ไม่มีใครขัดขวางแล้ว
TemPo
เทมโปขับรถออกมาจากบริษัทไปยังผับ KAI ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวที่เขาจะต้องบริหารต่อหลังจากเรียนจบ ระหว่างทางในหัวของเขานึกถึงแต่ออร์แกน เพื่อนสาวที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง จนทำให้รู้สึกหงุดหงิด
"จะไปทำงานที่อื่นที่ไม่มีฉันงั้นเหรอ?"เขาขบกรามพึมพำคำพูดของหญิงสาวอย่างไม่สบอารมณ์ ผลั่ก! แล้วใช้ฝ่ามือทุบไปที่พวงมาลัยรถ
"เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้หรอกออร์แกน"เทมโปแสยะยิ้มแล้วจ้องไปที่โทรศัพท์หรูราคาแพงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เพราะในนั้นมีคลิปของออร์แกนนอนเปลือยกายขณะที่มีเซ็กซ์กับเขา
เทมโปไม่ได้ต้องการถ่ายคลิปของออร์แกนไว้เพื่อแบล็กเมลล์ แต่เขาถ่ายไว้แค่ข่มขู่เธอเท่านั้น ป้องกันไม่ให้เธอจากเขาไป
รถคันหรูขับเข้ามาที่ลานจอดสำหรับวีไอพีและผู้บริหาร ระหว่างที่เขาลงจากรถ
"พี่เทมโป"เสียงหวานที่เอ่ยเรียกเขาก็ดังขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาหันไปพร้อมกับยกยิ้ม
"น้องดาว"หญิงสาวเข้ามาสวมกอดชายหนุ่มด้วยความดีใจ
"หายไปเลยนะคะ"เธอผละจากกอดแล้วเอ่ยด้วยท่าทีงอนชายหนุ่มอย่างไม่จริงจัง
"ช่วงนี้พี่ฝึกงานครับ"เทมโปตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มสีหน้าแสดงความเจ้าชู้ขณะที่มือปลาหมึกบีบไปที่ปั้นท้ายหญิงสาว.
"อุ้ย..พี่เทมโปอ่า"ดาวเอ็ดฝ่ายชายอย่างมีจริต
"เข้าไปข้างในกันเถอะ"เทมโปกอดคอหญิงสาวรุ่นน้องเดินเข้าไปในผับที่ทางเข้าวีไอพีด้วยใบหน้าที่เจ้าเล่ห์แฝงความร้ายกาจ
ระหว่างที่เทมโปพาหญิงสาวขึ้นไปบนชั้นวีไอพี ก็สวนกับพี่ชายต่างมารดาที่กำลังเดินออกมาจากออฟฟิศ
"อ้าว..พี่ทอย"เขาเอ่ยทักก่อนที่จะหันไปพูดกับดาวที่ควงแขนเขาอย่างออดอ้อน
"ไปรอพี่ในห้องก่อนนะเดี๋ยวตามไป"เขาเอ่ยพร้อมกับเอามือลูบริมฝีปากสายตาจ้องมองเธอด้วยสายตาเล้าโลม
"โอเคค่ะ"หญิงสาวตอบกลับเสียงหวานแล้วเดินไปยังห้องที่ชายหนุ่มให้เข้าไปรอ
"เอาอีกแล้วนะ"คนเป็นพี่พูดขึ้นแล้วส่ายหน้าเอือมระอาน้องชาย
"หึ"คนเป็นน้องได้แต่แค่นหัวเราะในลำคอ
"ถ้าไม่คิดจะเปลี่ยนก็ปล่อยออร์แกนไปซะ"ทอยพูดขึ้นด้วยความรู้สึกที่สงสารหญิงสาวอย่างใจจริง เพราะรู้ว่าน้องชายตัวดีได้ทำสิ่งที่เลวร้ายไว้กับเธอมาก
"ทำไมต้องปล่อย"เทมโปย้อนกลับด้วยใบหน้ายียวน
"ไอ้น้องเวร!..."คนเป็นพี่สบถด่าทันที
"...ฉันอยากให้ออร์แกนหนีแกไปซะจริง"
"ออร์แกนไม่กล้าหนีผมไปไหนหรอก...เพราะเธอรักผม"เทมโปพูดอย่างผู้ชนะทำให้คนเป็นพี่ส่ายหน้า
"พูดดีไปเถอะ ระวังน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า"
"ผมนี่นะ เหอะ..."เขากลั้วหัวเราะแล้วพูดต่อ
"...ไม่ใช่พี่"
"ไอ้น้องเวร! กูไม่คุยด้วยแหละ"พูดจบ คนเป็นพี่ก็กำลังจะก้าวขาเดินแต่ต้องหยุดชะงักแล้วบอกกับน้องชายเรื่องงาน พอคุยเสร็จ ต่างคนก็แยกย้าย
เทมโปเดินล้วงกระเป๋ามายังห้องที่นัดหญิงสาวไว้ พอเปิดประตูเข้ามา ก็เห็นว่าเธอกำลังกดสายวางโทรศัพท์พอดี
"พี่เทมโป"เธอวางโทรศัพท์บนโต๊ะกระจก แล้วลุกขึ้นเดินไปกอดรัดชายหนุ่ม
"จะให้เอาเลยไหม"เทมโปกระซิบที่ใบหูหญิงสาวด้วยน้ำเสียงกระเส่า จากนั้นเธอก็ผละจากกอดแล้วเดินไปล็อกประตูห้องอย่างแน่นหนา แล้วเดินกลับมายืนตรงหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะค่อย ๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก ทีละชิ้น ทีละชิ้น สร้างความพึงพอใจให้เขาเป็นอย่างมาก
เทมโปดึงดาวไปยังที่โซฟา แล้วล้วงไปหยิบโทรศัพท์หรูพร้อมกับกระเป๋าสตางค์มาวางไว้ที่โต๊ะกระจก แล้วปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออกเช่นกัน จากนั้นทั้งคู่บรรเลงบทรักที่เร่าร้อนกันทันที
"อ่า.."เสียงครางของชายหนุ่มที่มีความสุขหลังจากที่ได้ปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในเกาะป้องกัน ก่อนจะถอดท่อนเอ็นออกจากโพลงแคบแล้วดึงถุงยางอนามัยโยนทิ้งไปในถังขยะ
ทั้งคู่ต่างสวมใส่เสื้อผ้าจนเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางไว้ขึ้นมาแล้วควักเงินจำนวนนึงให้หญิงสาว
"พี่นัดกับเพื่อนไว้ เธอกลับไปก่อนได้เลยนะ"หญิงสาวรับเงินมาแต่สายตาเธอจ้องไปยังโทรศัพท์เครื่องหรูของชายหนุ่ม
"พี่เทมโปคะ..."แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณเทมโปครับ"เทมโปมองไปยังประตูห้องแล้วตะโกนถาม
"มีอะไร"
"ลูกค้ามีเรื่องกันครับ"สิ้นเสียงเทมโปก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินออกไปจากห้อง โดยที่เขาถือแต่กระเป๋าสตางค์ไปแต่ลืมหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูไปด้วย
OrGan
เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นมารับกับแสงแดดอ่อน ๆ ที่ดูสบายตา แต่ภายในใจยังคงมีเรื่องหนักใจอยู่ หลังจากล้างตาล้างตาเรียบร้อย ฉันก็เดินไปยังโต๊ะหนังสือเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเข้าเว็บไซต์ประกาศผลสอบชิงทุน ซึ่งฉันสมัครไว้ก่อนหน้านี้แล้วล่ะ
"จะได้ไหมนะ"ฉันเลื่อนหาชื่อตัวเองแล้วพึมพำออกมา
"เย้ ๆๆๆ"ฉันเบิกตากว้างแล้วกรีดร้องด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบลงมาจากห้องเพื่อมาบอกข่าวดีกับพ่อแม่
"ดีใจอะไรหะยัยแกน เสียงดังเชียว"
"พ่อคะ แม่คะ แกนสอบชิงทุนผ่านแล้วค่ะ"ฉันบอกข่าวดีกับพ่อแม่ทันที
"จริงเหรอลูก"ฉันผงกหัวรับ
"ลูกพ่อเก่งจริง ๆ"พ่อเอ่ยพร้อมกับยกมือมาลูบหัวฉัน
"แบบนี้ต้องฉลอง"
"ชวนภิสิงห์กับหว่าหวามาฉลองด้วยกันสิ"พอแม่พูดจบ พ่อก็หันมาบอกกับฉัน
หลัง ๆ มานี้ ฉันสังเกตว่าพ่อกับแม่ไม่ค่อยพูดถึงเทมโปเหมือนเมื่อก่อนเลย ทั้ง ๆ ที่ สนิทกับครอบครัวเรามานาน และเข้าออกบ้านเราบ่อย ๆ แต่ช่างเถอะ ฉันก็ไม่อยากจะสนใจเขาเหมือนกัน
"ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวขึ้นไปโทรหาหว่าหวาก่อนนะคะ"พูดจบ.ฉันก็วิ่งขึ้นไปบนห้อง วันนี้เป็นวันหยุดพอดี ฉันกับครอบครัวจึงได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา และได้ฉลองกันอย่างเต็มที่
หลังจากโทรชวนหว่าหวาและภิสิงห์ที่ไม่ปฏิเสธที่จะมา ฉันก็ลงมาจากห้อง แล้วออกไปจ่ายตลาดซื้อของสดมาทำอาหารกับแม่
ระหว่างที่ฉันกับแม่เลือกดูของสด ก็มีหญิงสาวตั้งครรภ์เดินเข้ามาเลือกข้าง ๆ ฉัน แล้วภาพในหัวก็ผุดขึ้นมาตอนฉันมีอะไรกับเทมโป ฉันยังไม่ได้...
