Home / วัยรุ่น / ก็ไม่รักแล้วนะเธอ / CHAPTER 2 รักของเรา...ยังเหมือนเดิม

Share

CHAPTER 2 รักของเรา...ยังเหมือนเดิม

last update Last Updated: 2025-10-11 09:40:33

ความรักของเดียร์และภูริดูเหมือนจะเป็นสิ่งเรียบง่ายและมั่นคงอยู่เสมอเหมือนวันแรกที่ทั้งสองคนคบกัน ไม่เคยมีเรื่องใหญ่โตอะไรเข้ามากวนใจจนถึงขั้นต้องทะเลาะกันแบบจริงจัง

แม้จะมีบ้างที่งอนกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเวลาที่อีกคนตอบแชตช้า หรือไม่ยอมบอกว่ากินข้าวหรือยัง แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องน่ารักที่ทำให้ทั้งสองได้หัวเราะกันทีหลัง

“ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าพี่ต้องเข้าห้องแลบ กว่าจะออกมาได้มันก็สามทุ่ม!” ภูริพูดยิ้มๆ ในขณะที่ส่งขนมกล่องเล็กๆ ให้เดียร์หน้ารั้วโรงเรียน วันนี้เขาไม่มีเรียนจึงแวะมาหาหญิงสาว

“แต่อย่างน้อยพี่จะพิมพ์แค่คำเดียวก็ได้ไง แป๊บติดเรียน อะไรแบบนั้นก็ได้เดียร์จะได้ไม่ต้องคิดมาก” เสียงเธอบ่นเบาๆ แต่ในตากลับมีแววอ้อนนิดๆ ให้เขารู้ว่าเธอแค่คิดถึงไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง

ภูริหัวเราะในลำคอยื่นมือไปลูบหัวคนตรงหน้าที่ใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลายอย่างเบามือ

“ครับๆ งั้นเดี๋ยวคราวหน้าพี่จะพิมพ์แป๊บนะ ทุกครั้งเลย ขนาดเข้าห้องน้ำยังจะบอกเลยก็ได้”

“บ้า!” เดียร์หัวเราะเขินๆ แล้วเบี่ยงหน้าหลบมือเขา แต่ก็ยังไม่วายยิ้มอยู่ดี

ถึงแม้ตอนนี้ภูริจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ปีหนึ่งแล้ว แต่ทุกเย็นวันศุกร์เขาก็จะมารอรับเดียร์ที่หน้าโรงเรียนเหมือนเคย

ซื้อขนมร้านเดิมร้านประจำหยอกล้อกันระหว่างทางกลับบ้าน แล้วเดินส่งเธอถึงหน้าบ้านพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะเข้าบ้านตามหลังเพราะกลัวว่าจะมีคนเห็น

“พี่ภู” เดียร์เรียกเขาเบาๆ ขณะที่เดินข้างกันในเย็นวันหนึ่ง ใบไม้ร่วงลงมาตามลมอ่อน

“หืม?”

“เดียร์ดีใจนะที่แม้เราจะต่างกันมาก แต่พี่ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน”

ภูริหยุดเดินหันมามองคนข้างกาย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่เคยจ้องเธอด้วยความอบอุ่นในวันแรก ที่เริ่มรู้จักกันก็ยังคงมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นเหมือนเดิม

“จะให้เปลี่ยนได้ยังไงล่ะ ก็หัวใจพี่มันอยู่ที่เดียร์หมดแล้ว”

เพียงประโยคนั้นเสียงในโลกก็เหมือนเงียบไป เหลือเพียงแค่เสียงหัวใจของคนสองคนที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

ในโลกของเดียร์และภูริ ไม่มีอะไรซับซ้อนเกินกว่าคำว่ารักที่ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าจะไม่มีวันจางหาย

        เขาเป็นฝ่ายเริ่มจีบหญิงสาวก่อนตอนนั้นเขาทนไม่ได้ที่เห็นเธอมีผู้ชายคนอื่นมาจีบ เขาจึงประกาศต่อหน้าผู้ชายทุกคนว่าเดียร์คือแฟนของเขา เหมือนเป็นการมัดมือชดให้เดียร์ยอมคบกับเขาจริงจัง

