Share

(32)เธอไปแล้ว

last update Last Updated: 2025-07-22 22:01:48

เธอไปแล้ว

ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด เมื่อฉันตัดสินใจสารภาพทุกอย่างเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเทมโปที่มันลึกซึ้งเกินคำว่าเพื่อน ในขณะที่ต้องปกปิดเรื่องนี้ไว้จนกระทั่งฉันเกิดพลาดตั้งท้องลูกของเขา

พ่อนั่งนิ่งขบกราม กำหมัดแน่นด้วยสีหน้าที่ตึงเครียดแฝงไปด้วยอารมณ์โกรธ ในขณะที่แม่คอยเอามือลูบที่หลังฉันด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า ทำให้ฉันรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ที่ทำให้ท่านทั้งสองต้องมาเสียใจ ที่เกิดเรื่องแบบนี้แต่กลับไม่ปริปากบอกพ่อกับแม่

"ทำไมเทมโปจึงทำกับลูกแบบนี้ ฮึก..."แม่เอ่ยพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

"...."ฉันได้แต่นั่งก้มหน้าด้วยน้ำตาที่ไหลริน

"เทมโปใช่ไหมคือคนที่ลูกรัก?"เป็นพ่อที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม

"...."ฉันผงกหัวรับแต่ยังคงก้มหน้าอยู่

"เพราะแบบนี้ลูกถึงยอมให้เขาทำร้าย?"ฉันเอ่ยหน้าขึ้นมองไปที่ท่านแล้วยกมือปาดน้ำตา

"แกน..."ยังไม่ได้พูดอะไรต่อพ่อก็แทรกพูดขึ้นซะก่อน

"พ่อขอโทษที่ทำให้..."ฉันไม่รอให้ท่านพูดจบ ก็ลุกจากโซฟาแล้วลุกเข่าต่อหน้าพ่อกับแม่แล้วพนมมือกราบเท้าท่าน

"แกนต้องเป็นคนขอโทษมากกว่า..แกนขอโทษ ฮืออออ"พ่อเห็นแบบนั้นก็พยุงฉันขึ้นมานั่งบนโซฟาข้าง ๆ ท่านก่อนจะยกมือลูบที่หัว

"เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว...."ท่านลอบหายใจออกมาแล้วก็พูดต่อ

"....มันคงจะต้องจบสักทีสำหรับการตอบแทนบุญคุณ"

พ่อตัดสินใจที่จะพาฉันและแม่ไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศ และไม่คิดจะกลับมาที่นี่อีก โดยมีภิสิงห์คอยสนับสนุน ทางหว่าหวาก็ดีใจมากกับการตัดสินใจของพ่อครั้งนี้ เราต่างปรึกษาหารือกันว่าจะขายบ้าน แล้วจะไปอย่างเงียบ ๆ

เราต่างดำเนินชีวิตตามปกติ ในระหว่างที่เตรียมตัวทุกอย่าง เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าพวกเราจะย้ายไปอยู่ที่อื่น โดยเฉพาะเทมโป ซึ่งตอนนี้พ่อกับแม่รู้สึกโกรธแค้นเขามาก ขนาดที่ไม่อยากจะเห็นหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะคำว่าบุญคุณมันยังค้ำคออยู่

"ลูกแน่ใจนะว่าจะไปทำงานที่ผับไหว"แม่เอ่ยถามเมื่อฉันบอกกับท่านว่าจะต้องไปทำงานเพื่อทำตัวให้ปกติเพราะกลัวเทมโปจะสงสัย

"ไหวค่ะ"

"ถ้าเกิดอะไรขึ้น แกนรีบบอกหว่าหวาเลยนะ..."เพื่อนที่แสนดีเอ่ยด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่ดูเป็นห่วงเป็นใยฉัน

"...หว่าหวากลัวว่าเจ้าตัวน้อย.."

