Share

บทที่ 5.

บทที่ 5.

แม้ก่อนหน้านี้ธีโอจะบ่ายเบี่ยงและประกาศต่อหน้าบิดาว่าไม่ยินยอมทำตามความประสงค์ของท่านเท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยอมจำนนต่อพินัยกรรมและการ์ดเชิญสีชมพูที่บิดาวางลงตรงหน้า

“เอาล่ะ ฉันจะไม่พูดอะไรหรอกนะ ถ้ายังไงฉันก็เชิญแกไปร่วมงานแต่งงานของฉันกับเมียใหม่ด้วยละกัน อีกอย่างพินัยกรรมนี้ฉันให้แกดูไว้เพื่อจะได้เป็นพยานให้ฉันด้วย..”

“ผมจะยอมแต่งงานกับแม่นั่นก็ได้ครับ แต่ต้องตามข้อแม้ของผม”

“หึ ไม่ต้อง.. ฉันไม่ต้องการข้อแม้ของแกหรอกธีโอ..” คุณธัชทำเสียงสูงเมินหน้าหนีลูกชายอย่างเย็นชา ธีโอเม้มปากแน่นอย่างไม่ชอบใจ เขากับบิดาต้องมีเรื่องหมางใจกันเพราะผู้หญิงบ้านไร่บ้านสวนคนนั้นมันน่าโมโหนัก

“ผมแค่จะบอกว่าผมจะจดทะเบียนกับเจ้าหล่อนเท่านั้นส่วนพินัยกรรมของคุณพ่อก็จะยังคงเหมือนเดิม ผมไม่ใช่คนงกเงินขนาดที่จะไม่ยอมให้เมียมีแต่ตัวหรอกครับ คุณพ่ออย่าห่วงเลย..”

“เอาเป็นว่าฉันจะลองคิดดู แต่จริงๆ แล้วฉันก็อยากมีเมียเด็กนะ คงจะชุ่มชื่นหัวใจดี”

“คุณพ่อ..”

“หึหึ ฉันพูดจริง” คุณธัชหันมามองลูกชายด้วยแววตาเป็นประกายเท่านั้นเองคนเป็นลูกก็เดือดดาลทันที

“ผมไม่ยอมหรอก ผมจะรับผู้หญิงคนนี้เป็นเมียเองอย่างที่พ่อต้องการ จะไปหาเจ้าหล่อนวันไหนบอกมาเลย”

“โอเค ในเมื่อแกยืนยันแบบนั้น ก็ไปพรุ่งนี้เลย” ธีโอสะบัดหน้าหนีแล้วเดินตึงๆ ออกไปจากห้องทำงานของบิดาทันที จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มแห่งความพอใจของคุณธัช

“แกนี่มันเหมือนแม่ไม่มีผิดเล้ย ธีโอ..” คุณธัชยิ้มสมใจแล้วหยิบซองสีชมพูนั้นออกมาดูด้วยรอยยิ้มกว้างชอบใจ ในซองนั้นมีเพียงรูปถ่ายซึ่งถ่ายกันครบทั้งพ่อแม่ลูกโดยแคทเธอรีนภรรยาของตนอุ้มเด็กชายธีโอวัยห้าขวบตัวอ้วนตุ้ยนุ้ยที่แหกปากยิ้มกว้างให้กล้อง…

แล้ววันรุ่งขึ้นธีโอก็นั่งหน้าตูมมาเคียงข้างกับบิดาซึ่งดูจะอารมณ์ดีกว่าทุกวัน ชายหนุ่มเมินหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์ในขณะที่รถคันหรูแล่นเข้าสู่เขต ไร่ดวงใจ ดวงตาคมกวาดมองสภาพไร่ส้มที่รกรื้อดูทรุดโทรมแห้งแล้งมีป้ายไม้เก่าๆ เขียนด้วยอักษรสีขาวที่ห้องต่องแต่งๆ อยู่กับคานไม้ผุพังซึ่งหญ้าขึ้นสูงจนแทบจะมองไม่เห็นป้าย แต่ยังดีที่ถนนทางลูกรังนั้นไม่เป็นหลุมเป็นบ่อแต่สองข้างทางก็มีหญ้าขึ้นครึ้ม มีต้นส้มบางต้นยืนต้นตายบรรยากาศโดยรอบดูวังเวงเหมือนไร่รกร้าง