        เมื่อแยกย้ายกันภูริไม่ได้แอบลงไปหาหญิงสาวเพราะเขามีการบ้านต้องทำ บางวันเลิกเรียนดึกเพราะต้องทำกิจกรรมต่างๆ

        “ครับพริม”

        “ภูรินอนหรือยังคะพริมมีเรื่องอยากปรึกษา” พีรญาพูดเสียงหวานเขินอาย ยามที่ต้องพูดคุยกับภูริ

        “พริมจะถามเรื่องอะไร” เขานั่งหน้าคอมพิวเตอร์มือหนานั่งพิมพ์งาน

        “เปิดกล้องได้ไหมคะจะถามเรื่องสูตรคำนวณ”

        “ครับ”

        พีรญาตั้งใจฟังในสิ่งที่ภูริพูด เขาเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นจนเธอเริ่มมีใจให้เขา เราทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย พอรู้ว่าเขาเข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์เธอไม่รอช้ารีบตามเขาไปทันที ถึงแม้ตัวเองจะไม่เก่งก็ตาม

        ภูริมัวแต่สอนการบ้านเพื่อนจนลืมไปเลยว่าเขายังไม่ได้โทรหาคนรัก

        .

        บรรยากาศในห้องนอนของภูริเงียบผิดปกติ แม้จะเป็นสถานที่ที่เดียร์คุ้นเคย เธอเคยหัวเราะนอนดูหนังฟังเพลง หรือแม้แต่เผลอหลับบนเตียงของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ

แต่วันนี้ทุกอย่างมันช่างหนักอึ้ง ราวกับว่าอากาศในห้องนี้ไม่มีออกซิเจนพอให้เธอหายใจ

ภูรินั่งอยู่ปลายเตียงมองใบหน้าของคนรักที่ยืนก้มหน้าอยู่ใกล้โต๊ะหนังสือ สองมือเธอกำไว้แน่นสั่นเล็กน้อย เหมือนกำลังต่อสู้กับตัวเอง

“เดียร์...” เขาเรียกเบาๆ อย่างเป็นห่วง

“เดียร์ท้อง” หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงชื้นริมฝีปากสั่นน้อยๆ

ประโยคนั้นหล่นลงกลางห้องราวกับระเบิดเสียงเงียบที่ทำลายทุกความสบายใจที่เคยมี

เขาชะงักตัวแข็งทื่อไปชั่วครู่ เขามองหน้าเธอไม่ได้พูดอะไรทันที แต่ไม่ได้หนีไม่ได้ปฏิเสธมีเพียงความตกใจ ความจริงที่ตบหน้าเขาเบาๆ ว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป

“แน่ใจเหรอตรวจดีแล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยเสียงแผ่ว แต่ไม่ได้ฟังเพื่อโต้แย้งเขาถามเพียงเพื่อยืนยัน

เดียร์พยักหน้า น้ำตาเริ่มไหลช้าๆ

“เดียร์ไม่ได้ตั้งใจเดียร์รู้ว่าแม่ต้องผิดหวังมากแน่ๆ เดียร์มันไม่ดีเอง ฮึก~” เสียงเธอขาดห้วง

ภูริลุกขึ้นมาเขาเดินเข้าไปหาเธอ ก่อนจะดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดแน่นหนา ไม่ใช่เพราะต้องการปลอบใจอย่างเดียว แต่เพราะเขาก็รู้สึกผิด รู้สึกผิดที่ปกป้องเธอไม่พอ

“ไม่ใช่แค่เดียร์ผิดคนเดียว เราสองคนอยู่ตรงนี้ด้วยกันพี่ไม่ทิ้งเธอแน่นอน” ส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเขาที่ไม่รู้จักป้องกันให้ดี เหมือนว่าตอนนี้เขาทำลายอนาคจของหญิงสาวไปแล้ว