"แกนสัญญาว่าจะดูแลลูกในท้องให้ดี"ฉันแทรกพูดแล้วคลี่ยิ้มหวานให้

"ยังมีพี่อีกคนนะ ที่เป็นห่วงแกน"ภิสิงห์เอ่ยพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง ๆ

"ขอบคุณค่ะ"

หนึ่งทุ่มตรง

หว่าหวาเป็นคนอาสามาส่งฉันที่ผับ ระหว่างที่กำลังจะลงจากรถก็มีรถยนต์คันหรูที่คุ้นเคยขับมาจอดอยู่ข้าง ๆ เจ้าของรถคันดังกล่าวรีบลงจากรถแล้วเดินมาดักหน้าฉันกับหว่าหวา

"นี่เธอยังไม่ไปอีกเหรอ"ชายหนุ่มร่างสูงเอามือล้วงกระเป๋าแล้วเลิกคิ้วถามอย่างไม่จริงจัง ก่อนจะตวัดสายตามองมาที่ฉัน

"ทำไมต้องทำตัวเป็นภาระให้คนอื่นมาส่ง.."

"ฉันเต็มใจที่จะมาเอง...ทำไมพนักงานที่นี่เขาห้ามมีคนมาส่งด้วยเหรอ"หว่าหวาพูดแทรกขึ้นแล้วเอ่ยถามประโยคสุดท้ายอย่างกวน ๆ

"หึ"เทมโปแค่นหัวเราะเบา ๆ แล้วหันมาที่ฉัน

"ฉันคงไม่เห็นว่าเป็นไอ้ภิสิงห์ที่มาส่งเธอนะ...."เขาโน้มมากระซิบเบา ๆ ที่ข้าง ๆ หูฉัน

"...รู้ใช่ไหมว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรถ้าฉันเห็นมันมากับเธอ"พูดจบก็ยกยิ้มมุมปากก่อนจะหมุนตัวเดินไป ท่ามกลางสายตาฉันและหว่าหวาที่ยืนมองแผ่นหลังเขา

"หมาบ้าชัด ๆ"เพื่อนฉันพึมพำเบา ๆ ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ฉันก็ได้แต่คลี่ยิ้มบาง ๆ ให้ก่อนจะพูดขึ้น

"ขอบใจนะหว่าหวาที่มาส่ง แล้วยังจะมารับอีก เกรงใจจัง"ใช่ หว่าหวาอาสาที่จะเป็นคนมารับมาส่งฉันเพราะว่าเธอเป็นห่วงฉันกับลูกในท้อง คือจริง ๆ แล้วภิสิงห์ก็ขับรถตามมาด้วย แต่เลือกที่จะไม่เข้ามาในผับเพราะถ้าเทมโปเห็นแล้วจะเป็นเรื่อง

"จะมาเกรงใจอะไรกันอีก..เราเหมือนครอบครัวเดียวกันแล้วนะ"หว่าหว่าเอ่ยพลางเอามือลูบที่ท้องฉันก่อนจะลอบหายใจ

"แกน"ฉันเลิกคิ้วมองเธอด้วยใบหน้าสงสัย

"แน่ใจนะว่าจะไม่บอกเทมโปเรื่องลูกในท้อง"จริง ๆ แล้วหว่าหวาก็อยากให้ฉันพูดกับเทมโปเรื่องที่ฉันท้อง แต่ฉันเลือกที่จะไม่บอกเพราะกลัวคำตอบของเขา ที่อาจจะทำร้ายจิตใจตัวเองไปมากกว่านี้

"ในเมื่อเขาเคยบอกว่าแกนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูก..."ฉันก้มหน้างุดแล้วพูดเบา ๆ ที่มันรู้สึกน่าเวทนาตัวเอง

"...เขาก็ไม่ควรจะรู้ว่าเด็กในท้องแกนเป็นลูกของเขา"

หลังจากหว่าหวากลับไป ฉันก็เดินขึ้นมาบนออฟฟิศ แต่ระหว่างที่กำลังขึ้นบันได หูฉันก็เกิดได้ยินเสียงแปลก ๆ ในมุมมืดมุมหนึ่ง

"อื้อออ อ่า"เป็นเสียงผู้หญิงที่ครางออกมาในลำคอ ด้วยความอยากรู้จึงชะโงกหน้าไปดู ก็ต้องเบิกตาโตยกมือปิดปาก แล้วก้าวขาขึ้นบันไดทันที

"เทมโป..ฮึก"พอเดินมาถึงหน้าประตูออฟฟิศ ฉันก็เอ่ยเบา ๆ น้ำเสียงสั่น ๆ รู้สึกหัวใจสั่นวูบ เจ็บจี๊ด ๆ เมื่อเห็นพ่อของลูกกำลังนัวเนียกับหญิงสาวอยู่

"ทำไมนายใจร้ายแบบนี้นะ ฮึก ฮือออ"ฉันยืนร้องไห้ด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว อยู่ที่หน้าประตูออฟฟิศคนเดียว

"เป็นอะไร"ฉันสะดุ้งโหย่งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังเข้ามา ตามด้วยฝีเท้าหนัก ตึก ตึก ฉันรีบยกมือเช็ดน้ำตาอย่างลวก ๆ

"ร้องไห้ หือม์?"ชายร่างสูงเอ่ยพร้อมกับย่นคิ้วเข้มจ้องมาที่ฉันด้วยสีหน้าสงสัย

"เปล่า"ฉันปฏิเสธแล้วเบือนหน้าหนี

"ออร์แกน..เธอคิดว่าจะโกหกฉันได้งั้นเหรอ"

"..."ฉันยืนนิ่งเอามือกำชายกระโปรง

"เธอเห็นใช่ไหม"เขาเอ่ยถามแล้วเอาลิ้นกระพุ้งที่แก้ม

"ก็แค่เล่น ๆ ไม่มีอะไรหรอก"คนตัวโตพูดต่อแล้วเบือนหน้าไปแค่นหัวเราะ 'หึหึ'

"เข้าไปทำงานได้แล้ว"มือหนาเอื้อมไปเปิดประตูแล้วสะบัดหน้าให้ฉันเข้าไปก่อน

เทมโปจัดแจงหน้าที่ที่ฉันต้องทำเรียบร้อยก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่งของตัวเองซึ่งอยู่ภายในห้องเดียวกัน ระหว่างที่ฉันทำงานอยู่

"วันนั้นเธอพูดเรื่องครอบครัว เรื่องลูกขึ้นมาทำไม"ฉันชะงักเสี้ยววินาที ก่อนจะพูดตอบกลับ

"แกนก็แค่อยากรู้"

"เธอยังคิดที่อยากจะอยู่ในสถานะมากกว่าเพื่อนกับฉันอีกเหรอ"ฉันเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น แล้วลอบหายใจเบา ๆ

"แกนไม่ได้คิดแล้ว...."แล้วหันไปที่เจ้าของใบหน้าหล่อที่จ้องมาที่ฉันอยู่

"...เป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ดี"พูดจบฉันก็ฝืนฉีกยิ้มกว้างให้เขาแล้วก้มหน้าทำงานต่อ

"ฮึ!"เสียงแค่นออกมาจากลำคอเชิงหงุดหงิด พร้อมกับเสียงคนตัวโตลุกจากเก้าอี้ดังขึ้น แล้วตามด้วยเสียงฝีเท้าหนักที่กำลังเดินเข้ามา

"เธอชอบไอ้ภิสิงห์?"เทมโปเดินมาเอามือทั้งสองค้ำที่โต๊ะแล้วขบกรามเอ่ยถามฉันน้ำเสียงทุ้มต่ำ

"แกนไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น"

"ก็ดี"เขาพูดสั้น ๆ แล้วเดินเปิดประตูออกจากห้องไป

TemPo

ชายหนุ่มผมสีทองเดินออกมาจากห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิด เขายืนท้าวเอวหลวม ๆ แล้วหันไปมองที่ประตูห้อง

"ไม่ชอบใครทั้งนั้น?"เขาพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนที่จะเดินไปเตะถังขยะจนล้ม จนกระจัดกระจาย

"โธ่เว้ย!"เขาไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของหญิงสาวทำให้ต้องรู้สึกหงุดหงิดแบบนี้

เทมโปเดินลงมาที่ชั้นล่าง ระหว่างที่กำลังจะไปยังบาร์เครื่องดื่ม ก็มึหญิงสาวสวยมาขวางทางเขาด้วยสายตาและท่าทีที่ยั่วยวน ชายหนุ่มร่างสูงยกยิ้มมุมปากภายในใจก็นึกบางอย่างขึ้นมา