“นี่เหรอครับที่คุณพ่อบอกว่าเป็นไร่ส้มเพื่อนรักของคุณพ่อ ที่บอกว่าเขาเคยช่วยคุณพ่อตอนที่เกือบล้มละลาย” ธีโอหันไปถามบิดาซึ่งใบหน้าที่ดูสดชื่นอารมณ์ดีเมื่อครู่หายไป ใบหน้าของบิดาดูเศร้าหมองแววตาหดหู่ คุณธัชไม่ตอบแต่พยักหน้าให้ลูกชายเท่านั้น

“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาล่ะครับไร่ที่เคยยิ่งใหญ่จึงได้ทรุดโทรมขนาดนี้”

“พวกเขามีปัญหาบางอย่างที่เขาไม่เคยบอกพ่อ.. ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน” ธีโอพยักหน้าช้าๆ แล้วมองไปข้างหน้าเมื่อรถแล่นเข้าสู่บริเวณบ้านหลังงามซึ่งมีร่องรอยของความงดงามรุ่งเรืองในอดีต บ้านหลังงามใหญ่โตท่ามกลางแมกไม้สองข้างทางร่มรื่นแต่ดูเงียบเหงาวังเวงยิ่งสายลมพัดกรูมาใบไม้แห้งก็ปลิดปลิวลงจากต้นบ้างก็ล่องลอยกระจายไปกับสายลม หากเขาไม่รู้มาก่อนว่าที่นี่มีคนอาศัยอยู่ธีโอก็คิดว่ามันต้องเป็นบ้านผีสิงแน่นอน...

“นี่ถ้าคุณพ่อไม่บอกว่า ว่าที่เมียของผมอยู่ที่นี่ผมคิดได้อย่างเดียวเลยว่าที่นี่เป็นบ้านผีสิง” ธีโออดที่จะพูดออกไปไม่ได้จนผู้เป็นพ่อหันมามองอย่างระอาใจในความปากเสียของลูกชาย

“ปากแกนี่นะไอ้ธีโอ..” คุณธัชเดินลงจากรถพอดีกับที่มีหญิงวัยสี่สิบวิ่งออกมาต้อนรับหน้าตื่นก่อนจะยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าแขกผู้มาเยือนเป็นใคร...

“คุณธัชใช่มั้ยคะ คุณธัชจริงๆ ด้วย” ต้อยถามอย่างตื่นเต้น

“ใช่ฉันเองล่ะต้อย.. แล้วเป็นไงบ้างสบายดีไหม” คุณธัชรับไหว้จากพี่ต้อยด้วยรอยยิ้มยินดีไม่ต่างกัน

“สบายดีค่ะ เชิญข้างในเลยค่ะ คุณผู้หญิงไม่บอกเลยว่าเป็นคุณธัช” ต้อยชวนคุยด้วยความคุ้นเคย

“เขาคงไม่ได้คิดว่าฉันจะมาจริงจังล่ะมั้ง อ้อ ลืมแนะนำ นี่ธีโอ ลูกชายฉันเอง” ธีโอไหว้ผู้สูงวัยกว่าอย่างนอบน้อมไม่เคอะเขินเพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าหากบิดาคุยกับใครอย่างสนิทสนมนั่นแสดงว่าบุคคลนั้นต้องสำคัญอยู่ไม่น้อยแม้ว่าฐานะจะแตกต่างกันก็ตาม

“เอ้อ สะ สวัสดีค่ะ ไม่ต้องไหว้ก็ได้ค่ะ ต้อยแค่คนรับใช้” พี่ต้อยรับไหว้แทบไม่ทันเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาระดับพระเอกหนังไหว้ตน

“คนทุกคนมีคุณค่าเท่ากันนะต้อย ดีแล้วที่ธีโอไหว้เธอ อีกหน่อยฉันจะฝากฝังเขาไว้ให้เธอดูแล” คุณธัชบอกยิ้มๆ พี่ต้อยยิ้มรับบางๆ แล้วก็ต้องรีบหลบออกไปเมื่อเดินมาส่งแขกถึงห้องโถงของบ้านซึ่งคุณดวงพรนั่งรออยู่แล้วพร้อมกับลูกสาวสุดที่รัก...