"แม่ เดี๋ยวแกนมานะ..."ฉันหันไปบอกกับแม่เพื่อจะขอตัวไปซื้อยาฉุกเฉิน
"....แกนจะไปดูผลไม้สักหน่อย"แต่ไม่ได้บอกความจริงกับแม่หรอก ฉันเลือกที่จะโกหกแม้จะรู้ว่ามันบาป
"อืม ไปสิเดี๋ยวเราไปเจอกันตรงนั้นนะ"ฉันผงกหัวรับแล้วรีบเดินออกมา ระหว่างทางไปร้านยาในหัวก็ปั่นป่วนครุ่งคิดวิตกกังวลไปหมด
"กี่วันแล้วนะ จะท้องไหมเนี่ยเฮ้อ"แล้วพ่นลมหายใจอย่างหนักก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในร้านยา
ซื้อยาเสร็จเรียบร้อยฉันก็เก็บไว้ในกระเป๋าเพื่อไม่ให้ใครเห็นแล้วเดินไปเลือกดูผลไม้ตามที่บอกกับแม่ไว้
พอกลับมาถึงบ้านฉันก็เป็นลูกมือช่วยแม่ในครัว จนกระทั่งได้ยินเสียงรถ พ่อที่อยู่หน้าบ้านก็ตะโกนบอกว่าหว่าหวากับภิสิงห์มาแล้ว ฉันจึงเดินออกไปรับ ทั้งคู่ลงจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส พร้อมกับกล่าวทักทายพ่อที่ปลูกต้นไม้อยู่ และเดินไปทักทายแม่ฉัน
ภิสิงห์อาสาช่วยพ่อปลูกต้นไม้ข้างนอก ส่วนหว่าหวาก็อาสาเข้ามาเป็นลูกมือแม่ฉันอีกคน เราสามคนทำอาหารไปพูดคุยกันไปอย่างสนุกสนาน
ครืนนน ครืนนน จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น พอหยิบขึ้นมาดูก็รู้สึกใจสั่นวูบ เพราะสายที่โทรเข้ามาคือ 'เทมโป' แต่ฉันตัดสินใจที่จะไม่รับสาย แล้วนำโทรศัพท์ขึ้นไปไว้บนห้องเพื่อไม่ได้ยินเสียงรบกวน
"แกนเก่งนะเนี่ยสอบชิงทุนได้ด้วย"ตอนนี้ทุกคนรวมตัวกันที่โต๊ะอาหาร และเป็นหว่าหวาที่เอ่ยชม
"ก็กลัวจะไม่ผ่านอยู่เหมือนกัน"พูดจบฉันก็ยิ้มหวานให้กับหว่าหวาอย่างซาบซึ้ง แม้ว่าเราจะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ฉันสัมผัสความจริงใจที่เธอมีให้ฉันอย่างแท้จริงได้
"พี่จะบินไปเยี่ยมบ่อย ๆ นะ"ภิสิงห์เอ่ยพร้อมกับยกมือลูบหัวน้องสาวที่นั่งข้าง ๆ
"อย่าชวนแกนเกเรล่ะยัยตัวแสบ"
"โอ๊ย..พี่สิงห์เห็นน้องเป็นคนยังไงเนี่ย"หว่าหวาทำสีหน้าโกรธพี่ชายอย่างไม่จริงจัง.
"จัดเตรียมเสื้อผ้าข้าวของไว้ล่วงหน้าเลยนะ...พอถึงเวลาจะได้ไม่ยุ่ง"
"ค่ะพ่อ"ฉันขานรับแล้วก้มหน้างุด ภายในใจยังคงมีความกังวลและกลัวว่าการไปเรียนต่อจะมีคนมาขัดขวาง.
"เป็นอะไรไป"สีหน้าฉันคงแสดงออกถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ภิสิงห์ต้องพูดขึ้น
"เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร"ฉันปฏิเสธอย่างหน้าไม่อายทั้ง ๆ ที่สีหน้าแสดงออกมาขนาดนั้น
"ไม่ต้องกลัวเรื่องนั้น...."ฉันขมวดคิ้วจ้องหน้าภิสิงห์ด้วยความสงสัย
"....ไม่มีใครมาขัดขวางแกนได้อีกแล้ว"
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา