะมาทำงานที่ผับของผม"พ่อย่นคิ้วหนามองมาที่ฉันก่อนจะพูดขึ้น
"จริงเหรอยัยแกน"
"เอ่อ...."ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไร เสียงทุ้มก็ดังแทรกเข้ามา
"คำพูดต้องเป็นคำพูดนะออร์แกนเธอจะหนีงานที่รับปากไว้ไม่ได้...."เขายกยิ้มแล้วหันไปที่พ่อ
"....ไม่อย่างนั้นคุณอาจะเสียชื่อเสียงเอาได้นะที่มีลูกสาวไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้"เขาร้ายมาก ฉันนั่งก้มหน้ากัดกรามกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
"ถ้ายังไม่สมัครเป็นลายลักษณ์อักษรก็ไม่ถือว่าผิดไหม"หว่าหวาเอ่ยขึ้นจากที่นั่งเงียบมานาน
"เธอไม่สมควรเข้ามายุ่ง จุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง!"เทมโปต่อว่าเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ สีหน้าไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าเขายังดีกับเธออยู่ เทมโปเขาเป็นหมาบ้าอย่างที่ภิสิงห์พูดไว้จริง ๆ
"คุณอาคงจะไม่ทำให้ผมผิดหวังนะครับ...."เขาพูดแฝงความกดดันให้กับพ่อของฉันอีก
"....ผมต้องการแกนไปช่วยงานที่ผับจริง ๆ ยังไงก็ช่วยผมหน่อยนะครับ"ชายหนุ่มผมทองแสยะยิ้มราวกับตอนนี้เขากำลังเป็นต่อ เพราะเขาทำให้พ่อกับแม่ฉันมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่ดูหนักใจ
"เอ่อ...อาขอปรึกษากันอีกทีนะเทมโป"
"ผมไม่เคยขออะไรคุณอาเลยนะครับ"พอสิ้นเสียงพ่อ เทมโปก็พูดสวนขึ้นมาทันที
"ทั้ง ๆ ที่ผมช่วยเหลือครอบครัวคุณอามาตลอด...เรื่องแค่นี้ทำให้ผมไม่ได้เลยเหรอครับ"เขาเอ่ยน้ำเสียงสุภาพแต่ทุกคำพูดมันแฝงไปด้วยการทวงบุญคุณ
"...."ในขณะที่ทุกคนนั่งเงียบ เทมโปก็พูดต่ออีกว่า
"ถ้าออร์แกนจะเรียนต่อ ผมจะหามหาวิทยาลัยดี ๆ ให้แล้วจะจ่ายค่าเล่าเรียนทั้งหมดเอง"
"เรื่องนั่น อาไม่ขอรบกวนดีกว่า"ฉันไม่คิดเลยว่า เทมโปจะมาสร้างความอึดอัดใจให้กับพ่อแม่ แค่เพียงเพราะอยากจะเอาชนะฉัน
เขาไม่คิดจะปล่อยฉันไปเลยจริง ๆ
"เทมโป..."ตอนนี้ฉันกับเขาแยกตัวออกมาคุยกันสองต่อสองที่สวนหลังบ้าน
"....ยังต้องการอะไรจากแกนอีก"ฉันเอ่ยถามอย่างสุดที่จะทน
"ก็ต้องการให้เธอไปทำงานกับฉันไง"เขาตอบกลับแล้วยกยิ้มมุมปาก
"แล้วสิ่งที่เทมโปพูดแล้วล่ะ..ลืมแล้วเหรอ"
"ฉันพูดอะไร?"เทมโปถามกลับด้วยใบหน้ายียวน จนทำให้ฉันหงุดหงิด
"ก็ที่นายบอกว่าจะปล่อยแกนไปหลังจาก..."
"ฉันจำไม่ได้"เขาสวนกลับทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบประโยค
"...."ฉันกัดกรามจ้องหน้าเขาพร้อมกับกำหมัดแน่น
"ฉันจำได้แค่ว่า..ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปจากฉันแน่"
"เทมโป...รักแกนขึ้นมาแล้วใช่ไหม"ไม่รู้อะไรดลใจทำให้ฉันตั้งคำถามนี้กับเขา
"รัก? เธอก็ดูฉลาดนะแต่ทำไมยังคิดอะไรโง่ ๆ แบบนี้อีก"ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาประชิดแล้วเอานิ้วพันที่ปลายเส้นผมของฉัน
"ไม่รัก แล้วทำไมไม่ปล่อยแกนไปล่ะ"ฉันสะบัดมือเขาออกแล้วพูดใส่หน้าเขาอย่างเหลือทน
"ไม่ปล่อยก็ไม่ได้แสดงว่าฉันรักเธอนะออร์แกน"
"...."ฉันยืนนิ่งเนื้อตัวสั่นไปหมด
"แกน"เสียงทุ้มดังเข้ามาทำให้ฉันละสายตาจากเขาไปยังที่เสียง
"พี่สิงห์"
"ไอ้สิงห์!"เทมโปเดินไปขวางหน้าภิสิงห์ที่กำลังเดินเข้าด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
"มึงเสือกอะไรด้วย"
"หึ"ภิสิงห์ไม่ตอบแต่เลือกที่จะแค่นหัวเราะออกมาด้วยใบหน้าที่ดูสะใจ
"มึงคิดว่าคลิปที่มึงจ้างให้ดาวลบมีแค่ที่ในโทรศัพท์?"สิ้นเสียง.ฉันก็หันไปที่ภิสิงห์ด้วยความสงสัย
"หน้าตัวเมีย!"ภิสิงห์ใช้มือทั้งสองกระชากคอเสื้อเทมโปด้วยสีหน้าโกรธ แต่ทว่าชายหนุ่มรุ่นน้องก็ไม่ยอมให้เขาทำฝ่ายเดียว
"มึงพูดอีกทีสิ"เทมโปก็ใช้มือทั้งสองกระชากเสื้อเทมโปเช่นกัน.
"หยุดนะ!"ฉันเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจตวาดห้ามทั้งคู่เพื่อให้ได้สติ
ทั้งคู่มองมาที่ฉัน แล้วต่างฝ่ายต่างก็ปล่อยคอเสื้อของกันและกัน
"กูเตือนมึงไว้เลยนะว่า....."เทมโปกระชากแขนฉันดึงเข้าไปยืนข้างกายเขา
"....อย่ามายุ่งกับคนของกู"
"คนของกู?.."ภิสิงห์ทวนคำพูดของเทมโปในเชิงถาม แล้วก็กลั้วหัวเราะของมา
"...เหอะ สักวันออร์แกนจะเป็นคนของกูโดยที่กูไม่ต้องบังคับเหมือนที่มึงทำ"
"ไอ้สิงห์!"เทมโปกำหมัดแล้วก้าวขายาวกำลังจะพุ่งเข้าภิสิงห์ แต่ฉันก็ใช้เรียวแรงที่มีดึงเขาไว้
"อย่านะเทมโป"ใบหน้าหล่อหันมาพร้อมกับขบกรามแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ
"ปล่อย"เขากดน้ำเสียงทุ้มต่ำอย่างดุเข้ม
"ที่นี่บ้านแกนนะ พ่อกับแม่ก็อยู่ในบ้าน..."
"...ช่วยเกรงใจพวกท่านหน่อย"เทมโปสะบัดมือที่กำลังจะง้างลงอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะชี้หน้าไปที่ภิสิงห์
"ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ"พูดจบ ก็ลากฉันเดินออกมา
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา