“เสียดายจังเลย เช้านี้น้องฟ้าเป็นคนทำอาหารเช้าเองเสียด้วย”
อคิราห์ทำได้แค่ฝืนยิ้มบางๆ ให้กับพิมลวรรณเท่านั้น
“งั้นเอาอย่างนี้ดีไหม เดี๋ยวน้าจะให้น้องฟ้าทำอาหารกลางวันไปส่งให้พ่อใหญ่ที่บริษัทฯ”
“อย่าเลยครับคุณน้า ผมเกรงใจน่ะครับ”
“โอ๊ย ไม่ต้องเกรงใจเลย น้องฟ้าน่ะเต็มใจทำเพื่อว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเองอยู่แล้วล่ะ”
ใบหน้าของพิมลวรรณเต็มไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ ตรงกันข้ามกับเขาที่รู้สึกอึดอัดเหลือเกิน เขาเกลียดการคลุมถุงชนแบบนี้ที่สุด และก็ยิ่งเกลียดมากเข้ากระดูกดำ เมื่อต้องกลายเป็นตัวเลือกของผู้หญิงน่ารำคาญอย่างฟ้าลดา
“แต่ผมว่า...”
“เอาน่ะ ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะพ่อใหญ่ น้าเชื่อว่าน้องฟ้าต้องดีใจแน่ๆ ที่จะได้ทำอาหารไปให้พ่อใหญ่กินที่ทำงาน”
นี่เขาควรทำยังไงดี
อคิราห์รู้สึกหงุดหงิด แต่ก็ระเบิดความรู้สึกนั้นออกไม่ได้
“งั้น... ผมขอตัวก่อนนะครับคุณน้า เดี๋ยวสายกว่านี้แล้วรถจะติด”
“จ้ะ ขับรถปลอดภัยนะพ่อใหญ่”
“ขอบคุณครับ”
พิมลวรรณยกมือขึ้นโบกไปมาให้กับอคิราห์ และก็รอจนรถคันงามแล่นออกไปจากรั้วใหญ่ จึงหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้าน
“น้องฟ้า พี่ใหญ่มาหาเรื่องอะไรเหรอลูก”
เมื่อเข้ามาในห้องรับแขกก็เห็นลูกสาวนั่งตาแดงๆ จึงอดที่จะแปลกใจไม่ได้
“เอ่อ...”
“แล้วทำไมร้องไห้ล่ะลูก มีอะไรหรือเปล่าน้องฟ้า หรือว่าทะเลาะกับพ่อใหญ่”
หล่อนไม่มีวันทำให้คุณแม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจเด็ดขาด
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรค่ะคุณแม่”
“แต่น้องฟ้าของแม่กำลังร้องไห้นี่จ๊ะ ไหนบอกแม่มาสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
พิมลวรรณแปลกใจจึงคาดคั้นถามหาความจริงกับลูกสาวสุดที่รัก แต่ฟ้าลดาไม่ยอมบอก เพราะไม่อยากทำให้ผู้มีพระคุณต้องไม่สบายใจ
‘ฟ้ากับพี่ใหญ่เรา... รักกันค่ะคุณแม่’
นี่คือคำพูดที่ทำให้คุณแม่ของหล่อนยอมไปพูดกับพ่อแม่ของอคิราห์
‘ฟ้าอยากเป็นเจ้าสาวของพี่ใหญ่ คุณแม่ช่วยฟ้าด้วยนะคะ’
หลังจากที่หล่อนโกหกคำโต คุณแม่กับคุณพ่อก็เชื่อสนิทใจ และเดินทางไปยังบ้านนั้น เพื่อเอ่ยทวงสัญญาที่เคยมีต่อกันในอดีต
และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการคลุมถุงชนสำหรับอคิราห์ แต่มันกลับคือจุดเริ่มต้นของความฝันที่กำลังจะกลายเป็นจริงของหล่อน
หล่อนรักอคิราห์ เฝ้าฝันมาตลอดว่าจะได้เป็นเจ้าสาวของเขาในวันหนึ่ง และในที่สุดวันนั้นที่ฝันถึงก็เดินทางเข้ามาใกล้จนเกือบจะเป็นความจริง แม้ว่าเจ้าบ่าวของหล่อนจะไม่พอใจเลยก็ตาม
หล่อนจะทำ... จะพยายามทำให้อคิราห์รักหล่อนให้ได้
ฟ้าลดามุ่งมั่น ตั้งใจ แม้ว่าความเกลียดชังที่อคิราห์แสดงออกมาให้เห็นนั้นมันจะมากมายเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้ก็ตาม
“เอ่อ... พอดีพี่ใหญ่แวะมานัดวันไปเลือกชุดน่ะค่ะ ฟ้าก็เลยดีใจมาก จน... น้ำตาไหล...”
“อ๋อ ที่แท้ก็ดีใจจนน้ำตาไหลนี่เอง แม่ก็ตกใจนึกว่าลูกสาวแม่เป็นอะไรไปเสียอีก” พิมลวรรณยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
“แล้วนี่จะไปดูชุดกันเมื่อไหร่ล่ะ ต้องรีบๆ หน่อยนะ ฤกษ์แต่งมันต้นเดือนหน้าแล้ว”
“ก็คงจะภายในอาทิตย์นี้แหละค่ะคุณแม่”
หล่อนตอบมารดา และเสหลบสายตา เพราะตัวเองกำลังโกหก
“แม่ดีใจนะที่ลูกสาวของแม่กำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา กับคนดีๆ อย่างพ่อใหญ่”
หล่อนช้อนตามองมารดาและพยายามฝืนที่จะยิ้มออกมา แต่มันกลับเป็นรอยยิ้มจางๆ ไม่สดใสจนพิมลวรรณสังเกตได้
“ทำไมยิ้มอย่างนั้นล่ะน้องฟ้า ยิ้มไม่มีความสุขเหมือนคนที่กำลังจะได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรักเลยนะ”
“ฟ้า... คงจะเหนื่อยๆ น่ะค่ะคุณแม่”
“นั่นสิ เพราะน้องฟ้าตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าตั้งแต่มืด” พิมลวรรณยกมือขึ้นลูบต้นแขนเรียวของบุตรสาวอย่างเป็นห่วง
“พรุ่งนี้ให้แม่ครัวทำอาหารเช้าเถอะ น้องฟ้าจะได้นอนเต็มอิ่ม”
“ฟ้าทำได้ค่ะคุณแม่”
“ไม่เอา... เดี๋ยวเกิดไม่สบายไปจะทำยังไง งานแต่งก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะ”
ฟ้าลดาทำได้แค่นั่งฟังมารดาเงียบๆ
“อ้อ นี่แม่เกือบลืมบอกเลย กลางวันนี้น้องฟ้าทำอาหารไปส่งให้พ่อใหญ่ที่ทำงานด้วยนะ”
“เอ่อ... พี่ใหญ่บอกคุณแม่เหรอคะ” หล่อนอดถามอย่างแปลกใจไม่ได้
“ก็ใช่น่ะสิน้องฟ้า พ่อใหญ่บอกเองว่าอยากชิมฝีมือของน้องฟ้ามาก”
แม้จะไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินนัก แต่ฟ้าลดาก็อดที่จะหัวใจพองฟูไม่ได้ ใบหน้าที่เปื้อนความเศร้าหมองอยู่เมื่อครู่นี้ ตอนนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสดใส ดวงตากลมโตเป็นประกายสุกสกาว
“น้องฟ้าต้องตั้งใจทำให้สุดฝีมือเลยนะลูก”
“ค่ะคุณแม่”
พิมลวรรณเห็นลูกสาวยิ้มหวานอย่างมีความสุขก็อดที่จะอิ่มเอมหัวใจไม่ได้
“แล้วนี่น้องฟ้าคิดออกหรือยังลูกว่าจะทำอะไรไปให้พ่อใหญ่ทาน”
“คิดออกแล้วค่ะคุณแม่...”
“แล้วน้องฟ้าจะทำอะไรล่ะลูก”
“พี่ใหญ่ชอบทานแกงเขียวหวานกับทอดมัน ฟ้าจะทำสองอย่างนี้ไปให้พี่ใหญ่ทาน แล้วก็อบคุ๊กกี้ธัญพืชไปให้ด้วยค่ะ”
ดวงตาของฟ้าลดาสดใสและเต็มไปด้วยความหวังเต็มเปี่ยม
หล่อนหวังว่าอคิราห์จะชอบอาหารที่หล่อนนำเอาไปให้ และรู้สึกดีกับหล่อนมากขึ้นจากเดิมสักนิดก็ยังดี
ตอนที่ 29. ตอนอวสาน“แล้วถ้าฟ้าปฏิเสธล่ะคะ”“ถ้าขนาดพี่ลงทุนขับรถต้นไม้ให้ตัวเองบาดเจ็บแล้ว ยังไม่สามารถทำให้ฟ้ายอมให้อภัยได้ งั้นพี่ก็ควรจะตายๆ ไปซะ” “พี่... ใหญ่ว่าอะไรนะคะ?” ฟ้าลดาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง หล่อนต้องฟังผิดไปแน่ๆ จะมีคนบ้าที่ไหนกล้าทำให้ตัวเองบาดเจ็บขนาดนี้ อคิราห์อมยิ้ม ก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง และครั้งนี้ชัดเจนเต็มสองหูเลย “ความจริงมันไม่ใช่อุบัติเหตุหรอก พี่ตั้งใจขับรถชนต้นไม้เองน่ะ” “พี่ใหญ่!”ฟ้าลดาอุทานตกใจอย่างไม่อยากเชื่อ“พี่แค่ตั้งใจจะให้หัวแตกนิดเดียว แต่ผิดพลาดไปหน่อย เลยขาหักด้วย” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาฟ้าลดายกมือตีท่อนแขนกำยำอย่างมันเขี้ยวระคนไม่พอใจ“ทำไมพี่ใหญ่ทำแบบนี้คะ ถ้าหากพลาดท่าเสียชีวิตไป จะทำยังไง”“ก็แค่ตาย”“แล้วฟ้าล่ะ... ฟ้าจะอยู่ยังไง คนบ้า... คราวหน้าคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคะ”อคิราห์อมยิ้มยกมือขึ้นลูบใบหน้าของภรรยาเอาไว้แผ่วเบา“พี่ยอมเจ็บกว่านี้ หากมันจะทำให้ฟ้ายอมกลับมาอยู่กับพี่”“ไม่ต้องมาพูดเลย... ห้ามทำแบบนี้อีกนะคะพี่ใหญ่”“ก็ถ้าฟ้าไม่หนีพี่ไปอีก พี่ก็จะไม่ทำอะไรแผลงๆ แบบนี้อีกค
ตอนที่ 28. ฟ้าลดายิ้มออกมาอย่างโล่งอก และหันไปมองมารดาของตัวเอง “คุณแม่คะ ฟ้า... ขออยู่เฝ้าพี่ใหญ่นะคะ” “ได้สิลูก” ตอนนี้ไม่เหลือความแง่งอน ความน้อยใจใดๆ ติดหัวใจอีกแล้ว สิ่งเดียวที่ต้องการในตอนนี้ก็คือขอให้อคิราห์ฟื้นขึ้นมาโดยเร็วที่สุด อคิราห์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ความปวดหนึบอัดแน่นเต็มศีรษะ เขากัดฟันขยับตัวเล็กน้อย และก็ทำให้เห็นว่ามีใครคนหนึ่งฟุบหน้ากับเตียงคนไข้ และกำลังหลับอยู่ ผิวขาวเนียนแบบนี้ เส้นผมสีดำขลับแบบนี้ กลิ่นหอมกรุ่นคุ้นจมูกแบบนี้ ไม่มีทางเป็นใครไปได้หรอก นอกจาก... “ฟ้า...” ชายหนุ่มพึมพำเสียงแหบแห้ง หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวตอนนี้แช่มชื้นอิ่มเอม รอยยิ้มพึงพอใจแต่งแต้มใบหน้าหล่อจัด ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กของฟ้าลดาอย่างระมัดระวัง แต่ถึงจะแผ่วเบาแค่ไหนก็ทำให้คนที่เผลอหลับไปสะดุ้งตื่นได้ไม่ยาก ฟ้าลดาผงกศีรษะขึ้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความดีใจ เมื่อเห็นว่าคนที่หล่อนนั่งเฝ้ามาตลอดทั้งคืนลืมตามองอยู่ “พี่ใหญ่...” หล่อนยิ้มอย่างโล่งใจ น้ำตาแห
ตอนที่ 27. “แต่พ่อใหญ่บอกแม่ว่าไม่ต้องการหย่า และก็อยากพบฟ้าเพื่อปรับความเข้าใจด้วย” ฟ้าลดากะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจให้กลับเข้าไปข้างใน หล่อนพยายามสร้างกำแพงขึ้นมาปิดกั้นหัวใจตัวเอง โดยใช้ความร้ายกาจของอคิราห์ที่เคยกระทำเอาไว้กับหล่อนมาเป็นฐานราก เพื่อป้องกันการพังทลาย แต่ดูเหมือนว่ามันจะสั่นคลอนเสียทุกครั้งที่เห็นเขามาหา “คงเป็นความต้องการของคุณป้าวรรณก็ได้ล่ะ พี่ใหญ่ก็เลยต้องมาตามง้อฟ้าแบบนี้” “แม่คุยกับคุณป้าวรรณแล้ว ท่านบอกว่าไม่เกี่ยวกับท่านเลย พ่อใหญ่ต้องการปรับความเข้าใจกับฟ้าด้วยตัวเองของเขาเอง และคุณป้าวรรณก็ยังบอกอีกว่า พ่อใหญ่รักฟ้า...” น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ไหลร่วงอาบแก้ม ลำคอตีบตันด้วยความรวดร้าว “คนอย่างพี่ใหญ่... ไม่มีทางรักผู้หญิงที่เขาบอกว่าเกลียดอย่างฟ้าหรอกค่ะ” “แต่ถ้าพ่อใหญ่ไม่มีใจให้กับฟ้า แล้วทำไมพ่อใหญ่ถึงยอมแต่งงานกับฟ้าง่ายๆ ล่ะ ฟ้าลองคิดดูสิ” “ก็เพราะว่าพี่ใหญ่ขัดความต้องการของครอบครัวไม่ได้ไงคะ คุณแม่ไม่รู้อะไร พี่ใหญ่โมโหฟ้ามากที่ฟ้าเลือกพี่ใหญ่..
ตอนที่ 26.คนเป็นแม่ถอนใจออกมา ความวิตกกังวลแน่นอก แต่ก็ต้องทำหน้าที่ปลอบใจลูกชาย“หนูฟ้าคงกำลังงอนน่ะพ่อใหญ่”อคิราห์ผ่อนลมหายใจออกมาทางปาก ใบหน้าเคร่งเครียด“แล้วผมก็รู้มาว่าฟ้าตัดสินใจจะไปเรียนต่อต่างประเทศครับ”“ตายจริง”มารดาของเขาอุทานอย่างตกใจ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับเขาเลยเขาต้องตายแน่ๆ หากฟ้าลดาหนีหายไปไกลขนาดนั้น“แล้วนี่พ่อใหญ่จะทำยังไงล่ะ”“ผมจะพยายามปรับความเข้าใจกับฟ้าให้ได้ครับ”“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า บทจะใจแข็ง หนูฟ้าก็ใจแข็งเหมือนหินได้แบบนี้”“คงเพราะฟ้าหมดความอดทนกับผู้ชายปากร้ายอย่างผมแล้วน่ะครับ”น้ำเสียงของอคิราห์เศร้าหมองอย่างที่คนเป็นแม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน“พ่อใหญ่ต้องสู้ๆ นะ ต้องพาหนูฟ้ากลับมาอยู่บ้านเราให้ได้”“ผมจะพยายามด้วยความสามารถทั้งหมดของผมครับ แต่ก็ไม่รู้ว่า ฟ้าจะให้อภัยผมได้ไหม...”ผู้เป็นแม่ยกมือขึ้นวางบนบ่ากว้างของลูกชาย และพูดให้กำลังใจ“แม่ว่าหนูฟ้าคงแค่งอน พ่อใหญ่ตามง้อหนักๆ สักหน่อยก็น่าจะยอมกลับมา”แต่เขากลับไม่ได้คิดเหมือนมารดาเลย เพราะการหนีจากไปคราวนี้ของฟ้าลดา มันราวกับว่าหญิงสาวหมดความอดทนทุกอย่างแล้ว“ขอบคุณครับคุณแม่”“แล้วนี่กินข้าวกินปลามาห