“สวัสดีค่ะคุณธัช แหม.. มาถึงไวจังนะคะฉันคิดว่าคุณจะมาถึงเย็นๆ เสียอีก” คุณดวงพรยิ้มกว้างพร้อมทั้งไหว้คุณธัชอย่างชดช้อย

“ไหว้คุณธัชเสียสิลูกชีวัน” นางหันมาบอกลูกสาวซึ่งก็ไหว้ผู้สูงวัยอย่างอ่อนน้อม คุณธัชมองหญิงสาวที่นั่งก้มหน้านิ่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆ คุณดวงพรอย่างเอ็นดู

“ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ฉันไม่ได้มาที่นี่แค่เกือบยี่สิบปี ที่นี่ราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว” คุณธัชพูดตรงๆ

“แหม ก็ที่นี่มีแต่ผู้หญิงนี่คะ ก็คุณพี่เทวัญน่ะด่วนจากเราไป หากคุณพี่ยังอยู่ที่นี่ก็คงจะรุ่งโรจน์งดงามเหมือนเดิมล่ะค่ะ ฉันน่ะเสียอกเสียใจมากเลยนะคะที่ไม่สามารถทำให้ไร่ดวงใจคงอยู่ในสภาพเดิมได้..” คุณดวงพรพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยคุณธัชมองยิ้มๆ อย่างรู้เท่าทันจริตหญิงในขณะที่ธีโอเอาแต่เมินหน้ามองไปรอบๆ บ้านไม่คิดแม้แต่จะหันมามองเจ้าของบ้านซึ่งคุณธีก็ไม่ว่าอะไร

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ขวัญชีวาซาตาน    บทที่ 75.  ตอนอวสาน

    บทที่ 75. ตอนอวสาน“ชีวาจ๋า พี่ผิดไปแล้ว ลูกจ๋า พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปพ่อจะไม่พูดแบบนี้อีก พ่อรักน้องธามที่สุดในโลก..” ธีโอแทบใจขาดเมื่อเจอลูกชายเมินหน้าหนี ชายหนุ่มหน้าเศร้าซีดเซียวจนขวัญชีวาสงสารสามี“น้องธามครับ เลิกงอนคุณพ่อนะครับ เห็นไหมคุณพ่อจะร้องไห้เพราะน้องธามงอนแล้ว คนดีของคุณแม่ รักคุณพ่อนะคะ เลิกงอนนะลูก รักกันๆ นะคะ..” ขวัญชีวาก้มลงพูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนน่าฟัง ธีโอลุ้นอย่างหนักว่าลูกชายตัวน้อยจะเลิกงอนและหันกลับมามองเขาหรือยอมให้เขาอุ้มหรือไม่เพราะหลังจากที่หลุดปากพูดประโยคแย่ๆ นั้นออกไปน้องธามก็นิ่งเงียบไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้พอใครจะเข้าใกล้ก็สะบัดตัวเหวี่ยงแขนไปมาทั้งยังขว้างปาของเล่นใส่ทุกคนที่เข้าใกล้อย่างเกเร“น้องธามครับ ที่รัก คนดี พ่อทูนหัวลูกรักของพ่อมาหาพ่อนะครับน้องธามจ๋า..” ธีโอขยับไปใกล้แล้วโอบกอดทั้งแม่ทั้งลูกไว้ในอ้อมแขน น้องธามเงยหน้าขึ้นมองสบตาผู้เป็นพ่อดวงตาใสๆ นั้นทำให้หัวใจของผู้เป็นพ่อเต้นแรง ลูกชายตัวแสบนี่ช่างเหมือนเขาเสียจริงๆ แต่โครงหน้าก็มีแววหวานเหมือนขวัญชีวา ยิ่งดวงตาใสๆ เหมือนแม่นี่ล่ะร้ายนักมองทีไรหัวใจเขาละลายทุกที เหมือนตอนนี้ไงล่ะ...น

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 74.

    บทที่ 74.“ถามอะไรหน่อยสิคะ”“ว่ามาเลยครับคนสวย” ธีโอเท้าแขนกับที่นอนมองสบตาภรรยา“ทำไมพี่ธีโอต้องลงทุนทำร้ายจิตใจชีวาขนาดนั้นด้วยคะ ความจริงพี่ธีโอบอกความจริงชีวา ชีวาก็เข้าใจและยอมรับแผนการพี่ธีโอได้นะคะ” หญิงสาวถามสิ่งที่เธอสงสัยอยู่ในใจ“ก็เพราะชีวาเข้าใจอะไรง่าย และรักทุกคนไงล่ะพี่จึงต้องผลักไสชีวาออกไปให้ห่างๆ” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ“ชายแดนบอกพี่ว่าชีวาน่ะดื้อเงียบได้น่าโมโหมากและรักทุกคนมาก จะยอมทุกทุกอย่างเพื่อให้คนที่รักปลอดภัยและจะไม่ยอมให้ใครอยู่สู้เพียงลำพัง..หากพี่บอกความจริงชีวา ชีวาก็จะไม่ยอมออกจากไร่ชีวาจะอยู่ช่วยพี่ซึ่งจะทำให้พี่เป็นกังวลและห่วงชีวากับลูกมากขึ้น และสิ่งที่พี่กลัวคือ กลัวว่าคุณดวงพรรู้ว่าชีวาท้องแล้วจะทำร้ายชีวากับลูกหรือไม่ก็อาจจะใช้ชีวาเป็นเครื่องมือต่อรองอะไรบางอย่าง...”“ก็เลยเลือกที่จะพูดร้ายๆ ทำตัวร้ายๆ กับชีวาน่ะเหรอคะ หากชีวาไม่เข้าใจ ชีวางี่เง่าจะทำไงคะ”ขวัญชีวายิ้มบางๆ ให้สามีและยอมรับว่าที่เขาพูดมาจริงทุกอย่าง หากเธอรู้ว่าเขากำลังทำอะไรเธอจะไม่มีวันทิ้งเขาและจะอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยเขา แต่นั่นล่ะคือปัญหาเพราะธีโอจะห่วงเธอกับลูก