คำพูดนั้นทำให้หัวใจของเดียร์เหมือนถูกเย็บกลับเข้าที่แม้จะยังสั่นไหว แต่เธอก็รู้ว่าอย่างน้อยเธอไม่ได้เผชิญหน้ากับความกลัวนี้คนเดียว

“แล้วเราจะทำยังไงดี สักวันท้องเดียร์ก็ต้องโตคนในบ้านต้องรู้แน่ๆ ฮือ~” เธอถามเสียงเบาขณะที่ซบอยู่ในอกเขา

เขาสูดลมหายใจลึกๆ มองออกไปนอกหน้าต่างที่แสงแดดอ่อนเริ่มหมดลง เขาไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะยากแค่ไหน แต่สิ่งเดียวที่เขารู้คือเขาจะไม่หนี ไม่ปล่อยให้เธอต้องเดินลำพัง

“เราจะเผชิญกับมันด้วยกันทุกอย่าง เดียร์ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พี่จะเป็นคนพูดกับคุณปู่และแม่ของเดียร์เอง” เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น แล้วจูบเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ

แม้หัวใจของทั้งสองคนจะสั่นไหวกับอนาคตที่ไม่แน่นอน แต่นับจากวินาทีนี้ ความรักของพวกเขากำลังถูกทดสอบด้วยความจริง และการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอด

ถึงแม้เราจะรู้สึกตกใจอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ด้วยความที่เขาก็รักเธออย่างหมดหัวใจ

“พี่จะรับผิดชอบทุกอย่าง เดียร์ไม่ต้องกลัวนะ” เขายืนยันเสียงหนักแน่นเพื่อให้เธอไม่คิดมาก

“พี่รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็ก และพี่ก็ไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบอะไรเลย แต่พี่จะไม่ให้เธอเผชิญกับมันคนเดียวแน่นอน”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอรู้ว่าเขาหมายความตามนั้นจริงๆ

        “แล้วทุกคนจะยอมรับเดียร์ได้เหรอคะ” เพราะเธอกับแม่นั้นมีฐานะที่จนมาก ไม่มีส่วนไหนที่ดูเหมาะสมกับเขาเลยสักนิด

“พี่จะคุยกับแม่กับแม่ของเดียร์ด้วย พี่จะยอมรับความผิดที่ตัวเองทำ ไม่ใช่เพราะแค่จำเป็นต้องทำแต่เพราะพี่อยากทำ อยากปกป้องเธอกับลูกของเรา”

คำสุดท้ายนั้นทำเอาเดียร์หลุดน้ำตาอีกครั้ง แต่ไม่ใช่เพราะความเสียใจ หากแต่เป็นเพราะเธอรู้แล้วว่า ถึงแม้เส้นทางข้างหน้าจะไม่ง่าย แต่เธอก็ไม่ได้เดินไปตามลำพัง

ปัง

เสียงประตูเปิดออกกะทันหันทำให้เดียร์สะดุ้ง เธอหันไปทางต้นเสียงก่อนจะเห็นดีนี่ พีสาวของภูริ ยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าดูตกใจ แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความโมโห

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันภูริ!” เสียงเธอดังขึ้นก่อนจะก้าวเร็วๆ เข้ามาในห้อง โดยไม่พูดพร่ำดีนี่คว้าหมอนบนเตียงแล้วฟาดใส่น้องชายเต็มแรง

"โอ๊ย เจ้ใจเย็นก่อน!" ภูริยกแขนขึ้นกันหมอนด้วยใบหน้าตกใจ

“ใจเย็นเหรอ? นายทำอะไรไม่คิดแบบนี้แล้วจะให้ฉันใจเย็นยังไงฮะ นายโตเป็นผู้ชายแล้วนะ โตพอจะรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ แล้วนี่อะไรทำเดียร์ท้อง!” ดีนี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท้องสองแอบไปรักกันตั้งแต่ตอนไหน เพราะเจอหน้ากันตั้งแต่เด็ก

เดียร์ยืนนิ่งน้ำตาคลอ ไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เพราะความรู้สึกผิดและเกรงใจ เธอรู้ว่าดีนี่เป็นพี่สาวที่รักและดูแลเธอเหมือนน้องแท้ๆ มาตลอด

ดีนี่หันมามองเธอ สีหน้าเปลี่ยนไปจากโกรธกลายเป็นอ่อนโยนทันที เธอเดินเข้าไปหาเดียร์แล้วโอบกอดเอาไว้แน่น

“เดียร์พี่ไม่ได้โกรธเธอนะ พี่โกรธไอ้ภูริมันเป็นผู้ชาย มันต้องปกป้องเธอ ไม่ใช่ทำให้เธอต้องเครียดต้องกลัวแบบนี้” เสียงดีนี่สั่นนิดๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ

“หนูผิดเองค่ะพี่ดีนี่ หนูก็รู้ว่าไม่ควรแต่หนูก็...” เดียร์ส่ายหัวน้ำตาไหล

“ไม่เดียร์ไม่ผิดคนเดียว ความรักมันคือเรื่องของสองคน และพี่ไม่มีวันยอมให้ใครแม้แต่น้องชายพี่เอง มาทำให้เธอต้องเสียอะไรไป”

ภูริยืนเงียบ ใจเขาเจ็บไม่แพ้กันแต่เขาก็รู้ดีว่าพี่สาวพูดถูกทุกอย่าง

“เจ้ผมรู้ว่าผมผิด ผมกำลังจะไปบอกคุณพ่อกับคุณปู่อยู่พอดี ผมไม่หนีไม่ทิ้งเดียร์ผมสัญญา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกและหนักแน่น ลูกกับเมียเขาทั้งคน

ดีนี่หันกลับมามองน้องชายถอนหายใจแรงๆ แล้วพยักหน้า

“งั้นก็ดี เพราะถ้านายคิดจะหนีฉันนี่แหละจะลากคอนายมาลงโทษเอง” น้ำเสียงเธอยังดุ แต่สีหน้าเริ่มอ่อนลง

“จำไว้ภูริเด็กในท้องคือชีวิตอีกหนึ่งชีวิต ไม่ใช่แค่ความผิดพลาด มันคือคนคนหนึ่งที่กำลังจะเกิดมา ถ้านายจะเป็นพ่อของเด็กคนนี้ก็ต้องทำตัวให้คู่ควรกับคำว่าพ่อด้วย”

คำพูดนั้นเหมือนตีตราในใจของภูริไม่ใช่แค่ความรักอีกต่อไปแต่เป็นการเติบโต และการเริ่มต้นของการเป็นผู้ใหญ่ที่แท้จริง

.

เมื่อเคลียร์ทุกอย่างจบแล้วเดียร์จึงออกมานั่งหน้าบ้านพักคนงาน ถึงแม้ว่าภูริจะสัญญาแต่เธอยังคงกลัวอยู่เพราะวัยนี้ยังไม่พร้อมจะเป็นแม่คน

ลมยามค่ำคืนพัดเบาๆ บริเวณหน้าบ้านหญิงสาวนั่งกอดเข่าบนเก้าอี้ไม้ ริมชานเรือนที่เงียบสงัด เธอรู้สึกหนักในอกทั้งวัน ตั้งแต่เช้าเธอคิดถึงแต่ภูริรอเขากลับจากมหาวิทยาลัย ทั้งที่วันนี้ควรเป็นวันธรรมดาอีกวันหนึ่ง

เขากลับมาช้ากว่าทุกวันได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดส่งเขาอยู่หลังบ้าน เธอที่แอบมองเจอได้เห็นหน้าคนมาส่งอย่างชัดเจน เขามีเพื่อนผู้หญิงแต่ไม่เห็นเล่าให้เธอฟังเลย

ภูริเดินเข้ามาในบ้าน สะพายกระเป๋าไหล่สีหน้าอ่อนล้าชัดเจน แต่พอเห็นเดียร์นั่งรอเขาก็ฝืนยิ้มให้ แปลกใจว่าดึกขนาดนี้แล้วมานั่งทำอะไรตรงนี้

“มานั่งให้ยุงกัดทำไม” เขาถามน้ำเสียงอ่อนโยนตามเคย

“ใครเหรอคนนั้น” เธอถามทันที แต่เต็มไปด้วยความระแวง แววตาเธอไม่ได้ตะคอก แต่มันสั่นไหวด้วยความรู้สึกมากเกินกว่าคำพูด

ภูรินิ่งไปครู่หนึ่งเดียร์น่าจะจำพีรญาได้เพราะเป็นเพื่อนเขา

“อ๋อ พริมไงเพื่อนสมัยมัธยมเขาเรียนสาขาเดียวกับพี่ พอดีเขากลัวกลับบ้านดึกเลยให้พี่ไปส่ง” วันนี้เขาไม่ได้เอารถไปมหาลัยด้วย

“กลัวดึก? แต่ไม่กลัวการที่ต้องขับเหนื่อย” เสียงเดียร์เริ่มแข็งขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเธอแดงเหมือนคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว

“เดียร์เราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน เดียร์รู้ว่าพี่ไม่ใช่คนแบบนั้น” ภูริถอนหายใจ เหนื่อยเกินกว่าจะเถียง

“แล้วทำไมถึงต้องเป็นผู้หญิง เพื่อนผู้ชายคนอื่นไม่มีเหรอแล้วทำไมต้องเป็นเวลานี้ แล้วพี่เคยบอกเดียร์ไหมว่าเขาคือใคร?”

คำถามไหลออกมารัวๆ ไม่ใช่เพราะเธออยากหาเรื่อง แต่เพราะตอนนี้หัวใจเธอมันเปราะบางเหลือเกิน เธอกำลังท้องอ่อนไหวเหนื่อยเหงาและกลัว กลัวว่าจะโดนทิ้งกลัวว่าจะไม่สำคัญอีกต่อไป

“พี่แค่เหนื่อยมาก วันนี้เรียนทั้งวันยังต้องทำงานกลุ่ม เสร็จปุ๊บก็รีบกลับทันทีขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกแต่พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริงๆ” ภูริกัดฟันแน่น เขารู้ว่าเธอไม่ได้ต้องการแค่คำอธิบาย

แต่เดียร์ไม่พูดอะไรเธอลุกขึ้นยืนช้าๆ ก้าวถอยหลังไปเพียงก้าวเดียว

“เดียร์ก็แค่อยากรู้ว่ายังสำคัญสำหรับพี่ไหมแค่นั้น”

“เดียร์วันหยุดนี่พี่ก็จะบอกทุกคนแล้ว เดียร์สำคัญกับพี่เสมอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหากเคลียร์ทุกอย่างกับผู้ใหญ่จบก็จะพาหญิงสาวไปฝากครรภ์

หญิงสาวหันหลังเดินเข้าบ้าน ปล่อยให้ภูริยืนอยู่ตรงนั้นกับความรู้สึกผิดที่ทับถม เขายกมือขึ้นลูบใบหน้าแรงๆ อย่างหงุดหงิด ไม่ใช่โกรธเธอแต่โกรธตัวเอง ที่ทำให้คนที่รักที่สุดต้องรู้สึกไม่เชื่อในตัวเขา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   บทส่งท้าย มีแต่เธอเท่านั้น

