Masukเทียนหอมรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ในฝันร้าย เธอนึกถึงช่วงเวลาที่ต้องแบกรับภาระหนักจากการเรียนและการทำงานพิเศษเพื่อหาเงินดูแลยาย มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจนเกรดของเธอหลุดเกณฑ์เพียงนิดเดียวและตอนนี้เธอต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน
“ตอนแรกเราจะไม่อนุญาตให้น้องเข้าสอบจนกว่าจะจ่ายค่าเทอมค่ะ แต่หลังจากปรึกษากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เราเห็นว่าน้องมีปัญหาทางการเงินที่ชัดเจน จึงอนุโลมให้น้องสอบพร้อมเพื่อนๆ ได้ แต่น้องจะยังไม่ได้รับใบปริญญาจนกว่าจะจ่ายค่าเทอมครบทั้งหมด” เจ้าหน้าที่มองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความกังวล ก่อนจะพูดเสริมขึ้นมา “แต่หนูไม่มีเงินเลยค่ะ หนูทำงานหลายอย่างเพื่อช่วยตัวเองเรียนมาจนถึงจุดนี้ หนูขอร้องได้ไหมคะ?” คำตอบนั้นทำให้เทียนหอมรู้สึกเหมือนถูกกระแทกด้วยกำแพงอิฐ เธอพยายามกลั้นน้ำตาและพูดอย่างยากลำบากถึงแม้จะรู้ดีว่าคำขอร้องของเธอจะไม่มีความหมายเลยก็ตาม เทียนหอมมองดูใบแสดงผลการเรียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง เกรดของเธอพลาดไปเพียง 0.2 ไม่ถึงเกณฑ์ที่ทางทุนกำหนด เธอสูดลมหายใจลึกๆ “พี่คะ เกรดของหนูมันพลาดไปแค่ 0.2 เอง หนูขอร้องได้ไหมคะ?” เทียนหอมพูดด้วยน้ำเสียงสั่น เธอมองเจ้าหน้าที่ด้วยสายตาอ้อนวอน “พี่เข้าใจนะคะ แต่ระเบียบก็คือระเบียบ ถ้าเกรดน้องไม่ถึงตามกำหนด น้องก็ต้องจ่ายค่าเทอมด้วยตัวเองค่ะ” เจ้าหน้าที่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “พี่คะ แต่หนูไม่มีเงินเลยค่ะ ช่วงเทอมนี้ยายหนูป่วยหนัก หนูต้องทำงานหลายอย่างเพื่อช่วยตัวเองและยาย ทำให้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ไม่มีเวลาเข้าเรียนตามปกติ หนูขอโอกาสอีกครั้งได้ไหมคะ?” เทียนหอมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ “ขอโทษจริงๆ นะ พี่ไม่สามารถอนุโลมได้ น้องยังสอบได้อยู่ แต่น้องจะไม่สามารถรับปริญญาบัตรได้จนกว่าจะจ่ายค่าเทอมครบค่ะ” เจ้าหน้าที่มองเธอด้วยสายตาสงสาร แต่ยังคงตอบด้วยน้ำเสียงเดิม “ขอบคุณนะคะ หนูจะพยายามหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้ได้” เทียนหอมรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำด้วยคำพูดนั้น เธอยืนนิ่งอยู่ชั่วขณะก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “นี่เป็นใบแจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนะ” เจ้าหน้าที่ยื่นใบแจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับหญิงสาว “ขอบคุณค่ะ” เทียนหอมยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณก่อนจะเดินออกไป เมื่อเทียนหอมเดินออกจากห้องทะเบียน ความรู้สึกที่หลากหลายก็ถาโถมเข้ามา ทุกย่างก้าวมันหนักหน่วงราวกับโลกทั้งใบกำลังกดทับหัวใจของเธอ ความผิดหวังจากการไม่ได้รับโอกาสตามที่เธอคาดหวังเอาไว้ ผสมปนเปกับความโกรธที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ เธอรู้สึกท้อแท้และหมดแรง แต่ลึกๆ ในใจยังคงมีความมุ่งมั่นที่ค่อยๆ จุดประกายขึ้น ความคิดวนเวียนในหัวของเธอ เธอตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมชีวิตต้องยากขนาดนี้ ทั้งค่าเทอมที่ต้องจ่าย ทั้งค่ารักษายายที่เป็นภาระหนัก เธอรู้สึกเหมือนถูกผลักเข้าสู่มุมที่ไม่มีทางออก น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลลงอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว จนเธอต้องพึมพำกับตัวเองเบาๆ “ฉันจะทำยังไงต่อไปดี? ฉันจะหาเงินจากไหน?” ถึงแม้จะรู้สึกถึงความหมดหวังในตอนนี้ ความรักที่มีต่อยายนวลจันทร์และความฝันที่ต้องการให้ชีวิตดีขึ้นยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญ เธอเช็ดน้ำตาและพยายามยืนหยัดกับตัวเองอีกครั้ง “ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันจะทำทุกทางเพื่อให้ยายสบายและให้ฉันได้ก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้” เทียนหอมเดินต่อไปข้างหน้าแม้หัวใจจะหนักอึ้ง แต่ในสายตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เธอสัญญากับตัวเองว่านี่จะไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามครั้งใหม่ที่จะพาเธอไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม… .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็