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 73.

    บทที่ 73.“เจมมี่ว่าเราจะต้องได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้แน่ๆ เลยค่ะคุณชีวา”“นั่นสิ แต่อย่าเพิ่งไปแซ็วเขานะเจมมี่”“ฮ่ะ เจมมี่จะพยายามกดต่อมเผือกไว้อย่างสุดความสามารถ..” ทั้งสองหัวเราะให้กันธีโอขมวดคิ้วอย่างสงสัย“มีอะไรกันหรือสองคนนี้มีความลับอะไรกัน”“ไม่มีค่ะแค่มีอะไรดีๆ ที่ต้องรอ..” ขวัญชีวายิ้มหวานให้สามี“อะไรหรือ..”“ยังบอกไม่ได้ค่ะ เราไปหาพี่แดนกับริสากันดีกว่าได้ฤกษ์ส่งตัวแล้ว..” ขวัญชีวาควงแขนสามีไปหาบ่าวสาวที่ยิ้มแย้มด้วยความสุขชายแดนมองเจ้าสาวที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนห่มผ้าหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงกว้างที่โรยกลีบกุหลาบไว้จนเต็มที่นอนรวมไปถึงทั้งห้องนั้นเต็มไปด้วย PrincessNarisa ที่บานงดงามในวันแต่งงานของเขาและกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้องหอ“ว้าเจ้าสาวหลับเสียแล้ว พี่แดนจะลักหลับเจ้าสาวดีมั้ยน้า..” ชายแดนแกล้งสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มนุ่มและลูบไล้บั้นท้ายงามงอนเบาๆ คนที่หลับตานอนเกร็งอยู่นั้นลืมตาทันทีและทำท่าว่าจะต่อว่าเขาด้วย...“พะ พี่ แด...” เจ้าสาวคนสวยไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกมาเจ้าบ่าวที่จ้องจะพาเจ้าสาวเข้าหอมาตลอดก็ประทับจุมพิตเร่าร้อนลงบนกลีบปากงามทันทีปิดกั้นเสียงหวานไว้ด้วยเรียวป

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 72.

    บทที่ 72.“ชีวาขอโทษค่ะ..” ขวัญชีวาพูดเพียงเท่านั้นร่างบางก็หมดสติไปทันที“เจมส์ ตามหมอเร็ว..” ธีโอช้อนร่างภรรยาไว้ในวงแขนแล้วพาไปยังห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว เคนอยู่เคลียร์พื้นที่กับสารวัตรกวินอย่างรู้หน้าที่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งแฝงตัวอยู่ในชั้นนี้ก็ค่อยๆ ออกมาทำหน้าที่ของตนอย่างรวดเร็วเช่นกัน งานนี้พวกเขาทำกันเงียบที่สุดให้คนรู้น้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยและของคนไข้และแพทย์พยาบาลรวมไปถึงชื่อเสียงของโรงพยาบาล...ขวัญชีวามองควันที่พวยพุ่งออกจากปล่องเมรุด้วยความโศกเศร้า แม้ตั้งแต่เล็กจนโตเธอกับดวงชีวันไม่ค่อยสนิทสนมกันนัก เรียกได้ว่าแทบไม่เคยได้พูดคุยกันอย่างสนิทสนมรักใคร่ประสาพี่น้องฝาแฝดเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับเธอนั้นดวงชีวันก็ยังคงเป็นพี่สาวเป็นญาติคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ การจากไปก่อนวัยอันควรของดวงชีวันก็ทำให้เธอเสียใจอยู่ไม่น้อย...“อย่าเสียใจไปเลยค่ะคุณหนู คุณหนูยังมีพวกเรานะคะ” พี่ต้อยพี่ติ่งเดินมาโอบกอดคุณหนูของตน ขวัญชีวายิ้มให้ทั้งสองแล้วพยักหน้าช้าๆ“เรากลับกันดีกว่าค่ะพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” ขวัญชีวาเดินกลับไปที่รถซึ่งธีโอกับคุณธัชยืนรออยู่พร้อมด้วยนมนวลกับเจมส์“เหนื่อยไหมที่

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 71.