    เวลาผ่านไปหลายเดือนภูริเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างที่เดียร์เองก็ไม่คิดว่าจะเห็น เขาตื่นเช้าออกไปทำงานทุกวัน ตั้งใจเรียนรู้งานในบริษัทอย่างหนัก ไม่เพียงเพื่ออนาคตของตัวเอง แต่เพื่ออนาคตของครอบครัวเล็กๆ ที่เขารักที่สุดจากชายหนุ่มที่เคยใช้อารมณ์นำเหตุผล วันนี้ภูริกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมและรู้จักรับผิดชอบ เขาไม่เพียงพิสูจน์ให้คนอื่นเห็น แต่ยังพิสูจน์ให้หญิงสาวได้เห็นว่าเขาเปลี่ยนไปจริงๆหลายครั้งที่เขาแอบมองหญิงสาวและลูกชายอย่างเงียบ ๆ ความรู้สึกอบอุ่นในอกยิ่งชัดเจนขึ้นทุกวัน จนกระทั่งคืนหนึ่ง เขาตัดสินใจบางอย่างในใจ เขาจะขอเดียร์แต่งงานอีกครั้ง เดียร์เดินมาหยุดตรงลานน้ำพุยามค่ำคืนตามข้อความของภูริ สายลมเย็นพัดเบาๆ กลิ่นน้ำและแสงไฟจากเสาเรียงรายรอบทางสร้างบรรยากาศอบอุ่นแต่แฝงความตื่นเต้นในใจ เธอก้มมองข้อความในมือถืออีกครั้ง“รอตรงนี้นะ อย่าไปไหน”“รีบมานะคะ” ก็กดส่งข้อความตอบกลับเขาไปหญิงสาวยืนรออยู่นานจนเริ่มสงสัย แต่ก่อนที่เธอจะกดโทรกลับ เสียงพลุดังขึ้นเหนือฟ้าพลุหลากสีระเบิดกระจายกลีบแสงออกไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำ งดงามราวภาพในฝันน้ำพุกลางลานเริ่มพุ่งสูงขึ้นพร้อมกับแสงไฟหลากสีส่องขึ้นต

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 30 อยากมีน้อง

    เช้าวันถัดมาน้องภูผาวิ่งมากอดแม่แน่นหลังจากกลับมาจากนอนบ้านป้าดีนี่ แต่สายตาเจ้าตัวเล็กกลับสะดุดเข้ากับรอยแดงช้ำตรงลำคอของเดียร์“แม่ไปทำอะไรมาคับ ทำไมตรงนี้แดงแบบนี้” เสียงเล็กๆ เต็มไปด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตเริ่มคลอไปด้วยน้ำตาเธอชะงักหน้าแดงขึ้นมาทันที ส่วนภูริที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เกือบหลุดหัวเราะ เธอรีบเอามือปิดคอไว้แล้วพูดเสียงแผ่ว“มดกัดจ้ะลูก มดมันชอบแกล้งแม่”“แล้วมดอยู่ไหนคับภูผาจะตีให้!” ภูผาทำหน้างง หันไปมองรอบๆ แล้วถามอย่างจริงจัง “มดอยู่ในห้องลูกปะป๊าจัดการให้แล้ว ไม่ต้องห่วงนะ” เขาตอบเบาๆ แล้วตอบแทนพร้อมรอยยิ้มขำกลั้นไม่อยู่เดียร์รีบส่งสายตาคาดโทษให้เขาทันที ส่วนภูผาก็ยังคงทำหน้างุนงง ก่อนจะกอดแม่อีกครั้งแล้วพูดเสียงเบาๆ“คราวหน้าถ้ามดมากัดอีกบอกภูผานะคับ ภูผาจะช่วยแม่เอง”“เด็กน้อยของแม่” เธอยิ้มจางๆ พลางลูบหัวลูกชาย ส่วนภูริก็ได้แต่กลั้นหัวเราะจนไหล่สั่น“ไปเล่นน้ำกันดีกว่าพ่อพาไปว่ายน้ำ”“ไปคับ ภูผาขอไปเล่นน้ำ” ภูผาหันมาขออนุญาตแม่ เมื่อเห็นว่าแม่พยักหน้าเขาจึงจับมือพ่อเดินออกไปทันที“มดตัวใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอดูเหนื่อยๆ” ดีนี่มองน้องสะใภ้แล้วหัวเราะเบาๆ เชิงล้อเลี