เขาพาหญิงสาวเข้ามาในห้องทำงานที่มีออร์แกนซึ่งนั่งทำงานอยู่ เธอมองเขาและหญิงสาวด้วยสายตานิ่ง ๆ โดยไม่พูดอะไรออกมา

"มานั่งบนตักพี่สิ"เทมโปพาหญิงสาวไปนั่งยังโซฟากลางห้องแล้วดึงเธอไปนั่งบนตักแกร่งของเขา

"หอมจัง"เขาแสดงความรักใคร่อย่างออกนอกหน้าออกตาทั้งที่มีออร์แกนยังนั่งทำงานอยู่ แต่เธอพยายามไม่สนใจ กลับกลายเป็นเทมโปเองที่รู้สึกหงุดหงิดซะเอง.

"ออกไปได้แล้ว"เขาผลักหญิงสาวออกจากตัก แล้วเอ่ยน้ำเสียงแข็ง

"ทำไมล่ะคะ เรายังไม่ได้.."

"ออกไป..วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์"ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง

หลายวันที่ผ่านมา เทมโปมักจะพาหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าเข้ามาในห้องทำงานแล้วกอดจูบกันต่อหน้าออร์แกนอยู่เป็นประจำจนกระทั่ง...วันนี้เขานั่งมองนาฬิกาที่ข้อมือสลับกับประตูห้องเพื่อรอออร์แกนที่จะต้องมาทำงานตามปกติ แต่ทว่าเวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงเธอก็ยังไม่มา จึงทำให้ชายหนุ่มกระวนกระวายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดหาออร์แกนทันที

'หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้'

"โธ่เว้ย!"เขารู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมากที่ติดต่อออร์แกนไม่ได้ จึงเลือกจะโทรหาคนเป็นพ่อของเธอ

'หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้...'

"เกิดอะไรขึ้น"ชายหนุ่มรีบคว้ากุญแจรถแล้วรีบขับไปยังบ้านออร์แกนทันที ด้วยความกังวลและรู้สึกเป็นห่วง แต่พอมาถึงเทมโปก็ต้องแปลกใจที่บ้านเงียบมาก เขาลงจากรถเพื่อจะกดกริ่งก็พบว่าประตูรั้วถูกล็อกโดยโซ่ที่แน่นหนา เขาขมวดคิ้วจนเป็นปม ภายในใจรู้สึกหวิว ๆ ขึ้นมา ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาโทรสอบถามใครบางคนที่พอจะรู้

(ว่าไงเทมโป)ปลายสายกดรับทันที

"พี่ทอย..."เขาโทรหาพี่ชายต่างมารดาที่เป็นรองประธานบริษัทที่พ่อของหญิงสาวทำอยู่

"....ผมมาที่บ้านออร์แกนแต่ไม่เจอใครเลยพี่ทอยรู้ไหมว่าพวกเขาไปไหนกัน"

(คุณอาเพิ่งจะส่งใบลาออกมาให้พี่วันนี้น่ะ)

"ลาออก?..."เทมโปรู้สึกตกใจและสั่นวูบก่อนที่จะเอ่ยถามถึงหญิงสาว

"...แล้วออร์แกนอยู่ไหน"

(เธอไปแล้ว...ไปทั้งครอบครัว)

"ปะ ไปไหน"คนเป็นน้องเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก

(คุณอาไม่ได้บอกไว้น่ะ)

"โธ่เว้ย!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ก็แค่เพื่อน (set...ก็แค่)   (42)ตอนจบ nc

    ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน

  • ก็แค่เพื่อน (set...ก็แค่)   (41)จากเพื่อนสู่ผัว

    จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ

  • ก็แค่เพื่อน (set...ก็แค่)   (40)ยังไม่ให้โอกาส

    ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ

  • ก็แค่เพื่อน (set...ก็แค่)   (39)ขอร้อง

    ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข

  • ก็แค่เพื่อน (set...ก็แค่)   (38)กลัว

    กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห

  • ก็แค่เพื่อน (set...ก็แค่)   (37)พ่อของเด็กเป็นใคร

    พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status