    บทที่ 71.“นั่นไงคุณแม่ของฉัน น้อยอยู่ที่นี่ล่ะไม่ต้องตามไป”“แต่.. น้อยเป็นห่วงนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอก คุณแม่ไม่ทำอะไรฉันหรอก รออยู่นี่ล่ะ” ขวัญชีวาบอกพร้อมทั้งเดินไปหาคุณดวงพรในชุดพยาบาลที่กวักมือเรียกไวๆ น้อยมองตามเจ้านายสาวอย่างเป็นห่วงรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่“อีน้อยทำถูกมั้ยวะเนี่ย ใครๆ ก็บอกว่าคุณท่านให้ดูแลคุณผู้หญิงดีๆ” น้อยเกาหัวแกรกๆ อย่างสับสนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดึงเจ้านายของตนเข้าไปตรงบันไดหนีไฟอย่างไม่เบามือนัก...“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน..” น้อยตัดสินใจเดินตามขวัญชีวาเข้าไปคิดในใจว่าเผื่อมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นตนอาจจะช่วยได้...“เบาๆ ค่ะคุณแม่ ชีวากำลังท้องอยู่ค่ะ” ขวัญชีวาร้องบอกเมื่อคุณดวงพรดึงกระชากเธอให้เดินตามไป หญิงสาวหอบน้อยๆ เมื่อเดินขึ้นบนไดมาแล้วสามชั้น ทางเดินหนีไฟไม่ค่อยมีคนใช้นักมันจึงเงียบสงัดจนเธอรู้สึกกลัว ยิ่งเห็นแววตาของคุณดวงพรขวัญชีวาไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอคิดผิด... แต่มันคงสายไปแล้วตอนนี้เธอควรตั้งสติและหาทางเอาตัวรอดจากคุณดวงพรที่เหมือนคนบ้าไร้สติเข้าไปทุกที...“ก็ดีสิ..”“ค่ะ คุณแม่กำลังจะมีหลาน”หญิงสาวพยายามพูดให้คุณดวงพรเห็นแก่ชีวิตเล็กๆ ในตัวเธอ“ไหนคุณแม่ว่า

  • ขวัญชีวาซาตาน   บทที่ 70.

    บทที่ 70.ธีโอรู้สึกหงุดหงิดและใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาคมเฝ้ามองห้องนั่งเล่นซึ่งขวัญชีวาอยู่ที่นั่นตั้งแต่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ จนตอนนี้บ่ายคล้อยแล้วขวัญชีวายังไม่ยอมออกมาพบใครๆ ทั้งยังสั่งไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเธออีกด้วย“ผมจะพาชีวากลับไร่ คิดว่าสภาพแวดล้อมดีๆ จะทำให้ชีวาดีขึ้น” ชายหนุ่มพูดขึ้นในที่สุดเพราะคิดว่าหากพาเธอกลับไปไร่ได้พบบรรยากาศดีๆ บริสุทธิ์สดชื่นจะทำให้ขวัญชีวาดีขึ้น“ก็ดีนะคะ คุณหนูบ่นคิดถึงไร่ตลอด”“พาเมียไปเถอะ เดี๋ยวพ่อก็จะไปด้วย” คุณธัชบอกลูกชายและเห็นด้วยกับความคิดของธีโอ“แต่ผมว่าจะพาชีวาไปเยี่ยมชีวันก่อนกลับ อย่างน้อยๆ ก็ให้ทั้งสองได้พบกันก่อน.. สารวัตรกวินโทร. มาบอกว่าอาการของดวงชีวันเหมือนจะดีขึ้นหากเธอดีขึ้นจริงๆ ผมจะรักษาเธอให้หาย” ธีโอบอกเบาๆ เขาคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ อย่างน้อยดวงชีวันก็ถือว่าเป็นพี่สาวของขวัญชีวา“จริงๆ แล้วคุณหนูชีวันก็น่าสงสารนะคะ ถูกเลี้ยงดูมานั้นแทนที่จะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีแต่ต้องมาถูกทำลายเพียงเพราะความอิจฉาริษยาของคนที่เป็นป้าแท้ๆ ของตัวเอง คุณดวงพรตั้งใจให้เด็กทั้งสองเกลียดกันเธอต้องการให้เด็กๆ พลัดพรากห่างไกลกันทั้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status