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 29 เพราะเธอมีแค่คนเดียว

    เดียร์สะดุ้งตื่นกลางดึกเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ข้างคอ เธอพลิกตัวจะกรีดร้องแต่เสียงนั้นถูกมือใหญ่ปิดไว้แน่น“พี่เองอย่าร้อง” เสียงต่ำของภูริสั่นเล็กน้อยเหมือนคนที่กลัวจะถูกปฏิเสธ“คุณเข้ามาได้ยังไงออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!” เดียร์ดันหน้าอกเขาออก“เดียร์ช่วยฟังพี่ก่อนนะ แค่คืนนี้ขอให้พี่พูดได้ไหม” แต่ภูริไม่ยอมขยับ เขาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เหมือนหมดแรง“ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว” เธอเสียงสั่น กำมือแน่นพยายามกลั้นน้ำตา“พี่รู้พี่ทำผิดหัวใจดวงนี้ยังเป็นของเดียร์ ตอนนั้นพี่ยังเด็กอาจจะพูดไม่คิด แต่พอไม่มีเดียร์มันทำให้รู้ว่าพี่ไม่เคยหมดรักเดียร์เลย” เขาจับมือเธอไว้แน่นกว่าเดิม“หยุดพูดได้แล้ว” เธอสะบัดมือออก น้ำตาไหลอาบแก้ม“เดียร์ยังรักพี่อยู่ไหม พี่ไม่เคยนอนกับพริมไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย รูปทุกอย่างพี่ส่งให้เจ้ดีนี่ดูแล้วพี่ตกเป็นเหยื่อ” เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนเอ่ยเบาๆ “พี่ไม่ได้เข้าหาเดียร์เพราะต้องการอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากไถ่โทษกับทุกสิ่งทุกอย่าง”“...” เธอเม้มปากแน่นไม่ตอบ แต่หัวใจกลับเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมา เขามองเห็นน้ำตาเธอในเงาแสงจันทร์บรรยากาศในห้องเงียบจนได้ยินเสียงห

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 28 ฟังกันก่อนได้ไหม

    ภายในโรงแรมมีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟติดผนัง พีรญาก้าวเข้าไปในห้องที่นัดหมาย มือหญิงสาวสั่นน้อยๆ แต่พยายามเก็บอาการให้ดูมั่นคง ประตูเพิ่งปิดไม่ทันขาดเสียง กัมปนาทก็ลุกพรวดจากโซฟา ก้าวเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้มราวกับผู้ล่า“ในที่สุดก็มาหากูสักที”“นายต้องการอะไรกันแน่” พีรญามองคนตรงหน้ายอมรับว่าตัวเองไม่น่าพลาดมาเจอคนแบบนี้เลย“กูโทรหาไม่รับเสือกไปวิ่งตามผู้ชายคนอื่น” กัมปนาทมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหยียดหยาม“เราไม่มีอะไรต้องติดต่อกันอีก” พอเธอไม่ให้เงินเขามักจะทุบตีทำร้ายเป็นประจำ จนทนไม่ไหวครั้งนี้เลยเลือกที่จะหนีออกมา“มึงท้องลูกกู แล้วจะหนีไปหาพ่อใหม่มันไม่ได้นะ”เขายื่นมือจะคว้าแขนเธอ แล้วโน้มตัวลงหมายจะจูบ หญิงสาวเบี่ยงตัวหนีทันที ผลักหน้าอกเขาออกแรงจนเขาถอยไปหนึ่งก้าว สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ“อย่ามาแตะต้องฉันมันไม่ใช่ลูกของแก!”“ไม่ใช่ลูกกูเหรอ? ท้องได้สามเดือนแล้วไม่ใช่ หรือมึงลืมไปว่าใครเป็นคนลากมึงเข้าโรงแรมก่อนหน้านี้” กัมปนาทหัวเราะหยัน เสียงทุ้มต่ำเหมือนเยาะเย้ยคำพูดของเขาแทงใจเหมือนคมมีด พีรญากัดฟันแน่น ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาคลอแต่ยังยืนตัวตรง“ฉันอาจเคยโง่ แต่ลูกในท้องฉันไม่เ