ตอนที่ 25.“สวัสดีครับคุณแม่” อคิราห์ยกมือไหว้พิมลวรรณผู้เป็นแม่ยายของตัวเอง ในขณะที่สายตามองไปรอบๆ ห้องรับแขกเพื่อหาฟ้าลดา“สวัสดีจ้ะพ่อใหญ่ วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ล่ะ”พิมลวรรณทักทายอย่างเป็นกันเอง พยายามจะไม่พูดถึงเรื่องระหองระแหงของลูกเขยกับลูกสาว“ผมมาพบฟ้าครับ”สีหน้าของพิมลวรรณเจื่อนลงเล็กน้อย และถูกแต่งแต้มด้วยความลำบากใจจนเต็มแน่นทุกอณู“น้องฟ้าเพิ่งขึ้นไปบนห้องน่ะพ่อใหญ่ แล้วก็คงไม่อยากพบพ่อใหญ่ตอนนี้หรอก”แววตาของอคิราห์ไหววูบ รู้สึกทรมานใจไม่น้อยเมื่อฟ้าลดาหมางเมินใส่ตนเองแบบนี้เมื่อก่อนฟ้าลดาเป็นฝ่ายที่ตามเขาตลอด แม้เขาจะพูดจาร้ายๆ ทำร้ายหัวใจของหล่อนแค่ไหน แต่หล่อนก็ไม่เคยแสดงทีท่าห่างเหินแบบนี้เลย“ผมมีเรื่องต้องคุยกับฟ้าจริงๆ ครับคุณแม่”“แม่เข้าใจ แต่ฟ้าบอกกับแม่แล้วว่ายังไม่พร้อมจะเจอหน้าพ่อใหญ่ตอนนี้”อคิราห์พูดไม่ออก รับมือกับสถานะมึนตึงของฟ้าลดาได้อยากเหลือเกิน“อ้อ แล้วน้องฟ้าก็ฝากบอกด้วยว่า พ่อใหญ่พร้อมจะหย่าเมื่อไหร่ก็ให้แจ้งมา น้องฟ้ายินดีจะให้ความร่วมมือเต็มที่”“ไม่ครับคุณแม่ ผมไม่ได้มีความคิดจะหย่ากับฟ้าเลยนะครับ”อคิราห์ค้าน ความหวาดกลัวบางอย่างแล่นพล่
ตอนที่ 24.หายไปไหนมาพ่อใหญ่ ถึงกลับบ้านเอาสายโด่งแบบนี้น่ะ” อมลวรรณถามลูกชายคนโตด้วยความร้อนอกร้อนใจ“ผมไปนอนที่บริษัทฯ มาครับ”“ทะเลาะอะไรกันกับหนูฟ้าใช่ไหม”ผู้เป็นลูกชายพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะตอบออกไปตามความจริง“ก็นิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้ผมอารมณ์เย็นลงแล้วครับ ว่าจะไปคุยดีๆ กับฟ้าสักหน่อย”คนเป็นแม่ส่ายหน้าไปมา แววตาเต็มไปด้วยความเป็นกังวล“หนูฟ้ากลับบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วล่ะ”“ฟ้ากลับบ้าน?”“ก็ใช่น่ะสิ พ่อใหญ่ทำอะไรน้องเหรอ ปกติหนูฟ้าไม่ใช่คนงี่เง่า เอะอะอะไรก็หนีแบบนี้เลยนะ”คนที่ยืนอยู่รู้สึกเหมือนกับหมดแรง เขาเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ใบหน้าเคร่งเครียด“ก็เมื่อวาน ผมเห็นเขาออกไปกับเพื่อนผู้ชาย ผมก็เลยโมโห”“หึงหนูฟ้า?”ผู้เป็นลูกชายช้อนตาขึ้นสบประสานกับมารดา ก่อนจะยอมรับออกมา“ครับ”“ถ้าหึง ก็คงต้องรักด้วย ใช่ไหมพ่อใหญ่”“ผม... ผมไม่แน่ใจครับ”“ยังจะมาปากแข็งอีก นี่ถ้าพ่อใหญ่ไม่พูดอะไรออกไปบ้าง พ่อใหญ่อาจจะต้องเสียหนูฟ้าไปนะ”“ผมกับฟ้าแต่งงานกัน จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ฟ้าจะหนีผมไปไหนได้ล่ะครับ อย่างน้อยก็แค่บ้านพ่อแม่ตัวเอง”อมลวรรณมองลูกชายอย่างหมั่นไส้“อว