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 27 ต้องการความรับผิดชอบ

    เดียร์เงยหน้าขึ้นจากเคาน์เตอร์เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกชื่อเธอ น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเครียดและสั่นเครือพีรญายืนอยู่ตรงหน้าใบหน้าซีดเผือด ดวงตาบวมแดงเหมือนคนร้องไห้มาทั้งคืน มือหนึ่งจับหน้าท้องของตัวเองไว้แน่น“ภูริอยู่ไหนเขาไม่รับสาย ไม่ตอบข้อความฉันหามาหลายวันแล้ว” ไม่คิดว่าคนอย่างภูริจะใจแข็งและใจร้ายขนาดนี้เธอนิ่งไปชั่วขณะ มองซ้ายมองขวากลัวว่าน้องภูผาจะได้ยินก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเรียบทั้งที่หัวใจเต้นแรง“ไม่รู้”“อย่ามาโกหกเลย เธอยังอยู่กับเขาใช่ไหม เธออย่าคิดจะยึดเขาไว้คนเดียว ลูกของฉันก็เป็นลูกของเขาเหมือนกันนะ”” หญิงสาวพูดพลางกัดริมฝีปากน้ำเสียงเริ่มสั่นคำพูดนั้นเหมือนมีดแหลมแทงเข้ากลางอก เดียร์พยายามกลั้นใจไม่ให้ตัวเองสั่น เธอเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างนิ่งสงบ แต่แววตาแฝงความเจ็บปวด“คุณกำลังเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า เรื่องของคุณกับเขา ฉันไม่อยากรู้ไม่เกี่ยวกับฉันอีกแล้ว”“แต่ลูกในท้องฉันมันคือหลักฐานฉันไม่ได้พูดเล่น!” พีรญาส่ายหน้า ดวงตาเริ่มมีน้ำคลอเดียร์เผลอกำมือแน่น เสียงลมหายใจของเธอสั่นระรัวเธอพยายามไม่หลุดอารมณ์ออกมาพยายามไม่ร้องไห้ตรงหน้าใคร“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปหาภูริเอง

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 26 ตัดขาดความสัมพันธ์

    เสียงกระดิ่งเหนือประตูร้านดังขึ้นเบาๆ เดียร์เงยหน้าขึ้นจากเครื่องชงกาแฟ เห็นผู้หญิงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าตึงเครียด ก่อนจะเห็นว่าภูริที่กำลังช่วยจัดโต๊ะอยู่ก็ชะงักไปเช่นกันเธอจำได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือเพื่อนของภูริ และเป็นคนทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาร้าวราน จนถึงขั้นแยกทางกัน“พริมมีเรื่องจะคุยกับภูเรื่องสำคัญ” พีรญาทำเป็นมองไม่เห็นอีกฝ่าย“ถ้ามีอะไรก็พูดมาตรงนี้เลย เดียร์ไม่ต้องหลบอะไรทั้งนั้น” เขากำลังวุ่นวายกับการเช็ดทำความสะอาดหน้าเคาเตอร์บรรยากาศในร้านเงียบกริบ เหมือนอากาศหนืดขึ้นจนหายใจลำบาก เดียร์มองหน้าทั้งคู่พลางเช็ดแก้วในมือช้าๆ“พริมท้อง” พีรญาสูดหายใจลึก ก่อนพูดออกมาเสียงสั่น เพล้ง!เสียงแก้วในมือเดียร์หล่นกระทบพื้นดัง เธอยืนนิ่ง ดวงตาเบิกกว้าง น้ำเสียงแผ่วเบาแทบไม่ออกจากลำคอ มือของเธอสั่นเทา “พูดบ้าอะไรของเธอ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” เขาหันขวับไปมองพีรญา ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตกใจ“พริมไม่ได้โกหกคืนนั้นภูก็เมา แถมไม่ได้ป้องกันอีก” พีรญาไม่ยอมแพ้เอาเรื่องคืนนั้นมาอ้าง เพื่อให้อีกคนได้ยินอย่างชัดเจนเดียร์ถอยหลังไปหนึ่งก้าว หัวใจเต้นแรงเหมือนจะระเบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status